แชร์

บทที่ 578

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
วันต่อมา ข่าวเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนได้รับสิ่งยืนยันครบสามชิ้นแล้วก็ถูกส่งออกมา

ฮู่เจียไท่หลังจากได้ข่าวก็ตกตะลึงจนหน้าเปลี่ยนสี ไปหาแม่นางเจี๋ยที่กำลังแก้พิษอยู่ในห้อง

"ทำอย่างไรดี? อ๋องเจวี้ยนได้สิ่งยืนยันไปแล้ว นั่นไม่ใช่บอกว่าท่านพ่อยังไม่ตายหรอกหรือ? แล้วเขาจะรู้ไหมว่าพวกเราวางยาพิษ?"

"ท่าน พิษน่ะข้าเป็นคนวาง ไม่ใช่ท่านเสียหน่อย ถ้าหากถูกตรวจสอบออกมาจริงๆ ท่านก็ผลักมาให้ข้าก็พอแล้ว"

คำพูดแม่นางเจี๋ยทำให้ฮู่เจียไท่ค่อนข้างซาบซึ้ง

"แม่นางเจี๋ย ถ้าไม่ได้แต่งเจ้าเข้ามา ข้าคงได้เป็นคนโง่ที่เอาแต่ฟังคำพูดของท่านพ่ออยู่ตลอดเวลา เขาพูดอะไรข้าก็ทำสิ่งนั้น พอถึงเวลาบ้านตระกูลฮู่ก็ไม่ได้ตกมาอยู่ในกำมือข้า ข้าก็เท่ากับทำงานให้กับพวกรุ่นหลังอย่างโง่เขลาเท่านั้น"

แม่นางเจี๋ยเม้มปากยิ้ม

"แล้วเจ้าคิดว่าชีวิตนี้ข้ายังจะมีความหมายอะไร? เจ้าพูดถูกต้อง ข้าต้องคิดเพื่อตนเอง ตระกูลฮู่เดิมทีก็ควรเป็นของข้า แต่ข้าจะไม่ผลักไสเจ้าออกไปหรอก เจ้าคือภรรยาผู้ชาญฉลาดของข้า แล้วข้างกายข้าจะไม่มีเจ้าได้อย่างไร?"

"แต่พิษที่ข้าติดนี่ก็ทำเอาน่ารำคาญเสียจริง และไม่รู้ว่าตอนไหนถึงจะถอนออกไปได้"

"เมืองหลวงไม่ใช่ม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 579

    "ออกไปดูอีกหน่อย ว่ามีใครมีสีหน้าผิดปกติบ้าง""ได้"ชายหนุ่มคนหนึ่งรีบร้อนวิ่งอยู่บนถนน มีคนผู้หนึ่งเดินออกมา พอเห็นเขาดวงตาก็เป็นประกาย ยกมือเรียกเขาไว้"พี่สาม!"ชายหนุ่มพอเห็นเขา ก็สั่นระริกขึ้นมาทันที รีบร้อนตรงไปดึงเขาแล้ววิ่งไปด้วยกัน"ไม่สิ พี่สาม นี่ท่านจะทำอะไร?""เสี่ยวโม่ เจ้าหนีไปไหนมากันแน่? ไม่เจอเจ้าตั้งนานขนาดนี้เลย!"ตอนนี้จู่ๆ ก็โผล่ออกมา"ข้าออกไปกินของอร่อยที่ชายเมืองมา ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกดึงไปเป็นคนคุ้มครองเรือนด้วย เลยไปลองทำดูเผื่อจะสนุก พี่สาม ข้าเพิ่งจะได้งานคนคุ้มครองเรือนนะ ท่านไม่รู้สินะ ข้าใช้เงินหมดแล้ว นี่คนอื่นเก็บข้าเอาไว้ด้วยเถอะ""เรื่องของท่านปู่เจ้าไม่รู้เลยหรือ?""เรื่องอะไรของท่านปู่? หาข้าไม่เจอแล้วคิดจะหักข้าทิ้งหรือเปล่า? เขาบอกว่าข้าประสบการณ์น้อยเกินไป นี่ข้าก็ไม่ใช่ว่าหาประสบการณ์เพิ่มอยู่หรอกหรือ? ข้ารู้ว่าพวกท่านมาแล้ว แต่ว่าหลายวันก่อนนี้ไม่ว่างออกมา วันนี้ข้า""เอาไว้ก่อน รีบเดินเถอะ! ข้าจะพาเจ้าไปที่หนึ่ง!"คนหนุ่มดึงตัวฮู่โม่รีบวิ่งออกไปฮู่โม่มองสภาพเขา ในใจก็ขรึมลง และไม่พูดอะไรอีก วิ่งตามไปด้วยกันเพียงแต่กว่าเขาจะรู้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 580

