"เขาอยู่ที่นั่น?""กลับเรือนนอนแล้ว""ข้าจะไปดูเสียหน่อย" ฟู่จาวหนิงเพิ่งพูดจบ"พระชายายังไม่ได้กินข้าวเย็นใช่ไหม? ข้าน้อยจะไปเตรียมให้ ท่านอ๋องเองก็ยังไม่ได้กิน จะไปกินกับท่านอ๋องหรือว่ากลับไปเรือนเจียนเจียเจ้าคะ?"หงจั๋วแม้จะถามความเห็นนาง แต่ก็ทำตาแป๋ว เห็นได้ชัดว่าอยากให้นางไปกินกับเซียวหลันยวนฟู่จาวหนิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก"ส่งไปที่เขาทางนั้นเถอะ""เจ้าค่ะ!"หงจั๋วหมุนตัวออกไปเตรียมอย่างยินดีฟู่จาวหนิงเดินตรงไปที่เรือนนอนเซียวหลันยวน ตอนนี้ไม่มีคนมาขวางนางแล้วเพียงแต่ตอนเข้าไปก็เห็นชิงอีรออยู่นอกประตูห้องหลัก นางยังรู้สึกแปลกหน่อยๆเพราะประตูปิดอยู่"พระชายา ท่านถามหาสิ่งยืนยันได้แล้วหรือไม่?" ชิงอีพอเห็นนางก็ตาเป็นประกาย รีบถามออกมา"ถามมาได้แล้ว"ฟู่จาวหนิงชี้ไปที่ประตูแล้วถามขึ้น"ท่านอ๋องเดิมทีซุ่มอยู่บ้านตระกูลหลิน คิดไม่ถึงว่าบ้านที่หลินอันห่าวพักอยู่แต่เดิมตอนนี้มีคนย้ายเข้าไปอยู่เสียแล้ว"ชิงอีเองก็กดเสียงลงต่ำอย่างลึกลับ "พระชายา ท่านรู้ไหมว่าคนที่เข้าไปอยู่คือใคร?"ฟู่จาวหนิงนึกถึงสิ่งที่หงจั๋วบอก ความผิดปกติหลังจากเซียวหลันยวนกลับมา ใจก็สั่นกึก "หรือ
ชิงอีปรับสีหน้าจริงจังในพริบตา ยืดหลังตรง "ข้าน้อยไม่ได้ว่าง!"พูดจบเขาก็วิ่งแล้ว "พระชายา ข้าน้อยจะไปยกข้าวปลามาให้พวกท่าน!"เขาวิ่งเร็วกว่าบินเสียอีกเซียวหลันยวนเปิดประตูเดินออกมา ฟู่จาวหนิงได้กลิ่นหอมวูบหนึ่ง กลั้นขำถามขึ้น "ที่นี่อาบน้ำแล้วด้วยหรือ?"เดิมทีพอเขากินข้าวเย็นเสร็จจึงจะอาบน้ำ นี่ออกมาจากบ้านตระกูลหลินถึงกับทนไม่ไหวจนต้องอาบก่อนเลยหรือ?เซียวหลันยวนเหลือบมองผาดหนึ่ง ไม่พูดอะไร"ท่านคงไม่ได้ ถูกคนเสียมารยาทมาหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงอยากจะขำขึ้นมาเสียให้ได้ "ถูกแม่นางตระกูลหลินกอดเอาหรือ? หอมเอา? หรือว่าลูบคลำเอา?"เซียวหลันยวนสีหน้าแย่ไปแล้วตอนนั้นหลินอี๋เจินเห็นเขาปรากฎตัวในห้อง ปฏิกิริยาแรกกลับไม่ใช่หวาดกลัวลนลาน แต่เป็นตกตะลึง จากนั้นก็ร้องเรียกพี่เขยมาคำหนึ่ง ถัดมาก็โถมตัวเข้าหาเขา ท่าทางพุ่งเข้าโอบกอดนั่น ตื่นเต้นเสียจนแก้มหน้าแดงเถือกไปหมด ทำให้เซียวหลันยวนรู้สึกแย่ไปหมดทั้งตัวจังหวะนั้นเขารู้สึกว่าตนเองเหมือนเป็นกระดูกชุ่มน้ำจิ้มท่อนหนึ่ง ส่วนหลินอี๋เจินคือสุนัขที่หิวโหยตัวหนึ่งเขาตอนนั้นจึงเลี่ยงตัวออกมาทันที แต่หลินอี๋เจินกลับหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่ง
