"ครั้งนั้นเองก็ไม่มีหลักฐาน แต่ข้าถามคนในที่เกิดเหตุเมื่อครั้งนั้น ทุกคนล้วนพูดว่าฟู่หลินซื่อเองครั้งนั้นก็ไม่อาจอธิบายได้ สติกระเจิดกระเจิงกระวนกระวาย และไม่มีการแก้ต่างให้ตนเอง"อ๋องเจวี้ยนมองนาง "ยิ่งไปกว่านั้น ผ่านไปไม่นาน บิดามารดาของเจ้าก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย""หายตัวไป?"ฟู่จาวหนิงนิ่งอึ้งไปอีกบิดามารดานางหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย?ในในความทรงจำ ไม่ว่าใครก็ตามล้วนพูดว่าบิดามารดานางตายไปแล้ว ท่านผู้เฒ่าฟู่เองก้ไม่เคยพูดถึงบิดามารดาของนางเลย ในความทรงจำของคุณหนูฟู่ นางไม่มีบิดามารดาและฝากชีวิตอยู่กับท่านปู่"ดูท่า เจ้าคงจะไม่รู้อะไรเลยจริงๆ" อ๋องเจวี้ยนคอยสังเกตสีหน้านางตลอด เห็นนางเป็นเช่นนี้ก็รู้ว่านางไม่รู้เรื่องในครั้งนั้น ไม่รู้เรื่องบิดามารดาของนางเลย"ครั้งนั้นหลังจากที่ข้าเกิดเรื่อง ฟู่หลินซื่อก็ถุกขังตัวไว้ชั่วคราว ต่อมาบิดาของเจ้าก็ใช้เงินเข้ามาสำรวจตัวนาง และวันนั้นทั้งสองคนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ที่น่าตลกก็คือ ครั้งนั้นพวกเขาที่มีคุณสมบัติเข้าวังได้ ก็เพราะตอนที่ท่านพ่อพาเหล่าพระโอรสแล้วเกิดเรื่องขึ้น พ่อกับแม่ของนางช่วยพวกเขาไว้"เรื่องนี้คุณหนูฟู่รู้อยู่เพียงห
ตอนนี้ เสี่ยวเถาก็รีบวิ่งลนลานเข้ามา กระทั่งชาก็ยังไม่ได้ยกมาให้"คุณหนู ท่านผู้เฒ่ารู้แล้ว" เสี่ยวเถามองอ๋องเจวี้ยน ไม่รู้ว่าจะเรียกเขาอย่างไรไปพักหนึ่งเหมือนกัน พอลังเลไปครู่ก็พูดขึ้นว่า "รู้ว่าท่านอ๋องเจวี้ยเข้ามา ก็ตื่นต้นคิดจะลุกออกมา แต่ก็ล้มลงจากเตียงจนสลบไปแล้ว ท่านรีบไปดูเถิด!"ฟู่จาวหนิงตกตะลึง กระโจนตัวลุกขึ้นยืนแล้วรีบวิ่งออกไป ไม่สนใจอ๋องเจวี้ยนเลยแม้แต่น้อยเซียวหลันยวนมองแผ่นหลังของนาง สวมหน้ากากกลับไปพอเห็นว่านางให้ความสำคัญกับปู่ของนางมาก แต่ตอนที่เอ่ยถึงบิดามารดากลับเย็นชาเสียขนาดนั้น ดูท่าหลายปีมานี้ฟู่จิ้นเชินกับฟู่หลินซื่อคงไม่ได้กลับมาจริงๆ และไม่ได้ติดต่อกับที่บ้านเลยพวกเขากระทั่งบิดาและลูกสาวก็ไม่สนใจหรือ?"ท่านอ๋อง จะเข้าไปดูไหม?" ชิงอีกตอนนี้ก็เดินเข้ามาเซียวหลันยวนนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ส่ายหัว"พอได้ยินว่าข้าเข้ามาก็ตื่นเต้นจนเป็นแบบนี้ ถ้าข้าไปปรากฎตัวต่อหน้าเขา เกรงว่าเขาจะหายใจหายคอไม่ทันแล้วไปหายมบาลเสียก่อน ฟู่จาวหนิงยังมีประโยชน์กับข้าอยู่ อย่าเพิ่งผูกแค้นกับนางเลย"ชิงอีพูดไม่ออกแต่คำพูดเหล่านั้นที่ท่านพูดกับฟู่จาวหนิง ก็เหมือนจะผูกแค้นกับนา
