หลี่เสี่ยวหรูไม่สนใจบ่าวในจวนหรือสายตาขุนนางที่เพิ่งมาถึงเพื่อเข้าร่วมถกหัวข้อการสอบปีนี้นางตรงไปเรือนโย่วหลันเมื่อถึงหน้าเรือนก็จับชายกระโปรงยกขึ้น นั่งคุกเข่าบนก้อนกรวด แม้จะเจ็บแต่ก็อดทน ท่ามกลางแดดที่เริ่มร้อนเหงื่อซึมใบหน้า
ภายในห้องไท่ฮูหยินที่เพิ่งสวดมนต์เสร็จกำลังนั่งจิบชาอยู่ หวงหมัวมัวมารายงาน
"ไท่ฮูหยิน ฮูหยินน้อยนั่งคุกเข่าอยู่หน้าเรือนครึ่งชั่วยามแล้วเจ้าค่ะ"
"หืมเด็กคนนั้นหรือ นางมีเรื่องอะไรไปถามสิ"
คนสนิทรับคำก่อนจะเดินออกมาหานายบ่าวที่นั่งคุกเข่าอยู่ หวงจื่อหวนเพิ่งเดินมาถึง นางทำอะไรอีกนั่นจากนั้นก็ได้ยินเสียงหวงหมัวมัวเอ่ยถาม
"ฮูหยินน้อย ไท่ฮูหยินให้มาถามว่าท่านมีเรื่องอันใดจึงมาคุกเข่าเช่นนี้"
"หวงหมัวมัว ข้ามาขอรับโทษน่ะ"
"รับโทษอันใดกันเจ้าคะ"
"หลานสะใภ้มีความผิดแต่งงานมาหนึ่งปีกับอีกสองเดือน บกพร่องในหน้าที่มิสามารถดูแลจวนได้ ต้องลำบากท่านหญิงเซียงเซียงมาคอยจัดการงานเล็กใหญ่ในเรือน หลานสะใภ้รู้ดีว่าจวนหวงกำลังลำบาก เงินเดือนข้าเองก็มิกล้ารับ ในเมื่อโจวหมัวมัวบอกว่าไม่สามารถจ่ายได้หลานสะใภ้เองก็จำยอม ในจวนมีหลายปากท้องหลานสะใภ้ไม่อาจใจดำดูคนเหล่านั้นลำบากไปด้วย ยอมกินผักดองกับน้ำข้าวทุกมื้อ ไท่ฮูหยินหลานสะใภ้มีความผิดใหญ่หลวงนัก มิอาจสืบทายาท มิอาจจัดการจวน ขอไท่ฮูหยินลงโทษหากถูกปลดภรรยาหลี่เสี่ยวหรูคนนี้ขอน้อมรับทุกอย่างเจ้าค่ะ
หลี่เสี่ยวหรูเอ่ยไม่ดังไม่เบาทุกถ้อยคำล้วนหนักแน่นไม่ตีไข่ใส่สีแต่เป็นคำพูดของคนที่รู้สึกผิดจริง หวงจื่อหานกำมือแน่น หนังสือหย่าก็กล้าเขียน แช่งเขาให้ตายก็ทำมาแล้ว วันนี้ยังกล้าขอให้ท่านย่าของเขาลงโทษนางโดยการให้เขาปลดนางอีกหรือ ผู้หญิงน่าตายคนนี้อยากไปจากข้าหรือ อย่าฝันเลย
ประตูเรือนเปิดออกมา หญิงชราอายุหกสิบผมขาวทั้งศีรษะแต่ว่าใบหน้ายังคงงดงาม ท่วงท่าที่ก้าวเดินสง่ายิ่งนัก นางคือไท่ฮูหยินท่านย่าของหวงจื่อหาน
หญิงชรามองร่างบางที่นั่งคุกเข่าอยู่ก่อนจะมองหน้าหลานชาย เลยไปยังอ้ายเซียงเซียงที่ยืนอยู่ มือเกาะชายเสื้อหลานชายนาง หวงจื่อหานปัดมืออ้ายเซียงเซียงออกมาประคองท่านย่าของเขาทันที จากนั้นไท่ฮูหยินก็เอ่ยวาจา
"หวงหมัวมัว พยุงฮูหยินน้อยลุกขึ้นมาเถอะเจ้าไม่มีความผิดอันใด ข้าไม่อยู่เสียหลายเดือนจวนหวงกลายเป็นจวนอ๋องไปแล้วหรือ"
"ไท่ฮูหยินมิใช่อย่างนั้นนะเจ้าคะ คือว่าข้า...."
