ดังนั้นนางชนะก็เท่ากับโรงหมอเมตตาที่ชนะ"ข้าจะแข่งขันกับฟู่จาวหนิง พวกเจ้าตอนนี้ถ้าจะมาเสียใจก็ไม่ทันแล้ว" ไห่ฉางจวิ้นเงยเชิดคางมองผู้อาวุโสจี้ "ถ้าพวกเจ้าขับไล่ฟู่จาวหนิงออกจากพันธมิตรโอสถใต้หล้า ข้าจะหันไปหาพันธมิตรโอสถใต้หล้าของพวกเจ้าแทน ช่วยพวกเจ้าเอาชนะการเดิมพันโอสถครั้งนี้""แม่นางอายุยังน้อย ก็ทำน้ำเสียงให้เป็นผู้น้อยหน่อย!" ผู้อาวุโสจี้หน้าถมึงทึง"แม่นางไห่อย่าล้อเล่นเช่นนี้สิ "หมอเทวดาหลี่รีบเดินเข้ามา "พันธมิตรโอสถใต้หล้าไม่ได้มีอะไรดีเลย""สกุลหลี่อย่างเจ้ามาเล่นสกปรกอีกแล้วรึ!" ผู้อาวุโสจี้พอเห้นผู้อาวุโสหลี่เดินเข้ามา แล้วยังพูดเช่นนี้กับไห่ฉางจวิ้นอีก ก็รู้แล้วว่าไห่ฉางจวิ้นจะต้องถูกเขาดึงเข้ามาแน่นอน"นี่มันเล่นสกปรกตรงไหนกัน?" หมอเทวดาหลี่มองผู้อาวุโสจี้ ผู้อาวุโสจี้คงยังไม่รู้จักตัวตนฐานะแท้จริงของไห่ฉางจวิ้นแน่นอนนักบุญหญิงเผ่าโม๋ลั่ว อันที่จริงก็ยังรู้จักวิชาแพทย์ของพวกเขาอยู่ด้วย ที่รักษาก็ล้วนเป็นพวกโรคแปลกๆ และสถานที่ต้องห้ามของเผ่าโม๋ลั่วทางนั้นก็มีวัตถุดิบยาขึ้นอยู่ไม่น้อย คนของโรงหมอเมตตาอย่างพวกเขาก็อยากจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเผ่าโม๋ลั่วเอาไว้ผ
"คนตั้งมากมายยังมองไม่ออก ข้าว่า พวกเจ้ามองออกสักสองสามอย่างก็ไม่แน่อาจจะชนะแล้วก็ได้"หมอเทวดาหลี่เอ่ยเสริมขึ้นมาอย่างตื่นเต้น "มีเวลาจำกัดนะ ครึ่งชั่วยาม นาฬิกาทรายวางไว้แล้ว"ฟู่จาวหนิงก็เพิ่งจะเห็นว่ามีแท่นหินอยู่ตัวหนึ่ง ด้านบนวางนาฬิกาทรายที่ทำจากแก้วเคลือบวางอยู่ ดูแล้วงามประณีตมากนาฬิกาทรายนี้ถ้าไหลหมดก็คือครึ่งชั่วยาม"เริ่มได้"ตอนที่คำว่าเริ่มต้นสองคำของผู้ดูแลเจียงพูดจบ ไห่ฉางจวิ้นรีบเดินตรงไปทางสองคนนั้นทันทีแต่นางเพิ่งจะออกเดิน ข้างกายก็ลมพัดผลิว ฟู่จาวหนิงแล่นผ่านตัวนางไป และรีบเดินตรงไปทางสองคนนั้นไห่ฉางจวิ้นพอเห็นก็ลนลานเข้าแล้ว ฟู่จาวหนิงน่าจะไม่รู้จักวัตถุดิบยาสองชนิดนั้นหรอกกระมัง?นางรีบใช้วิชาตัวเบาไล่ไปทันที แต่ว่านางก็คิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงยังไม่ทันเดินไปอยู่ด้านหน้าคนทั้งสอง แต่ก็ใช้นิ้วชี้ไปทางนั้นแต่ไกล เอ่ยขึ้นอย่างแจ่มชัดว่า"วัตถุดิบยาสองชนิดนั้นข้ารู้จัก ลำดับที่หกคือรากชิงเหริง ส่วนลำดับที่เจ็ดคือผงรัง"ลำดับที่หกกับเจ็ดล้วนเป็นหญิงสาว ทั้งสองคนพอได้ยินเสียงของฟู่จาวหนิงก็งงงันผู้ดูแลเจียงตาเป็นประกาย"รากชิงเหริง? ผงรัง? สิ่งนี้ในคัมภีร์
