เซียวหลันยวนเปียกโชกไปทั้งตัว เสื้อผ้าหน้าผมเต็มไปด้วยน้ำ ทำเอาฟู่จาวหนิงเห็นแล้วต้องขมวดคิ้วขึ้นมา"แล้วข้าจะหาเสื้อผ้าจากไหนมาเปลี่ยนให้ท่านกัน?""อืม เช่นนั้นให้ข้ากลับจวนอ๋องอย่างนี้หรือ?" เซียวหลันยวนที่เปียกโชกไปทั้งตัวมองนาง ใบหน้าแดงแจ๋ สายตาร้อนผะผ่าว แผลเป็นพิษนั่นก็ดูเข้มลึกขึ้นมาก ดูแล้วงดงามอย่างประหลาดฟู่จาวหนิงกัดฟันเขาจงใจสินะ จงใจแน่!สภาพแบบนี้จะออกไปยังไงกัน?นางรีบออกไปหอบผ้าคลุมเข้ามา จากนั้นก็โยนผ้าแห้งให้เขาผืนหนึ่ง "ท่านถอดเสื้อเปียกออกเลย แล้วก็เช็ดผมให้แห้งเสีย ข้าจะไปหาเสื้อผ้าให้ท่าน!"พอเห็นร่างที่หมุนตัวพุ่งออกไปของนาง เซียวหลันยวนนิ้วจรดบนพริมฝีปาก ไอขึ้นมา"แค่กๆๆ..."เขาไออย่างรุนแรงฟู่จาวหนิงไปหาเสื้อผ้ามาชุดหนึ่ง เดิมทีเตรียมไว้ให้คนคุ้มครองเรือน เศรษฐีฟางเพิ่งหามาให้นางสองคน ที่เหลือยังไม่เข้ามา แต่นางก็ให้ป้าจงเตรียมเสื้อผ้าที่เหมือนกันไว้ให้แล้วเดิมทีคนคุ้มครองเรือนที่เลือกมาล้วนมีร่างสูงใหญ่กำยำ ดังนั้นเสื้อผ้าเองก็ถือว่าเหมาะสมอยู่ตอนที่กลับมา เซียวหลันยวนเช็ดผมแห้งไปกว่าครึ่งแล้ว หอตัวอยู่ในผ้าคลุมพิงแคร่นิ่มในห้องนาง ผิวหนังยัง
"แค่กๆๆ" เซียวหลันยวนไอออกมาอีกชุดหนึ่ง เงยหน้ามองนาง สนิทกันได้ขนาดนี้แล้ว ยังจะหย่าอีกหรือ?"นอนลงไป" เซียวหลันยวนถูกดวงตาที่ไฟลุกมองจนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง จะให้เขานอนลงในทันทีเซียวหลันยวนไอนอนลงไปบนแคร่นิ่ม ผ้าคลุมถูกนางดึงลงไปที่เอวพอเห็นเอวของเขา ใบหน้าของนางก็ร้อนผ่าว หยิบเข็มออกมาปักลงไปฉึกๆๆ"ก่อนหน้านี้ตอนท่านไปหอจันทร์หยาดไม่ใช่ว่าระมัดระวังตัวอยู่หรอกหรือ? สามารถสัมผัสได้ว่ามียา แล้วครั้งนี้ไปห้องนอนซ่งอวิ๋นเหยาทำไมจึงสังเกตไม่เห็น? เชื่อใจนางขนาดนี้เชียว?"เรื่องที่ไปห้องนอนซ่งอวิ๋นเหยาทำไมจึงไม่ปล่อยผ่านไปเสียที?เซียวหลันยงยแอบถอนใจเขาเสียใจขึ้นมาผิดไปแล้วจริงๆ จะมีข้อมูลอะไร เขาจะหาโอกาสอื่นเพื่อไปฟังไม่ได้เลยหรือ? แค่คิดจะไปดูห้องนอนหญิงสาวว่าเป็นอย่างที่จินตนาการไว้ไหม รอตอนกลางวันที่ซ่งอวิ๋นเหยาไม่อยู่แล้วเข้าไปดูไม่ได้หรือไร?"ข้าไม่รอบคอบเอง ตอนนั้นข้ายืนอยู่ข้างหน้าต่างแล้ว"พูดถึงตอนนี้ เขาจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่าหน้าต่างของซ่งอวิ๋นเหยาไม่ใช่ว่าวางอะไรอยู่หรือ?"นางคิดจะเล่นงานข้า"เซียวหลันยวนกัดฟัน ซ่งอวิ๋นเหยา ดีมาก ดีจริงๆ"เมื่อเป็นเช่นนี้ นา
