แชร์

บทที่ 571

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
"เขาอยู่ที่นั่น?"

"กลับเรือนนอนแล้ว"

"ข้าจะไปดูเสียหน่อย" ฟู่จาวหนิงเพิ่งพูดจบ

"พระชายายังไม่ได้กินข้าวเย็นใช่ไหม? ข้าน้อยจะไปเตรียมให้ ท่านอ๋องเองก็ยังไม่ได้กิน จะไปกินกับท่านอ๋องหรือว่ากลับไปเรือนเจียนเจียเจ้าคะ?"

หงจั๋วแม้จะถามความเห็นนาง แต่ก็ทำตาแป๋ว เห็นได้ชัดว่าอยากให้นางไปกินกับเซียวหลันยวน

ฟู่จาวหนิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

"ส่งไปที่เขาทางนั้นเถอะ"

"เจ้าค่ะ!"

หงจั๋วหมุนตัวออกไปเตรียมอย่างยินดี

ฟู่จาวหนิงเดินตรงไปที่เรือนนอนเซียวหลันยวน ตอนนี้ไม่มีคนมาขวางนางแล้ว

เพียงแต่ตอนเข้าไปก็เห็นชิงอีรออยู่นอกประตูห้องหลัก นางยังรู้สึกแปลกหน่อยๆ

เพราะประตูปิดอยู่

"พระชายา ท่านถามหาสิ่งยืนยันได้แล้วหรือไม่?" ชิงอีพอเห็นนางก็ตาเป็นประกาย รีบถามออกมา

"ถามมาได้แล้ว"

ฟู่จาวหนิงชี้ไปที่ประตูแล้วถามขึ้น

"ท่านอ๋องเดิมทีซุ่มอยู่บ้านตระกูลหลิน คิดไม่ถึงว่าบ้านที่หลินอันห่าวพักอยู่แต่เดิมตอนนี้มีคนย้ายเข้าไปอยู่เสียแล้ว"

ชิงอีเองก็กดเสียงลงต่ำอย่างลึกลับ "พระชายา ท่านรู้ไหมว่าคนที่เข้าไปอยู่คือใคร?"

ฟู่จาวหนิงนึกถึงสิ่งที่หงจั๋วบอก ความผิดปกติหลังจากเซียวหลันยวนกลับมา ใจก็สั่นกึก "หรือ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
R-ly Yindee
ดีกำลังสนุกแต่ให้เหรียนน้อยมากๆ
goodnovel comment avatar
August Nok
กำลุงสนุกเลย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 572

    ชิงอีปรับสีหน้าจริงจังในพริบตา ยืดหลังตรง "ข้าน้อยไม่ได้ว่าง!"พูดจบเขาก็วิ่งแล้ว "พระชายา ข้าน้อยจะไปยกข้าวปลามาให้พวกท่าน!"เขาวิ่งเร็วกว่าบินเสียอีกเซียวหลันยวนเปิดประตูเดินออกมา ฟู่จาวหนิงได้กลิ่นหอมวูบหนึ่ง กลั้นขำถามขึ้น "ที่นี่อาบน้ำแล้วด้วยหรือ?"เดิมทีพอเขากินข้าวเย็นเสร็จจึงจะอาบน้ำ นี่ออกมาจากบ้านตระกูลหลินถึงกับทนไม่ไหวจนต้องอาบก่อนเลยหรือ?เซียวหลันยวนเหลือบมองผาดหนึ่ง ไม่พูดอะไร"ท่านคงไม่ได้ ถูกคนเสียมารยาทมาหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงอยากจะขำขึ้นมาเสียให้ได้ "ถูกแม่นางตระกูลหลินกอดเอาหรือ? หอมเอา? หรือว่าลูบคลำเอา?"เซียวหลันยวนสีหน้าแย่ไปแล้วตอนนั้นหลินอี๋เจินเห็นเขาปรากฎตัวในห้อง ปฏิกิริยาแรกกลับไม่ใช่หวาดกลัวลนลาน แต่เป็นตกตะลึง จากนั้นก็ร้องเรียกพี่เขยมาคำหนึ่ง ถัดมาก็โถมตัวเข้าหาเขา ท่าทางพุ่งเข้าโอบกอดนั่น ตื่นเต้นเสียจนแก้มหน้าแดงเถือกไปหมด ทำให้เซียวหลันยวนรู้สึกแย่ไปหมดทั้งตัวจังหวะนั้นเขารู้สึกว่าตนเองเหมือนเป็นกระดูกชุ่มน้ำจิ้มท่อนหนึ่ง ส่วนหลินอี๋เจินคือสุนัขที่หิวโหยตัวหนึ่งเขาตอนนั้นจึงเลี่ยงตัวออกมาทันที แต่หลินอี๋เจินกลับหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่ง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 573