แค่มองผาดเดียวก็มองวัตถุดิบยาสองชนิดออกแล้วจริงหรือไห่ฉางจวิ้นสูดลมหายใจลึก จะโกรธไม่ได้ นางจะถูกความโกรธจนสับสนวุ่นวายไม่ได้ ที่นี่มีอยู่สิบแปดชนิด หายไปสองชนิดก็ยังมีอีกสิบหกชนิดเลย นางไม่เชื่อว่าตนเองจะมองไม่ออกนางถลึงตามองหญิงสาวจากในเผ่าทั้งสองคนผาดหนึ่งพวกนางจะต้องโพล่งออกมาตอนไหนแน่ๆ จนทำให้คนได้ยิน แล้วไปบอกกับฟู่จาวหนิงพอดี! กลับไปนางจะจัดการนังสารเลวสองคนนี้เสียหญิงสาวทั้งสองคนมองสายตาโหดเหี้ยมของนางก็ตกใจจนแข้งขาอ่อนจบแล้ว วิธีลงโทษของนักบุญหญิงนั้นโหดร้ายมาก พวกนางเกรงว่าคงต้องทิ้งชีวิตไปครึ่งหนึ่งเสียแล้ว"ถือว่าเจ้านำไปก่อนแล้วกัน" ไห่ฉางจวิ้นร้องเชอะ ตั้งใจไปมองวัตถุดิบยาชนิดอื่นทันทีหมอเทวดาหลี่ส่งสายตาให้กับคนหนึ่งในนี้ ชายตัวเตี้ยคนนั้นก็กระทืบเท้าขึ้นอย่างรู้สึกผิดอ่องเจวี้ยนสายตากวาดดูทั้งลาน และเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาในสายตา เขาขมวดคิ้ว ส่งสื่อเสียงบอกกับฟู่จาวหนิงทันที "ผู้ชายคนที่สามจากด้านซ้ายของเจ้า น่าจะถูกหมอเทวดาหลี่ซื้อตัวไว้แล้ว อาจจะมีคนบอกไห่ฉางจวิ้นไว้แล้วว่านั่นคือยาอะไร"คำพูดนี้มีเพียงแค่ฟู่จาวหนิงที่ได้ยินฟู่จาวหนิงตกตะลึง แต่ก็ไม่ไ
"บังอาจ!"อ๋องเจวี้ยนตะคอกเสียงขรึม จงเจี้ยนข้างๆ ก็ลงมือแล้วแต่ว่าพวกเขายังอยู่ห่างออกมาค่อนข้างไกล ตอนที่จงเจี้ยนพุ่งออกไป ฟู่จาวหนิงเท้าสลับ จังหวะก้าวเดินแปลกประหลาด ฉากหลบฝ่ามือไห่ฉางจวิ้นไปเรียบร้อยและการหลบครั้งนี้ จงเจี้ยนก็เข้ามาถึงพอดี จงเจี้ยนชักกระบี่ออกจากฝักแล้ว แทงเข้าหาไห่ฉางจวิ้นอย่างไม่ปราณีฟู่จาวหนิงเพิ่งยืนมั่นคง ซือถูไป๋ก็มาถึงข้างตัวนางแล้ว ถามขึ้นอย่างกังวล "ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?""ไม่เป็นไร"ฟู่จาวหนิงรู้สึกได้ถึงสายตาร้อนแรงกวาดเข้ามา พอมองออกไป รู้สึกว่าเซียวหลันยวนกำลังมองขรึมหานาง"โรงหมอเมตตากับพันธมิตรโอสถใต้หล้าของพวกท่านจัดพิธีนี้ขึ้น แล้วอนุญาตให้มีคนมาทำตัวมาดร้ายในนี้ได้ด้วยหรือ?" เซียวหลันยวนเอ่ยกับหมอเทวดาหลี่กับผู้อาวุโสจี้เสียงขรึม"แน่นอนว่าไม่อนุญาต! มีเหตผลเช่นนี้เสียที่ไหนกัน! แพ้แล้วไม่ยอมรับหรือ?" ผู้อาวุโสจี้กระทืบเท้าร้องขึ้น "องครักษ์!"พันธมิตรโอสถใต้หล้าเองก็มีองครักษ์อยู่ด้วย มีคนหลายคนพุ่งเข้ามาทันที"หยุดมือ!" ผู้ดูแลเจียงเองก็โมโหแล้ว โบกมือเป็นสัญญาณให้องครักษ์ออกไปไห่ฉางจวิ้นไม่สนใจพวกเขาเลย วิทยายุทธ์ของนางอยู่เหนือ
