แชร์

มาขอรับโทษ

หลี่เสี่ยวหรูไม่สนใจบ่าวในจวนหรือสายตาขุนนางที่เพิ่งมาถึงเพื่อเข้าร่วมถกหัวข้อการสอบปีนี้นางตรงไปเรือนโย่วหลันเมื่อถึงหน้าเรือนก็จับชายกระโปรงยกขึ้น  นั่งคุกเข่าบนก้อนกรวด  แม้จะเจ็บแต่ก็อดทน  ท่ามกลางแดดที่เริ่มร้อนเหงื่อซึมใบหน้า  

ภายในห้องไท่ฮูหยินที่เพิ่งสวดมนต์เสร็จกำลังนั่งจิบชาอยู่  หวงหมัวมัวมารายงาน

"ไท่ฮูหยิน  ฮูหยินน้อยนั่งคุกเข่าอยู่หน้าเรือนครึ่งชั่วยามแล้วเจ้าค่ะ"

"หืมเด็กคนนั้นหรือ  นางมีเรื่องอะไรไปถามสิ"

คนสนิทรับคำก่อนจะเดินออกมาหานายบ่าวที่นั่งคุกเข่าอยู่  หวงจื่อหวนเพิ่งเดินมาถึง  นางทำอะไรอีกนั่นจากนั้นก็ได้ยินเสียงหวงหมัวมัวเอ่ยถาม

"ฮูหยินน้อย  ไท่ฮูหยินให้มาถามว่าท่านมีเรื่องอันใดจึงมาคุกเข่าเช่นนี้"

"หวงหมัวมัว  ข้ามาขอรับโทษน่ะ"

"รับโทษอันใดกันเจ้าคะ"

"หลานสะใภ้มีความผิดแต่งงานมาหนึ่งปีกับอีกสองเดือน    บกพร่องในหน้าที่มิสามารถดูแลจวนได้  ต้องลำบากท่านหญิงเซียงเซียงมาคอยจัดการงานเล็กใหญ่ในเรือน    หลานสะใภ้รู้ดีว่าจวนหวงกำลังลำบาก  เงินเดือนข้าเองก็มิกล้ารับ  ในเมื่อโจวหมัวมัวบอกว่าไม่สามารถจ่ายได้หลานสะใภ้เองก็จำยอม  ในจวนมีหลายปากท้องหลานสะใภ้ไม่อาจใจดำดูคนเหล่านั้นลำบากไปด้วย  ยอมกินผักดองกับน้ำข้าวทุกมื้อ  ไท่ฮูหยินหลานสะใภ้มีความผิดใหญ่หลวงนัก  มิอาจสืบทายาท  มิอาจจัดการจวน  ขอไท่ฮูหยินลงโทษหากถูกปลดภรรยาหลี่เสี่ยวหรูคนนี้ขอน้อมรับทุกอย่างเจ้าค่ะ

หลี่เสี่ยวหรูเอ่ยไม่ดังไม่เบาทุกถ้อยคำล้วนหนักแน่นไม่ตีไข่ใส่สีแต่เป็นคำพูดของคนที่รู้สึกผิดจริง  หวงจื่อหานกำมือแน่น  หนังสือหย่าก็กล้าเขียน  แช่งเขาให้ตายก็ทำมาแล้ว  วันนี้ยังกล้าขอให้ท่านย่าของเขาลงโทษนางโดยการให้เขาปลดนางอีกหรือ  ผู้หญิงน่าตายคนนี้อยากไปจากข้าหรือ  อย่าฝันเลย

ประตูเรือนเปิดออกมา  หญิงชราอายุหกสิบผมขาวทั้งศีรษะแต่ว่าใบหน้ายังคงงดงาม  ท่วงท่าที่ก้าวเดินสง่ายิ่งนัก  นางคือไท่ฮูหยินท่านย่าของหวงจื่อหาน

  หญิงชรามองร่างบางที่นั่งคุกเข่าอยู่ก่อนจะมองหน้าหลานชาย  เลยไปยังอ้ายเซียงเซียงที่ยืนอยู่  มือเกาะชายเสื้อหลานชายนาง  หวงจื่อหานปัดมืออ้ายเซียงเซียงออกมาประคองท่านย่าของเขาทันที  จากนั้นไท่ฮูหยินก็เอ่ยวาจา

"หวงหมัวมัว  พยุงฮูหยินน้อยลุกขึ้นมาเถอะเจ้าไม่มีความผิดอันใด    ข้าไม่อยู่เสียหลายเดือนจวนหวงกลายเป็นจวนอ๋องไปแล้วหรือ"

"ไท่ฮูหยินมิใช่อย่างนั้นนะเจ้าคะ  คือว่าข้า...."