"ท่านยังไม่หลับหรือ ปล่อยให้ข้าพูดอยู่ได้ตั้งนาน อ๊ะ!"ฟู่จาวหนิงรู้สึกฟ้าหมุนติ้วถูกเซียวหลันยวนดึงพลิกลงมากดอยู่บนแคร่นิ่ม"เด็กผุ้หญิงคนนี้คือเจ้าหรือ?"เสียงของเขาแหบพร่าจนผิดปกติ"ข้าเอง แต่ว่าตอนนั้นตาของท่านไม่ใช่ว่าบาดเจ็บหรอกหรือ? ข้ายังใช้แขนเสื้อช่วยเช็ดเลือดให้ท่านอยู่เลย ในถ้ำภูเขามืดมาก ตาของท่านก็ลืมไม่ขึ้นมองไม่เห็นข้าเหมือนกัน ข้าตอนนั้นยังเห็นหน้าของท่านชัดเจนมาก หน้าของท่านเต็มไปด้วยเลือด แล้วก็โคลน สกปรกสุดๆ"ฟู่จาวหนิงพูดรายละเอียดในตอนนั้นออกมา นี่ไม่จำเป็นต้องให้เขายืนยันอีกแล้ว นางนั่นเองเพราะสถานการณ์คืนนั้น นอกจากพวกเขาสองคนแล้วใครก็ล้วนไม่รู้เรื่องทั้งสิ้นต่อมาทหารของเขาหาตัวพวกเขาพบ พาเด็กสาวคนนั้นลงจากเขาไปด้วยกัน พอลงจากเขานางก็วิ่งหนีไปแล้ว"เจ้าหรือ"เซียวหลันยวนทวนสองคำนี้ขึ้นมาอีกครั้งฟู่จาวหนิงมองเขางงๆ และเห็นว่าดวงตาเขาแดงรื้น"แต่ทำไมท่านถึงคิดว่าเป็นซ่งอวิ๋นเหยาด้วยล่ะ?" นางถามอย่างงงงัน"ครึ่งปีต่อมาตอนเจอนางครั้งแรก ในมือนางมีผ้าเช็ดหน้าที่คล้านกันอยู่ผืนหนึ่ง พอตรวจสอบดูก็พบว่าวันนั้นนางเองก็ไปที่เขาลูกนั้นเช่นกัน ตระกุลซ๋งเองก็ม
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็ไม่ชอบคนที่ได้คืบจะเอาศอกอีกด้วย เขาตอบแทนบุญคุณได้ แต่ก็เกลียดที่คนอื่นใช้คำว่าบุญคุณมาต่อรองกับเขามากที่สุดฟู่จาวหนิงตอบสนองกลับมา ดวงตาเป็นประกาย "นี่ เซียวหลันยวน เช่นนั้นเมื่อครู่ข้าก็เป็นผู้มีพระคุณของท่านสิ?""อืม""เช่นนั้นก่อนหน้านี้ท่านไม่ใช่แค่ไม่ปกป้องข้า ไม่ช่วยเหลือข้า แต่ท่านยังมาช่วยคู่แค้นของข้าด้วย! ข้าจะบอกท่านไว้นะ"นางยังไม่ทันพูดจบ ปากก็ถูกปิดไปอีกครั้ง ลมหายใจถูกแย่งไปเซียวหลันยวนจูบนางอีกรอบ และดูใจเต้นแรงยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีกเป็นนางนี่เอง ก่อนหน้านี้แค่บุญคุณเล็กน้อย แค่ควบอบอุ่นเล็กๆ แต่ว่าตอนนี้เขาพบว่าตนเองไม่ใช่แค่โลภมากต่อความอบอุ่นเล็กน้อยนั่นแล้ว"เซียว""ข้าจูบพระชายาของข้า ไม่ใช่เรื่องผิดทำนองคลองธรรม"คืนนี้ ชิงอีกับชิ่งอวิ๋นเซียวอยู่ที่ด้านนอกหากันทั้งคืน จนแทบจะล้มพับอยู่แล้ว ก็ยังไม่เจออะไรตอนกลับมาจวนอ๋องช่วงฟ้าสาง เดิมทีคิดจะไปรายงานกับท่านอ๋อง กลับได้ยินผู้ดูแลบอกว่าท่านอ๋องเมื่อคืนไม่ได้กลับมาชิงอีกงงเป็นไก่ตาแตกรอจนติดต่อกับองครักษ์ลับได้ ถึงรู้ว่าท่านอ๋องพักอยู่ที่บ้านตระกูลฟู่ ปากของเขาก็อ้าออกจน
ไห่ฉางจวิ้นใช้วิชาลับควบคุมงูหลังทองออกไปหาสิ่งยืนยันของตระกูลชิ่งแล้วแต่ว่าพวกเขาคิดจะเข้ามาสำรวจเสียหน่อยว่าเมือ่วานนี้พวกเขาหาสิ่งยืนยันเจอแล้วหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังหาเหตุผลมากล่อมผู้นำตระกูลฮู่อีก ครั้งนี้เข้ามาโดยไม่ได้ปิดบังผู้นำตระกูลเลย ดังนั้นจึงไม่ลนลานเลยแม้แต่น้อยผู้ดูแลเดิมทีคิดจะอธิบายกับพวกเขาดีดี