แชร์

บทที่2

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 11:19:34

บทที่2

เมื่อร่างสตรีผู้เป็นเจ้าของงานในวันนี้เดินเข้ามา บุรษหนุ่มรูปงานรีบสาวเท้ายาวเข้ามาประชิดตัวนางทันที อาหารมื้อเย็นเมื่อคืนเขาไม่มีโอกาสได้คุยกับนางเลย พอรับประทานอาหารเสร็จผู้ใหญ่ต่างพากันแยกย้ายกลับเรือนเพื่อผักผ่อนเนื่องจากเพิ่งเดินทางมาไกล

“อิงอิง” กู้เฉิงกงโปรยยิ้มเมื่อเดินมาหยุดยังเบื้องหน้าของสตรีที่เขาปรารถนา ไม่สนใจสายตาใคร่รู้ของผู้ใด เขาไม่อาจบิดบังความรู้สึกที่มีต่อนางได้อีกต่อไปแล้ว หากนานกว่านี้ทุกอย่างอาจสายจนเกินแก้ไข ฝ่ามือหนาผายออกไปเบื้องหน้าหมายให้นางวางมือบางวางลงทาบทับ ก่อนจะพาเจ้าของงานเดินเข้าไปหากลุ่มของบิดามารดาของนาง

“ท่านพี่เฉิงกง” เผยอิงส่งยิ้มหวานตอบ บุรุษรูปโฉมงดงามผู้นี้งเป็นเพียงบุรุษเดียวที่นางเอ่ยเรียกด้วยท่าทีสนิทสมมกว่าผู้ใด ก็นะในบรรดาบุรุษทั้งหมดมีเพียงกู้เฉิงกงที่บิดาของนางไว้ใจให้เข้าใกล้นางมากที่สุดแล้ว

“เผยฮูหยิน ท่านช่างโชดดีเหลือเกินที่บุตรสาวของท่านงดงามราวดอกกุหลาบงาม อีกทั้งยังเรียบร้อยสมกับเป็นกุลสตรีชั้นสูง ผิดกับสื่อเหนียงของข้า อายุอ่อนกว่าเผยออิงเพียงไม่กี่ปีเท่านั้นแต่ก็ยังมิรู้ความกระโดกกระเดกเหลือทนข้าล่ะเหนือยใจ” ประโยคราวกับติติงบุตรสาวแต่น้ำเสียงของกู้ฮูหยินกลับพออกพอใจและภูมิใจในตับุตรสาวของตนไม่น้อย

“แล้วเหตูใดนางถึงไม่มีร่วมงานในวันนี้ด้วย” เผยฮหยินฝืนยิ้ม แรกเริ่มเหมือนกู้ฮูหยินเหมือนจะเอ่ยชมบุตรสาวของนางแต่ตอนท้ายกลับเอ่ยถึงบุตรสาวของตนเองเสียอย่างนั้น เหมือนต้องการให้ถามถึงกลายๆ นางจึงต้องต่อประโยคที่สตรีอีกคนต้องการ แม้จะหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวงมาปักหลักไกลถึงเมืองชิงหลง แต่ก็ยังทิ้งสังคมของเหล่าฮูหยินไปไม่ได้ ยิ่งวันนี้เป็นงานวันเกิดของเผยอิงด้วย นางจะไม่ได้ให้ผู้ใดมองเผยอิงอย่างที่นางเคยโดนจากเหล่าสตรีชนชั้นสูงที่เมืองหลวงเด็ดขาด นางต้องทำตัวเป้นแม่งานที่ดี เผยฮูหยินท่องในใจต้องทนใส่หน้ากากสนทนากับสตีผู้นี้จนกว่างานจะจบให้ได้

“นางไม่อยากออกจากเมืองหลวงหรอก แม้เมืองชิงหลงจะเจริญขึ้นมากเท่าใด แต่ก็หาเทียบได้กับเมืองหลวงฉางอัน สือเหนียงของข้าเอาแต่เที่ยวเล่นไปวัน ๆ แต่งองค์ทรงเครื่องราวกับสตรีสูงศักดิ์ในรั้ววัง แถมใช้เงินยิ่งกว่าเศษกระดาษข้าละเหนื่อยที่จะปราม ข้าบอกนางว่าสตรีแย่งนี้บุรุษดีๆ ที่ใดจะอยากแต่งด้วย” กู้ฮูหยินแม้จะบ่นว่าบุตรสาวใช้เงินสิ้นเปลือง แต่นางกลับเชิดดวงหน้าขึ้นสูง ทั้งตัวประโคมเครื่องประดับจนแทบจะโดดเด่นกว่าเจ้าของวันเกิดอย่างเผยอิง หากไม่มีผุ้ใดล่วงรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของท่านเผยเหิงและวละก็ ต้องคิดว่าวันนี้คือวันเกิดของสตรีสูงวัยคนนี้เป็นแน่

“แล้วนางว่าอย่างไร” เผยเหิงถามอย่างเอาใจ แม้นจะขำขันที เขาเคยเจอเด็กน้อยคนนั้นหนสองหนยามต้องไปทำธุระที่ฉางอัน

“นางก็หัวเราะจนตัวงอ บอกว่านางมีบุรุษที่จะแต่งด้วยแน่นอน แค่รอเวลายามนั้นข้าจะต้องอ้างปากค้างเมื่อรู้ว่าบุรุษผู้นั้นเป็นใคร” พูดจบกู้ฮูหยินก็ส่ายหัว หนนี้นางทำสีหน้าจริงจังมิได้หมายจะโอ้อดบุตรสาว

เผยอิงส่งยิ้มหวานยืนฟังบทสนทนาเงียบๆ แม้จะตำหนิบุตสาวอยู่หลายประโยค แต่นางรู้ดีกว่ากู้ฮูหยินภาคภูมิใจในบุตรสาวของตนและคาดหวังในตัวสื่อเหนียงไม่น้อย

