คนทั้งหมดล้วนกลั้นหายใจมองการเคลื่อนไหวของฟู่จาวหนิงฟังคำพูดของนาง นางเก็บหยกพกลงไป จากนั้นก็ดีดนิ้วขึ้นแรงๆ ตรงหน้าองครักษ์ลับ"เพียะ!"เสียงดังแจ่มชัด แล้วยังกะทันหันอย่างมาก"ปึง"จากคำสั่งที่แจ่มชัดเสียงหนึ่งของฟู่จาวหนิง องครักษ์ลับคนนั้นสั่นไปทั้งตัว ดวงตาที่เหม่อลอยแต่เดิมกลับมารวมศูนย์ในพริบตา สีหน้าเองก็เปลี่ยนไป"พระชายา?"เซียวหลันยวนมองเห็นสิ่งนี้ ก็ออกคำสั่งขรึมลงทันที "วิชาหมัดร้อยสังหารหนึ่งรอบปฏิบัติ""ขอรับ!" องครักษ์ลับพอได้ยินคำสั่ง ก็ถอยออกไปยังลานกว้าง ใช้วิชาหมัดร้อยสังหารออกมากระบวนหนึ่งองครักษ์ลับท่วงท่าราบรื่น วิชาหมัดทรงภูมิฐาน ตอนออกหมัดเปี่ยมล้นด้วยพลัง หมัดซัดออกไปพร้อมแรงลมยังเหลือท่าทางอืดอาดเหมือนเมื่อครู่เสียที่ไหน?วิชาหมัดซัดออกไป ตอนที่เก็บหมัดก็ยังมีความดุดันอีกพอควร ท่าทางเหมือนพวกเขาในการฝึกซ้อมปกติ"ไม่เป็นไรแล้วหรือ?"ชิงอีพอเห็นสภาพก็ถลึงตาโตเซียวหลันยวนถอนใจเบาออกมาพวกเขาล้วนมองไปทางฟู่จาวหนิง ในดวงตามีความทอดถอนใจอย่างตกตะลึง"เอาล่ะ ไม่เป็นไรแล้ว" ฟู่จาวหนิงนำหยกพกคืนให้เซียวหลันยวน"เจ้าทำได้อย่างไรกัน?"กระทั่งสายตาที่
"ท่านอ๋อง" ทหารรีบเดินเข้ามา"เอาคนผู้นี้ไปไว้ที่โถงด้านข้าง""ขอรับ"ทหารพาแม่นางเจี๋ยออกไป เซียวหลันยวนจูงมือฟู่จาวหนิง นางสะบัดๆ แต่ก็สะบัดไม่หลุด"พวกเราไปไต่สวนคนกัน"ฮู่จิ้งกับฮู่โม่เองก็ถูกเชิญมาด้วยพวกเขาพอเห็นแม่นางเจี๋ยถูกมัดอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ก็เหลือบตามองกันเอง สีหน้าล้วนตกตะลึงและกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นคนตระกูลฮู่ของพวกเขา ก่อนหน้าก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโสของพวกเขา แล้วยังเรียกว่าท่านป้าอีกด้วยท่านป้าถูกจับไว้เช่นนี้ พวกเขาอย่างน้อยก็ต้องหน้าเจื่อนกันบ้างแต่ว่าตอนนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไต่สวนแม่นางเจี๋ยออกมาให้ได้ว่ามีปัญหาอะไร"ปลดจุดชีพจรนางเสีย" เซียวหลันยวนเพิ่งจะพลาดไปพลิกบัญชีเก่าออกมา ตอนนี้จึงไม่คิดจะเข้าไปปลดจุดชีพจรให้แม่นางเจี๋ยแล้วหลังจากทหารเข้าไปปลดให้กับแม่นางเจี๋ย นางก็ยังไม่ลืมตาขึ้น ไม่ขยับเขยื้อนเซียวหลันยวนเหลือบมองฟู่จาวหนิงคิดว่าไม่ลืมตาแล้วจะถือว่ายังไม่ตื่นหรือ?คิดอะไรกันฟู่จาวหนิงเอ่ยลอยๆ ขึ้นมาคำหนึ่ง "งูหลังทองของพวกเจ้า ข้าใช้เข็มแทงตายไปแล้วนะ"ควับ!แม่นางเจี๋ยทนไม่ไหวจริงๆ พอได้ยินเสียงของนาง และคำพูดของ
