"ถ้าไม่ใช่เห็นแก่ท่านอ๋องเจวี้ยน วันนี้ข้าไม่ละเว้นเจ้าแน่นอน ตอนนี้เจ้าระบายอารมณ์แล้วนี่ จะพาข้าไปจวนอ๋องได้หรือยัง?"ไห่ฉางจวิ้นทนได้ด้วยหรือ?ดูท่าจะชอบเซียวหลันยวนเจ้าผู้ชายสุนัขที่มีความคิดลึกซึ้งคนนั้นจริงๆ"ไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงเอ่ยกับเสี่ยวเถาว่า "คอยดูแลท่านปู่ไว้ คุ้มกันให้ดี ข้าจะให้ยาพิษเจ้าไว้ ถ้ามีคนกล้าบุกเข้ามารังแกก็สาดออกไปเลย อย่าเอาแต่ยืนบื้อแบบเมื่อครู่ ต่อให้อีกฝ่ายจะพิการตาบอดเสียโฉม คุณหนูของเจ้าจะรับผิดชอบเอง ไม่ต้องกลัว"พอพูดจบ นางก็เหลือบมองไปทางฮูหยินสามผาดหนึ่งฮูหยินสามฟู่เย็นวาบขึ้นมาคำพูดเหล่านี้ของฟู่จาวหนิงคือพูดกับนางเลย!ผู้หญิงคนนี้ทำยาพิษให้เสี่ยวเถาไว้ด้วย? นางไปได้วิธีมาจากไหนกัน สร้างพิษออกมาได้เสียด้วย?ทว่าหลังจากฟู่จาวหนิงพาไห่ฉางจวิ้นออกไป ฮูหยินสามฟู่ก็ไม่กล้าบุกเข้าไปฟ้องผู้เฒ่าฟู่เหมือนกันถ้านั่นมันเป็นพิษจริงๆ ล่ะ?แล้วก็ ฟู่จาวหนิงนึกเรื่องที่แต่งงานวันนั้นออกแล้วหรือ? นางต้องรีบไปหาพวกเป่าเจินเสียแล้วพอออกจากบ้านตระกูลฟู่ ฟู่จาวหนิงก็เพิ่งคิดได้ว่าม้าตัวนั้นยังอยู่ที่เรือนหลัง นางพาไห่ฉางจวิ้นออกมาพักหนึ่งก็ลืมขี่มันกลับจ
"อ๊า! ลูกของข้า! ใครก็ได้ ช่วยลูกของข้าที!"เสียงร้องแหลมของหญิงสาวอายุน้อยคนหนึ่งร้องดังตามเข้ามาด้านนอกมีเสียงเอะอะจอแจ"พระชายา รถม้าของพวกเราชนเข้ากับรถม้าด้านหน้าเสียแล้ว แต่น่าจะเพราะด้านหน้าเกิดเรื่องขึ้นจนขวางทางไว้" เสียงของคนขับรถดังลอดเข้ามาไห่ฉางจวิ้นเอ่ยขึ้นมาอย่างที่สมควรจะเป็น "อ้อมไปสิ อ้อมไปเลย"นางไม่สนใจเลยว่าด้านนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น นางต้องรีบไปที่จวนอ๋องเจวี้ยน นับตั้งแต่ที่เห็นอ๋องเจวี้ยนเมื่อวานนี้ นางก็ฝันถึงแต่ชายคนนั้น ทั้งคืนเอาแต่คิดว่าจะปลดหน้ากากเขาลงอย่างไร เพื่อจะได้เห็นใบหน้าเต็มของเขาฟู่จาวหนิงกลับเลิกม่านรถแล้วกระโดดลงมารถม้าทันทีข้างหน้ารถม้าพวกเขามีรถม้าอยู่คันหนึ่งจริงๆ แต่ถูกชนไม่รุนแรงมาก เพราะรถม้าด้านหน้าหยุดรถกะทันหัน พวกเขาทางนี้จึงหยุดไม่ทันแล้วชนเข้า จนทำให้ม้าที่ลากรถจวนอ๋องเจวี้ยนมึนจนเปลี่ยนทิศทางไปและด้านหน้ายังมีรถม้าอีกคันหนึ่ง ข้างๆ รถม้ามีคนล้มกลิ้งอยู่หลายคน ในนี้มีฮูหยินอายุน้อยคนหนึ่งกำลังกอดเด็กอายุราวสามสี่ขวบกำลังร้องไห้จ้า เด็กคนนั้นครึ่งตัวอยู่ในอ้อมกอดนาง ขาเล็กข้างหนึ่งกลับบิดเบี้ยวประหลาดผิดมุมรอบๆ มีคนไม่