"เจ้าจงใจยั่วโมโหนางหรือ?""นี่เป็นสิ่งที่คนทั้งหมดล้วนได้ยินมา คุณหนูฟู่ยังไม่ยอมรับอีกหรือ?" หมอเทวดาหลี่ร้องเชอะ จากนั้นมองไปทางผู้อาวุโสจี้ "ผู้อาวุโสจี้ เจ้าจะช่วยคนรู้จักโดยไม่สนเหตุผลเพราะฟู่จาวหนิงเป็นศิษย์ของเจ้าไม่ได้หรอกนะ"อ๋องเจวี้ยนค่อยๆ เดินเข้ามา เดินมาอยู่ข้างๆฟู่จาวหนิง คว้ามือของนางไว้ ถามขึ้นเสียงเย็นชา "ใครกันแน่ที่ยั่วโมโหใครก่อน? ไห่ฉางจวิ้นพอเจอหน้ากันก็คิดจะแย่งสามีพระชายาอ๋องเจวี้ยนของข้า นี่มันแค่การยั่วโมโหเสียที่ไหน? นี่มันเป็นการหยามหมิ่นไม่ใช่หรือ?"หา?ฟู่จาวหนิงเกือบจะสำลักออกมาแล้วนางไม่คิดเลยว่าเซียวหลันยวนจะเดินเข้ามาพูดประโยคนี้"ดังนั้น พระชายาของข้าก็แค่พูดอะไรที่น่าโมโหสักคำสองคำแล้วเป็นอะไรไป?" อ๋องเจวี้ยนเสียงขรึม สายตาที่มองไห่ฉางจวิ้นมีจิตสังหารอยู่ด้วยแต่ว่าจิตสังหารนี้กลับมีแค่ไห่ฉางจวิ้นที่มองออก ในใจนางตื่นเต้นขึ้นมา"พูดอีกก็ถูกนะ เมื่อครู่ข้าฟังคำพูดของไห่ฉางจวิ้น ไม่ใช่แค่อ๋องเจวี้ยนนะ นางยังอยากจะได้คุณชายซือถูอีกด้วย หน้าไม่อายเสียจริง!""ตอนที่ข้าได้ยินก็ตกใจแทบแย่"คนรอบๆ ล้วนเริ่มซุบซิบนินทาขึ้นมาแล้วไห่ฉางจวิ้นเดิมท
ไม่มีคนกล้ารับไม่มีใครกล้าขึ้นมาหมอเทวดาหลี่มองทางนี้มองทางนั้น จากนั้นก็ส่งสายตากับศิษย์ที่ตนเองภาคภูมิใจ แต่ว่าศิษย์ก็ส่ายหัวอย่างดูไม่ได้ เขายอมรับว่ามองออกได้ไม่มากขนาดนั้นตัวเขาเองก็มองออกขนาดนั้นไม่ได้!หมอเทวดาหลี่ยังดิ้นรนกระเสือกกระสนต่อ "เป็นชื่อยาที่เจ้าแต่งขึ้นมาเองหรือเปล่า""มา ข้าอธิบายคุณสมบัติยาให้ท่านฟังได้ทีละอย่างทีละอย่างเลย" ฟู่จาวหนิงเอียงหัวยิ้ม จากนั้นก็พูดต่อมาว่า "แต่ว่าถือดีอะไร?"เขาไม่ใช่เจ้าของทั้งพิธีเดิมพันโอสถเสียหน่อยผู้ดูแลเจียงมองหมอเทวดาหลี่ รู้สึกว่าเขาทำลายหน้าตาโรงหมอเมตตาเสียจนป่นปี้ไปแล้วผู้อาวุโสจี้เองก็ร้องเชอะอย่างโกรธเคือง "มาๆๆ ถ้ามีฝีมือเจ้าให้ซือถูไป๋ไปดูด้วยก็ได้ ไม่ต้องวัตถุดิบยาทั้งหมดหรอก เขามองออกสักสามสี่อย่างก็พอแล้ว เจ้าเด็กน้อยซือถู เจ้าลองว่ามา เมื่อครู่ที่ศิษย์ของข้าพูดชื่อยามาเหล่านั้นใช่แต่งขึ้นมาเองไหม?"ซือถูไป๋ส่ายหัว"ไม่ใช่ วัตถุดิบยามากขนาดนี้ ข้าเองก็มองออกแค่เจ็ดอย่าง และเจ็ดอย่างนี้ คุณหนูฟู่ก็พูดออกมาถูกต้อง"ผู้อาวุโสจี้มองหมอเทวดาหลี่ "ได้ยินแล้วหรือยัง? เจ้าหนูซือถูเป็นศัตรูคู่แค้นกับพันธมิตรโอส
