แชร์

ฮูหยิน แค่ภรรยา
ฮูหยิน แค่ภรรยา
ผู้แต่ง: moonlight -mini

บทที่1 /1

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 11:18:33

บทนำ

‘ในขณะที่กำลังจมดิ่ง เจ้าอาจต้องชนหลายสิ่งกว่าจะถึงก้นเหว’

คงมิต่างสิ่งใดกับชีวิตของข้าในเวลานี้ แม้จะได้แต่งเข้าจวนเป็นถึง ฮูหยินเอก แต่เขานั่นหาได้รักนางไม่ ตัวนางเองก็เช่นกัน

‘ข้าไม่ได้รักเขา’

ไม่เคยเคยคิดจะรักบุรุษเย็นชาเช่นนั้น เผยอิงหลอกหัวใจของตนเองซ้ำๆ ทุกคืนวัน ว่าตัวนางนั้นไม่เคยรักสามีที่แต่งงานด้วยสักครา ในใจนางไม่เคยมีเขาเหมือนที่ภายในใจเขาไม่เคยมีนาง

เขาเพียงต้องการยึดครองทรัพย์สินของบิดานางโดยใช้นางเป็นสะพาน ส่วนนางต้องการให้เขาคุ้มครองบิดาของนาง

การแต่งงานครั้งนี้ล้วน ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์

หากแต่งกันด้วยความรักใคร่คงจะดีกว่านี้ เผยอิงอยากเห็นสามีของนางแย้มยิ้มสักครั้ง เหมือนที่เขายิ้มให้สตรีผู้นั้น แสร้งว่ามีความสุขที่มีนางเป็นบ่วงห้อยคอเอาไว้สักหนนางคงพอจะมีชีวิตอยู่ภายในจวนแห่งนี้ต่อไปได้ ไม่ใช่หายใจเข้าหายใจออกก็มีเพียงเหมืองทองของบิดานาง

‘ที่ใจของท่านไม่เคยมีข้า เพราะท่านมีเพียงนางสินะ’

เผยอิงนั่งพิงเสาของศาลาริมสระบัว ที่แห่งเดียวที่นางสามารถสงบใจได้ หยาดน้ำตาที่ข้างแก้มที่กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งเมื่อกระทบกับความหนาวเย็นของเหมันตฤดู

‘อยู่มิสู้ตาย’

แต่หากนางตายไปแล้วบิดากับมารดาจะเป็นเช่นไร นางจึงจำต้องอยู่ต่อไป แม้ว่าจวนแห่งนี้จะทำนางทุกข์เจียนตาย สตรีเมื่อแต่งเข้าจวนมาแล้วก็เป็น

'แค่ภรรยา’

บทที่1/1

ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต นัยน์ตาดำขลับริมฝีปากแดงราวกับผลผิงกัว สตรีที่ยืนอยู่ใต้แสงอาทิตย์ในยามเว่ย นางราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดจากปลายพู่กันของจิตรกรดัง แม้ในยามเว่ย (คือ 13.00 - 14.59 น.) แดดแรงร้อนแรงจนมีเหงื่อซึมที่ข้างขมับ แต่ถึงกระนั้นนางยังดูงดงามจนไม่อาจละสายตาได้ไม่ว่ามองมุมใดก็หาที่ติมิได้

“คุณหนูเข้าด้านในก่อนเถิดเจ้าค่ะ ฮูหยินก็เข้าไปนั่งที่โต๊ะหินใต้ร่มไม้แล้ว” เสียงแม่บ้านที่ดังมาจากด้านหลัง คะยั้นคะยอให้คุณหนูคนเดียวของตนเข้าไปหลบแดดด้านในจวน

“ไม่ล่ะ อีกไม่ช้าขบวนรถม้าก็มาแล้ว” เผยอิงส่ายหน้า ดวงตายังคงจับจ้องไปที่มุมถนน นางยืนอยู่หน้าจวนของสกุลเผยเฝ้ารอการกลับมาของบุรุษที่นางรักและเทิดทูน นางอยากมั่นใจว่าท่านพ่อจะเห็นนางเป็นคนแรกทุกครั้งที่ท่านออกไปกับขบวนสินค้า ไม่ว่าจะกี่วันกี่เดือน เมื่อกลับมาท่านจะได้รู้ว่ามีนางแล้วมารดารอท่านอยู่ตรงนี้เสมอ

"ท่านพ่อ"

ร่างบางวิ่งออกมาชะเง้อคอรออยู่หน้าจวนตั้งแต่เช้า เมื่อทราบข่าวว่าขบวนรถม้าของบิดาใกล้มาถึงแล้ว เมื่อเห็นชายชราขวบม้าเข้ามาใกล้นางจึงส่งเสียงร้องเรียกด้วยความดีใจ ครานี้บิดาเดินทางไปเมืองหลวงนานมากจริง ทุกครั้งท่านไปเพียงเดือนเดียวก็รีบเดินทางกลับมา แต่หนนี้ไปนานถึงสามเดือน นางหวั่นใจไม่น้อยกลัวบิดาจะกลับมาไม่ทันวันสำคัญ

"ข้านึกว่าท่านจะกลับมาไม่ทันเสียแล้ว" นางโผเข้าหาทันทีเมื่อชายชรากระโดดลงจากหลังม้า กอดแขนบิดาแน่นเอียงคอมองใบหน้าของชายชราด้วยท่าทางน่ารัก จนชายชราอดไม่ได้ที่จะหลุดยิ้มออกมา

"จะกลับช้ากว่านี้ได้อย่างไร ในเมื่อพรุ่งนี้คือวันเกิดอายุครบ ๑๘ ปีของเจ้า อิงอิง ลูกรัก" เผยเหิงกระชับอ้อมกอดก้มลงจุมพิตกระหม่อมบาง ก่อนจะผละออกหันไปหาสตรีวัยกลางคนที่ส่งยิ้มบางอยู่ไม่ไกล แม้อายุจะเข้าเลขสี่แล้วยังคงสวยตราตรึงใจเขาทุกครั้งยามมองนาง ฝ่ามือเหี่ยวย่นเอื้อมไปหาสตรีคู่ชีวิต นางวางมือบนฝ่ามือของเขาอย่างไม่อิดออด

