แชร์

บทที่ 487

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
แต่ว่าเขาไม่เหมือนกัน เขาสามารถแบกหน้าไปอ้อนวอนเสิ่นเสวียนได้

"ท่านเสิ่นตอนนี้ร่างกายก็ไม่ดีนัก พวกเราดีที่สุดต้องหาหลักฐานให้มากอีกหน่อย ให้เขาเชื่อมั่นตระกูลฟู่ แม่ของเจ้าคือเสิ่นเชี่ยว หลังจากนั้นค่อยไปพูดกับเขาเรื่องนี้ ใช้เรื่องนี้ตรวจสอบตระกูลหลิน ยืนยันว่านางไม่ใช่คนตระกูลหลินก็พอ"

ผู้เฒ่าฟู่แม้จะร้อนรน แต่ก็รู้ว่าฟู่จาวหนิงพูดถูกต้อง

"เช่นนั้นเจ้าก็หาวิธีไปตรวจสอบดู ถ้าไม่ไหวจริงๆ ข้าหาคนไปทำด้วยตนเอง ข้าจะไปถามญาติของพวกเขา ให้พวกเขาพูดความจริง!"

"ท่านปู่ ท่านถ้าหากคิดจะช่วยข้าจริงๆ ก็พักผ่อนเถิด เรื่องนี้ส่งให้ข้าก็พอแล้ว"

"ใช่แล้วใช่แล้ว ท่านปู่ ท่านตอนนี้สำคัญที่สุดคือต้องรักษาสุขภาพให้ดี ข้ากับพี่หญิงหลังจากนี้ยังต้องพึ่งพาท่านอีก" เฮ่อเหลียนหเฟยเองก็รีบเข้ามาปลอบ

ความสนใจของฟู่จาวหนิงตกอยู่ที่ของเหล่านั้นบนโต๊ะ เมื่อครู่นางไม่ทันได้ดู ตอนนี้พอเหลือบมองไปก็เห็นศาลาไม้เล็กหลังหนึ่ง ศาลานี้ดูพิเศษมาก เสาทั้งสี่ล้วนสลักดอกบัวไว้ บนยอดสลักนกกางเขนไว้หลายตัว

"ศาลานี้ดูมีเอกลักษณ์เหลือเกิน"

นางยกศาลาไม้สลักนี้ขึ้นมา และพบว่าด้าในเองก็สลักไว้อย่างประณีตอีกด้วย

ผู้เฒ่าฟู่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Dino Khamruangsri
อ้าว กำลังสนุก จบและ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 488

    ซ่งอวิ๋นเหยาหลับลึกมาก ดังนั้นจึงไม่สังเกตเห็นว่าฟู่จาวหนิง มาอยู่ข้างเตียงนางแล้วตอนนี้ต่อให้พื้นเขย่าเขาสะเทือนนางก็คงจะไม่ตื่นแน่ฟู่จาวหนิงเลิกม่านเตียงออก ได้ยินเสียงหายใจไม่สม่ำเสมอของซ่งอวิ๋นเหยา"ดูท่าจะนอนไม่ค่อยดีเท่าไร ตอนนี้ยังฝันร้ายอีกหรือ?" ฟู่จาวหนิงร้องเฮอะขึ้นมา หยิบไฟฉายออกมาปรับแสง แสงไม่ถึงกับสาดออกมา แต่ก็เพียงพอให้นางเห็นใบหน้าซ่งอวิ๋นเหยาอยู่"เฮือก"ใบหน้าซ่งอวิ๋นเหยาถูกปะไว้ด้วยสิ่งของสีขาวชั้นหนึ่ง ดูแล้วเหมือนถูกมาส์กหน้าอยู่อย่างไรอย่างนั้นคิดไม่ถึงว่าตอนนางหลับก็จะมีของอย่างพวกมาส์กหน้าอยู่ด้วย?ยอดคนงามนี่นะฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดจะวาดอะไรลงไปบนหน้านาง แต่ตอนนี้พอเห็นว่าบนหน้านางมีของเหมือนโคลนขาวพอกอยู่ จึงหยิบเอาแปรงเล็กกับยาน้ำขวดเล็กใบหนึ่งออกมาสิ่งนี้เดิมทีจะเอาไปวาดบนหน้าซ่งอวิ๋นเหยา แต่ตอนนี้นางก็วาดลงไปบนจุดที่พอกหน้านางเสียเลย ถึงเวลาที่ซึมเข้าไปตื้นหน่อย ผลลัพธ์ก็น่าจะดียิ่งขึ้นนางมือหนึ่งถือไฟฉาย อีกมือหนึ่งถือแปรงเล็กปาดทาน้ำยาบนหน้าซ่งอวิ๋นเหยาทาตรงนี้ทีตรงนั้นทีหลังจากเสร็จสิ้นก็เก็บไฟฉายถอยออกมาฟู่จาวหนิงรีบถอยกลับตามทางเดิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 489