แต่ว่าน้ำเสียงของฮู่เจียไท่กับเจตนาที่มาดูแล้วไม่ค่อยถูกต้องนัก เขาจึงไม่อธิบายมันเสียเลย แค่นำชาดีดีของว่างดีดีมาต้อนรับเท่านั้น ให้พวกเขารอกันไปซ่งอวิ๋นเหยาทางนั้น หลังจากเซียวหลันยวนออกไป นางก็รอเซี่ยวจวินกลับมาตลอด แต่เซี่ยวจวินก็ไม่กลับมาทั้งคืนซ่งอวิ๋นเหยาลนลานขึ้นมาทันทีเซี่ยวจวินเดิมทีเป็นศิษย์กลุ่มสำนักที่เร้นจากโลกคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่มีวิชายุทธ์ยอดเยี่ยมด้วย ตอนที่ออกมาฝึกฝนในยุทธจักรเจอเข้ากับนาง ช่วงนางขับไล่พวกโจร และรู้สึกรักแรกพบกับนางนางใช้แผนนิดหน่อยให้เขารู้สึกถวายหัวหมดจิตหมดใจกับนาง กระทั่งก็ไม่กลับไปแล้ว ยินยอมที่จะติดตามมาอยู่ข้างกายนางเป็นองครักษ์ลับของนาง ปกติจะไม่ค่อยปรากฎตัวออกมา ถ้าหากนางมีความลับอะไรกับเรื่องสำคัญอะ
ฟู่จาวหนิงพูดพลาง ในสมองก็มีเรื่องในถังอาบน้ำเมื่อคืนนี้ผุดขึ้นมา หูก็แดงไปหมด"คุณหนู หูของท่านแดงแล้ว?" เสี่ยวเถางงงัน"อ๋า? โอ้ น่าจะอากาศเย็นน่ะ แข็งไปแล้ว แข็งไปแล้ว" ฟู่จาวหนิงไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเสี่ยวเถาที่แท้จะพูดมากขนาดนี้ "รีบไปดูในครัวเร็วว่ามีข้าวเช้าอะไรบ้าง ข้ามีเรื่องต้องไปทำ""แต่ข้าต้องเข้าไปเก็บที่นอนให้คุณหนูก่อน" เสี่ยวเถาชี้ไปที่ห้องนอนนางถ้านางเข้าไปได้เป็นเรื่องแน่?ถ้าเห็นเซียวหลันยวนนอนอยู่บนเตียงนาง แล้วความบริสุทธิ์ของนางจะยังเหลืออยู่ไหม?"ไม่ต้องไม่ต้อง เมื่อคืนนี้ข้าอยู่ในนั้นทำวัตถุดิบยา ยังทำไม่เสร็จ เจ้าอย่าเพิ่งเข้าไป จะได้ไม่ทำเละเทะข้าเก็บกวาดลำบาก""โอ้"เสี่ยวเถาเองก็ไม่คิดมาก รีบตรงไปที่ครัวฟู่จาวหนิงกัดฟัน หมุนตัว เงยหน้ามองไปทางต้นไม้ใหญ่ข้างๆ แล้วกระดิกนิ้ว"มานี่"องครักษ์ลับ: พระชายาเรียกข้าหรือ?"เรียกเจ้านั่นล่ะ ลงมานี่" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอีกแล้วก็เรียกเขาจริงๆ แต่เขาซ่อนตัวอยู่นะ อยู่ด้านล่างน่าจะมองไม่เห็นอะไรจึงจะถูก พระชายาทำไมถึงยืนยันว่าเขาซ่อนอยู่ตรงนี้?ก่อนหน้านี้ในจวนอ๋องก็เหมือนกัน แค่ครู่เดียวก็หาตัวเขาเจอเสีย
"ท่านปู่ ดูท่านพูดเข้า ต่อให้แม่ของข้าคือเสิ่นเชี่ยวจริง แต่ข้าก็ถือว่าเป็นคนตระกูลฟู่สิ จะไปเป็นคนตระกูลเสิ่นได้อย่างไรกัน?"พอได้ยินนางพูดเช่นนี้ ผู้เฒ่าฟู่จู่ๆ ก็ถอนหายใจโล่งออกมาหลังจากฝังเข็มให้เขาแล้วก็พาเฮ่อเหลียนเฟยออกมา เฮ่อเหลียนเฟยถอนหายใจ กดเสียงต่ำพูดกับนางว่า "พี่หญิง พอรู้ข่าวของท่านพ่อท่านแม่ ท่านปู่ก็ดีใจมาก แต่ว่าเขาเองก็กลัวมากเช่นกัน""กลัวอะไรหรือ?""