"เข้าไปพักผ่อนกันดีกว่าเจ้าคะ เดินทางมาเหนื่อยๆ " เผยฮูหยินเดินตามแรงจูงของสามีกลับเข้าจวน ไม่ลืมหันไปสั่งบ่าวรับใช้ให้เตรียมที่พักให้สำหรับแขกคนอื่นๆ ที่ร่วมเดินทางมาด้วย แม้จะไม่ได้ต้อนรับกล่าวทักทายตามมารยาทเพราะทุกคนเดินทางไกลมาเหนื่อยๆ ควรได้พักผ่อน อย่างไรพรุ่งนี้ก็ได้เจอกันในงานเลี้ยงวันเกิดของบุตรสาวของนางอยู่แล้ว

"สวยมากเลยเจ้าค่ะ" เผยอิงครางเสียงหวาน เมื่อมองสิ่งที่บิดายื่นมาเบื้องหน้า "แต่...ข้าว่ามันแพงเกินไปนะคะ" เธอทำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ

"เหลวไหลน่าเแพงเพิงอะไรกัน หยกชิ้นเท่าขี้ตา" เผยเหิงพูดเสียงเรียบก่อนจะก้าวประชิดร่างระหงเอื้อมสร้อยคอประดับด้วยหยกสีม่วงหายากแกะสลักเป็นรูปปลา หยกชิ้นนี้หรือจะมีค่าเทียบเท่ากับอิงอิงของเขาเทียบไม่ได้เลย เขาอยากสั่งให้คนทำเครื่องประดับทองชุดใหญ่ให้นางเป็นของขวัญเสียด้วยซ้ำไปแต่เกรงว่านางจะไม่ยอมรับมัน เขาจำต้องยอมลดหักห้ามความเอาแต่ใจของตนลงแต่ถืงกระนั้นนางยังบอกว่าแพงเกินไปอีกเหรอ บุตรสาวคนเดียวของเจ้าของเมืองทองอันดับสองของแคว้นกลับไม่ชอบเครื่องประดับหรูหรา นางปักเพียงปิ่นหยกขาวมันแพะหุ้มด้วยเศษทองชิ้นเล็กเท่านั้น

"ข้าว่ามันก็ยังแพงอยู่ดี" มือขาวผ่องลูบคลำจี้หยกกลางหน้าอก แม้นางจะไม่ได้ประโคมสวมเครื่องประดับเช่นคุณหนูบ้านอื่นไม้ แต่นางก็พอจะดูออกว่าหยกชิ้นนี้ต้องแพงมากๆ เพราะสีของมันแปลกตาเหลือเกิน คงหายากไม่น้อย มันล้ำค่าเกินไปสำหรับเธอ ถึงบิดาจะบอกว่าเม็ดเท่าขี้ตา แต่ขี้ตาที่ท่านว่าน่าจะขี้ตาช้างเพาะขนาดของมันใหญ่พอๆ กับนิ้วโป้งของเธอเลย

"ข้าก็ไม่รู้ว่าจะใส่เนื่องในโอกาสไหนได้ละเจ้าค่ะ" นางไม่เคยได้ไปที่ไหนไกลจากเมืองชิงหลง อาจมีได้เปิดหูเปิดตาบ้างตาตามบิดาขึ้นหุบเขาเพื่อไปดูการขุดทองที่เหมืองชิงหลง

"ใส่อยู่ในเรือน ใส่อยู่ในจวน ใส่ยามออกมาเดินเล่นในสวน ข้าไม่เข้าใจเจ้าเลยว่าทำไม่ถึงไม่สนใจเครื่องประดับเช่นสตรีคนอื่นๆ ดูอย่างมารดาเจ้าสิ" ชายชราหันไปพยักพเยิดใส่ภรรยาของตน นางใส่เครื่องประดับสีทองออร่ามตาสมกับเป็นฮูหยินของเจ้าของเหมืองทอง "ข้าอุตส่าห์บากหน้าขอซื้อหยกชิ้นนี้มาให้เจ้า ชิ้นส่วนเพียงเล็กจากหยกแดงก้อนใหญ่แต่ถึงกระนั้นมันกลับมีราคามากกว่าหยกแดงก้อนนั้นเสียอีก" ชายชราตัดพ้อ ไม่ว่าเขาจะซื้ออะไรให้นาง เผยอิงก็ไม่เคยเอามาใส่เลย คราวนี้เขาตั้งใจเลือกชิ้นเล็กที่สุดแต่ล้ำค่ามากกว่าชิ้นไหน แต่นางก็ยังมองว่าเกินตัวอีกแล้ว

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่1/2

    บทที่1/2"โธ่ ท่านพ่อ ข้าไม่ได้บอกว่าจะไม่ใส่นะเจ้าคะ ข้าจะใส่มันติดตัวเอาไว้ตลอดเวลาเลยค่ะ แต่ไม่เอาเพิ่มแล้วนะเจ้าคะ ที่ท่านพ่อซื้อให้ก็มากมายแล้วเจ้าค่ะ""มายมากแต่ไม่เคยเห็นจะใส่"เผยเหิงถอนหายใจ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ใหญ่กลางห้อง"แค่ท่านพ่อเอ็นดูข้า รักข้า เมตตาส่งเสียเลี้ยงดูข้าเปรียบเสมือนลูกแท้ๆ ข้าก็ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรหมดแล้วเจ้าค่ะ" เผยเหิงไม่ใช่บิดาแท้ๆ ของนาง เขาแต่งงานกับมารดาของนางตอนนางอายุเพียง เจ็ดปีแต่หลังจากนั้นก็รับนางเป็นลูกบุญธรรมและดูแลนางไม่ต่างจากบุตรสาวแท้ๆ ของตนเองมาจนถึงทุกวันนี้เผยเหิงตบบุบๆ ที่ตักแกร่ง ร่างบางเดินไปนั่งอย่างไม่อิดออด ตั้งแต่จำความได้นางก็นั่งบนหน้าขาแกร่งนี้เสมอมาฝ่ามือใหญ่ที่คอยประคองแผ่นหลังนางเอาไว้ไม่ให้ผลัดตกลงไปตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อพบกันจนทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นเช่นเดิมมือหนาเอื้อมมาลูบศีรษะทุย"อิงอิง จำไว้ต่อให้ใครจะพูดอย่างไร เจ้าก็คือบุตรสาวคนเดียวของข้า ไม่ว่าใครก็มาเปลี่ยนมันไม่ได้""เจ้าค่ะ" เผยอิงหันไปยิ้มแป้น มองดูชายชราอย่างรักใคร่บูชา ไม่ต้องหาพระมาบูชาหรอก นางบูชาพระในบ้านที่ชื่อว่าเผยเหิง"ตามใจท่านพ่อเจ้าหน่อยเถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่2