    ตอนนี้เอง ไม่ถึงครึ่งวัน สถานการณ์ของท่านหญิงอวิ๋นเหยาก็ขุดออกมาจนหมด กระทั่งมีคนขุดไปว่าท่านหญิงอวิ๋นเหยาวันนั้นยังยื้อยุดกับอ๋องเจวี้ยนที่หน้าประตูด้วยประชาชนทั้งเมืองล้วนอนุมานถึงความจริงของเรื่องราวท่านหญิงอวิ๋นเหยาใจปองอ๋องเจวี้ยน แต่อ๋องเจวี้ยนไม่ได้รู้สึกอะไรกับนาง พอนางเข้าไปพัวพันไม่ได้ ก็เลยย้ายโทสะไปที่พระชายาอ๋องเจวี้ยน คิดจะใส่ร้ายนาง ใครจะคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะปกป้องพระชายา จนสุดท้ายคนที่ถูกทำร้ายกลายเป็นเซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยา!ให้ตายเถอะ ท่านหญิงอวิ๋นเหยาเป็นคนอย่างนี้เองหรือ?กระดาษเรียกร้องความเป็นธรรมยังเขียนอีกว่า ท่านหญิงอวิ๋นเหยารู้ว่าตนเองทำให้เกิดเรื่องใหญ่โต ดังนั้นจึงไม่กล้าออกมาพบหน้าผู้คนอีกนาน"พวกเราจะรอดูว่าท่านหญิงอวิ๋นเหยาจะกล้าออกมาไหม""ถ้าหากนางถูกใส่ร้าย ลือกันจนเป็นเช่นนี้ ชื่อเสียงคงป่นปี้หมด แล้วจะไม่ออกมาตอบโต้ข่าวลือได้อย่างไร?"ด้านนอกลือกันดุเดือด กระทั่งมีคนที่ว่างจัดถึงกับไปนั่งจดจ้องซ่งอวิ๋นเหยาอยู่ที่นอกเรือนตระกูลซ่ง ดูว่านางจะออกมาไหมคนใช้ตระกูลซ่งที่ออกมาซื้อของเองก็ได้ยินข่าวลือด้านนอกแล้วพวกเขารีบร้อนกลับเข้าไป คิดจะ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 490

    "อ๊าๆๆๆ!"ซ๋งหยวนหลินก็ร้องเสียงแหลมขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่นี่ต่างห่างที่เป็นรอยแตกกระดองเต่าดูท่าเหมือนว่าใบหน้าที่ถูกแช่จนบวมของซ่งอวิ๋นเหยาแตกหลุดร่วงลงมาทีละชิ้นๆ อย่างไรอย่างนั้นภาพน่าตกตะลึงพรั่นพรึงมาก แม้ซ่งหยวนหลินจะรู้ว่านี่คือซ่งอวิ๋นเหยา แต่ก็รู้สึกว่ายังน่ากลัวมากอยู่ดีซ่งอวิ๋นเหยาตัวเองก็ทนไม่ไหว กรีดร้องขึ้นมาด้วยเช่นกัน"อ๊าๆๆ!"ซ่งหยวนหลินหมุนตัวพุ่งไปที่ประตู ดึงตัวหยินหลิ่วที่ร้อนรนจนทำไม่ไหวอยู่นอกประตูเข้ามา "เจ้ารีบไปดูท่านพี่อวิ๋นเหยาเร็ว!""ท่านหญิง!"หยินหลิ่วพุ่งออกไป ซ่งหยวนหลินหันหน้าเข้ามา ภาพนั้นกระทบกระเทือนหยินหลิ่วจนแข้งขาอ่อน "ท่าน ท่านหญิง?!""หน้าของข้า หน้าของข้ามันเกิดอะไรขึ้น?"เสียงของซ่งอวิ๋นเหยากำลังสั่นเครือหลังจากยาบำรุงความงามบนหน้านางเหล่านั้นร่วงลงมา บนหน้าก็เผยสีออกมา เป็นสีดำ ยิ่งไปกว่านั้นยังแปลกประหลาดอีกด้วยด้านบนคิ้วมีคิ้วเพิ่มมาอีกคู่หนึ่งรอบๆ ดวงตาล้วนเป็นวงดำ ดูแล้วเหมือนดวงตาใหญ่ครอบดวงตาเล็กทั้งคู่ไว้ด้านซ้ายและขวาของจมูกมีจมูกซีกหนึ่งยื่นออกมาฝั่งละข้าง มีรูจมูกเพิ่มมาข้างละรู หนีบจมูกของนางเอาไว้ ดูแล้วคล้า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 491

