จะบ้าตาย แพรวายกกำปั้นขึ้นทุบอกแน่นด้วยความอาย“พระองค์ทรงเอาใจใส่เฟยลี่เข้าใจดี แต่ประเจิดประเจ้อไปหรือเปล่าเพค่ะ”เสียงลอดไรฟันจงใจให้เข้าใจความหมาย“ดีแล้วไหนๆ ก็ไหนๆ ให้สมบทบาทหน่อย”เดินเร็วไม่สนใจแพรวา“อย่าดิ้นนักเดี๋ยวจะ ให้อายมากว่านี้"ว่าแล้วก็ก้มลงริมฝีปากเกือบจะประกบริมฝีปากแพรวา“ขอร้อง....คนนี้นี่สำคัญแสดงให้เนียนหน่อย”แพรวานิ่งไม่ไหวติงมันคือการแสดง แพรวาใจอย่าเต้นแรงเดินผ่านกุ้ยเหรินที่คงจะไม่ถวายพระพรเป็นประจำแพรวามองเห็นตาบวมแดง ที่ถูกปกปิดด้วยเครื่องสำอางแต่ไม่สามารถปกปิดได้หมด นางคงร้องไห้ทั้งคืนฮ่องเต้ใจร้าย พระองค์นี้ช่างทำนางได้ลงคอ นั่งลงถวายความเคารพตามแบบก่อนจะก้มหน้านิ่งฮ่องเต้ไม่สนใจอุ้มแพรวาสาวเท้าขึ้นไปบนเรือน รับลมที่ทำเป็นซุ้ม เหมือนเรือนผักผ่อน มีดอกไม่นานาชนิดส่งกลิ่นหอม ตลอดเวลา ขั้นบันไดไปได้เพียงสองสามก้าวแพรวาก็มองเห็นหญิงชราท่าทางสง่างาม นอนเหยียดยาวอยู่บน เบาะผ้าไหมที่ถูกเย็บขึ้นมาอย่างประณีต สวยงาม นางกำนัลโบกพัดไปมา น้ำชายังร้อนๆ เพราะมีไอลอยขึ้นมาบางเบา สายตาเหลือบขึ้นมองจากที่หลับตาพริ้ม เมื่อมีเสียงขานฮ่องเต้เสด็จ ทันมองเห็นตอนที่ฮ่องเต
ใบหน้าที่เคลือบด้วยแป้งจนขาว ปากสีแดงมองแล้วขัดตา เทียบไม่ได้กับใบหน้าเนียนใสของแพรวาสักนิด ที่สวยใสแบบธรรมชาติ“ไปตามนางมาเดี๋ยวนี้”ตวาดเสี่ยวโอ“เออ ข้าพระองค์หานางจนทั่วแล้วแต่ไม่พบตัวเจี่ยเจีย.. เอ้ย... แม่นางเฟยลี่เลยกระหม่อม”ฮ่องเต้ ลุกขึ้นจากบัลลังค์ที่นั่งอยู่ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมมาใส่ เดินออกจากห้องไปสนมฮุ่ยเดินตามเกือบไม่ทันความมืดเข้าปกคลุม ลี่มี่กระตุกชายเสื้อแล้วหลายครั้งเพื่อเตือนสติแพรวา“อีกจอกน่าลี่มี่ข้ายังไม่เมา” แต่เสียงเปลี่ยนไป“แม่นางเฟยลี่ ดื่มสุราเก่งไม่แพ้บุรุษ สมกับที่เป็นหญิงงามอย่างนี้ถ้าใครได้เป็นคู่ครองต้องสำราญใจแน่เพราะไม่เพียงแต่ ร่วมชีวิต ร่วมทุกข์สุขได้ยังร่วมดื่มได้ ไม่มีเบื่อ"“5555เอิ้กกกกก ท่านโหวนี่ปากหมานชะมัด”“ปากหมานแปลว่าอะไรแม่นาง”“เปล่าๆ ๆ ๆ ข้าแค่หลงพูดภาษาต่างถิ่น”“ข้าประเมินแม่นางไว้ไม่ผิดแม่นางต้องคงท่องเที่ยวมานับไม่ถ้วนทั้งกิริยาและวาจาแตกต่างอย่างสิ้นเชิง”“ข้า ไมค่อยได้ไปไหนอยู่แต่ที่บ้าน แต่บ้านของข้าต่างจากบ้านท่านเอิ้กกกก เรามีสิทธิเท่าเทียมกันดื่มได้เท่ากัน ทำได้เท่ากัน”“อย่างนั้นนับว่าแปลกข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีที่แบบนั้น
