องค์จักรพรรดิรู้สึกว่าตนเองเจอเซียวหลันยวนอยู่บ่อยครั้ง แล้วเวลาพูดคุยกับเขา ก็เหมือนอายุตัวเองสั้นลงไปหลายปีเลยรอจนได้รับของมา เขาแทบไม่อยากจะเห็นคนผู้นี้เลย! จริงด้วย ยังมีฟู่จาวหนิงอีก!"สิ่งยืนยันสามชิ้นมันเปิดอะไรขึ้นมาได้หรือ? แล้วพบกับอะไรบ้าง? จะเอาแต่พูดถึงของสามชิ้นนั้นไม่ได้สิ?"พอเห็นว่าองค์จักรพรรดิถามลำบาก พระสัสสุระจึงนำเอาน้ำใจนี้ส่งต่อไปจนสุดทางวันนี้ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ต้องให้อ๋องเจวี้ยนเอาสิ่งของเหล่านี้พูดออกมาให้ได้"พระสัสสุระจะเป็นห่วงไปทำไม? ไม่ว่าสิ่งของจะเป็นอะไร นี่ก็เป็นของสกุลเซียว ไม่ใช่ของตระกูลเจียงของท่าน"พระสัสสุระเองก็สำลักจนเจ็บหัวใจไปหมดแค่หมู่บ้านกุยเซี่ยวถูกทำลาย ตอนนี้เจียงเจี๋ยก็เหลือแค่ลมหายใจแล้ว เองก็บอกเรื่องนี้ออกมาไม่ได้ คิดบัญชีกับอ๋องเจวี้ยนก็ไม่ได้ แล้วยังต้องคอยปิดเรื่องนี้อีก จะได้ไม่เปิดโปงตัวฮองเฮา"อ๋องเจวี้ยนพูดถูกต้อง องค์จักรพรรดิเองก็เป็นคนตระกูลเซียวนี่นา องค์จักรพรรดิถึงอย่างไรก็ต้องรู้กระมัง?"องค์จักรพรรดิทำท่าทำทางโบกไม้มือ "เฮ้อ เสด็จพ่อรักอ๋องเจวี้ยนเป็นพิเศษ คิดจะส่งแคว้นเจาอีกครึ่งหนึ่งให้เขา ข้าไม่กล้าพูดอะ
ครั้งนี้ที่สูดลมหายใจลึกก็ไม่ทำให้เขาสงบลงเท่าไรนัก ทำได้เพียงทำมันหลายๆ รอบ นี่อดกลั้นจนหน้าผากมีเส้นลือดปูดขึ้นมาเลยทีเดียว"อ๋องเจวี้ยน ข้าไม่เคยมีความหมายเช่นนั้น เจ้าทำไมจึงคาดเดาไปเรื่อยเปื่อยเช่นนี้ ข้าเสียใจมากจริงๆ"ใครก็ฟังออกว่าประโยคนี้องค์จักรพรรดิกัดฟันพูดออกมาแต่เขาก็ยังพูดออกมาได้แต่เกรงว่าคงจะทำแค่ผิวเผินกระมัง?"เมืองหลวงนี้ จวนอ๋องเจวี้ยน เป็นบ้านของเจ้าเซียวหลันยวนไปตลอดกาล เจ้าจะไปที่ยอดเขาโยวชิงหรืออยู่ในเมืองหลวง ก็ล้วนตามแต่อิสระของเจ้า ข้าไม่เคยกักบริเวณเจ้ามาก่อน"ตอนที่องค์จักรพรรดิพูดประโยคนี้ เหล่าขุนนางก็ล้วนถอนใจโล่งออกมาแล้ว"เช่นนั้นก็ขอบคุณองค์จักรพรรดิแล้ว" อ๋องเจวี้ยนเอ่ยขึ้นมาคำหนึ่งองค์จักรพรรดิครั้งนี้สูดลมหายใจลึก "ในเมื่ออ๋องเจวี้ยนไม่ยอมพูดออกมา เช่นนั้นก็ว่าเรื่องทางการกันต่อ สถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่ใหญ่ของหอไป่กุยจะทำอย่างไร เสบียงค่ายทหารทางเหนือที่หกจะทำอย่างไร?"เหล่าขุนนางก็เลยกลับมาที่หัวข้อนั้นหารือกันไปมา ก็ยังรู้สึกว่าต้องบริจาคมาบางส่วน ไม่ว่าพวกเขาจะยินยอมหรือไม่ องค์จักรพรรดิเองก็สั่งการลงมา เริ่มจากในเมืองหลวง ให้