    หยินหลิ่วลังเลพูดวิธีการออกมาสองวิธี ถ้าเป็ฯช่วงปกติ การให้ซ่งอวิ๋นเหยาใช้ของสองสิ่งนี้มาล้างหน้าคือหาเรื่องตายแท้ๆ แต่ว่าตอนนี้ ซ๋งอวิ๋นเหยาทั้งหัวสมองก็คิดแต่ว่าจะล้างเจ้าสีดำบนใบหน้านี้ออกไปอย่างไร พอได้ยินว่ายังมีวิธีอื่น ก็ให้นางไปจัดหามาทันทีของจัดหามาแล้ว ซ่งอวิ๋นเหยาเองก็กัดฟันทนเจ็บแล้วล้างตอนที่เอาเกลือบชโลมหน้า นางก็ปวดจนทนไม่ไหวร้องไห้ออกมา เพราะก่อนหน้านี้ใบหน้าก็ถูกจนแดงไปหมดแล้ว บางจุดน่าจะถลอกแล้วด้วยแต่ไม่รู้สึกตัว ตอนนี้พอเอาเกลือทาลงไป ความระทมนั้นมันช่าง..."ล้าง ล้างออกไหม?"หลังจากล้างน้ำสะอาดไปรอบหนึ่ง ซ่งอวิ๋นเหยาก็ใช้นิ้วแตกไปเบาๆ บนหน้าก็ยังเจ็บจนอยากจะร้องไห้นางล้างต่อไม่ได้แล้ว ทำได้แค่เงยหน้าขึ้นมองซ่งหยวนหลินกับหยินเหลิ่ว เสียงสั่นเครือ ถามพวกนางขึ้นอย่างมีความหวังนี่น่าจะล้างออกหมดแล้วกระมัง?ซ่งหยวนหลินไม่กล้ามองนางของนางอีกนี่มันอย่างกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้นเดิมทีเป็นสีดำ ไม่ได้วาดเต็มไปทั้งหน้า ยังพอมีบางส่วนเป็นผิวหนังเดิมของนางอยู่ แต่ว่าพอล้างไปหลายรอบเข้า แล้วยังใช้สิ่งของต่างๆ มากมายมาถู ตอนนี้บนหน้าซ่งอวิ๋นเหยาจึงไม่เหลือผิวดีอยู่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 492

    หมอเซียวเองก็คิดหาวิธีสุดกำลังเขาเองก็ผสมน้ำยามากมายเพื่อจะล้างสีบนหน้าซ๋งอวิ๋นเหยาออก แต่ก็ไม่มีประโยชน์เลยไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นน้ำยาอะไร จะใช้สิ่งของใด สีบนหน้าซ่งอวิ๋นเหยาไม่ว่าอย่างไรก็ล้างไม่ออก ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่จางลงแล้วอีกด้วยกลับกันพอยิ่งใช้ของต่างๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใบหน้านั้นของซ่งอวิ๋นเหยาก็ยิ่งบวมแดงและแข็งมากขึ้นจนท้ายสุดขนาดที่นางทำสีหน้ามากหน่อยก็ยังดึงจนเจ็บปวด ขยับไม่ได้เลย เพราะแค่เอาน้ำมาล้างก็ยังเจ็บซ่งอวิ๋นเหยาขนาดจะร้องไห้ก็ยังไม่กล้า ร้องไห้เองก็ยังเจ็บทรมานอยู่วันหนึ่ง นางอย่าว่าแต่ออกจากบ้านเลย ซ่งหยวนหลินเองยังลืมบอกเรื่องที่ลือกันอยู่ภายนอกกับนางเสียด้วยซ้ำคนด้านนอกรออยู่หนึ่งวันหนึ่งคืนก็ไม่เห็นว่าซ่งอวิ๋นเหยาจะออกจากบ้าน จึงยิ่งลือกันออกไปหนักข้อขึ้นดูเอาเถอะ ท่านหญิ่งอวิ๋นเหยาไม่กล้าออกมาจริงๆ ด้วย!คนมากมายล้วนพูดเช่นนี้ หลังจากนั้นยังมีคนไปจดจ้องที่จวนชินอ๋องเซียวอีก แล้วยังหาคนเข้าไปแอบฟัง ได้ยินว่าคืนแต่งงานนั้นรัฐทายาทเซียวไม่ได้อยู่ในเรือนหอ หลังจากนั้นฮูหยินของรัฐทายาทวันต่อมาก็ตรงไปหาเขาที่ห้อง จากนั้นก็ถูกรัฐทายาทเซียวผลักออกมาฮูห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 493

    เพราะมีคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา ว่าเพราะอะไรตระกูลซ่งจึงมีท่านหญิงสองคน ยิ่งไปกว่านั้นท่านหญิงสองคนนี้พอดูดีดีแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรที่คู่ควรกับตำแหน่งท่านหญิงที่ได้รับพระราชทานมาเอาเสียเลยแต่ลมเช่นนี้ก็ไม่กล้าที่จะพัดกวาดมากนัก เพียงแต่ทั่วทั้งเมืองกำลังพูดกัน จะอย่างไรก็ต้องลือเข้าไปถึงในวังไทเฮาสบโอกาสทันที ตรงเข้าไปหาองค์จักรพรรดิก่อน"องค์จักรพรรดิ ประชาชนเริ่มคลางแคลงกับในวังแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กด้วย เรื่องนี้จะให้รุนแรงไปกว่านี้ไม่ได้ ดังนั้น ไม่ว่าพี่น้องตระกูลซ่งทั้งสองจะไปก่อเรื่องอะไรมา ครั้งนี้ก็ยังวุ่นวายมาถึงเบื้องพระพักตร์องค์จักรพรรดิแล้ว องค์จักรพรรดิจะลำเอียงให้พวกนางไม่ได้แล้วนะ""เสด็จแม่ ข้าไม่ได้ลำเอียงกับพวกนาง" องค์จักรพรรดิสีหน้ากลัดกลุ้ม รู้แค่ว่าไทเฮาพูดเช่นนี้ก็เพื่อตัวเขาเอง ที่เขากลัดกลุ้มคือพี่น้องตระกูลซ่ง "ก่อนหน้านี้ที่พระราชทานตำแหน่งท่านหญิงก็ไม่มีใครพูดว่าไม่เหมาะสม แล้วนี่ไปก่อเรื่องอะไรมากัน?""พวกนางสองปีนี้ทำการใดก็เหมือนจะใจร้อนไปหน่อย เฮ้อ เด็กสาวนี่ล่ะหนา เช่นนั้นองค์จักรพรรดิก็ต้องดูแลให้มากหน่อย ก่อนหน้านี้ที

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 494

    บันทึกเล่มเล็กนั่น เหมือนจะเป็นบันทึกประจำวันของฟู่หลินซื่อฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าฟู่หลินซื่อจะมีความเคยชินจดบันทึกด้วยแต่ว่านางก็ไม่ได้แค่จดบันทึกอย่างเดียว แต่ยังเขียนบทกลอนลงไปด้วย บาทีก็วาดรูปลงไปตัวหนังสือของฟู่หลินซื่อสวยสง่างดงาม ถ้าหากมองเห็นคนจากตัวอักษรได้ล่ะก็ ก็ควรจะเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนคนหนึ่งภาพของนางเองก็ดูมีจิตวิญญาณด้วย ต่อให้เป็นแค่ภาพดอกไม้ดอกเดียว ดอกไม้ที่กลีบไม่สมบูรณ์กับแมลงตัวน้อยบนกลีบดอกไม้ก็ทำให้ดอกไม้เหมือนมีชีวิตขึ้นมาฟู่จาวหนิงใช้เวลาไปครึ่งวันถึงเปิดอ่านหมด เลือกประโยคที่มีอารมณ์ส่วนหนึ่ง และยังมีบางส่วนที่กระตุ้นความทรงจำฟู่หลินซื่อออกมา"สะใภ้ใหญ่บอกว่า หลังจากออกเรือนต้องดูแลครอบครัวพ่อแม่ให้ดี ไม่เช่นนั้นหลายปีนี้ในบ้านก็คงจะเลี้ยงข้ามาเสียเปล่า เดิมทีเงินเหล่านั้นที่เลี้ยงดูข้าส่วนที่เหลือก็สามารถมอบให้กับลูกสาวของบ้านพวกเขาได้"""ท่านแม่บอกว่า หลังจากนี้ในบ้านเหล่าหลานสาวหลานชายแต่งงานไป ข้าก็ต้องส่งของขวัญให้มากๆ ไม่ให้เสียแรงที่พวกเขาเรียกข้าว่าป้า""สามีดีกับข้ามาก แต่บ้านสองบ้านสามตระกูลฟู่กลับมีเจตนาไม่ดีกับข้า""รู้สึกว่าบ้านสี่แป