อ้ายเซียงเซียงไม่กล้ากล่าวต่อ แม้บิดาเป็นอ๋องแต่ฮ่องเต้เองยังไว้หน้าไท่ฮูหยิน นางเป็นฮูหยินเก้ามิ่งเชียวนะ หลี่เสี่ยวหรูถูกหวงหมัวมัวพยุงขึ้นมา ขาเป็นเหน็บจึงลุกไม่ไหว เกาะแขนหญิงชราเซเล็กน้อย
"ขอบคุณหวงหมัวมัว ทำให้ท่านลำบากแล้วขออภัยด้วย"
"ฮูหยินน้อยอย่าได้เกรงใจ เป็นเพราะท่านคุกเข่านานเกินไป เหตุใดใบหน้าท่านบวมแดงเช่นนี้กันเจ้าคะ"
"ข้า ข้าแค่เดินไม่ระวังถูกกิ้งไม้ดีดเอานะ ขอบคุณไท่ฮูหยินที่เมตตาหลานสะใภ้ไร้ความสามารถคนนี้เจ้าค่ะ"
"หลานสะใภ้ของข้า หึ ดีจริงๆในจวนนี้มีคนกล้าลงมือกับฮูหยินน้อยด้วยหรือเป็นใครกัน ไหนเมื่อกี้เจ้าบอกว่าจวนหวงกำลังลำบากหรือ"
"เอ่อ เจ้าค่ะโจวหมัวมัวบอกว่ามิอาจจ่ายเงินเดือนหลานสะใภ้ได้ เพราะมีหลายปากท้องต้องเลี้ยวดู ขอให้หลานสะใภ้เห็นใจบ่าวไพร่ อาหารก็ต้องประหยัดแต่ว่านี่เป็นน้ำใจจากหลาน ไท่ฮูหยินกำลังจะกลับมา ท่านพี่จึงยอมเจียดเงินให้มาสองตำลึงเพื่อทำอาหารดีๆให้ท่านสักมื้อเจ้าค่ะ เสี่ยวหง"
เมื่อเจ้านายเรียกเสี่ยวหงส่งตะกร้าให้สาวใช้คนสนิท เมื่อเปิดดูก็พบเป็ดย่างแร่เป็นชิ้นสวยงามน่ากิน มีไก่ตุ๋นน้ำแดงส่งกลิ่นหอม โจ๊กที่เคี่ยวจนเนื้อเนียนละเอียด ขนมสีสันน่ากิน ไท่ฮูหยินจึงเอ่ยถาม
"ขนมนี่เจ้าทำเองหรือ"
"เจ้าค่ะ แต่วัตถุดิบจำกัด ครั้งหน้าหลานสะใภ้จะทำให้ดีกว่านี้ถ้ายังมีโอกาสเจ้าค่ะ
"ยังมีโอกาสอันใด เจ้าแต่งเข้ามาก็คือคนสกุลหวง อีกอย่าที่เจ้ากล่าวมาถ้าเช่นนั้นแปลว่าเจ้าไม่ได้รับเงินตำลึงเลยตั้งแต่แต่งเข้ามาหรือ"
"เรียนไท่ฮูหยิน คนอื่นยังอดมื้ออิ่มมื้อ หลานจะเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้เช่นนั้นได้เช่นไรเจ้าคะ"
"อืม ดูจากเสื้อผ้าที่เจ้าสวมใส่ข้าเชื่อแล้ว หานเอ๋อร์เจ้าดูแลเมียได้บกพร่องนัก อีกครึ่งเดือนย่าจะตามเสด็จไทเฮาไปไหว้พระ ถ้าเจ้าดูแลนางไม่ได้ก็ให้ไปกับย่าเถอะ ส่วนท่านหญิงเรื่องของจวนหวงมิจำเป็นให้เจ้าสอดมือคนของข้ามีมากพอ พ่อบ้านไปตรวจสอบว่าเงินเดือนฮูหยินน้อยได้เบิกหรือไม่ แล้วใครรับเงินก้อนนั้นแทนนาง"
