แชร์

บทที่ 614

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
ฮู่เจียไท่ออกแรงดิ้นรน แต่ทหารหลังจากได้ยินคำนั้นของอ๋องเจวี้ยนก็ออกแรงควบคุมเขาไว้ทันที จัดการกดเขาไว้บนพื้น กดหลังของเขาเอาไว้จนนิ่ง

อ๋องเจวี้ยนสาวเท้าเข้ามา ดูเหมือนการเคลื่อนไหวจะทรงสง่า แต่อันที่จริงปลายเท้ากลับเตะไปที่ชีพจรใหญ่ของเขาจุดหนึ่ง

พอจุดชีพจรเจ็บปวด ถัดจากนั้น กำลังภายในก็เหมือนทะลักออก เหมือนตันเถียนพังทลายลงอย่างไรอย่างนั้น

ไม่ ไม่ไม่ไม่!

อ๋องเจวี้ยนจะทำลายกำลังภายในของเขา!

ฮู่เจียไท่ดวงตาปูนโปน เขาคิดจะตะโกนร้อง แต่ว่าจุดชีพจรใบ้ถูกสกัดเอาไว้จึงร้องไม่ออก คิดจะดิ้นรน ก็ถูกคนกดเอาไว้จนกระเสือกกระสนไม่ไหว

ตอนนี้กำลังภายในกำลังพังทลาย สิ้นหวังแล้วจริงๆ!

หลบอยู่ตั้งหลายวัน กว่าจะหาโอกาสที่เลี่ยงหูตาอ๋องเจวี้ยนดอดเข้ามาในวังได้ แต่ผลลัพธ์คือพังไม่เป็นท่า!

เขาไม่เต็มใจ!

เขาไม่ยอม!

องค์จักรพรรดิพอเข้ามาก็ถูกอัดเป็นชุดๆ จนงงงันไปแล้ว

อันเหนียนขวางอยู่ด้านหน้าเขาไม่ไปไหน อ๋องเจวี้ยนหลังจากเข้ามาก็ทำให้ฮู่เจียไท่ไม่มีปากมีเสียงทันที ไทเฮากุมหน้าผากร้องไอ๊หยาไอ๊หยา ทำเอาข้าตกใจไปหมดแล้ว

องค์จักรพรรดิตั้งตัวกลับมาไม่ติด

"องค์จักรพรรดิ กระหม่อมถูกพวกเขาบีบคั้น" นายท่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 615

    อ๋องเจวี้ยนมองโหวจวิ้นอัน ส่งสัญญารให้ทหารปล่อยตัวเขาทหารถอยออกไป โหวจวิ้นอันสะบัดไหล่ นวดข้อมือตนเองที่ถูกคว้าจนปวด จากนั้นก็มองไปยังฮู่เจียไท่ที่ถูกกดอยู่บนพื้น"อ๋องเจวี้ยน ท่านทำไมจึงรู้ว่าข้าได้รับขวดหยกขาวพิสุทธิ์มาคู่หนึ่ง?"เขารู้สึกตกตะลึงมากไม่ใช่ว่าเรื่องที่เขาได้รับขวดหยกขาวพิสุทธิ์มาคู่หนึ่งเป็นความลับอะไร แต่เขาคิดว่าอ๋องเจวี้ยนไม่น่ามีความคิดและไม่น่าจะมาคอยจับตาดูตัวเขาเขาก็แค่โหวอาวุโสที่ไม่ได้มีอำนาจอะไรคนหนึ่ง ปกติก็แทบจะไม่มีตัวตนอยู่แล้ว แล้วอ๋องเจวี้ยนที่ได้รับสิ่งยืนยันสำคัญสามชิ้นมา ยิ่งปกว่านั้นสุขภาพก็ยังเจ็บป่วย แล้วทำไมจึงมาสนใจเรื่องของตนเองกัน?และเขาไม่ใช่แค่ว่ารู้ แต่ยังรู้อย่างชัดเจนขนาดนี้ ถึงกับพูดขวดหยกขาวพิสุทธิ์ออกมาเลยอ๋องเจวี้ยนยังไม่ได้พูดอะไร ไทเฮาก็เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ "จริงหรือ? ขวดหยกขาวพิสุทธิ์คู่นั้นจะส่งมอบให้ข้าหรือ? โหวจวิ้นอัน เช่นนั้นเจ้าก็ทำผิดแล้ว ตอนที่เจ้าเข้าวังเพื่อขอพบข้า แล้วยังมีเรื่องจะมาไหว้วานข้า แล้วทำไมจึงไม่นำขวดหยกมาด้วยกันล่ะ?""ไม่ใช่ ข้า.."โหวจวิ้นอันงงงันไปชั่วขณะเขาเดิมทีไม่ใช่ว่าวางท่วงท่าออกมาอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 616

