"ไร้สาระ นี่เจ้าพูดเรื่องที่โง่เขลาเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร!"ไทเฮาโมโหแล้วจริงๆ ถ้าองค์จักรพรรดิ คิดจะให้ใครไปเป็นข้าราชการก็ให้คนนั้นเป็นข้าราชการได้โดยที่ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น เช่นนั้นแผ่นดินนี้ก็คงเป็นแผ่นดินที่ใกล้จะล่มสลายไปแล้ว!คิดว่าควบคุมแคว้นหนึ่งมันเป็นเรื่องง่ายดายหรือไรกัน?"นี่มันโง่เขลาตรงไหน? ไทเฮา พวกเราเองก็ไม่เคยเข้าวังมาเพื่อขออะไรเลย ตอนนี้แค่ขอเงื่อนไขเล็กๆ นี้ ทำไมจึงทำไม่ได้กัน?" โหวจวิ้นอันกัดฟันพูดถึงอย่างไรตอนที่เข้ามาเขาก็คิดไว้แล้ว ไทเฮากับองค์จักรพรรดิจะต้องโกรธแน่ แต่หลังจากโกรธก็ควรจะรับปากเพื่อความรุ่งโรจน์ในภายหลัง เขาเองก็ต้องงัดกับแรงกดดันนี้"ต่อให้เจ้าอยากจะขอตำแหน่งข้ารชการ อย่าน้อยก็ควรจะขอเพื่อคนของตระกูลตนสิ?" ไทเฮาสูดลมหายใจลึก นางเองก็มองออกแล้ว โหวจวิ้นอันครั้งนี้ถ้าทำไม่สำเร็จจะไม่ยอมลดละแน่"คนผู้นี้สำหรับข้าแล้วสำคัญอย่างมาก พูดได้ว่าเป็นผู้มีบุญคุณเลยทีเดียว"คนที่หลังจากนี้สามารถทำให้เขากลายเป็นคนที่สูงส่งมั่งมี จะไม่สำคัญได้อย่างไรกัน?"โอ๋? ผู้มีบุญคุณ? เช่นนั้นก็พอเข้าใจได้ แล้วเป็นใครกัน?" ไทเฮาถาม"เขาอยู่ด้านนอกนี้ ไทเฮ
ถ้าหากเลือกระหว่างองค์จักรพรรดิและอ๋องเจวี้ยน คนมากมายคงคิดว่าไทเฮายืนอยู่ด้านองค์จักรพรรดิทางนี้ ถึงอย่างไรประชาชนก็ล้วนคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะดวงใจของไท่ซ่างหวงกับไทเฮาในอดีต เป็นลูกชายของผู้หญิงคนอื่นที่รับเข้ามาจากด้านนอกตอนนั้นไท่ซ่างหวงรักแม่ผู้ให้กำเนิดอ๋องเจวี้ยนมาก คนทั้งหมดล้วนคิดว่าในใจไทเฮาจะต้องสะกิดใจอยู่ สำหรับอ๋องเจวี้ยน นางจะต้องรังเกียจอยู่อย่างแน่นอนดังนั้นหลายปีมานี้ นางจึงไม่ถามไม่ไถ่ต่ออ๋องเจวี้ยน และไม่ได้ปกป้องเขาด้วยดังนั้นพวกของฮู่เจียไท่่จึงเลือกเข้ามากล่อมไทเฮา แล้วค่อยให้ไทเฮาไปกล่อมองค์จักรพรรดิทีละนิดทีละนิดฮู่เจียไท่ไม่รอให้ไทเฮาตั้งตัวติด เอ่ยต่อมาว่า"ไทเฮาอยากรู้ไหมว่าไท่ซ่างหวงทิ้งอะไรไว้ให้อ๋องเจวี้ยน? ตระกูลฮู่ของข้าปลายปีนี้ จะมากน้อยก็ล้วนได้ยินท่านผู้เฒ่าเอ่ยถึงเรื่องไท่ซ่างหวงในอดีต ไท่ซ่างหวงเคยกำชับเขาอะไร และหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนแต่งงานจะทำอะไร กระทั่งเพราะอะไรต้องรอให้อ๋องเจวี้ยนแต่งงานก่อนค่อยส่งสิ่งยืนยันให้เขา เรื่องเหล่านี้ข้ารู้ทั้งหมด"ฮู่เจียไท่มั่นใจมาก ไทเฮาจะต้องอยากรู้เรื่องเหล่านี้แน่ถึงอย่างไรไทเฮาตอนนั้นก็รังเกียจตัวตน
