พอขึ้นรถม้าอีกครั้ง ไห่ฉางจวิ้นก็เอาแต่พิจารณาตัวฟู่จาวหนิง"นี่ เจ้าเป็นวิชาแพทย์ด้วยหรือ วิชาแพทย์เจ้าดีแค่ไหน?"ฟู่จาวหนิงไม่ตอบไห่ฉางจวิ้นพอเห็นท่าทางนี้ของนางก็รู้สึกโมโหเล็กๆ ฟู่จาวหนิงคนนี้ไม่น่าคบเลยจริงๆ!"เช่นนั้นเจ้าบอกข้าถึงชื่อจริงของคุณชายซือถูหน่อยสิ เขาเป็นใครกัน"ฟู่จาวหนิงมุมปากยกขึ้น "ไห่ฉางจวิ้น หน้าเจ้าหายเจ็บแล้วหรือ? ลืมเรื่องที่โดนข้าตบไปก่อนหน้าแล้วหรือไรกัน? เจ้าคิดว่าพวกเรามีความสัมพันธ์แบบที่นั่งคุยกันดีดีได้ด้วยหรือ?"ไห่ฉางจวิ้นคนนี้สมองน่าจะมีปัญหา"แล้วก็ หลังจากกลับไปทางที่ดีย้ายออกจากบ้านตระกูลฟู่เสีย บ้านตระกูลฟู่ไม่ใช่พี่สาวเจ้าจะมาทำตัวเป็นเจ้าของบ้านได้"พอกลับไปนางจะไล่พวกบ้านต่างๆ ในตระกูลฟู่ออกไปให้หมด ถ้าไห่ฉางจวิ้นคิดจะดึงเซียวหลันยวนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็เลิกคิดเรื่องพักอยู่ในบ้านนางได้เลย ถึงตอนนั้นสามคนมาพัวพันวุ่นกันใหญ่แน่"เจ้า!"ไห่ฉางจวิ้นพอเห็นฟู่จาวหนิงพูดจบแล้วหลับตาลงไม่สนใจนางอย่างเห็นได้ชัด ก็ร้องฮึกขึ้นมา หมุนตัวกลับไปทางหน้าต่างมองความคึกคักบนถนนแทนพอถึงจวนอ๋องเจวี้ยน ชิงอีก็รออยู๋ที่ประตูแล้ว"พระชายา แม่นางไห่"
เฝิ่นซิงก็รีบรับคำทันที "พระชายา ข้าน้อยจะไปเตรียมชา เป็นหลงจิงได้ไหม?""ได้หมด ขอบคุณ"สาวใช้ทั้งสองรับคำและคารวะไปทางไห่ฉางจวิ้น จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปแล้ว พวกนางไม่มองชิงอีเลยแม้แต่น้อยส่วนชิงอีที่ถูกเมิน "..."ทำไมกัน เขาไม่มีตัวตนเลยหรือ?สาวใช้สองทั้งสองตอนนี้ดูจะปีกกล้าขาแข็งขึ้นจริงๆ เสียแล้ว เพราะรู้สึกว่าเขาทำไม่ดีกับพระชายา ดังนั้นเลยมางอนเขาหรือ?ชิงอีพาฟู่จาวหนิงกับไห่ฉางจวิ้นมาถึงข้างศาลา มีม่านกันลม ปลิวไสวแผ่วเบา เซียวหลันยวนในชุดคลุมสีม่วง ผ้าพันคอจิ้งจอกขาวยิ่งขับครึ่งใบหน้าที่งดงามราวรูปสลักนั้นให้สมบูรณ์ขึ้นไปอีก หน้ากากสีเงินทำให้เขาดูแล้วสูงสง่าอย่างลึกลับข้างๆ มีเตาถ่านดินแดงใบเล็ก น้ำกำลังเดือดปุดๆ ควันขโมง ถาดชาเคลือบขาวใบหนึ่ง ด้านบนมีอุปกรณ์ชงชาเหมียวหลงวางไว้ ทำเอาคนไม่อาจมองข้ามตัวตนฐานะเขาไปได้เลยคนธรรมดากล้าใช้อุปกรณ์ชงชาของเหมียวหลงเสียที่ไหน? อุปกรณ์ชงชานี้ล้วนเป็นสิ่งของพระราชทานฟู่จาวหนิงกลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เซียวหลันยวนกำลังต้มชาอยู่ที่นี่ หงจั๋วกับเฝิ่นซิงกลับรีบไปรินชาให้นางหรือ?แต่ว่าก็ดี ถึงอย่างไรนางก็คงจะดื่มชาที่ผู้ชายเลวอย่า
ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะทำเช่นนี้ ดังนั้นจึงเลี่ยงไม่พ้น มือถูกเขาคว้าไปแล้วนางรู้สึกเหมือนตนเองถูกน้ำแข็งแช่ไว้ที่มือมือของเซียวหลันยวนเย็นถึงขนาดนี้เลยหรือ!นี่มันไม่ปกติแล้ว!เขาสวมชุดหนาขนาดนี้ ข้างๆ ยังมีหม้อต้มน้ำที่กำลังเดือดอยู่ด้วย ในศาลาเองก็ไม่มีลม ดินฟ้าอากาศที่กำลังจะถึงเดือนเก้า แต่เขากลับหนาวเย็นถึงขนาดนี้ นี่มันปกติหรือ?เซียวหลันยวนเดิมทีก็คิดจะเชิญฟู่จาวหนิงเสียหน่อย ถึงอย่างไรตอนที่เห็นว่าไห่ฉางจวิ้นยื่นมือมาทางเขา บอวก่าจะลองวัดมือให้ว่าเย็นแค่ไหน สีหน้าของฟู่จาวหนิงก็ดูลิงโลดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เหมือนว่ากำลังชมละครชั้นดีนางลืมไปแล้วหรือว่าตัวตนฐานะตนเองคือพระชายาของข้า?แต่ว่าพอจับมือของฟู่จาวหนิง เขากลับรู้สึกไม่อยากจะปล่อยมือเสียแล้วเพราะว่ามือของนางอุ่นมาก และนิ่มมาก นิ่มราวกับไม่มีกระดูก อุณหภูมิของนางทำให้ความหนาวเย็นทั่วร่างของเขาอุ่นขึ้นมาหน่อย เดิมทีก็คิดว่าจะทนเอาไว้ให้ได้ตลอด ตอนนี้กลับได้ผ่อนคลายได้ครู่หนึ่ง"เซียวหลันยวน ปล่อยมือ" ฟู่จาวหนิงกัดฟันเอ่ยขึ้น"พระชายารู้สึกว่าต่อหน้าคนอื่นมันไม่ค่อยดีสินะ?" เซียวหลันยวนกลับลุกขึ้
พูดจนราวกับว่าพวกเขามีความรู้สึกให้กันเสียอย่างนั้น"ข้าเพิ่งจะแต่งงานได้ไม่กี่วัน แล้วยังรับเอาหญิงสาวตระกูลฟู่ที่ตกต่ำมาอีก แค่นี้ก็ขายหน้าพอแล้ว ถ้าไม่กี่วันก็หย่าร้าง แล้วคนทั้งเมืองจะไม่หัวเราะกันจนฟันหักเลยหรือ? หย่าหรือ ไม่มีทาง"เขาเอนตัวเข้ามา เอ่ยขึ้นเสียงต่ำข้างหูฟู่จาวหนิง"ฟู่จาวหนิง ข้ายังอยากจะรอให้พ่อแม่ของเจ้ากลับมาพร้อมกับเจ้านะ""นี่ท่าน!""ถ้าหากถึงตอนนั้นพวกเขาเจ็บปวดทรมาน ข้าค่อยเลิกรากับเจ้า จะสาดเกลือลงไปบนใจเจ้าอย่างโหดร้าย เจ้าไม่คิดว่าแบบนี้มันน่าสนุกกว่าหรือ? คิดจะหย่าน่ะ? เจ้ากล้าคิดไปได้อย่างไรกัน"จากที่คนนอกเห็น เวลานี้เซียวหลันยวนกำลังพูดกระซิบกับฟู่จาวหนิง มุมปากเขาเป็นรอยยิ้มอบอุ่น เสียงก็ทุ้มลึกมีเสน่ห์ ราวกับว่ากำลังกระซิบกระซาบอะไรที่กินใจกันอยู่หงจั๋วกับเฝิ่นซิงก็มองจนตาร้อนผ่าว ถูกต้องๆๆ ท่านอ๋อง ต้องแบบนี้สิ ปลอบพระชายาดีดีฟู่จาวหนิงกลับขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน มือหนึ่งถูกเซียวหลันยวนจับไว้ อีกข้างหนึ่งก็คีบเข็มเงินเล่มหนึ่งอย่างรวดเร็ว ปักลงไปที่จุดชีพจรหน้าอกเขา"ท่านอ๋อง!" ชิงอีเห็นการกระทำของฟู่จาวหนิง และมองเห็นแสงเงินสว่างวาบ ก็ตกใจจนห
เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิงเป็นเช่นนี้ ก็รู้สึกโมโหจนน่าขันขึ้นมาไม่รู้ว่าเพราะอะไร พอเห็นนางอยากจะหย่าร้าง คิดจะสะบัดเขาหนีเช่นนี้ เขาก็ยิ่งไม่อยากให้เป็นไปตามที่นางคิด"ข้าเป็นคนที่ซื่อตรงคนหนึ่ง พวกเราเพิ่งจะแต่งงานใหญ่กัน แล้วจะมาทิ้งกันง่ายๆ ได้อย่างไร? ถ้าลือกันออกไปชื่อเสียงข้าก็คงจะย่ำแย่ไปด้วย"เซียวหลันยวนกุมมือของนางแน่น ยกขึ้นมา แล้วหัวเราะเบาๆ ขึ้นเสียงหนึ่ง"พระชายาดูสิ มือของพวกเราเข้ากันได้ขนาดนี้ กุมแล้วดูเหมาะสมดี พวกเราจูงมือกันไปทั้งชีวิตเลยดีไหม?"เซียวหลันยวนคำพูดนี้พูดออกมาอย่างอบอุ่น อย่างลึกซึ้งเหลือประมาณ ราวกับว่าเขาชอบนางมากอย่างไรอย่างนั้นฟู่จาวหนิงกลับก็สะบัดมืออย่างทนไม่ไหวถ้าไม่ใช่รู้ถึงบุญคุณความแค้นของเขากับตระกูลฟู่ ถ้าไม่ใช่เมื่อวานนี้เขายอมรับเหตุผลที่ยอมแต่งงานกับนาง นางคงจะเชื่อไปแล้ว!"นี่!"ไห่ฉางจวิ้นมองทางนี้จนทนไม่ไหวแล้ว นางออกแรงตบลงบนโต๊ะอีกครั้ง สะเทือนจนอุปกรณ์ชงชาบนโต๊ะลอยระเนระนาด"อ๋องเจวี้ยน ท่านจะมากเกินไปแล้วนะ! ถึงแม้ข้าจะชอบท่านมาก แต่ท่านจะมารังแกกันแบบนี้ไม่ได้! เรียกข้าให้เข้ามาที่นี่เพื่อดูพวกท่านกระหนุงกระหนิงกนหร
"ก็ไม่อย่างไรหรอก ไม่สนใจ""ไม่ได้อยู่ที่ท่านตัดสินใจ"เซียวหลันยวนกลับหัวเราะขึ้นมา"อันที่จริง เจ้าวันนั้นเองก็ไม่มีทางเลือก ตอนนั้นถ้าเจ้าไม่เลือกคนมาแต่งงานกลางถนน แล้วแจ้นกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่ ปู่ของเจ้าก็คงจะตายไปอย่างไม่ต้องสงสัย"ดังนั้น ฟู่จาวหนิงเดิมทีไม่จำเป็นต้องเสียใจเลยที่เลือกเขามาแต่งงานด้วย ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากเขา คนอื่นเองก็คงไม่มีทางตกลง"ถ้าเจ้าไปเลือกคนอื่น คนอื่นก็ไม่กล้าผิดใจกับจวนรัฐทายาทเซียวอยู่ดี เซียวเหยียนจิ่งพูดไว้แล้ว ลองดูว่าใครจะแต่งกับเจ้า เห็นได้ชัดว่าคุกคามเจ้า และคุกคามคนอื่นไปด้วย ถ้ากล้าแต่งงานกับเจ้าก็เท่ากับเป็นปฏิปักษ์กับเขา เจ้าคิดว่า จะมีคนกล้าเป็นศัตรูกับเขาแล้วยอมมาแต่งงานกับเจ้าหรือ?"ฟู่จาวหนิงกัดฟัน นางรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงไม่เช่นนั้นตอนนั้นนางจะไปเลือกเขาได้อย่างไรกัน?"แต่ว่าตอนนั้นถ้าข้ากลับบ้าน ท่านปู่ก็ไม่แน่ว่าจะถูกกระตุ้นจนทนไม่ไหว""หลอกทั้งตนเองทั้งคนอื่น"เซียวหลันยวนเริ่มรินชา เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "วันนั้นที่เขาทนมาได้ ก็เพราะวันนั้นจิตใจเขาผ่อนคลายลง คิดว่าเจ้าแต่งเข้าจวนรัฐทายาทเซียวไปอย่างราบรื่นแล้ว