    นี่คือจะให้ฮู่โม่เข้าไปเองสินะ?ฮู่โม่นั่นอาจจะไม่รู้อะไรเลย ฮู่จิ้งเองก็ไม่รู้ว่าท่านปู่จะรู้ไหมว่าใครที่ทำร้ายเขา! ต่อให้รู้ ท่านปู่ก็ยังไม่รู้ว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่อยู่ดีฮู่โม่มองฮู่เจียไท่ จากนั้นก็มองไปที่ฮู่จิ้ง แม้เขาจะไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่ก็รู้สึกอย่างประหลาดว่าตนเองถ้าตอนนี้เข้าไป พี่สามน่าจะเป็นอันตรายเพราะสายตาที่พี่สามมองเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยการอ้อนวอน"ท่านลุง ข้ากับพี่สามเข้าไปด้วยกันดีกว่า ถ้าหากพวกเราะจพาท่านพ่อกลับไป มีคนช่วยเหลือก็จะดีหน่อย ข้าคนเดียวน่าจะไม่ไหว"ฮู่โม่หลังจากพูดประโยคนี้จบก็ดึงฮู่จิ้งแฉลบผ่านข้างตัวฮู่เจียไท่ไปอย่างรวดเร็วฮู่เจียไท่ยื่นมือคว้า แต่ก็แตะได้เพียงแขนเสื้อฮู่จิ้ง ดึงตัวไว้ไม่ทัน ความเร็วของเขาห่างจากฮู่โม่อยู่เล็กน้อยและในชั่วพริบตานี้ ฮู่โม่ก็พาฮู่จิ้งแฉลบไปที่ประตูจวนอ๋องเจวี้ยนแล้วผู้นำตระกูลฮู่สาเหตุที่ค่อนข้างลำเอียงไปทางฮู่โม่ คิดจะส่งบ้านตระกูลฮู่ให้กับเขา ก็เพราะฮู่โม่เรียนวิทยายุทธ์ได้ยอดเยี่ยม ทั้งตระกูลฮู่ ตอนนี้เขามีวรยุทธ์สูงที่สุด ไม่มีคนสามารถเทียบเขาได้"เสี่ยวโม่! เจ้ากลับมาแล้ว! พวกเร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 581

    เสี่ยวโม่คนนี้ คือหนึ่งในคนคุ้มครองเรือนใหม่ที่เศรษฐีฟางพามาให้นาง แต่ว่าพอเข้ามาในตระกูลฟู่แล้วก็ไม่ค่อยได้ไปทำความเข้าใจเท่าไรนักตอนนี้เขากลับปรากฎตัวขึ้นในกลุ่มคนตระกูลฮู่ ตัวตนฐานะของเขาคือ?"เสี่ยวโม่ เจ้ารู้จักพระชายาอ๋องเจวี้ยนหรือ?"ฮู่จิ้งเองก็ตะลึงไปเช่นกัน"เสี่ยวโม่? เรียกกันสนิทสนมขนาดนี้เชียว" เซียวหลันยวนเดินเข้ามา พอเห็นฟู่จาวหนิง ก็มองเห็นฮู่โม่ด้วยฮู่โม่ทำได้แค่ยิ้มแห้ง "เรื่องนั้น ข้าอธิบายได้นะ ตอนที่ข้ามาถึงเมืองหลวงพักหนึ่ง แต่พอเงินใช้หมด ก็อยากจะหางานมาเลี้ยงตนเองเสียหน่อย จากนั้นก็มาพบกับผู้เฒ่าฟาง ผู้เฒ่าฟางเองก็เป็นคนมีไมตรีมาก พอเห็นข้าวรยุทธ์ไม่เลว ก็หางานมาให้ข้างานหนึ่ง""ดังนั้น เจ้าจึงกลายมาเป็นคนคุ้มครองเรือนของบ้านข้าหรือ?"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีเหมือนกัน นางก่อนหน้านี้ยังพูดว่าเชื่อมั่นในสายตาของเศรษฐีฟางอยู่เลย ตอนนี้กลับปล่อยไก่เช่นนี้มาเสียแล้วแต่ว่า คนคุ้มครองเรือนเหล่านั้นของตระกูลฟู่ ปกตินางเดิมทีก็กำลังสังเกตอยู่ระยะหนึ่ง ให้พวกเฉินซานคอยจับตาเอาไว้ หากมีปัญหาขึ้นมาก็ให้ไล่ออกไป"เช่นนั้นข้าแนะนำตัวเองอีกครั้งดีไหม? ข้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 582