    อันเหนียนหันข้าง บังตัวนายท่านผังเอาไว้ฮู่เจียไท่ในที่สุดก็ถูกคุมตัวออกไปเขาสิ้นหวังขึ้นในพริบตาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าอีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้น แต่ใครจะไปคิดว่าไทเฮาจะทำการเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นอ๋องเจวี้ยนก็ยังมาเร็วขนาดนี้อีกด้วย?จบกัน"ตอนนี้ใครจะบอกข้าได้บ้าง ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!"องค์จักรพรรดิร้องขึ้นอย่างโมโห เขาเองก็เดือดดาลเหมือนกันตอนนี้ไม่พอใจต่อตัวอ๋องเจวี้ยนมากที่สุด เพราะในขั้นตอนเมื่อครู่ ทำให้เขารู้สึกว่าเซียวหลันยวนต่างหากที่เป็นเจ้าของวังจักรพรรดิ ทั้งหมดล้วนถูกเซียวหลันยวนควบคุมไว้ เขากลับไม่มีโอกาสได้พูดเลย!เซียวหลันยวนแย่งชิงบัลลังก์ไปแล้วหรือเปล่านะ!"องค์จักรพรรดิ เรื่องนี้อีกเดี๋ยวตรวจสอบชัดเจนแล้วจะเขียนรายงานอย่างละเอียดส่งมาในวังหลวง" อ๋องเจวี้ยนเอ่ยขึ้น"ข้าอยากจะรู้ตอนนี้!""ตอนนี้หรือ?" อ๋องเจวี้ยนเหลือบมองไปทางนายท่านผัง "เชน่นั้นก็ให้นายท่านผังพูดเถิด""พูดมา!" องค์จักรพรรดิโมโหจนลงไม้ลงมือ ถีบไปที่นายท่านผังทีหนึ่งนายท่านผังรีบโขกศีรษะลงสามครั้ง"องค์จักรพรรดิโปรดให้อภัย ไทเฮาโปรดให้อภัย อ๋องเจวี้ยนโปรดให้อภัย""ให้อภัยเรื่องอะไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 617

    "เจ้าสังหารแม่นางเจี๋ยไปแล้วใช่ไหม?" ฮู่เจียไท่อันที่จริงยังคิดว่าอาจจะมีความโชคดีอยู่ คิดว่าบางทีคนที่ตายไปอาจจะไม่ใช่แม่นางเจี๋ยแต่ว่าเขากลับไม่รู้เลย ว่าประโยคถามตรงๆ นี้ของเขา ทำให้ฟู่จาวหนิงรู้ขึ้นมาเรื่องหนึ่ง นั่นคือคนที่ควบคุมกู่ทะลวงใจในร่างกายแม่นางเจี๋ย คนที่ลอบจับตามองพวกเขาอยู่ตลอดนั้นไม่ใช่ฮู่เจียไท่ไม่เช่นนั้นคงรู้ไปนานแล้วว่าแม่นางเจี๋ยตายอย่างไรฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบเขา เดินออกไป ยื่นมือไปคล้องข้อมือเขา จับชีพจรให้แก่เขาฮู่เจียไท่คิดจะสะบัดมือนางออก แต่กำลังภายในเขาถูกเซียวหลันยวนทำลายไปแล้ว ตอนนี้ยังถูกดจุดชีพจรไว้อีก ขยับตัวไม่ได้เลยเซียวหลันยวนเองก็กังวลว่าจะวุ่นวายรู้ๆ อยู่ว่าฮู่เจียไท่มีสภาพเช่นนี้แล้ว แต่ก็ยังกังวลฟู่จาวหนิงพอเข้าใกล้เขาแล้วจะมีอันตราย"เจ้าคิดจะทำอะไรกับข้า?""หุบปาก ท่านเงียบหน่อยได้ไหม? ข้าไม่อยากจะบีบถามอะไรท่านเสียหน่อย แต่ท่านก็เอาแต่แหกปากปาวๆ ไม่หยุดเสียที"ประโยครังเกียจขนาดนี้ของฟู่จาวหนิงทำเอาฮู่เจียไท่หน้าแดงก่ำเขากระทั่งยังรู้สึกว่าถูกทำให้อัปยศเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าตัวตนฐานะของเขาความสามารถของเขา จึงไม่คู่ควรให้นางต่อมาไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 618