ตอนนี้ลุงเสิ่นอยู่ในเมืองหลวงไหม? เขาเองก็เป็นคนของต้าชื่อ ท่านปู่เองก็กังวล ถ้าหากเขาเป็นลุงของพวกเราจริงๆ ก็จะพาท่านกลับต้าชื่อ ตระกูลเสิ่นคงคิดจะชิงตัวท่านกลับไปแน่"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นจึงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก"นี่คิดอะไรกันน่ะ""ท่านปู่พึ่งพาท่านมาตลอด ตระกูลฟู่ตอนนี้ก็ยังสถานการณ์เช่นนี้ เขารู้สึกว่าตนเองช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ท่านลำบากอีก พอมองกลับไปที่ตระกูลเสิ่น นั่นก็แตกต่างไปแล้ว ตระกูลเสิ่นเป็นตระกูลใหญ่ แม้ก่อนหน้านี้จะเคยถูกห้ามจากราชวงศ์ ถูกเพ่งเล็ง แต่อูฐที่ผอมจนตายก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า จะว่าอย่างไรก็ไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลฟู่ไปเทียบได้เลย"เฮ่อเหลียนเฟยส่
"คุณหนู" มีทหารรีบเดินตรงเข้ามา "คนผู้นี้ตรวจสอบตัวตนฐานะออกมาแล้ว"ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ เขามองไปทางสืออีสือซาน"เป็นเช่นนี้ เขามีวรยุทธ์สูงส่งมาก รู้สึกว่าไม่น่าใช่ทหารธรรมดา ข้างกายซ่งอวิ๋นเหยาไม่น่าเป็นไปได้ที่จะรับคนเช่นนี้เข้ามา ดังนั้นพวกเราจึงกลับไปขอคำสั่ง ให้คนของจวนอ๋องออกไปตรวจสอบแล้ว"สืออีอธิบายขึ้นมาคำหนึ่งสือซานกลับรู้สึกมึนงง "แต่ว่า ท่านอ๋องก็ไม่รู้ว่าไปที่ไหนแล้ว เดิมทีเรื่องนี้ควรจะรายงานเขาเสียก่อน"เพราะต้องใช้พลังของจวนอ๋องเข้าตรวจสอบ แล้วยังไม่ใช่เรื่องของจวนอ๋องอีกด้วยเซียวหลันยวนไปไหนแล้วพอได้ยินคำถามนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าหน้าตนเองร้อนวูบขึ้นหน่อยๆ นางพูดไม่ได้หรอกกระมังว่าเมื่อวานนี้เซียวหลันยวนนอนอยู่บนเตียงของนาง?แต่ว่าตอนนี้เขาควรจะไปได้แล้วสิถึงจะถูก"แฮ่ม" นางกระแอมขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ ถามว่า "แล้วตัวตนฐานะของคนผู้นั้นล่ะ?""เขาชื่อเซี่ยวจวิน เป็นศิษย์ใหญ่ลำดับต้นๆ ของสำนักชิงเฉิง พรสวรรค์สูงส่ง เคยสำแดงเดชมาแล้วในการประลองกับกลุ่มสำนักต่างๆ ที่ต้าชื่อทางนั้นมีหญิงสาวไม่น้อยที่อยากจะออกเรือนกับเขา""เก่งเสียเหลือเกิน แล้วยังเป็นค
พอเห็นสีหน้าเฉินฮ่าวปิง ใจของต่งฮ่วนจือก็เย็นลงมาทันทีทั้งที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟู่จาวหนิงแล้วแท้ๆ แต่ว่าตอนนี้ เฉินฮ่าวปิงก็ยังใช้ประโยชน์จากเขา คิดจะให้เขาขัดขวางศิษย์น้องหญิงต่อให้เป็นเรื่องที่เหลวไหลแบบนี้ นางก็ยังพูดออกมาโดยไม่หนักใจ แล้วขอให้เขาทำตามสิ่งที่นางต้องการต่งฮ่วนจือมองไปทางฮูหยินเฉิน เขายังดูคาดหวังอยู่ถึงอย่างไรฮูหยินเฉินก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว น่าจะรู้จักขอบเขตบ้างกระมัง?"เจ้าเองก็คิดแบบนี้หรือ? จะให้ข้าเก็บวัตถุดิบยาไว้จนกว่าฮ่าวปิงจะรวมเงินได้?"