    "ท่านลุงกับท่านป้านั่นล่ะ!"ฮู่จิ้งข้างๆ กัดฟันเอ่ยขึ้นฮู่โม่ตกตะลึง "พี่สาม ท่านพูดอะไรน่ะ?""เจ้าเมื่อครู่ยังมองไม่ออกหรือ? ข้าได้ยินความลับของพวกเขา จึงรีบวิ่งออกมา ท่านลองคิดจะจับข้ากลับไปอยู่ตลอด ถ้าข้ากลับไป คงจะไม่ได้เจอกับเจ้าไปตลอดกาลแล้ว! เสี่ยวโม่ พวกเขากล้าลงมือกับท่านปู่ จะต้องไม่ละเว้นข้าแน่นอน!""นี่ท่านลุงเขา"ฮู่จิ้งเอาเรื่องที่ได้ยินก่อนหน้านี้พูดออกมา จากนั้นก็มองไปทางฟู่จาวหนิง "พระชายาอ๋องเจวี้ยนท่านต้องรีบหาวิธีขัดขวางพวกเขา ไม่เช่นนั้นท่านหลังจากนี้คงลำบากแน่!""คิดจะขุดหลุมใส่ข้าหรือ?"ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้วมองออกนานแล้วว่าฮู่เจียไท่คนนี้ไม่ใช่คนดีอะไร ตอนนี้ก็เป็นอย่างที่คาดไว้"แล้วแม่นางเจี๋ยคนนั้น?"เขาคิดไม่ถึงว่าตอนนั้นหญิงสาวที่อยู่ด้วยกันกับไห่ฉางจวิ้นจะเป็นภรรยาของฮู่เจียไท่"นางเป็นภรรยารองของท่านลุง หลังจากรับนางเข้าบ้าน ท่านลุงก็เปลี่ยนไป ทั้งๆ ที่แต่ก่อนก็ฟังท่านปู่มาโดยตลอด และเป็นคนที่ทำเพื่อนตระกูลฮู่ด้วย ทว่าตอนนี้แตกต่างออกไปแล้ว""ทหาร"เซียวหลันยวนร้องเรียกคนขึ้นมาทันที กำชับเสียงต่ำมาคำหนึ่งองครักษ์เงามังกรเคลื่อนพล"วางใจเถอะ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 583

    เข้าไปในบ้านชาวบ้านขโมยเสื้อผ้าออกมาชุดหนึ่ง ทาหน้าด้วยฝุ่นเขม่า แล้วแอบเข้าไปที่บ้านของขุนนางซื่อหลางคนหนึ่งแม่นางเจี๋ยเคยบอกไว้ ถ้าหากจำเป็นขึ้นมา นายท่านหลิวคนนี้ใช้การได้จวนอ๋องเจวี้ยนฟู่จาวหนิงเองก็ออกไปไม่ได้พักหนึ่งแล้วเรื่องทางนี้นางเองก็อยากรู้อยากเห็นเหมือนกัน และเรื่องยังเกี่ยวกับนางด้วย แน่นอนว่าต้องอยู่ต่อจนองครักษ์ลับจับแม่นางเจี๋ยกลับมา ฟู่จาวหนิงพอเห็นแม่นางเจี๋ยก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้"พรวด ป้าเองก็หนีไม่พ้นจริงๆ ด้วยสินะ?"แม่นางเจี๋ยยังไม่ตื่นขึ้นมา ไม่เช่นนั้นถ้าได้ยินฟู่จาวหนิงเรียกว่าป้า คงได้โมโตัวสั่นแน่"พระชายา คนผู้นี้เหมือนจะเป็นวิชาดูดวิญญาณจากต่างถิ่นด้วย ท่ากับท่านอ๋องต้องระวังให้มากๆ"องครักษ์ลับเตือนขึ้นมาคำหนึ่ง จากนั้นก็ผลักสหายเมื่อครู่คนนั้นเข้ามา บอกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เขายิ่งกังวลกับท่านอ๋องมากขึ้นถึงอย่างไรหญิงสาวคนนี้ ถ้าใช้วิชาดูดวิญญาณขึ้นมา สำหรับท่านอ๋องก็เหมือนจะอันตรายมากพวกเขาทั้งจวนอ๋องล้วนกังวลว่าท่านอ๋องจะทำเรื่องอะไรผิดพลาด แล้วทำให้พระชายาจากเขาไปมีพระชายาคนนี้แล้วพวกเขามีความสุขมาก"วิชาดูดวิญญาณ? ร้ายกา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 584

    คนทั้งหมดล้วนกลั้นหายใจมองการเคลื่อนไหวของฟู่จาวหนิงฟังคำพูดของนาง นางเก็บหยกพกลงไป จากนั้นก็ดีดนิ้วขึ้นแรงๆ ตรงหน้าองครักษ์ลับ"เพียะ!"เสียงดังแจ่มชัด แล้วยังกะทันหันอย่างมาก"ปึง"จากคำสั่งที่แจ่มชัดเสียงหนึ่งของฟู่จาวหนิง องครักษ์ลับคนนั้นสั่นไปทั้งตัว ดวงตาที่เหม่อลอยแต่เดิมกลับมารวมศูนย์ในพริบตา สีหน้าเองก็เปลี่ยนไป"พระชายา?"เซียวหลันยวนมองเห็นสิ่งนี้ ก็ออกคำสั่งขรึมลงทันที "วิชาหมัดร้อยสังหารหนึ่งรอบปฏิบัติ""ขอรับ!" องครักษ์ลับพอได้ยินคำสั่ง ก็ถอยออกไปยังลานกว้าง ใช้วิชาหมัดร้อยสังหารออกมากระบวนหนึ่งองครักษ์ลับท่วงท่าราบรื่น วิชาหมัดทรงภูมิฐาน ตอนออกหมัดเปี่ยมล้นด้วยพลัง หมัดซัดออกไปพร้อมแรงลมยังเหลือท่าทางอืดอาดเหมือนเมื่อครู่เสียที่ไหน?วิชาหมัดซัดออกไป ตอนที่เก็บหมัดก็ยังมีความดุดันอีกพอควร ท่าทางเหมือนพวกเขาในการฝึกซ้อมปกติ"ไม่เป็นไรแล้วหรือ?"ชิงอีพอเห็นสภาพก็ถลึงตาโตเซียวหลันยวนถอนใจเบาออกมาพวกเขาล้วนมองไปทางฟู่จาวหนิง ในดวงตามีความทอดถอนใจอย่างตกตะลึง"เอาล่ะ ไม่เป็นไรแล้ว" ฟู่จาวหนิงนำหยกพกคืนให้เซียวหลันยวน"เจ้าทำได้อย่างไรกัน?"กระทั่งสายตาที่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 585