    ฮู่โม่ไม่อยากจะเรียกเขาว่าท่านลุงแล้วตั้งแต่ที่รู้ว่าฮู่เจียไท่ฟังแต่คำพูดของแม่นางเจี๋ยคนนั้น แล้ววางยาพิษกับผู้นำตระกูลฮู่ เขาก็เตะโด่งฮู่เจียไท่ออกจากอาณาเขตแล้วคนที่โหดเหี้ยมไร้จิตใจเช่นนี้ เขายอมตัดทิ้งไม่เอาดีกว่า"ได้ อันที่จริงข้าก็ไม่มีอะไรจะถามเขาเหมือนกัน" ฟู่จาวหนิงคิดๆ แล้วก็เห็นด้วยฮู่เจียไท่กลับหน้าเปลี่ยนสีถึงตอนนี้เขาก็เพิ่งจะพบว่าตนเองไม่กล้าสู้หน้าท่านพ่อยิ่งไปกว่านั้น เขายังคิดว่าต่อให้ท่านพ่อถูกอ๋องเจวี้ยนช่วยเหลือกลับมาในจวนอ๋อง ก็น่าจะอยู่รอดได้ไม่นานแล้ว เพราะอาการบาดเจ็บของเขารุนแรงมาก แล้วยังถูกวางยาพิษอีก อายุปูนนั้นแล้วจะทานทนไหวได้อย่างไร?เขาคิดมาตลอดว่าผู้นำตระกูลฮู่ตอนนี้คงตายไปแล้วคิดไม่ถึงเลยว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังสติแจ่มใสอีกด้วย? แล้วยังอยากเจอเขาอีก?"ข้าไม่พบ มีอะไรน่าพบกัน?"ฮู่เจียไท่คัดค้านทันทีฮู่โม่หัวเราะเย็นชาขึ้นที่ประตู "ทำไมหรือ รู้สึกไม่มีหน้าไปพบท่านตาหรือ? ประหม่าหรือไร? กล้าทำไม่กล้ารับสินะ?""เสี่ยวโม่ ข้าเป็นผู้อาวุโสเจ้านะ เจ้ามาพูดกับข้าเช่นนี้หรือ?!""ถุด!"ฮู่โม่ถ่มน้ำลายออกมาเสียงหนึ่ง ไม่อยา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 619

    ถ้าไม่ใช่เขากำลังพูดเรื่องสังหารพ่อตนเองอยู่ ฟู่จาวหนิงก็เกือบจะหัวเราะพรวดออกมาแล้วฮู่โม่ทนไม่ไหว สาวเท้าพุ่งออกไป ง้างมือขึ้นตบฉาดไปที่หน้าเขา"ฮู่เจียไท่สมองของท่านถูกแมลงกู่กินไปแล้วหรือ! ท่านเห็นท่านพ่อบาดเจ็บหนัก ยังไม่พูดเรื่องไม่ช่วยเขา แต่นี่ยังซ้ำดาบลงไปที่เขาอีกหรือ? เรื่องนี้ท่านยังปั้นหน้าพูดออกมาได้อีก? ใต้หล้าทำไมจึงมีคนที่ไร้ยางอายอย่างท่านอยู่กัน?"พรวดฮู่เจียไท่กระอักเลือดสดถ้าไม่ใช่ท่านปู่ยังมีเรื่องจะถาม ฮู่โม่คงจัดการฟาดเขาจนตายไปแล้วผู้นำตระกูลฮู่หลับตาลง ตอนที่ลืมตาขึ้นก็ตารื้นฮู่โม่มองเขา กัดฟันเอ่ยขึ้น "ท่านพ่อ ท่านก็มองว่ามีลูกชายน้อยลงไปคนหนึ่งเถิด ท่านยังมีพ่อของข้าอยู่ อาสามอาสี่พวกเขา แล้วก็ยังมีพี่น้องอย่างพวกข้าด้วย"จะให้คนเช่นนี้มาเป็นคนในตระกูลไม่ได้ ไม่ใช่นนั้นคงได้โมโหจนตายแน่"รู้แล้ว ข้าแค่อยากถามเขา ว่าตอนนั้นหลังจากที่ภรรยาของพี่ใหญ่มาถึงเมืองหลวงแล้วล้มป่วย ต่อมาทนต่อได้ไม่นานนางก็ตายไป นี่เกี่ยวข้องกับแม่นางเจี๋ยไหม?"ท่านผู้เฒ่าฮู่ถามคำถามที่ทำให้พวกเขาทั้งหมดรู้สึกเกินคาดออกมาคำถามหนึ่งใครเองก็คิดไม่ถึงว่าเขาจู่ๆ จะถามอดีตฮู

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 620

    เซียวหลันยวนตอนที่กลับมาก็ผ่านช่วงอาหารเย็นไปแล้วฟู่จาวหนิงเขียนหนังสืออยู่ในห้องหนังสือเรือนเจียนเจียตอนที่เขาเข้ามาเห็นนางกำลังจรดพู่กัน แสงเทียนจุดสว่าง ส่องใบหน้านางจนราวกับชุบแสงเอาไว้ชั้นหนึ่ง ทั้งดูสวยงามทั้งอ่อนโยนน้ำค้างแข็งที่ติดตัวเข้ามาจากด้านนอกแต่เดิมละหลายหายไปหมดในพริบตาเดียวเซียวหลันยวนไม่อยากให้นางออกห่างจากจวนอ๋องเลยตอนนี้เขาเพิ่งจะได้รู้ถึงข้อดีของการแต่งงาน การที่มีนางอยู่"กลับมาแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงเงยหน้ามอง จากนั้นก็วางพู่กันในมือลงหงจั๋วเองก็ตามเข้ามา "ท่านอ๋องกินข้าวเย็นแล้วหรือยังเพคะ?""กินมาแล้ว"หลังจากเซียวหลันยวนตอบกลับคำหนึ่งก็มองไปทางฟู่จาวหนิง "เจ้ายังไม่ได้กินหรือ?" ถามจบก็หันหน้ามองไปทางหงจั๋ว "พระชายารอข้าอยู่รึ?""ท่านเลิกคิดไปได้เลย ข้าต้องกินแล้วสิ ใครจะรู้ว่าต้องรอท่านกลับมาตอนไหน" ฟู่จาวหนิงตอบหงจั๋วตอบกลับเสียงแผ่ว "ท่านอ๋อง อันที่จริงพระชายารออยู่พักหนึ่งแล้ว แต่เห็นท่านอ๋องไม่กลับมาเสียทีเลยกินไปก่อน"นางตอบแทนพระชายให้ ว่าพระชายาก็รออยู่ เพียงแต่ไม่ได้รอจนมืดขนาดนี้"ข้าผิดเอง หลังจากนี้ถ้ายังไม่กลับมากินข้าว ก็ส่งคนไป

