ฟู่จาวหนิงยุ่งเหยิงขึ้นมาทันทีนางอันที่จริงก่อนหน้าก็ไม่ได้สนใจเลย คิดแค่ว่าอ๋องเจวี้ยนดูแล้วอายุน้อยกว่าองค์จักรพรรดิอยู่พอควร แล้วทั้งสองคนยังดูคล้ายกันอีก ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่องค์จักรพรรดิพูดกับอ๋องเจวี้ยนน้ำเสียงอะไรก็ดูเป็นความสนิทสนมใจดีของผู้อาวุโส (แน่นอนว่าเป็นไปได้ที่จะเสแสร้ง) นางจึงคิดว่าเขาเป็นพระโอรสคิดไม่ถึงเลย ว่าเขากลับเป็นเสด็จอาของพระโอรสแทนหรือว่านี่จึงเป็นสาเหตุที่เซียวเหยียนจิ่งไม่กล้ารุ่มร่ามกัน? สะกดไว้ด้วยตัวตนฐานะสินะ อ๋องเจวี้ยนสำหรับเซียวเหยียนจิ่งก็คือผู้อาวุโสนี่นา แม้ว่าพวกเขาจะอายุไล่เลี่ยกัน"เจ้าขนาดตัวตนฐานะก็ยังไม่รู้ ดังนั้นก็คงไม่รู้เรื่องตอนก่อนที่เขาจะสองขวบยังอยู่ที่นอกวังกระมัง ได้ยินว่าก่อนรับกลับเข้ามาในวัง ร่างกายของเขาอ่อนแออย่างมาก แล้วยังมีคนลือกันว่าพระโอรสนี่น่าจะเลี้ยงไม่รอด แล้วต่อมาเขายังโดนพิษเข้าไปอีกครั้งหนึ่งในวังด้วย""โดนพิษหรือ?""อืม เหมือนว่าตอนนั้นเขาก็อายุไม่กี่ขวบเอา ได้ยินว่าครั้งนั้นกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเลย ตอนนั้นไท่ซ่างหวงโกรธมาก สั่งให้ตรวจสอบวังหลวงทั้งวัง ตอนนั้นในวังกำลังจัดงานเลี้ยงอะไรอยู่ และมีพวกขุนนาง
ผู้อาวุโสจี้สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมา"เรื่องนั้น อาจารย์เป็นผู้อาวุโสในพันธมิตรโอส แต่ว่าพันธมิตรโอสถก็มีกฎเกณฑ์อยู่ คนด้วยกันเองซื้อวัตถุดิบยา สามารถลดราคาได้สองส่วน แต่เงินก็ยังต้องจ่ายอยู่"แล้วก็วัตถุดิบยาที่นางต้องการ ก็ไม่ถูกเลยฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะเอาเปรียบพันธมิตรโอสถขนาดนั้น และนางเองก็ไม่มีเงินมากเช่นกัน ดังนั้น คงต้องพึ่งพาตนเองเก็บยาสกัดยาค่อยๆ เลี้ยงตัวไปก่อน"ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวข้าจะไปหาเจ้าพันธมิตรดู เขาอาจจะรู้ถึงความสัมพันธ์ในอดีตของตระกูลฟู่กับอ๋องเจวี้ยน ช่วงนั้นพันธมิตรเองก็อยู่ในเมืองหลวงเช่นกัน" ผู้อาวุโสจี้เอ่ยขึ้น"ได้เลย เช่นนั้นก็รบกวนท่านอาจารย์แล้ว""ไม่ต้องเกรงใจ เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?" ตาเฒ่าจี้ถลึงตาโตขึ้นฉับพลัน ตื่นเต้นขึ้นมา"ท่านอาจารย์ ไม่ใช่บอกว่าจะรับข้าเป็นศิษย์หรือ?" ฟู่จาวหนิงกระพริบตาปริบเมื่อครู่ที่ผู้อาวุโสจี้บอกว่าสามารถสร้างเหตุผลพื่อมาหลอกคนเรื่องที่นางจู่ๆ ก็เป็นวิชาแพทย์ นางรู้สึกหวั่นไหวมาก ยิ่งไปกว่านั้น นางก็อยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาในแคว้นเจาจากผู้อาวุโสจี้ด้วยการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด นางเองก็จะหยิ่งทะนง
