Share

บทที่ 487

Author: จุ้ยหลิงซู
แต่ว่าเขาไม่เหมือนกัน เขาสามารถแบกหน้าไปอ้อนวอนเสิ่นเสวียนได้

"ท่านเสิ่นตอนนี้ร่างกายก็ไม่ดีนัก พวกเราดีที่สุดต้องหาหลักฐานให้มากอีกหน่อย ให้เขาเชื่อมั่นตระกูลฟู่ แม่ของเจ้าคือเสิ่นเชี่ยว หลังจากนั้นค่อยไปพูดกับเขาเรื่องนี้ ใช้เรื่องนี้ตรวจสอบตระกูลหลิน ยืนยันว่านางไม่ใช่คนตระกูลหลินก็พอ"

ผู้เฒ่าฟู่แม้จะร้อนรน แต่ก็รู้ว่าฟู่จาวหนิงพูดถูกต้อง

"เช่นนั้นเจ้าก็หาวิธีไปตรวจสอบดู ถ้าไม่ไหวจริงๆ ข้าหาคนไปทำด้วยตนเอง ข้าจะไปถามญาติของพวกเขา ให้พวกเขาพูดความจริง!"

"ท่านปู่ ท่านถ้าหากคิดจะช่วยข้าจริงๆ ก็พักผ่อนเถิด เรื่องนี้ส่งให้ข้าก็พอแล้ว"

"ใช่แล้วใช่แล้ว ท่านปู่ ท่านตอนนี้สำคัญที่สุดคือต้องรักษาสุขภาพให้ดี ข้ากับพี่หญิงหลังจากนี้ยังต้องพึ่งพาท่านอีก" เฮ่อเหลียนหเฟยเองก็รีบเข้ามาปลอบ

ความสนใจของฟู่จาวหนิงตกอยู่ที่ของเหล่านั้นบนโต๊ะ เมื่อครู่นางไม่ทันได้ดู ตอนนี้พอเหลือบมองไปก็เห็นศาลาไม้เล็กหลังหนึ่ง ศาลานี้ดูพิเศษมาก เสาทั้งสี่ล้วนสลักดอกบัวไว้ บนยอดสลักนกกางเขนไว้หลายตัว

"ศาลานี้ดูมีเอกลักษณ์เหลือเกิน"

นางยกศาลาไม้สลักนี้ขึ้นมา และพบว่าด้าในเองก็สลักไว้อย่างประณีตอีกด้วย

ผู้เฒ่าฟู่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Dino Khamruangsri
อ้าว กำลังสนุก จบและ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 488

    ซ่งอวิ๋นเหยาหลับลึกมาก ดังนั้นจึงไม่สังเกตเห็นว่าฟู่จาวหนิง มาอยู่ข้างเตียงนางแล้วตอนนี้ต่อให้พื้นเขย่าเขาสะเทือนนางก็คงจะไม่ตื่นแน่ฟู่จาวหนิงเลิกม่านเตียงออก ได้ยินเสียงหายใจไม่สม่ำเสมอของซ่งอวิ๋นเหยา"ดูท่าจะนอนไม่ค่อยดีเท่าไร ตอนนี้ยังฝันร้ายอีกหรือ?" ฟู่จาวหนิงร้องเฮอะขึ้นมา หยิบไฟฉายออกมาปรับแสง แสงไม่ถึงกับสาดออกมา แต่ก็เพียงพอให้นางเห็นใบหน้าซ่งอวิ๋นเหยาอยู่"เฮือก"ใบหน้าซ่งอวิ๋นเหยาถูกปะไว้ด้วยสิ่งของสีขาวชั้นหนึ่ง ดูแล้วเหมือนถูกมาส์กหน้าอยู่อย่างไรอย่างนั้นคิดไม่ถึงว่าตอนนางหลับก็จะมีของอย่างพวกมาส์กหน้าอยู่ด้วย?ยอดคนงามนี่นะฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดจะวาดอะไรลงไปบนหน้านาง แต่ตอนนี้พอเห็นว่าบนหน้านางมีของเหมือนโคลนขาวพอกอยู่ จึงหยิบเอาแปรงเล็กกับยาน้ำขวดเล็กใบหนึ่งออกมาสิ่งนี้เดิมทีจะเอาไปวาดบนหน้าซ่งอวิ๋นเหยา แต่ตอนนี้นางก็วาดลงไปบนจุดที่พอกหน้านางเสียเลย ถึงเวลาที่ซึมเข้าไปตื้นหน่อย ผลลัพธ์ก็น่าจะดียิ่งขึ้นนางมือหนึ่งถือไฟฉาย อีกมือหนึ่งถือแปรงเล็กปาดทาน้ำยาบนหน้าซ่งอวิ๋นเหยาทาตรงนี้ทีตรงนั้นทีหลังจากเสร็จสิ้นก็เก็บไฟฉายถอยออกมาฟู่จาวหนิงรีบถอยกลับตามทางเดิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 489

