"ท่านปู่ ดูท่านพูดเข้า ต่อให้แม่ของข้าคือเสิ่นเชี่ยวจริง แต่ข้าก็ถือว่าเป็นคนตระกูลฟู่สิ จะไปเป็นคนตระกูลเสิ่นได้อย่างไรกัน?"พอได้ยินนางพูดเช่นนี้ ผู้เฒ่าฟู่จู่ๆ ก็ถอนหายใจโล่งออกมาหลังจากฝังเข็มให้เขาแล้วก็พาเฮ่อเหลียนเฟยออกมา เฮ่อเหลียนเฟยถอนหายใจ กดเสียงต่ำพูดกับนางว่า "พี่หญิง พอรู้ข่าวของท่านพ่อท่านแม่ ท่านปู่ก็ดีใจมาก แต่ว่าเขาเองก็กลัวมากเช่นกัน""กลัวอะไรหรือ?""ตอนนี้ลุงเสิ่นอยู่ในเมืองหลวงไหม? เขาเองก็เป็นคนของต้าชื่อ ท่านปู่เองก็กังวล ถ้าหากเขาเป็นลุงของพวกเราจริงๆ ก็จะพาท่านกลับต้าชื่อ ตระกูลเสิ่นคงคิดจะชิงตัวท่านกลับไปแน่"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นจึงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก"นี่คิดอะไรกันน่ะ""ท่านปู่พึ่งพาท่านมาตลอด ตระกูลฟู่ตอนนี้ก็ยังสถานการณ์เช่นนี้ เขารู้สึกว่าตนเองช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ท่านลำบากอีก พอมองกลับไปที่ตระกูลเสิ่น นั่นก็แตกต่างไปแล้ว ตระกูลเสิ่นเป็นตระกูลใหญ่ แม้ก่อนหน้านี้จะเคยถูกห้ามจากราชวงศ์ ถูกเพ่งเล็ง แต่อูฐที่ผอมจนตายก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า จะว่าอย่างไรก็ไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลฟู่ไปเทียบได้เลย"เฮ่อเหลียนเฟยส่
"คุณหนู" มีทหารรีบเดินตรงเข้ามา "คนผู้นี้ตรวจสอบตัวตนฐานะออกมาแล้ว"ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ เขามองไปทางสืออีสือซาน"เป็นเช่นนี้ เขามีวรยุทธ์สูงส่งมาก รู้สึกว่าไม่น่าใช่ทหารธรรมดา ข้างกายซ่งอวิ๋นเหยาไม่น่าเป็นไปได้ที่จะรับคนเช่นนี้เข้ามา ดังนั้นพวกเราจึงกลับไปขอคำสั่ง ให้คนของจวนอ๋องออกไปตรวจสอบแล้ว"สืออีอธิบายขึ้นมาคำหนึ่งสือซานกลับรู้สึกมึนงง "แต่ว่า ท่านอ๋องก็ไม่รู้ว่าไปที่ไหนแล้ว เดิมทีเรื่องนี้ควรจะรายงานเขาเสียก่อน"เพราะต้องใช้พลังของจวนอ๋องเข้าตรวจสอบ แล้วยังไม่ใช่เรื่องของจวนอ๋องอีกด้วยเซียวหลันยวนไปไหนแล้วพอได้ยินคำถามนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าหน้าตนเองร้อนวูบขึ้นหน่อยๆ นางพูดไม่ได้หรอกกระมังว่าเมื่อวานนี้เซียวหลันยวนนอนอยู่บนเตียงของนาง?แต่ว่าตอนนี้เขาควรจะไปได้แล้วสิถึงจะถูก"แฮ่ม" นางกระแอมขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ ถามว่า "แล้วตัวตนฐานะของคนผู้นั้นล่ะ?""เขาชื่อเซี่ยวจวิน เป็นศิษย์ใหญ่ลำดับต้นๆ ของสำนักชิงเฉิง พรสวรรค์สูงส่ง เคยสำแดงเดชมาแล้วในการประลองกับกลุ่มสำนักต่างๆ ที่ต้าชื่อทางนั้นมีหญิงสาวไม่น้อยที่อยากจะออกเรือนกับเขา""เก่งเสียเหลือเกิน แล้วยังเป็นค
