"อืม ได้"องครักษ์ที่ไปรายกลับเข้ามา คารวะแก่ฟู่จาวหนิง ดูลังเลหน่อยๆ แต่ก็พูดออกมา"พระชายา ท่านอ๋องบอกว่าปวดหัวนิดหน่อย ขอตัวพักผ่อน รอตอนอาหารค่ำแล้วจะออกมาอีกครั้ง ให้ท่านได้พักผ่อนเสียก่อน"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินก็เหมือนถูกสาดน้ำเย็นใส่ ทำเอานางเปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้า"อย่างนั้นหรือ? ปวดหัวสินะ?"นางมองชิงอี ชิงอีเล่นละครไม่เป็น พอเจอกับสายตาของนางก็ดูจะหลบหน่อยๆนางเองก็มองเข้าใจแล้วปวดหัวอะไรกัน หลอกกันทั้งเพขี้เกียจจะออกมารับนางมากกว่า หรือก็คือ ไปเจออะไรเข้าจนรู้สึกว่าต้องขีดเส้นกั้นกับนางแล้วกระมัง?หรืออาจจะไม่ซับซ้อนขนาดนั้น ก็แค่เพราะแยกกันไประยะหนึ่ง ความรู้สึกก็จืดจางลงไปแล้วหรือ?"เขาให้ข้าไปพักผ่อนก่อนใช่ไหม?""ขอรับ ขอรับ" องครักษ์ลนลานขึ้นมา รุ้สึกวา่กลิ่นอายของพระชายาดูเย็นวาบลงมาทันที ทำเอาพวกเขายังรู้สึกเสียวสันหลังวาบท่านอ๋องเล่นอะไรอีกล่ะเนี่ย?"เช่นนั้นก็รบกวนด้วย นำทางเถิด"ฟู่จาวหนิงบอกกับสืออี "พวกเจ้าไปจัดแจงให้กับไป๋หู่ด้วย เสี่ยวชิ่นไปกับข้า""ขอรับ"ห้องที่จัดให้ฟู่จาวหนิงนั้นเงียบและดูสง่างามมาก มองออกว่าทำความสะอาดอย่างละเอียด ไม่มีฝุ่
"ตอนนั้นคุณชายซือถูกำลังพูดกับพระชายาอยู่ในเรือน คุณชายซือถูพบตัวข้าน้อย หลังจากข้าน้อยปรากฏตัวเขาก็เข้าขวางพระชายาไว้ข้างหลังทันที"เซียวหลันยวนพอได้ยินตรงนี้ ก็รุ้สึกใจดิ่งขึ้นมาอีกทีดังนั้น พวกเขาเข้ากันได้ดีอยู่หรือ?"เพราะเรื่องที่ท่านอ๋องมายังเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อจะเอิกเกริกไม่ได้ ดังนั้นข้าน้อยจึงเชิญให้พระชายาเข้ามาพุดคุยด้วย บอกว่าท่านอ๋องมาที่นี่แล้ว พระชายาก็ตามข้าน้อยออกมาทันที"เขาพยายามบรรยายเรื่องให้เรียบง่ายที่สุดแล้วก็น่าจะประมาณนี้"เรียกสืออีกับสือซานเข้ามา" เซียวหลันยวนหลังจากได้ยินก็รู้สึกว่าเหมือนแช่อยู่ในไหน้ำส้มความรู้สึกนี้รุนแรงเป็นพิเศษ เขาก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงขนาดนี้มาก่อน"คารวะท่านอ๋อง"สืออีกับสือซานเหมือนรู้ว่าเซียวหลันยวนจะถามอะไรพวกเขา จึงเล่าเรื่องของพวกเขาที่เกิดขึ้นในต้าชื่อออกมาจนหมด"พระชายารักษาไท่ไท่อาวุโสตระกูลเสิ่น ตอนนี้ก็รักษาขาของท่านผู้เฒ่าเสิ่นด้วย ผู้อาวุโสทั้งสองชอบนางมาก""พระชายาไม่ได้ปิดบังเรื่องที่ตนเองแต่งงานแล้วในบ้านตระกูลเสิ่นเลย บอกกับคนในบ้านตระกูลเสิ่นตลอดว่าตนเองแต่งงานแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม คนบ้