    บทที่2เมื่อร่างสตรีผู้เป็นเจ้าของงานในวันนี้เดินเข้ามา บุรษหนุ่มรูปงานรีบสาวเท้ายาวเข้ามาประชิดตัวนางทันที อาหารมื้อเย็นเมื่อคืนเขาไม่มีโอกาสได้คุยกับนางเลย พอรับประทานอาหารเสร็จผู้ใหญ่ต่างพากันแยกย้ายกลับเรือนเพื่อผักผ่อนเนื่องจากเพิ่งเดินทางมาไกล“อิงอิง” กู้เฉิงกงโปรยยิ้มเมื่อเดินมาหยุดยังเบื้องหน้าของสตรีที่เขาปรารถนา ไม่สนใจสายตาใคร่รู้ของผู้ใด เขาไม่อาจบิดบังความรู้สึกที่มีต่อนางได้อีกต่อไปแล้ว หากนานกว่านี้ทุกอย่างอาจสายจนเกินแก้ไข ฝ่ามือหนาผายออกไปเบื้องหน้าหมายให้นางวางมือบางวางลงทาบทับ ก่อนจะพาเจ้าของงานเดินเข้าไปหากลุ่มของบิดามารดาของนาง“ท่านพี่เฉิงกง” เผยอิงส่งยิ้มหวานตอบ บุรุษรูปโฉมงดงามผู้นี้งเป็นเพียงบุรุษเดียวที่นางเอ่ยเรียกด้วยท่าทีสนิทสมมกว่าผู้ใด ก็นะในบรรดาบุรุษทั้งหมดมีเพียงกู้เฉิงกงที่บิดาของนางไว้ใจให้เข้าใกล้นางมากที่สุดแล้ว“เผยฮูหยิน ท่านช่างโชดดีเหลือเกินที่บุตรสาวของท่านงดงามราวดอกกุหลาบงาม อีกทั้งยังเรียบร้อยสมกับเป็นกุลสตรีชั้นสูง ผิดกับสื่อเหนียงของข้า อายุอ่อนกว่าเผยออิงเพียงไม่กี่ปีเท่านั้นแต่ก็ยังมิรู้ความกระโดกกระเดกเหลือทนข้าล่ะเหนือยใจ” ประโยคราว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่3

    บทที่3บุตรชายบุญธรรมของท่านพ่อ เผยอิงตาโต บิดานางมีลูกชายอย่างนั้นหรือ“ทำสีหน้าเช่นนี้ เจ้าคงจะไม่รู้จริงๆ บุตรชายของท่านเผยเหิง ไม่สิบุตรชายบุญธรรมเรียกเช่นนั้นถึงจะถูก เฉินเฟยอวี่ คือหลานของท่านแม่ทัพใหญ่ บิดาของเขาเสียชีวิตในสนามรบ อดีตแม่ทัพเองครักษ์อี้เป็นเพื่อนร่วมรบกับท่านเผย หลังจากสหายเสียชีวิต พอกลับมาจากสนามรบท่านก็รับเฉินเฟยอวี่เป็นบุตรบุญธรรม”“ข้า…ไม่เคยรู้มาก่อน ท่านพ่อไม่เคยเล่า” นางรู้แค่สิ่งที่บิดาต้องการให้รู้เท่านั้นและตัวนางและมารดาก็ไม่เคยอยากรู้เรื่องที่ไม่จำเป็น แล้วเรื่องเช่นนี้จำเป็นแล้วหรือยัง หากท่านพ่อมบุตรสืบสกุลเหตุใดไม่บอกนางกับมารดา เป็นเรื่องน่ายินดีมิใช่หรือ มีความจำเป็นอะไรที่ท่านปิดบังพวกนาง“ถ้าเช่นนั้นเจ้าคงยังไม่รู้อีกสินะว่าท่านเผยต้องการให้เจ้าแต่งงานกับเฉินเฟยอวี่”“แต่งงาน!” จะเป็นไปได้อย่างไร ตลอดเวลาที่ผ่านมาบิดาของนางหวงนางเสียยิ่งกว่าสิ่งใด แม่สื่อบ้านใดมาสู่ขอหรือทาบทามท่านไล่แตกพ่ายยับเยินไปจนหมด จนไม่มีแม่สื่อคนใดกล้าส่งเทียบมายังจวนสกุลเผย“ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะไม่รู้ว่าตนเองต้องแต่งงานกับผู้ใด เจ้าเคยบอกข้าว่าต้องการแต่งกับบุรุษที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 4

