"นี่ก็จะเอาแต่บังคับซื้อบังคับขายหรือ?" ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้ว "ข้าบอกว่าไม่มี พวกท่านฟังไม่ออกหรือไรกัน?""ข้าจะให้เจ้าหนึ่งพันตำลึง!" ไห่ฉางจวิ้นเอ่ยขึ้นกะทันหันดวงตาฮูหยินสามถลึงกลมโตขึ้นมาหนึ่งพันตำลึง?นั่นมันดอกไม้อะไรกัน มุลค่าตั้งหนึ่งพันตำลึง? นางเองก็หวั่นไหวขึ้นมาแล้ว!"จาวหนิง หนึ่งพันตำลึงนะ ท่านผู้เฒ่าไม่ใช่ต้องหาหมอต้องซื้อยาหรอกหรือ? เจ้ารับหนึ่งพันตำลึงมาไม่ดีหรือไร? รีบเอาดอกไม้นั่นให้ฉางจวิ้นเถอะ" ฮูหยินสามรีบเอ่ยขึ้น"ไม่มี ต่อให้เจ้าจะให้หมื่นตำลึงวันนี้ข้าก็ไม่มี" ฟู่จาวหนิงหมุนตัวจะเดินไป ฟู่เป่าเจินกับฟู่เจียวเจียวจะต้องคิดหลบหน้าช่วงนี้แน่ แอบหนีไปแล้วแต่ของเหล่านั้นพวกนางคงไม่มีทางใช้หมดในเวลาสั้นแๆ แน่ นางยังรอได้"เจ้ารอก่อน"ไห่ฉางจวิ้นไล่ตามฟู่จาวหนิงทันทีบุปผาล้างราตรีนางจะต้องได้ไป! คุณสมบัติร่างกายของนางไม่ใช่ปกติ คุณสมบัติร่างกายเช่นนี้สามารถดึงดูดไหมใจโลหิตได้ ชุบเลี้ยงไหมใจโลหิตได้ แต่ว่า ตอนที่ให้กำเนิดทายาทก็จะเลือดออกมากจนหัวใจหยุดเต้นได้ง่ายมีแค่บุปผาล้างราตรีเท่านั้นที่สามารถทำให้นางให้กำเนิดทายาทข้ามพ้นอันตรายนี้ไปได้นักบุญหญิงทุก
เสี่ยวเถาตอนนี้เพิ่งพบว่าบนหน้าของฟู่จาวหนิงมีรอยสีเขียวคล้ำอยุ่ปื้นหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นคุณหนูบอกว่าจะไปสกัดยา จึงจงใจเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าชุดเก่าก่อนหน้านี้เสื้อผ้าเก่าชุดนี้คุณหนูก่อนหน้าสวมไปหายาที่ตีนเขา ดังนั้นจึงเลี่ยงการมีรอยเปื้อนที่ล้างไม่ออกไม่ได้ และบางจุดที่ถูกเกี่ยวจนขาดก็เย็บปะเอาไว้ฟู่จาวหนิงตอนอยู่ในบ้านไม่ค่อยใส่ใจเรื่องการแต่งกายนัก ตอนนี้กลับทำให้ซุนมามาเข้าใจผิดเสียแล้วฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็เพิ่งขบคิดขึ้นได้ ว่าประโยคที่ซุนมามาพูดไว้หมายถึงอะไรนางจู่ๆ ก็รู้สึกน่าขัน"ได้ยินว่าซุนมามาเป็นคนข้างกายฮองเฮาเช่นนั้นหรือ" ฟู่จาวหนิงถามกลับซุนมามาเลิกหนังตาใส่นาง "ถูกต้อง""ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นมามาอบรมมารยาทด้วย สั่งสอนพวกองค์หญิงท่านหญิงต่างๆ ด้วยสินะ?""นั่นแน่นอน"ซุนมามาตอนที่พูดสามคำนี้ก็ยืดหลังตรงขึ้นมา สีหน้าหยิ่งทะนง นางไม่ใช่มามาธรรมดานะ! กระทั่งองค์หญิงเหล่านั้นเองพอเข้าวังก็ยังต้องมีนางคอยเสี้ยมสอน"เมื่อเป็นเช่นนี้ สายตาของซุนมามาก็น่าจะร้ายกาจถึงจะถูก แต่นี่ข้าทำไมถึงรู้สึกว่าท่านเหมือนจะตาบอดกันนะ?" ฟู่จาวหนิงเม้มปากยิ้มเอ่ยขึ้นในใจนางมีไฟโทสะอยู่