เผยเหิงเดินเข้ามโอบไหล่บาง “แต่ก้จริงอย่างที่กู้ฮูหยินกล่าวมา เผยอิงเิบดตขึ้นมาได้อย่างงดงามและเพียบพร้อม นางคือความภาคภูมิใจของข้า หยกงามล้ำค่าที่ประเมินราคามิได้”

เผยอิงก้มหน้าแดง แม้จะดีใจที่นางคือความภุมิใจของบิดา แต่ภายในใจก็แอบหวั่นเกรงว่ากู็ฮูหยินจะอาคำฑดของบิดานางไปนินทาและหัวเราะลับหลัง

“ท่านเผยคงประเมิณค่าของเผยอิงไว้สูงเสยดฟ้าสิท่า”

นั่นไง เสียงเยียดหยันและแววตาดุหมิ่นอย่างเปิดเผย ไม่คิดว่าสตรีสุงวัยผู้นี้จะกล้าทำต่อหน้าบิดาของนาง

“แน่นอน!” ชายชราตอบเสียงห้วน

เผยอิงสะดุ้ง ภายในใจเต้นเร่าเกรงบิดาจะปะทะคารมกับกู้ฮูหยิน เป็นกู้เแิงกงที่เอ่ยแทรกเพราะไม่อยากอยู่ท่ามกลางความตรึงเครียด เขามีเรื่องต้องกังวลพอแล้ว

“ข้าว่า… เด็กๆ อย่างเราสองคนไปคุยกันตรงนู้นดีกว่า ปล่อยให้ผู้ใหญ่คุยกับเถิด” ฝ่ามือหนาดันแผ่นหลังเผยอิงให้เดินออกจากวงสนทนา ไม่สนใจอาการขัดขืนของเผยอิง “ไปเถิดน่า ปล่อยให้ผู้ใหญ่คุยกันไปเถิด อยู่ไปก็ต้องยืนฟังคำอวดบุตรสาวของตนเอง ใส่ดีกว่า งดงามกว่า”

เผยอิงพยักหน้ารับแต่สายตายังมองกลับมาที่กลุ่มของบิดาไม่วางตา เกรงบิดาจะอารมณ์ข่นมัว นางไม่อยากเป็นตนเหตที่ทำให้ท่านมีปากเสยงกับผู้ใด

“ว่าอย่างไร สบายดีหรือไม่ เมือวานมิได้คุยกันเลย” กู้เฉิงกงเอ่ยเสียงเรียบ รอยยิ้มพิมพ์ใจปากฎที่มุมริมฝีปากหยัก

“สบายดีตามอัตภาพเจ้าค่ะ แล้วท่านพี่เฉินกงเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรสนุกๆ มาเล่าห้ข้าฟังหรือไม่คราวนี้”

หน่มสาวพยักยิ้มให้แก่กันอย่างรื่นเริง บ่อยให้ผู้ใหญ่ตกลงกันเองคงจะดีที่สุด

“ข้าได้หนังสือที่เจ้าอยากได้มาด้วย แต่ไม่ได้หยิบติดมือมา เอาไว้พรุ่งนี้ก่อนออกเดินทางจะเอาให้ก็แล้วกัน”

“จริงหรือเจ้าค่ะ” เผยอิงยิ้มจเต็มดวงหน้า หนังสือกลอนของปราชผู้หนึ่ง หาเล่มคัดลอกที่เมืองชิงหลงไม่ได้เสียด้วย เอ้นหลันบอกว่ามีขายแค่ในเมืองหลวงเท่านั้น

“แน่สิ แค่เจ้าเปรยว่าอยากได้ข้าก็ไปดันด้นหามาให้”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านใจดีกับข้าเสมอ”

“ไม่มีใครดีกับเจ้าเท่าข้าแล้ว ต่อให้เป็นเฉินเฟยอวี่ก็ไม่รู้ใจข้าเท่าเจ้า”

เผยอิงเอียงศีรษะ “ผู้ใดคือเฉินเฟยอวี่เจ้าคะ”

“เอ๊ะ เจ้าไม่ร้หรือว่าเฉินเฟยอวี่คือผู้ใด” น้ำเสียงกู้เฉินกงแปลกใจในที

“ข้าก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อจากท่านนี่ล่ะ” เผยอิงนางตอบตามตรงอย่างไม่ปิดบัง

“บุตรชายบุญธรรมของบิดาเจ้า เจ้าไม่รู้จักได้เช่นไร”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่3

    บทที่3บุตรชายบุญธรรมของท่านพ่อ เผยอิงตาโต บิดานางมีลูกชายอย่างนั้นหรือ“ทำสีหน้าเช่นนี้ เจ้าคงจะไม่รู้จริงๆ บุตรชายของท่านเผยเหิง ไม่สิบุตรชายบุญธรรมเรียกเช่นนั้นถึงจะถูก เฉินเฟยอวี่ คือหลานของท่านแม่ทัพใหญ่ บิดาของเขาเสียชีวิตในสนามรบ อดีตแม่ทัพเองครักษ์อี้เป็นเพื่อนร่วมรบกับท่านเผย หลังจากสหายเสียชีวิต พอกลับมาจากสนามรบท่านก็รับเฉินเฟยอวี่เป็นบุตรบุญธรรม”“ข้า…ไม่เคยรู้มาก่อน ท่านพ่อไม่เคยเล่า” นางรู้แค่สิ่งที่บิดาต้องการให้รู้เท่านั้นและตัวนางและมารดาก็ไม่เคยอยากรู้เรื่องที่ไม่จำเป็น แล้วเรื่องเช่นนี้จำเป็นแล้วหรือยัง หากท่านพ่อมบุตรสืบสกุลเหตุใดไม่บอกนางกับมารดา เป็นเรื่องน่ายินดีมิใช่หรือ มีความจำเป็นอะไรที่ท่านปิดบังพวกนาง“ถ้าเช่นนั้นเจ้าคงยังไม่รู้อีกสินะว่าท่านเผยต้องการให้เจ้าแต่งงานกับเฉินเฟยอวี่”“แต่งงาน!” จะเป็นไปได้อย่างไร ตลอดเวลาที่ผ่านมาบิดาของนางหวงนางเสียยิ่งกว่าสิ่งใด แม่สื่อบ้านใดมาสู่ขอหรือทาบทามท่านไล่แตกพ่ายยับเยินไปจนหมด จนไม่มีแม่สื่อคนใดกล้าส่งเทียบมายังจวนสกุลเผย“ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะไม่รู้ว่าตนเองต้องแต่งงานกับผู้ใด เจ้าเคยบอกข้าว่าต้องการแต่งกับบุรุษที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 4