ทันทีที่ประมุขใหญ่ของบ้านเอ่ยออกมาทุกคนก็ไปทำตามทันที โจวหมัวมัวที่ตอนนี้ตัวสั่น มองหน้าอ้ายเซียงเซียงไหนว่านางเป็นคนโง่ไง หากตรวจสอบแล้วพบเจอจะทำเช่นไร อ้ายเซียงเซียงเห็นท่าไม่ดีจะขอตัวกลับพ่อบ้านก็มาพร้อมสมุดบัญชี"เรียนไท่ฮูหยิน โจวหมัวมัวรับเงินทุกเดือน บอกว่าฮูหยินน้อยให้มารับแทน เพราะใต้เท้าสั่งห้ามนางออกจากเรือนข้างขอรับ นี่คือสมุดบัญชีของจวน"โจวหมัวมัวคุกเข่าทันที มือเหี่ยวย่นเกาะแขนอ้ายเซียงเซียงแน่นเอ่ยพร้อมน้ำตา"ท่านหญิงช่วยบ่าวด้วยเจ้าค่ะ ไหนท่านว่าทำเช่นนี้ไม่เป็นไรไงเจ้าคะ""เจ้าพูดอะไรโจวหมัวมัว ข้าไม่เคยสั่งให้เจ้าทำเรื่องไร้ศิลธรรมไร้ยางอายเช่นนี้ เจ้าเป็นบ่าวแต่กลับยักยอกนาย ยังมาสาดน้ำโคลนใส่ข้าอีก ไท่ฮูหยิน พี่จื่อหานข้าไม่ทราบเรื่องอันใดด้วยเลยนะเจ้าคะ"อ้ายเซียงเซียงเอ่ยร้อนรน ยายแก่นี่จะกลับมาทำไมนะ อยู่ที่วัดถือศิลกินเจไปสิ อ้ายเซียงเซียงนึกอย่างขัดใจ เสียงของไท่ฮูหยินดังกังวาน"ไปตรวจสอบบัญชีทั้งหมดของจวน ใครทำผิดเอามารวมที่ลานด้านหน้า โจวหมัวมัวโบยยี่สิบไม้ขับออกจากจวน ส่วนคนอื่นๆที่กระด้างกระเดื่องขายทิ้งไปซะ หานเอ๋อร์เจ้าละเลยจริงๆ
หลี่เสี่ยวหรูที่กำลังขับรถกลับบ้านบนเขา วันนี้เธอต้องไปส่งสินค้าทั้งหมดคนเดียว น้องชายไม่ว่างเพราะภรรยาเขาเพิ่งคลอดหลานชายให้ หลี่เสี่ยวหรูอายุยิ่สิบแปดแล้วน้องชายอายุยี่สิบห้ากลับได้ลูกชายกับลูกสาวแล้ว ส่วนตัวเธอไม่มีแฟน ไม่มีเวลาคบค้ากับใคร อยู่ชนบททำไร่ชา ไร่ผลไม้ มีเวลาก็ทำvlokเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในชนบท วันนี้ไปส่งผลิตภัณฑ์แปรรูปมา เนื่องจากสินค้าชาขายดีตอนนี้กำลังทำเรื่องขอจดทะเบียนในรูปแบบบริษัท เอกสารเรียบร้อยหมดแล้ว เธอไม่ได้นอนมาหลายคืนแล้ว เพราะงานที่ยุ่งเหยิงน้องสะใภ้ก็มาคลอดลูกตอนนี้ อยากไปรีแรกซ์บ้างจัง เสร็จงานนี้น้องสะใภ้ออกจากโรงพยาบาลเธอจะบินไปมัลดิฟสักสามสี่วันRrrr. Rrrr. Rrrr.เสียงเรียกเข้าดังมา ตรงข้ามเสี่ยวหรูที่กำลังขับรถลงเนินเขาไม่กล้ารับ ฝนตกมาตั้งแต่เมื่อวานดินเริ่มสไลด์ลงมาทางจึงแคบลง หลี่เสี่ยวหรูพยายามบังคับรถให้ทาง ก่อนจะมีดินสไลด์ลงมา สัญชาตญาณทำให้เธอหักพวงงมาลัยหลบ แต่ฝั่งที่เธอหักหลบเธอลืมไปว่ามันเป็นเหว รถร่วงลงหน้าผาทันที หล่นลงไปในแม่น้ำ หลี่เสี่ยวหรูพยายามตะเกียกตะกายออกจากรถ แต่แรงดูดทำให้เธอไม่สามารถเปิดประตูรถออกม
