ไม่รู้เพราะอะไร ตอนที่ไม่ได้เห็นอ๋องเจวี้ยน ไห่ฉางจวิ้นรู้สึกว่าซือถูไป๋หล่อเหลาไร้เทียมทาน แต่พออ๋องเจวี้ยนปรากฎตัว นางก็รู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนท่วงท่าชนะขาดลอยถึงแม้อ๋องเจวี้ยนจะสวมหน้ากากจนมองไม่เห็นใบหน้าของเขา แต่ท่วงท่าของเขาที่แสดงออกมานั้น ก็ยังเป็นเป็นประเภทที่จะมองท่วงท่าหรือมองรูปร่างหน้าตาก็ยังเป็นชายงามไร้เทียมทานไห่ฉางจวิ้นมองจ้องไปที่อ๋องเจวี้ยน"ข้าคิดจะเดิมพันกับฟู่จาวหนิง! ถ้าหากนางแพ้ ข้าต้องการให้ท่านอยู่กับข้าสามวัน"เพราะฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้เดินออกมา จึงห่างจากกลุ่มคนมาพอประมาณ คนอื่นจึงไม่ได้ยินว่าพวกเขาทางนี้กำลังคุยอะไรกัน แต่พวกเขายืนกันอยู่ตรงนี้ก็ดึงดูดสายตามาก มีคนไม่น้องกำลังมองมาทางนี้"บังอาจ!"ชิงอีพอได้ยินคำพูดไห่ฉางจวิ้นก็โกรธขึ้นมาแล้ว"ข้าไม่ได้จะเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนเสียหน่อย ก็แค่ให้ท่านอ๋องของพวกเจ้ามาอยู่กับข้าสามวันก็พอ!"คำพูดไห่ฉางจวิ้นสั่นสะเทือนคนทั้งหมดนี่มันแม่นางที่มาจากไหนกันเนี่ย หนังหน้าทำไมจึงหนาขนาดนี้!ซือถูไป๋มองอ๋องเจวี้ยน สีหน้าอ่อนโยนแต่เดิมก็เก็บลงมาส่วนหนึ่งแล้ว อ๋องเจวี้ยนกลับไม่มองเขา แต่มองไปทางฟู่จาวหนิง"พระ
"พรวด"ฟู่จาวหนิงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่อาเพียนเองก็โมโหจนปากเบี้ยวไปแล้ว ถ้าไม่ใช่คุณชายไม่ให้เขาด่าคน เขาก็จะเอามือเท้าสะเอวด่าไห่ฉางจวิ้นเป็นหมาให้เลือดซิบไปเลยเห็นคุณชายของคนอื่นเป็นอะไรไปกัน?คนรอบๆ ไม่น้อยพอได้ยินคำพูดของไห่ฉางจวิ้น ก็ล้วนตกตะลึงกันจนทยอยสูดปาก"แม่หญิงคนนี้เป็นใครกัน?""ผิดศีลธรรม นี่มันผิดศีลธรรมชัดๆ"และมีคนไม่น้อยที่เห็นท่าทางไม่ยับยั้งชั่งใจแบบไห่ฉางจวิ้นมาจนชิน ส่ายหัวก่นด่าขึ้นมา"คุณหนูฟู่ ช้าน้อยเชื่อว่าท่านจะชนะ" ซือถูไป๋ยิ้มอบอุ่นให้ฟู่จาวหนิงขึ้นมา สายตาที่มองนางเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น "ดังนั้นข้าสามารถเป็นสิ่งเดิมพันให้ได้ ตัวข้าก็ส่งให้ท่านเลยแล้วกัน""คุณชาย" อาเพียนเบ้ปากคุณชายเชื่อมั่นฟู่จาวหนิงเช่นนี้เลยหรือ? ที่ไห่ฉางจวิ้นบอกว่าอยู่ด้วยกันนั่น แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่อยู่ด้วยกันแบบถูกต้อง! ถ้าเผื่อฟู่จาวหนิงแพ้ขึ้นมา ไม่ใช่ว่าคุณชายของตนเองจะกลายเป็นขายร่างกายตัวเองออกไปหรือ?มือที่ไพล่อยู่ด้านหลังอ๋องเจวี้ยนกำแน่นขึ้นมารู้ๆ อยู่ว่าฟู่จาวหนิงคือพระชายาอ๋องเจวี้ยน ซือถูไป๋ยังจะเรียกนางว่าคุณหนูฟู่อีก นี่จงใจใช่ไหม?เชื่อว่านาง