    บทที่4เผยเหิงกำมัดแน่น เขาแทบอยากจะปิดจบงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ลงเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำถ้าหากไม่ติดว่าเป็นงานเลี้ยงวันเกิดของอิงอิง อย่างไรเขาก็ยังไม่อยากให้นางขายหน้าไปกว่านี้ ในเวลานี้หากไม่ติดผู้ฮูหยินกับสหายที่ยืนคุยกันอยู่เขาอยากจะเดินไปแยกหนุ่มสาวสองคนนั้นออกห่างกัน การที่จู่ ๆ อิงอิงของเขาหลุดเสียงดังออกมาขนาดนั้น ‘ข้าไม่แต่งกับเฉินเฟยอวี่’ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยเอ่ยเรื่องนี้กับนาง คงจะเพราะคนที่ยืนคุยกับนางและแสดงกิริยาเกินงามกับนางอยู่ตอนนี้เป็นคนเล่าให้ฟังเผยเหิงจะโทษบุตรชายของสหายทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะตัวเขาผิดเองก่อนกลับมาถึงจวนเขาและขบวนรถม้าแวะโรงเตี๊ยมข้างทาง ด้วยความเมามายและมีความสุขที่ในที่สุดบุตรสาวคนเดียวก็จะได้แต่งงานออกเรือนเสียที จึงหลุดปากบอกเรื่องการหมั้นหมายของอิงอิงกับเฉินเฟยอวี่ออกไป การหมั้นหมายนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่เป็นสัญญาใจที่เขาให้ไว้กับเฉินเฟยอวี่เมื่อนานมาแล้ว เป็นเหตุผลให้เขาขัดขวางแม่สื่อทุกคนที่เข้ามา เพราะหากต้องฝากชีวิตอิงอิงไว้กับบุรุษใดชั่วชีวิตเขาก็มองเห็นแค่เฉินเฟยอวี่เท่านั้น อย่างไรเขาก็เลี้ยงเด็กนั่นมากับมือ นิสัยใจคอเป็นเช่นไรเขาย่อมรู้ดีเผย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 5/1

    บทที่5/1จบงานเลี้ยงเพียงแค่ไม่กี่วันขบวนเจ้าสาวก็มาจอดรออยู่หน้าจวน ทั้ง ๆ ที่หากกว่าทางนั้นจะทราบข่าวว่านางตอบตกลงแต่งงานก็น่าจะอีกหลายวันต่อให้ใช้ม้าเร็วส่งข่าวไปแจ้งก็ไม่ต่ำกว่าสี่วัน แต่นี่ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวพร้อมแม่สื่อกลับเดินทางมาถึงหลังจบงานเลี้ยงวันเกิดของเผยอิงเพียงไม่กี่วันราวกับออกเดินทางมาก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งแม่สื่อนอกจากจะนำสินสอดเกือบสี่สิบคันรถมามอบให้บิดาของเจ้าสาวแล้ว ยังตัดชุดแต่งงานมาให้เรียบร้อย เผยอิงทำได้เพียงมองบ่าวรับใช้ในจวนขนหีบสินสอดเข้าจวนสกุลเผยแล้วข้าจะประวิงเวลาออกไปได้อย่างไรในเมื่อทุกอย่างถูกเตรียมการเอาไว้หมดแล้วเช่นนี้ เพิ่งรู้ว่าจะต้องแต่งงานกับบุรุษที่ไม่เคยเห็นหน้า เพิ่งจะได้ยินชื่อก็เมื่อสี่วันก่อนแต่ในเมื่อนางตัดสินใจที่จะแต่งงานครั้งนี้เพื่อช่วยบิดาแล้ว ไม่ว่าจะแต่งวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็คงไม่ต่างกัน ร่างบางหมุนตัวเดินกลับเรือนนอนของตน ยามเหม่า ( คือ 05.00 – 06.59 น.) แม่สื่อสองคนมาช่วยกันแต่งตัวเจ้าสาว เผยอิงต้องสวมชุดแดงมงคลที่เจ้าบ่าวมอบตั้งแต่เดินทางออกจากจวนของตนเองจนกระทั่งถึงจวนเจ้าบ่าว“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าจะกลับมาเยี่ยมท่านทั้งสองในเร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 5/2

    บทที่5/2เผยอิงถอนหายใจแล้วหายใจอีก นางคาดว่าขบวนเกี้ยวของตนคงถึงเมืองหลวงในเจ็ดวัน แต่นี่อะไรเอะอะจอดพัก นี่ก็ปาเข้าไปวันที่สิบแล้วเพิ่งจะมาถึงประตูเมืองหลวง ตกลงคนพวกนี้แท้จริงมีฤกษ์แต่งงานจริง ๆ หรือ“อย่าบอกนะว่าจะจอดพักอีกแล้ว” เผยอิงเปิดผ้าม่านออกไปถามแม่สื่อที่จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเกี้ยวของนางหยุดการเคลื่อนตัว“โธ่คุณหนูเจ้าคะ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้แต่ง ทันฤกษ์แน่นอน ข้าพาเจ้าสาวเดินทางแต่งงานข้ามเมืองมาไม่รู้กี่คนไม่มีผู้ใดไปไม่ทันฤกษ์งามยามดีสักคน” แม่สื่อยกผ้าเช็ดหน้าป้องปากหัวเราะคิกคักเผยอิงลอบเบ้ปากใครจะอยากแต่งกับบุรุษเสเพลเช่นนั้นก็แต่งไปเถอะ ข้าไม่อยาก แต่เพื่อผลประโยชน์ที่ตามมานางไม่มีทางเลือกอื่นขบวนเจ้าสาวเคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองหลวงได้พักใหญ่แล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงจวนเจ้าบ่าวเสียที“ท่านป้าอีกนานไหมเจ้าคะ” เจ้าสาวในเกี้ยวถามขึ้นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้“ถึงนานแล้วเจ้าค่ะ”“อ้าว ถึงแล้ว แล้วทำไมไม่หยุดเกี้ยว” จะวนรอบเมืองหลวงเลยหรือไง มือบางเปิดผ้าม่านออกมาดู นั่งรถม้ามาตลอดสิบกว่าวันแบบนี้นางก็เหนื่อยเหมือนกันนะ“คุณหนูผ้าคลุมหน้า” แม่สื่อเอ็ดเจ้าสาวที่ยกหน้าคลุมหน้าขึ้นใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 6/1