"หลี่เสี่ยวหรูเจ้ากล่าวอันใดออกมา"อ้ายเซียงเซียงลุกขึ้นตวาดหลี่เสี่ยวหรู มีคุณหนูบางคนที่นี่ไม่ชอบนางโดยเฉพาะจางลี่อิน ส่งเสียงหัวเราะจนเฉินอี้บีบมือนางแต่นางไม่ใส่ใจ "ข้ามิได้เอ่ยว่าผู้ใด เหตุใดท่านหญิงร้อนตัวนักเล่า""เจ้าๆๆ หวังกุ้ยเฟยทรงให้ความเป็นธรรมกับหม่อมฉันด้วยเถอะเพคะ ฮือๆๆ"อ้ายเซียงเซียงใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดใบหน้าร้องไห้ออกมา ไหล่บางสั่นจนหวังกุ้ยเฟยเอ่ยออกมา"บังอาจ เจ้ากล้าต่อว่าท่านหญิงได้อย่างไร ราชครูหวงนี่คือฮูหยินของท่านหรือ ที่จริงงานเลี้ยงวันนี้มิได้เชิญนางอีกด้วย"หลี่เสี่ยวหรูที่มองหน้าคนด้านที่นั่งด้านบนก่อนจะทำหน้าสงสัย อ้ายเทียนหลางจึงเอ่ยปากถาม"เจ้ามองหน้าข้ามีเรื่องอันใดหวงฮูหยิน""พระองค์ทรงเป็นฮ่องเต้ แต่ท่านหญิงกับไปขอร้องหวังกุ้ยเฟยให้จัดการหม่อมฉัน ที่นี่เป็นงานเลี้ยงของพระนางก็จริง แต่ฝ่าบาททรงเป็นประธาน หม่อมฉันเป็นภรรยาขุนนางมิใช่สนมวังหลัง เหตุใดมิให้ฝ่าบาทตัดสินกันเพคะ ธรรมเนียมต้าเย่วช่างแปลกนัก"ทันทีที่หลี่เสี่ยวหรูกล่าวจบฮ่องเต้ก็หันไปหาคนข้างๆทันที หวังกุ้ยเฟยตัวสั่นรวมถึงอ้ายเซียงเซียงด้วย "หม่อมฉันไม่ได้คิดเช่นนั้นนะเพ
หลังงานเลี้ยงแต่ละคนก็กลับจวนของตอนเอง หยางหมิงเช่อนั่งหน้าดำเป็นก้นหม้อที่ฮูหยินตนเองไม่สนใจ นางเอาแต่มองออกไปนอกรถม้า"จ้าวหลานเป็นฮูหยินของข้าเหตใดไม่สำรวมบ้าง เจ้าถอดเสื้อตนเองต่อหน้าคนมากมายอยากสร้างเรื่องอับอายให้ข้าจริงๆหรือ""หยางหมิงเช่อ ท่านหญิงปีศาจของเจ้ากลั่นแกล้งอาหรูถึงเพียงนั้นเจ้าโง่จนดูไม่ออกหรือ อีกอย่างเสื้อผ้านางบางเพียงนั้น อาหรูไม่ค่อยทันคนเท่าไหร่ตัวคนเดียวมาอยู่เมืองหลวง เจ้าเป็นบุรุษใจคอคับแคบเช่นนี้ มิสู้เอากระโปรงข้าใส่เสียเลยเล่า""จ้าวหลาน!! เจ้าเอ่ยอีกทีสิ"จ้าวหลานเงียบไม่ตอบ หยางหมิงเช่อไอ้คนสติฟั่นเฟือนดูไม่ออกหรือว่าใครเสแสร้ง "หึ โง่""เจ้าว่าอย่างไรนะ?""นี่หยางหมิงเช่อ ตำแหน่งหัวหน้าหน่วยองครักษ์นี่เจ้าได้มาเพราะโชคช่วยหรือ วิเคราะห์สถานการณ์ตรงหน้ายังไม่ได้ โง่เพียงนี้ยังกล้าอยู่ฝ่ายสืบสวนของกรมวัง ว้ายย"หยางหมิงเช่อจับข้อมือเล็กก่อนจะกระชากนางมานั่งบนตักตนเอง จับท้ายทอยนางแน่นกุ้มหน้าลงไปหา บดขยี้ริมฝีปากบางอย่างลงโทษที่นางกล้าปากดีใส่เขา คนตัวเล็กกำหมัดทุบอกเขา แต่กลับไม่สะเทือน จ้าวหลานอ้าปากจะกัดปากเขาแต่กลับเปิดโอกาสใ