นางทำไมถึงจับคำออกมาแค่นั้นจากประโยคตั้งมากมายกัน?"ยังไม่รีบจับพวกเขาอีก! แล้วก็โหวจวิ้นอันกับนายท่านผัง!จับให้หมด! พวกเจ้ากล้าเอาคนที่วางยาพิษสังหารพ่อตนเองมาในบ้านข้า พวกเจ้าคิดจะทำร้ายบ้านข้าหรือไรกัน?"ทหารเข้ามาจับกุมคนเหล่านี้ทันทีฮู่เจียไท่เองก็คิดจะลงมือ แต่ที่นี่คือในวัง วังบรรทมของไทเฮา ถ้าเขาลงมือตอนนี้ เช่นนั้นก็เหมือนจะไม่ดีกับไทเฮาเสียแล้วเขาควบคุมตนเองเาอไว้ ผลคือถูกทหารพลิกสองมือกดลงบนพื้นไม่เหลือความองอาจอยู่อีกเลยแม้แต่น้อยโหวจวิ้นอันเองก็งงงันไปหมด"ไทเฮา ท่านทำไมจึงทำเช่นนี้?""ทำไมหรือ ข้าทำผิดหรือ? แม้ว่าราชวงศ์จะติดค้างตระกูลพวกเจ้า แต่ก่อนหน้านี้ไท่หวงเองก็ไม่เคยพูดว่าถ้าหากพวกเจ้าคิดจะทำร้ายราชวงศ์ พวกเราจะยืนนิ่งไม่ไหวติง"ไทเฮาถลึงตาโต สีหน้าเหมือนไม่เห็นว่าเป็นเรื่องผิดราวกับว่ารอยย่นทุกรอยบนใบหน้านางล้วนเขียนคำว่าบริสุทธิ์เอาไว้อย่างไรอย่างนั้นนายท่านผังล้วนนิ่งงันไม่ขยับตัว"องค์จักรพรรดิมาถึงแล้ว!"ตอนนี้เอง องค์จักรพรรดิกับอันเหนียนเข้ามาแล้วพวกเขาพอเข้ามาก็เห็นฉากที่ทำให้คนงงงันองค์จักรพรรดิหน้าเปลี่ยนสี "เสด็จแม่ นี่มันอะไรกัน?"
ฮู่เจียไท่ออกแรงดิ้นรน แต่ทหารหลังจากได้ยินคำนั้นของอ๋องเจวี้ยนก็ออกแรงควบคุมเขาไว้ทันที จัดการกดเขาไว้บนพื้น กดหลังของเขาเอาไว้จนนิ่งอ๋องเจวี้ยนสาวเท้าเข้ามา ดูเหมือนการเคลื่อนไหวจะทรงสง่า แต่อันที่จริงปลายเท้ากลับเตะไปที่ชีพจรใหญ่ของเขาจุดหนึ่งพอจุดชีพจรเจ็บปวด ถัดจากนั้น กำลังภายในก็เหมือนทะลักออก เหมือนตันเถียนพังทลายลงอย่างไรอย่างนั้นไม่ ไม่ไม่ไม่!อ๋องเจวี้ยนจะทำลายกำลังภายในของเขา!ฮู่เจียไท่ดวงตาปูนโปน เขาคิดจะตะโกนร้อง แต่ว่าจุดชีพจรใบ้ถูกสกัดเอาไว้จึงร้องไม่ออก คิดจะดิ้นรน ก็ถูกคนกดเอาไว้จนกระเสือกกระสนไม่ไหวตอนนี้กำลังภายในกำลังพังทลาย สิ้นหวังแล้วจริงๆ!หลบอยู่ตั้งหลายวัน กว่าจะหาโอกาสที่เลี่ยงหูตาอ๋องเจวี้ยนดอดเข้ามาในวังได้ แต่ผลลัพธ์คือพังไม่เป็นท่า!เขาไม่เต็มใจ!เขาไม่ยอม!องค์จักรพรรดิพอเข้ามาก็ถูกอัดเป็นชุดๆ จนงงงันไปแล้วอันเหนียนขวางอยู่ด้านหน้าเขาไม่ไปไหน อ๋องเจวี้ยนหลังจากเข้ามาก็ทำให้ฮู่เจียไท่ไม่มีปากมีเสียงทันที ไทเฮากุมหน้าผากร้องไอ๊หยาไอ๊หยา ทำเอาข้าตกใจไปหมดแล้วองค์จักรพรรดิตั้งตัวกลับมาไม่ติด"องค์จักรพรรดิ กระหม่อมถูกพวกเขาบีบคั้น" นายท่
อ๋องเจวี้ยนมองโหวจวิ้นอัน ส่งสัญญารให้ทหารปล่อยตัวเขาทหารถอยออกไป โหวจวิ้นอันสะบัดไหล่ นวดข้อมือตนเองที่ถูกคว้าจนปวด จากนั้นก็มองไปยังฮู่เจียไท่ที่ถูกกดอยู่บนพื้น"อ๋องเจวี้ยน ท่านทำไมจึงรู้ว่าข้าได้รับขวดหยกขาวพิสุทธิ์มาคู่หนึ่ง?"เขารู้สึกตกตะลึงมากไม่ใช่ว่าเรื่องที่เขาได้รับขวดหยกขาวพิสุทธิ์มาคู่หนึ่งเป็นความลับอะไร แต่เขาคิดว่าอ๋องเจวี้ยนไม่น่ามีความคิดและไม่น่าจะมาคอยจับตาดูตัวเขาเขาก็แค่โหวอาวุโสที่ไม่ได้มีอำนาจอะไรคนหนึ่ง ปกติก็แทบจะไม่มีตัวตนอยู่แล้ว แล้วอ๋องเจวี้ยนที่ได้รับสิ่งยืนยันสำคัญสามชิ้นมา ยิ่งปกว่านั้นสุขภาพก็ยังเจ็บป่วย แล้วทำไมจึงมาสนใจเรื่องของตนเองกัน?