อ้ายเซียงเซียงไม่กล้ากล่าวต่อ  แม้บิดาเป็นอ๋องแต่ฮ่องเต้เองยังไว้หน้าไท่ฮูหยิน  นางเป็นฮูหยินเก้ามิ่งเชียวนะ  หลี่เสี่ยวหรูถูกหวงหมัวมัวพยุงขึ้นมา  ขาเป็นเหน็บจึงลุกไม่ไหว  เกาะแขนหญิงชราเซเล็กน้อย

"ขอบคุณหวงหมัวมัว  ทำให้ท่านลำบากแล้วขออภัยด้วย"

"ฮูหยินน้อยอย่าได้เกรงใจ  เป็นเพราะท่านคุกเข่านานเกินไป  เหตุใดใบหน้าท่านบวมแดงเช่นนี้กันเจ้าคะ"

"ข้า  ข้าแค่เดินไม่ระวังถูกกิ้งไม้ดีดเอานะ  ขอบคุณไท่ฮูหยินที่เมตตาหลานสะใภ้ไร้ความสามารถคนนี้เจ้าค่ะ"

"หลานสะใภ้ของข้า  หึ  ดีจริงๆในจวนนี้มีคนกล้าลงมือกับฮูหยินน้อยด้วยหรือเป็นใครกัน  ไหนเมื่อกี้เจ้าบอกว่าจวนหวงกำลังลำบากหรือ"

"เอ่อ  เจ้าค่ะโจวหมัวมัวบอกว่ามิอาจจ่ายเงินเดือนหลานสะใภ้ได้  เพราะมีหลายปากท้องต้องเลี้ยวดู  ขอให้หลานสะใภ้เห็นใจบ่าวไพร่  อาหารก็ต้องประหยัดแต่ว่านี่เป็นน้ำใจจากหลาน  ไท่ฮูหยินกำลังจะกลับมา  ท่านพี่จึงยอมเจียดเงินให้มาสองตำลึงเพื่อทำอาหารดีๆให้ท่านสักมื้อเจ้าค่ะ  เสี่ยวหง"

เมื่อเจ้านายเรียกเสี่ยวหงส่งตะกร้าให้สาวใช้คนสนิท  เมื่อเปิดดูก็พบเป็ดย่างแร่เป็นชิ้นสวยงามน่ากิน   มีไก่ตุ๋นน้ำแดงส่งกลิ่นหอม  โจ๊กที่เคี่ยวจนเนื้อเนียนละเอียด  ขนมสีสันน่ากิน  ไท่ฮูหยินจึงเอ่ยถาม

"ขนมนี่เจ้าทำเองหรือ"

"เจ้าค่ะ  แต่วัตถุดิบจำกัด  ครั้งหน้าหลานสะใภ้จะทำให้ดีกว่านี้ถ้ายังมีโอกาสเจ้าค่ะ

"ยังมีโอกาสอันใด  เจ้าแต่งเข้ามาก็คือคนสกุลหวง  อีกอย่าที่เจ้ากล่าวมาถ้าเช่นนั้นแปลว่าเจ้าไม่ได้รับเงินตำลึงเลยตั้งแต่แต่งเข้ามาหรือ"

"เรียนไท่ฮูหยิน  คนอื่นยังอดมื้ออิ่มมื้อ  หลานจะเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้เช่นนั้นได้เช่นไรเจ้าคะ"

"อืม  ดูจากเสื้อผ้าที่เจ้าสวมใส่ข้าเชื่อแล้ว  หานเอ๋อร์เจ้าดูแลเมียได้บกพร่องนัก  อีกครึ่งเดือนย่าจะตามเสด็จไทเฮาไปไหว้พระ  ถ้าเจ้าดูแลนางไม่ได้ก็ให้ไปกับย่าเถอะ  ส่วนท่านหญิงเรื่องของจวนหวงมิจำเป็นให้เจ้าสอดมือคนของข้ามีมากพอ   พ่อบ้านไปตรวจสอบว่าเงินเดือนฮูหยินน้อยได้เบิกหรือไม่  แล้วใครรับเงินก้อนนั้นแทนนาง"

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status