    บทที่4เผยเหิงกำมัดแน่น เขาแทบอยากจะปิดจบงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ลงเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำถ้าหากไม่ติดว่าเป็นงานเลี้ยงวันเกิดของอิงอิง อย่างไรเขาก็ยังไม่อยากให้นางขายหน้าไปกว่านี้ ในเวลานี้หากไม่ติดผู้ฮูหยินกับสหายที่ยืนคุยกันอยู่เขาอยากจะเดินไปแยกหนุ่มสาวสองคนนั้นออกห่างกัน การที่จู่ ๆ อิงอิงของเขาหลุดเสียงดังออกมาขนาดนั้น ‘ข้าไม่แต่งกับเฉินเฟยอวี่’ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยเอ่ยเรื่องนี้กับนาง คงจะเพราะคนที่ยืนคุยกับนางและแสดงกิริยาเกินงามกับนางอยู่ตอนนี้เป็นคนเล่าให้ฟังเผยเหิงจะโทษบุตรชายของสหายทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะตัวเขาผิดเองก่อนกลับมาถึงจวนเขาและขบวนรถม้าแวะโรงเตี๊ยมข้างทาง ด้วยความเมามายและมีความสุขที่ในที่สุดบุตรสาวคนเดียวก็จะได้แต่งงานออกเรือนเสียที จึงหลุดปากบอกเรื่องการหมั้นหมายของอิงอิงกับเฉินเฟยอวี่ออกไป การหมั้นหมายนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่เป็นสัญญาใจที่เขาให้ไว้กับเฉินเฟยอวี่เมื่อนานมาแล้ว เป็นเหตุผลให้เขาขัดขวางแม่สื่อทุกคนที่เข้ามา เพราะหากต้องฝากชีวิตอิงอิงไว้กับบุรุษใดชั่วชีวิตเขาก็มองเห็นแค่เฉินเฟยอวี่เท่านั้น อย่างไรเขาก็เลี้ยงเด็กนั่นมากับมือ นิสัยใจคอเป็นเช่นไรเขาย่อมรู้ดีเผย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 5/1

    บทที่5/1จบงานเลี้ยงเพียงแค่ไม่กี่วันขบวนเจ้าสาวก็มาจอดรออยู่หน้าจวน ทั้ง ๆ ที่หากกว่าทางนั้นจะทราบข่าวว่านางตอบตกลงแต่งงานก็น่าจะอีกหลายวันต่อให้ใช้ม้าเร็วส่งข่าวไปแจ้งก็ไม่ต่ำกว่าสี่วัน แต่นี่ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวพร้อมแม่สื่อกลับเดินทางมาถึงหลังจบงานเลี้ยงวันเกิดของเผยอิงเพียงไม่กี่วันราวกับออกเดินทางมาก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งแม่สื่อนอกจากจะนำสินสอดเกือบสี่สิบคันรถมามอบให้บิดาของเจ้าสาวแล้ว ยังตัดชุดแต่งงานมาให้เรียบร้อย เผยอิงทำได้เพียงมองบ่าวรับใช้ในจวนขนหีบสินสอดเข้าจวนสกุลเผยแล้วข้าจะประวิงเวลาออกไปได้อย่างไรในเมื่อทุกอย่างถูกเตรียมการเอาไว้หมดแล้วเช่นนี้ เพิ่งรู้ว่าจะต้องแต่งงานกับบุรุษที่ไม่เคยเห็นหน้า เพิ่งจะได้ยินชื่อก็เมื่อสี่วันก่อนแต่ในเมื่อนางตัดสินใจที่จะแต่งงานครั้งนี้เพื่อช่วยบิดาแล้ว ไม่ว่าจะแต่งวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็คงไม่ต่างกัน ร่างบางหมุนตัวเดินกลับเรือนนอนของตน ยามเหม่า ( คือ 05.00 – 06.59 น.) แม่สื่อสองคนมาช่วยกันแต่งตัวเจ้าสาว เผยอิงต้องสวมชุดแดงมงคลที่เจ้าบ่าวมอบตั้งแต่เดินทางออกจากจวนของตนเองจนกระทั่งถึงจวนเจ้าบ่าว“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าจะกลับมาเยี่ยมท่านทั้งสองในเร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 5/2

    บทที่5/2เผยอิงถอนหายใจแล้วหายใจอีก นางคาดว่าขบวนเกี้ยวของตนคงถึงเมืองหลวงในเจ็ดวัน แต่นี่อะไรเอะอะจอดพัก นี่ก็ปาเข้าไปวันที่สิบแล้วเพิ่งจะมาถึงประตูเมืองหลวง ตกลงคนพวกนี้แท้จริงมีฤกษ์แต่งงานจริง ๆ หรือ“อย่าบอกนะว่าจะจอดพักอีกแล้ว” เผยอิงเปิดผ้าม่านออกไปถามแม่สื่อที่จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเกี้ยวของนางหยุดการเคลื่อนตัว“โธ่คุณหนูเจ้าคะ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้แต่ง ทันฤกษ์แน่นอน ข้าพาเจ้าสาวเดินทางแต่งงานข้ามเมืองมาไม่รู้กี่คนไม่มีผู้ใดไปไม่ทันฤกษ์งามยามดีสักคน” แม่สื่อยกผ้าเช็ดหน้าป้องปากหัวเราะคิกคักเผยอิงลอบเบ้ปากใครจะอยากแต่งกับบุรุษเสเพลเช่นนั้นก็แต่งไปเถอะ ข้าไม่อยาก แต่เพื่อผลประโยชน์ที่ตามมานางไม่มีทางเลือกอื่นขบวนเจ้าสาวเคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองหลวงได้พักใหญ่แล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงจวนเจ้าบ่าวเสียที“ท่านป้าอีกนานไหมเจ้าคะ” เจ้าสาวในเกี้ยวถามขึ้นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้“ถึงนานแล้วเจ้าค่ะ”“อ้าว ถึงแล้ว แล้วทำไมไม่หยุดเกี้ยว” จะวนรอบเมืองหลวงเลยหรือไง มือบางเปิดผ้าม่านออกมาดู นั่งรถม้ามาตลอดสิบกว่าวันแบบนี้นางก็เหนื่อยเหมือนกันนะ“คุณหนูผ้าคลุมหน้า” แม่สื่อเอ็ดเจ้าสาวที่ยกหน้าคลุมหน้าขึ้นใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 6/1