"ได้!"พอได้ยินของสองสิ่งที่ตนเองต้องการ ไห่ฉางจวิ้นก็กลับฟู่จาวหนิงจะเปลี่ยนใขจ จึงรีบร้อนรับคำขึ้นมา"แต่คุณชายซือถูไป๋กับผู้อาวุโสจี้ตามเจ้าไป พวกเขาห้ามช่วยเจ้า!"สองคนนี้คนหนึ่งเป็นผู้อาวุโสพันธมิตรโอสถใต้หล้า อีกคนหนึ่งเป็นคุณชายน้องโรงยาทงฝู รู้จักวัตถุดิบยามากมายแน่ๆผู้อาวุโสจี้ร้องเฮอะ"ข้าเป็นคนแบบนั้นหรือไรกัน?"ตัวเขาเองก็ไม่ชอบคนที่โกงชาวบ้านเขาอยู่แล้ว แล้วจะมาช่วยโกงให้ศิษย์ได้อย่างไรกัน?ซือถูไป่เองก็พูดขึ้นว่า "คุณหนูฟู่ชนะด้วยตนเองได้"ไห่ฉางจวิ้นสีหน้าปั้นยาก ซือถูไป๋นี่อย่างไรกัน? เชื่อมั่นเหลือเกินว่าฟู่จาวหนิงชนะแน่? นางมีอะไรดีกัน?ฮูหยินสามฟู่เล่าเรื่องฟู่จาวหนิงตั้งแต่เล็กจนโตให้นางฟัง ต่อให้นางช่วงนี้ฝากตัวเป็นศิษย์กับผู้อาวุโสจี้ เสริมเรื่องวัตถุดิบยาเข้ามาให้อย่างหนัก ในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะจำแนกของหายากออกมาได้ในช่วงเวลาสั้นๆวันนี้ของที่นำมาเดิมพันหมอเดิมพันวัตถุดิบยา ไม่ใช่วัตถุดิบยาทั่วไปแน่นอน"เช่นนั้นข้าจะให้คุณชายซือถูดูว่านางจะพ่ายแพ้ให้กับข้าอย่างไร"ไห่ฉางจวิ้นตัดสินใจจะโค่นล้มฟู่จาวหนิง ให้ซือถูไป๋เห็นความเก่งกาจของนาง
ดังนั้นนางชนะก็เท่ากับโรงหมอเมตตาที่ชนะ"ข้าจะแข่งขันกับฟู่จาวหนิง พวกเจ้าตอนนี้ถ้าจะมาเสียใจก็ไม่ทันแล้ว" ไห่ฉางจวิ้นเงยเชิดคางมองผู้อาวุโสจี้ "ถ้าพวกเจ้าขับไล่ฟู่จาวหนิงออกจากพันธมิตรโอสถใต้หล้า ข้าจะหันไปหาพันธมิตรโอสถใต้หล้าของพวกเจ้าแทน ช่วยพวกเจ้าเอาชนะการเดิมพันโอสถครั้งนี้""แม่นางอายุยังน้อย ก็ทำน้ำเสียงให้เป็นผู้น้อยหน่อย!" ผู้อาวุโสจี้หน้าถมึงทึง"แม่นางไห่อย่าล้อเล่นเช่นนี้สิ "หมอเทวดาหลี่รีบเดินเข้ามา "พันธมิตรโอสถใต้หล้าไม่ได้มีอะไรดีเลย""สกุลหลี่อย่างเจ้ามาเล่นสกปรกอีกแล้วรึ!" ผู้อาวุโสจี้พอเห้นผู้อาวุโสหลี่เดินเข้ามา แล้วยังพูดเช่นนี้กับไห่ฉางจวิ้นอีก ก็รู้แล้วว่าไห่ฉางจวิ้นจะต้องถูกเขาดึงเข้ามาแน่นอน"นี่มันเล่นสกปรกตรงไหนกัน?" หมอเทวดาหลี่มองผู้อาวุโสจี้ ผู้อาวุโสจี้คงยังไม่รู้จักตัวตนฐานะแท้จริงของไห่ฉางจวิ้นแน่นอนนักบุญหญิงเผ่าโม๋ลั่ว อันที่จริงก็ยังรู้จักวิชาแพทย์ของพวกเขาอยู่ด้วย ที่รักษาก็ล้วนเป็นพวกโรคแปลกๆ และสถานที่ต้องห้ามของเผ่าโม๋ลั่วทางนั้นก็มีวัตถุดิบยาขึ้นอยู่ไม่น้อย คนของโรงหมอเมตตาอย่างพวกเขาก็อยากจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเผ่าโม๋ลั่วเอาไว้ผ