หลังฟู่จาวหนิงออกจากห้องของท่านผู้เฒ่าก็ยืนอยู่ในลานมองท้องฟ้านางกลัดกลุ้มอย่างมากเมื่อครู่นางเห็นใบหน้าเจ็บป่วยของท่านผู้เฒ่า จึงตกปากรับคำคำขอของเขาผู้เฒ่าฟู่เข้าใจว่าที่อ๋องเจวี้ยนมาแต่งงานกับนางก็เพื่อล้างแค้นนาง คิดจะทรมานนาง คิดจะเอาความชิงชังต่อบิดามารดานางมาลงที่ตัวนาง ไม่มีทางดีกับนางแน่นอนดังนั้น ต่อให้กังวลถึงชื่อเสียงหลังจากฟู่จาวหนิงหย่าร้าง แต่ก็กังวลถึงที่พึ่งพิงของนางหลังจากนี้ด้วย เขาจึงยังต้องการให้นางหย่าร้างอย่างแรงกล้าแต่เมื่อวานหลังจากรู้ความคิดของเซียวหลันยวน ฟู่จาวหนิงก็สงสัยว่าชายหนุ่มคนนี้จะยอมหย่าร้างไหมนางเอาความกลัดกลุ้มนี้โยนออกไป ขอตัวไปนอนเพิ่มอีกหน่อยดีกว่าเพิ่งนอนไปได้ไม่นาน ก็มีคนมาเคาะประตูนางจากด้านนอก"ฟู่จาวหนิง รีบตื่นเร็ว"เสี่ยวเถาถลึงตามองไห่ฉางจวิ้นที่กำลังออกแรงเคาะประตูห้องของคุณหนูอย่างเคืองๆ หญิงสาวคนนี้มาอีกแล้ว!นางคิดจะขวางไห่ฉางจวิ้น แต่ไห่ฉางจวิ้นก็โบกมือตบลงไปบนบ่านาง นางก็ขยับตัวไม่ได้เสียแล้ว"ฟู่จาวหนิง รีบลุกขึ้นมา เมื่อวานนี้อ๋องเจวี้ยนให้เจ้าพาข้าไปเที่ยวที่จวนอ๋องเจวี้ยนวันนี้!"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินประโยคนี้
"ถ้าไม่ใช่เห็นแก่ท่านอ๋องเจวี้ยน วันนี้ข้าไม่ละเว้นเจ้าแน่นอน ตอนนี้เจ้าระบายอารมณ์แล้วนี่ จะพาข้าไปจวนอ๋องได้หรือยัง?"ไห่ฉางจวิ้นทนได้ด้วยหรือ?ดูท่าจะชอบเซียวหลันยวนเจ้าผู้ชายสุนัขที่มีความคิดลึกซึ้งคนนั้นจริงๆ"ไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงเอ่ยกับเสี่ยวเถาว่า "คอยดูแลท่านปู่ไว้ คุ้มกันให้ดี ข้าจะให้ยาพิษเจ้าไว้ ถ้ามีคนกล้าบุกเข้ามารังแกก็สาดออกไปเลย อย่าเอาแต่ยืนบื้อแบบเมื่อครู่ ต่อให้อีกฝ่ายจะพิการตาบอดเสียโฉม คุณหนูของเจ้าจะรับผิดชอบเอง ไม่ต้องกลัว"พอพูดจบ นางก็เหลือบมองไปทางฮูหยินสามผาดหนึ่งฮูหยินสามฟู่เย็นวาบขึ้นมาคำพูดเหล่านี้ของฟู่จาวหนิงคือพูดกับนางเลย!ผู้หญิงคนนี้ทำยาพิษให้เสี่ยวเถาไว้ด้วย? นางไปได้วิธีมาจากไหนกัน สร้างพิษออกมาได้เสียด้วย?ทว่าหลังจากฟู่จาวหนิงพาไห่ฉางจวิ้นออกไป ฮูหยินสามฟู่ก็ไม่กล้าบุกเข้าไปฟ้องผู้เฒ่าฟู่เหมือนกันถ้านั่นมันเป็นพิษจริงๆ ล่ะ?แล้วก็ ฟู่จาวหนิงนึกเรื่องที่แต่งงานวันนั้นออกแล้วหรือ? นางต้องรีบไปหาพวกเป่าเจินเสียแล้วพอออกจากบ้านตระกูลฟู่ ฟู่จาวหนิงก็เพิ่งคิดได้ว่าม้าตัวนั้นยังอยู่ที่เรือนหลัง นางพาไห่ฉางจวิ้นออกมาพักหนึ่งก็ลืมขี่มันกลับจ