    บทที่6/1องค์หญิงเหมยเจียงรับน้ำชาจากลูกสะใภ้ด้วยสีหน้าแช่มชื่น นางรอคอยเวลานี้มายาวนาน วันที่เด็กคนนี้จะแต่งเข้าจวนสกุลเฉิน บุตรชายของนางจะได้มีสตรีคอยดูแลภายในจวน นางจะได้หมดห่วงเสียที“แม้จะมีผ้าคลุมเจ้าสาวอยู่ ข้าก็เดาว่าเจ้าต้องงดงามไม่ต่างจากเผยฮูหยินสมัยสาว ๆ แน่ ๆ สกุลเฉินขอต้อนรับ จากนี้ไปเจ้าเป็นคนของสกุลเฉิน ตายไปก็เป็นผีเฝ้าสกุลเฉิน ความในห้ามนำออก ไฟนอกห้ามนำเข้า เจ้าเข้าใจใช่หรือไม่อิงอิง” องค์หญิงเหมยเจียงกล่าวต้อนรับลูกสะใภ้ ทุกคำพูดแฝงไปด้วยความในมากมาย“ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ” แม่สื่อที่ยืนประกบข้างกระซิบข้างหูเสียงเบา “ข้าเข้าใจเจ้าค่ะท่านแม่” เผยอิงยอบตัวลงอย่างอ่อนช้อย จนองค์หญิงเหมยเจียงอดยกยิ้มที่จะเอ็นดูนางไม่ได้“พรุ่งนี้เจ้าไม่ได้ตื่นมายกน้ำชาข้า วันอื่น ๆ ก็ไม่ต้อง” สิ้นคำขององค์หญิงเหมยเจียง เจ้าสาวก็ถูกเหล่าแม่สื่อประคองออกจากพิธีไป เพราะจากนี้จะเป็นงานเลี้ยง ซึ่งเจ้าสาวมีหน้าที่เพียงไปรอที่เรือนหอเท่านั้น“ฮูหยินคงสงสัยว่าเหตุใดองค์หญิงเหมยเจียงถึงไม่ให้ท่านยกน้ำชา ท่านอย่าคิดว่าท่านไม่ได้รับการต้อนรับจากพระนางเลยนะเจ้าคะ เพียงแต่หลังจากมอบจวนให้ท่านชายแล้ว พระน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 6/2

    บทที่6/2“ท่านป้า ท่านออกไปพักผ่อนเถิดข้าอยู่คนเดียวได้” เผยอิงบอกอย่างเกรงใจ แม่สื่อก็เดินทางมากับนางมาถึงก็ต้องวิ่งวุ่นวายดูแลนางหลายอย่างไม่ได้พักเลย อย่างไรตอนนี้ทุกคนก็อยู่ที่งานเลี้ยงหมดแล้ว นางไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ ที่ต้องมานั่งเฝ้า“ตามธรรมเนียมแม่สื่อต้องนั่งรอจนเจ้าบ่าวเข้าหอจึงจะออกไปได้” เป็นป้าจงที่พูด“มิต้องรอทั้งคืนเลยหรือ”“ก็จนกว่าจะส่งแขกหมด คาดว่าอีกไม่เกินหนึ่งชั่วยามท่านชายก็คงจะเดินทางมายังเรือนกุ้ยฮวา เรือนแห่งนี้สวยหรือไม่เจ้าคะ”“อืม สวยใหญ่โตสมกับเป็นเรือนในจวนสกุลเฉิน” เผยอิงตอบด้วยน้ำเสียงกึ่งประชดประชัน “เจ้าค่ะ เพิ่งจะสร้างเสร็จปีก่อน ท่านชายสร้างเอาไว้รอฮูหยิน”“รอข้า”“เจ้าค่ะ แม้ก่อนหน้านี้ท่านจะสร้างเรือนเอาไว้หลายหลังแต่มีเพียงเรือนกุ้ยฮวาที่ท่านชายออกปากว่าจะให้คุณหนูเผยอิงมาอยู่ที่นี่”คนในจวนนี้คงจะพอรู้อยู่แล้วว่าข้าจะต้องแต่งเข้ามา แล้วเรือนหลังอื่น ๆ ที่เฉินเฟยอวี่สร้างเอาไว้ก่อนเรือนหลังนี้ เขาสร้างรอใครกัน“ทำไมท่านป้าจงเรียกเขาท่านชาย ไม่เรียกนายท่าน” “พระโอรสเพียงพระองค์เดียวขององค์หญิงเหมยเจียง ข้าเรียกขานยศต่ำกว่านี้มิได้เจ้าค่ะ”“ป้าจงเคยเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 7/1