"บังอาจนัก!"ชิงอีโมโหขึ้นมานี่มาแตะต้องเกล็ดย้อนของพวกเขาเข้าเสียแล้วระหว่างทาง พวกเขาได้ยินว่าข่าวลือที่ท่านอ๋องหน้าเหมือนผีร้ายติดปีกบินทะยานไปแล้ว กำลังแผ่เป็นวงกว้างด้วยความเร็วสูงถ้าจะบอกว่าไม่ใช่ฝีมือขององค์จักรพรรดิพวกเขาก็ไม่มีทางเชื่อแน่นอนแต่ท่านอ๋องตอนที่ได้ยินการวิพากษ์วิจารณ์นั่นจิตใจก็กดดันอยู่มากแล้ว คิดไม่ถึงเลย ว่าในเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อ สาวใช้จะถูกใบหน้ของท่านอ๋องพวกเขาทำให้ตกใจจนพับไปกับพื้น!สภาพนางเช่นนี้สำหรับท่านอ๋องแล้วถือเป็นการสร้างผลกระทบมหาศาลครั้งหนึ่งแน่นอนชิงอีชักกระบี่ยาวออกมาทันที พาดไว้บนคอของเสี่ยวชิ่นมันน่านัก มันน่านักจริงๆ! ทำไมต้องมาทำร้ายจิตใจท่านอ๋องของพวกเขาเช่นนี้ด้วย?เสี่ยวชิ่นตกใจจนหน้าขาวซีด เหงื่อไหลอาบนางหมอบอยู้บนพื้นสั่นไปทั้งตัวแต่สถานเช่นนี้จากที่เซียวหลันยวนเห็น ก็เป็นเพราะหวาดกลัวเขานั่นล่ะ ถูกเขาทำให้ตกใจเข้าเสียแล้วเขาน่ากลัวถึงระดับนี้แล้วหรือ?"ข้าน้อย ข้าน้อยมิกล้าแล้ว ข้าน้อยไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น" เสียงของเสี่ยวชิ่นสั่นระริก ร้องห่มร้องไห้ออกมาแล้วนางจู่ๆ ก็เข้าใจขึ้นมา เพราะอะไรคุณหนูจาวหนิงแต่งงาน
ฟู่จาวหนิงเหนื่อยแล้วจริงๆ เดิมทีก็แค่อยากจะหลับตาสงบลงสักครู่ แต่นี่กลับหลับไปเลยจริงๆจนตอนที่นางสะดุ้งตื่น ลุกขึ้นนั่ง ก็พบว่าบนโต๊ะไม่มีน้ำชา เสี่ยวชิ่นเองก็ไม่อยู่เกิดอะไรขึ้น เสี่ยวชิ่นไม่ใช่บอกว่าไปหาน้ำมาต้มชาหรอกหรือ? นางน่าจะหลับไปประมาณหนึ่งชั่วก้านธูปแล้ว แต่เสี่ยวชิ่นกลับยังไม่มกลับมาอีก"คุณหนูจาวหนิง"ด้านนอกมีเสียงไป๋หู่ดังขึ้น"ไป๋หู่หรือ? เข้ามา"นางไม่ได้ให้สืออีกับสือซานจัดการให้กับไป๋หู่แล้วหรอกหรือ?เรือนนี้ในเมื่อหลานหรงเป็นคนจัดหา เช่นนั้นก็เท่ากับเป็นพื้นที่ของพวกสืออีด้วย พวกเขาเป็นเจ้าบ้าน ต้องต้อนรับไป๋หู่ที่มาจากตระกูลเสิ่นให้ดีเหมือนกับตอนที่สืออีกับสือซานไปที่บ้านตระกูลเสิ่น ไป๋หูเองก็จัดแจงให้พวกเขา"คุณหนู ข้างกายท่านไม่มีสาวใช้แล้วเกรงว่าจะไม่สะดวก ที่นี่เป็นเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อ แตกต่างกับตอนที่พวกเราเร่งเดินทางด้านนอกนั้น"หลายครั้ง ต่อให้ไม่ใช่สาวใช้ แต่ถ้าข้างกายมีหญิงสาวคอยช่วยเหลือก็ถือว่าสะดวกอยู่อย่างเช่นกันแต่งหน้า เขารู้ว่าฟู่จาวหนิงรู้จักแค่การรวบผมง่ายๆ พวกทรงผมซับซ้อนเหล่านั้นของหญิงสาวนางทำไม่เป็นหรอกแล้วถ้าถึงช่วงเทศก