"คนตั้งมากมายยังมองไม่ออก ข้าว่า พวกเจ้ามองออกสักสองสามอย่างก็ไม่แน่อาจจะชนะแล้วก็ได้"หมอเทวดาหลี่เอ่ยเสริมขึ้นมาอย่างตื่นเต้น "มีเวลาจำกัดนะ ครึ่งชั่วยาม นาฬิกาทรายวางไว้แล้ว"ฟู่จาวหนิงก็เพิ่งจะเห็นว่ามีแท่นหินอยู่ตัวหนึ่ง ด้านบนวางนาฬิกาทรายที่ทำจากแก้วเคลือบวางอยู่ ดูแล้วงามประณีตมากนาฬิกาทรายนี้ถ้าไหลหมดก็คือครึ่งชั่วยาม"เริ่มได้"ตอนที่คำว่าเริ่มต้นสองคำของผู้ดูแลเจียงพูดจบ ไห่ฉางจวิ้นรีบเดินตรงไปทางสองคนนั้นทันทีแต่นางเพิ่งจะออกเดิน ข้างกายก็ลมพัดผลิว ฟู่จาวหนิงแล่นผ่านตัวนางไป และรีบเดินตรงไปทางสองคนนั้นไห่ฉางจวิ้นพอเห็นก็ลนลานเข้าแล้ว ฟู่จาวหนิงน่าจะไม่รู้จักวัตถุดิบยาสองชนิดนั้นหรอกกระมัง?นางรีบใช้วิชาตัวเบาไล่ไปทันที แต่ว่านางก็คิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงยังไม่ทันเดินไปอยู่ด้านหน้าคนทั้งสอง แต่ก็ใช้นิ้วชี้ไปทางนั้นแต่ไกล เอ่ยขึ้นอย่างแจ่มชัดว่า"วัตถุดิบยาสองชนิดนั้นข้ารู้จัก ลำดับที่หกคือรากชิงเหริง ส่วนลำดับที่เจ็ดคือผงรัง"ลำดับที่หกกับเจ็ดล้วนเป็นหญิงสาว ทั้งสองคนพอได้ยินเสียงของฟู่จาวหนิงก็งงงันผู้ดูแลเจียงตาเป็นประกาย"รากชิงเหริง? ผงรัง? สิ่งนี้ในคัมภีร์
แค่มองผาดเดียวก็มองวัตถุดิบยาสองชนิดออกแล้วจริงหรือไห่ฉางจวิ้นสูดลมหายใจลึก จะโกรธไม่ได้ นางจะถูกความโกรธจนสับสนวุ่นวายไม่ได้ ที่นี่มีอยู่สิบแปดชนิด หายไปสองชนิดก็ยังมีอีกสิบหกชนิดเลย นางไม่เชื่อว่าตนเองจะมองไม่ออกนางถลึงตามองหญิงสาวจากในเผ่าทั้งสองคนผาดหนึ่งพวกนางจะต้องโพล่งออกมาตอนไหนแน่ๆ จนทำให้คนได้ยิน แล้วไปบอกกับฟู่จาวหนิงพอดี! กลับไปนางจะจัดการนังสารเลวสองคนนี้เสียหญิงสาวทั้งสองคนมองสายตาโหดเหี้ยมของนางก็ตกใจจนแข้งขาอ่อนจบแล้ว วิธีลงโทษของนักบุญหญิงนั้นโหดร้ายมาก พวกนางเกรงว่าคงต้องทิ้งชีวิตไปครึ่งหนึ่งเสียแล้ว"ถือว่าเจ้านำไปก่อนแล้วกัน" ไห่ฉางจวิ้นร้องเชอะ ตั้งใจไปมองวัตถุดิบยาชนิดอื่นทันทีหมอเทวดาหลี่ส่งสายตาให้กับคนหนึ่งในนี้ ชายตัวเตี้ยคนนั้นก็กระทืบเท้าขึ้นอย่างรู้สึกผิดอ่องเจวี้ยนสายตากวาดดูทั้งลาน และเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาในสายตา เขาขมวดคิ้ว ส่งสื่อเสียงบอกกับฟู่จาวหนิงทันที "ผู้ชายคนที่สามจากด้านซ้ายของเจ้า น่าจะถูกหมอเทวดาหลี่ซื้อตัวไว้แล้ว อาจจะมีคนบอกไห่ฉางจวิ้นไว้แล้วว่านั่นคือยาอะไร"คำพูดนี้มีเพียงแค่ฟู่จาวหนิงที่ได้ยินฟู่จาวหนิงตกตะลึง แต่ก็ไม่ไ
"บังอาจ!"อ๋องเจวี้ยนตะคอกเสียงขรึม จงเจี้ยนข้างๆ ก็ลงมือแล้วแต่ว่าพวกเขายังอยู่ห่างออกมาค่อนข้างไกล ตอนที่จงเจี้ยนพุ่งออกไป ฟู่จาวหนิงเท้าสลับ จังหวะก้าวเดินแปลกประหลาด ฉากหลบฝ่ามือไห่ฉางจวิ้นไปเรียบร้อยและการหลบครั้งนี้ จงเจี้ยนก็เข้ามาถึงพอดี จงเจี้ยนชักกระบี่ออกจากฝักแล้ว แทงเข้าหาไห่ฉางจวิ้นอย่างไม่ปราณีฟู่จาวหนิงเพิ่งยืนมั่นคง ซือถูไป๋ก็มาถึงข้างตัวนางแล้ว ถามขึ้นอย่างกังวล "ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?""