    บทที่7/1 NC เบาๆเผยอิงนั่งเหม่อลอยภายใต้ผ้าคลุมสีแดงรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่นราวกับกำลังฝันอยู่ จนประตูบานใหญ่ถูกผลักเข้ามา ป้าจง สาวใช้และแม่สื่อพากันรีบวิ่งออกไปโดยไม่ให้คนที่เข้ามาใหม่ต้องเสียเวลาเอ่ยปากไล่"ปากก็บอกไม่อยากแต่ง แต่สุดท้ายคุณหนูเผยผู้เย่อหยิ่งก็มานั่งรอข้าถึงเตียงนอน" เฉินเฟยอวี่ย่างสามขุมเข้ามาใกล้น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหยันเหยียด"ใช่ข้าไม่อยากแต่ง" เผยอิงอ้าปากตอบแผ่วเบา เหล้าผสมยานั่นทำเอานางแทบคุมสติของตนไม่ได้ รู้สึกมึนงงอย่างบอกไม่ถูก ถึงกระนั้นนางก็ยังรับรู้ถึงไอเย็นที่แผ่มาจากบุรุษที่มายืนประจันหน้าหน้าในเวลานี้"แต่น้ำเสียงเจ้าดูไม่มั่นคงในคำนี้เท่าไรนะ ถ้าเจ้าไม่อยากแต่งแล้วขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวมาทำไมล่ะ เหตุใดไม่รอแต่งกับชายคนรักของเจ้า หรือพอรู้ว่าข้าเป็นใครก็เลยเปลี่ยนใจมาหาข้าแทน"เผยอิงหัวคิ้วหมุน เฉินเฟยอวี่พูดบ้าอะไรของเขา "ใช่ข้ารู้ว่าท่านเป็นใครและแต่งกับข้าเพราะอะไร""เพราะอะไรล่ะเด็กน้อย" มือหนากระชากผ้าคลุมทิ้งลงกับพื้นราวกับมันไร้ค่า ไร้ราคาแม้ปักด้วยทองทั้งผืน"ข้าไม่ใช่เด็ก""อืม เจ้าไม่ใช่เด็กแล้วจริง ๆ ด้วย" เฉินเฟยอวี่พิจารณาดวงหน้ากระจ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 7/2

    บทที่7/2 nc เบาๆเผยอิงหลับตาลงอย่างช้า ๆ ด้วยฤทธิ์บางอย่าง นางกล่อมตนเองให้เข้าที่ว่านางกำลังรู้สึกอยู่ในตอนนี้เพราะยาสงบใจ เผยอิงหงายศีรษะพิงไว้กับไหล่แกร่งโดยไม่รู้ตัว ร่างบางถูกยกขึ้นโอบอุ้มลอยคว้างราวกับกำลังบินอยู่ในอากาศแล้วจู่ ๆ ก็ตกลงอย่างนุ่มนวลบนเตียงหลังเดิมที่ตั้งอยู่กลางห้อง นางรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่ทาบทับลงมาไม่ช้าแสงสว่างจากตะเกียงก็ค่อย ๆ หายไปที่ล่ะดวง ที่ล่ะดวง จนห้องหอมืดสนิท เสียงลมหายใจของชายหนุ่มที่อยู่บนตัวนางกระเส่าสั่นเมื่อมือของเขาเลื่อนไปดึงสายรัดเอวหลุดออกจากร่างบางภายในการดึงเพียงครั้งเดียวเผยอิงหลับตาแน่นเพราะไม่อาจทนมองการกระทำของบุรุษที่นางเพิ่งพบกันเพียงวันเดียวได้ ร่างบางสะดุ้งผวาทุกครั้งที่นิ้วหยาบกร้านของเขาลูบไล้ไปตามเนื้อหนังอันเปลือยเปล่าของนาง ลมหายใจร้อน ๆ ของเขาเป่ารดอยู่ข้างแก้มนวลความรู้สึกวาบหวิวในทรวงอกทำให้เผยอิงจำต้องเบือนใบหน้าหลบแล้วเม้มริมฝีปากแน่นแต่เขาไม่ได้ก้มลงมาจุมพิตนางอย่างที่คิด หากแต่ริมฝีปากร้อนนั่นกลับกดลงที่ลำคอระหงแล้วเลื่อนต่ำลงมาจนถึงทรวงอก หัวใจของนางเต้นสั่นไหวทุกครั้งที่เขาขยับมือ หัวใจขอนางเต้นแรงจนทรวงอสะท้อนสะท้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05

บทล่าสุด

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 18/2

    บทที่18/2"นั่น" เผยอิงตาเบิกกว้างเมื่อถูกอุ้มเข้ามายังเรือนหนังสือ นางไม่เคยเข้ามาที่แห่งนี้สักครั้ง เพราะมีเวรยามคอยคุ้มกันตลอด เรือนแห่งนี้เป็นสถานที่ต้องห้ามของทุกคนในจวนสกุลเฉินเฉินเฟยอวี่สาวเท้าเข้าไปภายใน วางร่างภรรยาของตนลงบนตั่งเขียนหนังสือ"ตกใจอะไรเสี่ยวอิง" เขาถามภรรยาเสียงกลั้วหัวเราะ"กะ ก็ นั่น มัน" ใช่ภาพที่ลู่หลันบอกว่าเป็นภาพของสตรีที่อยู่ในใจของเฉินเฟยอวี่ เด็กน้อยเกล้าจุกสองข้างแก้มแดงนัยน์ตากลมโตในภาพวาดนั่น มันเป็นข้าเองไม่ใช่หรือ แล้วยังภาพอื่น ๆ ที่เรียงรายอยู่จนเต็มผนังทุกด้าน ล้วนเป็นภาพของนางทั้งสิ้น"ภาพวาดของเจ้า" เขาต่อประโยคให้"มะ หมายความว่าอย่างไร ข้า.. งงไปหมดแล้ว"เฉินเฟยอวี่ปลดภาพวาดภาพหนึ่งลงจากผนังนำมันมาวางบนตั่งเขียนหนังสือที่ภรรยาของเขานั่งอยู่ "ข้าขอให้ท่านพ่อบุญธรรมให้คนวาดมาให้ ทุกครั้งที่ท่านมาเมืองหลวงจะต้องมีภาพเจ้ามาฝากข้าหนึ่งภาพ""ทำไม""ทำไมข้าถึงแขวนมันไว้เช่นนี้น่ะหรือ ท่านพ่อบุญธรรมเอามาอวดข้าว่าบุตรสาวของเขาเติบโตขึ้นอย่างงดงามมากเพียงไรในแต่ละปี และข้าก็รับมันไว้ด้วยความเต็มใจ""ข้านึกว่าท่านเกลียดเข้า""ข้าไม่เคยเกลียดเจ้า สัก