    ฟู่จาวหนิงชะงักไป คิดถึงอะไรได้ขึ้นมา เชิดคางขึ้นมาทันที "ท่านทำไมไม่ลองคิดดูหน่อยว่าเพราะอะไรข้าถึงไป!"สิ่งยืนยันสามชิ้นนี้ยังอยู่กับนางทางนี้นะ ยังจะเอาอีกไหมเนี่ย?เซียวหลันยวนไม่สนใจสิ่งยืนยันแล้วจริงๆ หรือว่าปฏิกิริยาเชื่องช้าเกินไป หลังจากนางมาถึงเขาก็ไม่ถามเรื่องสิ่งยืนยันมาโดยตลอด และไม่ให้นางรีบไปดูผู้นำตระกูลฮู่ก่อนอีกด้วย"ได้มาแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนตอนนี้จึงมองนาง ดูแล้วไม่ลนไม่ลานอะไร ไม่ร้อนรนเลยจริงๆ"ผู้อาวุโสฮู่เป็นอย่างไรบ้าง?""อยู่ที่จวนอ๋อง นอนหลับไปแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้ว""เช่นนั้นพวกเรากินข้าวกันก่อน ข้าหิวแล้ว" ฟู่จาวหนิงผ่อนคลายลงทันที นางหิวจนไม่ไหวแล้วคำตอบที่เซียวหลันยวนให้กับนางคือตักน้ำแกงให้นางชามหนึ่ง วางไว้ตรงหน้านางหงจั๋วกับเฝิ่นซิงถอยไปอยู่ข้างๆ พวกนางเองก็พบแล้ว ว่าตอนที่ท่านอ๋องกับพระชายากินข้าวด้วยกันพวกนางทั้งสองก็ไม่มีหน้าทีอะไรแล้ว เรื่องตักกับข้าวตักน้ำแกงพวกนี้ แน่นอนว่ามีท่านอ๋องมาจัดการให้พวกนางสบตากันผาดหนึ่ง เม้มริมฝีปากแอบหัวเราะขึ้นมาพอเห็นท่าทางเช่นนี้ของท่านอ๋องและพระชายาแล้วจะไม่มีอารมณ์รักใครกันได้อย่างไร? พวกเขาน่าจะไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 574

    "ขาดวัตถุดิบยาน่ะ ถ้ามีวัตถุดิบยาก็สกัดออกมาได้ เป็นเหมือนกับยาไล่งูเลย มีวัตถุดิบยาบางอย่างสามารถทำให้พวกยุงงูแมลงรังเกียจได้อยู่"ดังนั้นนางจึงไม่รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องไม่น่าเชื่ออะไรโดยเฉพาะหลังจากที่ช่วยลูกพี่ที่อยู่ในโลกวิชาแพทย์สองคนนั้นในอดีต นางก็ยังแลกเปลี่ยนกับพวกเขาอยู่ไม่น้อย พวกเขาเองก็สอนนางมาไม่น้อยเหมือนกันฟู่จาวหนิงตอนนั้นก็เคยค้นคว้ามาแล้วแต่เพราะในวันปกติก็แทบจะสัมผัสไม่ถึงคนป่วยกลุ่มนี้เลย นางเองจึงไม่ได้ตั้งอกตั้งใจสกัดยาในด้านนี้ต่อนางถึงกับเอายาที่รับมือกับแมลงกู่ไปเทียบกับยาไล่งูเนี่ยนะ?เซียวหลันยวนได้ยินก็อดขำไม่ได้"เจ้าไม่ใช่คนของพันธมิตรโอสถใต้หล้าหรอกหรือ? ลองไม่พึ่งผู้อาวุโสจี้แล้วไปออกรวบรวมวัตถุดิบยาที่ต้องการมาสร้างถุงยาดู"เขาเองไม่ได้กังวลเท่าไรเลย แต่กลับกังวลนางอยู่หน่อยๆ"ไว้ข้าจะไปถามท่านอาจารย์ดู" ฟู่จาวหนิงพยักหน้า"ผู้อาวุโสฮู่ทางนี้""ช่วยออกมาได้แล้ว แม้จะค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็ช่วยไว้ได้แล้ว""ระหว่างทางที่ผู้อาวุโสฮู่กลับมาก็มอบคำสั่งเสียไว้ไม่น้อยเลย มองออกว่าเขารู้สึกว่าตนเองช่วยไว้ไม่ได้แล้วจริงๆ คงจะรอดได้ไม่กี่วัน" เซียว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 575