    "ท่านอ๋อง" ทหารรีบเดินเข้ามา"เอาคนผู้นี้ไปไว้ที่โถงด้านข้าง""ขอรับ"ทหารพาแม่นางเจี๋ยออกไป เซียวหลันยวนจูงมือฟู่จาวหนิง นางสะบัดๆ แต่ก็สะบัดไม่หลุด"พวกเราไปไต่สวนคนกัน"ฮู่จิ้งกับฮู่โม่เองก็ถูกเชิญมาด้วยพวกเขาพอเห็นแม่นางเจี๋ยถูกมัดอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ก็เหลือบตามองกันเอง สีหน้าล้วนตกตะลึงและกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นคนตระกูลฮู่ของพวกเขา ก่อนหน้าก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโสของพวกเขา แล้วยังเรียกว่าท่านป้าอีกด้วยท่านป้าถูกจับไว้เช่นนี้ พวกเขาอย่างน้อยก็ต้องหน้าเจื่อนกันบ้างแต่ว่าตอนนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไต่สวนแม่นางเจี๋ยออกมาให้ได้ว่ามีปัญหาอะไร"ปลดจุดชีพจรนางเสีย" เซียวหลันยวนเพิ่งจะพลาดไปพลิกบัญชีเก่าออกมา ตอนนี้จึงไม่คิดจะเข้าไปปลดจุดชีพจรให้แม่นางเจี๋ยแล้วหลังจากทหารเข้าไปปลดให้กับแม่นางเจี๋ย นางก็ยังไม่ลืมตาขึ้น ไม่ขยับเขยื้อนเซียวหลันยวนเหลือบมองฟู่จาวหนิงคิดว่าไม่ลืมตาแล้วจะถือว่ายังไม่ตื่นหรือ?คิดอะไรกันฟู่จาวหนิงเอ่ยลอยๆ ขึ้นมาคำหนึ่ง "งูหลังทองของพวกเจ้า ข้าใช้เข็มแทงตายไปแล้วนะ"ควับ!แม่นางเจี๋ยทนไม่ไหวจริงๆ พอได้ยินเสียงของนาง และคำพูดของ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 586

    แม่นางเจี๋ยไม่มีแรงจะต่อต้าน ยอมให้ฟู่จาวหนิงค้นตัวไปรอบหนึ่งนางตอนหลังถึงสงบลงมาได้ แค่รู้สึกว่าถึงอย่างไรฟู่จาวหนิงก็หาไหมใจโลหิตของนางไม่เจอฟู่จาวหนิงค้นของออกมาจากตัวนางได้ไม่น้อยเลย รวมถึงอาวุธลับยาพิษบางส่วน แต่ก็หาไหมใจโลหิตไม่เจอตอนที่นางหยุดค้น แม่นางเจี๋ยก็ยืนยันใจใจแล้ว แล้วยังยกตาท้าทายไปทางนางผาดหนึ่งด้วย"พระชายาอ๋องเจวี้ยน เจ้าแม้จะเป็นพระชายา แต่อายุก็ยังน้อยกว่าข้ามาก จะเป็นมนุษย์ก็ต้องรู้จักวางมารยาทให้เหมาะสม""โอ้ ข้าจะทำสุดกำลังแล้วกัน" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็พิจารณามองนางมองๆ ปิ่นปักผมของนาง มองต่างหูนางในใจแม่นางเจี๋ยตึกตัก เอ่ยต่อว่า "อย่าคิดว่าอ๋องเจวี้ยนเอ็นดูเจ้าแล้วจะทำได้ทุกอย่าง นี่เป็นใต้หล้าขององค์จักรพรรดินะ ไม่ใช่ของอ๋องเจวี้ยน!""ทำไมเจ้าถึงคิดว่าเขาเอ็นดูข้า?" ฟู่จาวหนิงรู้สึกอยากรู้อยากเห็น "ด้านนอกเขาไปลือกันอย่างไร?"เซียวหลันยวนหันหลังให้พวกเขา พอได้ยินบทสนทนานี้ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร"คนที่เป็นที่โดนโปรดปรานถูกเอ็นดูส่วนใหญ่มักมีจุดจบไม่ค่อยดีนัก" แม่นางเจี๋ยเอ่ยต่อ"อืม ขอบคุณที่เตือน"ฟู่จาวหนิงไม่เอาคำพูดนี้ไ