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 18/1

    บทที่18/1 จบบริบูรณ์เผยอิงมองสามีของนางที่ก้ม ๆ เงยหน้าขึ้นลงอย่างเก้ ๆ กัง ๆ จุ่มผ้าผืนเล็กลงในอ่างน้ำเย็น บิดผ้าจนผ้าเกือบแห้งสนิทแล้วนำมาเช็ดตามผิวกายของนางหลังจากกลับมาจากลานพิธีล่าสัตว์เฉินเฟยอวี่เขาก็ไม่เคยอยู่ห่างนางเลย คอยดูแลนางเช็ดเนื้อตัวที่ไหม้แดดอย่างไม่รังเกียจ จนตอนนี้ลู่หลันแทบไม่เคยเข้ามาในเรือนกุ้ยฮวานางเพิ่งรู้ว่าเขาเองก็บาดเจ็บที่หัวไหล่ จากคมดาบในการปราบกบฏที่พิธีล่าสัตว์ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังลงไปอุ้มนางขึ้นมาจากหน้าผานั่น"เฟยอวี่""ท่านพี่ เมื่อใดเจ้าจะเรียกข้าท่านพี่" เขาหันมาถามเสียงนุ่ม ตลอดสามวันที่นั่งเฝ้าข้างเตียงนาง เขารับรู้ได้ว่าสายตาที่นางมองเขาแปรเปลี่ยนไป แต่นางก็ยังคงสงวนท่าทีที่มีต่อเขาเอาไว้"ท่าน.. พี่" ใบหน้าขาวนวลขึ้นสี นางเขินอายไม่น้อยที่ต้องเรียกขานเขาเช่นนี้"ว่าอย่างไรฮูหยินรัก เจ้าต้องการสิ่งใด" เขาก้มลงมาถามเสียงนุ่มบีนเตียงขึ้นไปนอนเคียงข้างหน้าตาเฉย"แล้วท่านจะขึ้นมานอนทำไม" นางหันไปเอ็ด พวงแก้มนวลสุกปลั่ง"ข้าก็บาดเจ็บเจ้าลืมไปแล้วหรือ" เขารั้งเอวบางมากอดไว้หลวม ๆ เพราะเกรงจะกระทบขาของนางที่ด้ามไม้เอาไว้"ข้าอยากออกไปข้างนอก ได้ห

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 17/2

    บทที่17/2เผยอิงลืมตาขึ้นในความมืด ตอนที่อยู่ที่หน้าผานั่นนางไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดทางร่างกายแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เพียงกระดิกนิ้วก็รวดร้าวไปทั้งกาย"เอ๊ะ" เสียงหวานอุทานในความมืด ไม่ใช่แค่ขาที่หัก แก้วหูที่ฉีก แต่ร่างบางฟกช้ำไปทั้งตัว"รู้สึกอย่างไรบ้าง" เสียงทุ้มถามในความมืด เอื้อมมือหนาไปจุดตะเกียง เฉินเฟยอวี่นั่งเฝ้าภรรยาของตนตั้งแต่หมอหลวงทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้วกลับออกไป เขาไม่ได้จุดตะเกียงให้แสงสว่างภายในกระโจมนี้เพราะเกรงว่าจะรบกวนการพักผ่อนของนาง"อย่าเพิ่งลุกขึ้น" มือหนาจับหัวไหล่บางให้นอนลงที่เดิน เมื่อเห็นนางพยายามยกกายตนเองขึ้นจากเตียง "ยังเจ็บอยู่ไหม"เผยอิงพยักหน้าน้อย ๆ แต่เมื่อเห็นเขารินน้ำใส่จอกป้อนให้โดยโอบศีรษะของนางให้เผยอยกขึ้นเล็กน้อย นางจิบน้ำนั่นแต่โดยดี นางมองตามมือที่จับจอกนั้นเลื่อนไปจนถึงใบหน้าคมเข้ม แววตาที่เขามองนางช่างห่วงหาอาทร"น้ำอะไรเจ้าคะ" นางถามเสียงแหบพร่า"น้ำอ้อยผสมยาสงบใจ" เขาตอบเสียงนุ่มเหตุใดเขาถึงตอบนางเสียงนุ่มนวลเช่นนั้น เพราะนางบาดเจ็บสาหัสเจียนตายหรือเปล่าเขาถึงได้ดีกับนางเพียงนี้"เฉินเฟยอวี่"เขารีบวางจอกน้ำแล้วหันมาถามทันที"เป็นอะไร

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที 17/1

    บทที่17/1กู้เฉิงกง เดินวนไปเวียนมาอยู่พักใหญ่ สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเดินจากไป"พี่เฉิง.. กง" เผยอิงปรือตาขึ้นมองอีกครั้งก็ไร้ร่างของบุรุษที่นางเคยเชื่อใจ ในป่าลึกเช่นนี้ความหวังที่จะมีคนผ่านมาแทบจะริบหรี่ มือบางลูบคลำข้อเท้าเล็ก ๆ ของตนที่บูดบวม สภาพนางในตอนนี้ไม่คงไม่อาจบีนผานั่นขึ้นไปเองได้ และกู้เฉิงกงก็คงไม่บีนลงมาช่วยนางหรอก หากลงมาก็คงไม่ต่างอะไรกับการเอาชีวิตของตนลงมาทิ้ง เผยอิงไม่ได้ขุ่นเคืองใจแม้แต่น้อยที่เขาละทิ้งนางเอาไว้เช่นนี้ ชีวิตของเขาที่ท่องไปทั่วแคว้นพบปะผู้คนมากมายแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าที่นำไปใส่รถม้าไป นางเคยนึกอิจฉาชีวิตอิสระของกู้เฉิงกง รอคอยวันที่เขาจะมาเยือนสกุลเผย เพื่อจะได้ฟังว่าครานี้เขาไปที่ใดมาบ้าง เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้จึงไม่ผิดที่เขาจะเลือก ทิ้งภาระอย่างนางเสยในทันใดนั้นเองสายตาของเผยอิงก็เริ่มเลือนราง ร่างกายร้อนผ่าวราวกับกำลังจับไข้ ตอนนี้เสียงหวีดหวิวภายในหูเงียบไปแล้ว นางไม่ได้ยินเสียงใด ๆ นอกจากเสียงลมที่พัดขึ้นมาจากหุบเหวด้านล่างชีวิตคนก็เป็นเช่นนี้ในขณะที่กำลังจมดิ่ง เจ้าอาจต้องชนหลายสิ่งกว่าจะถึงก้นเหวใครว่าถ้ากระโดดลงหุบเหวแล้วจะสิ้น