    ฟู่จาวหนิงมองเขานิ่ง "คนอื่นตรงนี้ของข้ารวมไปถึงพ่อของข้าด้วย"ถ้าฟู่จิ้นเชินสามารถไม่ถูกพัวพันได้ ท่านปู่จะต้องดีใจอย่างมากแน่ เขาหลายปีมานี้ เขาหลายปีมานี้ร่างกายก็ไม่ดีมาตลอดจิตใจก็ย่ำแย่อีกลูกชายที่แต่ก่อนชุบเลี้ยงไว้อย่างดี เพียงพริบตากลายเป็นคนร้ายประกาศจับ หายสาบสูญไปพร้อมกับลูกสะใภ้หลายปี เป็นหรือตายก็ยังไม่รู้ สำหรับเขาแล้วนี่เป็นผลกระทบที่ยิ่งใหญ่มหาศาลของเขาแน่"อืม ข้ารู้ พรุ่งนี้ข้าจะให้คนไปแจ้งกับจวนทางการ ให้เพิกถอนประกาศจับฟู่จิ้นเชินเสีย"สิบกว่าปีมานี้ จวนทางการในที่ต่างๆ ล้วนกำลังไล่จับสามีภรรยาตระกูลฟู่อยู่ ทุกปีล้วนทำการปรับประกาศจับพวกเขาให้เป็นปัจจุบันอยู่ตลอด ดังนั้น ฟู่จิ้นเชินกับฟู่หลินซื่อต่อให้ยังมีชีวิตอยู่ ก็น่าจะไปหลบไปซ่อนมาหลายที่การเพิกถอนประกาศจับต่อตัวเขามันหมายถึงอะไร เซียวหลันยวนไม่มีทางไม่รู้ฟู่จาวหนิงเดิมทีอยากจะบอกว่ารอให้หาพวกเขาพบก่อน รอจนตรวจสอบความจริงกระจา่ง คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนตอนนี้จะรับปากว่าไม่ไล่จับฟู่จิ้นเชินอีกแล้ว!นี่เท่ากับบอกว่า ฟู่จิ้นเชินไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีกแล้ว มาเดินใต้ดวงตะวันได้แล้วฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 576

    ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ไม่ได้ถามเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตมากนักตอนนี้พอได้ยินเซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นมา นางถึงพบว่าฟู่หลินซื่อในอดีตน่าจะเคยเคยพยายามแก้ต่างให้ตนเองแล้ว"ท่านตอนนั้นไม่ใช่ว่ายังเป็นทารกอยู่หรือ? มีคนป้อนน้ำแกงโสมให้ท่านแล้วหรือ?""อืม ดังนั้นคำพูดของฟู่หลินซื่อตอนนั้นก็คือ นางได้กลิ่นโสมกลิ่นหนึ่ง จึงเดินตามกลิ่นไปที่ข้างเตียงข้า จากนั้นจึงพบว่าข้างๆ มีชามวางอยู่ใบหนึ่ง พอนางยกชามขึ้นก็มีคนเดินเข้ามาแล้ว""สภาพในตอนนั้นคือเช่นนี้หรือ?""ถูกต้อง""แล้วไม่มีคนเชื่อนางหรือ?""ผ้าเช็ดหน้าพกติดตัวของฟู่หลินซื่อเองก็มีกลิ่นโสมนั้นด้วย ตอนนั้นมีคนตรวจสอบเรียบร้อย ผ้าเช็ดหน้านั้นเคยหอโสมมาก่อน และผ้าเช็ดหน้านี้ก็อยู่บนตัวนางมาตลอด ตัวนางเองก็บอกว่าไม่เคยทำหล่นมาก่อน ดังนั้นตนเองก็พูดได้ไม่ชัดเจนเช่นกัน"เซียวหลันยวนชะงักไปครู่หนึ่งจึงพูดต่อว่า "แล้วก็ นางตอนนั้นถูกหมอหลวงมองมองออกว่าสติสัมปชัญญะดูไม่ครบถ้วนนัก สิ่งที่ตนเองพูดจาก็เลอะเทอะ จดจำได้ไม่ค่อยชัดเจน กระทั่งยังเกิดความคิดที่จะบีบคอข้าอีกด้วย"ซู๊ดตอนนั้นเขายังเป็นแค่ทารก ฟู่หลินซื่อคิดจะบีบคอเขา?"สิ่งเหล่านี้คนมาก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 577

    แต่ถ้าหากนั่งรถม้า ไปกันช้าหน่อย ก็น่าจะประมาณครึ่งเดือน"แล้วสิ่งยืนยันอีกสองชิ้นที่เหลือ อาจจะต้องไปถึงเขาอวี้ซานก่อนถึงจะรู้บทบาทของมัน" ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว "แต่ในเมื่อโสมพิษยังอยู่ที่นี่ ความลับที่เขาอวี้เหิงจะเกี่ยวข้องกับความจริงที่ท่านติดพิษในครั้งนั้นหรือเปล่า?"ถ้าหากเป็นเช่นนี้ นางเองก็จะไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตอนนี้เรื่องในตระกูลฟู่ก็คือเรื่องของนางแล้ว"เขาอวี้เหิงแน่นอนว่าต้องไปเสียรอบหนึ่ง" เซียวหลันยวนเหลือบมองม้วนหนังแกะอีกหลายครั้ง ดันไปไว้ด้านหน้านาง "เจ้าเก็บไว้เสีย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ แล้วก่อนหน้านี้ที่สิ่งยืนยันสามชิ้นยังรวบรวมไม่ครบ นำมาเก็บไว้กับนางก็ยังพอทำเนา ตอนนี้สิ่งยืนยันทั้งสามชิ้นรวบรวมครบแล้ว ทำไมถึงยังมาวางไว้ที่นางทางนี้อีกล่ะ?"ตอนนี้ของอยู่กับข้า สถานที่ท่านก็บอกข้าแล้ว ไม่กล้วว่าข้าจะไปค้นหาก่อนหรอกหรือ?"เซียวหลันยวนโน้มตัวเล็กน้อยเข้าหานาง"เจ้าจะไปคนเดียวหรือ?"เขาถามอย่างตั้งใจฟู่จาวหนิงเม้มปาก "ไม่หรอก"เซียวหลันยวนนั่งกลับไป หัวเราะขึ้นมา "ข้ารู้สึกว่าเจ้าเชื่อใจได้""แต่ว่าที่นี่ก็เป็นถึงจวนอ๋องเจวี้ยนจะไม่มีที่เก็บขอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 578