ที่แท้เขาก็กลัวว่านางจะทำเขาขายหน้าเท่านั้นหรือ?ชิงอีตามอยู่ด้านหลังพอได้ยินก็อยากจะถอนหายใจออกมาเสียจริงท่านอ๋อง ตอนที่พระชายาเอาชนะไห่ฉางจวิ้นเมื่อครู่ ข้าน้อยก็เห็นว่ามุมปากของท่านแทบจะฉีกยิ้มขึ้นฟ้าอยู่แล้ว ตอนที่พระชายาบอกชื่อวัตถุดิบยาออกมาเก้าชนิด สายตาของท่านใต้หน้ากากนั่นเปล่งแสงแล้ว แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาพูดจาเย็นชาใส่พระชายากันล่ะ?"เฮอะ ในเมื่อท่านอ๋องกังวลที่จะถูกข้าทำให้ขายหน้าขนาดนี้ เช่นนั้นก็พิจารณาเรื่องหย่าเสียหน่อยไหม?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"หย่า? ข้าก็แค่ไม่ต้องการภรรยาแล้วเท่านั้น ไม่ได้คิดจะหย่าเสียหน่อย"พอได้ยินว่านางเอาคำว่าหย่ามาแขวนไว้ข้างปาก น้ำเสียงของอ๋องเจวี้ยนก็ยิ่งเย็นขึ้นไปอีก"เช่นนั้นข้าไม่ต้องการท่านแค่นี้ก็ได้" ฟู่จาวหนิงปะทะกลับเข้ามา"แล้วเจ้าถือดีอย่างไรถึงจะไม่ต้องการสามีได้?"ฟู่จาวหนิงรีบเดินออกไป ขี้เกียจจะพล่ามไร้ประโยชน์กับเขาแล้วพูดดีดีกับเซียวหลันยวนไม่ได้เอาเสียเลย!อ๋องเจวี้ยนมองแผ่นหลังนาง เดินตามนางอย่างไม่เร่งไปช้าไป"ตอนนี้ผู้นำตระกูลหลายคนอยู่ระหว่างทางมาเมืองหลวงแล้ว ตอนที่พวกเขามอบสิ่งยืนยันเจ้ายังต้องอยู่ด้วย
เซียวหลันยวนต่อต้านไม่ได้จริงๆสูบเลือด? พอได้ยินก็รู้สึกว่าน่ากลัว เพราะเขานั้นไม่ดีามาตั้งแต่ในครรภ์แล้ว หลายปีมานี้ร่างกายก็อ่อนแอมาตลอด เลือดลมไม่เพียงพอครั้งนั้นหลังจากบาดเจ็บติดพิษมาเลือดลมทั้งสองอย่างก็พังลงจนแทบจะใช้ชีวิตต่อไม่ไหว หลังจากนั้นเลือดทุกหยดบนตัวเขาก็ล้ำค่าอย่างมากทุกครั้งที่ไอจนเลอืดออกก็แทบจะทำให้คนข้างๆ ตกใจแทบแย่ตอนนี้ฟู่จาวหนิงจะสูบเลือดของเขาออกมาหรือชิงอีเองก็กังวลขึ้นมา "พระชายา ต้องสูบเลือดออกมาแค่ไหน?""อืม ก็น่าจะซักเจ็ดถึงแปดส่วนของแก้วใบนั้นกระมัง" ฟู่จาวหนิงตัดสินใจจะสูบออกมาสักหกหลอดพิษของเซียวหลันยวนแปลกประหลาดเหลือเกิน นางยังไม่รู้ว่าพิษอะไรกันแน่ที่ทำให้ตอนที่เขาอาการกำเริบแล้วจะเย็นไปทั้งตัวจนเหมือนคนตายเช่นนี้ต่อให้ไม่ใช่เพื่อรักษาเขา นางก็ยังรู้สึกสนใจต่อพิษชนินี้มาก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องค้นคว้าออกมาให้ได้ว่ามันคืออะไร"มากขนาดนั้นเลยหรือ?!" ชิงอีมองถ้วยชาใบนั้น ตกใจสะดุ้งโหยง"เจ้า..." เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนแรง "เจ้าคิดจะล้างแค้นหรือ?"ปกติเขาไอเป็นเลือดหนึ่งครั้งร่างกายก็อ่อนแอลงมามาก ตอนนี้นางกลับจะสูบเลือดมากขนาดนั้นเชี