สิ่งที่ไท่ซ่างหวงเหลือไว้ให้อ๋องเจวี้ยนครั้งนั้น ตัวกุญแจกับสถานที่ล้วนส่งมอบให้กับคนสามคน ในมือพวกเขาทั้งสามคนล้วนมีสิ่งยืนยันอยู่คนละชิ้น มีเพียงทั้งสามคนมาอยู่พร้อมกันเท่านั้น นำเอาของทั้งสามอย่างออกมาจึงจะใช้ได้แต่ว่าสามคนนี้คือใคร กระทั่งองค์จักรพรรดิเองก็ยังไม่รู้องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาก็คอยเลียบๆ เคียงๆ หาข่าวจากไทเฮาอยู่ แต่ผลลัพธ์คือไทเฮาเองก็ไม่รู้เหมือนกันนี่เป็นปมในใจปมหนึ่งขององค์จักรพรรดิเห็นๆ อยู่ว่าเขาต่างหากที่เป็นคนที่มีคุณสมบัติสืบทอดการปกครองมากที่สุด ตำแหน่งจักรพรรดิท้ายสุดก็ยังส่งมาให้เขา แต่ไท่ซ่างหวงกลับรู้สึกชอบไปทางอ๋องเจวี้ยนมากกว่าอย่างชัดเจนเสด็จแม่ของเขาต่างหากที่เป็นฮองเฮาลำดับหนึ่ง ไทเฮาคนปัจจุบันเข้าวังมาทีหลังด้วยซ้ำ แต่พอเข้าวังก็ไม่ต้องไปตบตีแย่งชิงกับนางสนมเลย ขึ้นแท่นนั่งบัลลังก์ไปเลยทันทีแล้วยังอ๋องเจวี้ยนที่เกิดออกมาภายนอกนั่นอีก ถ้าหากในบ้านปกติ ก็นับเขาว่าเป็นลูกนอกสมรสได้แล้ว ไท่ซ่างหวงแอบไปลูกที่นอกวัง รอจนสองขวบจึงรับกลับเข้ามา ด้านบนก็มีพระโอรสอยู่ตั้งหลายคนแล้ว แต่ก็ยังรักเจ้าคนที่มาทีหลังนี่อย่างกับสมบัติล้ำค่าองค์จักรพรรดิกั
"เช่นนั้นข้าจะรีบไปอุ่นข้าวก่อนแล้วกัน" ป้าจงเองก็รีบไปทำงานเช่นกันลุงจงป้อนม้าตัวนั้นแล้วเรียบร้อย กำลังกวาดลานบ้าน พอได้ยินว่าฟู่จาวหนิงตื่นแล้วก็ยิ้มขึ้นมา ไม่รู้เพระาอะไร ตอนที่ฟู่จาวหนิงนอนหลับยังไม่ตื่น จิตใจของพวกเขาทั้งหมดก็เหมือนจะทั้งตึงทั้งเครียดตอนนี้พอได้ยินว่านางตื่นแล้ว พวกเขาก็วางใจลงมาทันทีฟู่จาวหนิงหลังจากล้างหน้าล้างตา ป้าจงก็ยกกับข้าวเข้ามาแล้ว"ท่านปู่ตื่นมาแล้วพูดอะไรหรือไม่?""ท่านผู้เฒ่าหลังจากตื่นมา พวกเราก็บอกว่าท่านนอนหลับอยู่ในห้อง เขาก็ไม่พูดอะไรอีก น่าจะรอให้ท่านตื่นก่อนแล้วค่อยพูดกระมัง" เสี่ยวเถาเอ่ยขึ้น"ท่านผู้เฒ่าดูแล้วเหมือนกำลังวังชาจะดีขึ้น พอกินยาลูกกลอนที่คุณหนูให้มาไปสองครั้ง ตอนกลางวันก็กินข้าวได้ และนอนหลับไปแล้ว"พวกของป้าจงล้วนรู้สึกว่ายาลูกกลอนขวดเล็กที่ฟู่จาวหนิงส่งมาให้เมื่อวานนี้มีประสิทธิภาพดีมาก ยอดเยี่ยมมาก เพราะว่าเมื่อคืนกับวันนี้ผู้เฒ่าฟู่หลังจากกินลงไปสองครั้งก็กินข้าวได้แล้วก่อนหน้านี้เขากินอะไรไม่ลงเลย"่ข้าไปดูท่านปู่ก่อน""คุณหนู ท่านเมื่อวานกลับมายังไม่ได้กินอะไรเลย รีบกินข้าวเสียก่อนเถิด ท่านผู้เฒ่ายังนอนหลับอย