    วันต่อมา ข่าวเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนได้รับสิ่งยืนยันครบสามชิ้นแล้วก็ถูกส่งออกมาฮู่เจียไท่หลังจากได้ข่าวก็ตกตะลึงจนหน้าเปลี่ยนสี ไปหาแม่นางเจี๋ยที่กำลังแก้พิษอยู่ในห้อง"ทำอย่างไรดี? อ๋องเจวี้ยนได้สิ่งยืนยันไปแล้ว นั่นไม่ใช่บอกว่าท่านพ่อยังไม่ตายหรอกหรือ? แล้วเขาจะรู้ไหมว่าพวกเราวางยาพิษ?""ท่าน พิษน่ะข้าเป็นคนวาง ไม่ใช่ท่านเสียหน่อย ถ้าหากถูกตรวจสอบออกมาจริงๆ ท่านก็ผลักมาให้ข้าก็พอแล้ว"คำพูดแม่นางเจี๋ยทำให้ฮู่เจียไท่ค่อนข้างซาบซึ้ง"แม่นางเจี๋ย ถ้าไม่ได้แต่งเจ้าเข้ามา ข้าคงได้เป็นคนโง่ที่เอาแต่ฟังคำพูดของท่านพ่ออยู่ตลอดเวลา เขาพูดอะไรข้าก็ทำสิ่งนั้น พอถึงเวลาบ้านตระกูลฮู่ก็ไม่ได้ตกมาอยู่ในกำมือข้า ข้าก็เท่ากับทำงานให้กับพวกรุ่นหลังอย่างโง่เขลาเท่านั้น"แม่นางเจี๋ยเม้มปากยิ้ม"แล้วเจ้าคิดว่าชีวิตนี้ข้ายังจะมีความหมายอะไร? เจ้าพูดถูกต้อง ข้าต้องคิดเพื่อตนเอง ตระกูลฮู่เดิมทีก็ควรเป็นของข้า แต่ข้าจะไม่ผลักไสเจ้าออกไปหรอก เจ้าคือภรรยาผู้ชาญฉลาดของข้า แล้วข้างกายข้าจะไม่มีเจ้าได้อย่างไร?""แต่พิษที่ข้าติดนี่ก็ทำเอาน่ารำคาญเสียจริง และไม่รู้ว่าตอนไหนถึงจะถอนออกไปได้""เมืองหลวงไม่ใช่ม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 579

    "ออกไปดูอีกหน่อย ว่ามีใครมีสีหน้าผิดปกติบ้าง""ได้"ชายหนุ่มคนหนึ่งรีบร้อนวิ่งอยู่บนถนน มีคนผู้หนึ่งเดินออกมา พอเห็นเขาดวงตาก็เป็นประกาย ยกมือเรียกเขาไว้"พี่สาม!"ชายหนุ่มพอเห็นเขา ก็สั่นระริกขึ้นมาทันที รีบร้อนตรงไปดึงเขาแล้ววิ่งไปด้วยกัน"ไม่สิ พี่สาม นี่ท่านจะทำอะไร?""เสี่ยวโม่ เจ้าหนีไปไหนมากันแน่? ไม่เจอเจ้าตั้งนานขนาดนี้เลย!"ตอนนี้จู่ๆ ก็โผล่ออกมา"ข้าออกไปกินของอร่อยที่ชายเมืองมา ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกดึงไปเป็นคนคุ้มครองเรือนด้วย เลยไปลองทำดูเผื่อจะสนุก พี่สาม ข้าเพิ่งจะได้งานคนคุ้มครองเรือนนะ ท่านไม่รู้สินะ ข้าใช้เงินหมดแล้ว นี่คนอื่นเก็บข้าเอาไว้ด้วยเถอะ""เรื่องของท่านปู่เจ้าไม่รู้เลยหรือ?""เรื่องอะไรของท่านปู่? หาข้าไม่เจอแล้วคิดจะหักข้าทิ้งหรือเปล่า? เขาบอกว่าข้าประสบการณ์น้อยเกินไป นี่ข้าก็ไม่ใช่ว่าหาประสบการณ์เพิ่มอยู่หรอกหรือ? ข้ารู้ว่าพวกท่านมาแล้ว แต่ว่าหลายวันก่อนนี้ไม่ว่างออกมา วันนี้ข้า""เอาไว้ก่อน รีบเดินเถอะ! ข้าจะพาเจ้าไปที่หนึ่ง!"คนหนุ่มดึงตัวฮู่โม่รีบวิ่งออกไปฮู่โม่มองสภาพเขา ในใจก็ขรึมลง และไม่พูดอะไรอีก วิ่งตามไปด้วยกันเพียงแต่กว่าเขาจะรู้