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 495

    ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ตามมาก็น่าเวทนานักซ่งอวิ๋นเหยาตอนนี้ก็แค่ไม่เหลือความสมบูรณ์แบบอีกแล้ว ไหนจะเรื่องนี้ที่ต่อให้เป็นความจริง ก็แค่ถูกเปิดโปงออกมาเท่านั้น นางมีอะไรน่าสงสารกัน?เช่นนั้นก็ปล่อยนางไปเถอะ ด้านนอกจะลือกันอย่างไร พวกเราไม่ต้องไปสนใจ"คุณหนู ยังมีคนมาหาข่าวทางพวกเราด้วย อยากรู้ว่าคุณหนูวันนั้นหนีรอดมาได้อย่างไร แล้วยังมีคนมาถามอีกว่า เห็นลือกันว่าอ๋องเจวี้ยนดีกลับคุณหนูมาก แต่ทำไมคุณหนูถึงยังไม่ไปอยู่ที่จวนอ๋องเจวี้ยนอีก?"เสี่ยวเถามองอย่างใจตุ้มต่อมไปทางฟู่จาวหนิง"แล้วเจ้าตอบไปอย่างไรล่ะ?""ข้าน้อยบอกว่า คุณหนูยังเป็นห่วงผู้เฒ่าฟู่""อืม พูดเช่นนี้ก็ดีแล้วนี่"ตอนนี้เองก็มีคนหลายคนตามกลุ่มคนเข้ามาในเมืองหลวงคนเหล่านี้เดินวนๆ อยู่ในเมือง เดินบนถนนบ้าง จากนั้นก็หาโรงน้ำชา แล้วนั่งลงในห้องหรูหรา รอคนมารับแต่ว่าห้องหรูหรานี้ก็กั้นเสียงได้ไม่ดีนัก หลังจากพวกเขานั่งลงก็ได้ยินเสียงที่ห้องข้างๆ พูดคุยอยู่ตลอดคนที่เป็นหัวหน้าฟังอยู่ครู่หนึ่ง ก็มองไปทางคนหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ"นี่กำลังพูดถึงพระชายาอ๋องเจวี้ยนหรือ?""ท่านผู้เฒ่า ใช่แล้ว""คุณหนูตระกูลซ่งคน

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2064

    ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2063

    เจ้าอารามสูดลมหายใจลึก"ผลลัพธ์นี้ไม่ค่อยดีนัก สิ่งที่มันชี้นำไป ทำให้อายวนเดินไปยังทางเลือกที่จะพาสู่ความพินาศ"พอได้ยินคำพูดเขา ฟู่จาวหนิงก็หน้าเปลี่ยนสีแต่นางกลับโมโหขึ้นมา"เฮอะ"ก่อนหน้านี้นางยังรู้สึกว่าจะอย่างไรก็ได้แต่ว่าตัวนางจะเป็นอย่างไร นางก็ยังไม่สนใจได้ เพราะนางไม่ใส่ใจ และไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับตัวนางแต่เรื่องดันไปอยู่บนตัวเซียวหลันยวน นางก็ไม่ชอบใจขึ้นมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น นางไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนจะได้รัรบผลกระทบไหม ตัวนางเป็นคนที่ผ่านการข้ามภพมา แต่เขาไม่ใช่"อายวน" นางยื่นมือไปประคองเซียวหลันยวนเขาจับมือนางลุกขึ้นยืน มองดุนาง ยื่นมือลูบใบหน้านาง สีหน้าดูซับซ้อน"เจ้าลองดู"ฟู่จาวหนิงใจดำดิ่งหน่อยๆเพราะเขารู้สึกแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด ปฏิกิริยานี้คือถูกส่งผลกระทบเข้าแล้วเมื่อครู่เขายังบอกนางอยู่เลยว่าถ้าไม่อยากคะเนทำนายก็ไม่ต้องทำ ตอนนี้เขากลับบอกว่าให้ลองดูเสียแล้วจิตใจต่อต้านกับความอยากเอาชนะของฟุ่จาวหนิงถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว"ได้"นางขานรับ และไม่ลังเลอีก นั่งลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามผืนนั้น"ไข่มุกหมึก"เซียวหลันยวนส่งไข่มุกหมึก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2062