ฟู่จาวหนิงยืนขึ้นมา โมโหจนหน้าเขียว"ตระกูลเจียงยังมีร้านอยู่นี่ แล้วร้านล่ะ?""ร้าน"ป้าจงกับเสี่ยวเถาสบตากัน รู้สึกลำบากใจมาก"คุณหนู ท่านช่วงนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องการทำธุรกิจ ฮูหยินรองฮูหยินสามก็เข้ามาหาท่านผู้เฒ่าอยู่ตลอด บอกว่าส่งร้านให้พวกนางดูแลเถอะ แล้วทุกปีจะแบ่งเงินส่งมาให้"ประหยัดคนแก่ป่วยกระเสาะกระแสอย่างท่านผู้เฒ่าไปคน แล้วก็ยังมีสาวน้อยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างฟู่จาวหนิงอีกคน ทำเอาร้านพังป่นปี้ไปจนหมดแล้ว"ท่านผู้เฒ่านำสัญญาของร้านส่งเป็นสินสอดให้คุณหนูแล้ว วันนั้นคุณหนูก็กอดอยู่บนเกี้ยวนี่ คุณหนูไม่รู้หรือ?"เสี่ยวเถามองฟู่จาวหนิงอย่างประหลาดกล่องสินสอด?ในหัวสมองฟู่จาวหนิงเหมือนมีภาพหลายภาพแล่นปรากฎขึ้น แต่ว่าหัวของนางก็เจ็บปวดขึ้นมานางตอนนี้เพิ่งคิดออกถึงปัญหาหนึ่ง คุณหนูฟู่ออกจากบ้านวันนั้น ขึ้นเกี้ยว แล้วตายในเกี้ยวอย่างไรกัน ความทรงจำสั้นๆ ช่วงนี้เหมือนจะไม่มีอยู่เลยความทรงจำสุดท้าย ก็คือนางนั่งอยู่หน้าโต๊ะแต่งหน้าในห้องนี้ หยิบผ้าคลุมแดงลงมาคลุมด้วยตนเอง จากนั้นหลังจากที่ตื่นมา นางก็ข้ามมิติมาแล้ว"ข้าวันนั้นออกไปขึ้นเกี้ยวด้วยตนเองเลยหรือ" ฟู่จาวห
"เจ้าค่ะ" ป้าจงก้มหน้าท้องของนางกับเสี่ยวเถาก็ร้องขึ้นมาพร้อมกัน"พวกเจ้ายังไม่กินข้าวหรือ?" ฟู่จาวหนิงสีหน้าเย็นชาลงถ้าหากนางไม่กลับมา คนใช้บ้านตระกูลฟู่เหล่านี้ ไม่หิวตายกันหมดแล้วหรือ?"คุณหนู พวกเรากินกันแล้ว" เสียงของเสี่ยวเถาต่ำลงมาพวกเขากินกันแล้ว แต่พวกเขาก็แค่กินข้าวต้มจางๆ กับผักดองนิดหน่อย ไม่ได้อิ่มอะไรเลย ดังนั้นผ่านไปแค่ชั่วยามเดียวพวกนางก็หิวขึ้นมาอีก"ไป ไปข้างหน้ากัน!"ฟู่จาวหนิงโมโหกระฟัดกระเฟียดเดินออกประตูไป พอกำลังจะเดินไปยังบ้านสองกับบ้านสาม เตรียมไปหาฟู่เจียวเจียวกับฟู่เป่าเจิน ลุงจงก็เดินเข้ามา ด้านหลังมีจงเจี้ยนติดตามอยู่บนตัวจงเจี้ยนแบกของอยู่ไม่น้อย เพราะว่าไม่มีอะไรจะใส่ ดังนั้นจึงใช้เถาวัลย์กับเชือกฟางสานขึ้นมา เขาแบกมากองใหญ่ สองมือก็ถืออยู่ไม่น้อยเลย"คุณหนู เขาบอกว่ามาหาท่านน่ะ"ลุงจงตาขวางเล็กๆ เพราะบนตัวจงเจี้ยนนอกจากแบกหญ้าอยู่กองหนึ่งแล้ว ยังมีไก่ป่ากระต่ายป่า แล้วยังมีตะกร้าที่ถักจากหญ้า ด้านในใส่ไข่ไก่ป่าไว้เต็มฟู่จาวหนิงเห็นของเหล่านี้ก็เพิ่งคิดขึ้นมาได้"เจ้าทำไมกลับมาช้าเหลือเกิน?"นางคิดว่าจงเจี้ยนเมื่อวานก็กลับมาแล้วเสียอีก แ