    ตอนนี้เอง ไม่ถึงครึ่งวัน สถานการณ์ของท่านหญิงอวิ๋นเหยาก็ขุดออกมาจนหมด กระทั่งมีคนขุดไปว่าท่านหญิงอวิ๋นเหยาวันนั้นยังยื้อยุดกับอ๋องเจวี้ยนที่หน้าประตูด้วยประชาชนทั้งเมืองล้วนอนุมานถึงความจริงของเรื่องราวท่านหญิงอวิ๋นเหยาใจปองอ๋องเจวี้ยน แต่อ๋องเจวี้ยนไม่ได้รู้สึกอะไรกับนาง พอนางเข้าไปพัวพันไม่ได้ ก็เลยย้ายโทสะไปที่พระชายาอ๋องเจวี้ยน คิดจะใส่ร้ายนาง ใครจะคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะปกป้องพระชายา จนสุดท้ายคนที่ถูกทำร้ายกลายเป็นเซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยา!ให้ตายเถอะ ท่านหญิงอวิ๋นเหยาเป็นคนอย่างนี้เองหรือ?กระดาษเรียกร้องความเป็นธรรมยังเขียนอีกว่า ท่านหญิงอวิ๋นเหยารู้ว่าตนเองทำให้เกิดเรื่องใหญ่โต ดังนั้นจึงไม่กล้าออกมาพบหน้าผู้คนอีกนาน"พวกเราจะรอดูว่าท่านหญิงอวิ๋นเหยาจะกล้าออกมาไหม""ถ้าหากนางถูกใส่ร้าย ลือกันจนเป็นเช่นนี้ ชื่อเสียงคงป่นปี้หมด แล้วจะไม่ออกมาตอบโต้ข่าวลือได้อย่างไร?"ด้านนอกลือกันดุเดือด กระทั่งมีคนที่ว่างจัดถึงกับไปนั่งจดจ้องซ่งอวิ๋นเหยาอยู่ที่นอกเรือนตระกูลซ่ง ดูว่านางจะออกมาไหมคนใช้ตระกูลซ่งที่ออกมาซื้อของเองก็ได้ยินข่าวลือด้านนอกแล้วพวกเขารีบร้อนกลับเข้าไป คิดจะ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 490