แม่นางเจี๋ยไม่มีแรงจะต่อต้าน ยอมให้ฟู่จาวหนิงค้นตัวไปรอบหนึ่งนางตอนหลังถึงสงบลงมาได้ แค่รู้สึกว่าถึงอย่างไรฟู่จาวหนิงก็หาไหมใจโลหิตของนางไม่เจอฟู่จาวหนิงค้นของออกมาจากตัวนางได้ไม่น้อยเลย รวมถึงอาวุธลับยาพิษบางส่วน แต่ก็หาไหมใจโลหิตไม่เจอตอนที่นางหยุดค้น แม่นางเจี๋ยก็ยืนยันใจใจแล้ว แล้วยังยกตาท้าทายไปทางนางผาดหนึ่งด้วย"พระชายาอ๋องเจวี้ยน เจ้าแม้จะเป็นพระชายา แต่อายุก็ยังน้อยกว่าข้ามาก จะเป็นมนุษย์ก็ต้องรู้จักวางมารยาทให้เหมาะสม""โอ้ ข้าจะทำสุดกำลังแล้วกัน" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็พิจารณามองนางมองๆ ปิ่นปักผมของนาง มองต่างหูนางในใจแม่นางเจี๋ยตึกตัก เอ่ยต่อว่า "อย่าคิดว่าอ๋องเจวี้ยนเอ็นดูเจ้าแล้วจะทำได้ทุกอย่าง นี่เป็นใต้หล้าขององค์จักรพรรดินะ ไม่ใช่ของอ๋องเจวี้ยน!""ทำไมเจ้าถึงคิดว่าเขาเอ็นดูข้า?" ฟู่จาวหนิงรู้สึกอยากรู้อยากเห็น "ด้านนอกเขาไปลือกันอย่างไร?"เซียวหลันยวนหันหลังให้พวกเขา พอได้ยินบทสนทนานี้ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร"คนที่เป็นที่โดนโปรดปรานถูกเอ็นดูส่วนใหญ่มักมีจุดจบไม่ค่อยดีนัก" แม่นางเจี๋ยเอ่ยต่อ"อืม ขอบคุณที่เตือน"ฟู่จาวหนิงไม่เอาคำพูดนี้ไ
"ท่านพูดได้ถูกแล้ว"ฟู่จาวหนิงนำไหมใจโลหิตนั่นส่งให้เขา "นี่ คืนหนี้""ตามข้อตกลงเดิม เจ้าเก็บไว้ก่อน" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นอย่างไม่ต้องคิดฟู่จาวหนิงเองก็เหมือนจะไม่ค่อยอึดอัดแล้ว จัดการเก็บของลงมา ราวกับว่าตอนนี้นางเก็บของแทนเขาจนกลายเป็นความเคยชินไปแล้วไหมใจโลหิตอยู่ในมือ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าในใจผ่อนคลายลงอย่างมากเลยจริงๆ ไม่เช่นนั้นนางคงได้เกิดความรู้สึกที่ว่าติดค้างหนี้ที่ใช้ไม่หมดแน่ๆถึงอย่างไรก่อนหน้านี้นางก็เอาไหมใจโลหิตไปให้จงเจี้ยนใช้เสียแล้ว"นางเองก็เป็นคนจากเผ่าโม๋ลั่วอะไรนั่นหรือ?" ฮู่โม่กับฮู่จิ้งตอนนี้ก็มีปฏิกิริยากลับมาแล้วเผ่าโม๋ลั่วพวกเขาเคยได้ยินมาแล้ว แต่ว่าพวกเขาเดิมทีก็คิดว่านี่เป็นชนเผ่าที่ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ใดกับพวกเขา คิดไม่ถึงว่าพวกเขาคนที่เขาเรียกท่านป้ามาตั้งนาน จะเป็นคนจากเผ่าโม๋ลั่ว"น่าจะใช่"ฟู่จาวหนิงพูดกับเซียวหลันยวน "ที่เหลือพวกเจ้าไปไต่สวนกันเถอะ นางไม่ใช่ว่าเกี่ยวข้องกับไห่ฉางจวิ้นหรอกหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นดูแล้วยังไม่ใช่แค่ไห่ฉางจวิ้นด้วย นางในเมื่อมีวิชาดูดวิญญาณจากต่างแดน เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไต่สวนจากด้านนี้แล้วกัน ก่อนหน้านี้นางน่าจะใช้