ด้วยความเคยตัวลุกขึ้นเดินหมายจะเข้าไปในห้องน้ำเดินโซซัดโซเซ จะล้มไม่ล้มแหล่ฮ่องเต้เข้าไปประคอง แต่ทนน้ำหนักตัวไม่ไหว แพรวาล้มโครมลงไปฮ่องเต้เสียหลักตาม ล้มทับลงไปบนตัวของแพรวา หน้าชนหน้าปากชนปาก กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งเต็มตัวให้ความรู้สึกประหลาดฮ่องเต้รู้สึกว่าสุดจะห้ามความรู้สึกตัวเอง เมื่อหน้าอกเบียดชิดหน้าอกนุ่มใกล้ชิดหญิงงามมาก็เยอะไม่เคยมีใครเหมือนเฟยลี่ แพรวาผลักร่างฮ่องเต้ออกอย่างแรง“อย่ามาทำรุ่มร่าม แถวนี้นะ ฉันรักนวลสงวนตัวนะ แกยัยพลอยแกนี่เมาแล้วเลอะเทอะนึกว่าฉันเป็นสามีแกหรืออย่างไรไอ้เพื่อนบ้า”เมาจนไม่รู้เรื่องขนาดนี้ฮ่องเต้คิดในใจ ยังบอกรักนวลสงวนตัวได้อีกหรือมีปัญญาอะไรปกป้องตัวเองกัน“เสี่ยวโอ เสี่ยวโอ”เงียบไม่มีเสียงตอบ หลังจากคิดว่าฮ่องเต้ต้องจัดหนักเจี่ยเจีย เสี่ยวโอเลยหลบไปนอน เดินออกมาเปิดประตูไม่พบใครมีเพียงทหารรักษาการณ์“เจ้าเสี่ยวโอตัวดี”ยกชามน้ำมาด้วยตัวเอง แพรวานอนแผ่หลาบนพื้นเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ท่อนล่างถูกเลิกขึ้นมาจนเห็นขาขาวเรียวสวย ไม่กล้าเช็ดประเด็นคือ กลัวห้ามใจตัวเองไม่ไหว จะเรียกใครมาเช็ดให้เล่านางอยู่ในห้องบรรทม เห็นแสร้งทำเป็นไม่เห็นเช็ดหน้าเช็ดตาไ
ฮ่องเต้ขยับตัวตื่นลืมตาเมื่อแสงสว่างลอดเข้ามา แพรวาขยับตัวนอนท่าที่สบายที่สุด ชินอ๋องนั่นเล่าตกตะลึงอยู่ตรงนั้น“นางเป็นใครทำไมถึง ทำให้ท่านพี่ฮ่องเต้ลงมานอนข้างล่างได้”เสี่ยวโอคุกเข่าลงทันที“นาง คือเฟยลี่ข้าหลวงหญิงประจำกายฝ่าบาท”ชินอ๋องกระชากแขนแพรวาให้ลุกขึ้น ฮ่องเต้ลุกขึ้นมานั่งแบบงง แพรวาลืมตาตื่นงัวเงียมองคนนู้นที่คนนี้ที ยังไม่สร่างเมาอย่างที่ควรจะเป็นเพราะไม่ชินกับสุรา ไม่มียี่ห้อ“กรี๊ดดดด ใครทำอะไรฉัน ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ ฮ่องเต้ทำอะไรทำไมเสื้อผ้าฉันเป็นแบบนี้”ลี่มี่ถลาเข้ามาเอามือปิดปากไว้แน่นกระซิบข้างหู“นายหญิงยังไม่รู้จักชินอ๋องขาโหด เบาๆ หน่อยอันตราย”แพรวาตาโตเบิกตามองหน้าชินอ๋อง แววตาดุจริงๆ แต่ความหล่อเหลาอย่างนี้ตรงใจทีเดียวใบหน้าสะอาดสะอ้าน ไม่น่าเชื่อว่าคนสมัยโบราณของประเทศนี้จะหน้าตาดีทุกคนทีแรกก็ฮ่องเต้ที่คิดว่าจะแก่หง่ำเหงือกกับหล่อร้าย กับท่านโหวที่มองอย่างไรก็พระเอกหนังกำลังภายใน เฮ้อทำใจไม่ได้ อยากเก็บไว้สักหลายคน แต่เวลานี้มันใช่เวลา รำพันถึงหน้าตาคนหล่อไหม“ก็มันจริงนี่ ทำไมฉันมาอยู่ในห้องนี้สภาพนี้”ลี่มี่ส่ายหน้าไปมา“นี่เจ้ายังไม่ทราบความผิดของตัวเ