"ยาที่ดีขนาดนี้ ข้าเสียเปรียบนะ นี่เป็นกรรมสิทธิ์ของข้าเลยด้วย เจ้ารุ้ไหมว่ามันคือยาอะไร?"ฟู่จาวหนิงถอยมาก้าวหนึ่ง ถามขึ้นอย่างไม่ลนไม่ลาน"ยาพิษหรือ?""ไม่ๆๆ จะเป็นยาพิษได้อย่างไรกัน ก็แค่ทำให้สมองของเจ้าช้าลงไปขณะหนึ่ง ส่วนประโยชน์น่ะหรือ เจ้าลองพิจารณาตอนที่คายความจริงหลังดื่มสุราสิ มันจะทำให้เจ้าพูดความจริง""เจ้าอย่าฝันหวานนักเลย"สืออีกับสือซษนกลับสบตามองกันผาดหนึ่งพระชายาสกัดยานี้ออกมาจริงหรือ?ถ้าหากยาชนิดนี้มีประโยชน์ขนาดนั้นล่ะก็ หลังจากนี้ตอนที่คิดจะไต่สวนใครก็ง่ายขึ้นเยอะเลยสิพวกเขาตัดสินใจที่จะมองดูให้ดีเซี่ยวจวินกัดลิ้น คิดจะให้ตนเองได้สติขึ้นมาหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นในใจก็เตือนตนเองตลอดว่าห้ามพูดเรื่องของซ่งอวิ๋นเหยาเด็ดขาด แต่ว่าเขากลับรู้สึกว่าสมองตนเองกลับยิ่งมึนงงมากขึ้น"เป้าหมายแท้จริงที่ซ่งอวิ๋นเหยาไปต้าชื่อคืออะไร?""นาง" เซี่ยวจวินเองก็รู้สึกดิ้นรน แต่พอดิ้นรนจนถึงท้ายสุดก็ยังพูดออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ "อยากจะเป็นพระชายาองค์รัชทายาทต้าชื่อ""พรวด"ฟู่จาวหนิงอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ พูดกับสืออีสือซานว่า "ดูนายท่านของพวกเจ้าสิ ยังคิดว่าคนอื่นหลงเขาหัวปั
"นางรู้ นางให้ข้าไปตรวจสอบ ว่าเด็กผู้หญิงที่ช่วยอ๋องเจวี้ยนในถ้ำภูเขาครั้งนั้นคือใคร ช่วยอย่างไร แล้วทำอะไรบ้าง"เซี่ยวจวินตอนนี้รู้สึกมึนงงในสมองขึ้นแล้ว อันที่จริงเขาก็ไม่อยากจะพูดอีกแล้ว แต่ไม่รู้เพราะอะไร พอฟู่จาวหนิงถาม เขาก็ตอบออกมาอย่างอดไม่อยู่ ในปากก็เหมือนจะไม่ฟังคำสั่งอย่างไรอย่างนั้นฟู่จาวหนิงร้องเฮอะขึ้นมานางถามคำถามต่ออีกส่วนหนึ่ง และตามคาด ซ่งอวิ๋นเหยาก็ยังเชื่อมั่นเซี่ยวจวินมาก มีหลายเรื่องที่ให้เขาไปจัดการและพอยิ่งถาม พวกของสืออีก็ยิ่งรู้สึกแย่กับหญิงสาวคนนี้คิดไม่ถึงว่าคนที่ชื่อเสียงดีงามภายนอก อ่อนโยนใจกว้าง ฉลาดแล้วยังมีความสุขอย่างท่านหญิงอวิ๋นเหยา แท้จริงแล้วจะเป็นคนเช่นนี้!"เรื่องที่อ๋องเจวี้ยนโดนพิษครั้งนั้นก็เป็นข้าที่บอกกับนาง เพราะนางเดิมทีคิดจะเปลี่ยนเส้นทางไปยอดเขาโยวชิงเพื่อหาอ๋องเจวี้ยนระหว่างทาง อยากจะไปดูว่าร่างกายของท่านเป็นอย่างไร ข้าบอกกับนางแล้ว ว่าอ๋องเจวี้ยนติดพิษมาเมื่อครั้งนั้น และพิษนั้นก็ถอนได้ยาก""เจ้ารู้เรื่องที่ท่านอ๋องของพวกเราติดพิษหรือ?""ครั้งนั้นมีคนขึ้นมาหาอาจารย์ข้าที่สำนักชิงเฉิง คิดจะให้อาจารย์ข้าไปช่วยเหลือคน เพราะว่