ไม่เป็นไร"ฟู่จาวหนิงรู้สึกได้ถึงสายตาร้อนแรงกวาดเข้ามา พอมองออกไป รู้สึกว่าเซียวหลันยวนกำลังมองขรึมหานาง"โรงหมอเมตตากับพันธมิตรโอสถใต้หล้าของพวกท่านจัดพิธีนี้ขึ้น แล้วอนุญาตให้มีคนมาทำตัวมาดร้ายในนี้ได้ด้วยหรือ?" เซียวหลันยวนเอ่ยกับหมอเทวดาหลี่กับผู้อาวุโสจี้เสียงขรึม"แน่นอนว่าไม่อนุญาต! มีเหตผลเช่นนี้เสียที่ไหนกัน! แพ้แล้วไม่ยอมรับหรือ?" ผู้อาวุโสจี้กระทืบเท้าร้องขึ้น "องครักษ์!"พันธมิตรโอสถใต้หล้าเองก็มีองครักษ์อยู่ด้วย มีคนหลายคนพุ่งเข้ามาทันที"หยุดมือ!" ผู้ดูแลเจียงเองก็โมโหแล้ว โบกมือเป็นสัญญาณให้องครักษ์ออกไปไห่ฉางจวิ้นไม่สนใจพวกเขาเลย วิทยายุทธ์ของนางอยู่เหนือ
"เจ้าจงใจยั่วโมโหนางหรือ?""นี่เป็นสิ่งที่คนทั้งหมดล้วนได้ยินมา คุณหนูฟู่ยังไม่ยอมรับอีกหรือ?" หมอเทวดาหลี่ร้องเชอะ จากนั้นมองไปทางผู้อาวุโสจี้ "ผู้อาวุโสจี้ เจ้าจะช่วยคนรู้จักโดยไม่สนเหตุผลเพราะฟู่จาวหนิงเป็นศิษย์ของเจ้าไม่ได้หรอกนะ"อ๋องเจวี้ยนค่อยๆ เดินเข้ามา เดินมาอยู่ข้างๆฟู่จาวหนิง คว้ามือของนางไว้ ถามขึ้นเสียงเย็นชา "ใครกันแน่ที่ยั่วโมโหใครก่อน? ไห่ฉางจวิ้นพอเจอหน้ากันก็คิดจะแย่งสามีพระชายาอ๋องเจวี้ยนของข้า นี่มันแค่การยั่วโมโหเสียที่ไหน? นี่มันเป็นการหยามหมิ่นไม่ใช่หรือ?"หา?ฟู่จาวหนิงเกือบจะสำลักออกมาแล้วนางไม่คิดเลยว่าเซียวหลันยวนจะเดินเข้ามาพูดประโยคนี้"ดังนั้น พระชายาของข้าก็แค่พูดอะไรที่น่าโมโหสักคำสองคำแล้วเป็นอะไรไป?" อ๋องเจวี้ยนเสียงขรึม สายตาที่มองไห่ฉางจวิ้นมีจิตสังหารอยู่ด้วยแต่ว่าจิตสังหารนี้กลับมีแค่ไห่ฉางจวิ้นที่มองออก ในใจนางตื่นเต้นขึ้นมา"พูดอีกก็ถูกนะ เมื่อครู่ข้าฟังคำพูดของไห่ฉางจวิ้น ไม่ใช่แค่อ๋องเจวี้ยนนะ นางยังอยากจะได้คุณชายซือถูอีกด้วย หน้าไม่อายเสียจริง!""ตอนที่ข้าได้ยินก็ตกใจแทบแย่"คนรอบๆ ล้วนเริ่มซุบซิบนินทาขึ้นมาแล้วไห่ฉางจวิ้นเดิมท
"พระชายา เอาข้าวเช้ากับน้ำร้อนมาให้แล้วขอรับ"เสียงของสืออีดังลอดเข้าาฟู่จาวหนิงเดินออกไป "วางไว้ตรงนั้นเลย เจ้าอย่าเข้ามานะ"พอเหลือบมองไป นางยังเห็นฟู่จิ้นเชินด้วย พวกเขาคนหนึ่งหิ้วน้ำร้อน คนหนึ่งถืออาหารเช้า"จาวหนิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?" ฟู่จิ้นเชินยืนนิ่ง ถึงแม้อยากจะเดินเข้ามา แต่ก็รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะไม่ให้เขาเข้าไป"ข้าไม่เป็นไร คนป่วยข้างนอกพวกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงถามถึงสองพี่น้องเสี่ยวเฟิงเสี่ยวยา พอรู้ว่าพวกเขาไม่เป็นไร นางจึงวางใจลงได้ถือว่าโชคดีจริงๆ ที่หญิงสาวคนนี้มาถึงหลังจากที่พวกเขาทำงานไปแล้วหลายวัน ตอนนี้คนอื่นๆ ปรับตัวได้แล้ว ทำงานกันได้สมเหตุสมผลหมดแล้ว รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรถ้าเป็นเมื่อสามวันก่อน พอนางออกห่าง คนป่ววยพวกนั้นก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร คงจะวุ่นวายกันไปหมดแน่"ผู้ช่วยหมอสามคนที่ใต้เท้าอันหามาก็เพิ่งมาถึง ข้าให้เสี่ยวเยว่นำพวกเขาไปแล้ว ข้าเห็นว่าพวกเขาเองก็มือไม้คล่องแคล่วทำงานได้ดีอยู่ เจ้าไม่ต้องกังวล""ได้ สืออี ไปดูทหารขุนพลบัญชาการกับผู้ประสบภัยคนอื่นที่สัมผัสกับป้าคนนี้หน่อย ระวังด้วยนะ" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"่ขอรับ"สืออี
อย่างในเวลานี้ คนเราจะลนลานหวาดกลัวกัน ถึงอย่างไรครอบครัวหญิงสาวคนนั้นก็ป่วยตายกันไปห้าคนแล้วนะ โอกาสตายสูงขนาดนี้ ใครจะไม่กล้วบ้าง?ถ้าเผื่อติดโรคแล้วต้องตายล่ะ..."เช่นนั้นศิษย์น้องหญิงรักษาโรคนี้ได้จริงไหม?" ต่งฮ่วนจือก็ตึงเครียดขึ้นมาแล้ว"เรื่องนี้นางยังไม่ได้บอก เพราะไม่ให้ใครเข้าไปเลย พวกเราตอนี้ก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร นางแค่บอกว่าไม่ต้องกังวล"แล้วจะไม่กังวลกันได้อย่างไร?ถึงแม้ฟู่จาวหนิงท้ายสุดจะรักษาโรคนี้ได้ แต่หลังจากระบาดไปจะต้องเป็นช่วงเวลาที่ลำบากมากช่วงหนึ่งแน่"เมืองเจ้อที่นี่เดิมทีก็น่าจะมีหมออยู่ไหม? พวกเขาไม่เข้ามาช่วยเลยหรือ?" ต่งฮ่วนจือถามรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงแค่คนเดียวมันเหนื่อยเกินไปอันเหนียนเล่าสถานการณ์ของหมอที่นี่กับเขาอันที่จริงสองวันนี้เขาก็หาตัวลูกศิษย์ที่อยู่ในโรงหมอแต่เดิมมาได้สามคนแล้ว ให้พวกเขาเก็บข้าวของแล้วมาช่วยกันที่นี่มีฟู่จาวหนิงคอยนำพวกเขา สำหรับพวกเขาถือเป็นโอกาสในการเรียนที่สุดยอดมาก"พรุ่งนี้เช้าจะมีผู้ช่วยหมอสามคนเข้ามา พวกเขาจะมากน้อยก็มีพื้นฐานอยู่บ้าง ถึงตอนนั้นยังสามารถช่วยเหลือได้""เป็นแค่ผู้ช่วยหมอ ศิษย์น้องหญิงค
"พระชายา" สืออีกังวลมาก มองฟู่จาวหนิงที่นั่งอยู่บนเตียงหลัวฮั่นข้างหน้าต่าง "ท่านจะทำอย่างไร?"หรือว่านางจะอยู่เฝ้าที่นี่ตลอดกัน?ในเมื่อโรคนี้อันตรายขนาดนี้ พระชายาต่างหากถึงจำเป็นต้องมีการคุ้มครองมากที่สุด"อีกเดี๋ยวข้าจะไปห้องข้างๆ ไม่ได้อยู่ที่นี่เฝ้าทั้งคืนหรอก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น "ไม่ต้องกังวล"ตอนกลางคืนที่นางอยู่คนเดียวก็เข้าไปในห้องเภสัช หลายวันช่วงนี้นางล้วนนอนอยู่ในห้องเภสัช ถึงอย่างไรก็เป็นสถานที่ของตนเอง ต้องดีกว่าห้องรับแขกที่จัดขึ้นชั่วคราวมากอยู่แล้วตอนนี้มีโรคที่ระบาดได้ นางมานอนอยู่ในมิติของตนเองประสิทธิภาพในการกักกันก็ยิ่งดีกว่า"แล้วพระชายากินข้าวหรือยัง?" สืออีถาม"อีกเดี๋ยวจะกิน""ข้าจะไปนำอาหารมาให้ จะเอามาเยอะหน่อย พระชายาจะได้กินให้มากอีกนิด""ดีเลย"สืออีออกไปแล้ว พอเห็นสือซานที่อยู่ข้างๆ ประตูวงกลม "ให้คนมาเปลี่ยนกับเจ้าคืนนี้""ไม่ ข้าเฝ้าเองยังวางใจกว่า" สือซานกลับไม่ยอมฟู่จาวหนิงให้เขาเฝ้าที่นี่ไม่ปล่อยให้ใครเข้าไป ใจเขาก็ไม่ค่อยสงบแล้ว ว่ามีโรคร้ายอะไรที่ทำให้พระชายาต้องระมัดระวังขนาดนี้?นางไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้ แล้วตัวนางเองล่ะ?สืออีเองก
ไข้หวัดปกติก็สามารถระบาดได้ แต่นางไม่ได้ให้คนทำการกักกันดังนั้นตอนนี้พอได้ยินว่าไปที่ห้องผู้ป่วยนั้น อันเหนียนก็เข้าใจความหมายขึ้นมาทันที"นางอยู่ที่นั่นคนดียวหรือ? น้ำเสียงเขาเครียดขึ้นมา"และการเปลี่ยนท่าทีเช่นนี้ของอันเหนียน ต่งฮ่วนจือก็สัมผัสได้แล้วอย่างชัดเจนเขามองอันเหนียน จากนั้นก็มองฟู่จิ้นเชิน "เกิดอะไรขึ้นหรือ? ห้องผู้ป่วยนั่นมีอะไรผิดปกติไหม?""ก่อนหน้านี้มีไป๋หู่กับเสี่ยวเยว่ส่งคนไปที่นั่น ตอนนี้มีฟู่จาวหนิงอยู่คนเดียว" ฟู่จิ้นเชินไม่ได้ตอบคำถามต่งฮ่วนจือแต่ต่งฮ่วนจือก็มองออก ว่าในสายตาเขามีความกังวลขึ้นมาเต็มที่เพียงแต่ชายหนุ่มสองคนนี้ล้วนเป็นพวกไม่ค่อยเผยอารมณ์ออกมาเท่าไรนัก เป็นคนที่หนักแน่นใจเย็นมาก ดังนั้นเขาเองก็พิจารณาถึงความหนักหนาได้ลำบากอันเหนียนยกเท้าไปทางนั้นทันที"ใต้เท้าอัน"ฟู่จิ้นเชินจับแขนเขาไว้ สายตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย น้ำเสียงเองก็กดลงมาอันเหนียนได้สติกลับมาในพริบตา ยืนนิ่งไปแล้ว"นางกำชับอะไรไว้ไหม? ทำตามที่นางว่าเลย" เสียงอันเหนียนเรียบสงบแต่ว่า ฟู่จิ้นเชินมองเขาลึกๆรู้อยู่แท้ๆ ว่าห้องผู้ป่วยนั้นเป็นตัวแทนของอะไร ขนาดตัวเขาฟู่จาวหนิง
อันเหนียนวันนี้พอวุ่นเสร็จ ก็พาคนหนึ่งมาที่โรงหมอฟู่จิ้นเชินเห็นคนที่เข้ามาก็รู้สึกเกินคาด"ผู้จัดการใหญ่ต่ง?"ต่งฮ่วนจือมาแล้ว"คุณชายฟู่"หลังจากต่งฮ่วนจือเข้ามา ด้านหลังก็ยังมีคนอีกหลายคน แบกวัตถุดิบยาเข้ามาหลายหามใหญ่ย่ิงไปกว่านั้นหลังจากพวกเขาวางลง ก็ออกไปแบกรอบที่สอง"นี่คือ?"อันเหนียนเอ่ยต่อให้ "ผู้จัดการใหญ่ต่งขนวัตถุดิบยาเข้ามาให้โดยเฉพาะ พระชายาสองวันก่อนไม่ใช่ว่าเข้าไปหาผู้ดูแลทางนี้มาหรอกหรือ? บอกวัตถุดิบยาที่ขาดกับผู้ดูแลพันธมิตรโอสถไป บอกว่าจะควักเงินจ่ายเอง ให้เขาคิดหาวิธีหน่อย""ไวขนาดนี้ ผู้จัดการใหญ่ต่งก็ได้รับข่าวแล้วหรือ?"เพิ่งจะสองวันเอง เป็นไปได้อย่างไรกัน?จากเมืองหลวงมานี่ยังต้องใข้ตั้งหลายวันพอคำนวณเวลา ต่งฮ่วนจือพอพวกเขาออกเดินทางได้สองวันก็คงจัดการแล้ว"อันที่จริงผู้ดูแลทางนี้ก็เขียนจดหมายถึงข้านานแล้ว บอกสถานการณ์ของทางนี้ ดังนั้นพวกเราจึงจัดการโยกวัตถุดิบยาจากที่อื่นเข้ามาก่อน แค่ยังไม่รู้ว่าต้องส่งไปที่ไหน แค่เตรียมการไว้ก่อน"ต่งฮ่วนจือก็เร่งเดินทางมาหลายวัน สีหน้าอ่อนล้า แต่ก็ยังอธิบายออกมา"ข้าเคยบอกกับศิษย์น้องหญิงแล้ว วัตถุดิบยาสำห