ชิงอีใจแอบร้องขมขื่นแย่แล้ว ดูท่าพระชายาจะชอบสาวใช้ที่ชื่อเสี่ยวชิ่นคนนี้มาก นี่จะไปเรียกร้องความเป็นธรรมแทนเสี่ยวชิ่นแล้วกระมัง?"เช่นนั้นข้าก็อยากจะถามหน่อย ทำไมจึงชักกระบี่ใส่นาง?"ฟู่จาวหนิงโมโหแล้วจริงๆที่นางพาเสี่ยวเชิ่นมาไว้ข้างกายได้ แน่นอนว่าต้องเข้ากับเสี่ยวชิ่นเป็นอย่างดี และยังยอมรับความสามารถนิสัยการทำงานของนางด้วย นางจึงพาสาวใช้เช่นนี้มาคนหนึ่ง"พวกเจ้าส่งนางออกไป มีใครมาถามข้าสักคำไหม?"เสี่ยวชิ่นเป็นสาวใช้ของนาง แต่ไม่มีใครเข้ามาถามนางสักคน ส่งคนออกไปหน้าตาเฉย นั่นมันสาวใช้ของนางนะ เป็นของนาง!"พระชายา ตอนนั้น คือ..."ชิงอีคิดจะอธิบาย แต่พออ้าปากก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรพวกเขาตอนนั้นก็เอาแต่ไม่ควรให้เสี่ยวชิ่นพูดกับท่านอ๋อง ไม่ยอมให้เสี่ยวชิ่นมาเจอพระชายา คิดแต่ว่าท่านอ๋องตอนนั้นได้รับผลกระทบทางจิตใจมากแค่ไหนไม่ได้คิดเลยว่าพระชายาจะโกรธทำเหมือนว่าฟู่จาวหนิงจะให้อภัยพวกเขาได้ตลอด คนนิสัยดี พูดด้วยง่าย แต่ไหนแต่ไรไม่เคยวางท่าทีอะไร?พอเห็นเขาไม่รู้จะพูดอย่างไร ฟู่จาวหนิงก็หัวเราะเย็นชาออกมา"เพราะคิดว่าท่านอ๋องของพวกเจ้ามันยอดเยี่ยมมากใช่ไหม? คนอื่นไม่ได้ม
ฟู่จาวหนิงโกรธจนหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง"รอมาบอกตอนอาหารเย็นแล้วมันจะไปมีความหมายอะไร? คนก็ถูกท่านส่งออกไปแล้ว นี่มันประหารก่อนแล้วรายงานทีหลังชัดๆ!"นางใช้คำพวกนี้จนชินอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกว่ามีอะไร แต่เซียวหลันยวนพอฟังคำว่าประหารก่อนแล้วรายงานทีหลังก็อดพูดขึ้นมาคำหนึ่งไม่ได้ "อย่าพูดเหลวไหล"ฟู่จาวหนิงกระทืบเท้าแล้ว"ข้าพูดเหลวไหลหรือ? ข้าพูดผิดตรงไหน? เช่นนั้นท่านก็บอกว่าว่าเสี่ยวชิ่นประพฤติตัวอะไรไม่ดี? นางไปทำอะไรไว้?"ชิงอีพวกเขารีบตรงเข้ามา แต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้นักถ้าเผื่อท่านอ๋องไม่ยินดีให้พวกเขาล้อมมุงดูล่ะ?เซียวหลันยวนนิ่งงันไปสาวใช้คนนั้นทำอะไรไปหรือ?"นางไปจาบจ้วงท่านตรงไหน? วิ่งไปชนท่านหรือว่าพูดคำหยาบคายกัน? เพราะนางไม่ตระหนักถึงท่านที่เป็นอ๋องเจวี้ยนผู้สูงส่งจากแคว้นเจา ไม่ได้คารวะให้ท่านอย่างงามแบบนั้นหรือ?""ข้าไม่เคยพูดเรื่องพวกนี้"เซียวหลันยวนกำหน้ากากในมือแน่นเอาแต่ตะโกนข้ามไปมาแบบนี้ เขาทนไม่ค่อยไหวแล้ว"เจ้าเข้ามาในนี้ พวกเรามาคุยกันดีดี""ข้าเข้าไปแบบนี้จะไม่โดนท่านบอกว่าประพฤติตัวไม่ดีหรือ? ท่านอ๋องเจวี้ยนผู้สูงส่ง ถ้าท่านคิดว่าพวกเรามาเช่น
