"รีบไปบอกท่านอ๋องเร็ว"อ๋องเจวี้ยนพอได้ยินเรื่องนี้ ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง "ให้นางไปเถอะ ข้าก็จะดูเสียหน่อย ว่าฟู่จาวหนิงจะรับมือยายเฒ่าที่มีนิสัยแปลกประหลาดเคร่งกฏและทื่อๆ จากในวังได้หรือไม่""ท่านอ๋อง ได้ยินมาว่า นักบุญหญิงจากเผ่าโม๋ลั่วเดินทางมาถึงเมืองหลวงแคว้นเจาแล้ว!" มีทหารลับรีบเดินตรงเข้ามา "นักบุญหญิงในเมื่อเข้ามาแล้ว จะต้องนำไหมใจโลหิตติดมาด้วยแน่นอน"พอได้ยินข่าวนี้ สีหน้าของอ๋องเจวี้ยนก็ผ่อนคลายลงมา เขาเคาะนิ้ว "ไหมใจโลหิต!"หากจะนำพิษที่ค้างอยู่ในตัวเขาออกมา รวมถึงในตัวยาที่รักษาอาการของเขามาหลายปีนี้ ไหมใจโลหิตคือหนึ่งในวัตถุดิบยาด้านในพวกเขาหาข่าวมาหลายปี จึงได้ยินว่าใต้หล้านี้มีชนเผ่าที่เร้นกายต่อโลกที่ชื่อว่าเผ่าโม๋ลั่ว ในเผ่าทุกๆ สิบปีจะเลือกนักบุญหญิงออกมาคนหนึ่ง นักบุญหญิงสามารถค้นหาไหมใจโลหิตได้ และเป็นหญิงสาวที่สามารถชุบเลี้ยงไหมใจโลหิตได้หลังจากชุบเลี้ยงไหมใจโลหิตก็จะถูกนักบุญหญิงพาติดตัวไปด้วย แต่ว่าคนของเผ่าโม๋ลั่วก็ออกจากเขาน้อยครั้งมาก นักบุญหญิงเองก็ตัวตนฐานะสูงส่งจนไม่ค่อยออกมาง่ายๆครั้งนี้กลับมาเมืองหลวง ก็เพราะได้รับข้อมูลมาว่า พิธีเดิมพันโอสถครั้ง
และพอดีว่ามีลมพัดเข้ามาจากทางฟู่จาวหนิงพอดีไห่ฉางจวิ้นจมูกฟุดฟิด ดวงตาเป็นประกาย จ้องเขม็งไปทางฟู่จาวหนิง"นางคือใครหรือ?"น้ำเสียงนางดูตื่นเต้นเล็กน้อยฮูหยินสามฟู่พอเห็นฟู่จาวหนิงก็ตะลึงงันไป ก่อนหน้านี้ได้ยินพี่สะใภ้รองบอกว่าฟู่จาวหนิงเหมือนเปลี่ยนไปเป็นอีกคน ดุร้ายขึ้นมา หลายวันนี้เพื่อรอไห่ฉางจวิ้น นางก็ไม่คิดจะปะทะกับฟู่จาวหนิง คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะมาเจอกันที่นี่"นางคือฟู่จาวหนิง เป็นหลานสาวคนโตของท่านผู้เฒ่าของตระกูลฟู่เรา" ฮูหยินสามฟู่พอเห้นท่าทางของฟู่จาวหนิงก็รู้สึกลางไม่ค่อยดี "ฉางจวิ้น พวกเราเดินทางอื่นเถิด จาวหนิงนางนิสัยไม่ค่อยดีนัก""ไม่ บนตัวนางมีกลิ่นของวัตถุดิบยาที่ข้าต้องการอยู่!"ไห่ฉางจวิ้นกลับรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาฟู่จาวหนิง"ฟู่จาวหนิง!""ใครน่ะเจ้า?"ในความทรงจำฟู่จาวหนิงไม่มีคนนี้อยู่ แต่หญิงสาวที่แต่งตัวชุดกระโปรงดำคนหนึ่งจู่ๆ ก็เรียกชื่อนางขึ้นมา สายตาที่มองนางเปล่งประกาย นางก็รู้สึกขนลุกเล็กๆคนผู้นี้โผล่มาจากไหนกันนะ?"ข้าชื่อว่าไห่ฉางจวิ้น บนตัวเจ้ามีกลิ่นของบุปผาล้างราตรีอยู่ เจ้ามีบุปผาล้างราตรีอยู่ใช่หรือไม่?" ไห่ฉางจวิ้นเองก็ตรงไปตรงมา