    "อ๊าๆๆๆ!"ซ๋งหยวนหลินก็ร้องเสียงแหลมขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่นี่ต่างห่างที่เป็นรอยแตกกระดองเต่าดูท่าเหมือนว่าใบหน้าที่ถูกแช่จนบวมของซ่งอวิ๋นเหยาแตกหลุดร่วงลงมาทีละชิ้นๆ อย่างไรอย่างนั้นภาพน่าตกตะลึงพรั่นพรึงมาก แม้ซ่งหยวนหลินจะรู้ว่านี่คือซ่งอวิ๋นเหยา แต่ก็รู้สึกว่ายังน่ากลัวมากอยู่ดีซ่งอวิ๋นเหยาตัวเองก็ทนไม่ไหว กรีดร้องขึ้นมาด้วยเช่นกัน"อ๊าๆๆ!"ซ่งหยวนหลินหมุนตัวพุ่งไปที่ประตู ดึงตัวหยินหลิ่วที่ร้อนรนจนทำไม่ไหวอยู่นอกประตูเข้ามา "เจ้ารีบไปดูท่านพี่อวิ๋นเหยาเร็ว!""ท่านหญิง!"หยินหลิ่วพุ่งออกไป ซ่งหยวนหลินหันหน้าเข้ามา ภาพนั้นกระทบกระเทือนหยินหลิ่วจนแข้งขาอ่อน "ท่าน ท่านหญิง?!""หน้าของข้า หน้าของข้ามันเกิดอะไรขึ้น?"เสียงของซ่งอวิ๋นเหยากำลังสั่นเครือหลังจากยาบำรุงความงามบนหน้านางเหล่านั้นร่วงลงมา บนหน้าก็เผยสีออกมา เป็นสีดำ ยิ่งไปกว่านั้นยังแปลกประหลาดอีกด้วยด้านบนคิ้วมีคิ้วเพิ่มมาอีกคู่หนึ่งรอบๆ ดวงตาล้วนเป็นวงดำ ดูแล้วเหมือนดวงตาใหญ่ครอบดวงตาเล็กทั้งคู่ไว้ด้านซ้ายและขวาของจมูกมีจมูกซีกหนึ่งยื่นออกมาฝั่งละข้าง มีรูจมูกเพิ่มมาข้างละรู หนีบจมูกของนางเอาไว้ ดูแล้วคล้า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 491

    หยินหลิ่วลังเลพูดวิธีการออกมาสองวิธี ถ้าเป็ฯช่วงปกติ การให้ซ่งอวิ๋นเหยาใช้ของสองสิ่งนี้มาล้างหน้าคือหาเรื่องตายแท้ๆ แต่ว่าตอนนี้ ซ๋งอวิ๋นเหยาทั้งหัวสมองก็คิดแต่ว่าจะล้างเจ้าสีดำบนใบหน้านี้ออกไปอย่างไร พอได้ยินว่ายังมีวิธีอื่น ก็ให้นางไปจัดหามาทันทีของจัดหามาแล้ว ซ่งอวิ๋นเหยาเองก็กัดฟันทนเจ็บแล้วล้างตอนที่เอาเกลือบชโลมหน้า นางก็ปวดจนทนไม่ไหวร้องไห้ออกมา เพราะก่อนหน้านี้ใบหน้าก็ถูกจนแดงไปหมดแล้ว บางจุดน่าจะถลอกแล้วด้วยแต่ไม่รู้สึกตัว ตอนนี้พอเอาเกลือทาลงไป ความระทมนั้นมันช่าง..."ล้าง ล้างออกไหม?"หลังจากล้างน้ำสะอาดไปรอบหนึ่ง ซ่งอวิ๋นเหยาก็ใช้นิ้วแตกไปเบาๆ บนหน้าก็ยังเจ็บจนอยากจะร้องไห้นางล้างต่อไม่ได้แล้ว ทำได้แค่เงยหน้าขึ้นมองซ่งหยวนหลินกับหยินเหลิ่ว เสียงสั่นเครือ ถามพวกนางขึ้นอย่างมีความหวังนี่น่าจะล้างออกหมดแล้วกระมัง?ซ่งหยวนหลินไม่กล้ามองนางของนางอีกนี่มันอย่างกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้นเดิมทีเป็นสีดำ ไม่ได้วาดเต็มไปทั้งหน้า ยังพอมีบางส่วนเป็นผิวหนังเดิมของนางอยู่ แต่ว่าพอล้างไปหลายรอบเข้า แล้วยังใช้สิ่งของต่างๆ มากมายมาถู ตอนนี้บนหน้าซ่งอวิ๋นเหยาจึงไม่เหลือผิวดีอยู่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 492