และเขาไม่ใช่แค่ว่ารู้ แต่ยังรู้อย่างชัดเจนขนาดนี้ ถึงกับพูดขวดหยกขาวพิสุทธิ์ออกมาเลยอ๋องเจวี้ยนยังไม่ได้พูดอะไร ไทเฮาก็เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ "จริงหรือ? ขวดหยกขาวพิสุทธิ์คู่นั้นจะส่งมอบให้ข้าหรือ? โหวจวิ้นอัน เช่นนั้นเจ้าก็ทำผิดแล้ว ตอนที่เจ้าเข้าวังเพื่อขอพบข้า แล้วยังมีเรื่องจะมาไหว้วานข้า แล้วทำไมจึงไม่นำขวดหยกมาด้วยกันล่ะ?""ไม่ใช่ ข้า.."โหวจวิ้นอันงงงันไปชั่วขณะเขาเดิมทีไม่ใช่ว่าวางท่วงท่าออกมาอ
อันเหนียนหันข้าง บังตัวนายท่านผังเอาไว้ฮู่เจียไท่ในที่สุดก็ถูกคุมตัวออกไปเขาสิ้นหวังขึ้นในพริบตาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าอีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้น แต่ใครจะไปคิดว่าไทเฮาจะทำการเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นอ๋องเจวี้ยนก็ยังมาเร็วขนาดนี้อีกด้วย?จบกัน"ตอนนี้ใครจะบอกข้าได้บ้าง ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!"องค์จักรพรรดิร้องขึ้นอย่างโมโห เขาเองก็เดือดดาลเหมือนกันตอนนี้ไม่พอใจต่อตัวอ๋องเจวี้ยนมากที่สุด เพราะในขั้นตอนเมื่อครู่ ทำให้เขารู้สึกว่าเซียวหลันยวนต่างหากที่เป็นเจ้าของวังจักรพรรดิ ทั้งหมดล้วนถูกเซียวหลันยวนควบคุมไว้ เขากลับไม่มีโอกาสได้พูดเลย!เซียวหลันยวนแย่งชิงบัลลังก์ไปแล้วหรือเปล่านะ!"องค์จักรพรรดิ เรื่องนี้อีกเดี๋ยวตรวจสอบชัดเจนแล้วจะเขียนรายงานอย่างละเอียดส่งมาในวังหลวง" อ๋องเจวี้ยนเอ่ยขึ้น"ข้าอยากจะรู้ตอนนี้!""ตอนนี้หรือ?" อ๋องเจวี้ยนเหลือบมองไปทางนายท่านผัง "เชน่นั้นก็ให้นายท่านผังพูดเถิด""พูดมา!" องค์จักรพรรดิโมโหจนลงไม้ลงมือ ถีบไปที่นายท่านผังทีหนึ่งนายท่านผังรีบโขกศีรษะลงสามครั้ง"องค์จักรพรรดิโปรดให้อภัย ไทเฮาโปรดให้อภัย อ๋องเจวี้ยนโปรดให้อภัย""ให้อภัยเรื่องอะไ
"เจ้าสังหารแม่นางเจี๋ยไปแล้วใช่ไหม?" ฮู่เจียไท่อันที่จริงยังคิดว่าอาจจะมีความโชคดีอยู่ คิดว่าบางทีคนที่ตายไปอาจจะไม่ใช่แม่นางเจี๋ยแต่ว่าเขากลับไม่รู้เลย ว่าประโยคถามตรงๆ นี้ของเขา ทำให้ฟู่จาวหนิงรู้ขึ้นมาเรื่องหนึ่ง นั่นคือคนที่ควบคุมกู่ทะลวงใจในร่างกายแม่นางเจี๋ย คนที่ลอบจับตามองพวกเขาอยู่ตลอดนั้นไม่ใช่ฮู่เจียไท่ไม่เช่นนั้นคงรู้ไปนานแล้วว่าแม่นางเจี๋ยตายอย่างไรฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบเขา เดินออกไป ยื่นมือไปคล้องข้อมือเขา จับชีพจรให้แก่เขาฮู่เจียไท่คิดจะสะบัดมือนางออก แต่กำลังภายในเขาถูกเซียวหลันยวนทำลายไปแล้ว ตอนนี้ยังถูกดจุดชีพจรไว้อีก ขยับตัวไม่ได้เลยเซียวหลันยวนเองก็กังวลว่าจะวุ่นวายรู้ๆ อยู่ว่าฮู่เจียไท่มีสภาพเช่นนี้แล้ว แต่ก็ยังกังวลฟู่จาวหนิงพอเข้าใกล้เขาแล้วจะมีอันตราย"เจ้าคิดจะทำอะไรกับข้า?""