"นี่ก็จะเอาแต่บังคับซื้อบังคับขายหรือ?" ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้ว "ข้าบอกว่าไม่มี พวกท่านฟังไม่ออกหรือไรกัน?""ข้าจะให้เจ้าหนึ่งพันตำลึง!" ไห่ฉางจวิ้นเอ่ยขึ้นกะทันหันดวงตาฮูหยินสามถลึงกลมโตขึ้นมาหนึ่งพันตำลึง?นั่นมันดอกไม้อะไรกัน มุลค่าตั้งหนึ่งพันตำลึง? นางเองก็หวั่นไหวขึ้นมาแล้ว!"จาวหนิง หนึ่งพันตำลึงนะ ท่านผู้เฒ่าไม่ใช่ต้องหาหมอต้องซื้อยาหรอกหรือ? เจ้ารับหนึ่งพันตำลึงมาไม่ดีหรือไร? รีบเอาดอกไม้นั่นให้ฉางจวิ้นเถอะ" ฮูหยินสามรีบเอ่ยขึ้น"ไม่มี ต่อให้เจ้าจะให้หมื่นตำลึงวันนี้ข้าก็ไม่มี" ฟู่จาวหนิงหมุนตัวจะเดินไป ฟู่เป่าเจินกับฟู่เจียวเจียวจะต้องคิดหลบหน้าช่วงนี้แน่ แอบหนีไปแล้วแต่ของเหล่านั้นพวกนางคงไม่มีทางใช้หมดในเวลาสั้นแๆ แน่ นางยังรอได้"เจ้ารอก่อน"ไห่ฉางจวิ้นไล่ตามฟู่จาวหนิงทันทีบุปผาล้างราตรีนางจะต้องได้ไป! คุณสมบัติร่างกายของนางไม่ใช่ปกติ คุณสมบัติร่างกายเช่นนี้สามารถดึงดูดไหมใจโลหิตได้ ชุบเลี้ยงไหมใจโลหิตได้ แต่ว่า ตอนที่ให้กำเนิดทายาทก็จะเลือดออกมากจนหัวใจหยุดเต้นได้ง่ายมีแค่บุปผาล้างราตรีเท่านั้นที่สามารถทำให้นางให้กำเนิดทายาทข้ามพ้นอันตรายนี้ไปได้นักบุญหญิงทุก
เสี่ยวเถาตอนนี้เพิ่งพบว่าบนหน้าของฟู่จาวหนิงมีรอยสีเขียวคล้ำอยุ่ปื้นหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นคุณหนูบอกว่าจะไปสกัดยา จึงจงใจเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าชุดเก่าก่อนหน้านี้เสื้อผ้าเก่าชุดนี้คุณหนูก่อนหน้าสวมไปหายาที่ตีนเขา ดังนั้นจึงเลี่ยงการมีรอยเปื้อนที่ล้างไม่ออกไม่ได้ และบางจุดที่ถูกเกี่ยวจนขาดก็เย็บปะเอาไว้ฟู่จาวหนิงตอนอยู่ในบ้านไม่ค่อยใส่ใจเรื่องการแต่งกายนัก ตอนนี้กลับทำให้ซุนมามาเข้าใจผิดเสียแล้วฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็เพิ่งขบคิดขึ้นได้ ว่าประโยคที่ซุนมามาพูดไว้หมายถึงอะไรนางจู่ๆ ก็รู้สึกน่าขัน"ได้ยินว่าซุนมามาเป็นคนข้างกายฮองเฮาเช่นนั้นหรือ" ฟู่จาวหนิงถามกลับซุนมามาเลิกหนังตาใส่นาง "ถูกต้อง""ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นมามาอบรมมารยาทด้วย สั่งสอนพวกองค์หญิงท่านหญิงต่างๆ ด้วยสินะ?""นั่นแน่นอน"ซุนมามาตอนที่พูดสามคำนี้ก็ยืดหลังตรงขึ้นมา สีหน้าหยิ่งทะนง นางไม่ใช่มามาธรรมดานะ! กระทั่งองค์หญิงเหล่านั้นเองพอเข้าวังก็ยังต้องมีนางคอยเสี้ยมสอน"เมื่อเป็นเช่นนี้ สายตาของซุนมามาก็น่าจะร้ายกาจถึงจะถูก แต่นี่ข้าทำไมถึงรู้สึกว่าท่านเหมือนจะตาบอดกันนะ?" ฟู่จาวหนิงเม้มปากยิ้มเอ่ยขึ้นในใจนางมีไฟโทสะอยู่