    หมอเซียวเองก็คิดหาวิธีสุดกำลังเขาเองก็ผสมน้ำยามากมายเพื่อจะล้างสีบนหน้าซ๋งอวิ๋นเหยาออก แต่ก็ไม่มีประโยชน์เลยไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นน้ำยาอะไร จะใช้สิ่งของใด สีบนหน้าซ่งอวิ๋นเหยาไม่ว่าอย่างไรก็ล้างไม่ออก ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่จางลงแล้วอีกด้วยกลับกันพอยิ่งใช้ของต่างๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใบหน้านั้นของซ่งอวิ๋นเหยาก็ยิ่งบวมแดงและแข็งมากขึ้นจนท้ายสุดขนาดที่นางทำสีหน้ามากหน่อยก็ยังดึงจนเจ็บปวด ขยับไม่ได้เลย เพราะแค่เอาน้ำมาล้างก็ยังเจ็บซ่งอวิ๋นเหยาขนาดจะร้องไห้ก็ยังไม่กล้า ร้องไห้เองก็ยังเจ็บทรมานอยู่วันหนึ่ง นางอย่าว่าแต่ออกจากบ้านเลย ซ่งหยวนหลินเองยังลืมบอกเรื่องที่ลือกันอยู่ภายนอกกับนางเสียด้วยซ้ำคนด้านนอกรออยู่หนึ่งวันหนึ่งคืนก็ไม่เห็นว่าซ่งอวิ๋นเหยาจะออกจากบ้าน จึงยิ่งลือกันออกไปหนักข้อขึ้นดูเอาเถอะ ท่านหญิ่งอวิ๋นเหยาไม่กล้าออกมาจริงๆ ด้วย!คนมากมายล้วนพูดเช่นนี้ หลังจากนั้นยังมีคนไปจดจ้องที่จวนชินอ๋องเซียวอีก แล้วยังหาคนเข้าไปแอบฟัง ได้ยินว่าคืนแต่งงานนั้นรัฐทายาทเซียวไม่ได้อยู่ในเรือนหอ หลังจากนั้นฮูหยินของรัฐทายาทวันต่อมาก็ตรงไปหาเขาที่ห้อง จากนั้นก็ถูกรัฐทายาทเซียวผลักออกมาฮูห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 493

    เพราะมีคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา ว่าเพราะอะไรตระกูลซ่งจึงมีท่านหญิงสองคน ยิ่งไปกว่านั้นท่านหญิงสองคนนี้พอดูดีดีแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรที่คู่ควรกับตำแหน่งท่านหญิงที่ได้รับพระราชทานมาเอาเสียเลยแต่ลมเช่นนี้ก็ไม่กล้าที่จะพัดกวาดมากนัก เพียงแต่ทั่วทั้งเมืองกำลังพูดกัน จะอย่างไรก็ต้องลือเข้าไปถึงในวังไทเฮาสบโอกาสทันที ตรงเข้าไปหาองค์จักรพรรดิก่อน"องค์จักรพรรดิ ประชาชนเริ่มคลางแคลงกับในวังแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กด้วย เรื่องนี้จะให้รุนแรงไปกว่านี้ไม่ได้ ดังนั้น ไม่ว่าพี่น้องตระกูลซ่งทั้งสองจะไปก่อเรื่องอะไรมา ครั้งนี้ก็ยังวุ่นวายมาถึงเบื้องพระพักตร์องค์จักรพรรดิแล้ว องค์จักรพรรดิจะลำเอียงให้พวกนางไม่ได้แล้วนะ""เสด็จแม่ ข้าไม่ได้ลำเอียงกับพวกนาง" องค์จักรพรรดิสีหน้ากลัดกลุ้ม รู้แค่ว่าไทเฮาพูดเช่นนี้ก็เพื่อตัวเขาเอง ที่เขากลัดกลุ้มคือพี่น้องตระกูลซ่ง "ก่อนหน้านี้ที่พระราชทานตำแหน่งท่านหญิงก็ไม่มีใครพูดว่าไม่เหมาะสม แล้วนี่ไปก่อเรื่องอะไรมากัน?""พวกนางสองปีนี้ทำการใดก็เหมือนจะใจร้อนไปหน่อย เฮ้อ เด็กสาวนี่ล่ะหนา เช่นนั้นองค์จักรพรรดิก็ต้องดูแลให้มากหน่อย ก่อนหน้านี้ที