หุบปาก ท่านเงียบหน่อยได้ไหม? ข้าไม่อยากจะบีบถามอะไรท่านเสียหน่อย แต่ท่านก็เอาแต่แหกปากปาวๆ ไม่หยุดเสียที"ประโยครังเกียจขนาดนี้ของฟู่จาวหนิงทำเอาฮู่เจียไท่หน้าแดงก่ำเขากระทั่งยังรู้สึกว่าถูกทำให้อัปยศเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าตัวตนฐานะของเขาความสามารถของเขา จึงไม่คู่ควรให้นางต่อมาไ
ฮู่โม่ไม่อยากจะเรียกเขาว่าท่านลุงแล้วตั้งแต่ที่รู้ว่าฮู่เจียไท่ฟังแต่คำพูดของแม่นางเจี๋ยคนนั้น แล้ววางยาพิษกับผู้นำตระกูลฮู่ เขาก็เตะโด่งฮู่เจียไท่ออกจากอาณาเขตแล้วคนที่โหดเหี้ยมไร้จิตใจเช่นนี้ เขายอมตัดทิ้งไม่เอาดีกว่า"ได้ อันที่จริงข้าก็ไม่มีอะไรจะถามเขาเหมือนกัน" ฟู่จาวหนิงคิดๆ แล้วก็เห็นด้วยฮู่เจียไท่กลับหน้าเปลี่ยนสีถึงตอนนี้เขาก็เพิ่งจะพบว่าตนเองไม่กล้าสู้หน้าท่านพ่อยิ่งไปกว่านั้น เขายังคิดว่าต่อให้ท่านพ่อถูกอ๋องเจวี้ยนช่วยเหลือกลับมาในจวนอ๋อง ก็น่าจะอยู่รอดได้ไม่นานแล้ว เพราะอาการบาดเจ็บของเขารุนแรงมาก แล้วยังถูกวางยาพิษอีก อายุปูนนั้นแล้วจะทานทนไหวได้อย่างไร?เขาคิดมาตลอดว่าผู้นำตระกูลฮู่ตอนนี้คงตายไปแล้วคิดไม่ถึงเลยว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังสติแจ่มใสอีกด้วย? แล้วยังอยากเจอเขาอีก?"ข้าไม่พบ มีอะไรน่าพบกัน?"ฮู่เจียไท่คัดค้านทันทีฮู่โม่หัวเราะเย็นชาขึ้นที่ประตู "ทำไมหรือ รู้สึกไม่มีหน้าไปพบท่านตาหรือ? ประหม่าหรือไร? กล้าทำไม่กล้ารับสินะ?""เสี่ยวโม่ ข้าเป็นผู้อาวุโสเจ้านะ เจ้ามาพูดกับข้าเช่นนี้หรือ?!""ถุด!"ฮู่โม่ถ่มน้ำลายออกมาเสียงหนึ่ง ไม่อยา
พระชายาเยว่รู้สึกว่า แม่นมเยว่อดทนอยู่ในวังมายี่สิบปี คงวางแผนงานใหญ่อะไรอยู่นางถึงแม้จะเคยเห็นฝีมือแม่นมเยว่มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าแม่นมเยว่เองก็ไม่ได้มีฝีมือมากขนาดนั้น ถ้าหากนางร้ายกาจจริง จำเป็นต้องมาซุ่มอยู่ในวังหลวงยี่สิบปี แต่ก็ยังทำเรื่องไม่เสร็จแบบนี้หรือ?แม่นมเยว่น่าจะเป็นยอดฝืมือในการใช้ยา ยิ่งไปกว่านั้นยังยอดเยี่ยมในด้านการสกัดยาชนิดนั้น ยาที่ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจเท่าไร ถึงอย่างไรก็ทำให้แค่ผู้ชายมีความสุขล่องลอยได้มากเท่านั้น ทำเรื่องใหญ่โตอะไรให้สำเร็จไม่ได้ตอนนี้ นางได้รับความโปรดปรานจากองค์จักรพรรดิแล้ว ยังต้องคอยฟังแม่นมเยว่อยู่อีกหรือ?แต่ถ้าแม่นมเยว่ก็มีวิธีการที่จะให้องค์จักรพรรดิรับมือกับอ๋องเจวี้ยนจริงล่ะ?