“ลูกสาวของท่านสนมจางฮุ่ย ไม่ได้ช่วยอะไรพวกเราได้เลย”“คงจะเป็นเรื่องจริงเสียแล้ว ข่าวลือเรื่องฮ่องเต้ ทรงมีข้าหลวงหญิงข้างพระวรกายเป็นที่โปรดปรานนั้น มีใครรู้ที่มาที่ไปของนางบ้าง”ที่เหลืออีกสามตระกูลส่ายหน้าไปมาแพรวานั่งแก่งขาไปมาครุ่นคิดเรื่องราวหลากหลาย“หายเมาหรือยัง”โหวหยางจื้อรุดมายังม้านั่ง ตัวเดิมที่แพรวานั่งเมื่อวันนั้นวันนี้ก็ยังคงนั่งอยู่ตรงนี้หน้าตาหม่นหมองอาจเป็นกำลังแฮงค์ อย่างนี้มันต้องถอนคิดถึงบ้านคิดถึงแม่และคิดถึงพี่กันต์คนรักป่านนี้ จะทำอะไรกันอยู่จะรู้ไหมว่าแพรวาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว สะดุ้งเมื่อคิดอะไรขึ้นได้ ลองออกไปข้างนอกดูดีกว่า อยู่แต่ข้างในนี้เหมือนกับถูกขังไม่แน่ข้างนอกอาจมีหนทางกลับบ้านได้ หันไปยิ้มหวานให้โหวหยางจื้อทันที“ท่านโหว ท่านช่วย เฟยลี่บางอย่างได้ไหม”“ถ้าเพียงแม่นางเอ่ยปาก สิ่งใดยากเย็นแค่ไหนโหวหยางจื้อยินดี และเต็มใจ”ดีดนิ้วเปาะ“อยากออกไปข้างนอก หมายถึงนอกวัง”“จะสร้างปัญหาอะไรให้ท่านพี่... ฮ่องเต้ อีกรึเจ้า”ชินอ๋องเดินเอามือไพล่หลังมาตั้งแต่เทื่อไหร่ แพรวาไม่ทันสังเกต โหวหยางจื้อก็หันหลังให้ บทสนทนาทั้งหมด ไม่แน่อาจไม่รอดพ้น หูของบุคคลที
แพรวาคิดว่าเธอต้องไม่ลืมว่าตัวเองออกมาหาเบาะแสในการกลับบ้าน อย่างไม่ทันตั้งตัว ชายร่างผอมท่าทางโซเซ เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะคว้าป้ายหยกที่ฮ่องเต้หมอบให้ ที่แพรวาผูกไว้กับชายผ้ารัดเอวก่อนจะวิ่งหนีแต่ช้าไปเสียแล้ว บทบู๊ในหนังกำลังภายในก็ปรากฏตรงหน้าด้วยวิทยายุทธ์สูงส่งของ ทั้งท่านโหว และชินอ๋อง ประเคนฝ่ามือซัดเข้าไปจนชายร่างผอมกลิ้งไปมาหลายตลบ มือแข็งแรงคว้าที่คอหอยของชายผู้นั่น แพรวาเห็นท่าไม่ดี ตรงเข้ายึดมือของชินอ๋องไว้ด้วยความตกใจ ชินอ๋องมองมือของแพรวาแบบงงงงชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อสัมผัสตัวกัน ใจหนุ่มแตกกระเจิงไปไกล ไม่เคยเข้าใกล้หญิงใด และยิ่งไม่เคยมีหญิงใดกล้าเข้าใกล้เขาแบบนี้“ปล่อยเขาไปเถอะท่าน อย่าฆ่าเขาเลย “แววตาตื่นตกใจ“หากปล่อยไปคราวหลังมันก็จะ ยิ่งกล้าว่าไม่มีความผิดคราวหลังก็จะทำผิดอีก” แววตาดุดัน“ท่านจะ ฆ่าเขาจริงๆ เหรอ เขาแค่... คงไม่มีเงินท่านโหวช่วยกันห้ามหน่อยสิ”โหวหยางจื้อมองยิ้มๆ แสดงท่าทีไม่แยแสแพรวาเป็นกังวลอย่างมาก ภาพตรงหน้ากลับปรากฏร่างชายหนุ่มร่างผึ่งผายหากแต่สวมหมวกปิดบังใบหน้าเดินเข้ามา“นายท่านโปรดอภัย ข้าน้อยยินดีชดใช้ ค่าเสียหายแทนชายผู้นี้เอง”ริมฝีปากที
แพรวาเดินเอื่อยเฉื่อยไม่สนใจสภาพแวดล้อมข้างกาย ยกมือขึ้นปิดปากหาว ลี่มี่เดินตามอย่างสำรวมเอามือกุมอยู่ข้างหน้าแบบนางในทั่วไป“ดอกไม้ร่วงหล่น ลงพื้นคล้ายความรักหลุดปลิวหายไป”เสียงทุ้ม ดังอยู่ใต้ต้นเหมยที่ออกดอกสีชมพูพร่างพราว ใต้ต้นดอกเหมยร่วงหล่นเกลื่อนพื้น“หากเจ้ามิใช่ดอกเหมย ใย ไม่หวนคืน”แพรวายืนนิ่งฟังอยู่ตรงนั้น โอ้ล้ำลึก คนที่นี่ช่างเปรียบเปรยร่างสูงขายาว ยืนชมดอกไม้อยู่ตรงนี้ไม่ใช้ใครอื่นแต่เป็นฮ่องเต้ ที่แพรวาเมื่อรู้ว่าเป็นฮ่องเต้ทำให้เกิดอาการหมั่นไส้มาเพ้ออะไรอยู่ตรงนี้ แพรวายืนอยู่ในเงามืดไหนเลยลองฟังคารมของหนุ่มที่นี่ดู ปรากฏร่างของหญิงสาวนางหนึ่งที่แพรวามองพินิจอยู่ตั้งนานถึงรู้ว่าเป็นกุ้ยเหริน เดินออกมาจากระเบียงด้านหน้าตำหนัก“ความรู้สึกฝังลึก ยากขุดรากถอนโคน เหมือนรากของดอกเหมยที่หยั่งลึกยาก..