การทดสอบครั้งนี้ ตามกฎแล้วฟู่จาวหนิงต้องไปค้นหาวัตถุดิบยาคนเดียว แต่นางมีฝีมือขนาดนั้นไหม?ตาเฒ่าจี้ถลึงตามองไปทางรองขุนพลหลิว"นางไม่ใช่ออกมาคนเดียวหรือไรกัน?""ผู้อาวุโสจี้ นี่พิสูจน์ไม่ได้ว่าของพวกนี้นางขุดมาคนเดียวนะ" รองขุนพลหลิวผายมือออก"ในวังส่งพวกเจ้ามาคุ้มครองที่ทางเข้านี้ เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าไป แล้วพอไม่มีคนอื่นขึ้นภูเขา แล้วจะมีคนมาช่วยเหลือนางหรือ?" ผู้อาวุโสจี้ถามขึ้นมาอีกรองขุนพลหลิวมองไปทางอ๋องเจวี้ยน"เรื่องนี้ก็พูดยาก พวกเราแค่คุ้มกันทางเข้านี้ แต่คนบางส่วนก็สามารถลอบส่งคนเข้าไปทางอื่นก็ได้จริงไหม"อ๋องเจวี้ยนน้ำเสียงเรียบ "ดังนั้น ตอนที่เจ้าพูดประโยคนี้แล้วมองข้า คือเจ้ากำลังสงสัยข้าสินะ?""ข้าน้อยมิกล้า"รองขุนพลหลิวถึงแม้จะพูดว่าไม่กล้า แต่สีหน้าของเขากลับพุ่งชี้มาที่เขาอย่างชัดเจนเขามั่นใจว่าตอนนี้อ๋องเจวี้ยนก็ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้แต่พริบตาต่อมา กลับเห็นว่าเบื้องหน้ามีแสงเย็นสว่างวาบรองขุนพลหลิวตกตะลึง รีบร้อนคิดจะถอยหนี แต่ก็ไม่ทันแล้ว กระบี่เล่มหนึ่ง แทงเข้าไปที่ท้องของเขาเลือดทะลักออกมา"อ๊า!" คนที่ยืนอยู่ข้างๆ รองขุนพลหลิวตกใจจนหน้าถอดสี
คนทั้งหมดถูกการกระทำของนางทำให้ตกตะลึงอีกแล้ว ทุกคนล้วนอ้าปากค้างในดวงตาอ๋องเจวี้ยนเองก็อดมีรอยยิ้มขึ้นไม่ได้ป่าเถื่อนขนาดนี้เชียว?"ฟู่จาวหนิง!" รองขุนพลหลิวเดิมทีก็เจ็บจนแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว พอลมล้มพื้นแบบนี้ ก็รู้สึกว่าเลือดในบาดแผลเหมือนจะไหลออกมาหนักกว่าเดิมแล้วฟู่จาวหนิงมองสูงลงต่ำ เอ่ยขึ้นเย็นชา "ถ้าอยากรอดก็หุบปากเสีย"รองขุนพลหลิวงงงันจนไม่พูดอะไรอีก"ตาเฒ่าจี้มาช่วยหน่อย" ฟู่จาวหนิงมองอ๋องเจวี้ยน จากนั้นจึงหาอีกรอบมองไปทางผู้อาวุโสจี้ "ช่วยฉีกเสื้อผ้าตรงแผลเขาหน่อย""ได้เลยได้เลย!"ผู้อาวุโสจี้กุลีกุจอตรงเข้ามา ยื่นมือคว้ากรรไกลเล็กจากถุงหนังจากเอวออกมาด้ามหนึ่ง จัดการตัดเสื้อผ้าของรองขุนพลหลิวออกพอตัดออก กองยาในมือฟู่จาวหนิงก็ "แผละ" ลงไปบนแผลของเขา จากนั้นก็ใช้มือกดเอาไว้ครู่หนึ่งรองขุนพลหลิวแทบจะเจ็บเจียนตายหญิงสาวคนนี้ป่าเถื่อนเสียจริง!แต่ว่า เลือดก็หยุดลงอย่างรวดเร็วจริงๆ"เลือดหยุดแล้วจริงๆ""ผลของยาดีมาก ระดับของวัตถุดิบยาเหล่านี้ล้วนดีมากจริงๆ"หมอเหล่านั้นล้วนตื่นเต้นจนวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา จนลืมความตกตะลึงพรั่นพรึงที่อ๋องเจวี้ยนแทงกระบี่ใส่คนอ