อ๋องเจวี้ยนมาเองแล้ว นางยังจะกล้าพูดอะไรได้อีกกัน?"ได้ ข้าน้อยจะกลับเดี๋ยวนี้แล้ว ขอให้อ๋องเจวี้ยนและพระชายาโปรดให้อภัยข้าน้อยครั้งนี้ด้วย ข้าน้องกลับไปอธิบายกับฮองเฮาก็พอ อ๋องเจวี้ยนโปรดอย่าส่งคนเข้าไปอธิบายในวังเลย"ซุนมามาตอนนี้ทั้งโกรธทั้งกลัวหลังจากกลับไปถ้าฮองเฮารู้ว่านางเพิ่งจะมา พอเจอหน้ากับฟู่จาวหนิงก็ถูกไล่กลับไปแล้ว จะต้องโกรธกริ้วอย่างแน่นอน"ซุนมามากำลังสอนงานข้ากับอ๋องเจวี้ยนหรือ?"สายตาฟู่จาวหนิงตอนนี้เพิ่งจะย้ายออกมาจากตัวอ๋องเจวี้ยนนางเองก็รู้สึกตกตะลึงมาก คิดไม่ถึงว่าอ๋องเจวี้ยนจะมาที่บ้านตระกูลฟู่ด้วยตนเอง พอมองพวกฮูหยินสามฟู่อีกครั้ง แต่ละคนล้วนถลึงตามองเขา ตะลึงงันไปนานแล้ว"ข้าน้อยมิกล้า!""ไสหัวไป" อ๋องเจวี้ยนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบซุนมามาจึงงุดหน้าออกไปเช่นนี้ ตอนเข้ามาวางก้ามเต็มประดา ขากลับอย่างกับเป็นไก่ที่สู้แพ้อย่างไรอย่างนั้น ก้มหน้าลงหดหู่ฮูหยินสามฟู่ตอนนี้ก็ตกตะลึงต่อการเปลี่ยนแปลงของฟู่จาวหนิงนางตอนนี้เชื่อคำพูดของสะใภ้รองแล้ว! ฟู่จาวหนิงเปลี่ยนไปแล้วจริงๆแต่ว่าเขาเองก็ตกตะลึงกับอ๋องเจวี้ยนด้วยเช่นกันนี่คืออ๋องเจวี้ยนสินะ!หางตานางกวาดม
อ๋องเจวี้ยนมองไปทางฟู่จาวหนิง "พรุ่งนี้ให้ข้ากับพระชายาพาแม่นางไปเป็นแขกที่จวนอ๋องเจวี้ยนได้อยู่ พระชายาว่าอย่างไรล่ะ?"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว"พรุ่งนี้ข้ายังกลับไม่ได้ ท่านออกมาคุยกับข้าหน่อย"ฟู่จาวหนิงตอนนี้เพิ่งคิดออกว่าควรจะคุยกับเขาเสียหน่อยเกี่ยวกับแผนการหลังจากนี้"นี่ เดี๋ยวก่อน!"ไห่ฉางจวิ้นเรียกพวกนาง "พวกท่านเป็นสามีภรรยากันหรือ?"เสี่ยวเถาในที่สุดก็สบโอกาส อยู่เบื้องหน้าอ๋องเจวี้ยนนางแม้จะกลัวอยู่บ้าง แต่ก็ยังตะโกนออกมาทันที "นี่คืออ๋องเจวี้ยน เป็นพระสวามีของคุณหนูพวกเรา!"ดังนั้น หญิงสาวหน้าไม่อายอย่างเจ้าก็สมควรจะไสหัวไปได้แล้วไหม?วงจรสมองของไห่ฉางจวิ้นกลับไม่เหมือนคนธรรมดา นางพูดกับอ๋องเจวี้ยนอย่างดีใจว่า "เช่นนั้นช่วยพูดกับนางให้หน่อยได้ไหม ว่ามอบบุปผาล้างราตรีให้ข้าได้หรือไม่? ข้าต้องการบุปผาล้างราตรีจริง!"บุปผาล้างราตรี?อ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิง ในใจก็ตกใจขึ้นมาเหมือนกัน นางมีบุปผาล้างราตรีด้วยหรือ?"ข้าไม่มีทางดมผิด บนตัวนางมีกลิ่นของบุปผาล้างราตรีอยู่จริงๆ" ไห่ฉางจวิ้นเอ่ยกับอ๋องเจวี้ยนอย่างตั้งใจอ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงไม่สนใจไห่ฉางจวิ้น หมุ