    เขาไม่อยากให้นางต้องฝืนตัวทำอะไรเพื่อตัวเขา"ข้ายินยอมทดสอบดู ไม่เป็นไร" ฟู่จาวหนิงบอกเขาเซียวหลันยวนชะงักไป "เช่นนั้นข้าก่อนแล้วกัน เจ้าลองดูผลลัพธ์ของข้าก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจ"ตอนนี้เขาเองก็ยอมที่จะคะเนทำนายด้วย เพราะคำพูดประโยคนั้นที่เจ้าอารามพูดเมื่อครู่สามปีก่อนตอนที่เขาจะกลับเมืองหลวง ก็มีการวัดคะเนดาราไว้จริงๆ ทำให้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าเขาควรจะออกจากยอดเขาโยวชิงเวลานั้น และไปถึงเมืองหลวงในวันนั้นเขาเจอกับจาวหนิงถอนหมั้นกลางถนนในวันนั้น แต่งงานกับนางในวันนั้น ตอนนี้พอมาคิดก็ดูจะเป็นคู่รักวาสนาที่ฟ้าประทานมาจริงๆเพื่อความแม่นยำครั้งนี้ เขาเองก็ไม่กังขากับการวัดคะเนดาราเซียวหลันยวนนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามชิ้น ยื่นมือไปทางเจ้าอาราม "ไข่มุกหมึก""เจ้าจำไว้ด้วยว่าต้องขจัดสิ่งรบกวนออก อย่าต่อต้านการชี้นำ" เจ้าอารามส่งไข่มุกหมึกให้เขา จากนั้นจึงจุดธูปขึ้นเซียวหลันยวนหลับตา สองมือกุมไข่มุกหมึกตอนที่เขาเข้าสู่สภาวะลืมตนอย่างสมบูรณ์ ฟู่จาวหนิงก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยสัญชาตญาณ เหมือนจะพบว่าแสงดาวเต็มท้องฟ้าจะสว่างเจิดจ้ากว่าเดิมเซียวหลันยวน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2061

    เจ้าอารามถอนใจอย่างจนใจอีกครั้ง ร้องเรียกพวกเขาไว้"กลับมาก่อน ทำไมพูดไม่ถูกหูหน่อยเดียวก็จะไปแล้วล่ะ? เดี๋ยวนี้อารมณ์ขึ้นง่ายขนาดนี้เชียว? ข้าก็แค่พูดเฉยๆ ไม่ใช่ว่ามองเสี่ยวฟู่แบบนี้เสียหน่อย"ฟู่จาวหนิงเองก็ยืนนิ่ง นางดึงเซียวหลันยวนไว้ตอนนี้นางเองก็น่าจะมองการวัดคะเนดาราของเจ้าอารามเป็นเหมือนเกมลึกลับเกมนึง เมื่อครู่ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเจ้าอารามทำให้นางจับทางไม่ถูกเหมือนกัน คนผู้นี้ต้องมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาสำหรับเซียวหลันยวนแน่นอนสำหรับฮูหยินเฉิง เซียวหลันยวนบทจะไม่ยอมรับก็ไม่ยอมรับได้ จะหมดความผูกพันนั่นก็หมดไป แต่สำหรับเจ้าอารามนั้นไม่ได้เด็ดขาดไม่เช่นนั้นคงไม่พานางเดินทางนับพันลี้มายอดเขาโยวชิงแค่เพราะคำๆ เดียวของเจ้าอารามหรอกนางเองก็อยากรู้มาก สาเหตุอะไรที่ต้องให้พวกเขามาทำนายชะตาอะไรนี่ เจ้าอารามคิดจะทำอะไรกันแน่นอกเหนือจากนี้ ตัวนางเองก็ยังอยากรู้ ว่าการที่นางมายังแคว้นเจานี่ เป็นเพราะมีพลังลึกลับอะไรหรือเปล่าถ้าไม่ทำให้ชัดเจน หลังจากนี้นางคงจะตั้งรับไม่ไหวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถึ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2060