หมอเทวดาหลี่กับหมอหลวงคนอื่นสบตากันอย่างจับใจผาดหนึ่ง ทำได้เพียงยอมรับผลสรุปนี้"ถือว่าคุณหนูฟู่ผ่านแล้ว""ยินดีด้วยคุณหนูฟู่"ตาเฒ่าจี้เองก็หัวเราะร่า เหล่มองอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่ง "ไม่ถูกสิ ตอนนี้ต้องเรียกพระชายาอ๋องเจวี้ยนแล้วไม่ใช่หรือ?"หึ ถึงแม้เขารู้สึกว่าศิษย์ของตนเองไปจับคู่กับอ๋องเจวี้ยนจะดูน่าเสียดายหน่อย แต่แต่งก็แต่งไปแล้ว คารวะฟ้าดินไปแล้วด้วย เช่นนั้นก็ต้องทำตำแหน่งพระชายานี้ให้มั่นคงเสียหน่อย!"ยินดีด้วยกับพระชายาอ๋องเจวี้ยน"คนทั้งหมดล้วนเปลี่ยนคำเรียกกันเสียงแผ่วฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนโดยสัญชาตญาณอ๋องเจวี้ยนไม่พูดอะไรชิงอีกลับหน้าชื่นตาบาน ตะโกนไปทางฟู่จาวหนิงอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ยินดีด้วยพระชายา!"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบกลับ โค้งตัวลงแบกตะกร้าหลัง "ขึ้นไปบนรถม้าได้ไหม?"นางอยากรีบกลับบ้านตระกูลฟู่แล้วนางสกัดยาลูกกลอนมาขวดนึงบนภูเขา จะกลับไปให้ท่านปู่กินก่อนอ๋องเจวี้ยนยังไม่เอ่ยปาก ตาเฒ่าจี้ก็เรียกขึ้นอย่างเบิกบาน "มานั่งของข้า มานั่งของข้านี่! พวกเรามาคุยเรื่องวัตถุดิบยากันบนรถม้า""ได้เลย"ฟู่จาวหนิงไม่ลังเล เดินไปทางรถม้าของเขาทันทีตาเฒ่า
"ก็บอกไปว่าวัตถุดิบยาเหล่านั้นต้องเก็บมา นี่เป็นกฎ เดี๋ยวข้าจะเข้าวังไปขอพบท่านฮองเฮา แจ้งกับนางเสียหน่อย พอรู้ว่าอ๋องเจวี้ยนชักกระบี่แทงรองขุนพลหลิว อย่าว่าแต่ฮองเฮาเลย คิดว่าจักรพรรดิก็ยังต้องเดือดดาล"หมอเทวดาหลี่ยิ้มเย็นชาขึ้นมาถึงอย่างไรโสมม่วงนั้นเขาก็ต้องการมัน! ต่อให้ถูกฮองเฮาเก็บไป ภายหลังตอนที่ฮองเฮาจะใช้ เขาก็ขโมยออกมาสักสองสามแผ่นก็ยังได้ยังมีวัตถุดิบยาอื่นอยู่อีกด้วย เอามาเติมในร้านยาส่วนตัวของตนเองคือดีที่สุดพวกเขาเองก็รีบเก็บของกลับเช่นกันในรถม้าจวนอ๋องเจวี้ยน ฟู่จาวหนิงก็ผ่อนลมหายใจลง ขยับเข้าไปริมตัวรถ"ท่านจะไม่ถามหน่อยหรือว่าจงเจี้ยนไปไหน?" นางเอ่ยถามอ๋องเจวี้ยนขึ้นมาเอง ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นลูกมือเขา"แล้วจงเจี้ยนไปที่ไหนแล้วหรือ?"อ๋องเจวี้ยนถามตามคำพูดนางขึ้นมาฟู่จาวหนิงยกมุมปากยิ้ม "ขอให้เขาช่วยแบกของน่ะ จะลงจากเขามาช้าหน่อย"อ๋องเจวี้ยนนิ่งไปพักหนึ่ง ถามขึ้นว่า "วัตถุดิบยาหรือ?"เอ๊ะ?ก็ยังถูกเขาเดาจนถูกอีก"อืม" ฟู่จาวหนิงในเมื่อยืมทหารของเขาแล้ว ก็ไม่คิดจะปิดบังอะไรเขา ถึงอย่างไรจงเจี้ยนพอกลับมาก็จะต้องไปรายงานกับเขาอย่างแน่นอน"แค่กๆ"อ๋องเ