อ๋องเจวี้ยนมาเองแล้ว นางยังจะกล้าพูดอะไรได้อีกกัน?"ได้ ข้าน้อยจะกลับเดี๋ยวนี้แล้ว ขอให้อ๋องเจวี้ยนและพระชายาโปรดให้อภัยข้าน้อยครั้งนี้ด้วย ข้าน้องกลับไปอธิบายกับฮองเฮาก็พอ อ๋องเจวี้ยนโปรดอย่าส่งคนเข้าไปอธิบายในวังเลย"ซุนมามาตอนนี้ทั้งโกรธทั้งกลัวหลังจากกลับไปถ้าฮองเฮารู้ว่านางเพิ่งจะมา พอเจอหน้ากับฟู่จาวหนิงก็ถูกไล่กลับไปแล้ว จะต้องโกรธกริ้วอย่างแน่นอน"ซุนมามากำลังสอนงานข้ากับอ๋องเจวี้ยนหรือ?"สายตาฟู่จาวหนิงตอนนี้เพิ่งจะย้ายออกมาจากตัวอ๋องเจวี้ยนนางเองก็รู้สึกตกตะลึงมาก คิดไม่ถึงว่าอ๋องเจวี้ยนจะมาที่บ้านตระกูลฟู่ด้วยตนเอง พอมองพวกฮูหยินสามฟู่อีกครั้ง แต่ละคนล้วนถลึงตามองเขา ตะลึงงันไปนานแล้ว"ข้าน้อยมิกล้า!""ไสหัวไป" อ๋องเจวี้ยนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบซุนมามาจึงงุดหน้าออกไปเช่นนี้ ตอนเข้ามาวางก้ามเต็มประดา ขากลับอย่างกับเป็นไก่ที่สู้แพ้อย่างไรอย่างนั้น ก้มหน้าลงหดหู่ฮูหยินสามฟู่ตอนนี้ก็ตกตะลึงต่อการเปลี่ยนแปลงของฟู่จาวหนิงนางตอนนี้เชื่อคำพูดของสะใภ้รองแล้ว! ฟู่จาวหนิงเปลี่ยนไปแล้วจริงๆแต่ว่าเขาเองก็ตกตะลึงกับอ๋องเจวี้ยนด้วยเช่นกันนี่คืออ๋องเจวี้ยนสินะ!หางตานางกวาดม
อ๋องเจวี้ยนมองไปทางฟู่จาวหนิง "พรุ่งนี้ให้ข้ากับพระชายาพาแม่นางไปเป็นแขกที่จวนอ๋องเจวี้ยนได้อยู่ พระชายาว่าอย่างไรล่ะ?"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว"พรุ่งนี้ข้ายังกลับไม่ได้ ท่านออกมาคุยกับข้าหน่อย"ฟู่จาวหนิงตอนนี้เพิ่งคิดออกว่าควรจะคุยกับเขาเสียหน่อยเกี่ยวกับแผนการหลังจากนี้"นี่ เดี๋ยวก่อน!"ไห่ฉางจวิ้นเรียกพวกนาง "พวกท่านเป็นสามีภรรยากันหรือ?"เสี่ยวเถาในที่สุดก็สบโอกาส อยู่เบื้องหน้าอ๋องเจวี้ยนนางแม้จะกลัวอยู่บ้าง แต่ก็ยังตะโกนออกมาทันที "นี่คืออ๋องเจวี้ยน เป็นพระสวามีของคุณหนูพวกเรา!"ดังนั้น หญิงสาวหน้าไม่อายอย่างเจ้าก็สมควรจะไสหัวไปได้แล้วไหม?วงจรสมองของไห่ฉางจวิ้นกลับไม่เหมือนคนธรรมดา นางพูดกับอ๋องเจวี้ยนอย่างดีใจว่า "เช่นนั้นช่วยพูดกับนางให้หน่อยได้ไหม ว่ามอบบุปผาล้างราตรีให้ข้าได้หรือไม่? ข้าต้องการบุปผาล้างราตรีจริง!"บุปผาล้างราตรี?อ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิง ในใจก็ตกใจขึ้นมาเหมือนกัน นางมีบุปผาล้างราตรีด้วยหรือ?"ข้าไม่มีทางดมผิด บนตัวนางมีกลิ่นของบุปผาล้างราตรีอยู่จริงๆ" ไห่ฉางจวิ้นเอ่ยกับอ๋องเจวี้ยนอย่างตั้งใจอ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงไม่สนใจไห่ฉางจวิ้น หมุ