เขาหรือ?ซือถูไป๋ฟู่จาวหนิงฟังเสียงของซือถูไป๋ออกทันที แต่ว่านางก็ไม่ได้หันกลับมามอง นางโน้มตัวลงไป เอาหูแนบกับหน้าอกของเด็ก มือข้างหนึ่งเคาะลงไปบนหน้าอกเขา ฟังเสียงฮูหยินอายุน้อยนั่งอยู่บนพื้นมองฟู่จาวหนิงอย่างทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้เลยว่าต้องทำอะไรแต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีหมอเข้ามา นางก็เหมือนทำได้แค่ต้องเชื่อฟู่จาวหนิง โดยเฉพาะตอนที่ชายหนุ่มอ่อนโยนสง่างามคนนั้นปรากฎตัว ขึ้น คุ้มกันอยู่ด้านหลังฟู่จาวหนิง นางจึงเริ่มรู้สึกคาดหวังกับฟู่จาวหนิงขึ้นมาพอสมควรคุณชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เขายังเชื่อถือแม่นางคนนี้ นางก็น่าจะรู้เรื่องแพทย์จริงๆ กระมัง?ฟู่จาวหนิงล้วงกระเป๋าเข็มออกมาจากในอก เปิดกระเป๋าออก ดึงเข็มยาวเล่มหนึ่งออกมาจากด้านใน แทงไปที่หน้าอกของเด็ก ความตื้นลึกก็ควบคุมได้กำลังดี"อ๊า..."หญิงสาวอายุน้อยพอเห็นการกระทำของนาง ก็ร้องตกใจขึ้นอย่างทนไม่ไหว คิดจะโถมตัวเข้าขวางฟู่จาวหนิงหน้าอกเอาเข็มแทงลงไปมั่วๆ ได้หรือ?"ฮูหยินอย่าเพิ่งขยับ" เสียงของซือถูไป๋นำเอาพลังปลอบประโลมที่ประหลาดเข้ามาด้วย หญิงสาวอายุน้อยหยุดการเคลื่อนไหวลงทันทีฟู่จาวหนิงปักเข็มลงไปหลายเล่ม จากนั้นก็หยิบเข็มเย
"เป่าเอ๋อร์เด็กดี ถ้าเจ้าไม่ขยับตัวมั่วซั่ว ให้พี่สาวดูขอของเจ้าว่าตรงไหนที่ดื้อรั้น พี่สาวจะให้ลูกกวาดแสนอร่อยดีไหม?"ฟู่จาวหนิงก็ทำเหมือนนักมายากล ยื่นมือไปด้านหน้าเป่าเอ๋อร์ พอกางออก ฝ่ามือก็มีลูกกวาดที่ห่อไว้ด้วยกระดาษสีเม็ดหนึ่งออกมาคนทั้งหมดที่นี่ล้วนไม่เคยเห็นลูกกวาดเช่นนี้ ถูกลูกกวาดเล็กๆ เม็ดนี้ดึงดูดไปจนหมดขนาดผู้ใหญ่ยังถูกดึงดูดไป ไม่ต้องพูดถึงเด็กเลย?เป่าเอ๋อร์พอเห็นลูกกวาดที่สวยงามเม็ดนั้นก็ลืมร้องไห้ไปแล้ว เขามองลูกกวาดเม็ดนั้น แต่ยังดูไม่ค่อยเชื่อ "นี่คือลูกกวาดหรือ?""ใช่แล้ว มา เจ้ารับไป ลองแกะเปลือกแล้วดูว่าข้างในเป็นลูกกวาดแบบไหนดีไหม?"เสียงของฟู่จาวหนิงอ่อนโยนมาก น้ำเสียงเองก็แผ่วเบารวดเร็วมาก ทำให้เด็กผ่อนคลายลงมมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ยื่นมือรับลูกกวาดเม็ดนั้น แกะเปลือกห่อออกอย่างระมัดระวังตอนนี้เอง ฟู่จาวหนิงก็ญื่นมือไปทางขาของเขา บีบไปที่กระดูกขาของเขาจากบนลงล่างอย่างละเอียดตอนที่บีบถึงหัวเข่า เด็กน้อยก็เจ็บปวดจนร้องจ้าออกมา"เป่าเอ๋อร์ไม่ต้องร้อง" หญิงสาวอายุน้อยบอกให้ลูกน้อยไม่ต้องร้องไห้ แต่ตนเองกลับปวดใจจนน้ำตาไหลออกมา นางมองฟู่จาวหนิง "แม่นา