หมอหลวงเฉินพอได้ยินก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันทีเขาถูกไปพักในเรือนที่ห่างไกล เมื่อครู่เดิมทีที่ได้ยินว่าฟู่จาวหนิงเข้ามา เขาก็คิดจะมาดูพระชายาอ๋องเจวี้ยนเสียหน่อย ไม่คิดเลยว่าจะมาได้พอเหมาะพอเจาะเช่นนี้!คนของไท่ซ่างหวงมาถึงแล้ว!เป้าหมายที่องค์จักรพรรดิให้เขามารอที่จวนอ๋องเจวี้ยนเขาเข้าใจเป็นอย่างดี นั่นก็คือมาคอยดูว่าคนสนิทของไท่ซ่างหวงทั้งสามคนนั้นเป็นใครกันแน่ แล้วส่งอะไรมาให้แก่อ๋องเจวี้ยนเดิมทีเขายังกังวลว่าตนเองจะพลาดไป ไม่คิดเลยว่าพระเจ้าจะเข้าข้างเขา เขาเพิ่งจะออกมา คนก็มาถึงเสียแล้ว"เชิญพวกเขามาที่โถงหน้าเลย"อ๋องเจวี้ยนเองก็คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะนำมาเร็วเช่นนี้ ลุกขึ้นยืนเตรียมจะตรงไปโถงหน้า แต่เขาที่เพิ่งลุกขึ้นยืนเบื้องหน้าก็ดำมืด จมูกคับยิบ ร่างกายโงนเงนฟู่จาวหนิงอยู่ใกล้เขามากที่สุด ตอนที่เขายืนขึ้นก็ลุกขึ้นยืนด้วยสัญชาตญาณ กำลังลังเลว่าจะออกไปก่อนดีไหม หรือว่าจะตามไปดูที่โถงหน้าดี ผลคืออ๋องเจวี้ยนก็ล้มตัวมาทางตนเองแล้วมือของนางไวกว่าสมอง ยื่นไปกอดเซียวหลันยวนไว้แล้ว"ท่านอ๋อง!"ชิงอีกับหงจั๋วเฝิ่นซิงล้วนร้องตกตะลึง สะดุ้งโหยงกันขึ้นมาจนฟู่จาวหนิงประคองเซีย
เข็มในมือฟู่จาวหนิง ปักลงไปบนหน้าอกเขาครู่หนึ่ง นางก็เก็บเข็มลงไป ยื่นมือไปกุมมือขวาของเซียวหลันยวน ออกแรงกดลงไปที่จุดชีพจรหลายจุดใกล้ๆ กับง่ามนิ้วกลิ่นอายของอ๋องเจวี้ยนเปลี่ยนไปเล็กน้อย"ท่านคือพระชายาอ๋องเจวี้ยนหรือ? พระชายารีบประคองอ๋องเจวี้ยนนอนลงช้าๆ เถิด" หมอหลวงเฉินเหลือบมองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง ในใจเองก็อดชื่นชมขึ้นมาไม่ได้ ฟู่จาวหนิงคนนี้สวยงามเกินคนจริงๆแต่ว่าตอนนี้ในในใจเขามีแต่เรื่องจับชีพจรอ๋องเจวี้ยนฟู่จาวหนิงมองออกถึงความดีอกดีใจของหมอหลวงเฉิน พอเห็นว่าเซียวหลันยวนล้มลงไปก็มีโอกาสให้ได้จับชีพจรตรวจอาการป่วยของเขาแล้ว หมอหลวงเฉินเลยดีใจขึ้นมาหรือ?"ท่านเป็นใคร?" ฟู่จาวหนิงยังไม่ปล่อยมืออ๋องเจวี้ยน มองหมอหลวงเฉินแล้วยิ้มขึ้นมา "ใครบอกเจ้าว่าท่านอ๋องเป็นลมล้มไป? พวกเราสามีภรรยาแค่คุยกันแล้วก็กอดกันเท่านั้น ไม่ได้หรือ? ไปขวางหูขวางตาอะไรเจ้ากัน?"พรวด!ขนาดชิงอีก็เกือบจะทนพรวดออกมาไม่ไหวพระชายาคำพูดนี้มันช่างมันดูหน้าด้านเอามากๆ เลยจริงๆ นะนางเมื่อครู่ไม่ใช่ว่าเพิ่งปฏิเสธข้อเสนอที่ท่านอ๋องให้แกล้งเป็นสามีภรรยาที่ให้เกียรติกันและกันต่อหน้าคนอื่นหรอกหรือ?ตอนนี้ก