องค์จักรพรรดิถ้าต้องไปดูจริงๆ ล่ะก็ ก็รู้สึกขายหน้าอยู่หน่อยๆ แล้วจะดูเหมือนเขาร้อนรนเกินไป แล้วยังรู้สึกสนใจกับมรดกของอดีตพระชายาองค์จักรพรรดิอีกด้วยแต่ถ้าไม่ไปให้เห็นกับตาเสียหน่อยเขาก็ทั้งรู้สึกไม่ยินยอม และไม่เชื่อคำพูดของเซียวหลันยวนด้วยเมื่อครั้งไท่ซ่างหวงสละบัลลังก์ในอดีต เซียวหลันยวนตั้งแต่เด็กจนโต ในวังก็ไม่มีร่องรอยของหญิงสาวคนนั้นอยู่เลยจริงๆ และไม่รู้ว่านางทิ้งอะไรเอาไว้ให้กับเขาถ้าหากเซียวหลันยวนคิดจะเอาของบางส่วนออกมาบอกว่าเป็นมรดกของหญิงสาวคนนั้น ก็ก็ดูจะมีน้ำหนักเพียงพออยู่"สิ่งที่ทิ้งไว้ให้กับเจ้า ถูกวางไว้ที่ไหนหรือ? ตอนไปรับถึงกับต้องใช้เวลาตั้งเป็นเดือนๆ?"เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นอย่างจำใจ "จำให้ทำอย่างไรได้? ร่างกายของข้าก็เร่งระยะทางเร็วมากไม่ไหว ดังนั้นจึงค่อยๆ คืบคลานกันไป บวกกับพระชายาของข้าก็ไม่เคยออกจากเมืองหลวงมาก่อน ดังนั้นข้าก้เลยพานางไปชมเขาชมแม่น้ำของแคว้นเจาเสียเลย"เชื่อก็บ้าแล้ว!เซียวหลันยวนพูดต่อ "ยิ่งไปกว่านั้นตลอดทางพวกเรายังเจอกับเจ้าพวกสายตาไม่กว้างไกลบางส่วน จัดการขึ้นมาก็ตำมือ ดังนั้นไปไปมามาก็เลยเสียเวลาไปกว่าครึ่งปี"มุมปากองค์จักรพร
องค์จักรพรรดิ "!!"เขาโมโหจนแทบบ้าแล้ว!ฟู่จาวหนิงไม่รู้เลยว่าเซียวหลันยวนเป็นคนที่ไร้เหตุผลในราชสำนักขนาดไหน แค่อาศัยปากก็แทบจะทำให้องค์จักรพรรดิโมโหจนคลั่ง หลังจากที่เขาไปประชุมเช้า ฮองเฮาก็สั่งคนมาเชิญนางฟู่จาวหนิงปฏิเสธไม่ได้ไปพักหนึ่ง แต่ตอนนี้ให้นางเห็นหน้าของฮองเฮา นางก็รู้สึกแย่เสียแล้วพอมาถึงวังเฟิ่งอี๋ สาวใช้วังก็เข้รามาคารวะนางอย่างนอบน้อม"พระชายาอ๋องเจวี้ยน ฮองเฮาวันนี้บอกว่าปวดหัว ท้องก็ไม่ค่อยดีนัก จึงเชิญท่านมาดูอาการเสียหน่อย"พูดขึ้นอย่างจริงใจฮองเฮาสุขภาพไม่ดี ฟู่จาวหนิงเชื่ออยู่เมื่อคืนนี้มองหน้าของนางก็มองออกแล้ว คาดว่าน่าจะถูกเรื่องที่ถอนรากถอนโคนหมู่บ้านกุยเซี่ยวส่งผลกระทบเข้าฟู่จาวหนิงเองก็รู้ว่าน้องชายของฮองเฮาเจียงเจี๋ยบาดเจ็บหนัก หมอเทวดาหลี่เองก็ไปยังจวนพระสัสสุระตั้งหลายรอบนางให้ไป๋หู่ไปสืบข่าวพวกเขา รู้ว่าคนของจวนพระสัสสุระออกมาซื้อยาอะไรบ้าง ดูจากวัตถุดิบยาพวกนั้น ฟู่จาวหนิงก็ยืนยันได้แล้ว ว่าเจียงเจี๋ยเจ็บหนักมากแต่ในวัตถุดิบยาเหล่านี้มีฤทธิ์ยาที่รุนแรง ผลลัพธ์การหยุดเลือดรั้งชีวิตดีมาก แต่จะยิ่งทำร้ายร่างกายเข้าไปอีก บางทีเดิมทียังพอช่