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1688

    "หมอเทวดาฟู่"ทุกคนราวกับเพิ่งตื่นจากฝัน ทำความเคารพฟู่จาวหนิงกันอย่างระมัดระวังพวกเขาอันที่จริงอยากจะคุกเข่าลงโขกศีรษะด้วยซ้ำ แต่พวกสืออีกประคองตัวไว้ เป็นสัญญาณว่าพวกเขายืนไว้ก็พอ"เรียท่านหมอฟู่ก็พอแล้ว"ฟู่จาวหนิงเองก็จนใจหน่อยๆ พวกเขาเหล่านี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากฏพวกนี้ตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ที่ว่าพอเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ จะถูกเรียกว่าหมอเทวดาอันที่จริง เทวดาก็ไม่ได้เป็นเทวดาอะไร นางเองก็มีโรคที่รักษาไม่ได้เหมือนกัน"ทุกคนรู้จักกันไว้ก่อนก็พอ อีกเดี๋ยวข้าจะจับชีพจรให้พวกเจ้าทั้งสิบคน ถ้ามีตรงไหนไม่สบาย มีโรคระบาดอะไรให้บอกข้าไว้ก่อน"ในเมื่อต้องใช้พวกเขา ฟู่จาวหนิงก็ต้องตรวจอาการพวกเขาก่อน"ข้าไม่มีโรคอะไร ข้าชื่ออาเหอ ใต้เท้าอันให้ขาพาพวกเขามา แล้วต้องฟังการกำชับจากหมอ ท่านหมอฟู่"อาเหอมองฟู่จาวหนิง รู้สึกประหม่าหน่อยๆหมอเทวดาหญิงที่สูงส่งเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะรังเกียจพวกเขาไหม"ได้ ไม่ต้องเครียดนัก บอกชื่อของตัวเองมาหน่อย"อาเหออันที่จริงก็ไม่ค่อยเชื่อนักว่าพูดเพียงรอบเดียว ฟู่จาวหนิงก็จะจำชื่อพวกเขาได้ แต่ว่า ได้พูดชื่อของตนเองออกมารอบหนึ่งต่อหน้านาง พวกเขากลับรู้สึกว่า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1687

    อันเหนียนเองก็เป็นคนมีความสามารถ ฟู่จิ้นเชินเองก็ด้วย สองวันต่อมาพวกเขาก็ไม่อยู่บนรถม้าแล้ว แต่ออกไปเดินกับพวกผู้ประสบภัยเวลาสองวัน พวกเขาสองคนก็เลือกผู้ประสบภัยมาสิบคน ถึงเวลาสามารถนำมาใช้งานได้เป็นพวกที่ซื่อๆ คล่องแคล่วไม่พูดมาก เนื่องจากในบ้านประสบภัยจนไปต่อไม่ไหวแล้วจึงตรงมาที่เมืองเจ้อ แต่พวกเขาก็ไม่อยากจะเอาแต่ขอความช่วยเหลือจากจวนทางการ แต่ยังคิดว่าหลังจากถึงเมืองเจ้อแล้วจะทำอะไรได้บ้าง เอามาแลกข้าวไปกินฤดูใบไม้ผลเมืองเจ้อหนาวเย็น พวกเขาอย่างน้อยยังต้องผ่านมันไปอีกสองเดือนภายใต้สิ่งแวดล้อมเช่นนี้ อากาศเย็นๆ เอาชีวิตพวกเขาไปได้ ถึงอย่างไรก็กลัวจะไม่มีที่คุ้มกะลาหัว กลัวไม่มีข้าวต้มร้อนๆ กิน และยิ่งไม่มีเงินที่จะหาหมอซื้อยาด้วยอันเหนียนกับฟู่จิ้นเชินเลือกผู้ประสบภัยมาสิบคน ว่าจ้างพวกเขาชั่วคราว ถึงเวลาถ้าช่วยเหลือได้ ก็รับประกันว่าได้กินอิ่ม เจ็บป่วยมียาให้สิ่งนี้ถือว่าดีมากๆ สำหรับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นในใจก็เกิดความปลอดภัยขึ้นมาทันทีพวกเขาอย่างน้อยยังมีประโยชน์บ้าง ยังมีความรู้สึกพึ่งพาได้ ตอนมาถึงเมืองเจ้อก็ไม่ต้องชะเง้อซ้ายขวา ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหน จะถูกจัดแจงที่พั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1686

