หมอเทวดาหลี่กับหมอหลวงคนอื่นสบตากันอย่างจับใจผาดหนึ่ง ทำได้เพียงยอมรับผลสรุปนี้"ถือว่าคุณหนูฟู่ผ่านแล้ว""ยินดีด้วยคุณหนูฟู่"ตาเฒ่าจี้เองก็หัวเราะร่า เหล่มองอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่ง "ไม่ถูกสิ ตอนนี้ต้องเรียกพระชายาอ๋องเจวี้ยนแล้วไม่ใช่หรือ?"หึ ถึงแม้เขารู้สึกว่าศิษย์ของตนเองไปจับคู่กับอ๋องเจวี้ยนจะดูน่าเสียดายหน่อย แต่แต่งก็แต่งไปแล้ว คารวะฟ้าดินไปแล้วด้วย เช่นนั้นก็ต้องทำตำแหน่งพระชายานี้ให้มั่นคงเสียหน่อย!"ยินดีด้วยกับพระชายาอ๋องเจวี้ยน"คนทั้งหมดล้วนเปลี่ยนคำเรียกกันเสียงแผ่วฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนโดยสัญชาตญาณอ๋องเจวี้ยนไม่พูดอะไรชิงอีกลับหน้าชื่นตาบาน ตะโกนไปทางฟู่จาวหนิงอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ยินดีด้วยพระชายา!"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ตอบกลับ โค้งตัวลงแบกตะกร้าหลัง "ขึ้นไปบนรถม้าได้ไหม?"นางอยากรีบกลับบ้านตระกูลฟู่แล้วนางสกัดยาลูกกลอนมาขวดนึงบนภูเขา จะกลับไปให้ท่านปู่กินก่อนอ๋องเจวี้ยนยังไม่เอ่ยปาก ตาเฒ่าจี้ก็เรียกขึ้นอย่างเบิกบาน "มานั่งของข้า มานั่งของข้านี่! พวกเรามาคุยเรื่องวัตถุดิบยากันบนรถม้า""ได้เลย"ฟู่จาวหนิงไม่ลังเล เดินไปทางรถม้าของเขาทันทีตาเฒ่า
"ก็บอกไปว่าวัตถุดิบยาเหล่านั้นต้องเก็บมา นี่เป็นกฎ เดี๋ยวข้าจะเข้าวังไปขอพบท่านฮองเฮา แจ้งกับนางเสียหน่อย พอรู้ว่าอ๋องเจวี้ยนชักกระบี่แทงรองขุนพลหลิว อย่าว่าแต่ฮองเฮาเลย คิดว่าจักรพรรดิก็ยังต้องเดือดดาล"หมอเทวดาหลี่ยิ้มเย็นชาขึ้นมาถึงอย่างไรโสมม่วงนั้นเขาก็ต้องการมัน! ต่อให้ถูกฮองเฮาเก็บไป ภายหลังตอนที่ฮองเฮาจะใช้ เขาก็ขโมยออกมาสักสองสามแผ่นก็ยังได้ยังมีวัตถุดิบยาอื่นอยู่อีกด้วย เอามาเติมในร้านยาส่วนตัวของตนเองคือดีที่สุดพวกเขาเองก็รีบเก็บของกลับเช่นกันในรถม้าจวนอ๋องเจวี้ยน ฟู่จาวหนิงก็ผ่อนลมหายใจลง ขยับเข้าไปริมตัวรถ"ท่านจะไม่ถามหน่อยหรือว่าจงเจี้ยนไปไหน?" นางเอ่ยถามอ๋องเจวี้ยนขึ้นมาเอง ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นลูกมือเขา"แล้วจงเจี้ยนไปที่ไหนแล้วหรือ?"อ๋องเจวี้ยนถามตามคำพูดนางขึ้นมาฟู่จาวหนิงยกมุมปากยิ้ม "ขอให้เขาช่วยแบกของน่ะ จะลงจากเขามาช้าหน่อย"อ๋องเจวี้ยนนิ่งไปพักหนึ่ง ถามขึ้นว่า "วัตถุดิบยาหรือ?"เอ๊ะ?ก็ยังถูกเขาเดาจนถูกอีก"อืม" ฟู่จาวหนิงในเมื่อยืมทหารของเขาแล้ว ก็ไม่คิดจะปิดบังอะไรเขา ถึงอย่างไรจงเจี้ยนพอกลับมาก็จะต้องไปรายงานกับเขาอย่างแน่นอน"แค่กๆ"อ๋องเ