แผ่นหลังนวลเนียนน่าประทับตราทั่วทั้งตัว เอวคอดกิ่วที่เพียงมือเดียวของเขาก็รวบหมด สะโพกกลมกลึง บั้นท้ายงอนงามจนมาถึงท่อนขาที่น่าลูบไล้จ้าวหลานหันกลับมาจะก้าวออกจากอ่างทันทีที่เห็นบุคคลตรงหน้าก่อนกรีดออกมาแล้วนั่งลงในอ่างตามเดิม สองมือปิดบังทรวงอกที่เพิ่งเป็นอาหารตาคนตัวสูง เข่าสองข้างชันขึ้น แม้มีกลีบดอกไม้ลอยอยู่ แต่จ้าวหลานก็อายอยู่ดี ก่อจะตวาดเขาออกไป"หยางหมิงเช่อท่านทำอะไร เข้ามาได้อย่างไร อี้จูเล่า"หยางหมิงเช่อเดินเข้ามาหาจ้าวหลานที่อยู่ในอ่างน้ำก่อนจะเท้าขอบอ่างจ้องมองคนตัวเล็กแล้วยิ้มมุมปาก สายตาที่มองมาที่นางเหมือนหมาป่าที่เห็นเหยื่ออันโอชะตรงหน้าหยางหมิงเชื่อค่อยเก็บกลีบดอกเหมยกุ้ยทิ้งข้างถังทีละน้อยอย่างใจเย็น จ้าวหลานจับมือหนาของเขาก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนวอน"หนางหมิงเช่อข้าหนาวแล้ว ท่านให้ข้าแต่งตัวก่อนเถอะนะ ข้าเหมือนจะมีไข้แล้วด้วย "กึกๆๆเสียงฟันกระทบกันปากเริ่มเขียวแล้ว แต่หนาวหมิงเช่อยังอ้อยอิ่งเกาะขอบอ่างเล่น นิ้วเรียวเคาะเป็นจังหวะ สบตาดวงตาสุกใสคู่งาม"พูดจาอันใดกันฮูหยิน เรียกชื่อสามีตรงๆใช้ได้ที่ไหนหื้ม""ท ท่านพี่ ข้าหนาวแล้ว เหมือนจะไม่สบ
แผ่นหลังนวลเนียนน่าประทับตราทั่วทั้งตัว เอวคอดกิ่วที่เพียงมือเดียวของเขาก็รวบหมด สะโพกกลมกลึง บั้นท้ายงอนงามจนมาถึงท่อนขาที่น่าลูบไล้จ้าวหลานหันกลับมาจะก้าวออกจากอ่างทันทีที่เห็นบุคคลตรงหน้าก่อนกรีดออกมาแล้วนั่งลงในอ่างตามเดิม สองมือปิดบังทรวงอกที่เพิ่งเป็นอาหารตาคนตัวสูง เข่าสองข้างชันขึ้น แม้มีกลีบดอกไม้ลอยอยู่ แต่จ้าวหลานก็อายอยู่ดี ก่อจะตวาดเขาออกไป"หยางหมิงเช่อท่านทำอะไร เข้ามาได้อย่างไร อี้จูเล่า"หยางหมิงเช่อเดินเข้ามาหาจ้าวหลานที่อยู่ในอ่างน้ำก่อนจะเท้าขอบอ่างจ้องมองคนตัวเล็กแล้วยิ้มมุมปาก สายตาที่มองมาที่นางเหมือนหมาป่าที่เห็นเหยื่ออันโอชะตรงหน้าหยางหมิงเชื่อค่อยเก็บกลีบดอกเหมยกุ้ยทิ้งข้างถังทีละน้อยอย่างใจเย็น จ้าวหลานจับมือหนาของเขาก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ้อนวอน"หนางหมิงเช่อข้าหนาวแล้ว ท่านให้ข้าแต่งตัวก่อนเถอะนะ ข้าเหมือนจะมีไข้แล้วด้วย "กึกๆๆเสียงฟันกระทบกันปากเริ่มเขียวแล้ว แต่หนาวหมิงเช่อยังอ้อยอิ่งเกาะขอบอ่างเล่น นิ้วเรียวเคาะเป็นจังหวะ สบตาดวงตาสุกใสคู่งาม"พูดจาอันใดกันฮูหยิน เรียกชื่อสามีตรงๆใช้ได้ที่ไหนหื้ม""ท ท่านพี่ ข้าหนาวแล้ว เหมือนจะไม่สบ