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 621

    เซียวหลันยวนตอนนี้จึงเพิ่งเฉลยฟู่จาวหนิงตะลึงงัน"ดังนั้นจึงรู้สึกว่าน่าจะใช้งานได้มาตลอด พวกนางใช้เวลาหลายปีไปศึกษาค้นคว้าสิ่งนี้ ตอนนี้น่าจะเป็นพวกนางที่รู้มากกว่า" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น "ข้าให้พวกนางมาดูหน่อยแล้วกัน ว่าเสื้อผ้านี้เป็นของจวน""ท่านคิดไกลขนาดนี้เชียวหรือ?"ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงเลยว่าตอนนั้นเขาจะคิดไว้มากขนาดนี้"หลายปีก่อน ร่างกายไม่ค่อยสบาย ไม่มีแรงจะทำอะไร เรื่องอื่นๆ ก็ทำไม่ไหว ทำได้แค่เอาเรื่องที่คิดออกมาคิดอีกรอบ" เซียวหลันยวนตอบ"เช่นนั้นก็ให้พวกนางดูเถิด ให้โอกาสพวกนางได้ไถ่โทษเสียหน่อย" ฟู่จาวหนิงพยักหน้าเซียวหลันยวนเรียงชิงอีเข้ามา อธิบายไปสองสามคำชิงอีหยิบภาพนั้นแล้วไปหาไป๋ซวงกับจินเสวี่ยทันทีหงจั๋วรินน้ำชาร้อนเข้ามา เซียวหลันยวนดื่มไปอึกหนึ่ง จากนั้นก็มองไปยังกระดาษบนโต๊ะฟู่จาวหนิงด้านบนเขียนชื่อคนเอาไว้ส่วนหนึ่ง และยังวาดภาพที่เกี่ยวข้อง"วันนี้ไปพบฮู่เจียไท่มาหรือ?""อืม ข้าเพิ่งรู้ว่า ฮูหยินใหญ่ฮู่ที่จากไปแล้วตอนที่มายังเมืองหลวงในอดีตน่าจะรู้ความลับอะไรบางอย่าง จากนั้นก็ถูกวางยาพิษ ข้าลองถามผู้เฒ่าฮู่อย่างละเอียดแล้ว ว่าตอนนั้นอาการป่วยของ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 622

    "ลัทธิเทพทำลายล้าง ชื่อเสียงเลื่องลือฉาวโฉ่เน่าเหม็น"เซียวหลันยวนมองนางเช่นนี้ก็อดอยากจะไปปลอบนางไม่ได้ "จากที่ข้าตรวจสอบมา ตอนนั้นความฉลาดและสติปัญญาของฟู่จิ้นเชิน ถ้าว่าตามหลักการไม่มีทางถูกคนหลอกไปเข้าลัทธิอะไรเป็นแน่"ตอนนั้นฟู่จิ้นเชินเป็นจอหงวน แล้วยังเป็นช่วงที่รุ่งโรจน์สง่างามมีอนาคตอีกด้วย แล้วยังเพิ่งจะแต่งงานกับคนที่รักอีก มีความหยิ่งทะนงอยู่ ไม่ใช่ว่าใครจะมาหลอกชักชวนแล้วก็กลายเป็นสาวกลัทธิอะไรแบบนั้นหรอกฟู่จาวหนิงถอนหายใจแผ่วเบา"หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น""ทำไมหรือ ตอนนี้กลับกันแล้วหรือไร? ข้าหันมาปลอบเจ้า แต่ตัวเจ้าเองกลับจะไม่เชื่อพ่อแม่แล้วหรือ?"เซียวหลันยวนรู้สึกน่าขันหน่อยๆตัวเขาเองก็เหมือนเปลี่ยนไปแล้วก่อนหน้านี้พอพูดถึงสามีภรรยาฟู่จิ้นเชิน พอคิดถึงเรื่องที่ตนเองถูกวางยาพิษจนย่ำแย่ครั้งนั้น ในใจเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น พอคิดถึงพวกเขาสองคนก็รู้สึกแค่ว่าในอกเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าแต่ว่าตอนนี้ เขากลับคิดอยากจะช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากความผิดเสียแล้วเจตนาฆ่าเต็มอก ยังไม่ได้คุ้มค่ากับการที่นางต้องอารมณ์ไม่ดีพอพูดถึงสามีภรรยาฟู่จิ้นเชิน เขาตอนนี้ก็ถือว่าสงบลงมา