ฟังเอาเถอะ เขาพูดซ้ำออกมาอีกรอบหนึ่งก็ยังรู้สึว่าเป็นเรื่องไร้สาระเลยฮูหยินเฉินขมวดคิ้ว มองนางด้วยสายตาเศร้าๆแต่ก่อนพอเห็นสีหน้าเช่นนี้ของนาง ต่งฮ่วนจือก็จะรู้สึกปวดใจ อยากจะปกป้องนางขึ้นมา เขารู้ ว่านางเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง มีลูกสาวติดหนึ่งคน คอยหนีคนตามล่าอยู่ตลอด มันลำบากแค่ไหนถ้าหากเป็นไปได้ เขาเองก็อยากจะยืนบังลมบังฝนให้นาง เพราะแรกสุดเขารู้สึกชื่นชมนาง ชื่นชมความแข็งแกร่งและความรักของแม่จากตัวนางแต่สีหน้าต่อตัวเขาของฮูหยินเฉินตอนนี้ ต่งฮ่วนจือจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า อ๋องฉยงถึงอย่างไรก็หาพวกนางเจอแ
เฉินฮ่าวปิงมองต่งฮ่วนจือนางสามารถใช้วัตถุดิบยาของพันธมิตรโอสถทำการกุศลต่อได้ และยังพังแผนการของฟู่จาวหนิงได้อีก ทำให้นางไม่ได้รับวัตถุดิบยาหลังจากเฉินฮ่าวปิงกลับมาพูดเรื่องวันนี้กับฮูหยินเฉิน ฮูหยินเฉินโกรธมากดังนั้นนางจึงคิดวิธีนี้ออกมา รู้สึกว่าพวกนางตอนนี้รับมือฟู่จาวหนิงไม่ไหว แต่ถ้าลงแรงกับต่งฮ่วนจือทางนี้สักหน่อย สร้างความลำบากให้กับฟู่จาวหนิงได้บ้างก็ยังดีมีสิทธิ์อะไรที่จะยอมให้ฟู่จาวหนิงทำทุกอย่างได้ราบรื่นขนาดนั้น?ต่งฮ่วนจือถ้าหากขัดฟู่จาวหนิงได้ ไม่ใช่แค่ฟู่จาวหนิงจะไม่ชอบใจ แต่ผู้อาวุโสจี้ก็จะโกรธด้วย ถ้าผู้อาวุโสจี้โกรธ ฟู่จาวหนิงก็จะอารมณ์ไม่ดีดังนั้น ขอแค่กล่อมต่งฮ่วนจือ ก็จะทำได้ฟู่จาวหนิงอึดอัดได้ ดีจะตาย?ดังนั้น จึงได้เห็นเฉินฮ่าวปิงที่มาแสดงความอ่อนแอออดอ้อนต่งฮ่วนจือในตอนนี้นางรู้สึกว่า ความรักทีต่งฮ่วนจือมีให้นาง เรื่องนี้ไม่ใช่จะทำไม่สำเร็จแต่ตอนได้ยินคำพูดของนาง ต่งฮ่วนจือก็งงงันไปครู่หนึ่ง"ลุงต่ง..." เฉินฮ่าวปิงดึงแขนเสื้อของเขา "ได้ไหม?"ต่งฮ่วนจือดึงแขนเสื้อในมือนางกลับมา"เรื่องนี้ไม่ได้""ทำไมล่ะ?""อันดับแรก วัตถุดิบยาที่เจ้าคิดจะเอาไ
หลายปีก่อนที่เขาช่วยพวกนางแม่ลูกไว้ เฉินฮ่าวปิงยังเป็นเด็กสาวร่างผ่อนอ่อนแอ หลายปีนี้ยังถือว่าเขาเลี้ยงดูมาจนโต เขาแทบจะมองเฉินฮ่าวปิงเป็นลูกสาวตนเองไปแล้วแม้ตอนนี้นางเจอกับพ่อแท้ๆ แล้ว แต่พ่อแท้ๆ คนนั้นก็ไม่ใช่จะได้เรื่องกระมัง ต่งฮ่วนจือยังรู้สึกเป็นห่วงอยู่เขาคิดคิด ยังคิดจะไปบ้านเล็กในซอยนั่นเพื่อหาเฉินฮ่าวปิงหลายวันนี้เฉินฮ่าวปิงก็ไม่ยอมพบเขา ทุกครั้งที่เขามา คนใช้ก็จะบอกว่าท่านหญิงไม่อยู่วันนี้เขามา แต่เฉินฮ่าวปิงกลับอยู่ และยังยอมพบเขาด้วยพอเข้ามาในบ้าน มาถึงเรือนหน้า ฮูหยินเฉินก็อยู่ด้วยแม่ลูกหันมามองนางพร้อมกัน สายตาของคนทั้งคู่ล้วนแดงก่ำ ดูแล้วน่าสงสารมาก เฉินฮ่าวปิงพอเห็นเขาก็ร้องไห้โฮออกมา"ลุงต่ง!"