"เจ้าไปพบในเขาจันทร์ลับฟ้าหรือ? ข้าไม่ได้หมายความว่าจะแย่งมาจากตัวของเจ้า เพียงแค่ถามว่าเจ้าหามาจากที่ไหนเท่านั้น ข้าจะได้ส่งคนออกไปหา"อ๋องเจวี้ยนในใจกลัดกลุ้มขึ้นมาเขาอันที่คือความหมายนี้ ไม่คิดจะไปแย่งชิงบุปผาล้างราตรีของนางเลย แต่ถ้าหากนางบอกได้ว่าหามาจากที่ใด เช่นนั้นเขาจะได้ส่งคนออกไปค้นหา"ท่านถามจงเจี้ยนก็แล้วกัน"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่อยากยอมรับ ถึงอย่างไรนางเมื่อครู่ก็ยืนกรานไปแล้วว่าไม่มีของสิ่งนี้ ตอนนี้ถ้ามายอมรับ ใครจะรู้ว่าเขาคิดจะหลอกให้นางพูดความจริงหรือเปล่า?อาการป่วยของท่านปู่ต้องการบุปผาล้างราตรี ใครต้องการนางก็ไม่มีทางให้ทั้งนั้นอ๋องเจวี้ยนแอบกัดฟัน"เจ้าไม่กลับเรือนอ๋องหรือ?"ท่าทีของนางดูแล้วคงไม่ยอมรับแน่ อ๋องเจวี้ยนจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไป"นี่คือสิ่งที่ข้าอยากจะหารือกับท่าน"ฟู่จาวหนิงมองเขา "อันที่จริงท่านเดิมทีก็ต้องการแต่งงาน ต้องการพระชายาคนหนึ่ง ตอนนี้ข้าเองก็ผ่านการทดสอบแล้ว ถือว่าช่วยเหลือท่านจบไปเรื่องหนึ่ง ถัดจากนี้ข้ายังอยากอยู่ในบ้านตระกูลฟู่ ท่านปู่ต้องการข้า""พระชายาอ๋องเจวี้ยนไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่ในบ้านของนางตลอด ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าคนที
"ครั้งนั้นเองก็ไม่มีหลักฐาน แต่ข้าถามคนในที่เกิดเหตุเมื่อครั้งนั้น ทุกคนล้วนพูดว่าฟู่หลินซื่อเองครั้งนั้นก็ไม่อาจอธิบายได้ สติกระเจิดกระเจิงกระวนกระวาย และไม่มีการแก้ต่างให้ตนเอง"อ๋องเจวี้ยนมองนาง "ยิ่งไปกว่านั้น ผ่านไปไม่นาน บิดามารดาของเจ้าก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย""หายตัวไป?"ฟู่จาวหนิงนิ่งอึ้งไปอีกบิดามารดานางหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย?ในในความทรงจำ ไม่ว่าใครก็ตามล้วนพูดว่าบิดามารดานางตายไปแล้ว ท่านผู้เฒ่าฟู่เองก้ไม่เคยพูดถึงบิดามารดาของนางเลย ในความทรงจำของคุณหนูฟู่ นางไม่มีบิดามารดาและฝากชีวิตอยู่กับท่านปู่"ดูท่า เจ้าคงจะไม่รู้อะไรเลยจริงๆ" อ๋องเจวี้ยนคอยสังเกตสีหน้านางตลอด เห็นนางเป็นเช่นนี้ก็รู้ว่านางไม่รู้เรื่องในครั้งนั้น ไม่รู้เรื่องบิดามารดาของนางเลย"ครั้งนั้นหลังจากที่ข้าเกิดเรื่อง ฟู่หลินซื่อก็ถุกขังตัวไว้ชั่วคราว ต่อมาบิดาของเจ้าก็ใช้เงินเข้ามาสำรวจตัวนาง และวันนั้นทั้งสองคนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ที่น่าตลกก็คือ ครั้งนั้นพวกเขาที่มีคุณสมบัติเข้าวังได้ ก็เพราะตอนที่ท่านพ่อพาเหล่าพระโอรสแล้วเกิดเรื่องขึ้น พ่อกับแม่ของนางช่วยพวกเขาไว้"เรื่องนี้คุณหนูฟู่รู้อยู่เพียงห