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1688

    "หมอเทวดาฟู่"ทุกคนราวกับเพิ่งตื่นจากฝัน ทำความเคารพฟู่จาวหนิงกันอย่างระมัดระวังพวกเขาอันที่จริงอยากจะคุกเข่าลงโขกศีรษะด้วยซ้ำ แต่พวกสืออีกประคองตัวไว้ เป็นสัญญาณว่าพวกเขายืนไว้ก็พอ"เรียท่านหมอฟู่ก็พอแล้ว"ฟู่จาวหนิงเองก็จนใจหน่อยๆ พวกเขาเหล่านี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากฏพวกนี้ตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ที่ว่าพอเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ จะถูกเรียกว่าหมอเทวดาอันที่จริง เทวดาก็ไม่ได้เป็นเทวดาอะไร นางเองก็มีโรคที่รักษาไม่ได้เหมือนกัน"ทุกคนรู้จักกันไว้ก่อนก็พอ อีกเดี๋ยวข้าจะจับชีพจรให้พวกเจ้าทั้งสิบคน ถ้ามีตรงไหนไม่สบาย มีโรคระบาดอะไรให้บอกข้าไว้ก่อน"ในเมื่อต้องใช้พวกเขา ฟู่จาวหนิงก็ต้องตรวจอาการพวกเขาก่อน"ข้าไม่มีโรคอะไร ข้าชื่ออาเหอ ใต้เท้าอันให้ขาพาพวกเขามา แล้วต้องฟังการกำชับจากหมอ ท่านหมอฟู่"อาเหอมองฟู่จาวหนิง รู้สึกประหม่าหน่อยๆหมอเทวดาหญิงที่สูงส่งเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะรังเกียจพวกเขาไหม"ได้ ไม่ต้องเครียดนัก บอกชื่อของตัวเองมาหน่อย"อาเหออันที่จริงก็ไม่ค่อยเชื่อนักว่าพูดเพียงรอบเดียว ฟู่จาวหนิงก็จะจำชื่อพวกเขาได้ แต่ว่า ได้พูดชื่อของตนเองออกมารอบหนึ่งต่อหน้านาง พวกเขากลับรู้สึกว่า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1687

    อันเหนียนเองก็เป็นคนมีความสามารถ ฟู่จิ้นเชินเองก็ด้วย สองวันต่อมาพวกเขาก็ไม่อยู่บนรถม้าแล้ว แต่ออกไปเดินกับพวกผู้ประสบภัยเวลาสองวัน พวกเขาสองคนก็เลือกผู้ประสบภัยมาสิบคน ถึงเวลาสามารถนำมาใช้งานได้เป็นพวกที่ซื่อๆ คล่องแคล่วไม่พูดมาก เนื่องจากในบ้านประสบภัยจนไปต่อไม่ไหวแล้วจึงตรงมาที่เมืองเจ้อ แต่พวกเขาก็ไม่อยากจะเอาแต่ขอความช่วยเหลือจากจวนทางการ แต่ยังคิดว่าหลังจากถึงเมืองเจ้อแล้วจะทำอะไรได้บ้าง เอามาแลกข้าวไปกินฤดูใบไม้ผลเมืองเจ้อหนาวเย็น พวกเขาอย่างน้อยยังต้องผ่านมันไปอีกสองเดือนภายใต้สิ่งแวดล้อมเช่นนี้ อากาศเย็นๆ เอาชีวิตพวกเขาไปได้ ถึงอย่างไรก็กลัวจะไม่มีที่คุ้มกะลาหัว กลัวไม่มีข้าวต้มร้อนๆ กิน และยิ่งไม่มีเงินที่จะหาหมอซื้อยาด้วยอันเหนียนกับฟู่จิ้นเชินเลือกผู้ประสบภัยมาสิบคน ว่าจ้างพวกเขาชั่วคราว ถึงเวลาถ้าช่วยเหลือได้ ก็รับประกันว่าได้กินอิ่ม เจ็บป่วยมียาให้สิ่งนี้ถือว่าดีมากๆ สำหรับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นในใจก็เกิดความปลอดภัยขึ้นมาทันทีพวกเขาอย่างน้อยยังมีประโยชน์บ้าง ยังมีความรู้สึกพึ่งพาได้ ตอนมาถึงเมืองเจ้อก็ไม่ต้องชะเง้อซ้ายขวา ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหน จะถูกจัดแจงที่พั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1686