"ได้ เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรพูพดกับท่านแล้ว อยู่ที่นี่ต่อไปประเดี๋ยวคงได้จาบจ้วงท่านเอา ข้าไปก่อนล่ะ"ฟู่จาวหนิงสะบัดชายเสื้อร้องขึ้นมาคำหนึ่ง"ไป๋หู่! เก็บของ พวกเราจะออกไปแล้ว!""ขอรับ"ไป่หู่เกือบจะตั้งตัวไม่ทันเขาเองก็คิดไม่ถึง ว่าเวลาแค่นี้ พวกเขาทั้งสองคนจะทะเลาะกันจนหนักข้อแบบนี้"พระชายา!"หลานหรงกับชิงอีล้วนตกตะลึงกันไปหมด คิดจะรั้งฟู่จาวหนิงเพื่ออธิบาย แต่ก็ยังรั้งไว้ไม่อยู่พวกเขามองฟู่จาวหนิงกระฟัดกระเฟียดเดินออกไป"ท่านอ๋อง! ท่านรีบตามพระชายาไปเร็ว!"พอเห็นเซียวหลันยวนรีบออกมา ชิงอีก็ร้อนรนจนแทบจะยื่นมือไปดันเขาแล้ว"นี่ไปอารมณ์ขึ้นมาจากไหนกัน?"เซียวหลันยวนสองมือกำแน่น เย็นเฉียบไปทั้งตัว"นางคงมีความคิดที่จะไปอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะออกไปอย่างเด็ดขาดเช่นนี้หรือ?""ไม่ใช่ ท่านอ๋อง พระชายาไม่ใช่ว่าเข้าใจผิดแล้วหรือไรกัน? แล้วตอนนี้ก็กำลังโกรธจัดอยู่ด้วย ท่านรีบไปตามนางกลับมาเร็ว ตามกลับมาแล้วพวกเราค่อยๆ ขอโทษนางดีดี!"หลานหรงเองก็เตือนขึ้น "ใช่แล้วท่านอ๋อง ไม่อย่างนั้นข้าน้อยจะไปรับสาวใช้คนนั้นกลับมาก่อนดีไหม?"ฟ้าก็มืดแล้ว พระชายาจะไปที่ไหนได้กัน?"ถ้านางอยา
"พระชายา!"ชิงอีรีบตามออกไปชิ่งอวิ๋นเซียวมองออกไป ก็เห็นเซียวหลันยวนที่สวมหน้ากากค่อยๆ เดินออกมาเขาเองก็ตกตะลึง ถามออกมาตรงๆ "อ๋องเจวี้ยน ท่านไปยั่วโมโหพระชายาเข้าหรือ?"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาถามเช่นนี้ก็ตัวแข็งทื่อไป ดังนั้นเซียวหลันยวนถึงได้ยอมออกจากประตูบานนั้นหรือ? นางยังคิดว่าเขาตัดสินใจจะขดอยู่แต่ในห้องไม่ยอมออกมาพบนางเสียอีกแต่นางตอนนี้ก็ไม่อยากหันกลับไป มันโกรธจัดจริงๆเซียวหลันยวนมองแผ่นหลังฟู่จาวหนิงตอนนี้ในสายตาเขาก็มีแต่นาง ไม่มีความคิดที่จะหันไปมองชิ่งอวิ๋นเซียวเลยแต่เขาก็ยังกลับมาตอบชิ่งอวิ๋นเซียว"คงจะไปทำให้โกรธเข้าแล้วจริงๆ"ฟู่จาวหนิงงงงันทำไมยอมรับออกมาแล้วล่ะ? ผู้ชายต่ำช้าคนนี้เปลี่ยนมาดีแล้วจริงหรือ"ดูท่าจะโมโหเอามากๆ พระชายาถึงคิดจะออกไปเสียแล้ว เช่นนั้นก็รีบไปปลอบนางสิ" ชิ่งอวิ๋นเซียวเอ่ยขึ้น"ข้าไม่รู้จะปลอบอย่างไร"เซียวหลันยวนทั้งชีวิตนี้ยังไม่เคยปลอบใครมาก่อน ไม่มีประสบการณ์เลยสักนิดกระทั่งว่า เขาไม่เคยมีประสบการณ์อยู่กับหญิงสาวคนใดมาก่อนเสียด้วยซ้ำ แต่ก่อนข้างกายเขามีแต่สาวใช้ ไม่จำเป็นต้องให้เขาไปปลอบเลยดังนั้นอารมณ์ของเขาจึงเป็นอิสร