ขุดถอน”แพรวาอดทึ่งกับ สำนวนของกุ้ยเหรินไม่ได้“เจ้าอย่าได้เสียเวลาเลยลู่เอิน ใจของข้ามีเพียงเหมยเจียงเจ้าก็รู้”กุ้ยเหรินทำหน้าเศร้า แพรวานึกสงสารจับใจ“กายอยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือหากแต่ใจอยู่ไกลนับพันลี้”โอ้มายก๊อดสุดยอด แพรวาอยากมีปากกาหรือดินสอเอาไว้จดไม่ได้ไม่ได้ต้อง ให้ลี
แกล้งเขาได้ ขัดจังหวะเขาได้ อดจะยิ้มเยาะไม่ได้ แพรวาเผลอยิ้มออกมาทันที กุ้ยเหรินเดินออกมาอย่าง ช้าๆสายตาอาลัยอาวรณ์ประตูปิดลงเบาๆ ลี่มี่กับเสี่ยวโอยักคิ้วให้กันอย่างมีเลศนัย แพรวาปล่อยมือออกจากเอวของฮ่องเต้แต่กับโดนฉุดมือไว้แน่นแพรวารู้สึกไม่ปลอดภัยเสียแล้ว“ปล่อยข้าพระองค์ ฝ่าบาท”กลายเป็นฮ่องเต้ที่ใช้มือกอดรอบเอวบางไว้คางเกยอยู่ที่ไหล่บาง ลมหายใจอ่อนๆ ผสมกลิ่นสุรา“อ้าว ไม่สนิทกันเหมือนเมื่อครู่แล้วเหรอ”แพรวาดิ้นจะให้หลุดแต่ไม่เป็นผลแรงเยอะ เธอไม่น่ามายุ่งกับคนเมา“ก็ไหนบอกให้ มาคอยขัดขว้างเหล่าเมียๆ ให้ไม่ใช่เหรอ มันเป็นการแสดงฝ่าบาทก็ทรงทราบ”ฮ่องเต้ยิ้มหวานมีเลศนัย“เจ้า ไลกุ้ยเหรินไป กุ้ยเหรินกำลังจะปรนนิบัติ... ข้า.ข้าเลือกเจ้าเจ้าก็ต้องตอบแทนโดยการปรนนิบัติข้า.............”......................................................................ไทฮองไทเฮามองหยาดน้ำตาของกุ้ยเหริน ก่อนจะบรรจงเช็ดให้แผ่วเบา“ถ้าหากเจ้าใจกล้ากว่านี้มีหรือฝ่าบาทจะปฏิเสธเจ้าได้”แววตาที่ซ่อนแวว ดุดันไว้ ถูกเคลือบด้วยแววตาอ่อนโยน“ลู่เอิน เกรงฝ่าบาทจะ เข้าใจผิดว่าลู่เอินเป็นผู้หญิงมากรัก หากแต่นางกลั
“อย่างนั้นข้าน้อยโหวหยางจื้อขอทูลลา ข้าไปก่อนแม่นางเฟยลี่ หวังอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสชมดอกไม้กับแม่นางอีกในไม่ช้า”หยางหลงยืนนิ่ง แต่เมื่อโหวหยางจื้อเดินจากไป หยางหลงหันกลับมามองแพรวาเต็มตากวาดตามองแบบไม่สนใจว่าสายตาจะดุดันเช่นไร“ได้เวลาต้อง กลับไปกับข้าอีกแล้ว”แพรวายิ้ม เอาวะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ขยับตัวไปยืนเคียงข้างสอดแขนเข้าไปในวงแขนแข็งแรงอย่างไม่เคอะเขินหยางหลงมองแขนของแพรวาที่เกี่ยวเกาะกับแขนของตัวเอง“ไปเพคะ ข้าพระองค์พร้อมแล้ว”“บังอาจ”“ไหนว่าข้าพระองค์เป็นสมบัติของฝ่าบาทอย่างไรเล่า เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะโมโหไปไย”ฮ่องเต้หนุ่มฮึดฮัดแต่แพรวาก็ไม่ยอมปล่อย