    "จาวหนิง พวกเราต้องเร่งเดินทางแล้วกระมัง?"ฟู่จิ้นเชินให้พวกสืออีไปตรวจสอบรถม้าแต่ละคันอีกหน่อย ดูว่าสัมภาระมัดแน่นดีหรือไม่เขาเองก็ไม่คิดจะเปลืองน้ำลายอธิบายเรื่องนี้ความจริงมันเกิดขึ้นแล้ว เมื่อครู่จูเฉียนเฉี่ยนก็พูดเรื่องที่พวกเขาเคยเจอกันออกมาชัดเจนแล้ว ไม่มีอะไรให้อธิบายอีกยิ่งไปกว่านั้น ปฏิกิริยากับการจัดการของฟู่จาวหนิงก็เด็ดขาดไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีก"รีบเดินทางเถอะ" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ติดใจกับเรื่องนี้อันที่จริง เรื่องราวก็แค่นี้เอง ทุกคนเข้าใจแล้ว พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้เป็นเซียวหลันยวนเองถ้าเจอกับเรื่องนี้ หลังจากนางชัดเจนแล้วก็จะปล่อยมันไปเหมือนกัน แล้วนี่ก็เป็นพ่อของนางด้วยนะเพียงไม่นาน ทุกหลังจากที่พวกเขาจัดขบวนเรียบร้อยก็เดินทางต่อ ทิ้งจูเฉียนเฉี่ยนทั้งขบวนไว้ด้านหลังจูเฉียนเฉี่ยนมองเงาของพวกเขาที่จากไป ยืนนิ่งอยู่ที่นั่น"แม่นาง ช่างมันดีกว่าไหม?" ไฉ่เอ๋อร์อดเตือนนางขึ้นมาไม่ได้ "คุณชายฟู่คนนั้น ดูแล้วก็ไม่ได้ต้องการให้แม่นางตอบแทนนี่นา แล้วก็แม่นางข้างๆ เขาคนนั้น ข้ากลัวอยู่หน่อยๆ ด้วย"ฟู่จาวหนิงหน้าตาสะสวย ดูแล้วยังอายุน้อย ไม่ได้ลงไม้ลงมืออะ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1685

    "ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เช่นนั้นแม่นางจูก็มาตอบแทนบุญคุณด้วยการทำร้ายสินะ"อะไรนะ?จูเฉียนเฉี่ยนมองนางอย่างงงงัน"ข้า ข้าจะมาตอบแทนด้วยการทำร้ายได้อย่างไร?" นางยังไม่ได้เริ่มเลยนะ"เมื่อครู่ถ้าไม่ใช่คนของข้าลงมือ เจ้ารู้ไหมว่าจะมีผลลัพธ์อย่างไร?" ฟู่จาวหนิงเดิมทีก็ใช้ท่าทีคนแปลกหน้ากับนางอยู่แล้ว พอตอนนี้มารู้อดีตเข้า ท่าทีของนางก็ยิ่งเย็นชากว่าเดิมเสียอีก"ข้าเองก็ไม่ได้เจตนานี่นา ข้าไม่รู้จริงๆ ว่ายาที่คนคนนั้นขายให้ข้าจะรุนแรงขนาดนี้""เจ้าจะเจตนาหรือไม่มันเป็นเรื่องของเจ้า แต่พวกเรามองแค่ผลลัพธ์ เพราะไม่ว่าเจ้าจะมีหรือไม่มีเจตนา เรื่องราวสุดท้ายก็เป็นเจ้าที่ทำมันขึ้น ก่อนหน้าที่เจ้าจะทำเรื่องนี้ก็ได้พิจารณาที่จะไล่ตามมาไว้แล้ว ถ้าไม่พิจารณาเลยว่าจะส่งผลกระทบอะไรกับพวกเราบ้าง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงใจ "พวกเราตอนนี้เท่ากับช่วยชีวิตพวกเจ้าไว้แล้วครั้งหนึ่ง ครั้งที่แล้วเขาช่วยเจ้า สิ่งที่แลกมาคืออันตรายครั้งหนึ่ง ครั้งนี้พวกเราช่วยเจ้า ใครจะรู้ว่าครั้งต่อไปเจ้าจก่อเรื่องอะไรออกมาอีก? การเดินทางพวกเราตอนนี้ถูกเจ้าทำให้ล่าช้า ถ้าหากพวกเรามีเรื่องที่เร่งด่วนเกี่ยวกับชีวิตคน เช