นางพุ่งเข้ามาหาต่งฮ่วนจือ สองมือดึงแขนเสื้อเขา ร้องไห้ตัวโยน "ท่านมาได้เสียที!"ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาตั้งหลายครั้ง ก็ไม่ยอมออกมาเจอ ไม่ได้ว่าเขาไม่เคยมาเสียหน่อยแต่ต่งฮ่วนจือก็ไม่ได้พูดออกมา มองสภาพเฉินฮ่าวปิงแล้วเขาก็ยังคงปวดใจอยู่"ทำไมหรือ? เกิดอะไรขึ้น? อ๋อง อ๋องฉยงไม่ได้ช่วยเจ้าหรือ?"พอพูดถึงอ๋องฉยง เฉินฮ่าวปิงก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาเพราะวันนี้อ๋อง
ก่อนค่ำวันเดียวกันฟู่จาวหนิงให้สืออีไปเก็บตั๋วเงินพวกนี้มาแล้วกระทั่งองค์หญิงเจ็ดก็ยังไม่กล้าที่จะไม่ให้หลังจากให้สามพันตำลึงมาแล้ว คนเหล่านี้ก็ล้วนรู้สึกเหมือนเสียปราณชี่ขนานใหญ่ไป ไม่มีทั้งหน้าไม่มีทั้งเงิน แล้วยังหวาดผวา ไม่รู้หลังจากนี้จะมีเรื่องอะไรอีกถ้าเผื่อพระชายาอ๋องเจวี้ยนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนมาหาเรื่องบ้านพวกเขาอีกจะทำอย่างไร?โดยเฉพาะคุณหนูสี่หลิน หลังจากกลับมาก็ได้ยินพี่สาวคนโตกับคนรองพูดถึงเฉินฮ่าวปิง จึงได้รู้ว่าพวกนางเดิมทีก็ดูถูกท่านหญิงปิงอวี้อยู่แล้วพ่อของนางกับพี่สาวนางเองก็กำลังเดาว่าอ๋องฉยงทำไมจึงยังอยู่ในเมืองหลวง ยังพูดอีกว่า ไม่ว่าจะเพราะเรื่องอะไร การที่องค์จักรพรรดิให้อ๋องฉยงอยู่ในเมืองต่อโดยไม่สนกฏ ต้องไม่ใช่เรื่องดี พวกเขากำลังพูดว่า หลังจากนี้จะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่อ๋องฉยงอาจจะก่อความวุ่นวายอะไรขึ้น ไม่ต้องพูดถึงลูกสาวบ้านน้อยของเขาคนนั้นเลย?ในคำพูด คืออ๋องฉยงทำเรื่องไม่ถูกต้อง ลูกสาวบ้านน้อย ยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรดีดีเลย แต่ดันไปขอยศท่านหญิงมาองค์จักรพรรดิก็ยังรับปากอีก ดูจะเลอะเลือนหน่อยๆแน่นอน พวกเขาแอบคุยเรื่องน
เซียวหลันยวนพูดพลางหัวเราะเสียงต่ำฟู่จาวหนิงเองก็ตกตะลึงไป "ผู้ตรวจการอันไปคุกคามองค์จักรพรรดิหรือ?"ถ้าหากผู้ประสบภัยทะลักเข้าเมืองหลวง เมืองหลวงก็จะวุ่นวาย องค์จักรพรรดิไม่อยากจะสนใจก็คงต้องสนใจแล้วแค่โรคระบาด องค์จักรพรรดิก็ยังกลัวจนไม่ประชุมเช้า ไม่ต้องพูดเรื่องผู้ประสบภัยนับหมื่นเลย? เขาได้ตกใจจนตายกันพอดี"ก็จริงนั่นล่ะ แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริง แต่รายละเอียดด้านในที่นำไปปฏิบัติได้ก็มีเยอะมาก""แล้วองค์จักรพรรดิให้เงินบรรเทาภัยมาเท่าไร?""หนึ่งหมื่นตำลึง""ขี้เหนียว" ฟู่จาวหนิงเบ้ปากนางเองก็ยอมแล้ว ผู้ประสบภัยนับหมื่น แต่ให้เงินบรรเทาภัยมาหมื่นตำลึง? นางเค้นจากตัวพวกองค์หญิงเจ็ดยังได้มาตั้งสามหมื่นตำลึง"คลังหลวงว่างเปล่าแล้วจริงๆ""เอาเถะ พวกเราเองก็ลองไปเตรียมตัวดูก่อน ถ้าเงินไม่พอจริง ค่อยให้ผู้ตรวจการชิงกลับไปปล้นองค์จักรพรรดิอีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นถ้ายังไม่เห็นสถานการณ์เมืองเจ้อกับตา ใต้เท้าอันหากคิดจะปล้นก็ปล้นลำบาก"อันเหนียนบอกว่าสามวันนั้นรีบไปหน่อย ขอเลื่อนไปวันหนึ่ง ข้าส่งคนไปดูลาดเลาก่อน ตอนพวกเจ้าไปถึงจะมีคนรอรับอยู่"เอาของไปด้วยตั้งมากมาย ตอนไปถึงต้อง