พอเห็นว่าอ๋องเจวี้ยนจะล้มลงบนโต๊ะเล็ก ฟู่จาวหนิงก็ยื่นมือประคองเขาไว้ ลุกขึ้นไปนั่งข้างตัวเขา คว้าเอาหมอนเล็กใบหนึ่งมาให้เขาพิง"พระชายา ท่านอ๋องเป็นอะไรไป?" เสียงของชิงอีลอดเข้ามาอีกครั้ง"ใกล้จะตายแล้ว!"ฟู่จาวหนิงตอบกลับไปคำหนึ่ง พอกำลังเตรียมจะล้วงเอาเข็มกับยาสกัดออกมาจากในห้องเภสัช ชิงอีก็เลิกม่านรถขึ้นมาตรวจสอบอย่างร้อนรน นางตะคอกเสียงเย็นกลับทันที "อย่าเข้ามา! ยังจะให้ข้ารักษาคนอยู่ไหม?"ชิงอีมือแข็งทื่อไป งงงันจนไม่กล้าเลิกม่านรถต่ออีก"พระชายา ท่านตอนนี้เป็นพระชายาของพวกเราแล้ว ขอท่านช่วยชีวิตท่านอ๋องด้วย!""หุบปากเถอะ"ฟู่จาวหนิงตอนนี้เองก็เพิ่งจะพบว่าชิงอีเองก็พูดมากเหลือเกิน ตอนแรกที่เจอกันยังคิดว่าเป็นชายหนุ่มที่เคร่งขรึมเสียอีกชิงอีปิดปากสนิทลงอีกครั้งฟู่จาวหนิงหยิบยากระตุ้นหัวใจออกมา มองอ๋องเจวี้ยน กัดฟันแล้วปลดเข็มขัดเขาลงเลิกชุดคลุมของเขาขึ้น จัดการพลิกตัวคนมองเข็มขัดกางเกงเขา นางสร้างโครงจิตวิทยาขึ้นมา ก็แค่ไม่มองเขาเป็นสามีของนางในนาม มองเขาเป็นแค่คนป่วยก็เพียงพอแล้ว!พอคิดเช่นนี้ มือนางก็ดึง คลำหาตำแหน่ง ใช้สำลีเช็ดยาฆ่าเชื้อ เสียหน่อย จากนั้นก็แทงเข็ม
"เจ้าไปไม่ได้นะ ถ้าเจ้าไป ถึงตอนนั้นท่านผู้เฒ่าถามขึ้นมาข้าก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรแล้ว!""แต่ว่าคุณหนูตอนที่ออกไปกำชับไว้ว่า ถ้ามีเรื่องอะไรต้องไปหานางให้ได้""พี่ทหารสองคนนั้นไม่ใช่บอกมาแล้วหรือ? ว่าคุณหนูสองสามวันนี้ขึ้นเขาไปหาสมุนไพร แล้วเจ้าจะไปหานางจากไหนกัน?"ฟู่จาวหนิงฟังออกว่าเสียงผู้ชายนี้คือเสียงของลุงจง ส่วนเสียงผู้หญิงอีกเสียงหนึ่งก็น่าจะเป็นป้าจงกระมังฮูหยินรองฟู่วันนั้นถูกนางขู่เอาไว้ ไม่มีทางไม่กล้าปล่อยป้าจงกลับมาแน่นอนนางพาม้าเดินเข้ามาทางประตูหลัง "ลุงจง ท่านกำลังจะไปหาข้าหรือ?"ลุงจงเงยหน้าขึ้นฉับพลัน พอเห็นนางก็ตื่นเต้นขึ้นมา "คุณหนูกลับมาแล้ว!"หญิงกลางคนที่ดูแล้วซื่อๆ มีความสามารถอีกคนหนึ่ง ก็น่าจะเป็นป้าจง คนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของตระกูลฟู่ก็เหลืออยู่แค่ไม่กี่คนนี่แล้ว"คุณหนู!"ป้าจงมองนาง รีบสาวเท้าเดินเข้ามาเบื้องหน้านาง จากนั้นก็กอดนางแน่น ร้องไห้จ้าออกมา"ข้าคิดว่าจะไม่ได้เห็นคุณหนูอีกแล้ว!"ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยถูกใครกอดแน่นขนาดนี้ จึงตั้งตัวไม่ทันไปครู่หนึ่ง แต่ว่าบนตัวป้าจงมีกลิ่นที่เหมือนมีเหมือนไม่มีวูบหนึ่งทำให้นางได้สติกลับมา นางรีบผละตัวออกจากป้า
ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดนางไม่รู้ชื่อของอ๋องเจวี้ยน แต่ท่านปู่กลับรู้สึกเหมือนรู้จักอ๋องเจวี้ยนเลย"ใช่แล้ว"พอนางตอบรับคำเดียวผู้เฒ่าฟู่ก็เหมือนถูกกระตุ้นครั้งใหญ่ รีบพูดอย่างร้อนรนว่า "ถอนหมั้น ไปถอนหมั้นกับเขาเสีย!"ฟู่จาวหนิงตกตะลึง "ท่านปู่ ไม่ใช่หมั้นหมาย ข้ากับเขาคารวะฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันไปแล้ว แต่งงานกันแล้ว"แต่งงานกันไปแล้วแล้วจะถอนหมั้นอะไรกัน?ผู้เฒ่าฟู่ตาแดงขึ้นมา น้ำตารื้น "เช่นนั้นก็หย่าเสีย!""ท่านผู้เฒ่า?" พวกของเสี่ยวเถาก็ตกตะลึงไปแล้วมีปู่แท้ๆ ที่ไหนบ้างที่สั่งให้หลานสาวที่เพิ่งแต่งงานได้ไม่กี่วันไปหย่า?"จาวหนิง เจ้ากับเซียวหลันยวนหลับ...หลับนอนกันแล้วหรือยัง?" ผู้เฒ่าฟู่จับมือนางไว้แน่นฟู่จาวหนิงส่ายหน้าทันที"ยัง""เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี! หย่า หย่ากับเขาเสีย ตอนนี้ยังทันเวลา" ผู้เฒ่าฟู่กระเสือกกระสนจะลุกขึ้น "ข้าจะเข้าวังไปขอพบจักรพรรดิ ให้เขาเป็นธุระเรื่องหย่าเสีย"ฟู่จาวหนิงมองปฏิกิริยาของเขาแล้วก็ยิ่งรู้สึกอยากรู้อยากเห็น หรือว่าตระกูลฟู่กับอ๋องเจวี้ยนเคยมีเรื่องบาดหมางกัน?แต่ที่นางรีบร้อนแต่งงานเดิมทีก็เพื่อจะไม่กระตุ้นจิตใจท่านปู่นะ แล้ว
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เสื้อผ้ากลับไปปะเสียหน่อยก็พอแล้ว"หมอหวังที่อยู่ข้างๆ มองผู้อาวุโสจี้ จากนั้นก็มองฟู่จาวหนิง เขาเหมือนพบกับความลับอะไรบางอย่างผู้อาวุโสจี้ก่อนหน้านี้ไปยังเขาจันทร์ลับฟ้า บอกว่ารับศิษย์มาคนหนึ่ง ดูภูมิอกภูมิใจมาก แต่ว่าตอนที่ฟู่จาวหนิงออกมาเขากลับเหมือนไม่รู้จักนาง ยังเรียกนางว่าแม่หนูอยู่เลย แต่เมื่อครู่เขาเรียกนางว่าอะไรนะ?ศิษย์!ฟู่จาวหนิงคนนี้คือศิษย์ที่ผู้อาวุโสจี้รับมา ผู้อาวุโสจี้จงใจไปสนับสนุนตัวนาง!แต่ว่าตอนนี้ความสนใจของเขาไม่ใช่อยู่ที่ความลับนั่น แต่เป็น..."พระชายาอ๋องเจวี้ยน วิธีการกดที่ท่านทำให้กับผู้เฒ่าฟู่เมื่อครู่ยอดเยี่ยมเสียเหลือเกิน!" เขารอให้ผู้อาวุโสจี้กับฟู่จาวหนิงพูดต่อไม่ไหวแล้ว รีบร้อนสอดคำพูดเข้ามา"ท่านนี้คือหมอหวัง จริงด้วย อาจารย์เชิญเขามาเพื่อตรวจดูอาการปู่ของเจ้า ให้เขาเข้าไปตรวจก่อนดีไหม?"ฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดจะบอกว่าไม่ต้องแล้ว แต่พอคิดๆ ดู นางยังไม่รู้ว่าวิชาการแพทย์ของเหล่าหมอในแคว้นเจาเป็นอย่างไร ทำความเข้าใจสักหน่อยก็น่าจะดี จึงพยักหน้าให้"เช่นนั้นก็เชิญหมอหวังตรวจอาการให้ท่านปู่ข้างหน่อยเถิด ส่วนวิชาเมื่อครู่ของข้า
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