ตอนนี้ เสี่ยวเถาก็รีบวิ่งลนลานเข้ามา กระทั่งชาก็ยังไม่ได้ยกมาให้"คุณหนู ท่านผู้เฒ่ารู้แล้ว" เสี่ยวเถามองอ๋องเจวี้ยน ไม่รู้ว่าจะเรียกเขาอย่างไรไปพักหนึ่งเหมือนกัน พอลังเลไปครู่ก็พูดขึ้นว่า "รู้ว่าท่านอ๋องเจวี้ยเข้ามา ก็ตื่นต้นคิดจะลุกออกมา แต่ก็ล้มลงจากเตียงจนสลบไปแล้ว ท่านรีบไปดูเถิด!"ฟู่จาวหนิงตกตะลึง กระโจนตัวลุกขึ้นยืนแล้วรีบวิ่งออกไป ไม่สนใจอ๋องเจวี้ยนเลยแม้แต่น้อยเซียวหลันยวนมองแผ่นหลังของนาง สวมหน้ากากกลับไปพอเห็นว่านางให้ความสำคัญกับปู่ของนางมาก แต่ตอนที่เอ่ยถึงบิดามารดากลับเย็นชาเสียขนาดนั้น ดูท่าหลายปีมานี้ฟู่จิ้นเชินกับฟู่หลินซื่อคงไม่ได้กลับมาจริงๆ และไม่ได้ติดต่อกับที่บ้านเลยพวกเขากระทั่งบิดาและลูกสาวก็ไม่สนใจหรือ?"ท่านอ๋อง จะเข้าไปดูไหม?" ชิงอีกตอนนี้ก็เดินเข้ามาเซียวหลันยวนนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ส่ายหัว"พอได้ยินว่าข้าเข้ามาก็ตื่นเต้นจนเป็นแบบนี้ ถ้าข้าไปปรากฎตัวต่อหน้าเขา เกรงว่าเขาจะหายใจหายคอไม่ทันแล้วไปหายมบาลเสียก่อน ฟู่จาวหนิงยังมีประโยชน์กับข้าอยู่ อย่าเพิ่งผูกแค้นกับนางเลย"ชิงอีพูดไม่ออกแต่คำพูดเหล่านั้นที่ท่านพูดกับฟู่จาวหนิง ก็เหมือนจะผูกแค้นกับนา
หลังฟู่จาวหนิงออกจากห้องของท่านผู้เฒ่าก็ยืนอยู่ในลานมองท้องฟ้านางกลัดกลุ้มอย่างมากเมื่อครู่นางเห็นใบหน้าเจ็บป่วยของท่านผู้เฒ่า จึงตกปากรับคำคำขอของเขาผู้เฒ่าฟู่เข้าใจว่าที่อ๋องเจวี้ยนมาแต่งงานกับนางก็เพื่อล้างแค้นนาง คิดจะทรมานนาง คิดจะเอาความชิงชังต่อบิดามารดานางมาลงที่ตัวนาง ไม่มีทางดีกับนางแน่นอนดังนั้น ต่อให้กังวลถึงชื่อเสียงหลังจากฟู่จาวหนิงหย่าร้าง แต่ก็กังวลถึงที่พึ่งพิงของนางหลังจากนี้ด้วย เขาจึงยังต้องการให้นางหย่าร้างอย่างแรงกล้าแต่เมื่อวานหลังจากรู้ความคิดของเซียวหลันยวน ฟู่จาวหนิงก็สงสัยว่าชายหนุ่มคนนี้จะยอมหย่าร้างไหมนางเอาความกลัดกลุ้มนี้โยนออกไป ขอตัวไปนอนเพิ่มอีกหน่อยดีกว่าเพิ่งนอนไปได้ไม่นาน ก็มีคนมาเคาะประตูนางจากด้านนอก"ฟู่จาวหนิง รีบตื่นเร็ว"เสี่ยวเถาถลึงตามองไห่ฉางจวิ้นที่กำลังออกแรงเคาะประตูห้องของคุณหนูอย่างเคืองๆ หญิงสาวคนนี้มาอีกแล้ว!นางคิดจะขวางไห่ฉางจวิ้น แต่ไห่ฉางจวิ้นก็โบกมือตบลงไปบนบ่านาง นางก็ขยับตัวไม่ได้เสียแล้ว"ฟู่จาวหนิง รีบลุกขึ้นมา เมื่อวานนี้อ๋องเจวี้ยนให้เจ้าพาข้าไปเที่ยวที่จวนอ๋องเจวี้ยนวันนี้!"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินประโยคนี้
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