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 16/2

    บทที่16/2"เดินไว ๆ หน่อย" กู้เฉิงกงฉุดกระชากแขนบางจนเป็นรอยแดง"ข้าเดินไม่ไหวแล้ว เรากำลังจะไปไหนกัน" เผยอิงถามอย่างกลัดกลุ้ม นางเดินมาทั้งคืนแล้ว"เข้าไปในป่าลึกอีกนิด ไม่ต้องห่วงอิงอิง เดินไปอีกไม่ไกล พ้นป่านี้ไปก็ถึงหมู่บ้านแล้ว" เขาตอบอย่างเอาใจเผยอิงพยักหน้ารับ ช่วงกลางดึกนางได้ยินเสียงคนต่อสู้กัน เมื่อตะโกนถามลู่หลันก็ไร้เสียงตอบกลับ นางกำลังจะลุกขึ้นไปดู กลับต้องตกใจจนหวีดร้องออกมาเมื่อถูกตะครุบจับตัวจากด้านหลัง กลุ่มชายในชุดดำจับตัวนางและพาตัวออกมาจากกระโจม นางพยายามต่อสู้ขัดขืนสุดกำลัง แต่สุดท้ายก็ถูกจับมัดมือมัดเท้า โชคดีที่กู้เฉิงกงมาช่วยนางเอาไว้และพานางวิ่งหนีเข้าป่ามานางและกู้เฉิงกงเดินเท้ามาทั้งคืน แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหลุดพ้นจากป่า ถึงกระนั้นก็ไม่อาจหยุดฝีเท้าลงได้เพราะเกรงว่าชายชุดดำกลุ่มนั้นจะตามมาทัน"พี่เฉิงกง ไม่ใช่ว่าเราเข้ามาลึกเกินไปหรือเจ้าคะ""ข้าว่า ข้าหลงทาง" กู้เฉิงกงตอบเสียงห้วนก็สารภาพตามจริง ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มอารมณ์ดีอยู่ตลอดบึ้งตึง เขารู้จากบิดาว่าคืนนี้อ๋องอวั๋นซีจะก่อกบฏบิดาของเขาก็เข้าร่วมด้วยสนับสนุนเงินทุนเล็กน้อย หากสำเร็จสกุลกู้จะได้ร้านค้

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 16/1

    บทที่16/1"นางจะหายไปได้อย่างไร" เฉินเฟยอวี่ตวาดลั่นทั้งตัวของเขาโชกไปด้วยเลือด หลังจากเก็บซากศพกบฏและรายงานฮ่องเต้เรียบร้อย เขาก็รีบกลับมาหาภรรยาที่กระโจม แต่เมื่อกลับมาเมื่อเดินเข้ามาใกล้ที่พัก ป้าจงและสาวใช้รีบวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหา ดวงใจเขาหายไปลู่หลันน้ำตานองอาบสองแก้ม นางเฝ้าฮูหยินไม่ห่าง ไม่ให้คลาดสายตาสักนิด อีกทั้งตอนที่นายท่านไม่อยู่ เมื่อคืนนางก็นอนเฝ้าหน้ากระโจมไม่ได้กลับไปนอนที่พักของตน แต่จนสายก็ยังไม่เห็นฮูหยินเรียกใช้ นางจึงตะโกนเรียกก็ไร้เสียงตอบกลับ ป้าจงที่เดินมาพอดี นางและป้าจงจึงขอเข้าไปด้านใน แต่เมื่อเข้าไปกลับไม่พบผู้ใดอยู่ข้างใน ด้านข้างกระโจมถูกกรีดเป็นแนวยาว ทหารที่เฝ้าอยู่รอบ ๆ ตายจนหมด ลู่หลันเล่าทั้งน้ำตา นางเล่าเสริมอีกว่าหลังจากทานอาหารเย็นก็ผล็อยหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้สึกตัวอีกทีตื่นมาก็เช้าแล้ว"ใคร! ใครมันบังอาจทำเยี่ยงนี้" เฉินเฟยอวี่ขบกล้ามแน่น "หาให้เจอ""พี่อวี่ใจเย็นก่อน ทำแผลก่อน คนที่พาตัวพี่สะใภ้ไปน่าจะยังไปไม่ไกล""พี่เฟยอวี่ หรือว่าท่านพี่อิงอิงจะหนีไปกับพี่ชายของข้า ข้าตื่นมาก็ไม่พบเขาเช่นกัน" นางรีบวิ่งมาเมื่อเห็นเฉินเฟยอวี่และคนของเขากลับ