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1688

    "หมอเทวดาฟู่"ทุกคนราวกับเพิ่งตื่นจากฝัน ทำความเคารพฟู่จาวหนิงกันอย่างระมัดระวังพวกเขาอันที่จริงอยากจะคุกเข่าลงโขกศีรษะด้วยซ้ำ แต่พวกสืออีกประคองตัวไว้ เป็นสัญญาณว่าพวกเขายืนไว้ก็พอ"เรียท่านหมอฟู่ก็พอแล้ว"ฟู่จาวหนิงเองก็จนใจหน่อยๆ พวกเขาเหล่านี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากฏพวกนี้ตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ที่ว่าพอเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ จะถูกเรียกว่าหมอเทวดาอันที่จริง เทวดาก็ไม่ได้เป็นเทวดาอะไร นางเองก็มีโรคที่รักษาไม่ได้เหมือนกัน"ทุกคนรู้จักกันไว้ก่อนก็พอ อีกเดี๋ยวข้าจะจับชีพจรให้พวกเจ้าทั้งสิบคน ถ้ามีตรงไหนไม่สบาย มีโรคระบาดอะไรให้บอกข้าไว้ก่อน"ในเมื่อต้องใช้พวกเขา ฟู่จาวหนิงก็ต้องตรวจอาการพวกเขาก่อน"ข้าไม่มีโรคอะไร ข้าชื่ออาเหอ ใต้เท้าอันให้ขาพาพวกเขามา แล้วต้องฟังการกำชับจากหมอ ท่านหมอฟู่"อาเหอมองฟู่จาวหนิง รู้สึกประหม่าหน่อยๆหมอเทวดาหญิงที่สูงส่งเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะรังเกียจพวกเขาไหม"ได้ ไม่ต้องเครียดนัก บอกชื่อของตัวเองมาหน่อย"อาเหออันที่จริงก็ไม่ค่อยเชื่อนักว่าพูดเพียงรอบเดียว ฟู่จาวหนิงก็จะจำชื่อพวกเขาได้ แต่ว่า ได้พูดชื่อของตนเองออกมารอบหนึ่งต่อหน้านาง พวกเขากลับรู้สึกว่า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1687

    อันเหนียนเองก็เป็นคนมีความสามารถ ฟู่จิ้นเชินเองก็ด้วย สองวันต่อมาพวกเขาก็ไม่อยู่บนรถม้าแล้ว แต่ออกไปเดินกับพวกผู้ประสบภัยเวลาสองวัน พวกเขาสองคนก็เลือกผู้ประสบภัยมาสิบคน ถึงเวลาสามารถนำมาใช้งานได้เป็นพวกที่ซื่อๆ คล่องแคล่วไม่พูดมาก เนื่องจากในบ้านประสบภัยจนไปต่อไม่ไหวแล้วจึงตรงมาที่เมืองเจ้อ แต่พวกเขาก็ไม่อยากจะเอาแต่ขอความช่วยเหลือจากจวนทางการ แต่ยังคิดว่าหลังจากถึงเมืองเจ้อแล้วจะทำอะไรได้บ้าง เอามาแลกข้าวไปกินฤดูใบไม้ผลเมืองเจ้อหนาวเย็น พวกเขาอย่างน้อยยังต้องผ่านมันไปอีกสองเดือนภายใต้สิ่งแวดล้อมเช่นนี้ อากาศเย็นๆ เอาชีวิตพวกเขาไปได้ ถึงอย่างไรก็กลัวจะไม่มีที่คุ้มกะลาหัว กลัวไม่มีข้าวต้มร้อนๆ กิน และยิ่งไม่มีเงินที่จะหาหมอซื้อยาด้วยอันเหนียนกับฟู่จิ้นเชินเลือกผู้ประสบภัยมาสิบคน ว่าจ้างพวกเขาชั่วคราว ถึงเวลาถ้าช่วยเหลือได้ ก็รับประกันว่าได้กินอิ่ม เจ็บป่วยมียาให้สิ่งนี้ถือว่าดีมากๆ สำหรับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นในใจก็เกิดความปลอดภัยขึ้นมาทันทีพวกเขาอย่างน้อยยังมีประโยชน์บ้าง ยังมีความรู้สึกพึ่งพาได้ ตอนมาถึงเมืองเจ้อก็ไม่ต้องชะเง้อซ้ายขวา ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหน จะถูกจัดแจงที่พั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1686