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1684

    ข้ารู้ว่าท่านไม่น่าจะลืมข้าคำพูดนี้มันคลุมเครือเสียเหลือเกินฟู่จาวหนิงมองพ่อนาง สีหน้าเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกหน่อยๆฟู่จิ้นเชินรักหวานชื่นกับเสิ่นเชี่ยวมาตลอด แล้วยังมีภาพลักษณ์ที่ซ์่อสัตย์มั่นคงด้วย พวกเขาปกติตอนที่อยู่ด้วยกัน ก็มองออกได้ง่ายมากกว่ามีความรู้สึกให้กันดีมากๆอย่าให้จู่ๆ ก็มีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ขึ้นมาเชียว ความสงบสุขที่ตระกูลฟู่ได้มาอย่างยากลำบากอาจจะพังทลายลงได้ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเสิ่นเชี่ยวน่าจะไม่ใช่คนที่จะยอมรับหญิงสาวคนอื่นมาแบ่งสามีตัวเองไปได้ด้วยฟู่จิ้นเชินหลังจากได้ยินประโยคนั้นของจู่เฉียนเฉี่ยน ก็มองไปทางฟู่จาวหนิงทันทีพอสบกับสีหน้านาง เขาก็อธิบายออกมา แน่นอนว่าเป็นการอธิบายถึงเหตุการณ์ตอนนั้น"ตอนนั้นแม่ของเจ้าป่วย ไข้ขึ้นจนมึนไปหมด ข้าให้นางพักอยู่ในโรงเตี๊ยม ส่วนข้าเองก็ออกไปซื้อยา แล้วที่ด้านนอกร้านยานั้นก็เจอกับแม่นางคนนี้ โอ้ ตอนนั้นนางแต่งตัวเป็นชาย นางกำลังนำยาห่อหนึ่งให้กับหมอพเนจรคนหนึ่งดู""ตอนนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นหมอพเนจรอะไร เขาบอกว่าเขาเป็นหมอเทวดาจากสมาคมหมอใหญ่" จูเฉียนเฉี่ยนอธิบายมาคำหนึ่ง"วัตถุดิบยาห่อนั้นของนางมองแล้วดูดีมีค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1683

    จูเฉียนเฉี่ยนเห็นพวกเขาเข้ามา ก็ทำท่าทางน่าสงสารขึ้นหลักๆ คือมองไปทางฟู่จิ้นเชินอันเหนียนเพิ่งจะถามไปไม่กี่คำ พอเห็นท่าทางนางเช่นนี้จึงถอยออกไปสองก้าว ให้ฟู่จาวหนิงขึ้นหน้ามา"แม่นางจูสินะ?" ฟู่จาวหนิงยืนอยู่ด้านหน้าจูเฉียนเฉี่ยน สายตาเย็นเยียบ"ใช่แล้ว จูเฉียนเฉี่ยน" จูเฉียนเฉี่ยนรีบตอบ"พูดมา เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?"ฟู่จาวหนิงถามออกมาตรงๆ สายตามีอาการบีบคั้นเล็กน้อย ไม่ยอมให้นางได้มีโอกาสเลี่ยง"ข้า ข้า...""เจ้าคิดให้ดีแล้วค่อยตอบ ข้าไม่ยอมรับคำโกหก เพราะพวกเจ้าเมื่อครู่เกือบทำพวกเราแย่ไปด้วย" ฟู่จาวหนิงเห็นตาของนางหลุกไปหลิกมา จึงตัดบทคำพูดนางทันทีสายตานางเฉียบคมขนาดนี้เลยหรือ?จูเฉียนเฉี่ยนมองฟู่จาวหนิง รู้สึกแค่ว่าตนเองตอนอยู่ต่อหน้านางไม่เหลือความลับอะไรอยู่อีกแล้วอย่างไรอย่างนั้น สายตาฟู่จาวหนิงมองมาอย่างคมกริบ แล้วยังดูน่าเกรงขามอีกด้วยแม่นางคนนี้ดูแล้วเหมือนไม่ได้โตกว่านางเลย ทำไมถึงดูน่าเกรงขามขนาดนี้กัน?"ม้าของเจ้ากินยาแล้วคลั่งขึ้นมา เจ้าอย่าบอกข้า ว่าพวกเจ้าไม่รู้" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นมาให้ชัดเจนหน่อยไฉ่เอ๋อร์ถลึงตาโตอย่างตกใจ มองไปทางแม่นางของนางโดยสัญชา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1682

    จูเฉียนเฉี่ยนใจเย็นลงมา ก็รู้ว่าคงเลี่ยงไม่พ้นแล้ว เลิกม่านรถขึ้น สบตากับอันเหนียนคุณชายคนนี้เมื่อคืนก็ดูสุภาพเรียบร้อยดี แต่ตอนนี้กลับดูมีอำนาจน่าเกรงขาม ทำเอาเธอกลัวตัวสั่นจนไม่กล้าลงจากรถม้าเลย"แม่นางจูไม่เป็นไรใช่ไหม?"ใครจะคิด ว่าพออันเหนียนเอ่ยปากก็ถามไถ่อย่างเป็นห่วงจูเฉียนเฉี่ยนถอนใจโล่งออกมา "ยัง ยังไหว""ลงจากรถม้าก่อนดีไหม?"ถึงอย่างไรรถม้าาคันนี้ ม้าที่ลากรถก็ล้มไปแล้ว ตอนนี้คงเดินไม่ได้ ลงมาก่อนน่าจะดีกว่าคนใช้อีกสามคนของนางยังอยู่บนรถม้า อันเหนียนรู้สึกว่าคุยอะไรมากไม่ได้"พวกเราจะลงไปเดี๋ยวนี้"จูเฉียนเฉี่ยนนิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายใต้ปฏิกิริยาที่สงบอ่อนโยนของอันเหนียนอดพูดไม่ได้เลย ท่าทีของอันเหนียนสามารถปลอบอารมณ์ให้เย็นได้ดีจริงๆพอนางลงจากรถม้า ยังยื่นมือมาประคองสาวใช้ไฉ่เอ๋อร์อีก แล้วยังประคองหญิงรับใช้กับไฉ่เอ๋อร์ลงมาด้วยกัน"ไปพักทางนั้นก่อนเถอะ"อันเหนียนตอนที่ลงจากรถพวกนางก็มองไปรอบๆ เห็นว่าไม่ไกลนักที่พื้นหญ้าที่ค่อนข้างสะอาดอยู่ ที่นั่งยังมีหินอีกหลายก้อน บางทีก่อนหน้านี้อาจจะมีคนผ่านทางมาพักตรงนั้น หินจึงค่อนข้างเรียบ"เสี่ยวเจียง ไปเอาพรมม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1681