ฟู่จาวหนิงชะงักไป คิดถึงอะไรได้ขึ้นมา เชิดคางขึ้นมาทันที "ท่านทำไมไม่ลองคิดดูหน่อยว่าเพราะอะไรข้าถึงไป!"สิ่งยืนยันสามชิ้นนี้ยังอยู่กับนางทางนี้นะ ยังจะเอาอีกไหมเนี่ย?เซียวหลันยวนไม่สนใจสิ่งยืนยันแล้วจริงๆ หรือว่าปฏิกิริยาเชื่องช้าเกินไป หลังจากนางมาถึงเขาก็ไม่ถามเรื่องสิ่งยืนยันมาโดยตลอด และไม่ให้นางรีบไปดูผู้นำตระกูลฮู่ก่อนอีกด้วย"ได้มาแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนตอนนี้จึงมองนาง ดูแล้วไม่ลนไม่ลานอะไร ไม่ร้อนรนเลยจริงๆ"ผู้อาวุโสฮู่เป็นอย่างไรบ้าง?""อยู่ที่จวนอ๋อง นอนหลับไปแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้ว""เช่นนั้นพวกเรากินข้าวกันก่อน ข้าหิวแล้ว" ฟู่จาวหนิงผ่อนคลายลงทันที นางหิวจนไม่ไหวแล้วคำตอบที่เซียวหลันยวนให้กับนางคือตักน้ำแกงให้นางชามหนึ่ง วางไว้ตรงหน้านางหงจั๋วกับเฝิ่นซิงถอยไปอยู่ข้างๆ พวกนางเองก็พบแล้ว ว่าตอนที่ท่านอ๋องกับพระชายากินข้าวด้วยกันพวกนางทั้งสองก็ไม่มีหน้าทีอะไรแล้ว เรื่องตักกับข้าวตักน้ำแกงพวกนี้ แน่นอนว่ามีท่านอ๋องมาจัดการให้พวกนางสบตากันผาดหนึ่ง เม้มริมฝีปากแอบหัวเราะขึ้นมาพอเห็นท่าทางเช่นนี้ของท่านอ๋องและพระชายาแล้วจะไม่มีอารมณ์รักใครกันได้อย่างไร? พวกเขาน่าจะไ
"ขาดวัตถุดิบยาน่ะ ถ้ามีวัตถุดิบยาก็สกัดออกมาได้ เป็นเหมือนกับยาไล่งูเลย มีวัตถุดิบยาบางอย่างสามารถทำให้พวกยุงงูแมลงรังเกียจได้อยู่"ดังนั้นนางจึงไม่รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องไม่น่าเชื่ออะไรโดยเฉพาะหลังจากที่ช่วยลูกพี่ที่อยู่ในโลกวิชาแพทย์สองคนนั้นในอดีต นางก็ยังแลกเปลี่ยนกับพวกเขาอยู่ไม่น้อย พวกเขาเองก็สอนนางมาไม่น้อยเหมือนกันฟู่จาวหนิงตอนนั้นก็เคยค้นคว้ามาแล้วแต่เพราะในวันปกติก็แทบจะสัมผัสไม่ถึงคนป่วยกลุ่มนี้เลย นางเองจึงไม่ได้ตั้งอกตั้งใจสกัดยาในด้านนี้ต่อนางถึงกับเอายาที่รับมือกับแมลงกู่ไปเทียบกับยาไล่งูเนี่ยนะ?เซียวหลันยวนได้ยินก็อดขำไม่ได้"เจ้าไม่ใช่คนของพันธมิตรโอสถใต้หล้าหรอกหรือ? ลองไม่พึ่งผู้อาวุโสจี้แล้วไปออกรวบรวมวัตถุดิบยาที่ต้องการมาสร้างถุงยาดู"เขาเองไม่ได้กังวลเท่าไรเลย แต่กลับกังวลนางอยู่หน่อยๆ"ไว้ข้าจะไปถามท่านอาจารย์ดู" ฟู่จาวหนิงพยักหน้า"ผู้อาวุโสฮู่ทางนี้""ช่วยออกมาได้แล้ว แม้จะค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็ช่วยไว้ได้แล้ว""ระหว่างทางที่ผู้อาวุโสฮู่กลับมาก็มอบคำสั่งเสียไว้ไม่น้อยเลย มองออกว่าเขารู้สึกว่าตนเองช่วยไว้ไม่ได้แล้วจริงๆ คงจะรอดได้ไม่กี่วัน" เซียว