    "จาวหนิง พวกเราต้องเร่งเดินทางแล้วกระมัง?"ฟู่จิ้นเชินให้พวกสืออีไปตรวจสอบรถม้าแต่ละคันอีกหน่อย ดูว่าสัมภาระมัดแน่นดีหรือไม่เขาเองก็ไม่คิดจะเปลืองน้ำลายอธิบายเรื่องนี้ความจริงมันเกิดขึ้นแล้ว เมื่อครู่จูเฉียนเฉี่ยนก็พูดเรื่องที่พวกเขาเคยเจอกันออกมาชัดเจนแล้ว ไม่มีอะไรให้อธิบายอีกยิ่งไปกว่านั้น ปฏิกิริยากับการจัดการของฟู่จาวหนิงก็เด็ดขาดไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีก"รีบเดินทางเถอะ" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ติดใจกับเรื่องนี้อันที่จริง เรื่องราวก็แค่นี้เอง ทุกคนเข้าใจแล้ว พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้เป็นเซียวหลันยวนเองถ้าเจอกับเรื่องนี้ หลังจากนางชัดเจนแล้วก็จะปล่อยมันไปเหมือนกัน แล้วนี่ก็เป็นพ่อของนางด้วยนะเพียงไม่นาน ทุกหลังจากที่พวกเขาจัดขบวนเรียบร้อยก็เดินทางต่อ ทิ้งจูเฉียนเฉี่ยนทั้งขบวนไว้ด้านหลังจูเฉียนเฉี่ยนมองเงาของพวกเขาที่จากไป ยืนนิ่งอยู่ที่นั่น"แม่นาง ช่างมันดีกว่าไหม?" ไฉ่เอ๋อร์อดเตือนนางขึ้นมาไม่ได้ "คุณชายฟู่คนนั้น ดูแล้วก็ไม่ได้ต้องการให้แม่นางตอบแทนนี่นา แล้วก็แม่นางข้างๆ เขาคนนั้น ข้ากลัวอยู่หน่อยๆ ด้วย"ฟู่จาวหนิงหน้าตาสะสวย ดูแล้วยังอายุน้อย ไม่ได้ลงไม้ลงมืออะ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1685

    "ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เช่นนั้นแม่นางจูก็มาตอบแทนบุญคุณด้วยการทำร้ายสินะ"อะไรนะ?จูเฉียนเฉี่ยนมองนางอย่างงงงัน"ข้า ข้าจะมาตอบแทนด้วยการทำร้ายได้อย่างไร?" นางยังไม่ได้เริ่มเลยนะ"เมื่อครู่ถ้าไม่ใช่คนของข้าลงมือ เจ้ารู้ไหมว่าจะมีผลลัพธ์อย่างไร?" ฟู่จาวหนิงเดิมทีก็ใช้ท่าทีคนแปลกหน้ากับนางอยู่แล้ว พอตอนนี้มารู้อดีตเข้า ท่าทีของนางก็ยิ่งเย็นชากว่าเดิมเสียอีก"ข้าเองก็ไม่ได้เจตนานี่นา ข้าไม่รู้จริงๆ ว่ายาที่คนคนนั้นขายให้ข้าจะรุนแรงขนาดนี้""เจ้าจะเจตนาหรือไม่มันเป็นเรื่องของเจ้า แต่พวกเรามองแค่ผลลัพธ์ เพราะไม่ว่าเจ้าจะมีหรือไม่มีเจตนา เรื่องราวสุดท้ายก็เป็นเจ้าที่ทำมันขึ้น ก่อนหน้าที่เจ้าจะทำเรื่องนี้ก็ได้พิจารณาที่จะไล่ตามมาไว้แล้ว ถ้าไม่พิจารณาเลยว่าจะส่งผลกระทบอะไรกับพวกเราบ้าง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงใจ "พวกเราตอนนี้เท่ากับช่วยชีวิตพวกเจ้าไว้แล้วครั้งหนึ่ง ครั้งที่แล้วเขาช่วยเจ้า สิ่งที่แลกมาคืออันตรายครั้งหนึ่ง ครั้งนี้พวกเราช่วยเจ้า ใครจะรู้ว่าครั้งต่อไปเจ้าจก่อเรื่องอะไรออกมาอีก? การเดินทางพวกเราตอนนี้ถูกเจ้าทำให้ล่าช้า ถ้าหากพวกเรามีเรื่องที่เร่งด่วนเกี่ยวกับชีวิตคน เช