    บทที่6/1องค์หญิงเหมยเจียงรับน้ำชาจากลูกสะใภ้ด้วยสีหน้าแช่มชื่น นางรอคอยเวลานี้มายาวนาน วันที่เด็กคนนี้จะแต่งเข้าจวนสกุลเฉิน บุตรชายของนางจะได้มีสตรีคอยดูแลภายในจวน นางจะได้หมดห่วงเสียที“แม้จะมีผ้าคลุมเจ้าสาวอยู่ ข้าก็เดาว่าเจ้าต้องงดงามไม่ต่างจากเผยฮูหยินสมัยสาว ๆ แน่ ๆ สกุลเฉินขอต้อนรับ จากนี้ไปเจ้าเป็นคนของสกุลเฉิน ตายไปก็เป็นผีเฝ้าสกุลเฉิน ความในห้ามนำออก ไฟนอกห้ามนำเข้า เจ้าเข้าใจใช่หรือไม่อิงอิง” องค์หญิงเหมยเจียงกล่าวต้อนรับลูกสะใภ้ ทุกคำพูดแฝงไปด้วยความในมากมาย“ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ” แม่สื่อที่ยืนประกบข้างกระซิบข้างหูเสียงเบา “ข้าเข้าใจเจ้าค่ะท่านแม่” เผยอิงยอบตัวลงอย่างอ่อนช้อย จนองค์หญิงเหมยเจียงอดยกยิ้มที่จะเอ็นดูนางไม่ได้“พรุ่งนี้เจ้าไม่ได้ตื่นมายกน้ำชาข้า วันอื่น ๆ ก็ไม่ต้อง” สิ้นคำขององค์หญิงเหมยเจียง เจ้าสาวก็ถูกเหล่าแม่สื่อประคองออกจากพิธีไป เพราะจากนี้จะเป็นงานเลี้ยง ซึ่งเจ้าสาวมีหน้าที่เพียงไปรอที่เรือนหอเท่านั้น“ฮูหยินคงสงสัยว่าเหตุใดองค์หญิงเหมยเจียงถึงไม่ให้ท่านยกน้ำชา ท่านอย่าคิดว่าท่านไม่ได้รับการต้อนรับจากพระนางเลยนะเจ้าคะ เพียงแต่หลังจากมอบจวนให้ท่านชายแล้ว พระน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 6/2

    บทที่6/2“ท่านป้า ท่านออกไปพักผ่อนเถิดข้าอยู่คนเดียวได้” เผยอิงบอกอย่างเกรงใจ แม่สื่อก็เดินทางมากับนางมาถึงก็ต้องวิ่งวุ่นวายดูแลนางหลายอย่างไม่ได้พักเลย อย่างไรตอนนี้ทุกคนก็อยู่ที่งานเลี้ยงหมดแล้ว นางไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ ที่ต้องมานั่งเฝ้า“ตามธรรมเนียมแม่สื่อต้องนั่งรอจนเจ้าบ่าวเข้าหอจึงจะออกไปได้” เป็นป้าจงที่พูด“มิต้องรอทั้งคืนเลยหรือ”“ก็จนกว่าจะส่งแขกหมด คาดว่าอีกไม่เกินหนึ่งชั่วยามท่านชายก็คงจะเดินทางมายังเรือนกุ้ยฮวา เรือนแห่งนี้สวยหรือไม่เจ้าคะ”“อืม สวยใหญ่โตสมกับเป็นเรือนในจวนสกุลเฉิน” เผยอิงตอบด้วยน้ำเสียงกึ่งประชดประชัน “เจ้าค่ะ เพิ่งจะสร้างเสร็จปีก่อน ท่านชายสร้างเอาไว้รอฮูหยิน”“รอข้า”“เจ้าค่ะ แม้ก่อนหน้านี้ท่านจะสร้างเรือนเอาไว้หลายหลังแต่มีเพียงเรือนกุ้ยฮวาที่ท่านชายออกปากว่าจะให้คุณหนูเผยอิงมาอยู่ที่นี่”คนในจวนนี้คงจะพอรู้อยู่แล้วว่าข้าจะต้องแต่งเข้ามา แล้วเรือนหลังอื่น ๆ ที่เฉินเฟยอวี่สร้างเอาไว้ก่อนเรือนหลังนี้ เขาสร้างรอใครกัน“ทำไมท่านป้าจงเรียกเขาท่านชาย ไม่เรียกนายท่าน” “พระโอรสเพียงพระองค์เดียวขององค์หญิงเหมยเจียง ข้าเรียกขานยศต่ำกว่านี้มิได้เจ้าค่ะ”“ป้าจงเคยเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05

บทล่าสุด

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 18/2

    บทที่18/2"นั่น" เผยอิงตาเบิกกว้างเมื่อถูกอุ้มเข้ามายังเรือนหนังสือ นางไม่เคยเข้ามาที่แห่งนี้สักครั้ง เพราะมีเวรยามคอยคุ้มกันตลอด เรือนแห่งนี้เป็นสถานที่ต้องห้ามของทุกคนในจวนสกุลเฉินเฉินเฟยอวี่สาวเท้าเข้าไปภายใน วางร่างภรรยาของตนลงบนตั่งเขียนหนังสือ"ตกใจอะไรเสี่ยวอิง" เขาถามภรรยาเสียงกลั้วหัวเราะ"กะ ก็ นั่น มัน" ใช่ภาพที่ลู่หลันบอกว่าเป็นภาพของสตรีที่อยู่ในใจของเฉินเฟยอวี่ เด็กน้อยเกล้าจุกสองข้างแก้มแดงนัยน์ตากลมโตในภาพวาดนั่น มันเป็นข้าเองไม่ใช่หรือ แล้วยังภาพอื่น ๆ ที่เรียงรายอยู่จนเต็มผนังทุกด้าน ล้วนเป็นภาพของนางทั้งสิ้น"ภาพวาดของเจ้า" เขาต่อประโยคให้"มะ หมายความว่าอย่างไร ข้า.. งงไปหมดแล้ว"เฉินเฟยอวี่ปลดภาพวาดภาพหนึ่งลงจากผนังนำมันมาวางบนตั่งเขียนหนังสือที่ภรรยาของเขานั่งอยู่ "ข้าขอให้ท่านพ่อบุญธรรมให้คนวาดมาให้ ทุกครั้งที่ท่านมาเมืองหลวงจะต้องมีภาพเจ้ามาฝากข้าหนึ่งภาพ""ทำไม""ทำไมข้าถึงแขวนมันไว้เช่นนี้น่ะหรือ ท่านพ่อบุญธรรมเอามาอวดข้าว่าบุตรสาวของเขาเติบโตขึ้นอย่างงดงามมากเพียงไรในแต่ละปี และข้าก็รับมันไว้ด้วยความเต็มใจ""ข้านึกว่าท่านเกลียดเข้า""ข้าไม่เคยเกลียดเจ้า สัก