พอเห็นว่าอ๋องเจวี้ยนจะล้มลงบนโต๊ะเล็ก ฟู่จาวหนิงก็ยื่นมือประคองเขาไว้ ลุกขึ้นไปนั่งข้างตัวเขา คว้าเอาหมอนเล็กใบหนึ่งมาให้เขาพิง"พระชายา ท่านอ๋องเป็นอะไรไป?" เสียงของชิงอีลอดเข้ามาอีกครั้ง"ใกล้จะตายแล้ว!"ฟู่จาวหนิงตอบกลับไปคำหนึ่ง พอกำลังเตรียมจะล้วงเอาเข็มกับยาสกัดออกมาจากในห้องเภสัช ชิงอีก็เลิกม่านรถขึ้นมาตรวจสอบอย่างร้อนรน นางตะคอกเสียงเย็นกลับทันที "อย่าเข้ามา! ยังจะให้ข้ารักษาคนอยู่ไหม?"ชิงอีมือแข็งทื่อไป งงงันจนไม่กล้าเลิกม่านรถต่ออีก"พระชายา ท่านตอนนี้เป็นพระชายาของพวกเราแล้ว ขอท่านช่วยชีวิตท่านอ๋องด้วย!""หุบปากเถอะ"ฟู่จาวหนิงตอนนี้เองก็เพิ่งจะพบว่าชิงอีเองก็พูดมากเหลือเกิน ตอนแรกที่เจอกันยังคิดว่าเป็นชายหนุ่มที่เคร่งขรึมเสียอีกชิงอีปิดปากสนิทลงอีกครั้งฟู่จาวหนิงหยิบยากระตุ้นหัวใจออกมา มองอ๋องเจวี้ยน กัดฟันแล้วปลดเข็มขัดเขาลงเลิกชุดคลุมของเขาขึ้น จัดการพลิกตัวคนมองเข็มขัดกางเกงเขา นางสร้างโครงจิตวิทยาขึ้นมา ก็แค่ไม่มองเขาเป็นสามีของนางในนาม มองเขาเป็นแค่คนป่วยก็เพียงพอแล้ว!พอคิดเช่นนี้ มือนางก็ดึง คลำหาตำแหน่ง ใช้สำลีเช็ดยาฆ่าเชื้อ เสียหน่อย จากนั้นก็แทงเข็ม
"เจ้าไปไม่ได้นะ ถ้าเจ้าไป ถึงตอนนั้นท่านผู้เฒ่าถามขึ้นมาข้าก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรแล้ว!""แต่ว่าคุณหนูตอนที่ออกไปกำชับไว้ว่า ถ้ามีเรื่องอะไรต้องไปหานางให้ได้""พี่ทหารสองคนนั้นไม่ใช่บอกมาแล้วหรือ? ว่าคุณหนูสองสามวันนี้ขึ้นเขาไปหาสมุนไพร แล้วเจ้าจะไปหานางจากไหนกัน?"ฟู่จาวหนิงฟังออกว่าเสียงผู้ชายนี้คือเสียงของลุงจง ส่วนเสียงผู้หญิงอีกเสียงหนึ่งก็น่าจะเป็นป้าจงกระมังฮูหยินรองฟู่วันนั้นถูกนางขู่เอาไว้ ไม่มีทางไม่กล้าปล่อยป้าจงกลับมาแน่นอนนางพาม้าเดินเข้ามาทางประตูหลัง "ลุงจง ท่านกำลังจะไปหาข้าหรือ?"ลุงจงเงยหน้าขึ้นฉับพลัน พอเห็นนางก็ตื่นเต้นขึ้นมา "คุณหนูกลับมาแล้ว!"หญิงกลางคนที่ดูแล้วซื่อๆ มีความสามารถอีกคนหนึ่ง ก็น่าจะเป็นป้าจง คนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของตระกูลฟู่ก็เหลืออยู่แค่ไม่กี่คนนี่แล้ว"คุณหนู!"ป้าจงมองนาง รีบสาวเท้าเดินเข้ามาเบื้องหน้านาง จากนั้นก็กอดนางแน่น ร้องไห้จ้าออกมา"ข้าคิดว่าจะไม่ได้เห็นคุณหนูอีกแล้ว!"ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยถูกใครกอดแน่นขนาดนี้ จึงตั้งตัวไม่ทันไปครู่หนึ่ง แต่ว่าบนตัวป้าจงมีกลิ่นที่เหมือนมีเหมือนไม่มีวูบหนึ่งทำให้นางได้สติกลับมา นางรีบผละตัวออกจากป้า
ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดนางไม่รู้ชื่อของอ๋องเจวี้ยน แต่ท่านปู่กลับรู้สึกเหมือนรู้จักอ๋องเจวี้ยนเลย"ใช่แล้ว"พอนางตอบรับคำเดียวผู้เฒ่าฟู่ก็เหมือนถูกกระตุ้นครั้งใหญ่ รีบพูดอย่างร้อนรนว่า "ถอนหมั้น ไปถอนหมั้นกับเขาเสีย!"ฟู่จาวหนิงตกตะลึง "ท่านปู่ ไม่ใช่หมั้นหมาย ข้ากับเขาคารวะฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันไปแล้ว แต่งงานกันแล้ว"แต่งงานกันไปแล้วแล้วจะถอนหมั้นอะไรกัน?ผู้เฒ่าฟู่ตาแดงขึ้นมา น้ำตารื้น "เช่นนั้นก็หย่าเสีย!""ท่านผู้เฒ่า?" พวกของเสี่ยวเถาก็ตกตะลึงไปแล้วมีปู่แท้ๆ ที่ไหนบ้างที่สั่งให้หลานสาวที่เพิ่งแต่งงานได้ไม่กี่วันไปหย่า?"จาวหนิง เจ้ากับเซียวหลันยวนหลับ...หลับนอนกันแล้วหรือยัง?" ผู้เฒ่าฟู่จับมือนางไว้แน่นฟู่จาวหนิงส่ายหน้าทันที"ยัง""เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี! หย่า หย่ากับเขาเสีย ตอนนี้ยังทันเวลา" ผู้เฒ่าฟู่กระเสือกกระสนจะลุกขึ้น "ข้าจะเข้าวังไปขอพบจักรพรรดิ ให้เขาเป็นธุระเรื่องหย่าเสีย"ฟู่จาวหนิงมองปฏิกิริยาของเขาแล้วก็ยิ่งรู้สึกอยากรู้อยากเห็น หรือว่าตระกูลฟู่กับอ๋องเจวี้ยนเคยมีเรื่องบาดหมางกัน?แต่ที่นางรีบร้อนแต่งงานเดิมทีก็เพื่อจะไม่กระตุ้นจิตใจท่านปู่นะ แล้ว
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เสื้อผ้ากลับไปปะเสียหน่อยก็พอแล้ว"หมอหวังที่อยู่ข้างๆ มองผู้อาวุโสจี้ จากนั้นก็มองฟู่จาวหนิง เขาเหมือนพบกับความลับอะไรบางอย่างผู้อาวุโสจี้ก่อนหน้านี้ไปยังเขาจันทร์ลับฟ้า บอกว่ารับศิษย์มาคนหนึ่ง ดูภูมิอกภูมิใจมาก แต่ว่าตอนที่ฟู่จาวหนิงออกมาเขากลับเหมือนไม่รู้จักนาง ยังเรียกนางว่าแม่หนูอยู่เลย แต่เมื่อครู่เขาเรียกนางว่าอะไรนะ?ศิษย์!ฟู่จาวหนิงคนนี้คือศิษย์ที่ผู้อาวุโสจี้รับมา ผู้อาวุโสจี้จงใจไปสนับสนุนตัวนาง!แต่ว่าตอนนี้ความสนใจของเขาไม่ใช่อยู่ที่ความลับนั่น แต่เป็น..."พระชายาอ๋องเจวี้ยน วิธีการกดที่ท่านทำให้กับผู้เฒ่าฟู่เมื่อครู่ยอดเยี่ยมเสียเหลือเกิน!" เขารอให้ผู้อาวุโสจี้กับฟู่จาวหนิงพูดต่อไม่ไหวแล้ว รีบร้อนสอดคำพูดเข้ามา"ท่านนี้คือหมอหวัง จริงด้วย อาจารย์เชิญเขามาเพื่อตรวจดูอาการปู่ของเจ้า ให้เขาเข้าไปตรวจก่อนดีไหม?"ฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดจะบอกว่าไม่ต้องแล้ว แต่พอคิดๆ ดู นางยังไม่รู้ว่าวิชาการแพทย์ของเหล่าหมอในแคว้นเจาเป็นอย่างไร ทำความเข้าใจสักหน่อยก็น่าจะดี จึงพยักหน้าให้"เช่นนั้นก็เชิญหมอหวังตรวจอาการให้ท่านปู่ข้างหน่อยเถิด ส่วนวิชาเมื่อครู่ของข้า