จะว่าไป ยาชนิดนั้นของแม่นมเยว่ ถ้าหากใช้กับอ๋องเจวี้ยน ไม่รู้ว่าจะมีประสิทธิผลไหมชั่วขณะหนึ่ง พระชายาเยว่คิดไปร้อยแปดจากนั้นนางก็ไปที่ครัวเล็ก ลงมือทำของว่างขึ้นมาถาดหนึ่ง เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งเนื้อแต่งตัวอย่างประณีต ยกของว่างเข้าไปในห้องหนังสือหลวงองค์จักรพรรดิเพิ่งฟังรายงานลับจบเขาให้คนจับตาดูคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของคนหลายคนในเมืองหลวง
"จุ๊ๆ เรื่องนี้..." พระชายาเยว่คิดๆ ยังไม่รู้จะจัดการอย่างไรก่อนดีชั่วคราว"เจ้ากลับไปอยู่ข้างๆ เฉินฮ่าวปิงก่อนแล้วกัน คอยจับตาดูนางไว้ มีเรื่องอะไรก็มาบอกกับข้า" พระชายาเยว่รู้สึกว่าตอนนี้ใช้งานชิวอวิ๋นไปก่อนแล้วกัน ถึงอย่างไรนางก็ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว"่เจ้าค่ะ"รอจนชิวอวิ๋นออกไป พระชายาเยว่ก็เรียกคนเข้ามาคนคนนี้ดูแล้วปกติดี แต่ว่าการเดินเหินในวังนั้นไม่ถูกใครสังเกตหรือสนใจเลยเป็นแม่นมที่หน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง"แม่นมเยว่ เมื่อครู่เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม?"แม่นมเยว่คนนี้ก้มหน้าต่ำเล็กน้อย เอ่ยขึ้นน้ำเสียงราบเรียบ"ได้ยินแล้วพะย่ะค่ะ""เรื่องนี้ ควรจะเผยกับองค์จักรพรรดิไหม?""ได้พะย่ะค่ะ""แต่ถ้าองค์จักรพรรดิรู้ อาจจะกริ้วอย่างรุนแรงได้ อ๋องฉยงที่มีความคิดไม่ดีกับพระชายาอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ถ้าลือออกไปจะไม่ดีกับราชวงศ์""เรื่องนี้มีประโยชน์กับการที่พวกเราจะสืบค้นระดับความอดทนของจักรพรรดิต่ออ๋องฉยงได้ว่าอยู่ที่ไหน เพราะอะไรอ๋องฉยงจึงยังอยู่ในเมืองหลวง เรื่องนี้ยังต้องตรวจสอบให้ชัดเจน""เนื้อหาการคุยกันของอ๋องฉยงกับองค์จักรพรรดิทำไมจึงเปิดเผยไม่ได้" พระชายาเยว่ถอนหายใจ"ดังนั้น
"อะไรนะ?!"พระชายาเยว่พอได้ยินประโยคนั้นของชิวอวิ๋น ทิ้งมารยาทอะไรไปเกือบหมดจนแทบกระโจนขึ้นมา"เจ้าอย่ามาพูดมั่วซั่วนะ! ถ้าให้คนอื่นได้ยินข้าเองก็ช่วยเจ้าไม่ได้!"อันที่จริงนางเองก็ไม่อยากได้ชิวอวิ๋นแล้ว ดูแล้วเหมือนทำเรื่องอะไรก็ไม่สำเร็จ ไร้ประโยชน์สิ้นดีแต่ว่าตอนนี้พอได้ยินชิวอวิ๋นพูดประโยคนี้ออกมา ก็ทำเอานางลืมเรื่องที่จะโยนชิวอวิ๋นทิ้งไปทันที"เป็นเรื่องจริง พระชายา เรื่องนี้ถ้าไม่ได้ยินเองกับหู ข้าน้อยจะกล้าแต่งขึ้นมาได้อย่างไรกัน?" ชิวอวิ๋นรีบพูด"อ๋องฉยงชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนรึ?""พะย่ะค่ะ ตอนที่ออกมาจากวังราชนิเวศน์ ข้าไปเจอที่หน้าประตูใหญ่"พระชายาเยว่คิดถึงใบหน้า รูปร่างของฟู่จาวหนิง ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เชื่อ"ได้ยินว่าอ๋องฉยงเป็นพวกชื่นชอบสาวงาม ไม่เช่นนั้นพระชายาอ๋องฉยงคงไม่คุมเขาไว้อย่างเข้มงวด ราวกับอยู่ในคุกแน่นอน"เพราะพอหย่อนยาน ไม่ทันระวังหน่อย อ๋องฉยงก็อาจจะไปหลับนอนกับสาวสวยคนไหนแล้วก็คอยเลี้ยงไว้ด้านนอกแต่พระชายาอ๋องฉยงเข้มงวดเสียขนาดนั้นแล้ว อ๋องฉยงก็ยังมีอวิ๋นจูกับเฉินฮ่าวปิงลูกนอกสมรสสองคนนี้ได้ที่โตแล้วมีอยู่สองคน แล้วที่ยังไม่โตล่ะ? อธิบายได้ว่าอ๋อง