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 15/2

    บทที่15/2"ทำไมเจ้าตามสามีเจ้าไปด้วยล่ะอิงอิง" กู้เฉิงกงที่เดินตามมาติด รีบถามก่อนที่นางจะเข้าไปในกระโจมพักผ่อน หากพ้นตรงนี้ไปเขาก็ไม่อาจตามนางเข้าไปได้อีก"ท่านก็รู้ว่าข้าชอบอ่านหนังสือมากกว่าถืออาวุธ" นางคิดว่าหลุดพ้นคนพวกนี้ได้แล้ว หลุดจากเฉินเฟยอวี่และกู้สือเหนียงได้ ก็ยังเหลือกู้เฉิงกง นางเป่าปากอย่างเบื่อหน่าย"นั่นสิ ข้ารู้ดีกว่าใครว่าเจ้าชอบสิ่งใดไม่ชอบสิ่งใด หากเป็นข้าที่แต่งกับเจ้า ป่านนี้เจ้ากับข้าคงมีความสุขไปแล้ว" เขาเอ่ยเสียงเศร้ายืนก้มหน้า"ข้าว่าข้าพูดเรื่องนี้กับท่านไปแล้ว แม้ในอดีตข้าจะเคยสนิทสนมกับท่าน นั่นก็เพราะท่านเป็นเพียงคนเดียวที่ข้าได้คุยด้วยโดยที่ท่านพ่อไม่ได้ห้าม แต่ตอนนี้ข้าแต่งงานแล้วข้าหวังว่าท่านจะทิ้งระยะห่างและไม่พูดเรื่องนี้อีก หากท่านหวังดีกับข้าด้วยใจจริงคงไม่อยากให้ผู้ใดมาได้ยินแล้วเอาข้าไปเอ่ยถึงเสีย ๆ หาย ๆ ใช่หรือไม่ท่านพี่เฉิงกง" เผยอิงหันขวับมา นางทนมามากพอแล้วกับการพูดจากสองแง่สองง่ามราวกับว่าเขาและนางมีสายสัมพันธ์อื่นนอกจากพี่น้องของกู้เฉิงกง ที่ผ่านมานางผิดเองไม่เคยทวงยามเขาพูดเช่นนี้ เพราะไม่อยากหักหน้าเขา อย่างไรที่ผ่านมาเขาก็ดีกับนางเสมอ

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 15/1

    บทที่15/1เมื่อรถม้าเคลื่อนเข้ามาถึงลานพิธีล่าสัตว์เฉินเฟยอวี่รีบลงจากรถม้ามาคนแรก กวักมือเรียกสาวใช้ประจำตัวของภรรยาของตน"ห้ามห่างนางเข้าใจหรือไม่" เขาสั่งเสียงเข้ม ก่อนที่คนอื่นจะตามลงมาจากรถม้า"เจ้าค่ะนายท่าน ข้าน้อยจะไม่ให้ฮูหยินคลาดสายตา" เมื่อรับคำสั่งเรียบร้อยลู่หลันรีบวิ่งไปประคองฮูหยินที่กำลังหย่อนเท้าลงบนบันไดรถม้าอย่างทุลักทุเล นางไม่แม้แต่ปรายตาไปมองสองพี่น้องสกุลกู้ที่ยืนรอลงจากรถม้าต่อจากนาง เผยอิงในตอนนี้รู้เหมือนร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง อยากพักเต็มทนแล้ว"ข้ามีหน้าที่ต้องไปทำ ข้าคงไม่ได้กลับกระโจมพัก" เฉินเฟยอวี่เห็นญาติผู้น้องทั้งสองกำลังเดินมาทางนี้ เขาจึงหันไปบอกภรรยาของเขาให้รู้ว่าเขามีงานที่จะต้องทำต่อจากนี้ และคืนนี้คงจะไม่ได้กลับ"ข้าเข้าใจ" นางรู้จากลู่หลันแล้วว่าเขาต้องทำสิ่งใด"ป้าจงจะช่วยเจ้าเอง หากมีเทียบเชิญจากฮูหยินสกุลอื่น เจ้าไม่ได้รู้จักใครอย่าตอบรับคำเชิญจะดีกว่า รู้จักก็ไม่ต้องไปเจ้ายังไม่พร้อมที่จะเข้าสังคมชั้นสูง" เขาไม่อยากปล่อยนางเขาไปในดงหมาป่าตัวเมียเพียงลำพังเผยอิงเม้มปากแน่น "ข้าเข้าใจ" นางคิดว่าเฉินเฟยอวี่คงจะไม่อยากให้นางสนิทชิดเชื้อกั

  • ฮูหยิน แค่ภรรยา   บทที่ 14/3

    บทที่14/3สือเหนียงกระโดดลงจากโขดหินกระทืบเท้าลงบนดินชุ่มน้ำอย่างคนเจ้าอารมณ์ "ข้าบอกแล้วข้าไม่ได้รวมอยู่กับนางพวกนั้น ท่านพี่เฟยอวี่รู้ดีว่าต้องถนอมข้า เขาจะร่วมหลับนอนกับข้าก็เมื่อแต่งงานกับข้าแล้วเท่านั้น""เขาอาจจะบอกว่าจะแต่งกับเจ้าให้เจ้ารออย่างมีความหวัง แต่เจ้ารู้ไหมสือเหนียง" เผยอิงได้ยินเสียงของตนโต้ตอบสตรีตรงหน้าอย่างฉะฉาน จนไม่คิดว่านั่นคือเสียงของนางเอง "ตั้งแต่แต่งงานกันเขานอนกอดก่ายข้าเอาไว้ทั้งคืน พร่ำบอกว่าอยากให้ข้าตั้งท้องลูกของเขาในเร็ววัน""สายเลือดจากสตรีชั้นต่ำ ต่อให้มีก็เท่านั้น คนอย่างท่านชายเฉิน โอรสพระองค์เดียวขององค์หญิงเหมยเจียง หรือจะยกสายเลือดชั้นต่ำขึ้นมาเชิดชู " สือเหนียงหวีดร้อง"แต่...อย่างน้อยๆ ตอนนี้ข้าก็คือคนที่ได้แต่งงานกับเขาและเป็นคนที่จะได้อุ้มท้องสายเลือดของท่านชายเฉิน หลานคนแรกขององค์หญิงเหมยเจียง""ก็แค่หลับนอนด้วยกันเท่านั้น ที่ผ่านมาท่านพี่เฟยอวี่ก็หลับนอนกับสตรีทั้งเมืองหลวง อย่าสำคัญตัวไปหน่อยเลย" สือเหนียงหันมาพูดเสียงแหลมปากสั่นดวงตาวาวโล้ด นางโกรธจนไม่อาจเก็บอารมณ์ไหว "เขา ..พี่เฟยอวี่อยากได้ลูกจากเจ้าเพราะอยากได้สิทธิ์ในเหมืองทองชิงห

DMCA.com Protection Status