    "จาวหนิง พวกเราต้องเร่งเดินทางแล้วกระมัง?"ฟู่จิ้นเชินให้พวกสืออีไปตรวจสอบรถม้าแต่ละคันอีกหน่อย ดูว่าสัมภาระมัดแน่นดีหรือไม่เขาเองก็ไม่คิดจะเปลืองน้ำลายอธิบายเรื่องนี้ความจริงมันเกิดขึ้นแล้ว เมื่อครู่จูเฉียนเฉี่ยนก็พูดเรื่องที่พวกเขาเคยเจอกันออกมาชัดเจนแล้ว ไม่มีอะไรให้อธิบายอีกยิ่งไปกว่านั้น ปฏิกิริยากับการจัดการของฟู่จาวหนิงก็เด็ดขาดไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีก"รีบเดินทางเถอะ" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ติดใจกับเรื่องนี้อันที่จริง เรื่องราวก็แค่นี้เอง ทุกคนเข้าใจแล้ว พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้เป็นเซียวหลันยวนเองถ้าเจอกับเรื่องนี้ หลังจากนางชัดเจนแล้วก็จะปล่อยมันไปเหมือนกัน แล้วนี่ก็เป็นพ่อของนางด้วยนะเพียงไม่นาน ทุกหลังจากที่พวกเขาจัดขบวนเรียบร้อยก็เดินทางต่อ ทิ้งจูเฉียนเฉี่ยนทั้งขบวนไว้ด้านหลังจูเฉียนเฉี่ยนมองเงาของพวกเขาที่จากไป ยืนนิ่งอยู่ที่นั่น"แม่นาง ช่างมันดีกว่าไหม?" ไฉ่เอ๋อร์อดเตือนนางขึ้นมาไม่ได้ "คุณชายฟู่คนนั้น ดูแล้วก็ไม่ได้ต้องการให้แม่นางตอบแทนนี่นา แล้วก็แม่นางข้างๆ เขาคนนั้น ข้ากลัวอยู่หน่อยๆ ด้วย"ฟู่จาวหนิงหน้าตาสะสวย ดูแล้วยังอายุน้อย ไม่ได้ลงไม้ลงมืออะ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1685

    "ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เช่นนั้นแม่นางจูก็มาตอบแทนบุญคุณด้วยการทำร้ายสินะ"อะไรนะ?จูเฉียนเฉี่ยนมองนางอย่างงงงัน"ข้า ข้าจะมาตอบแทนด้วยการทำร้ายได้อย่างไร?" นางยังไม่ได้เริ่มเลยนะ"เมื่อครู่ถ้าไม่ใช่คนของข้าลงมือ เจ้ารู้ไหมว่าจะมีผลลัพธ์อย่างไร?" ฟู่จาวหนิงเดิมทีก็ใช้ท่าทีคนแปลกหน้ากับนางอยู่แล้ว พอตอนนี้มารู้อดีตเข้า ท่าทีของนางก็ยิ่งเย็นชากว่าเดิมเสียอีก"ข้าเองก็ไม่ได้เจตนานี่นา ข้าไม่รู้จริงๆ ว่ายาที่คนคนนั้นขายให้ข้าจะรุนแรงขนาดนี้""เจ้าจะเจตนาหรือไม่มันเป็นเรื่องของเจ้า แต่พวกเรามองแค่ผลลัพธ์ เพราะไม่ว่าเจ้าจะมีหรือไม่มีเจตนา เรื่องราวสุดท้ายก็เป็นเจ้าที่ทำมันขึ้น ก่อนหน้าที่เจ้าจะทำเรื่องนี้ก็ได้พิจารณาที่จะไล่ตามมาไว้แล้ว ถ้าไม่พิจารณาเลยว่าจะส่งผลกระทบอะไรกับพวกเราบ้าง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงใจ "พวกเราตอนนี้เท่ากับช่วยชีวิตพวกเจ้าไว้แล้วครั้งหนึ่ง ครั้งที่แล้วเขาช่วยเจ้า สิ่งที่แลกมาคืออันตรายครั้งหนึ่ง ครั้งนี้พวกเราช่วยเจ้า ใครจะรู้ว่าครั้งต่อไปเจ้าจก่อเรื่องอะไรออกมาอีก? การเดินทางพวกเราตอนนี้ถูกเจ้าทำให้ล่าช้า ถ้าหากพวกเรามีเรื่องที่เร่งด่วนเกี่ยวกับชีวิตคน เช