"ตามไม่ทันหรือ?"หลังจากเซียวหลันยวนพอได้ยินรายงานของเขาก็นิ่งงันไปครู่หนึ่งติดตามฮู่เจียไท่ไปไม่ทันเสียแล้วยิ่งไปกว่านั้นคนที่คุ้มกันอยู่นอกวังจักรพรรรดิก็ยังไม่เห็นเขาเข้าไปในวังด้วย"วิชาตัวเบาของเขาร้ายกาจมาก ยิ่งไปกว่านั้นความระแวดระวังก็สูงมาก"ทหารก้มหน้า ไม่ค่อยกล้าเผชิญหน้ากับเซียวหลันยวนไม่ว่าจะพูดอย่างไร ติดตามคนไม่ทันก็คือพวกเขาบกพร่องในหน้าที่เซียวหลันยวนโบกไม้โบกมือ "ให้คนจับตาดูวังจักรพรรดิไว้ เขาไม่มีทางปล่อยแผนนี้ไปแน่"หลุมที่ขุดไว้ให้ฟู่จาวหนิงใหญ่เสียขนาดนั้น แล้วยังสามารถลากเขาเข้าไปในหลุมได้อีก นี่ถือเป็นแผนที่ดี ฮู่เจียไท่ไม่มีทางปล่อยวางแน่นอน ดังนั้นเขาต้องเข้าวังแน่เพียงแต่ว่าเขาควรจะรู้ว่าในวังมีคนจับจ้องอยู่ ดังนั้นต้องคิดหาวิธีอื่นเข้าวังแน่"ลุงขิงข้ารักท่านป้าคนนี้มาก"ฮู่โม่จู่ๆ ก็พูดขึ้นมาคำหนึ่ง จากนั้นก็มองไปทางแม่นางเจี๋ยแม่นางเจี๋ยเพิ่งจะถูกปิดตาไปนางพอได้ยินประโยคนี้ ก็โมโหเดือดดาลร้องขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ "ฮู่โม่ เจ้ายังเป็นคนตระกูลฮู่อยู่ไหม? ลุงของเจ้าไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็ทำเพื่อตระกูลฮู่ แล้วพวกเจ้าสองคนมากินบนเรือนขี้รดบนหล
เมื่อเป็นเช่นนี้ สาวกลัทธิเทพทำลายล้างก็แทรกซึมยังสถานที่ต่างๆ ไปมากแล้วจริงๆ สินะ?เจ้าของเบื้องหลังหอจันทร์หยาดคือฮองเฮา แล้วเช่นนั้นฮองเฮาจะใช่..."ตั้งแต่โบราณก็ไม่เคยได้ยินแคว้นลัทธิเทพทำลายล้างมาก่อนเลย" เซียวหลันยวนพูดออกมาคำหนึ่งอย่างไม่ยี่หระ"ที่เจ้าไม่เคยได้ยินนั่นก็เพราะเจ้ามันความรู้ตื้นเขิน! ราชวงศ์เทพทำลายล้าง เป็นแคว้นที่เก่าแก่โบราณที่สุด เป็นชนเผ่าที่ใกล้เคียงกับเทพเจ้ามากที่สุด ภายใต้การปกครองของราชันเทพ ผู้คนช้วนเคารพศรัทธาต่อราชันเทพ ล้วนซื่อสัตย์ ศิโรราบ ไม่มีการสังหารฆ่าฟัน ไม่มีสงคราม ไม่มีการแก่งแย่งชิงดี และไม่มีความสับสนวุ่นวายอีกด้วย"ฟู่จาวหนิงมองแม่นางเจี๋ย ผลของพิษตอนนี้เป็นช่วงที่แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นแม่นางเจี๋ยจึงเสียการควบคุม ตอนนี้นางจะพูดความจริงออกมามากขึ้นนางส่งสัญญาณกับทหารและฮู่โม่ว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก อย่าไปขัดแม่นางเจี๋ย นางจะพูดออกมารวดเดียวเองคำพูดของแม่นางเจี๋ยทำให้พวกเขาล้วนสั่นสะเทือนจนไม่รู้จะพูดอะไรแล้วราชวงศ์เทพทำลายล้างมาจากไหนอีกล่ะนั่น?พวกเขาทำไมจึงไม่เคยได้ยินมาก่อน? ยิ่งไปกว่านั้น มีราชันเทพที่แข็งแกร่งที่ร้ายกาจขนาดนี