"ข้าต้องการวัตถุดิบยาเหล่านี้เดิมทีก็จะให้นางส่งไปที่เมืองเจ้อ แล้วนางปฏิเสธเอง เดิมทีนี่เป็นความคิดของข้า! ท่านบอกว่าข้ารับมือไม่ไหว นางเองก็ไม่ใช่ว่าพึ่งพาคนอื่นหรือ ก็แค่เพราะนางแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนที่มีอำนาจ! ท่านให้นางเอาอ๋องเจวี้ยนให้ข้าสิ! ถ้าหากข้าเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ข้าเองยังทำได้ดีกว่านางเสียอีก!"ต่งฮ่วนจือถูกเสียงแหลมของนางแผดใส่จนปวดหูไปหมดแล้วเขามองอย่างตกตะลึงไปทางเฉินฮ่าวปิง ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่านางเป็นคนแบบนี้"เจ้าคิดว่าที่ศิษย์น้องหญิงมีความสามารถขนาดนี้ เป็นเพราะแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนหรือไรกัน?""แล้วไม่ใช่หรือ? นางก็แค่พึ่งพาอ๋องเจวี้ยนเหมือนกัน ด้านหลังมีต้นไม้ใหญ่ให้พักพิงร่มเย็น! ถ้าหากไม่ใช่อ๋องเจวี้ยน ตอนนั้นที่นางถอนหมั้นกับรัฐทายาทเซียวไปก็คงจะเอาตัวไม่รอดแล้ว ต่อมานางจะได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์เรียนหมอจนเข้าพันธมิตรโอสถได้อย่างไรกัน?!"ต่งฮ่วนจือมองนางลึกๆ ส่ายหัวถอนหายใจ"บนโลกนี้ไม่มีรัฐทายาทเซียวอีกแล้ว"ขนาดรัฐทายาทเซียวไม่อยู่แล้ว ก็ยังไม่รู้หรือ?"ช่างเถอะ วันนี้เจ้าเป็นท่านหญิงไปแล้ว ข้าก็แค่ประชาชนธรรมดา ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ขอตัวแค่นี้
พอเห็นสีหน้าเฉินฮ่าวปิง ใจของต่งฮ่วนจือก็เย็นลงมาทันทีทั้งที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟู่จาวหนิงแล้วแท้ๆ แต่ว่าตอนนี้ เฉินฮ่าวปิงก็ยังใช้ประโยชน์จากเขา คิดจะให้เขาขัดขวางศิษย์น้องหญิงต่อให้เป็นเรื่องที่เหลวไหลแบบนี้ นางก็ยังพูดออกมาโดยไม่หนักใจ แล้วขอให้เขาทำตามสิ่งที่นางต้องการต่งฮ่วนจือมองไปทางฮูหยินเฉิน เขายังดูคาดหวังอยู่ถึงอย่างไรฮูหยินเฉินก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว น่าจะรู้จักขอบเขตบ้างกระมัง?"เจ้าเองก็คิดแบบนี้หรือ? จะให้ข้าเก็บวัตถุดิบยาไว้จนกว่าฮ่าวปิงจะรวมเงินได้?"