จนต้องจำยอมในที่สุดปล่อยให้แพรวาคล้องแขนเดินอยู่อย่างนั้นสนมฮุ่ยในชุดฮั่นฝูสีฟ้าใสอ่อนหวานเยื้องย่างจากทางเดินทอดยาวจากตำหนักหนึ่งสู่อีกตำหนักหนึ่งผู้ติดตามเกือบสิบคน เดินตามคอยยกชายชุดฮั่นฝูที่ยาวรุมร่ามฉับพลันนั้นเองร่างระหงกับมีอาการเซถลาคล้ายทรงตัวไม่อยู่ หญิงรับใช้หลายคนถลาเข้าประคองอย่างรวดเร็ว แต่ร่างบางกลับหมดสติ อย่าง ไม่มีใครได้ทันคาดเดาต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นเสียงวี้ดว้ายดังระงม ทหารองครักษ์วิ่งวุ่นวายเหล่าขันทีที
เมื่อมาถึงตำหนักใหญ่ผลักร่างแพรวาเซถลาลงไปกองกับพื้น เสี่ยวโอคุกเข่าลงข้างๆ“ฝ่าบาท ถนอมพระวรกายด้วย อย่าทรงกริ้วนักเลย”ใบหน้าถมึงทึงหันไปมองเสี่ยวโอ“ธุระกงการอะไรของเจ้า ถอยไปแล้วปิดประตูคอยฟังคำสั่ง”เสี่ยวโอหดตัวถอยห่างออกมาปิดประตูเบามือ ส่งสายตาแสดงความเห็นใจมาให้แพรวาฮ่องเต้หนุ่มหันไปหาแพรวา“เจ้าช่าง ทำข้าขายหน้านัก”แพรวาทำหน้าเหลอหลาไม่เข้าใจอะไรอีกทีนี้“เฟยลี่ไม่บังควร สุดแล้วแต่ฝ่าบาทจะกล่าวโทษ”“นี่เจ้าหาว่าข้ากล่าวโทษเจ้าลอยๆ รึ”แพรวาหันหน้าหนีส่ายหน้าช้าๆ ฮึอย่าให้แพรวาโมโหมาบ้างนะชักจะไม่มีเหตุผลไปกันใหญ่“ก็แล้วแต่ฝ่าบาทจะคิด ข้าพระองค์ไม่อาจโต้แย้งอย่างไรเสียข้าพระองค์ก็เป็นเพียงลูกแกะ ฝ่าบาทเป็นหมาป่าเจ้าอำนาจ”ไม่ทนแล้วยอมมาเยอะแล้วแม่จะแผลงฤทธิ์ให้ดูทีว่าใครจะแจ๋วกว่ากัน“เจ้านี่คงไม่พ้นจะโดนลงทัณฑ์จากข้า”“ใครกลัวเพคะ”ฮ่องเต้หนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์“ข้าคิดแล้วอย่างเจ้าไม่กลัวการลงทัณฑ์เป็นแน่ ถึงได้จงใจปลอมตัวเป็นฮุ่ยเหนียงทำข้าสับสนอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ทัน ไหนๆก็ปลอมตัวเป็นสนมของข้าแล้ว อย่างนั้นไม่สู้เจ้ามาแสดงให้มันจบไปเลยดีกว่า”เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แพรวาถอยจน
บรรจงจุมพิตที่แก้มนวล แพรวาหลับตาลงช้าๆ เหมือนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ คิดถึงอดีตที่เคยอยู่ข้างกายหยางหลง“ฮุ่ยเหนียงเจ้ามารอข้าถึงนี่เลยหรืออย่างไร”แพรวาเบิกตาโพลงหันหน้ามาเผชิญหน้ากับ หยางหลงเต็มตาฮ่องเต้หนุ่มจ้องมองแพรวา ที่สวยหวานปานหยาดน้ำผึ้งอย่างตะลึงงันสักพักก็เปลี่ยนเป็นโกรธขึ้งชี้มือมาที่แพรวาด้วยมือสั่นระริก“เจ้า เจ้าบังอาจ นำชุดของสนมฮุ่ยมาสวมใส่ใครก็ได้มาจับนางไว้”เสี่ยวโอรีบวิ่งมาคุกเข่าแพรวานิ่งคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะตาลปัตรขนาดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเพียงพริบตาเดียว ทหารองครักษ์สองนายวิ่งมายืนขนาบข้างกดแพรวาให้คุกเข่าแพรวาไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด แต่อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหลริน“ฝ่าบาท