"กู่พิษ!"ฟู่จาวหนิงร้องขึ้นมาเสียงหนึ่ง รีบหลีกทางออกมา ขณะเดียวกันก็ผลักทหารที่อยู่ข้างๆ ออกแมลงกู่ตัวนั้นทะลวงร่างออกมาจากในหัวใจของแม่นางเจี๋ย มีความเร็วสูงมากเข็มในมือฟู่จาวหนิงพุ่งฟิ้วออกไปแต่ว่าความเร็วของนางก็ยังช้าไปหน่อย ตอนที่นางคิดว่าน่าจะวืด เซียวหลันยวนก็ดีดลมดัชนีออกไปลมดัชนีที่แข็งแกร่งพุ่งกระแทกแมลงกู่ตัวนั้นอย่างแม่นยำ ได้ยินเสียงระเบิดแตกเบาๆ แมลงกู่ทั้งตัวก็ถูกซัดจนยับเยิน ตอนที่ร่วงลงมาบนพื้นก็มองไม่ออกถึงสภาพเดิมของมันแล้วตอนที่มันพุ่งออกมาบนตัวยังเต็มไปด้วยเลือด และไม่รู้ว่าเป็นเพราะกินหัวใจไปเต็มท้องหรือว่าเพราะอะไร ตอนที่ร่วงลงมาบนพื้นจึงไม่ใช่แค่ส่วนของแมลงตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ยังมีกองเลือดเนื้อบางส่วนอยู่ด้วยกลิ่นคาวเลือดวูบหนึ่งแผ่ซ่านออกมาพี่น้องฮู่จิ้งฮู่โม่สองคนนี้ที่ยังดูหนุ่มแน่น พอได้กลิ่นนี้ก็หน้าเปลี่ยนสี ดูพะอืดพะอมขึ้นมาทันที พุ่งออกไปที่ประตูสำรอกแห้งๆ ออกมาเซียวหลันยวนยื่นมือดึงฟู่จาวหนิงออกห่าง"เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม? โดนเข้ากับอะไรที่ไม่ควรโดนหรือเปล่า?"สายตาของเขาตึงเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าฟู่จาวหนิงจะไปสัมผัสกับพิษกู
ยิ่งไปกว่านั้นผิวหนังของนางก็ยังสูญเสียความยืดหยุ่นและน้ำไปในพริบตา ดูแล้วเหมือนถูกสูบจนแห้งอย่างไรอย่างนั้น เหี่ยวย่นจนเหมือนเปลือกไม้เมื่อครู่นี้ แม่นางเจี๋ยยังเป็นหญิงสาวที่งดงามจับตาคนหนึ่ง แม้จะมีอายุบ้างแล้ว แต่ก็ยังคงความสาวไม่ดูแก่ชรา ดูทรงเสน่ห์และสง่างามอยู่ ตอนนี้นางกลับดูแก่ลงสามสิบปีในพริบตา จากสาวงามกลายเป็นยายเฒ่าไปเสียแล้วยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นศพยายเฒ่าที่ดูน่ากลัวมากอีกด้วย"ดูพอหรือยัง? ดูพอแล้วข้าจะให้คนแบกนางออกไปจัดการเสีย" เซียวหลันยวนถามฟู่จาวหนิงอยากจะพูดมาก ว่าทิ้งศพนางเอาไว้ก่อน นางยังอยากจะแยกชิ้นส่วนเพื่อค้นคว้าสักหน่อยแต่ถ้าคำพูดนี้หลุดออกไป น่าจะทำเอาพวกฮู่จิ้งตกใจขนหัวลุกกันหมด"แม่นางเจี๋ยคนนี้ถึงอย่างไรก็เป็นคนตระกูลฮู่ของพวกเจ้า ศพจนเป็นต้องขนกลับไปไหม?" นางหันไปถามฮู่โม่ฮู่โม่ส่ายหัวทันที เอ่ยขึ้นอย่างโกรธแค้น "พวกเราไม่มีทางยอมรับนางเป็นคนตระกูลฮู่! ศพของนางเองก็ไม่ต้องส่งกลับไปแล้ว พวกเราท่านป้าคนโตคนหนึ่งก็ฝังอยู่ที่เขาสุสานตระกูลฮู่ แต่ก็ไม่มีที่สำหรับนางอยู่ดี"พวกเขาตอนนี้ไม่รู้ว่าโกรธแค้นแม่นางเจี๋ยขนาดไหนชัดเจนมากว่าแม่นางเจี๋ยมี
ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย
แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล
เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข
มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร
ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ
ฟู่จาวหนิงพอได้ข่าว ก็เตรียมยาเสร็จแล้วผงยามีทั้งหมดสิบห้าห่อ พอพวกเขาคำนวณทิศทางลมดีแล้ว ก็ให้อาศัยต้นไม้สูงใหญ่ จากนั้นก็ใช้ปีกสายลมกับวิชาตัวเบา ก็สามารถโปรยผงยาออกไปในบริเวณกว้างได้"ผงยาเหล่านี้มียาแก้อยู่ พวกเจ้าต้องกินยาแก้ไว้ก่อน ถึงตอนนั้นถ้าเผื่อสูดเข้าไปจะได้ไม่เกิดเรื่อง"ฟู่จาวหนิงส่งยาแก้ให้กับพวกเขาฟู่จิ้นเชินดูทิศทางลมไว้แล้ว คนหาตำแหน่งเหมาะๆ ที่จะลงมือจนตอนที่พวกเขาเตรียมการเสร็จ ก็ถึงเวลาหนึ่งชั่วยามที่โจวติ้งเจินให้ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวพอดีโจวติ้งเจินส่งคนมาตะโกนที่ใต้หอเมือง"ใต้เท้าโหยว! หนึ่งชั่วยามแล้ว รีบเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ!"ทางนั้น ภายใต้การชี้แนะของฟู่จิ้นเชิน เหล่าองครักษ์ที่สวมปีกสายลมก็แฝงตัวออกไปอย่างไร้ซุ่มเสียงเซียวหลันยวนยืนอยู่บนหอเมืองเขาปรากฏตัวตรงนั้น ก็ดึงดูดความสนใจของพวกโจวติ้งเจินได้พอดี ให้พวกเขามองข้ามสิ่งอื่น เพื่อให้เหล่าองครักษ์ปีกสายลมทำงานได้"ใต้หอเมืองเจ้อนี้ล้วนเป็นอิฐดำ โจวติ้งเจิน เจ้าคิดจะใช้ไฟโจมตี หัวสมองถูกไม้กระดานหนีบไว้หรืออย่างไร?" เซียวหลันยวนส่งเสียงลอดออกไปไกล
อ๋องเจวี้ยนจงใจดูถูกเขาหมิ่นเขาเพิกเฉยเขา จงใจแน่ๆ กลัวเขาเสียที่ไหนกัน?อ๋องเจวี้ยนยังจงใจแสดงวิชาตัวเบาที่แข็งแกร่งขนาดนั้นออกมาต่อหน้าเขาอีก นี่มันตบฉาดหน้าเขาชัดๆระหว่างทางที่มาโจวติ้งเจินคิดแผนการเอาไว้ดิบดี แต่ปฏิกิริยาของอ๋องเจวี้ยนกลับทำแผนของเขาวุ่นวายไปหมดใครจะรู้ว่าอ๋องเจวี้ยนมีนิสัยแบบนี้?ทำเอาคนทั้งชิงชังทั้งจนใจเลยจริงๆ"อ๋องเจวี้ยน โจวติ้งเจินเอาแต่เรียกพระชายาให้ออกไป จะต้องคิดใช้พระชายา ล่อท่านออกไปแน่" อันเหนียนบอกกับเซียวหลันยวน "แต่พระชายาถ้ายังไม่ออกไปอีก ถึงตอนนั้นโจวติ้งเจินอาจจะผลักภาระทั้งหมดมาบนตัวพระชายาได้นะ องค์จักรพรรดิคงถือโอกาสนี้จัดการพระชาแน่"ถึงตอนนั้น โจวติ้งเจินแค่บอกกับองค์จักรพรรดิว่า พระชายาไม่ยอมออกมาพบหน้าเพื่ออธิบายอาการป่วยของเมืองเจ้อ ทำให้เขาไม่แน่ใจในสถานการณ์ การรักษาคนป่วยเหล่านั้นผิดพลาด ความรับผิดชอบนั้นทั้งหมดจะไปอยู่บนตัวพระชายาอันเหนียนถึงอย่างไรก็เป็นแค่ขุนนาง เขาไม่อาจต่อต้านจักรพรรดิได้ ดังนั้นตอนนี้จึงกังวลว่าจักรพรรดิจะคาดโทษฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินมองเซียวหลันยวน"จาวหนิงไม่ออกไป องค์จักรพรรดิก็คาดโทษนางไม่ได้" เซี