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1684

    ข้ารู้ว่าท่านไม่น่าจะลืมข้าคำพูดนี้มันคลุมเครือเสียเหลือเกินฟู่จาวหนิงมองพ่อนาง สีหน้าเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกหน่อยๆฟู่จิ้นเชินรักหวานชื่นกับเสิ่นเชี่ยวมาตลอด แล้วยังมีภาพลักษณ์ที่ซ์่อสัตย์มั่นคงด้วย พวกเขาปกติตอนที่อยู่ด้วยกัน ก็มองออกได้ง่ายมากกว่ามีความรู้สึกให้กันดีมากๆอย่าให้จู่ๆ ก็มีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ขึ้นมาเชียว ความสงบสุขที่ตระกูลฟู่ได้มาอย่างยากลำบากอาจจะพังทลายลงได้ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเสิ่นเชี่ยวน่าจะไม่ใช่คนที่จะยอมรับหญิงสาวคนอื่นมาแบ่งสามีตัวเองไปได้ด้วยฟู่จิ้นเชินหลังจากได้ยินประโยคนั้นของจู่เฉียนเฉี่ยน ก็มองไปทางฟู่จาวหนิงทันทีพอสบกับสีหน้านาง เขาก็อธิบายออกมา แน่นอนว่าเป็นการอธิบายถึงเหตุการณ์ตอนนั้น"ตอนนั้นแม่ของเจ้าป่วย ไข้ขึ้นจนมึนไปหมด ข้าให้นางพักอยู่ในโรงเตี๊ยม ส่วนข้าเองก็ออกไปซื้อยา แล้วที่ด้านนอกร้านยานั้นก็เจอกับแม่นางคนนี้ โอ้ ตอนนั้นนางแต่งตัวเป็นชาย นางกำลังนำยาห่อหนึ่งให้กับหมอพเนจรคนหนึ่งดู""ตอนนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นหมอพเนจรอะไร เขาบอกว่าเขาเป็นหมอเทวดาจากสมาคมหมอใหญ่" จูเฉียนเฉี่ยนอธิบายมาคำหนึ่ง"วัตถุดิบยาห่อนั้นของนางมองแล้วดูดีมีค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1683

    จูเฉียนเฉี่ยนเห็นพวกเขาเข้ามา ก็ทำท่าทางน่าสงสารขึ้นหลักๆ คือมองไปทางฟู่จิ้นเชินอันเหนียนเพิ่งจะถามไปไม่กี่คำ พอเห็นท่าทางนางเช่นนี้จึงถอยออกไปสองก้าว ให้ฟู่จาวหนิงขึ้นหน้ามา"แม่นางจูสินะ?" ฟู่จาวหนิงยืนอยู่ด้านหน้าจูเฉียนเฉี่ยน สายตาเย็นเยียบ"ใช่แล้ว จูเฉียนเฉี่ยน" จูเฉียนเฉี่ยนรีบตอบ"พูดมา เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?"ฟู่จาวหนิงถามออกมาตรงๆ สายตามีอาการบีบคั้นเล็กน้อย ไม่ยอมให้นางได้มีโอกาสเลี่ยง"ข้า ข้า...""เจ้าคิดให้ดีแล้วค่อยตอบ ข้าไม่ยอมรับคำโกหก เพราะพวกเจ้าเมื่อครู่เกือบทำพวกเราแย่ไปด้วย" ฟู่จาวหนิงเห็นตาของนางหลุกไปหลิกมา จึงตัดบทคำพูดนางทันทีสายตานางเฉียบคมขนาดนี้เลยหรือ?จูเฉียนเฉี่ยนมองฟู่จาวหนิง รู้สึกแค่ว่าตนเองตอนอยู่ต่อหน้านางไม่เหลือความลับอะไรอยู่อีกแล้วอย่างไรอย่างนั้น สายตาฟู่จาวหนิงมองมาอย่างคมกริบ แล้วยังดูน่าเกรงขามอีกด้วยแม่นางคนนี้ดูแล้วเหมือนไม่ได้โตกว่านางเลย ทำไมถึงดูน่าเกรงขามขนาดนี้กัน?"ม้าของเจ้ากินยาแล้วคลั่งขึ้นมา เจ้าอย่าบอกข้า ว่าพวกเจ้าไม่รู้" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นมาให้ชัดเจนหน่อยไฉ่เอ๋อร์ถลึงตาโตอย่างตกใจ มองไปทางแม่นางของนางโดยสัญชา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1682

    จูเฉียนเฉี่ยนใจเย็นลงมา ก็รู้ว่าคงเลี่ยงไม่พ้นแล้ว เลิกม่านรถขึ้น สบตากับอันเหนียนคุณชายคนนี้เมื่อคืนก็ดูสุภาพเรียบร้อยดี แต่ตอนนี้กลับดูมีอำนาจน่าเกรงขาม ทำเอาเธอกลัวตัวสั่นจนไม่กล้าลงจากรถม้าเลย"แม่นางจูไม่เป็นไรใช่ไหม?"ใครจะคิด ว่าพออันเหนียนเอ่ยปากก็ถามไถ่อย่างเป็นห่วงจูเฉียนเฉี่ยนถอนใจโล่งออกมา "ยัง ยังไหว""ลงจากรถม้าก่อนดีไหม?"ถึงอย่างไรรถม้าาคันนี้ ม้าที่ลากรถก็ล้มไปแล้ว ตอนนี้คงเดินไม่ได้ ลงมาก่อนน่าจะดีกว่าคนใช้อีกสามคนของนางยังอยู่บนรถม้า อันเหนียนรู้สึกว่าคุยอะไรมากไม่ได้"พวกเราจะลงไปเดี๋ยวนี้"จูเฉียนเฉี่ยนนิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายใต้ปฏิกิริยาที่สงบอ่อนโยนของอันเหนียนอดพูดไม่ได้เลย ท่าทีของอันเหนียนสามารถปลอบอารมณ์ให้เย็นได้ดีจริงๆพอนางลงจากรถม้า ยังยื่นมือมาประคองสาวใช้ไฉ่เอ๋อร์อีก แล้วยังประคองหญิงรับใช้กับไฉ่เอ๋อร์ลงมาด้วยกัน"ไปพักทางนั้นก่อนเถอะ"อันเหนียนตอนที่ลงจากรถพวกนางก็มองไปรอบๆ เห็นว่าไม่ไกลนักที่พื้นหญ้าที่ค่อนข้างสะอาดอยู่ ที่นั่งยังมีหินอีกหลายก้อน บางทีก่อนหน้านี้อาจจะมีคนผ่านทางมาพักตรงนั้น หินจึงค่อนข้างเรียบ"เสี่ยวเจียง ไปเอาพรมม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1681