"คุณหนู เช่นนั้นถามจบแล้วก็ปล่อยเซี่ยวจวินเถิด" สืออีกับสือซานเองก็เตือนฟู่จาวหนิงขึ้นบ้างฟุ่จาวหนิงไม่พูดจา ถามต่อไปอีกไม่กี่คำ รอจนถามถึงตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยายังมีแผนอะไรกับนางอีก แต่กลับได้แผนการที่เกือบทำให้นางสบถคำหยาบออกมาเสียอย่างนั้น"ท่านหญิงรู้ว่าบ้าตระกูลฟู่รรับคนของเผ่าเฮ่อเหลียนมา ดังนั้นจะให้ข้าสร้างโอกาสให้เจ้ากับเฮ่อเหลียนเฟยอยู่ด้วยกัน เจ้าก็จะเสียความบริสุทธิ์กับเฮ่อเหลียนเฟยไป ถ้าตัวตนของเฮ่อเหลียนเฟยถูกเปิดเผยออกไป องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาก็จะโกรธจัด อ๋องเจวี้ยนก็จะหย่าร้างกับเจ้า เมืองหลวงแคว้นเจาจะไม่มีที่ให้เจ้ายืนอีกต่อไป ปู่ของเจ้าไม่มีทางทนรับการกระตุ้นนี้ไหว""ฮองเฮาจะจับเฮ่อเหลียนเฟยไป ถึงตอนนั้นถ้าส่งข่าวกลับไปยังเผ่าเฮ่อเหลียน ให้พวกเขารู้ว่าเจ้าทำร้ายเฮ่อเหลียนเฟย เจ้าก็จะไปทางไหนไม่ได้เลย ถึงตอนนั้นราชาเฮ่อเหลียนคงไม่ละเว้นเจ้า รอจนเจ้าหนีออกจากแคว้นเจาหัวซุกหัวซุน ข้าค่อยให้คนของสำนักชิงเฉิงลงมือ ส่งเจ้าไปที่ต้าชื่อ แล้วจะทำให้เจ้าเจอกับเรื่องที่ต้องตายทั้งเป็น"ฟู่จาวหนิงหลังจากฟังเรื่องเหล่านี้ก็หันหน้าไปมองเซียวหลันยวน สายตาเย็นชาไปแล้ว"อ๋องเจวี้ยน
หยินหลิ่วฟันสั่นกระทบไปหมด นางชี้ไปที่ด้านนอก"เขาทำไมหรือ?""ข้าส่งเขากลับมาให้เจ้าแล้ว"ด้านนอกมีเสียงอ๋องเจวี้ยนดังลอดเข้ามา เย็นชาราวสาวลมหนาวซ่งอวิ๋นเหยาตัวสั่น รีบร้อนสวมผ้าคลุมหน้า วิ่งออกไปอ๋องเจวี้ยนค่อยๆ เดินเข้ามาในเรือนของนาง ด้านหลังมีคนของจวนซ่งไม่น้อยตามมา ซ่งหยวนหลินเองก็วิ่งเข้ามาด้วย แต่สีหน้าก็ซีดเผือดด้วยเช่นกันพวกเขาพอเห็นอ๋องเจวี้ยน สีหน้าก็ล้วนไม่สู้ดีนัก แต่ใครก็ไม่กล้าขึ้นมาขวาง เพราะด้านหลังอ๋องเจวี้ยนมีทหารคนหนึ่ง แบกคนเข้ามาด้วยพอเข้ามาในเรือน ทหารคนนั้นก้ดยนคนลงบนพื้นใบหน้าของเซี่ยวจวินสะท้อนเข้ามาในดวงตาซ่งอวิ๋นเหยา ม่านตานางหดลง ตะใจจนร้องอุทานถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ถ้าไม่ใช่หยินหลิ่วประคองตัวนาง นางคงล้มลงไปบนพื้นแล้ว"ท่านหญิงกำลังหาทหารคนนี้อยู่ใช่ไหม? เพราะเมื่อคืนเขามาลอบโจมตีข้า ถูกข้าสังหารไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็เป็นคนของท่านหญิง ข้าจึงต้องมาส่งคืนด้วยตนเอง""สัง สังหารแล้ว..."ซ่งอวิ๋นเหยาตัวสั่น นางมองเซียวหลันยวนอย่างไม่อยากเชื่อ"อืม สังหารไปแล้ว"เซียวหลันยวนพูดอย่างเรียบเฉยแผ่วเบา"ท่านพี่หลันยวน ท่านทำอะไรน่ะ? คนคนนี้พวกเราไม่ร