"สถานการณ์ของผู้เฒ่าฟู่ไม่ค่อยดีนัก คุณหนูฟู่ ไม่สิ พระชายานางอาจจะวางใจไม่ลงกระมัง"จงเจี้ยนพูดแทนฟู่จาวหนิงด้วยสัญชาตญาณ "ตอนอยู่ที่เขาจันทร์ลับฟ้า พระชายาหาวัตถุดิบยามาหลายชนิด นางบอกว่าสิ่งเหล่านั้นผู้เฒ่าฟู่จะได้ใช้ แต่ร่างกายท่านผู้เฒ่าร่างกายยังต้องทนต่อผลกระทบของยาให้ได้เสียก่อน จึงจะถือว่าผ่านด่านที่ยาก จากนั้นก็ค่อยๆ ชุบเลี้ยงเอา"อ๋องเจวี้ยนมองเขา "นางอยู่ในภูเขาแต่ก็ยังคุยกับเจ้าเสียมากมายเลยหรือ?"""เรียนท่านอ๋อง ไม่ได้คุยกันมากเท่าไรนัก เพียงแต่ข้าน้อยถามมากไปหน่อย พระชายาเองบางครั้งก็ตอบข้าอย่างไม่มีทางเลือกอ๋องเจวี้ยนหมุนตัว "ไปจัดการตัวเองแล้วมาหาข้าที่ห้องหนังสือ"เขาอยากจะฟังเสียหน่อยว่าหลายวันนี้ฟู่จาวหนิงหาวัตถุดิบยามาได้มากเท่าไร แล้วทำอะไรไปจงเจี้ยนถึงได้หันมาพูดแทนนางแล้ว"ขอรับ"จงเจี้ยนรีบจัดการตนเอง สามวันไม่ได้อาบน้ำในภูเขา เขาแทบจะรับตัวเองไม่ไหวแล้วพอเขาจัดการตัวเองเสร็จ ตอนที่ตามอ๋องเจวี้ยนเข้าไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นบนภูเขา ในวังก็ส่งคนเข้ามาแล้วหมอหลวงเฉินกับซุนมามาเดินเข้ามาในจวนอ๋องเจวี้ยนผู้ดูแลจงตอนเห็นพวกเขาก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาก่อนที
"รีบไปบอกท่านอ๋องเร็ว"อ๋องเจวี้ยนพอได้ยินเรื่องนี้ ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง "ให้นางไปเถอะ ข้าก็จะดูเสียหน่อย ว่าฟู่จาวหนิงจะรับมือยายเฒ่าที่มีนิสัยแปลกประหลาดเคร่งกฏและทื่อๆ จากในวังได้หรือไม่""ท่านอ๋อง ได้ยินมาว่า นักบุญหญิงจากเผ่าโม๋ลั่วเดินทางมาถึงเมืองหลวงแคว้นเจาแล้ว!" มีทหารลับรีบเดินตรงเข้ามา "นักบุญหญิงในเมื่อเข้ามาแล้ว จะต้องนำไหมใจโลหิตติดมาด้วยแน่นอน"พอได้ยินข่าวนี้ สีหน้าของอ๋องเจวี้ยนก็ผ่อนคลายลงมา เขาเคาะนิ้ว "ไหมใจโลหิต!"หากจะนำพิษที่ค้างอยู่ในตัวเขาออกมา รวมถึงในตัวยาที่รักษาอาการของเขามาหลายปีนี้ ไหมใจโลหิตคือหนึ่งในวัตถุดิบยาด้านในพวกเขาหาข่าวมาหลายปี จึงได้ยินว่าใต้หล้านี้มีชนเผ่าที่เร้นกายต่อโลกที่ชื่อว่าเผ่าโม๋ลั่ว ในเผ่าทุกๆ สิบปีจะเลือกนักบุญหญิงออกมาคนหนึ่ง นักบุญหญิงสามารถค้นหาไหมใจโลหิตได้ และเป็นหญิงสาวที่สามารถชุบเลี้ยงไหมใจโลหิตได้หลังจากชุบเลี้ยงไหมใจโลหิตก็จะถูกนักบุญหญิงพาติดตัวไปด้วย แต่ว่าคนของเผ่าโม๋ลั่วก็ออกจากเขาน้อยครั้งมาก นักบุญหญิงเองก็ตัวตนฐานะสูงส่งจนไม่ค่อยออกมาง่ายๆครั้งนี้กลับมาเมืองหลวง ก็เพราะได้รับข้อมูลมาว่า พิธีเดิมพันโอสถครั้ง