"อ๊า! ลูกของข้า! ใครก็ได้ ช่วยลูกของข้าที!"เสียงร้องแหลมของหญิงสาวอายุน้อยคนหนึ่งร้องดังตามเข้ามาด้านนอกมีเสียงเอะอะจอแจ"พระชายา รถม้าของพวกเราชนเข้ากับรถม้าด้านหน้าเสียแล้ว แต่น่าจะเพราะด้านหน้าเกิดเรื่องขึ้นจนขวางทางไว้" เสียงของคนขับรถดังลอดเข้ามาไห่ฉางจวิ้นเอ่ยขึ้นมาอย่างที่สมควรจะเป็น "อ้อมไปสิ อ้อมไปเลย"นางไม่สนใจเลยว่าด้านนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น นางต้องรีบไปที่จวนอ๋องเจวี้ยน นับตั้งแต่ที่เห็นอ๋องเจวี้ยนเมื่อวานนี้ นางก็ฝันถึงแต่ชายคนนั้น ทั้งคืนเอาแต่คิดว่าจะปลดหน้ากากเขาลงอย่างไร เพื่อจะได้เห็นใบหน้าเต็มของเขาฟู่จาวหนิงกลับเลิกม่านรถแล้วกระโดดลงมารถม้าทันทีข้างหน้ารถม้าพวกเขามีรถม้าอยู่คันหนึ่งจริงๆ แต่ถูกชนไม่รุนแรงมาก เพราะรถม้าด้านหน้าหยุดรถกะทันหัน พวกเขาทางนี้จึงหยุดไม่ทันแล้วชนเข้า จนทำให้ม้าที่ลากรถจวนอ๋องเจวี้ยนมึนจนเปลี่ยนทิศทางไปและด้านหน้ายังมีรถม้าอีกคันหนึ่ง ข้างๆ รถม้ามีคนล้มกลิ้งอยู่หลายคน ในนี้มีฮูหยินอายุน้อยคนหนึ่งกำลังกอดเด็กอายุราวสามสี่ขวบกำลังร้องไห้จ้า เด็กคนนั้นครึ่งตัวอยู่ในอ้อมกอดนาง ขาเล็กข้างหนึ่งกลับบิดเบี้ยวประหลาดผิดมุมรอบๆ มีคนไม่
เขาหรือ?ซือถูไป๋ฟู่จาวหนิงฟังเสียงของซือถูไป๋ออกทันที แต่ว่านางก็ไม่ได้หันกลับมามอง นางโน้มตัวลงไป เอาหูแนบกับหน้าอกของเด็ก มือข้างหนึ่งเคาะลงไปบนหน้าอกเขา ฟังเสียงฮูหยินอายุน้อยนั่งอยู่บนพื้นมองฟู่จาวหนิงอย่างทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้เลยว่าต้องทำอะไรแต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีหมอเข้ามา นางก็เหมือนทำได้แค่ต้องเชื่อฟู่จาวหนิง โดยเฉพาะตอนที่ชายหนุ่มอ่อนโยนสง่างามคนนั้นปรากฎตัว ขึ้น คุ้มกันอยู่ด้านหลังฟู่จาวหนิง นางจึงเริ่มรู้สึกคาดหวังกับฟู่จาวหนิงขึ้นมาพอสมควรคุณชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เขายังเชื่อถือแม่นางคนนี้ นางก็น่าจะรู้เรื่องแพทย์จริงๆ กระมัง?ฟู่จาวหนิงล้วงกระเป๋าเข็มออกมาจากในอก เปิดกระเป๋าออก ดึงเข็มยาวเล่มหนึ่งออกมาจากด้านใน แทงไปที่หน้าอกของเด็ก ความตื้นลึกก็ควบคุมได้กำลังดี"อ๊า..."หญิงสาวอายุน้อยพอเห็นการกระทำของนาง ก็ร้องตกใจขึ้นอย่างทนไม่ไหว คิดจะโถมตัวเข้าขวางฟู่จาวหนิงหน้าอกเอาเข็มแทงลงไปมั่วๆ ได้หรือ?"ฮูหยินอย่าเพิ่งขยับ" เสียงของซือถูไป๋นำเอาพลังปลอบประโลมที่ประหลาดเข้ามาด้วย หญิงสาวอายุน้อยหยุดการเคลื่อนไหวลงทันทีฟู่จาวหนิงปักเข็มลงไปหลายเล่ม จากนั้นก็หยิบเข็มเย