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1684

    ข้ารู้ว่าท่านไม่น่าจะลืมข้าคำพูดนี้มันคลุมเครือเสียเหลือเกินฟู่จาวหนิงมองพ่อนาง สีหน้าเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกหน่อยๆฟู่จิ้นเชินรักหวานชื่นกับเสิ่นเชี่ยวมาตลอด แล้วยังมีภาพลักษณ์ที่ซ์่อสัตย์มั่นคงด้วย พวกเขาปกติตอนที่อยู่ด้วยกัน ก็มองออกได้ง่ายมากกว่ามีความรู้สึกให้กันดีมากๆอย่าให้จู่ๆ ก็มีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ขึ้นมาเชียว ความสงบสุขที่ตระกูลฟู่ได้มาอย่างยากลำบากอาจจะพังทลายลงได้ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเสิ่นเชี่ยวน่าจะไม่ใช่คนที่จะยอมรับหญิงสาวคนอื่นมาแบ่งสามีตัวเองไปได้ด้วยฟู่จิ้นเชินหลังจากได้ยินประโยคนั้นของจู่เฉียนเฉี่ยน ก็มองไปทางฟู่จาวหนิงทันทีพอสบกับสีหน้านาง เขาก็อธิบายออกมา แน่นอนว่าเป็นการอธิบายถึงเหตุการณ์ตอนนั้น"ตอนนั้นแม่ของเจ้าป่วย ไข้ขึ้นจนมึนไปหมด ข้าให้นางพักอยู่ในโรงเตี๊ยม ส่วนข้าเองก็ออกไปซื้อยา แล้วที่ด้านนอกร้านยานั้นก็เจอกับแม่นางคนนี้ โอ้ ตอนนั้นนางแต่งตัวเป็นชาย นางกำลังนำยาห่อหนึ่งให้กับหมอพเนจรคนหนึ่งดู""ตอนนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นหมอพเนจรอะไร เขาบอกว่าเขาเป็นหมอเทวดาจากสมาคมหมอใหญ่" จูเฉียนเฉี่ยนอธิบายมาคำหนึ่ง"วัตถุดิบยาห่อนั้นของนางมองแล้วดูดีมีค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1683

    จูเฉียนเฉี่ยนเห็นพวกเขาเข้ามา ก็ทำท่าทางน่าสงสารขึ้นหลักๆ คือมองไปทางฟู่จิ้นเชินอันเหนียนเพิ่งจะถามไปไม่กี่คำ พอเห็นท่าทางนางเช่นนี้จึงถอยออกไปสองก้าว ให้ฟู่จาวหนิงขึ้นหน้ามา"แม่นางจูสินะ?" ฟู่จาวหนิงยืนอยู่ด้านหน้าจูเฉียนเฉี่ยน สายตาเย็นเยียบ"ใช่แล้ว จูเฉียนเฉี่ยน" จูเฉียนเฉี่ยนรีบตอบ"พูดมา เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?"ฟู่จาวหนิงถามออกมาตรงๆ สายตามีอาการบีบคั้นเล็กน้อย ไม่ยอมให้นางได้มีโอกาสเลี่ยง"ข้า ข้า...""เจ้าคิดให้ดีแล้วค่อยตอบ ข้าไม่ยอมรับคำโกหก เพราะพวกเจ้าเมื่อครู่เกือบทำพวกเราแย่ไปด้วย" ฟู่จาวหนิงเห็นตาของนางหลุกไปหลิกมา จึงตัดบทคำพูดนางทันทีสายตานางเฉียบคมขนาดนี้เลยหรือ?จูเฉียนเฉี่ยนมองฟู่จาวหนิง รู้สึกแค่ว่าตนเองตอนอยู่ต่อหน้านางไม่เหลือความลับอะไรอยู่อีกแล้วอย่างไรอย่างนั้น สายตาฟู่จาวหนิงมองมาอย่างคมกริบ แล้วยังดูน่าเกรงขามอีกด้วยแม่นางคนนี้ดูแล้วเหมือนไม่ได้โตกว่านางเลย ทำไมถึงดูน่าเกรงขามขนาดนี้กัน?"ม้าของเจ้ากินยาแล้วคลั่งขึ้นมา เจ้าอย่าบอกข้า ว่าพวกเจ้าไม่รู้" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นมาให้ชัดเจนหน่อยไฉ่เอ๋อร์ถลึงตาโตอย่างตกใจ มองไปทางแม่นางของนางโดยสัญชา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1682

    จูเฉียนเฉี่ยนใจเย็นลงมา ก็รู้ว่าคงเลี่ยงไม่พ้นแล้ว เลิกม่านรถขึ้น สบตากับอันเหนียนคุณชายคนนี้เมื่อคืนก็ดูสุภาพเรียบร้อยดี แต่ตอนนี้กลับดูมีอำนาจน่าเกรงขาม ทำเอาเธอกลัวตัวสั่นจนไม่กล้าลงจากรถม้าเลย"แม่นางจูไม่เป็นไรใช่ไหม?"ใครจะคิด ว่าพออันเหนียนเอ่ยปากก็ถามไถ่อย่างเป็นห่วงจูเฉียนเฉี่ยนถอนใจโล่งออกมา "ยัง ยังไหว""ลงจากรถม้าก่อนดีไหม?"ถึงอย่างไรรถม้าาคันนี้ ม้าที่ลากรถก็ล้มไปแล้ว ตอนนี้คงเดินไม่ได้ ลงมาก่อนน่าจะดีกว่าคนใช้อีกสามคนของนางยังอยู่บนรถม้า อันเหนียนรู้สึกว่าคุยอะไรมากไม่ได้"พวกเราจะลงไปเดี๋ยวนี้"จูเฉียนเฉี่ยนนิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายใต้ปฏิกิริยาที่สงบอ่อนโยนของอันเหนียนอดพูดไม่ได้เลย ท่าทีของอันเหนียนสามารถปลอบอารมณ์ให้เย็นได้ดีจริงๆพอนางลงจากรถม้า ยังยื่นมือมาประคองสาวใช้ไฉ่เอ๋อร์อีก แล้วยังประคองหญิงรับใช้กับไฉ่เอ๋อร์ลงมาด้วยกัน"ไปพักทางนั้นก่อนเถอะ"อันเหนียนตอนที่ลงจากรถพวกนางก็มองไปรอบๆ เห็นว่าไม่ไกลนักที่พื้นหญ้าที่ค่อนข้างสะอาดอยู่ ที่นั่งยังมีหินอีกหลายก้อน บางทีก่อนหน้านี้อาจจะมีคนผ่านทางมาพักตรงนั้น หินจึงค่อนข้างเรียบ"เสี่ยวเจียง ไปเอาพรมม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1681