"แม่นาง วิธีการยึดกระดูกของเจ้านี่ยอดเยี่ยมเสียจริง"แม้จะเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง แต่ก็ทำเขานับถือเลยทีเดียวฟู่จาวหนิงยิ้มๆ ตอนนี้จึงอุ้มเป่าเอ๋อร์ขึ้นมา หญิงสาวอายุน้อยก็รีบลุกขึ้นมาเช่นกัน เอ่ยขอบคุณกับนางไม่หยุด"แม่นาง บุญคุณของท่านครั้งนี้ วันหลังข้าจะไปตอบแทนอย่างดีถึงบ้านเลย บ้านของท่านอยู่ที่ใดหรือ ข้า""ฮูหยิน หัวใจของเด็กไม่ค่อยจะดีนัก เจอกระตุ้นมากๆ ไม่ได้ ตอนนี้ขาเองก็บาดเจ็บ ท่านรีบพาเขากลับบ้านไปพักผ่อนเถิด"ฟู่จาวหนิงตัดบทนาง จากนั้นก็มองไปที่หมอชรา "ส่วนเรื่องที่จำเป็นต้องรู้ หมอท่านนี้ก็น่าจะรู้อยู่ สู้ท่านเชิญเขากลับไปด้วยกัน แล้วให้เขาอธิบายกับท่านดีดีดีกว่า"นางไม่มีเวลาจะติดตามคนเจ็บไปที่บ้านได้หมอชราไม่ได้ดูถูกนางเพราะเห็นนางเป็นหญิงสาวอายุน้อย แล้วยังให้ยืมผ้าพันแผลโดยไม่พูดอะไรอีก น่าจะเป็นคนดีอยู่หญิงสาวอายุน้อยพอได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็รู็สึกปวดใจกับลูกจริงๆ ขอบคุณกับนางปะหลกๆ จากนั้นก็รับตัวเด็กไปคนเดินถนนที่หกล้มทางนี้อีกหลายคนอันที่จริงไม่ได้เป็นอะไรมา แต่พวกเขาพอเห็นฟู่จาวหนิงช่วยเด็กไว้ก็ล้อมตัวกันเข้ามา"แม่นาง เจ้าเองก็ดูให้พวกข้าหน่อยสิ! เมื่
พอขึ้นรถม้าอีกครั้ง ไห่ฉางจวิ้นก็เอาแต่พิจารณาตัวฟู่จาวหนิง"นี่ เจ้าเป็นวิชาแพทย์ด้วยหรือ วิชาแพทย์เจ้าดีแค่ไหน?"ฟู่จาวหนิงไม่ตอบไห่ฉางจวิ้นพอเห็นท่าทางนี้ของนางก็รู้สึกโมโหเล็กๆ ฟู่จาวหนิงคนนี้ไม่น่าคบเลยจริงๆ!"เช่นนั้นเจ้าบอกข้าถึงชื่อจริงของคุณชายซือถูหน่อยสิ เขาเป็นใครกัน"ฟู่จาวหนิงมุมปากยกขึ้น "ไห่ฉางจวิ้น หน้าเจ้าหายเจ็บแล้วหรือ? ลืมเรื่องที่โดนข้าตบไปก่อนหน้าแล้วหรือไรกัน? เจ้าคิดว่าพวกเรามีความสัมพันธ์แบบที่นั่งคุยกันดีดีได้ด้วยหรือ?"ไห่ฉางจวิ้นคนนี้สมองน่าจะมีปัญหา"แล้วก็ หลังจากกลับไปทางที่ดีย้ายออกจากบ้านตระกูลฟู่เสีย บ้านตระกูลฟู่ไม่ใช่พี่สาวเจ้าจะมาทำตัวเป็นเจ้าของบ้านได้"พอกลับไปนางจะไล่พวกบ้านต่างๆ ในตระกูลฟู่ออกไปให้หมด ถ้าไห่ฉางจวิ้นคิดจะดึงเซียวหลันยวนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็เลิกคิดเรื่องพักอยู่ในบ้านนางได้เลย ถึงตอนนั้นสามคนมาพัวพันวุ่นกันใหญ่แน่"เจ้า!"ไห่ฉางจวิ้นพอเห็นฟู่จาวหนิงพูดจบแล้วหลับตาลงไม่สนใจนางอย่างเห็นได้ชัด ก็ร้องฮึกขึ้นมา หมุนตัวกลับไปทางหน้าต่างมองความคึกคักบนถนนแทนพอถึงจวนอ๋องเจวี้ยน ชิงอีก็รออยู๋ที่ประตูแล้ว"พระชายา แม่นางไห่"