ฟังเอาเถอะ เขาพูดซ้ำออกมาอีกรอบหนึ่งก็ยังรู้สึว่าเป็นเรื่องไร้สาระเลยฮูหยินเฉินขมวดคิ้ว มองนางด้วยสายตาเศร้าๆแต่ก่อนพอเห็นสีหน้าเช่นนี้ของนาง ต่งฮ่วนจือก็จะรู้สึกปวดใจ อยากจะปกป้องนางขึ้นมา เขารู้ ว่านางเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง มีลูกสาวติดหนึ่งคน คอยหนีคนตามล่าอยู่ตลอด มันลำบากแค่ไหนถ้าหากเป็นไปได้ เขาเองก็อยากจะยืนบังลมบังฝนให้นาง เพราะแรกสุดเขารู้สึกชื่นชมนาง ชื่นชมความแข็งแกร่งและความรักของแม่จากตัวนางแต่สีหน้าต่อตัวเขาของฮูหยินเฉินตอนนี้ ต่งฮ่วนจือจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า อ๋องฉยงถึงอย่างไรก็หาพวกนางเจอแ
เฉินฮ่าวปิงมองต่งฮ่วนจือนางสามารถใช้วัตถุดิบยาของพันธมิตรโอสถทำการกุศลต่อได้ และยังพังแผนการของฟู่จาวหนิงได้อีก ทำให้นางไม่ได้รับวัตถุดิบยาหลังจากเฉินฮ่าวปิงกลับมาพูดเรื่องวันนี้กับฮูหยินเฉิน ฮูหยินเฉินโกรธมากดังนั้นนางจึงคิดวิธีนี้ออกมา รู้สึกว่าพวกนางตอนนี้รับมือฟู่จาวหนิงไม่ไหว แต่ถ้าลงแรงกับต่งฮ่วนจือทางนี้สักหน่อย สร้างความลำบากให้กับฟู่จาวหนิงได้บ้างก็ยังดีมีสิทธิ์อะไรที่จะยอมให้ฟู่จาวหนิงทำทุกอย่างได้ราบรื่นขนาดนั้น?ต่งฮ่วนจือถ้าหากขัดฟู่จาวหนิงได้ ไม่ใช่แค่ฟู่จาวหนิงจะไม่ชอบใจ แต่ผู้อาวุโสจี้ก็จะโกรธด้วย ถ้าผู้อาวุโสจี้โกรธ ฟู่จาวหนิงก็จะอารมณ์ไม่ดีดังนั้น ขอแค่กล่อมต่งฮ่วนจือ ก็จะทำได้ฟู่จาวหนิงอึดอัดได้ ดีจะตาย?ดังนั้น จึงได้เห็นเฉินฮ่าวปิงที่มาแสดงความอ่อนแอออดอ้อนต่งฮ่วนจือในตอนนี้นางรู้สึกว่า ความรักทีต่งฮ่วนจือมีให้นาง เรื่องนี้ไม่ใช่จะทำไม่สำเร็จแต่ตอนได้ยินคำพูดของนาง ต่งฮ่วนจือก็งงงันไปครู่หนึ่ง"ลุงต่ง..." เฉินฮ่าวปิงดึงแขนเสื้อของเขา "ได้ไหม?"ต่งฮ่วนจือดึงแขนเสื้อในมือนางกลับมา"เรื่องนี้ไม่ได้""ทำไมล่ะ?""อันดับแรก วัตถุดิบยาที่เจ้าคิดจะเอาไ
หลายปีก่อนที่เขาช่วยพวกนางแม่ลูกไว้ เฉินฮ่าวปิงยังเป็นเด็กสาวร่างผ่อนอ่อนแอ หลายปีนี้ยังถือว่าเขาเลี้ยงดูมาจนโต เขาแทบจะมองเฉินฮ่าวปิงเป็นลูกสาวตนเองไปแล้วแม้ตอนนี้นางเจอกับพ่อแท้ๆ แล้ว แต่พ่อแท้ๆ คนนั้นก็ไม่ใช่จะได้เรื่องกระมัง ต่งฮ่วนจือยังรู้สึกเป็นห่วงอยู่เขาคิดคิด ยังคิดจะไปบ้านเล็กในซอยนั่นเพื่อหาเฉินฮ่าวปิงหลายวันนี้เฉินฮ่าวปิงก็ไม่ยอมพบเขา ทุกครั้งที่เขามา คนใช้ก็จะบอกว่าท่านหญิงไม่อยู่วันนี้เขามา แต่เฉินฮ่าวปิงกลับอยู่ และยังยอมพบเขาด้วยพอเข้ามาในบ้าน มาถึงเรือนหน้า ฮูหยินเฉินก็อยู่ด้วยแม่ลูกหันมามองนางพร้อมกัน สายตาของคนทั้งคู่ล้วนแดงก่ำ ดูแล้วน่าสงสารมาก เฉินฮ่าวปิงพอเห็นเขาก็ร้องไห้โฮออกมา"ลุงต่ง!"นางพุ่งเข้ามาหาต่งฮ่วนจือ สองมือดึงแขนเสื้อเขา ร้องไห้ตัวโยน "ท่านมาได้เสียที!"ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาตั้งหลายครั้ง ก็ไม่ยอมออกมาเจอ ไม่ได้ว่าเขาไม่เคยมาเสียหน่อยแต่ต่งฮ่วนจือก็ไม่ได้พูดออกมา มองสภาพเฉินฮ่าวปิงแล้วเขาก็ยังคงปวดใจอยู่"ทำไมหรือ? เกิดอะไรขึ้น? อ๋อง อ๋องฉยงไม่ได้ช่วยเจ้าหรือ?"พอพูดถึงอ๋องฉยง เฉินฮ่าวปิงก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาเพราะวันนี้อ๋อง