ทรงสอบสวนก่อน”เสี่ยวโอแย้งขึ้นทันทีเมื่อเห็นน้ำตาแพรวา"ไม่มีการสอบสวนใดใดทั้งสิ้น นำนางไปจองจำไว้”องครักษ์หิ้วแขนสองข้างของแพรวาขึ้นมาทันที“ไทฮองไทเฮาเสด็จจจจจจจจจจจจจจจจ”เสียงดังกังวานทำเอาทุกคนหยุดทุกการกระทำ“ฮ่องเต้ ใยเจ้ากล่าวโทษนาง ย่ามองไม่เห็นว่านางจะมีความผิดแต่อย่างใด”น้ำเสียงปราศจากความยโสเหมือนที่แพรวาเคยได้ยินแต่น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความปรานี“เสด็จย่านางนำอาภรณ์ของสนมฮุ
ลี่มี่ก้มลงกระซิบเบาๆ“ชินอ๋องข้าหมายถึงเหอหลงที่พยายามจะเตือนฝ่าบาทเรื่องสนมฮุ่ยและใต้เท้าจาง ไม่เพียงแต่ชินอ๋องเท่านั้น ท่านโหวเองก็ไม่พอใจใต้เท้าจางนักที่อาศัยความที่เป็นพ่อตาวางอำนาจบาตรใหญ่คุมกองกำลังทหารองครักษ์และสามเหล่าทัพจนเป็นที่เกรงขามไปทั่วเพียงเพราะฝ่าบาทโปรดปรานสนมฮุ่ยเรียกหาทุกค่ำคืน”เป็นไปได้อย่างไรไม่น่าเชื่อสิ่งที่ได้ยินทุกอย่างกลับตารปัดไปหมดเช่นนี้“แล้วชินอ๋อง ...เหอหลงเล่าอยู่ที่ไหน”“ชินอ๋องทนความเหิมเกริมของใต้เท้าจางโดยที่ฝ่าบาทเพิกเฉยมาตลอดนำกำลังเข้าล้อมวังหลวงสามพันนาย แต่ใต้เท้าจางกับนำทหารทัพหน้าสามเหล่า ทัพตีตลบทัพหน้าของใต้เท้าจางเกือบพ่ายแพ้เพราะชินอ๋องมีแต่กำลังทหารที่ยอมพลีชีพคนเขาลือกันว่าท่านหมอ ทำนายทายทักไว้จนท่านโหวนำกำลังอีกส่วนมาช่วยใต้เท้าจางทัน ....แต่ความจริงเขาลือกันว่าโหวหยางจื้อไปช่วย..ชินอ๋องเสียมากกว่าเพราะกำลังทหารสามพันหรือจะสู้กำลังทหารหมื่นนายของใต้เท้าจาง เขายังพูดกันอีกว่าทหารองครักษ์บางส่วน หันกระบี่เข้าใส่ทหารสามเหล่าทัพปกป้องชินอ๋อง” แพรวาตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินคราวนี้เป็นแพรวาเสียเองที่ใช้มือปิดปากตัวเอง“เพราะอย่างนี้ใช่ไหม
ก้มหน้านิ่งกลัวว่าหยาดน้ำตาจะร่วงรินให้ใครเห็น ความจริงแพรวากลับมาเพื่อหยางหลงแต่สิ่งที่ต้องเผชิญ ทำให้จิตใจไร้เรี่ยวแรง“ฝ่าบาทให้นางพำนักที่จวนข้าเถิด เพราะท่านหมอได้ฝากฝังนางไว้แก่ข้า”โหวหยางจื้อยังไม่ยอมแพ้ อ๋อนี่หลังจากสร้างเรื่องแล้วคงรู้ดีว่าแพรวาต้องเจอกับอะไรบางอย่างนั้นสิ ถึงได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ให้“อย่างไรเสียนางก็เป็นเพียงหญิงนางหนึ่ง ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆในวังหลวงที่มาที่ไปไม่ชัดเจน ข้าไม่อาจวางใจให้นางอยู่ห่างไกลสายตาของข้าเจ้าอย่าห่วงเลยโหวหยางจื้ออย่างไรเสียข้าคงไม่สั่งประหารนางตอนนี้หากต้องมีเรื่องใหญ่ขนาดนั้นคงต้องหารือเจ้าอย่างแน่นอน”แพรวาได้แต่ทอดถอนใจ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เอาวะเป็นอย่างไรเป็นกันต้องสู้ดูสักตั้งใช่ว่าแผ่นดินจะสิ้นไร้เท่าใบซานซา (พุทรา) อย่างน้อย ถ้าไม่ไหวจริงๆ แพรวาจะขอให้หมอหลวงหาทางให้กลับบ้านจะดีกว่าเงยหน้ายิ้มสู้“ไม่ต้องกังวลเรื่องตัวข้าให้มากนัก ท่านทั้งสองข้าเป็นหญิงตัวคนเดียวเพียงแค่ได้ที่พักพิงอาศัย ไม่ว่าจะที่ใดก็ดีใจเหลือเกินแล้ว ปลาย่อมพึ่งสายน้ำ ทั้งฝ่าบาทและ ท่านโหวเป็นห่วงเป็นใยข้าเพียงนี้ข้าน้อยเฟยลี่ไม่อาจดื้อรั้นอีกต่อไปจะขออาศัย
เผลอหลับไปข้างๆ แพรวาโดยไม่รู้ตัวแพรวาหลับสนิทเผลอคว้าหาหมอนข้างด้วยความเคยชินเพื่อมาก่ายกอดกับคว้าเอาร่างใหญ่มากอดไว้ซุกหน้ากับอกอุ่น อีกคนก็นอนหลับใหลเพราะความง่วง ใจกระหวัดคิดไปว่าเป็นสนมฮุ่ยที่เคยข้างกายมาตลอดแสงเช้าสาดส่องเข้ามาอย่างเคยไม่มีบิดพลิ้ว คนนอนก่อนตื่นก่อนสนมฮุ่ยนอนบิดขี้เกียจอยู่บนแท่นนอนก่อนจะมองสอดส่ายสายตาหาฝ่าบาทที่เคยอยู่ข้างกายสายตาหยุดลงที่ภาพบาดตา แพรวานอนกอดก่ายร่างของฮ่องเต้ไว้แน่นทั้งคู่หลับสนิทไม่รู้เรื่องราว“กรี๊ดดดดดดดดด”เสียงกรีดร้องดังลั่น ฮ่องเต้หนุ่มสะดุ้งตื่นจากบรรทม แพรวายังนอนไม่รู้ไม่ชี้ก็เมื่อคืนนอนดึกเหลือกำลังร่างใหญ่ผุดลุกขึ้นแพรวากับคว้าคอไว้แน่น เสี่ยวโอวิ่งรวดเดียวเข้ามาถึงในห้องทำหน้าตาพิกล จะว่าตกใจก็ไม่ใช่จะว่าแปลกใจก็ไม่ใช่“ฝ่าบาท ฝ่าบาท”สนมฮุ่ยพูดได้เพียงแค่นั้น ฮ่องเต้หนุ่มพยายามแกะมือแพรวาที่เหนียวเหมือนปลาหมึกที่โอบรอบลำคอแพรวางัวเงียลืมตาตื่นยังลำดับเหตุการณ์ได้ไม่ดีนักเอ่ยปากถามทันที“อ้าว เช้าแล้วเหรอยังนอนไม่อิ่มเลย”ปล่อยมือจากลำคอบิดขี้เกียจเหมือนแกล้ง แล้วทิ้งตัวลงนอนตะแคงตามเดิมสนมฮุ่ยมองหน้าตาเขียวปั๊ด“เจ้าใยไร้ย
ยกมือประสานกันโค้งคำนับก่อนจะถอยห่างแต่ช้าไปฮ่องเต้หนุ่มคว้าแขน มากำไว้แน่น“ข้ายังไม่อนุญาตห้ามเจ้าไป”แพรวาหันหน้ามาส่ายหน้าไปมา“ฝ่าบาทท่านช่าง ไม่มีความกระดากหรืออย่างไรท่านไม่เห็นหรือว่าสนมของท่าน ผ้าผ่อนหลุดลุ่ยออกเพียงนั้นยังจะให้ข้า...อยู่ทำไม” แล้วจะยังความมั่นคงในรักของเขาอีก แพรวาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเกิดอารมณ์ขุ่นเคืองอย่างไม่มีเหตุผล หรือว่าหึงวะ“ไม่ได้ในเมื่อไม่อนุญาตใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดกล้าขัดบัญชาข้าได้”แพรวาทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิอยู่เบื้องหน้าอย่างประชดประชัน บ่นงึมงำเมื่อเริ่มง่วงจริงๆเสียแล้ว“จะได้นอนไหมคืนนี้”“ใครให้นอนตอบคำถามข้ามาเจ้ามีเจตนาอะไรกันแน่ ถึงได้สมคบคิดกับหมอหลวงข้าไม่อยากเชื่อว่าทุกอย่างเป็น ลิขิตของสวรรค์ใยช่างเหมาะเจาะเช่นนี้”“ตามนั้นเลยฝ่าบาทข้าพระองค์มาเพราะมีจุดประสงค์บางอย่าง”อยากบอกว่าเหลือเกินเพราะคิดถึงเขา“พูดมาจุดประสงค์ใด หรือเหอหลงส่งเจ้ามา”แพรวาเริ่มสะกิดใจ คงต้องหาคำตอบเรื่องเหอหลงให้จนได้“.....................”“คงต้อง ทรมานด้วยม้าแยกร่างเจ้าถึงจะยอมพูดสิ่งที่ข้าอยากรู้”“เหอ.... นอกจากจะไม่ฟังเหตุผลแล้วยังชอบทรมานคนอื่น”เอาวะเ