ฟู่จาวหนิงยุ่งเหยิงขึ้นมาทันทีนางอันที่จริงก่อนหน้าก็ไม่ได้สนใจเลย คิดแค่ว่าอ๋องเจวี้ยนดูแล้วอายุน้อยกว่าองค์จักรพรรดิอยู่พอควร แล้วทั้งสองคนยังดูคล้ายกันอีก ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่องค์จักรพรรดิพูดกับอ๋องเจวี้ยนน้ำเสียงอะไรก็ดูเป็นความสนิทสนมใจดีของผู้อาวุโส (แน่นอนว่าเป็นไปได้ที่จะเสแสร้ง) นางจึงคิดว่าเขาเป็นพระโอรสคิดไม่ถึงเลย ว่าเขากลับเป็นเสด็จอาของพระโอรสแทนหรือว่านี่จึงเป็นสาเหตุที่เซียวเหยียนจิ่งไม่กล้ารุ่มร่ามกัน? สะกดไว้ด้วยตัวตนฐานะสินะ อ๋องเจวี้ยนสำหรับเซียวเหยียนจิ่งก็คือผู้อาวุโสนี่นา แม้ว่าพวกเขาจะอายุไล่เลี่ยกัน"เจ้าขนาดตัวตนฐานะก็ยังไม่รู้ ดังนั้นก็คงไม่รู้เรื่องตอนก่อนที่เขาจะสองขวบยังอยู่ที่นอกวังกระมัง ได้ยินว่าก่อนรับกลับเข้ามาในวัง ร่างกายของเขาอ่อนแออย่างมาก แล้วยังมีคนลือกันว่าพระโอรสนี่น่าจะเลี้ยงไม่รอด แล้วต่อมาเขายังโดนพิษเข้าไปอีกครั้งหนึ่งในวังด้วย""โดนพิษหรือ?""อืม เหมือนว่าตอนนั้นเขาก็อายุไม่กี่ขวบเอา ได้ยินว่าครั้งนั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเลย ตอนนั้นไท่ซ่างหวงโกรธมาก สั่งให้ตรวจสอบวังหลวงทั้งวัง ตอนนั้นในวังกำลังจัดงานเลี้ยงอะไรอยู่ และมีพวกขุนนาง
ผู้อาวุโสจี้สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมา"เรื่องนั้น อาจารย์เป็นผู้อาวุโสในพันธมิตรโอส แต่ว่าพันธมิตรโอสถก็มีกฎเกณฑ์อยู่ คนด้วยกันเองซื้อวัตถุดิบยา สามารถลดราคาได้สองส่วน แต่เงินก็ยังต้องจ่ายอยู่"แล้วก็วัตถุดิบยาที่นางต้องการ ก็ไม่ถูกเลยฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะเอาเปรียบพันธมิตรโอสถขนาดนั้น และนางเองก็ไม่มีเงินมากเช่นกัน ดังนั้น คงต้องพึ่งพาตนเองเก็บยาสกัดยาค่อยๆ เลี้ยงตัวไปก่อน"ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวข้าจะไปหาเจ้าพันธมิตรดู เขาอาจจะรู้ถึงความสัมพันธ์ในอดีตของตระกูลฟู่กับอ๋องเจวี้ยน ช่วงนั้นพันธมิตรเองก็อยู่ในเมืองหลวงเช่นกัน" ผู้อาวุโสจี้เอ่ยขึ้น"ได้เลย เช่นนั้นก็รบกวนท่านอาจารย์แล้ว""ไม่ต้องเกรงใจ เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?" ตาเฒ่าจี้ถลึงตาโตขึ้นฉับพลัน ตื่นเต้นขึ้นมา"ท่านอาจารย์ ไม่ใช่บอกว่าจะรับข้าเป็นศิษย์หรือ?" ฟู่จาวหนิงกระพริบตาปริบเมื่อครู่ที่ผู้อาวุโสจี้บอกว่าสามารถสร้างเหตุผลพื่อมาหลอกคนเรื่องที่นางจู่ๆ ก็เป็นวิชาแพทย์ นางรู้สึกหวั่นไหวมาก ยิ่งไปกว่านั้น นางก็อยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาในแคว้นเจาจากผู้อาวุโสจี้ด้วยการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด นางเองก็จะหยิ่งทะนง