ก่อนค่ำวันเดียวกันฟู่จาวหนิงให้สืออีไปเก็บตั๋วเงินพวกนี้มาแล้วกระทั่งองค์หญิงเจ็ดก็ยังไม่กล้าที่จะไม่ให้หลังจากให้สามพันตำลึงมาแล้ว คนเหล่านี้ก็ล้วนรู้สึกเหมือนเสียปราณชี่ขนานใหญ่ไป ไม่มีทั้งหน้าไม่มีทั้งเงิน แล้วยังหวาดผวา ไม่รู้หลังจากนี้จะมีเรื่องอะไรอีกถ้าเผื่อพระชายาอ๋องเจวี้ยนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนมาหาเรื่องบ้านพวกเขาอีกจะทำอย่างไร?โดยเฉพาะคุณหนูสี่หลิน หลังจากกลับมาก็ได้ยินพี่สาวคนโตกับคนรองพูดถึงเฉินฮ่าวปิง จึงได้รู้ว่าพวกนางเดิมทีก็ดูถูกท่านหญิงปิงอวี้อยู่แล้วพ่อของนางกับพี่สาวนางเองก็กำลังเดาว่าอ๋องฉยงทำไมจึงยังอยู่ในเมืองหลวง ยังพูดอีกว่า ไม่ว่าจะเพราะเรื่องอะไร การที่องค์จักรพรรดิให้อ๋องฉยงอยู่ในเมืองต่อโดยไม่สนกฏ ต้องไม่ใช่เรื่องดี พวกเขากำลังพูดว่า หลังจากนี้จะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่อ๋องฉยงอาจจะก่อความวุ่นวายอะไรขึ้น ไม่ต้องพูดถึงลูกสาวบ้านน้อยของเขาคนนั้นเลย?ในคำพูด คืออ๋องฉยงทำเรื่องไม่ถูกต้อง ลูกสาวบ้านน้อย ยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรดีดีเลย แต่ดันไปขอยศท่านหญิงมาองค์จักรพรรดิก็ยังรับปากอีก ดูจะเลอะเลือนหน่อยๆแน่นอน พวกเขาแอบคุยเรื่องน
เซียวหลันยวนพูดพลางหัวเราะเสียงต่ำฟู่จาวหนิงเองก็ตกตะลึงไป "ผู้ตรวจการอันไปคุกคามองค์จักรพรรดิหรือ?"ถ้าหากผู้ประสบภัยทะลักเข้าเมืองหลวง เมืองหลวงก็จะวุ่นวาย องค์จักรพรรดิไม่อยากจะสนใจก็คงต้องสนใจแล้วแค่โรคระบาด องค์จักรพรรดิก็ยังกลัวจนไม่ประชุมเช้า ไม่ต้องพูดเรื่องผู้ประสบภัยนับหมื่นเลย? เขาได้ตกใจจนตายกันพอดี"ก็จริงนั่นล่ะ แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริง แต่รายละเอียดด้านในที่นำไปปฏิบัติได้ก็มีเยอะมาก""แล้วองค์จักรพรรดิให้เงินบรรเทาภัยมาเท่าไร?""หนึ่งหมื่นตำลึง""ขี้เหนียว" ฟู่จาวหนิงเบ้ปากนางเองก็ยอมแล้ว ผู้ประสบภัยนับหมื่น แต่ให้เงินบรรเทาภัยมาหมื่นตำลึง? นางเค้นจากตัวพวกองค์หญิงเจ็ดยังได้มาตั้งสามหมื่นตำลึง"คลังหลวงว่างเปล่าแล้วจริงๆ""เอาเถะ พวกเราเองก็ลองไปเตรียมตัวดูก่อน ถ้าเงินไม่พอจริง ค่อยให้ผู้ตรวจการชิงกลับไปปล้นองค์จักรพรรดิอีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นถ้ายังไม่เห็นสถานการณ์เมืองเจ้อกับตา ใต้เท้าอันหากคิดจะปล้นก็ปล้นลำบาก"อันเหนียนบอกว่าสามวันนั้นรีบไปหน่อย ขอเลื่อนไปวันหนึ่ง ข้าส่งคนไปดูลาดเลาก่อน ตอนพวกเจ้าไปถึงจะมีคนรอรับอยู่"เอาของไปด้วยตั้งมากมาย ตอนไปถึงต้อง