ผู้อาวุโสจี้รู้ว่า จะเตือนไม่ให้ฟู่จาวหนิงไปเมืองเจ้อนั้นเป็นไปไม่ได้การตัดสินใจที่นางพูดออกมา ไม่มีทางเปลี่ยนยิ่งไปวก่านั้น วิชาหมอของนางเองก็ดีขนาดนี้ ไปสถานที่แบบนั้นจะต้องช่วยเหลือชีวิตได้มากมายแน่นอน ผู้อาวุโสจี้ที่ทั้งใจเต็มไปด้วยความดีงามก็ไม่กล้าที่จะห้ามปรามแต่เขาเองก็ยังเป็นห่วงฟู่จาวหนิง"เมืองเจ้อทางนั้นผู้ประสบภัยมากเกินไป จะต้องวุ่นวายแน่นอน เจ้าไปที่นั่นความปลอดภัยเป็นปัญหา ต้องระวังหน่อย แล้วอ๋องเจวี้ยนจัดแจงให้แล้วหรือยัง? เจ้าคงต้องพาองครักษ์ไปมากหน่อย"ถึงแม้ถ้าผู้ประสบภัยก่อจราจลขึ้นมา ต่อให้มีองครักษ์มากแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้ แต่พาไปหน่อยก็ยังดีกว่าไม่พาไป"เจ้ามีของแปลกๆ ตอนสกัดยาเยอะไม่ใช่หรือ? ทำยาที่เอาไว้ทำให้คนล้มวงกว้างๆ ไว้เยอะหน่อย ถ้าถึงเวลาต้องใช้จริง เจ้าก็ไม่ต้องสนอะไร สาดยาออกไปเลย รักษาตัวเองไว้ก่อนเป็นสำคัญ""ฮ่าๆ ท่านอาจารย์ สอนลูกศิษย์แบบนี้ได้เหรอ?"ฟู่จาวหนิงอดขำขึ้นมาไม่ได้ ผู้อาวุโสจี้สอนให้นางใช้ยาสลบกับผู้ประสบภัยเนี่ยนะผู้อาวุโสจี้ถลึงตา "แค่นี้จะเป็นอะไรไป? ทำอะไรก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน ความปลอดภัยของเจ้าสำคัญที่สุด!""ข้าย
"ศิษย์น้องหญิงเจ้าไปงานรับบริจาคของฮ่าวปิงมาหรือ?" ต่งฮ่วนจือเงยหน้ามองนาง"เปล่า ข้าตบนางไปฉาดหนึ่งด้วยซ้ำ"ฟู่จาวหนิงไม่ไว้หน้าเขาเลย เอาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ตั้งแต่ต้นจนจบเล่าออกมาอย่างละเอียดรอบหนึ่ง"ดังนั้น ศิษย์พี่รอง ข้าตอนนี้ข้าจะเน้นกับท่านอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เข้าไม่ถูกกับเฉินฮ่าวปิง ถ้านางยังคิดจะมาทำอะไรต่อหน้าข้าอีกจะไม่จบแค่ตบหน้าแล้ว เรื่องที่นางทำมันโง่เง่ามาก ยิ่งไปกว่นั้นนางยังโกรธแค้นแล้วมองข้าเป็ฯศัตรูอีก"ฟู่จาวหนิงกดเสียงต่ำ "ก่อนหน้านี้ศิษย์พี่เป็นอะไรกับพวกนางข้าไม่สนใจ แต่หลังจากนี้ ถ้าหากศิษย์พี่ยังยืนยันจะยืนอยู่ฝั่งนางทางนั้น ยังคิดจะปกป้องนาง เช่นนั้นข้าก็จะขีดเส้นกั้นกับศิษย์พี่แล้ว"ผู้อาวุโสจี้มองต่งฮ่วนจือหน้าขรึม"หลายปีนี้เจ้าเอาแต่ปกป้องแม่ลูกอย่างพวกนาง แล้วมองไม่ออกถึงความใจร้ายของนังเด็กนั่นเลยหรือ? หลังจากนางถูกแต่งตั้งเป็นท่านหญิงก็ไม่มาสนใจเจ้าอีก เจ้าคิดว่านางยังจำบุญคุณของเจ้าได้ไหม? เจ้าคิดว่าตนเองกับนางมีความสัมพันธ์ฉันท์ครอบครัว แต่นางก็แค่หลอกใช้เจ้า""ถึงอย่างไรคนที่โง่แบบเจ้าก็มีไม่เยอะ! ต่งฮ่วนจือ ศิษย์น้องหญิงของเจ้าพู