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 18/1

    บทที่18/1 จบบริบูรณ์เผยอิงมองสามีของนางที่ก้ม ๆ เงยหน้าขึ้นลงอย่างเก้ ๆ กัง ๆ จุ่มผ้าผืนเล็กลงในอ่างน้ำเย็น บิดผ้าจนผ้าเกือบแห้งสนิทแล้วนำมาเช็ดตามผิวกายของนางหลังจากกลับมาจากลานพิธีล่าสัตว์เฉินเฟยอวี่เขาก็ไม่เคยอยู่ห่างนางเลย คอยดูแลนางเช็ดเนื้อตัวที่ไหม้แดดอย่างไม่รังเกียจ จนตอนนี้ลู่หลันแทบไม่เคยเข้ามาในเรือนกุ้ยฮวานางเพิ่งรู้ว่าเขาเองก็บาดเจ็บที่หัวไหล่ จากคมดาบในการปราบกบฏที่พิธีล่าสัตว์ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังลงไปอุ้มนางขึ้นมาจากหน้าผานั่น"เฟยอวี่""ท่านพี่ เมื่อใดเจ้าจะเรียกข้าท่านพี่" เขาหันมาถามเสียงนุ่ม ตลอดสามวันที่นั่งเฝ้าข้างเตียงนาง เขารับรู้ได้ว่าสายตาที่นางมองเขาแปรเปลี่ยนไป แต่นางก็ยังคงสงวนท่าทีที่มีต่อเขาเอาไว้"ท่าน.. พี่" ใบหน้าขาวนวลขึ้นสี นางเขินอายไม่น้อยที่ต้องเรียกขานเขาเช่นนี้"ว่าอย่างไรฮูหยินรัก เจ้าต้องการสิ่งใด" เขาก้มลงมาถามเสียงนุ่มบีนเตียงขึ้นไปนอนเคียงข้างหน้าตาเฉย"แล้วท่านจะขึ้นมานอนทำไม" นางหันไปเอ็ด พวงแก้มนวลสุกปลั่ง"ข้าก็บาดเจ็บเจ้าลืมไปแล้วหรือ" เขารั้งเอวบางมากอดไว้หลวม ๆ เพราะเกรงจะกระทบขาของนางที่ด้ามไม้เอาไว้"ข้าอยากออกไปข้างนอก ได้ห

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 17/2

    บทที่17/2เผยอิงลืมตาขึ้นในความมืด ตอนที่อยู่ที่หน้าผานั่นนางไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดทางร่างกายแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เพียงกระดิกนิ้วก็รวดร้าวไปทั้งกาย"เอ๊ะ" เสียงหวานอุทานในความมืด ไม่ใช่แค่ขาที่หัก แก้วหูที่ฉีก แต่ร่างบางฟกช้ำไปทั้งตัว"รู้สึกอย่างไรบ้าง" เสียงทุ้มถามในความมืด เอื้อมมือหนาไปจุดตะเกียง เฉินเฟยอวี่นั่งเฝ้าภรรยาของตนตั้งแต่หมอหลวงทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้วกลับออกไป เขาไม่ได้จุดตะเกียงให้แสงสว่างภายในกระโจมนี้เพราะเกรงว่าจะรบกวนการพักผ่อนของนาง"อย่าเพิ่งลุกขึ้น" มือหนาจับหัวไหล่บางให้นอนลงที่เดิน เมื่อเห็นนางพยายามยกกายตนเองขึ้นจากเตียง "ยังเจ็บอยู่ไหม"เผยอิงพยักหน้าน้อย ๆ แต่เมื่อเห็นเขารินน้ำใส่จอกป้อนให้โดยโอบศีรษะของนางให้เผยอยกขึ้นเล็กน้อย นางจิบน้ำนั่นแต่โดยดี นางมองตามมือที่จับจอกนั้นเลื่อนไปจนถึงใบหน้าคมเข้ม แววตาที่เขามองนางช่างห่วงหาอาทร"น้ำอะไรเจ้าคะ" นางถามเสียงแหบพร่า"น้ำอ้อยผสมยาสงบใจ" เขาตอบเสียงนุ่มเหตุใดเขาถึงตอบนางเสียงนุ่มนวลเช่นนั้น เพราะนางบาดเจ็บสาหัสเจียนตายหรือเปล่าเขาถึงได้ดีกับนางเพียงนี้"เฉินเฟยอวี่"เขารีบวางจอกน้ำแล้วหันมาถามทันที"เป็นอะไร

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที 17/1

    บทที่17/1กู้เฉิงกง เดินวนไปเวียนมาอยู่พักใหญ่ สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเดินจากไป"พี่เฉิง.. กง" เผยอิงปรือตาขึ้นมองอีกครั้งก็ไร้ร่างของบุรุษที่นางเคยเชื่อใจ ในป่าลึกเช่นนี้ความหวังที่จะมีคนผ่านมาแทบจะริบหรี่ มือบางลูบคลำข้อเท้าเล็ก ๆ ของตนที่บูดบวม สภาพนางในตอนนี้ไม่คงไม่อาจบีนผานั่นขึ้นไปเองได้ และกู้เฉิงกงก็คงไม่บีนลงมาช่วยนางหรอก หากลงมาก็คงไม่ต่างอะไรกับการเอาชีวิตของตนลงมาทิ้ง เผยอิงไม่ได้ขุ่นเคืองใจแม้แต่น้อยที่เขาละทิ้งนางเอาไว้เช่นนี้ ชีวิตของเขาที่ท่องไปทั่วแคว้นพบปะผู้คนมากมายแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าที่นำไปใส่รถม้าไป นางเคยนึกอิจฉาชีวิตอิสระของกู้เฉิงกง รอคอยวันที่เขาจะมาเยือนสกุลเผย เพื่อจะได้ฟังว่าครานี้เขาไปที่ใดมาบ้าง เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้จึงไม่ผิดที่เขาจะเลือก ทิ้งภาระอย่างนางเสยในทันใดนั้นเองสายตาของเผยอิงก็เริ่มเลือนราง ร่างกายร้อนผ่าวราวกับกำลังจับไข้ ตอนนี้เสียงหวีดหวิวภายในหูเงียบไปแล้ว นางไม่ได้ยินเสียงใด ๆ นอกจากเสียงลมที่พัดขึ้นมาจากหุบเหวด้านล่างชีวิตคนก็เป็นเช่นนี้ในขณะที่กำลังจมดิ่ง เจ้าอาจต้องชนหลายสิ่งกว่าจะถึงก้นเหวใครว่าถ้ากระโดดลงหุบเหวแล้วจะสิ้น