"เจ้าไปพบในเขาจันทร์ลับฟ้าหรือ? ข้าไม่ได้หมายความว่าจะแย่งมาจากตัวของเจ้า เพียงแค่ถามว่าเจ้าหามาจากที่ไหนเท่านั้น ข้าจะได้ส่งคนออกไปหา"อ๋องเจวี้ยนในใจกลัดกลุ้มขึ้นมาเขาอันที่คือความหมายนี้ ไม่คิดจะไปแย่งชิงบุปผาล้างราตรีของนางเลย แต่ถ้าหากนางบอกได้ว่าหามาจากที่ใด เช่นนั้นเขาจะได้ส่งคนออกไปค้นหา"ท่านถามจงเจี้ยนก็แล้วกัน"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่อยากยอมรับ ถึงอย่างไรนางเมื่อครู่ก็ยืนกรานไปแล้วว่าไม่มีของสิ่งนี้ ตอนนี้ถ้ามายอมรับ ใครจะรู้ว่าเขาคิดจะหลอกให้นางพูดความจริงหรือเปล่า?อาการป่วยของท่านปู่ต้องการบุปผาล้างราตรี ใครต้องการนางก็ไม่มีทางให้ทั้งนั้นอ๋องเจวี้ยนแอบกัดฟัน"เจ้าไม่กลับเรือนอ๋องหรือ?"ท่าทีของนางดูแล้วคงไม่ยอมรับแน่ อ๋องเจวี้ยนจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไป"นี่คือสิ่งที่ข้าอยากจะหารือกับท่าน"ฟู่จาวหนิงมองเขา "อันที่จริงท่านเดิมทีก็ต้องการแต่งงาน ต้องการพระชายาคนหนึ่ง ตอนนี้ข้าเองก็ผ่านการทดสอบแล้ว ถือว่าช่วยเหลือท่านจบไปเรื่องหนึ่ง ถัดจากนี้ข้ายังอยากอยู่ในบ้านตระกูลฟู่ ท่านปู่ต้องการข้า""พระชายาอ๋องเจวี้ยนไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่ในบ้านของนางตลอด ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าคนที
"ครั้งนั้นเองก็ไม่มีหลักฐาน แต่ข้าถามคนในที่เกิดเหตุเมื่อครั้งนั้น ทุกคนล้วนพูดว่าฟู่หลินซื่อเองครั้งนั้นก็ไม่อาจอธิบายได้ สติกระเจิดกระเจิงกระวนกระวาย และไม่มีการแก้ต่างให้ตนเอง"อ๋องเจวี้ยนมองนาง "ยิ่งไปกว่านั้น ผ่านไปไม่นาน บิดามารดาของเจ้าก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย""หายตัวไป?"ฟู่จาวหนิงนิ่งอึ้งไปอีกบิดามารดานางหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย?ในในความทรงจำ ไม่ว่าใครก็ตามล้วนพูดว่าบิดามารดานางตายไปแล้ว ท่านผู้เฒ่าฟู่เองก้ไม่เคยพูดถึงบิดามารดาของนางเลย ในความทรงจำของคุณหนูฟู่ นางไม่มีบิดามารดาและฝากชีวิตอยู่กับท่านปู่"ดูท่า เจ้าคงจะไม่รู้อะไรเลยจริงๆ" อ๋องเจวี้ยนคอยสังเกตสีหน้านางตลอด เห็นนางเป็นเช่นนี้ก็รู้ว่านางไม่รู้เรื่องในครั้งนั้น ไม่รู้เรื่องบิดามารดาของนางเลย"ครั้งนั้นหลังจากที่ข้าเกิดเรื่อง ฟู่หลินซื่อก็ถุกขังตัวไว้ชั่วคราว ต่อมาบิดาของเจ้าก็ใช้เงินเข้ามาสำรวจตัวนาง และวันนั้นทั้งสองคนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ที่น่าตลกก็คือ ครั้งนั้นพวกเขาที่มีคุณสมบัติเข้าวังได้ ก็เพราะตอนที่ท่านพ่อพาเหล่าพระโอรสแล้วเกิดเรื่องขึ้น พ่อกับแม่ของนางช่วยพวกเขาไว้"เรื่องนี้คุณหนูฟู่รู้อยู่เพียงห