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 494

    บันทึกเล่มเล็กนั่น เหมือนจะเป็นบันทึกประจำวันของฟู่หลินซื่อฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าฟู่หลินซื่อจะมีความเคยชินจดบันทึกด้วยแต่ว่านางก็ไม่ได้แค่จดบันทึกอย่างเดียว แต่ยังเขียนบทกลอนลงไปด้วย บาทีก็วาดรูปลงไปตัวหนังสือของฟู่หลินซื่อสวยสง่างดงาม ถ้าหากมองเห็นคนจากตัวอักษรได้ล่ะก็ ก็ควรจะเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนคนหนึ่งภาพของนางเองก็ดูมีจิตวิญญาณด้วย ต่อให้เป็นแค่ภาพดอกไม้ดอกเดียว ดอกไม้ที่กลีบไม่สมบูรณ์กับแมลงตัวน้อยบนกลีบดอกไม้ก็ทำให้ดอกไม้เหมือนมีชีวิตขึ้นมาฟู่จาวหนิงใช้เวลาไปครึ่งวันถึงเปิดอ่านหมด เลือกประโยคที่มีอารมณ์ส่วนหนึ่ง และยังมีบางส่วนที่กระตุ้นความทรงจำฟู่หลินซื่อออกมา"สะใภ้ใหญ่บอกว่า หลังจากออกเรือนต้องดูแลครอบครัวพ่อแม่ให้ดี ไม่เช่นนั้นหลายปีนี้ในบ้านก็คงจะเลี้ยงข้ามาเสียเปล่า เดิมทีเงินเหล่านั้นที่เลี้ยงดูข้าส่วนที่เหลือก็สามารถมอบให้กับลูกสาวของบ้านพวกเขาได้"""ท่านแม่บอกว่า หลังจากนี้ในบ้านเหล่าหลานสาวหลานชายแต่งงานไป ข้าก็ต้องส่งของขวัญให้มากๆ ไม่ให้เสียแรงที่พวกเขาเรียกข้าว่าป้า""สามีดีกับข้ามาก แต่บ้านสองบ้านสามตระกูลฟู่กลับมีเจตนาไม่ดีกับข้า""รู้สึกว่าบ้านสี่แป

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 495

    ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ตามมาก็น่าเวทนานักซ่งอวิ๋นเหยาตอนนี้ก็แค่ไม่เหลือความสมบูรณ์แบบอีกแล้ว ไหนจะเรื่องนี้ที่ต่อให้เป็นความจริง ก็แค่ถูกเปิดโปงออกมาเท่านั้น นางมีอะไรน่าสงสารกัน?เช่นนั้นก็ปล่อยนางไปเถอะ ด้านนอกจะลือกันอย่างไร พวกเราไม่ต้องไปสนใจ"คุณหนู ยังมีคนมาหาข่าวทางพวกเราด้วย อยากรู้ว่าคุณหนูวันนั้นหนีรอดมาได้อย่างไร แล้วยังมีคนมาถามอีกว่า เห็นลือกันว่าอ๋องเจวี้ยนดีกลับคุณหนูมาก แต่ทำไมคุณหนูถึงยังไม่ไปอยู่ที่จวนอ๋องเจวี้ยนอีก?"เสี่ยวเถามองอย่างใจตุ้มต่อมไปทางฟู่จาวหนิง"แล้วเจ้าตอบไปอย่างไรล่ะ?""ข้าน้อยบอกว่า คุณหนูยังเป็นห่วงผู้เฒ่าฟู่""อืม พูดเช่นนี้ก็ดีแล้วนี่"ตอนนี้เองก็มีคนหลายคนตามกลุ่มคนเข้ามาในเมืองหลวงคนเหล่านี้เดินวนๆ อยู่ในเมือง เดินบนถนนบ้าง จากนั้นก็หาโรงน้ำชา แล้วนั่งลงในห้องหรูหรา รอคนมารับแต่ว่าห้องหรูหรานี้ก็กั้นเสียงได้ไม่ดีนัก หลังจากพวกเขานั่งลงก็ได้ยินเสียงที่ห้องข้างๆ พูดคุยอยู่ตลอดคนที่เป็นหัวหน้าฟังอยู่ครู่หนึ่ง ก็มองไปทางคนหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ"นี่กำลังพูดถึงพระชายาอ๋องเจวี้ยนหรือ?""ท่านผู้เฒ่า ใช่แล้ว""คุณหนูตระกูลซ่งคน

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1808

    นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1807

    สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1806

    "ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1805

    องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1804

    ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1803

    ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1802

    "รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1801

    ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1800

    "ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status