หยางหมิงเช่อจับนางพลิกคว่ำ รั้งสะโพกเล็กเข้าหาตนเอง สอดแก่นเนื้อเข้าไปยังกลีบสาวจากทางด้านหลัง จ้าวหลานถึงกับกัดปาก นางสุขสมทันทีที่เขาสอดใส่ หยางหมิงเช่อเคี่ยวกรำนางจนถึงย่ำรุ่ง จึงฟุบอยู่กับทรวงอกคู่งามแก่นกายถูกเขาถอดถอนออกมาหลังจากที่สุขสมปลดปล่อยไปถึงห้าครั้ง เขาจับคางมนให้สบตาเขาก่อนจะเอ่ย"ข้าเปลี่ยนใจแล้ว เจ้าเย้ายวนเพียงนี้หย่าเจ้าไปข้าเสียดายแย่ จ้าวหลานข้าจะมาหาเจ้าอีกเรื่องหย่าเจ้าเลิกคิดได้เลย ส่วนพี่สาวเจ้าหากอยากเป็นอนุอุ่นเตียงข้าก็ไม่เป็นไร ได้ทั้งพี่ทั้งน้องข้านับว่าไม่ขาดทุน""หยางหมิงเช่อ ข้าเกลียดเจ้า ไสหัวไป"หยางหมิงเช่อลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าก่อนจะเดินออกจากห้อง ให้ตายสินางเร่าร้อนนักเวลาที่เขาครอบครองนางอยู่ด้านบน ทั้งนุ่มทั้งหอมหวาน หย่ากับนางหรือไม่มีทาง จากนั้นก็เดินกลับเรือนหลัก อี้จูที่เข้ามาเห็นสภาพเจ้านายตนเองก็ได้แต่ร้องไห้สงสาร ทั้งงตัวมีแต่รอยขบเม้มดูดกัด เหตใดใต้เท้าใจร้ายนัก จ้าวหลานนอนร้อไห้จนถึงบ่าย จึงสลบไปเพราะพิษไข้เนื่องจากแช่น้ำนานและถูกคนตัวโตเคี่ยวกรำทั้งคืนยามเซินจ้าวหลานตื่นขึ้นมาก่อนจะเรียกหาอี้จู แต่กลับเป็นจางลี่อินที่เข้ามาแทน ทันทีที่เ
หลี่เสี่ยวหรูนั่งมองทอดอาลัยกับชีวิต เห็นสาวใช้ของตนก็ยิ้มให้ เด็กคนนี้ถูกส่งมาที่นี่ เดิมทีเจ้าของร่างเดิมมาจากหุบเขายาเพียงตัวคนเดียว จวนหวงจึงส่งเด็กรับใช้มาให้หลังจากที่ส่งมาหลายคนก็มีเพียงเด็กคนนี้ที่ยอมอยู่กับนางจงรักภักดีเสมอมาหากออกไปได้หลี่เสี่ยวหรูจะเอานางไปด้วย"เสี่ยวหงที่นี่มีทางออกอื่นอีกไหมนอกจากประตูหน้า""ฮูหยินน้อยต้องการไปที่ใดหรือเจ้าคะ""เสี่ยวหงส์เจ้าไก่โต้งตัวนั้นคือเจ้าบ่าวของข้าใช่หรือไม่"เสี่ยวหงมองไปยังไก่ตัวผู้ที่เดินจิกหนอนอยู่บริเวณลานก็ได้แต่ถอนหายใจ ฮูหยินน้อยมาจากหุบเขายาวเพียงตัวคนเดียววันแต่งงานพระราชครูกลับไม่เข้าพิธีส่งไก่ตัวผู้มาหนึ่งตัว สร้างความขบขันให้คนทั้งเมือง ใครๆก็รู้ว่าถ้าราชครูมีใจให้ท่านหญิงเซียงเซียงทั้งคู่เป็นคู่รักกันแต่กลับมีเด็กบ้านป่าคนหนึ่งมาแทรกแซงพวกเขาจากนั้นเสี่ยวหงจึงเอ่ยตอบ นายของตน"ฮูหยินน้อยเรื่องมันผ่านมาปีหนึ่งแล้วเมื่อวานใต้เท้าก็พาฮูหยินน้อยมาส่งที่นี่ด้วยตนเองลองคุยลองทำอาหารหรือไปหาใต้เท้าบ่อยๆสิเจ้าคะเผื่อว่าใต้เท้าจะเห็นความดีที่ฮูหยินน้อยตั้งใจทำให้""ช่างเถอะๆ ใครอยากประจบประแจงเขากันปล่อยเขาไปอยู่กับท่านหญิงเ