"เป่าเอ๋อร์เด็กดี ถ้าเจ้าไม่ขยับตัวมั่วซั่ว ให้พี่สาวดูขอของเจ้าว่าตรงไหนที่ดื้อรั้น พี่สาวจะให้ลูกกวาดแสนอร่อยดีไหม?"ฟู่จาวหนิงก็ทำเหมือนนักมายากล ยื่นมือไปด้านหน้าเป่าเอ๋อร์ พอกางออก ฝ่ามือก็มีลูกกวาดที่ห่อไว้ด้วยกระดาษสีเม็ดหนึ่งออกมาคนทั้งหมดที่นี่ล้วนไม่เคยเห็นลูกกวาดเช่นนี้ ถูกลูกกวาดเล็กๆ เม็ดนี้ดึงดูดไปจนหมดขนาดผู้ใหญ่ยังถูกดึงดูดไป ไม่ต้องพูดถึงเด็กเลย?เป่าเอ๋อร์พอเห็นลูกกวาดที่สวยงามเม็ดนั้นก็ลืมร้องไห้ไปแล้ว เขามองลูกกวาดเม็ดนั้น แต่ยังดูไม่ค่อยเชื่อ "นี่คือลูกกวาดหรือ?""ใช่แล้ว มา เจ้ารับไป ลองแกะเปลือกแล้วดูว่าข้างในเป็นลูกกวาดแบบไหนดีไหม?"เสียงของฟู่จาวหนิงอ่อนโยนมาก น้ำเสียงเองก็แผ่วเบารวดเร็วมาก ทำให้เด็กผ่อนคลายลงมมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ยื่นมือรับลูกกวาดเม็ดนั้น แกะเปลือกห่อออกอย่างระมัดระวังตอนนี้เอง ฟู่จาวหนิงก็ญื่นมือไปทางขาของเขา บีบไปที่กระดูกขาของเขาจากบนลงล่างอย่างละเอียดตอนที่บีบถึงหัวเข่า เด็กน้อยก็เจ็บปวดจนร้องจ้าออกมา"เป่าเอ๋อร์ไม่ต้องร้อง" หญิงสาวอายุน้อยบอกให้ลูกน้อยไม่ต้องร้องไห้ แต่ตนเองกลับปวดใจจนน้ำตาไหลออกมา นางมองฟู่จาวหนิง "แม่นา
"แม่นาง วิธีการยึดกระดูกของเจ้านี่ยอดเยี่ยมเสียจริง"แม้จะเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง แต่ก็ทำเขานับถือเลยทีเดียวฟู่จาวหนิงยิ้มๆ ตอนนี้จึงอุ้มเป่าเอ๋อร์ขึ้นมา หญิงสาวอายุน้อยก็รีบลุกขึ้นมาเช่นกัน เอ่ยขอบคุณกับนางไม่หยุด"แม่นาง บุญคุณของท่านครั้งนี้ วันหลังข้าจะไปตอบแทนอย่างดีถึงบ้านเลย บ้านของท่านอยู่ที่ใดหรือ ข้า""ฮูหยิน หัวใจของเด็กไม่ค่อยจะดีนัก เจอกระตุ้นมากๆ ไม่ได้ ตอนนี้ขาเองก็บาดเจ็บ ท่านรีบพาเขากลับบ้านไปพักผ่อนเถิด"ฟู่จาวหนิงตัดบทนาง จากนั้นก็มองไปที่หมอชรา "ส่วนเรื่องที่จำเป็นต้องรู้ หมอท่านนี้ก็น่าจะรู้อยู่ สู้ท่านเชิญเขากลับไปด้วยกัน แล้วให้เขาอธิบายกับท่านดีดีดีกว่า"นางไม่มีเวลาจะติดตามคนเจ็บไปที่บ้านได้หมอชราไม่ได้ดูถูกนางเพราะเห็นนางเป็นหญิงสาวอายุน้อย แล้วยังให้ยืมผ้าพันแผลโดยไม่พูดอะไรอีก น่าจะเป็นคนดีอยู่หญิงสาวอายุน้อยพอได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็รู็สึกปวดใจกับลูกจริงๆ ขอบคุณกับนางปะหลกๆ จากนั้นก็รับตัวเด็กไปคนเดินถนนที่หกล้มทางนี้อีกหลายคนอันที่จริงไม่ได้เป็นอะไรมา แต่พวกเขาพอเห็นฟู่จาวหนิงช่วยเด็กไว้ก็ล้อมตัวกันเข้ามา"แม่นาง เจ้าเองก็ดูให้พวกข้าหน่อยสิ! เมื่