ฟู่จาวหนิงมองเขานิ่ง "คนอื่นตรงนี้ของข้ารวมไปถึงพ่อของข้าด้วย"ถ้าฟู่จิ้นเชินสามารถไม่ถูกพัวพันได้ ท่านปู่จะต้องดีใจอย่างมากแน่ เขาหลายปีมานี้ เขาหลายปีมานี้ร่างกายก็ไม่ดีมาตลอดจิตใจก็ย่ำแย่อีกลูกชายที่แต่ก่อนชุบเลี้ยงไว้อย่างดี เพียงพริบตากลายเป็นคนร้ายประกาศจับ หายสาบสูญไปพร้อมกับลูกสะใภ้หลายปี เป็นหรือตายก็ยังไม่รู้ สำหรับเขาแล้วนี่เป็นผลกระทบที่ยิ่งใหญ่มหาศาลของเขาแน่"อืม ข้ารู้ พรุ่งนี้ข้าจะให้คนไปแจ้งกับจวนทางการ ให้เพิกถอนประกาศจับฟู่จิ้นเชินเสีย"สิบกว่าปีมานี้ จวนทางการในที่ต่างๆ ล้วนกำลังไล่จับสามีภรรยาตระกูลฟู่อยู่ ทุกปีล้วนทำการปรับประกาศจับพวกเขาให้เป็นปัจจุบันอยู่ตลอด ดังนั้น ฟู่จิ้นเชินกับฟู่หลินซื่อต่อให้ยังมีชีวิตอยู่ ก็น่าจะไปหลบไปซ่อนมาหลายที่การเพิกถอนประกาศจับต่อตัวเขามันหมายถึงอะไร เซียวหลันยวนไม่มีทางไม่รู้ฟู่จาวหนิงเดิมทีอยากจะบอกว่ารอให้หาพวกเขาพบก่อน รอจนตรวจสอบความจริงกระจา่ง คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนตอนนี้จะรับปากว่าไม่ไล่จับฟู่จิ้นเชินอีกแล้ว!นี่เท่ากับบอกว่า ฟู่จิ้นเชินไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีกแล้ว มาเดินใต้ดวงตะวันได้แล้วฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน
ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ไม่ได้ถามเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตมากนักตอนนี้พอได้ยินเซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นมา นางถึงพบว่าฟู่หลินซื่อในอดีตน่าจะเคยเคยพยายามแก้ต่างให้ตนเองแล้ว"ท่านตอนนั้นไม่ใช่ว่ายังเป็นทารกอยู่หรือ? มีคนป้อนน้ำแกงโสมให้ท่านแล้วหรือ?""อืม ดังนั้นคำพูดของฟู่หลินซื่อตอนนั้นก็คือ นางได้กลิ่นโสมกลิ่นหนึ่ง จึงเดินตามกลิ่นไปที่ข้างเตียงข้า จากนั้นจึงพบว่าข้างๆ มีชามวางอยู่ใบหนึ่ง พอนางยกชามขึ้นก็มีคนเดินเข้ามาแล้ว""สภาพในตอนนั้นคือเช่นนี้หรือ?""ถูกต้อง""แล้วไม่มีคนเชื่อนางหรือ?""ผ้าเช็ดหน้าพกติดตัวของฟู่หลินซื่อเองก็มีกลิ่นโสมนั้นด้วย ตอนนั้นมีคนตรวจสอบเรียบร้อย ผ้าเช็ดหน้านั้นเคยหอโสมมาก่อน และผ้าเช็ดหน้านี้ก็อยู่บนตัวนางมาตลอด ตัวนางเองก็บอกว่าไม่เคยทำหล่นมาก่อน ดังนั้นตนเองก็พูดได้ไม่ชัดเจนเช่นกัน"เซียวหลันยวนชะงักไปครู่หนึ่งจึงพูดต่อว่า "แล้วก็ นางตอนนั้นถูกหมอหลวงมองมองออกว่าสติสัมปชัญญะดูไม่ครบถ้วนนัก สิ่งที่ตนเองพูดจาก็เลอะเทอะ จดจำได้ไม่ค่อยชัดเจน กระทั่งยังเกิดความคิดที่จะบีบคอข้าอีกด้วย"ซู๊ดตอนนั้นเขายังเป็นแค่ทารก ฟู่หลินซื่อคิดจะบีบคอเขา?"สิ่งเหล่านี้คนมาก