    เขามองไปทางเจ้าอารามอีกครั้ง น้ำเสียงเข้มงวดขึ้นมา"ท่านน้าเฉิงถ้าพูดแบบนี้จริง เช่นนั้นสายตานางก็ตื้นเขินไม่รู้จักกาลเทศะ นางเองก็ไม่เข้าใจจาวหนิง และยิ่งไม่เข้าใจว่าจาวหนิงผ่านอะไรมาบ้าง แล้วมีสิทธิ์อะไรถึงใช้ความคิดของตัวเองมาสรุป ดูท่าหลายปีนี้คงถูกเอาอกเอาใจในเมืองจื่อซวีจนเสียคนแล้วจริงๆ"เดิมทีเขาได้ยินว่าฮูหยินเฉิงตาแดงก่ำลงจากเขาไป ยังเคยคิดว่าว่าเพราะช่วยนี้เย็นชากับนางมากเกินไปหรือเปล่า เอาไว้ตอนที่จะกลับ พอผ่านอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น ยังคิดจะเข้าไปบอกลานางเสียหน่อยแต่ตอนนี้เขารู้สึกแล้วจริงๆ ว่าใจคนมันพังไปแล้ว เช่นนั้นก็ยากที่จะได้รับการเคารพจากคนอื่นจริงๆ"ข้าจดจำได้ว่าตอนที่ข้ายังเล็กท่านน้าเฉิงเคยมาดูแลอยู่หลายครั้ง แต่อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น หลังจากข้าโตมา พวกเราก็เจอกันน้อยครั้งมาก เจอกันก็เพียงแค่ทักทาย ข้าเรียกนางว่าท่านน้า ก็เพราะเคยชินมาจากตอนเด็กเท่านั้น"เซียวหลันยวนตอนพูดถึงจุดนี้น้ำเสียงก็เย็นลงมา"ตอนยังเล็กนางดูแลข้ามาหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาเจ้าอุทยานกำชับไว้ ข้าจึงเคารพนาง แต่นางก็ควรวางตัวให้ถูก ไม่ใช่จะขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสของข้าจริ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2059

    สายตาที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองเซียวหลันยวนดูซับซ้อนมาก ดูลังเล กำลังตัดสินใจและดูเจ็บปวดทรมานมากแต่หลังจากนี้นางกลับละทิ้งเรื่องที่จะกลับเมืองหลวงหาคนอื่นหรือกระทั่งเรื่องไปแคว้นหมิ่น แล้วิคดจะอยู่ข้างกายเจ้าอารามแทนหรือ?นี่มัน...ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าการเปลี่ยนความคิดกะทันหันของนางมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรตอนนี้นางกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็นต่อวัดคะเนดารานี้เสียแล้ว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นสัมผัสได้ถึงอะไรกันนะ?"องค์หญิงใหญ่พักอยู่ที่นี่สองสามวันก่อนก็ได้ เอาไว้ค่อยว่ากัน"เจ้าอารามเหลือบมองกระจกทรงมุมที่แสงดับไปแล้วผาดหนึ่ง จากนั้นก็มองใบหน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แอบถอนหายใจในใจเขาเองก็ทำไม่สำเร็จ บิดชะตาฝูอวิ้นกลับมาไม่ได้ชั่วคราวผิดพลาดตรงไหนกันแน่นะ?เจ้าอารามมองต่อไปทางฟู่จาวหนิง จากการทำนายส่วนตัวของเขา ทำนายไปทำนายมา ต้นกำเนิดตัวแปรทั้งหมดก็คือฟู่จาวหนิงดังนั้น เรื่องที่เกี่ยวกับฟู่จาวหนิง เขาต้องมาขบคิดให้ดีจริงจัง""เจ้าอารามรับข้าไว้เถอะ แม้ข้าจะทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ก็ยังเรียนรู้ได้ ข้าเรียนรู้ทำกับข้าว จริงด้วย ข้าเป็นแแม่สื่อได้ด้วยนะ หลังจากนี้ชายเส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2058

    บนพื้นมีสามจุดเปล่งแสงขึ้นรางๆ ปรากฏรูปร่างสามแบบคือ แปดเหลี่ยม ทรงกลม ทรงมุมฟู่จาวหนิงเดินเข้าไปสองก้าว จึงพบว่านั่นเป็นกระจกหลากสีเรียบลื่นสามชิ้นสลักฝังอยู่บนพื้น ใต้กระจกน่าจะเป็นหินหยกผิวเรียบ และระหว่างหยกกับกระจกมีของเหลวสีแดงเจือสีเงินไหลเอื่อยๆ อยู่ยิ่งไปกว่านั้น เพียงไม่นาน ด้านบนยังมีแสงระยิบเหมือนดวงดาว ราวกับจำลองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวออกมาเจ้าอารามเดินเข้าไปใกล้ กวักมือให้กับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"มานี่"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ค่อนข้างว่าง่าย เดินเข้าไปทันทีเจ้าอารามส่งลูกปัดหยกสีดำเม็ดหนึ่งให้นาง"นั่งขัดสมาธิ กำลูกปัดเม็ดนี้ไว้ สัมผัสดูว่ามันนำเจ้าไปยังมิติดาราไหน แล้วจงชี้ออกมา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ทำตามที่เขาบอกนั่งลงขัดสมาธิบนพื้น สองมือกุมลูกปัดนั้น ตั้งสมาธิสัมผัสผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงหันหลังอย่างลังเลไปทางทรงมุมนั้น"ทางนี้"ฟู่จาวหนิงยืนมองอยู่ข้างๆจากที่นางเห็น เจ้าอารามเหมือนคนที่กำลังเล่นละครหลอกคนอย่างไรอย่างนั้น เรื่องแบบนี้จะทำนายดวงชะตาออกมาได้อย่างไร?กำลูกปัดลูกหนึ่งไว้ ก็สามารถชักนำให้ตนเองเลือกกระจกหลากสีแผ่นไหนแบ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2057