ฟู่จาวหนิงรีบพูดออกมาคำหนึ่ง จากนั้นจึงหยิบเข็มออกมา รีบปักเข็มสกัดไอให้หญิงสาวไปหลายเข็มทางเดินหายใจ ปอด นางเรียนวิชาเข็มที่สามารถหยุดชะงักการไอได้ชั่วคราว ได้ใช้เสียทีหญิงสาวที่เดิมทีไอจนจะเป็นจะตายก็พบว่าตนเองหยุดไอแล้วนางมองฟู่จาวหนิง รู้สึกเหมือนได้เจอกับพระโพธิสัตว์ตัวเป็นๆ"เจ้านอนดีดี ข้าจะจับชีพจรให้ แล้วจะถามคำถามเจ้า เจ้าผ่อนคลายหน่อย""ได้ ได้"หญิงสาวเมื่อครู่ไอจนแทบไม่ไหวแล้วจริงๆ ตอนนี้แม้จะหยุดไอแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกแย่อยู่ฟู่จาวหนิงจับชีพจรให้นางอย่างละเอียด ใจดำดิ่งเป็นไข้หวัดใหญ่รุนแรงจริงๆ ด้วยที่นี่ยังไม่มีแยกชนิดเอหรือบี แต่ว่าชีพจรของหญิงสาวก็ไม่ค่อยจะเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ของผู้ป่วยทั่วไปที่รักษาไปช่วงนี้ แตกต่างอยู่หน่อยๆนางหยิบปืนวัดไข้ ปิดตาหญิงสาวไว้ แล้ววัดที่หน้าผากนางอย่างรวดเร็ว มองตัวเลขจากนั้นจึงรีบเก็บเข้าไปนคลังสกัดยามีของบางอย่างที่ใช้ได้รวดเร็ว นางเองก็ไม่ได้ยึดติดว่าห้ามใช้เด็ดขาดสี่สิบองศามีไข้ถึงสี่สิบองศาเชียวดวงตาของหญิงสาวแดงหน่อยๆ ริมฝีปากเองก็แดงผิดปกติ"เจ้าเข้าเมืองมาตอนไหน?" ฟู่จาวหนิงถาม"เข้าเมืองมาวันนี้ตอนกลางว
ยาต้มหกประสาทเอาไว้ป้องกันไข้หวัดรุนแรงฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้เจอักบคนป่วยคนหนึ่ง จากที่เขาบรรยาย ระหว่างทางที่หนีภัยพิบัติเจอเข้ากับครอบครัวหนึ่ง ล้วนเป็นหวัดกันหมด ไออย่างรุนแรง เดิมทีเดินทางด้วยกันแค่ไม่กี่วัน ผลลัพธ์คือครอบครัวนั้นแค่ไม่กี่วันก็ทยอยกันล้มตายไปล้วสามคนเดิมทีพวกเขายังคิดว่าเป็นแค่หวัด ทนเอาเสียหน่อย ต้มน้ำร้อนกินก็น่าจะไหว ครอบครัวนั่นบอกว่าระหว่างทางยังขุดหาสมุนไพรมากิน แต่ก็ทนกันไม่ไหวคนป่วยนี้บอกว่าเขาเห็นสถานการณ์นี้แล้วก็หวั่นขึ้นในใจ ไม่กล้าอยู่ใกล้พวกเขานัก แม้จะไปทางเดียวกัน แต่ก็ยังเว้นระยะห่างไว้ค่อนข้างมากครอบครัวนั้นสุดท้ายก็รั้งท้ายอยู่ไกล ไม่รู้ว่าเข้าเมืองแล้วหรือยังตอนนี้มองเห็นรองเท้าที่เก่าขาดบนเท้าของหญิงสาวคนนี้ แล้วบนหัวยังมีผ้าขาวผืนเล็กผืนหนึ่งผูกไว้ นางก็ไม่รู้เพราะอะไรจึงนึกถึงครอบครัวนั้นขึ้นมา"ให้สืออีไปถาม ว่าหญิงสาวคนนี้มาจากทางไหน แล้วก็ถามด้วยว่านางสัมผัสกับใครบ้าง จัดการเอาคนเหล่านี้แยกตัวออกมาก่อน"ฟู่จาวหนิงเปิดกล่องยาพลางถอยออกมาบอกกับไป๋หู่"อ้อ แล้วก็ให้สืออีป้องกันก่อนแล้วค่อยไป หาอยู่กับคนเหล่านั้นใกล้นัก จำเรื่องที่