สีหน้าหมัวมัวเกือบจะเปลี่ยนไปส้มที่ปอกเสร็จแล้ว ฮองเฮากินไปสองสามกลีบเพื่อเปิดกระเพาะ จากนั้นจะเอาไปแขวนไว้ในบ่อ รอช่วงกลางวันค่อยนำมากินทั้งหมดมีอยู่ไม่มาก นี่กินได้ทั้งวันเลยนะผลลัพธ์คือพระชายาอ๋องเจวี้ยนเอาไปหมดเลย?"... ในเมืองหลวงไม่มี" ฮองเฮากัดฟันฟู่จาวหนิงไม่กลัวเปรี้ยว ยิ่งไปกว่านั้นกระเพาะนางยังดีมากอีกด้วย ของอย่างส้ม นางกินตอนท้องว่างไม่มีปัญหาอะไรเลยส้มนี้หวานมาก น้ำทะลัก ในเมืองหลวงไม่มีจริงๆ ดูท่าขนส่งมาก็น่าจะหนักอยู่ ระยะทางก็ห่างไกล แล้วยังต้องเสียไประหว่างทางอีกมาก ดังนั้นจึงล้ำค่าสุดๆด้านนอกไม่มีทางได้เห็น มีแต่ฮองเฮาที่ได้กิน นางทำไมจะต้องเกรงใจกัน?นางก็เลยกินไปทีละกลีบสองกลีบ กินอย่างเบิกบาน"ฮองเฮาเรียกข้าเข้ามา มีเรื่องอะไรหรือ?"ทำไมถึงจ้องนางแบบนี้ล่ะ?ฮองเฮาปวดใจกับส้มเหล่านั้น ใจหดหู่ขึ้นมาเลย "ข้าหลายวันนี้นอนหลับไม่ค่อยดี หลังจากตื่นมาก็หัวก็ปวดท้องก็ปวด ไม่ค่อยอยากอาหารด้วย""หมอหลวงว่าอย่างไรบ้าง?" ฟู่จาวหนิงถาม"หมอหลวงบอกว่าอาจจะเป็นโรคไม่เจริญอาหาร"สภาพอากาศร้อนมากก็เป็นโรคลมแดดได้แต่ฮองเฮาก็รู้อยู่เต็มอก ว่าใจของนางซึมเศร้าจนไ
หมัวมัวคนนั้นรีบเดินเข้ามา สายตาตกไปอยู่บนตัวฟู่จาวหนิง ทั้งตกตะลึงทั้งดีใจ "พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านอยู่ที่นี่พอดีเลย รบกวนท่านไปดูไทเฮาหน่อย"ฟู่จาวหนิงดีดตัวลุกขึ้น "ไทเฮาเป็นอะไรไป?""จู่ๆ ก็ลุกไม่ขึ้น อ่อนยวบไปทั้งตัวเลย ข้าน้อยเองก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร""ไปไปไป ข้าไปดูหน่อย"ฟู่จาวหนิงรีบเอ่ยกับฮองเฮาว่า "ฮองเฮา ท่านทางนี้ล้วนมีหมอหลวงกับหมอเทวดาหลี่คอยดุแล้ว เช่นนั้นข้าไม่เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนจะดีกว่า ข้าจะไปดูไทเฮาทางนั้น!"พูดจบนางก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวสายลม"ฮองเฮา ข้าน้อยขอตัวก่อน" หมัวมัวคนนั้นก็คารวะให้ด้วย รีบออกจากตำหนักไปฮองเฮายื่นมือออกมา เดิมทีคิดจะขวางฟู่จาวหนิงไว้ แต่นางก็เร็วเสียเหลือเกิน ห้ามไม่ทันนางเห็นฟู่จาวหนิงพุ่งออกไปคาตาที่น่าโมโหที่สุดก็คือ ฟู่จาวหนิงกลับลืมวางถามส้มนั้นลง! แต่นางกอดออกไปด้วย!ฟู่จาวหนิงเดินออกมาพักหนึ่งจึงผ่อนฝีเท้าลง รอให้หมัวมัวเดินตามมา"พระชายาอ๋องเจวี้ยน นี่ท่าน.." หมัวมัวจินมองส้มครึ่งถาดที่นางกอดอยู่ ไม่ค่อยเข้าใจนัก"ฮองเฮาให้คนปกมาให้ข้า แล้วยังเชิญให้ข้ากินอย่างเป็นมิตรด้วย ข้าไม่กินก็ไม่ได้ นี่เพื่อไม่ให้เสียน้