    ฟู่จาวหนิงเองก็ได้ยินการเคลื่อนไหวด้านอกแล้ว ขบวนรถของพวกเขาหยุดลงมา องครักษ์ควบม้าเข้ามา เอ่ยขึ้นเสียงร้อนรน "พระชายา ม้าของพวกเขาเสียการควคุม ดูผิดปกติมาก"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว กระโจนลงจากรถ เดินออกมาไม่กี่ก้าวมองไปด้านหลัง แล้วก็เห็นรถม้าหลายคันทะยานย่ำโคลนพุ่งเข้ามาจริงๆ"พวกเจ้ามั่นใจว่าช่วยได้ไหม?" นางถาม"ลองดูได้""เดี๋ยวก่อน" ฟู่จาวหนิงขึ้นไปบนรถม้าแล้วหยิบเข็มกำหนึ่งลงมาทันที "เข็มยาชา แทงใส่ม้า ระวังด้วย"พวกเขามีกำลังภายใน ใช้สิ่งนี้จะดูเก่งกาจกว่านางหน่อยองครักษ์รับเข็มไปทันที หลายคนหันม้าเข้าไปหาพวกของจูเฉียนเฉี่ยนคนใช้ของอีกฝ่ายลนลานไปแล้ว "หลีก หลีกไป! พวกเราหยุดไม่ได้!"ถ้าทั้งสองฝ่ายควบม้ามาชนกัน ต้องมีคนตายแน่การปะทะเช่นนี้ ถ้าล้มจากม้า จะต้องถูกเหยียบตายแหง"จับให้แน่น!" องครักษ์สองมือยกขึ้น เข็มก็พุ่งสาดออกไปราวห่าฝน แทงไปบนตัวม้าองครักษ์สองคนด้านหลังก็ไม่ลดความเร็ว พุ่งเข้าไปหาต่อ ควบม้าเอียงตัวหลบ จากนั้นยื่นมือไปคว้าอีกฝ่ายดึงขึ้นมาบนหลังม้าของตนเอง ยกเท้าเตะหัวม้า ให้ม้าเบนออกไปข้างทางส่วนม้าที่ลากรถม้าด้านหลังก็ถูกแทงไปหลายเข็ม ชั่วเวลาครู่เดียว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1680

    เพราะเมื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืน ตอนเช้าในช่วงเส้นทางนี้ ความเร็วขบวนรถจึงเน้นไปที่ความเสถียรเป็นหลักฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าจากเมืองหลวงไปเมืองเจ้อน่าจะสามสี่วันก็ไปถึง แต่ต่อมาพอถามฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน จึงรู้ว่าที่เซียวหลันยวนบอกว่าสามสี่วันไปถึง นั่นคือความเร็วของการขี่ม้าคนเดียวแต่แบบพวกเขาที่ขนสัมภาระมากมายเช่นนี้ กลางคืนยังต้องเข้าพัก หยุดพักเพื่อกินข้าวสามมือ ก็ต้องใช้เวลาประมาณหกวัน บวกกับเรื่องฝนหรืออย่างอื่น ความเร็วก็จะยิ่งช้าลง อาจจะไปถึงเจ็ดแปดวันดังนั้นนางจึงส่งองครักษ์สองคนขี่ม้านำไปสำรวจทางข้างหน้าก่อนแล้ว ถึงแม้จะไม่ถึงในสามสี่วัน แต่ก็หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกและเพราะไปได้ช้า จึงถูกคนอื่นตามขึ้นมาแล้วรถม้าของอันเหนียนอยู่หน้าขบวน ฟู่จาวหนิงนั่งอยู่รถม้าคันกลาง เดิมทียังมีรถม้าของฟู่จิ้นเชินตามอยู่ด้านหลังอีก แต่เพราะระหว่างทางพวกเขาต้องรีบเรียนรู้ ดังนั้นฟู่จิ้นเชินจึงอยู่บนรถม้าฟู่จาวหนิงเป็นส่วนใหญ่ด้านหลังมีรถสัมภาระอีกหลายคัน ด้านหลังก็เป็นองครักษ์จวนอ๋องคุมท้ายเพราะล้วนเป็นคนที่ฝึกยุทธ์มา พวกเขาอยู่ท้ายขบวนจึงได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลัง ว่ามีคนไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status