ฟู่จาวหนิงเองก็กำลังคิดถึงปัญหานี้"แต่ว่าตงฉิงล่มสลายหายไปนานแล้ว" นางเอ่ยขึ้นทั้งสองคนนิ่งต่อไปครู่หนึ่งและเพราะล่มสลายไปแล้วจริงๆ ตอนนี้พูดเรื่องนี้ก็ไม่มีความหมายเท่าไรแล้วที่ฟู่จาวหนิงไม่ได้พูดก็คือ เซียวหลันยวนส่งหลานหรงไปค้นหาคนกับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับตงฉิงมาตลอด แล้วยังไปที่ซากปรักหักพังเก่าของตงฉิงมาแล้วด้วยมีฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวที่เคยไปแล้วคอยชี้ทาง บางทีไม่นานนัก พวกเขาก็น่าจะพบอะไรบ้าง"เรื่องนี้ ข้ากลับไปจะบอกท่าน" ฟู่จาวหนิงเอ่ยตอบ"ทูตแคว้นหมิ่นมาแคว้นเจาครั้งนี้ ไม่รู้ว่ามีเป้าหมายอะไร แต่ข้าก็รู็สึกว่าน่าจะมาอย่างไม่เป็นมิตร"มาอย่างไม่เป็นมิตร?ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แคว้นหมิ่นส่งของมากมายเข้ามา ฟู่จิ้นเชินกลับบอกว่าพวกเขามาอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรหรือ?แต่นางเองก็ไม่ค่อยสันทัดกับเรื่องพวกนี้ ถึงอย่างไรนางก็เก่งในการรับมือปัญหาเฉพาะหน้ามาตลอดทั้งสองคนยังจะพูดอะไรต่อ แต่เสี่ยวยาก็วิ่งเข้ามา ร้องเรียกนางอย่างร้อนรน"พี่ฟู่ มีป้าคนหนึ่งเป็นล้มที่ประตู เสี่ยวยาประคองนางไม่ไหว!"พี่น้องเสี่ยวยาทั้งสองคนหลายวันนี้พักฟื้นอยู่ที่นี่ หลังจากแผลบนห
"ต้นผลอายุวัฒนะ?"ฟู่จาวหนิงพอเห็นสิ่งนี้ก็รู้สึกประหลาดใจ ไม่คิดว่าจะมีของแบบนี้อยู่จริงๆ?"ต้นผลอายุวัฒนะอะไร?" ฟู่จิ้นเชินเดินเข้ามาฟู่จาวหนิงส่งจดหมายให้เขา ครั้งนี้จดหมายของเซียวหลันยวนเขียนถึงสี่หน้า หน้าสุดท้ายคือคำรักที่เขาให้คนอื่นเห็นไม่ได้ แต่สามหน้าด้านหน้า ฟู่จาวหนิงไม่ติดใจที่จะให้ฟู่จิ้นเชินเห็นและเพราะในช่วงหลายวันนี้นางคุยกับคนป่วยมาก วันๆ วุ่นจนไม่ได้ดื่มน้ำ คอเองก็ปวดขึ้นมาหน่อยๆ กล่องเสียงก็แหบพร่า ตอนนี้พูดได้น้อยเท่าไรก็จะยิ่งดีอธิบายขึ้นมาต้องพูดหลายประโยคฟู่จิ้นเชินลิงโลดในใจถึงอย่างไรฟู่จาวหนิงก็ไม่เลี่ยงเขาแล้ว ยังเอาจดหมายของเซียวหลันยวนมาคุยกับเขาได้ น่าจะอธิบายได้ว่านางเองก็เริ่มเชื่อใจเขาขึ้นมาแล้วไม่เสียแรงที่ตามนางมาถึงเมืองเจ้อเพียงแต่ว่า ฟู่จาวหนิงกลับคิดไม่ถึง ว่าเขาอ่านจดหมายถเสร็จก็ให้คำตอบยืนยันกับนางมา"ผลอายุวัฒนะ มีอยู่จริงๆ มีบทบาทการบำรุงและการรักษามาก"ฟู่จาวหนิงตกตะลึง "ท่านรู้จักหรือ?"ยืนยันมาได้ขนาดนี้ เขาคงไม่ได้เคยเห็นมาก่อนหรอกนะ?"เจ้าจำเรื่องที่ข้ากับแม่เจ้าไปที่ตงฉิงมาก่อนได้ไหม?""อืม"พวกเราเดิมทีไม่ได้จะตรงไ