ความมืดปกคลุมไปทั่วเสียงต่างๆเงียบเชียบ แพรวาเดินลัดเลาะตามกำแพงสูงใหญ่ด้วยความคล่องแคล่วและมั่นใจอย่างน้อยแพรวาก็ไม่กลัวผี แต่ที่แย่คือไม่ได้หยิบเสื้อคลุมมามีเพียงชุดฮั่นฟูบางเบาทำเอาความหนาวแทรกซึมเข้าสู่ผิวกายเดินกอดอกห่อไหล่เสียงฝีเท้าหนักๆ แพรวนึกภาพทหารยาม ที่เดินยามค่ำคืน แต่ช้าไปเสียแล้วหาทางหลบก็ไม่รอด หลับตาปี๋เป็นอย่างไรเป็นกันฉับพลันร่างบางก็ถูกคว้าตัวจากทางด้านหลังกอดจะฉุดมือให้หายเข้าไปใต้พุ่มไม้หนา ร่างใหญ่ของใครบางคนเบียดบดร่างบางไว้ ตรงพุ่มไม้ข้างกำแพงแพรวาดิ้นแต่ปากถูกมือใหญ่ปิดไว้ ทหารยามเดินผ่านไปอย่างไม่เฉลียวใจร่างใหญ่คลายมือออกจากปากแพรวา“บอกมา เจ้าเป็นใครกันแม่นาง เป็นใครบงการให้เจ้าเข้ามาในนี้ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่หรือว่าจะเป็นเหอหลง”เสียงเข้มของหยางหลงดุดันอยู่ข้างหูแพรวาตะลึงงันไม่คิดว่าจะเป็นหยางหลง เขาเข้าใจเธอผิดอย่างแรงจากทางด้านหลังกอดจะฉุดมือให้หายเข้าไปใต้พุ่มไม่หนา ร่างใหญ่ของใครบางคนเบียดบดร่างบางไว้ ตรงพุ่มไม้ข้างกำแพงแพรวาดิ้นแต่ปากถูกมือใหญ่ปิดไว้ ทหารยามเดินผ่านไปอย่างไม่เฉลียวใจร่างใหญ่คลาย มือออกจากปากแพรวา“บอกมาเจ้าเป็นใครกันแม่นาง เป
อย่างน้อยสนมฮุ่ยก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน“เจ้ามาจากไหนทำมาสำออยอยู่หน้าตำหนักฝ่าบาท แล้วไหนจะข่าวลือเรื่องฉลองพระองค์เสื้อคลุมมังกรที่ฝ่าบาททรง ใช้คลุมร่างกายเปียกปอนของเจ้าอีกเล่าบอกข้ามาเจ้าเป็นใครมาจากไหน”แพรวายหุบยิ้ม มาแปลกตามปกติต้องไม่ช่างซักขนาดนี้“ข้าน้อยเฟยลี่ บังเอิญหลงเข้ามาในเขตวังหลวงขอพระสนมโปรดอภัย”มือประสานกัน ด้วยความเคารพสนมฮุ่ยยิ้มในหน้าอย่างสาใจ“รู้จักที่สูงที่ต่ำข้ามิอาจกล่าวโทษเจ้า ได้เมื่อร่างกายแข็งแรงข้าหวังว่าเจ้าจะจากไปโดยเร็ว”โอ้โหนี่ยังไม่ทันไรไล่กันเสียแล้วแพรวาคิด“เพคะ”ใจอยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่มีทางกว่าที่แพรวาจะมาถึงนี่ได้กว่าจะหาทางกลับมาได้ช่างยากเย็นเข็ญใจ เรื่องอะไรจะจากไปง่ายๆ“ฮ่องเต้เสด็จ"เสียงตะโกนก้องของเสี่ยวโอดังเข้ามาครั้งในห้อง แพรวาน้ำตาปริ่มขอบตาคิดถึงเสี่ยวโอเหลือเกิน ประตูถูกเปิดกว้างออกโดยเร็ว ชายเสื้อยาวสะบัดพรึบพับแสดงความเคารพ“ถวายพระพรฝ่าบาท" หลายคนในนั้้นคุกเข่าด้วยความเคารพเสี่ยวโอเดินตามเข้ามาติดๆแพรวาเกือบจะกระโดดเข้าไปทักทายเสี่ยวโอ“ฮุ่ยเหนียงลำบากเจ้าแล้วเจ้านี่ช่างมีน้ำใจห่วงใยดูแลหลายเรื