แต่ถ้าหากนั่งรถม้า ไปกันช้าหน่อย ก็น่าจะประมาณครึ่งเดือน"แล้วสิ่งยืนยันอีกสองชิ้นที่เหลือ อาจจะต้องไปถึงเขาอวี้ซานก่อนถึงจะรู้บทบาทของมัน" ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว "แต่ในเมื่อโสมพิษยังอยู่ที่นี่ ความลับที่เขาอวี้เหิงจะเกี่ยวข้องกับความจริงที่ท่านติดพิษในครั้งนั้นหรือเปล่า?"ถ้าหากเป็นเช่นนี้ นางเองก็จะไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตอนนี้เรื่องในตระกูลฟู่ก็คือเรื่องของนางแล้ว"เขาอวี้เหิงแน่นอนว่าต้องไปเสียรอบหนึ่ง" เซียวหลันยวนเหลือบมองม้วนหนังแกะอีกหลายครั้ง ดันไปไว้ด้านหน้านาง "เจ้าเก็บไว้เสีย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ แล้วก่อนหน้านี้ที่สิ่งยืนยันสามชิ้นยังรวบรวมไม่ครบ นำมาเก็บไว้กับนางก็ยังพอทำเนา ตอนนี้สิ่งยืนยันทั้งสามชิ้นรวบรวมครบแล้ว ทำไมถึงยังมาวางไว้ที่นางทางนี้อีกล่ะ?"ตอนนี้ของอยู่กับข้า สถานที่ท่านก็บอกข้าแล้ว ไม่กล้วว่าข้าจะไปค้นหาก่อนหรอกหรือ?"เซียวหลันยวนโน้มตัวเล็กน้อยเข้าหานาง"เจ้าจะไปคนเดียวหรือ?"เขาถามอย่างตั้งใจฟู่จาวหนิงเม้มปาก "ไม่หรอก"เซียวหลันยวนนั่งกลับไป หัวเราะขึ้นมา "ข้ารู้สึกว่าเจ้าเชื่อใจได้""แต่ว่าที่นี่ก็เป็นถึงจวนอ๋องเจวี้ยนจะไม่มีที่เก็บขอ
วันต่อมา ข่าวเรื่องที่อ๋องเจวี้ยนได้รับสิ่งยืนยันครบสามชิ้นแล้วก็ถูกส่งออกมาฮู่เจียไท่หลังจากได้ข่าวก็ตกตะลึงจนหน้าเปลี่ยนสี ไปหาแม่นางเจี๋ยที่กำลังแก้พิษอยู่ในห้อง"ทำอย่างไรดี? อ๋องเจวี้ยนได้สิ่งยืนยันไปแล้ว นั่นไม่ใช่บอกว่าท่านพ่อยังไม่ตายหรอกหรือ? แล้วเขาจะรู้ไหมว่าพวกเราวางยาพิษ?""ท่าน พิษน่ะข้าเป็นคนวาง ไม่ใช่ท่านเสียหน่อย ถ้าหากถูกตรวจสอบออกมาจริงๆ ท่านก็ผลักมาให้ข้าก็พอแล้ว"คำพูดแม่นางเจี๋ยทำให้ฮู่เจียไท่ค่อนข้างซาบซึ้ง"แม่นางเจี๋ย ถ้าไม่ได้แต่งเจ้าเข้ามา ข้าคงได้เป็นคนโง่ที่เอาแต่ฟังคำพูดของท่านพ่ออยู่ตลอดเวลา เขาพูดอะไรข้าก็ทำสิ่งนั้น พอถึงเวลาบ้านตระกูลฮู่ก็ไม่ได้ตกมาอยู่ในกำมือข้า ข้าก็เท่ากับทำงานให้กับพวกรุ่นหลังอย่างโง่เขลาเท่านั้น"แม่นางเจี๋ยเม้มปากยิ้ม"แล้วเจ้าคิดว่าชีวิตนี้ข้ายังจะมีความหมายอะไร? เจ้าพูดถูกต้อง ข้าต้องคิดเพื่อตนเอง ตระกูลฮู่เดิมทีก็ควรเป็นของข้า แต่ข้าจะไม่ผลักไสเจ้าออกไปหรอก เจ้าคือภรรยาผู้ชาญฉลาดของข้า แล้วข้างกายข้าจะไม่มีเจ้าได้อย่างไร?""แต่พิษที่ข้าติดนี่ก็ทำเอาน่ารำคาญเสียจริง และไม่รู้ว่าตอนไหนถึงจะถอนออกไปได้""เมืองหลวงไม่ใช่ม
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ
สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร
"ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