"อ๋องเจวี้ยนตอนที่ต้องใจเหี้ยมก็เด็ดขาดเสียจริง"เสิ่นเสวียนกับฟู่จาวหนิงกำลังลงหมาก ข้อนิ้วที่แยกกันจับคว้าตัวหมาก ดูแล้วพึงพอใจอารมณ์ดีฟู่จาวหนิงรักษษเขาอย่างสุดกำลังมาเกือบหนึ่งเดือน เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายดีขึ้นมากแล้วครึ่งเดือนกว่านี้เรื่องราวในเมืองหลวงเหล่านั้นลอดเข้ามาที่หูเขาทุกวันราชวงศ์ครั้งนี้ก็กลายเป็นเรื่องตลกไปด้วยท่านหญิงที่ราชวงศ์แต่งตั้งขึ้นก่อเรื่องเช่นนี้ ทำเอาองค์จักรพรรดิขายหน้าย่อยยับป่นปี้"นั่นก็เป็นเพราะตัวเขาไม่อาจยอมรับได้กระมัง ยิ่งไปกว่านั้นยังโง่มาตั้งหลายปี" หมากขาวในมือฟู่จาวหนิงวางลงไปเบาๆใครให้เซียวหลันยวนกับแค่ผู้มีพระคุณตอนเด็กก็ยังไม่ตรวจให้ดีแล้วยังจะมาคุ้มครองซ่งอวิ๋นเหยาอยู่ตั้งหลายปีกันล่ะ?เสิ่นเสวียนมองการลงหมากของนาง หัวเราะขึ้นมาเสียงหนึ่ง"ดีมาก ไม่ใช่หญิงสาวโง่ๆ ที่ถูกทำให้ซาบซึ้งได้ง่ายๆ แบบนั้น" นางวางหมากได้เฉียบคมมาก พอลงมาก็ขวางทางของเขาทันทีเขายิ่งชื่นชมฟู่จาวหนิงขึ้นไปอีกวิชาแพทย์ของนางยอดเยี่ยมมากศิลปะการลงหมาก นางก็มีเอกลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมอยู่พอหันไปดูคนในตระกูลเสิ่น ไม่มีใครที่เทียบกับนางได้เลย"ท
"งูหลังทองเข้าไปแล้ว" ไห่ฉางจวิ้นเอ่ยขึ้นเสียงขรึม"วิชาลับของเจ้าใช้การไม่ได้แล้วหรือเปล่า? หาของชิ้นเดียวยังหาตั้งครึ่งค่อนเดือน"แม่นางเจี๋ยตอนนี้สงสัยขึ้นมาเสียแล้วนางเดิมทีคิดว่าพอมีความสามารถของไห่ฉางจวิ้น บวกกับงูหลังทอง แค่ไม่กี่วันก็สามารถหาสิ่งยืนยันชิ้นนั้นของตระกูลชิ่งพบ คิดไม่ถึงว่าพอหาทีจะหากันนานขนาดนี้ฮู่เจียไท่ทางนั้นกำลังยืดเวลา คิดหาเหตุผลอย่างสุดกำลังเพื่อยื้อเวลากับผู้นำตระกูล ไม่ให้เขาเอาสิ่งยืนยันไปมอบให้ยังมืออ๋องเจวี้ยนยังดีที่อ๋องเจวี้ยนช่วงนี้ก็ปิดประตูไม่รับแขก เหมือนได้ยินว่าถูกลมหนาวจนลุกจากเตียงไม่ไหวชิ่งอวิ๋นเซียวคุณชายคนนั้นวันวันก็เอาแต่ค้นหาสิ่งของอยู่ในเมืองหลวง แต่ก็ยังไม่พบอะไร"อะไรคือบอกว่าวิชาลับข้าใช้ไม่ได้แล้ว? เจ้าเองไม่ลองคิดดูหน่อยว่าตอนนี้มันเวลาไหน อากาศเย็นจัด เมืองหลวงแคว้นเจาก็หนาวจนจะแข็งตายกันหมดแล้ว งูหลังทองเองก็เกือบจะจำศีลอยู่แล้ว ปฏิกิริยากับความรู้สึกจึงค่อนข้างช้า ตอนนี้ให้มันมาหาของจึงไม่ได้รวดเร็วขนาดนั้น"ไห่ฉางจวิ้นร้องเชอะขึ้นเสียงหนึ่ง "แล้วตอนนี้ไม่ใช่ว่าหาเจอแล้วหรือ?""หาเจอแล้วหรือ? สิ่งของอยู่ที่บ้านตระ