    ดาวสองดวงนั้นประกายจ้ามาก แล้วยังอยู่ใกล้มากด้วย ส่องประกายให้กันและกัน เหมือนขานรับกันและกันไม่รู้เพราะอะไร พอเห็นดาวสองดวงนี้ ฟู่จาวหนิงรู้สึกมีความสุขขึ้นมานางมองไปทางเซียวหลันยวน ถามขึ้นเสียงแผ่วเบา "ท่านเห็นดาวดวงไหนหรือ?"เซียวหลันยวนไม่ตอบ แต่กุมมือนางมัน จับนิ้วนางชี้ออกไป"เอ๋?"ที่เซียวหลันยวนชี้ก็คือดาวสองดวงนั้น!หรือพวกเขาจะมองเห็นแบบเดียวกัน?แน่นอนว่าอาจจะเพราะดาวสองดวงนั้นสว่างไสวมากที่สุด คนอื่นเองก็อาจจะมองเห็นพวกมันด้วยฟู่จาวหนิงคิดเช่นนี้ เลยมองไปทางองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แต่กลับเห็นนางมองไปทางอื่นนางมองไล่ตามสายตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไป ตรงนั้นมีดาวดวงหนึ่ง สว่างอยู่เหมือนกัน แต่ดาวที่อยู่รอบๆ เล็กเอามากๆ จึงส่องระยับอยู่เพียงดวงเดียวที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองอยู่น่าจะเป็นดวงนั้นกระมัง?ตอนที่นางจะเก็บสายตาก็กวาดไปเห็นซางจื่อพอดี และเห็นซางจื่อก็กำลังมองท้องฟ้า แต่สายตาของเขาดูสับสน สีหน้าเองก็ตกตะลึงไปฟู่จาวหนิงคิดๆ ถอยหลังสองก้าวไปอยู่ข้างๆ ซางจื่อซางจื่อเก็บสายตากลับ มองไปทางนาง ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ นางก็มาอยู่ข้างๆ"ซางจื่อ เจ้าชอบดาวดวงไหน?"ซา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2056

    "แต่ก่อนท่านเคยเห็นเขาระบำมาก่อนไหม?""ไม่มีเคยเลย"ตอนที่พวกเขาหยุดเท้ายืนมอง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็มาถึงข้างกายพวกเขานางเองก็มองการร่ายรำบนแท่นชมดาว สายตาดูเคลิบเคลิ้มหน่อยๆ"ข้าได้ยินว่า แต่ก่อนตงฉิงก็มีระบำทำนายดวงดาวอยู่ประเภทหนึ่ง คิดค้นขึ้นมาโดยตระกูลราชครูตงฉิง นี่เป็นระบำที่ลึกลับมาก จังหวะก้าวเท้าทุกก้าวล้วนพิถีพิถัน นำมาซึ่งพลังแห่งดวงดาว ทำให้ผู้ทำนายดวงดาวมีพลังที่ลึกลับมากขึ้น ผลลัพธ์การทำนายเองก็แม่นยำขึ้น"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ลืมสิ่งที่เซียวหลันยวนพูดไว้เมื่อครู่ เรื่องที่ไม่ให้นางเข้ามาใกล้นัก แต่มายืนอยู่ข้างกายพวกเขา พูดเรื่องที่ตนเองรู้มาก่อนหน้านี้ออกมาอย่างอดไม่อยู่"ตระกูลราชครูของตงฉิง?" ฟู่จาวหนิงเหลือบมองนางผาดหนึ่ง"ใช่ นี่เป็นสิ่งที่ข้าได้ยินองค์จักรพรรดิของข้าบอกมา" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็นว่านางยอมพูดกับตนเอง ก็รู้สึกเหมือนได้รับเกียรติจนประหลาดใจขึ้นมา "ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็ได้ยินว่าองค์จักรพรรดิข้าค้นหาตระกูลราชครูตงฉิงอยู่ตลอด ว่ากันว่า ตระกูลราชครูนั้นรู้ความลับมากมายของตงฉิง สามารถช่วยให้อาณาจักรมั่นคงได้ด้วย"เซียวหลันยวนร้องเฮอะขึ้นมาต้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status