เฝิ่นซิงก็รีบรับคำทันที "พระชายา ข้าน้อยจะไปเตรียมชา เป็นหลงจิงได้ไหม?""ได้หมด ขอบคุณ"สาวใช้ทั้งสองรับคำและคารวะไปทางไห่ฉางจวิ้น จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปแล้ว พวกนางไม่มองชิงอีเลยแม้แต่น้อยส่วนชิงอีที่ถูกเมิน "..."ทำไมกัน เขาไม่มีตัวตนเลยหรือ?สาวใช้สองทั้งสองตอนนี้ดูจะปีกกล้าขาแข็งขึ้นจริงๆ เสียแล้ว เพราะรู้สึกว่าเขาทำไม่ดีกับพระชายา ดังนั้นเลยมางอนเขาหรือ?ชิงอีพาฟู่จาวหนิงกับไห่ฉางจวิ้นมาถึงข้างศาลา มีม่านกันลม ปลิวไสวแผ่วเบา เซียวหลันยวนในชุดคลุมสีม่วง ผ้าพันคอจิ้งจอกขาวยิ่งขับครึ่งใบหน้าที่งดงามราวรูปสลักนั้นให้สมบูรณ์ขึ้นไปอีก หน้ากากสีเงินทำให้เขาดูแล้วสูงสง่าอย่างลึกลับข้างๆ มีเตาถ่านดินแดงใบเล็ก น้ำกำลังเดือดปุดๆ ควันขโมง ถาดชาเคลือบขาวใบหนึ่ง ด้านบนมีอุปกรณ์ชงชาเหมียวหลงวางไว้ ทำเอาคนไม่อาจมองข้ามตัวตนฐานะเขาไปได้เลยคนธรรมดากล้าใช้อุปกรณ์ชงชาของเหมียวหลงเสียที่ไหน? อุปกรณ์ชงชานี้ล้วนเป็นสิ่งของพระราชทานฟู่จาวหนิงกลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เซียวหลันยวนกำลังต้มชาอยู่ที่นี่ หงจั๋วกับเฝิ่นซิงกลับรีบไปรินชาให้นางหรือ?แต่ว่าก็ดี ถึงอย่างไรนางก็คงจะดื่มชาที่ผู้ชายเลวอย่า
ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะทำเช่นนี้ ดังนั้นจึงเลี่ยงไม่พ้น มือถูกเขาคว้าไปแล้วนางรู้สึกเหมือนตนเองถูกน้ำแข็งแช่ไว้ที่มือมือของเซียวหลันยวนเย็นถึงขนาดนี้เลยหรือ!นี่มันไม่ปกติแล้ว!เขาสวมชุดหนาขนาดนี้ ข้างๆ ยังมีหม้อต้มน้ำที่กำลังเดือดอยู่ด้วย ในศาลาเองก็ไม่มีลม ดินฟ้าอากาศที่กำลังจะถึงเดือนเก้า แต่เขากลับหนาวเย็นถึงขนาดนี้ นี่มันปกติหรือ?เซียวหลันยวนเดิมทีก็คิดจะเชิญฟู่จาวหนิงเสียหน่อย ถึงอย่างไรตอนที่เห็นว่าไห่ฉางจวิ้นยื่นมือมาทางเขา บอวก่าจะลองวัดมือให้ว่าเย็นแค่ไหน สีหน้าของฟู่จาวหนิงก็ดูลิงโลดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เหมือนว่ากำลังชมละครชั้นดีนางลืมไปแล้วหรือว่าตัวตนฐานะตนเองคือพระชายาของข้า?แต่ว่าพอจับมือของฟู่จาวหนิง เขากลับรู้สึกไม่อยากจะปล่อยมือเสียแล้วเพราะว่ามือของนางอุ่นมาก และนิ่มมาก นิ่มราวกับไม่มีกระดูก อุณหภูมิของนางทำให้ความหนาวเย็นทั่วร่างของเขาอุ่นขึ้นมาหน่อย เดิมทีก็คิดว่าจะทนเอาไว้ให้ได้ตลอด ตอนนี้กลับได้ผ่อนคลายได้ครู่หนึ่ง"เซียวหลันยวน ปล่อยมือ" ฟู่จาวหนิงกัดฟันเอ่ยขึ้น"พระชายารู้สึกว่าต่อหน้าคนอื่นมันไม่ค่อยดีสินะ?" เซียวหลันยวนกลับลุกขึ้