    ฟู่จาวหนิงเองก็ได้ยินการเคลื่อนไหวด้านอกแล้ว ขบวนรถของพวกเขาหยุดลงมา องครักษ์ควบม้าเข้ามา เอ่ยขึ้นเสียงร้อนรน "พระชายา ม้าของพวกเขาเสียการควคุม ดูผิดปกติมาก"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว กระโจนลงจากรถ เดินออกมาไม่กี่ก้าวมองไปด้านหลัง แล้วก็เห็นรถม้าหลายคันทะยานย่ำโคลนพุ่งเข้ามาจริงๆ"พวกเจ้ามั่นใจว่าช่วยได้ไหม?" นางถาม"ลองดูได้""เดี๋ยวก่อน" ฟู่จาวหนิงขึ้นไปบนรถม้าแล้วหยิบเข็มกำหนึ่งลงมาทันที "เข็มยาชา แทงใส่ม้า ระวังด้วย"พวกเขามีกำลังภายใน ใช้สิ่งนี้จะดูเก่งกาจกว่านางหน่อยองครักษ์รับเข็มไปทันที หลายคนหันม้าเข้าไปหาพวกของจูเฉียนเฉี่ยนคนใช้ของอีกฝ่ายลนลานไปแล้ว "หลีก หลีกไป! พวกเราหยุดไม่ได้!"ถ้าทั้งสองฝ่ายควบม้ามาชนกัน ต้องมีคนตายแน่การปะทะเช่นนี้ ถ้าล้มจากม้า จะต้องถูกเหยียบตายแหง"จับให้แน่น!" องครักษ์สองมือยกขึ้น เข็มก็พุ่งสาดออกไปราวห่าฝน แทงไปบนตัวม้าองครักษ์สองคนด้านหลังก็ไม่ลดความเร็ว พุ่งเข้าไปหาต่อ ควบม้าเอียงตัวหลบ จากนั้นยื่นมือไปคว้าอีกฝ่ายดึงขึ้นมาบนหลังม้าของตนเอง ยกเท้าเตะหัวม้า ให้ม้าเบนออกไปข้างทางส่วนม้าที่ลากรถม้าด้านหลังก็ถูกแทงไปหลายเข็ม ชั่วเวลาครู่เดียว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1680

    เพราะเมื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืน ตอนเช้าในช่วงเส้นทางนี้ ความเร็วขบวนรถจึงเน้นไปที่ความเสถียรเป็นหลักฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าจากเมืองหลวงไปเมืองเจ้อน่าจะสามสี่วันก็ไปถึง แต่ต่อมาพอถามฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน จึงรู้ว่าที่เซียวหลันยวนบอกว่าสามสี่วันไปถึง นั่นคือความเร็วของการขี่ม้าคนเดียวแต่แบบพวกเขาที่ขนสัมภาระมากมายเช่นนี้ กลางคืนยังต้องเข้าพัก หยุดพักเพื่อกินข้าวสามมือ ก็ต้องใช้เวลาประมาณหกวัน บวกกับเรื่องฝนหรืออย่างอื่น ความเร็วก็จะยิ่งช้าลง อาจจะไปถึงเจ็ดแปดวันดังนั้นนางจึงส่งองครักษ์สองคนขี่ม้านำไปสำรวจทางข้างหน้าก่อนแล้ว ถึงแม้จะไม่ถึงในสามสี่วัน แต่ก็หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกและเพราะไปได้ช้า จึงถูกคนอื่นตามขึ้นมาแล้วรถม้าของอันเหนียนอยู่หน้าขบวน ฟู่จาวหนิงนั่งอยู่รถม้าคันกลาง เดิมทียังมีรถม้าของฟู่จิ้นเชินตามอยู่ด้านหลังอีก แต่เพราะระหว่างทางพวกเขาต้องรีบเรียนรู้ ดังนั้นฟู่จิ้นเชินจึงอยู่บนรถม้าฟู่จาวหนิงเป็นส่วนใหญ่ด้านหลังมีรถสัมภาระอีกหลายคัน ด้านหลังก็เป็นองครักษ์จวนอ๋องคุมท้ายเพราะล้วนเป็นคนที่ฝึกยุทธ์มา พวกเขาอยู่ท้ายขบวนจึงได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลัง ว่ามีคนไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status