ฟู่จาวหนิงถอนหายใจ"ศิษย์พี่ พวกเราจะซื้อวัตถุดิบยาในราคาเดิม ไม่ต้องลดราคา แค่นี้ได้ไหม?""ถ้าอย่างนี้ก็ได้อยู่...""ต่ง ! ฮ่วน ! จือ!"ผู้อาวุโสจี้โกรธเป็นฟืนไฟแล้วจริงๆ"ท่านอาจารย์ สงบลงก่อน" ฟู่จาวหนิงรีบเดินไปอยู่ข้างๆ ผู้อาวุโสจี้ รินน้ำชาให้กับเขา "ศิษย์พี่ทำงานอย่างเข้มงวด เข้าต้องทำตามกฏการทำงานของพันธมิตรโอสถ อย่าทำให้เขาลำบากใจเลย""อาจารย์ เรื่องนี้ไม่ได้จะคุยกันลกบาก ข้าแค่ต้องใช้เวลาไปคำนวณต้นทุนของวัตถุดิบยาชนิดต่างๆ หน่อย ถึงตอนนั้นก็จะคำนวณส่วนลดลงมาได้"ต่งฮ่วนจือลุกขึ้นยืน ไม่กล้านั่งลงมา"แต่ถ้าศิษย์น้องหญิงไม่ต้องการลดต้นทุนสี่ส่วนล่ะก็ ข้าทางนี้จะหักกำไรทั้งหมดออกได้ ยิ่งไปกว่นั้น พวกเรายังสามารถบริจาควัตถุดิบยาที่ค่อนข้างพิเศษบางอย่างได้นิดหน่อยด้วย ข้าทางนี้ยังมีส่วนที่เหลืออยู่ เพราะสาขาย่อยเมืองเจ้อทางนั้นไม่มีวัตถุดิบยาชนิดนี้ ดังนั้นสิ่งนี้ข้ามอบให้ได้..."ต่งฮ่วนจือพยายามจะอธิบาย"ตัวข้าเองก็ยังบริจาคเงินช่วยได้ เงินพวกนี้เอาไปเพิ่มกับเงินที่ซื้อวัตถุดิบยาก็พอแล้ว ท่านอาจารย์ ข้าไม่ได้ตระหนี่ถี่เหนียวเสียหน่อย""เฮอะ" ผู้อาวุโสจี้โมโหจนหัวเราะ "
ต่งฮ่วนจือหลายวันนี้ดูผ่านไปแบบซึมเศร้าอยู่ ตอนนี้สีหน้าก็ยังไม่ค่อยดีนัก พูดจาเองก็ยังไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเขาพยายามอธิบายจุดนี้"วัตถุดิบยาชุดใหญ่ที่อ๋องเจวี้ยนต้องการ ก็ล้วนเป็นวัตถุดิบยารักษาหวัดหรืออาการบาดเจ็บภายนอกทั้งนั้น เป็นของที่หาได้ทั่วไป แล้วก็เป็นพวกที่ราคาถูกำไรน้อยพวกนั้น หลายอย่างพวกเราเก็บกำไรแค่หนึ่งถึงสองส่วน รักษาไม่ให้พันธมิตรโอสถต้องขาดทุน ถ้าหากวัตถุดิบยาเหล่านี้ลดราคาต้นทุนไปสี่ส่วน บัญชีของพันธมิตรก็จะมีช่องว่างเบ้อเร่อเลย"ต่งฮ่วนจือบอกกับฟู่จาวหนิงอย่างจนใจ "ศิษย์น้องหญิง ถ้าแบบนี้บัญชีที่ข้าต้องส่งให้พันธมิตรสาขาตอนครึ่งปีจะอธิบายลำบากเอา"เข้าใจ ก็คือ ขาดทุนนั่นล่ะฟู่จาวหนิงยังไม่ทันพูด ผู้อาวุโสจี้ก็ร้องเชอะขึ้นมา "นี่มีอะไรพูดลำบากกัน? ข้าบอกให้เจ้าโยนทั้งหมดมาที่ตัวข้าแล้ว""ท่านอาจารย์ นี่มันทำได้ที่ไหนกัน? ถึงอย่างไรข้าก็ดูแลสาขาของเมืองหลวงนะ เป็นข้าที่ต้องรับผิดชอบ" ต่งฮ่วนจือเองก็ทำเรื่องอย่างการผลักภาระทุกอย่างไปให้อาจารย์หมดไม่ได้"เจ้าเอาแต่กลัวนั่นกลัวนี่ กล้าๆ กลัวๆ ก็แค่เพราะเจ้าเพิ่งมารับช่วงดูแลที่นี่ กลัวจะทำเรื่องโดดเด่นออกมาไม่ได้