และถ้าสู้ชนะ...เอ่อ ต่อให้รองขุนพลของโจวติ้งเจินจะไม่ค่อยมั่นใจ ว่าท่านขุนพลจะสู้ชนะอ๋องเจวี้ยนได้ไหม?พวกเขาไม่เคยสู้กัน แต่ก็ลือกันว่าวรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนแข็งแกร่งมาก...แค่ที่อ๋องเจวี้ยนลงมือเมื่อครู่ พวกเขาก็เห็นกับตากันแล้วกระโจนลงมาจากหอเมืองยังไม่เท่าไร แต่หลังจากร่อนลงมาแล้วก็ยังสามารถยืนอยู่บนหลังม้าได้ ทำให้ม้าตัวนั้นไม่กล้าจะขยับ พวกเขาเองทำไม่ได้แน่นอนยิ่งไปกว่านั้น เขาอยู่กลางอากาศก็ยังเตะขุนพลน้อยคนนั้นปลิวมาไกลขนาดนี้ กำลังภายในลึกล้ำแค่ไหนกัน?"ข้าต้องกลัวเขาด้วยเรอะ?"โจวติ้งเจินถูกยั่วยุง่ายมาก เขาอยากจะประลองกับเซียวหลันยวนมาตลอด แต่ก็ไม่เคยมีโอกาส"ท่านขุนพลไม่ต้องกลัวเขาอยู่แล้วขอรับ แต่ว่าเขาเป็นถึงอ๋องเจวี้ยน ท่านขุนพลไม่มีเหตุผลต้องไปลงมือกับเขานี่ขอรับ"รองขุนพลขวางโจวติ้งเจินเอาไว้ถ้าตอนนี้เขาออกไปสู้กับอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา เดี๋ยวจะอธิบายลำบากเปล่าๆองค์จักรพรรดิเกรงว่าก็อยากจะจัดการอ๋องเจวี้ยนอยู่ แต่ยังไม่กล้าทำอย่างโจ่งแจ้งนักถ้าหากลงมือกับอ๋องเจวี้ยนไปแบบนี้ ถึงตอนนั้นถ้าองค์จักรพรรดิต้องหาคำอธิบายกับเหล่าพระญาติและอ๋องเจวี้ยน คงได้หันมาลงโท
"หมอฟู่ออกมาก่อน ขุนพลโจวของพวกเรามีคำถาม! ทำให้การรักษาผู้ป่วยล่าช้า หมอฟู่แบกรับความรับผิดชอบนี้ไม่ไหวหรอกนะ!"ขุนพลน้อยคนนั้นยังคงตะโกนปาวๆ อยู่ใต้หอเมืองสีหน้าเซียวหลันยวนถมึงทึงไปแล้ว ถ้าไม่ใช่มีหน้ากากบังอยู่ หน้าของเขาตอนนี้คงจะดำยิ่งกว่าท้องฟ้าราตรีเสียอีกฟู่จิ้นเชินเองก็โกรธเหมือนกันเขายืนอยู่ข้างๆ เซียวหลันยวน คิดจะเตือนเขาว่าอย่าออกไปรับมือกับดจวติ้งเจินด้วยตนเอง แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าโจวติ้งเจินจะมีความคิดไปอยู่บนตัวจาวหนิง!ตอนนี้ฟู่จาวหนิงถ้าออกไป โจวติ้งเจินจะปล่อยนางกลับมาได้อย่างไร?พวกเขาคิดแผนของโจวติ้งเจินออกแทบจะทันที"เขาคิดจะควบคุมฟู่จาวหนิงไว้ แล้วเอาจาวหนิงมาคุกคามเจ้า" ฟู่จิ้นเชินทั้งเคืองทั้งโกรธ"ฝันไปเถอะ"เซียวหลันยวนกระโจนลงมาจากหอเมืองราวกับเหยี่ยวโฉบขุนพลน้อยคนนั้นรู้สึกเหมือนมีพลังวูบหนึ่ง เงยหน้าขึ้นอย่างหวาดผวา ยังไม่ทันได้เห็นชัดว่าเป็นใคร ก็ได้ยินเสียงดังพลั่ก ส่วนตนเองถูกเตะลอยออกไปแล้วการลอยนี้ ปลิวไปไกลมาก เหมือนกับลอยตามลม หล่นกระแทกพื้นห่างไปลิบๆจุดที่ตกอยู่ใกล้กับโจวติ้งเจินและเซียวหลันยวนหลังจากถีบคนออกไปแล้ว ก็ร่อนลงมาบนหลั