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 16/2

    บทที่16/2"เดินไว ๆ หน่อย" กู้เฉิงกงฉุดกระชากแขนบางจนเป็นรอยแดง"ข้าเดินไม่ไหวแล้ว เรากำลังจะไปไหนกัน" เผยอิงถามอย่างกลัดกลุ้ม นางเดินมาทั้งคืนแล้ว"เข้าไปในป่าลึกอีกนิด ไม่ต้องห่วงอิงอิง เดินไปอีกไม่ไกล พ้นป่านี้ไปก็ถึงหมู่บ้านแล้ว" เขาตอบอย่างเอาใจเผยอิงพยักหน้ารับ ช่วงกลางดึกนางได้ยินเสียงคนต่อสู้กัน เมื่อตะโกนถามลู่หลันก็ไร้เสียงตอบกลับ นางกำลังจะลุกขึ้นไปดู กลับต้องตกใจจนหวีดร้องออกมาเมื่อถูกตะครุบจับตัวจากด้านหลัง กลุ่มชายในชุดดำจับตัวนางและพาตัวออกมาจากกระโจม นางพยายามต่อสู้ขัดขืนสุดกำลัง แต่สุดท้ายก็ถูกจับมัดมือมัดเท้า โชคดีที่กู้เฉิงกงมาช่วยนางเอาไว้และพานางวิ่งหนีเข้าป่ามานางและกู้เฉิงกงเดินเท้ามาทั้งคืน แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหลุดพ้นจากป่า ถึงกระนั้นก็ไม่อาจหยุดฝีเท้าลงได้เพราะเกรงว่าชายชุดดำกลุ่มนั้นจะตามมาทัน"พี่เฉิงกง ไม่ใช่ว่าเราเข้ามาลึกเกินไปหรือเจ้าคะ""ข้าว่า ข้าหลงทาง" กู้เฉิงกงตอบเสียงห้วนก็สารภาพตามจริง ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มอารมณ์ดีอยู่ตลอดบึ้งตึง เขารู้จากบิดาว่าคืนนี้อ๋องอวั๋นซีจะก่อกบฏบิดาของเขาก็เข้าร่วมด้วยสนับสนุนเงินทุนเล็กน้อย หากสำเร็จสกุลกู้จะได้ร้านค้

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 16/1

    บทที่16/1"นางจะหายไปได้อย่างไร" เฉินเฟยอวี่ตวาดลั่นทั้งตัวของเขาโชกไปด้วยเลือด หลังจากเก็บซากศพกบฏและรายงานฮ่องเต้เรียบร้อย เขาก็รีบกลับมาหาภรรยาที่กระโจม แต่เมื่อกลับมาเมื่อเดินเข้ามาใกล้ที่พัก ป้าจงและสาวใช้รีบวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหา ดวงใจเขาหายไปลู่หลันน้ำตานองอาบสองแก้ม นางเฝ้าฮูหยินไม่ห่าง ไม่ให้คลาดสายตาสักนิด อีกทั้งตอนที่นายท่านไม่อยู่ เมื่อคืนนางก็นอนเฝ้าหน้ากระโจมไม่ได้กลับไปนอนที่พักของตน แต่จนสายก็ยังไม่เห็นฮูหยินเรียกใช้ นางจึงตะโกนเรียกก็ไร้เสียงตอบกลับ ป้าจงที่เดินมาพอดี นางและป้าจงจึงขอเข้าไปด้านใน แต่เมื่อเข้าไปกลับไม่พบผู้ใดอยู่ข้างใน ด้านข้างกระโจมถูกกรีดเป็นแนวยาว ทหารที่เฝ้าอยู่รอบ ๆ ตายจนหมด ลู่หลันเล่าทั้งน้ำตา นางเล่าเสริมอีกว่าหลังจากทานอาหารเย็นก็ผล็อยหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้สึกตัวอีกทีตื่นมาก็เช้าแล้ว"ใคร! ใครมันบังอาจทำเยี่ยงนี้" เฉินเฟยอวี่ขบกล้ามแน่น "หาให้เจอ""พี่อวี่ใจเย็นก่อน ทำแผลก่อน คนที่พาตัวพี่สะใภ้ไปน่าจะยังไปไม่ไกล""พี่เฟยอวี่ หรือว่าท่านพี่อิงอิงจะหนีไปกับพี่ชายของข้า ข้าตื่นมาก็ไม่พบเขาเช่นกัน" นางรีบวิ่งมาเมื่อเห็นเฉินเฟยอวี่และคนของเขากลับ