"ตอนนั้นเป็นช่วงที่สุขภาพของอ๋องเจวี้ยนเลวร้ายที่สุด อายุก็ยังน้อย น่าจะสักหกเจ็ดขวบ แต่ให้เขาจะฉลาดแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้วหมัวมัวจินระลึกไปด้วย "ตอนนั้น บางครั้งก็มีคนเข้ามาหาด้วยสาเหตุต่างๆ นานา บ้างก็พาเด็กผู้หญิงเข้าไปเล่นกับเขา บ้างก็เอาอาหารที่ไม่เข้ากันกับยาไปให้เขากิน แล้วยังมีพวกที่บนตัวพกถุงหอมใส่อะไรบางอย่างเพิ่มเข้าไปด้วย และยังมีพวกที่เอางูไปทิ้งไว้อีก มากมายเต็มไปหมด"ตอนนั้น สุขภาพของอ๋องเจวี้ยนย่ำแย่มากแล้ว คนเหล่านั้นก็ยังสรรหาเรื่องไปทรมานเขา"พวกเขาอยากให้เขาตายหรือ?" ฟู่จาวหนิงสีหน้าเย็นชา"เฮ้อ ไทเฮาตอนนั้นรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ทางแก้ จึงแอบไหว้วานคนไปหาเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง ให้เขาพาอ๋องเจวี้ยนไปอยู่ที่ยอดเขาโยวชิง พักฟื้นที่นั่นหลายๆ ปี อ๋องเจวี้ยนอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงถึงจะดูสงบใจลงได้"หมัวมัวจินตอบกลับประโยคเมื่อครู่ของฟู่จาวหนิงลำบาก ถึงอย่างไรนางก็เอาเรื่องที่ไทเฮาทำในครั้งนั้นบอกกับฟู่จาวหนิง ให้พวกเขาไม่ต้องเข้าใจไทเฮาผิดไทเฮาทั้งชีวิตนี้ของนางก็ไม่ง่ายเลย"เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงคนนั้นเป็นคนอย่างไรหรือ?" ฟู่จาวหนิงพอได้ยินหม
ฟู่จาวหนิงจับชีพจรให้ไทเฮาอย่างละเอียด จากนั้นก็ถามคำถามหลายคำถาม ตรวจสอบตากับลิ้นของนางอย่างละเอียด"ไทเฮาก่อนหน้านี้ใช้สิ่งของอะไรบ้าง?"พอได้ยินฟู่จาวหนิงถามคำถามนี้ ไทเฮากับหมัวมัวจินก็ใจเต้น จากนั้นจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเสียแล้ว"พระชายา ไทเฮา ติดพิษหรือ?" หมัวมัวจินเอ่ยถามเสียงแผ่ว"เล็กน้อย เป็นพิษแค่เล็กน้อย น่าจะเป็นพิษเรื้อรั้งออกผลช้า"ปริมาณน้อยมาก อาจจะไม่ได้ต้องการเอาชีวิตไทเฮา แค่ให้นางป่วยเท่านั้นตอนนี้ถ้าไทเฮาป่วยใครกันที่จะได้ผลประโยชน์ แล้วได้ผลประโยชน์อะไร?ฟู่จาวหนิงแค่คิดๆ จากนั้นก็สะบัดความคิดนี้ทิ้ง เรื่องนี้นางคิดไม่ออก ส่งให้เซียวหลันยวนไปคิดต่อแล้วกัน"ตอนปีใหม่กับหยวนเซียว มีคนไม่น้อยส่งของขวัญเข้ามา" หมัวมัวจินทั้งตกตะลึงทั้งลนลาน "ยิ่งไปกว่าสิ่งของยังมีมากมายหลากหลายอีก ในห้องนี้ก็มีวางอยู่ไม่น้อย อย่างน้ำเต้าลูกนั้น กระถางน้ำแข็งสี่ขานั่น แล้วก็ยังมีเชิงเทียนใหม่นั่นด้วย..."นอกจากที่เจ้าวังแต่ละวังส่งมา ที่องค์จักรพรรดิฮองเฮาส่งมา ก็ญังมีเหล่าองค์หญิงองค์ชายที่กตัญญูต่อไทเฮาอีกยิ่งไปกว่านั้นคนนอกวังก็ยังส่งเข้ามาอีกบางส่วน"แต่สิ่ง