    ฟู่จาวหนิงเองก็ได้ยินการเคลื่อนไหวด้านอกแล้ว ขบวนรถของพวกเขาหยุดลงมา องครักษ์ควบม้าเข้ามา เอ่ยขึ้นเสียงร้อนรน "พระชายา ม้าของพวกเขาเสียการควคุม ดูผิดปกติมาก"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว กระโจนลงจากรถ เดินออกมาไม่กี่ก้าวมองไปด้านหลัง แล้วก็เห็นรถม้าหลายคันทะยานย่ำโคลนพุ่งเข้ามาจริงๆ"พวกเจ้ามั่นใจว่าช่วยได้ไหม?" นางถาม"ลองดูได้""เดี๋ยวก่อน" ฟู่จาวหนิงขึ้นไปบนรถม้าแล้วหยิบเข็มกำหนึ่งลงมาทันที "เข็มยาชา แทงใส่ม้า ระวังด้วย"พวกเขามีกำลังภายใน ใช้สิ่งนี้จะดูเก่งกาจกว่านางหน่อยองครักษ์รับเข็มไปทันที หลายคนหันม้าเข้าไปหาพวกของจูเฉียนเฉี่ยนคนใช้ของอีกฝ่ายลนลานไปแล้ว "หลีก หลีกไป! พวกเราหยุดไม่ได้!"ถ้าทั้งสองฝ่ายควบม้ามาชนกัน ต้องมีคนตายแน่การปะทะเช่นนี้ ถ้าล้มจากม้า จะต้องถูกเหยียบตายแหง"จับให้แน่น!" องครักษ์สองมือยกขึ้น เข็มก็พุ่งสาดออกไปราวห่าฝน แทงไปบนตัวม้าองครักษ์สองคนด้านหลังก็ไม่ลดความเร็ว พุ่งเข้าไปหาต่อ ควบม้าเอียงตัวหลบ จากนั้นยื่นมือไปคว้าอีกฝ่ายดึงขึ้นมาบนหลังม้าของตนเอง ยกเท้าเตะหัวม้า ให้ม้าเบนออกไปข้างทางส่วนม้าที่ลากรถม้าด้านหลังก็ถูกแทงไปหลายเข็ม ชั่วเวลาครู่เดียว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1680

    เพราะเมื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืน ตอนเช้าในช่วงเส้นทางนี้ ความเร็วขบวนรถจึงเน้นไปที่ความเสถียรเป็นหลักฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าจากเมืองหลวงไปเมืองเจ้อน่าจะสามสี่วันก็ไปถึง แต่ต่อมาพอถามฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน จึงรู้ว่าที่เซียวหลันยวนบอกว่าสามสี่วันไปถึง นั่นคือความเร็วของการขี่ม้าคนเดียวแต่แบบพวกเขาที่ขนสัมภาระมากมายเช่นนี้ กลางคืนยังต้องเข้าพัก หยุดพักเพื่อกินข้าวสามมือ ก็ต้องใช้เวลาประมาณหกวัน บวกกับเรื่องฝนหรืออย่างอื่น ความเร็วก็จะยิ่งช้าลง อาจจะไปถึงเจ็ดแปดวันดังนั้นนางจึงส่งองครักษ์สองคนขี่ม้านำไปสำรวจทางข้างหน้าก่อนแล้ว ถึงแม้จะไม่ถึงในสามสี่วัน แต่ก็หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกและเพราะไปได้ช้า จึงถูกคนอื่นตามขึ้นมาแล้วรถม้าของอันเหนียนอยู่หน้าขบวน ฟู่จาวหนิงนั่งอยู่รถม้าคันกลาง เดิมทียังมีรถม้าของฟู่จิ้นเชินตามอยู่ด้านหลังอีก แต่เพราะระหว่างทางพวกเขาต้องรีบเรียนรู้ ดังนั้นฟู่จิ้นเชินจึงอยู่บนรถม้าฟู่จาวหนิงเป็นส่วนใหญ่ด้านหลังมีรถสัมภาระอีกหลายคัน ด้านหลังก็เป็นองครักษ์จวนอ๋องคุมท้ายเพราะล้วนเป็นคนที่ฝึกยุทธ์มา พวกเขาอยู่ท้ายขบวนจึงได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลัง ว่ามีคนไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status