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 15/2

    บทที่15/2"ทำไมเจ้าตามสามีเจ้าไปด้วยล่ะอิงอิง" กู้เฉิงกงที่เดินตามมาติด รีบถามก่อนที่นางจะเข้าไปในกระโจมพักผ่อน หากพ้นตรงนี้ไปเขาก็ไม่อาจตามนางเข้าไปได้อีก"ท่านก็รู้ว่าข้าชอบอ่านหนังสือมากกว่าถืออาวุธ" นางคิดว่าหลุดพ้นคนพวกนี้ได้แล้ว หลุดจากเฉินเฟยอวี่และกู้สือเหนียงได้ ก็ยังเหลือกู้เฉิงกง นางเป่าปากอย่างเบื่อหน่าย"นั่นสิ ข้ารู้ดีกว่าใครว่าเจ้าชอบสิ่งใดไม่ชอบสิ่งใด หากเป็นข้าที่แต่งกับเจ้า ป่านนี้เจ้ากับข้าคงมีความสุขไปแล้ว" เขาเอ่ยเสียงเศร้ายืนก้มหน้า"ข้าว่าข้าพูดเรื่องนี้กับท่านไปแล้ว แม้ในอดีตข้าจะเคยสนิทสนมกับท่าน นั่นก็เพราะท่านเป็นเพียงคนเดียวที่ข้าได้คุยด้วยโดยที่ท่านพ่อไม่ได้ห้าม แต่ตอนนี้ข้าแต่งงานแล้วข้าหวังว่าท่านจะทิ้งระยะห่างและไม่พูดเรื่องนี้อีก หากท่านหวังดีกับข้าด้วยใจจริงคงไม่อยากให้ผู้ใดมาได้ยินแล้วเอาข้าไปเอ่ยถึงเสีย ๆ หาย ๆ ใช่หรือไม่ท่านพี่เฉิงกง" เผยอิงหันขวับมา นางทนมามากพอแล้วกับการพูดจากสองแง่สองง่ามราวกับว่าเขาและนางมีสายสัมพันธ์อื่นนอกจากพี่น้องของกู้เฉิงกง ที่ผ่านมานางผิดเองไม่เคยทวงยามเขาพูดเช่นนี้ เพราะไม่อยากหักหน้าเขา อย่างไรที่ผ่านมาเขาก็ดีกับนางเสมอ

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 15/1

    บทที่15/1เมื่อรถม้าเคลื่อนเข้ามาถึงลานพิธีล่าสัตว์เฉินเฟยอวี่รีบลงจากรถม้ามาคนแรก กวักมือเรียกสาวใช้ประจำตัวของภรรยาของตน"ห้ามห่างนางเข้าใจหรือไม่" เขาสั่งเสียงเข้ม ก่อนที่คนอื่นจะตามลงมาจากรถม้า"เจ้าค่ะนายท่าน ข้าน้อยจะไม่ให้ฮูหยินคลาดสายตา" เมื่อรับคำสั่งเรียบร้อยลู่หลันรีบวิ่งไปประคองฮูหยินที่กำลังหย่อนเท้าลงบนบันไดรถม้าอย่างทุลักทุเล นางไม่แม้แต่ปรายตาไปมองสองพี่น้องสกุลกู้ที่ยืนรอลงจากรถม้าต่อจากนาง เผยอิงในตอนนี้รู้เหมือนร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง อยากพักเต็มทนแล้ว"ข้ามีหน้าที่ต้องไปทำ ข้าคงไม่ได้กลับกระโจมพัก" เฉินเฟยอวี่เห็นญาติผู้น้องทั้งสองกำลังเดินมาทางนี้ เขาจึงหันไปบอกภรรยาของเขาให้รู้ว่าเขามีงานที่จะต้องทำต่อจากนี้ และคืนนี้คงจะไม่ได้กลับ"ข้าเข้าใจ" นางรู้จากลู่หลันแล้วว่าเขาต้องทำสิ่งใด"ป้าจงจะช่วยเจ้าเอง หากมีเทียบเชิญจากฮูหยินสกุลอื่น เจ้าไม่ได้รู้จักใครอย่าตอบรับคำเชิญจะดีกว่า รู้จักก็ไม่ต้องไปเจ้ายังไม่พร้อมที่จะเข้าสังคมชั้นสูง" เขาไม่อยากปล่อยนางเขาไปในดงหมาป่าตัวเมียเพียงลำพังเผยอิงเม้มปากแน่น "ข้าเข้าใจ" นางคิดว่าเฉินเฟยอวี่คงจะไม่อยากให้นางสนิทชิดเชื้อกั

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 14/3

    บทที่14/3สือเหนียงกระโดดลงจากโขดหินกระทืบเท้าลงบนดินชุ่มน้ำอย่างคนเจ้าอารมณ์ "ข้าบอกแล้วข้าไม่ได้รวมอยู่กับนางพวกนั้น ท่านพี่เฟยอวี่รู้ดีว่าต้องถนอมข้า เขาจะร่วมหลับนอนกับข้าก็เมื่อแต่งงานกับข้าแล้วเท่านั้น""เขาอาจจะบอกว่าจะแต่งกับเจ้าให้เจ้ารออย่างมีความหวัง แต่เจ้ารู้ไหมสือเหนียง" เผยอิงได้ยินเสียงของตนโต้ตอบสตรีตรงหน้าอย่างฉะฉาน จนไม่คิดว่านั่นคือเสียงของนางเอง "ตั้งแต่แต่งงานกันเขานอนกอดก่ายข้าเอาไว้ทั้งคืน พร่ำบอกว่าอยากให้ข้าตั้งท้องลูกของเขาในเร็ววัน""สายเลือดจากสตรีชั้นต่ำ ต่อให้มีก็เท่านั้น คนอย่างท่านชายเฉิน โอรสพระองค์เดียวขององค์หญิงเหมยเจียง หรือจะยกสายเลือดชั้นต่ำขึ้นมาเชิดชู " สือเหนียงหวีดร้อง"แต่...อย่างน้อยๆ ตอนนี้ข้าก็คือคนที่ได้แต่งงานกับเขาและเป็นคนที่จะได้อุ้มท้องสายเลือดของท่านชายเฉิน หลานคนแรกขององค์หญิงเหมยเจียง""ก็แค่หลับนอนด้วยกันเท่านั้น ที่ผ่านมาท่านพี่เฟยอวี่ก็หลับนอนกับสตรีทั้งเมืองหลวง อย่าสำคัญตัวไปหน่อยเลย" สือเหนียงหันมาพูดเสียงแหลมปากสั่นดวงตาวาวโล้ด นางโกรธจนไม่อาจเก็บอารมณ์ไหว "เขา ..พี่เฟยอวี่อยากได้ลูกจากเจ้าเพราะอยากได้สิทธิ์ในเหมืองทองชิงห

DMCA.com Protection Status