เซียวหลันยวนได้ยินคำพูดของนางก็อยากจะขำ"ดังนั้น เจ้าเผ่นไปที่ไหนกัน? ขนาดองค์รักษ์เงามังกรยังหาเจ้าไม่พบเลย?" จุดนี้ทำให้เซียวหลันยวนแปลกใจอย่างที่สุด"ถึงอย่างไรท่านก็บอกว่าข้าเกิดปีหนูไม่ใช่หรือ ท่านก็มองข้ามุดไปซ่อนในรูเลยก็แล้วกัน"ฟู่จาวหนิงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว "แต่ว่าท่านใช้งานองครักษ์เงามังกรเช่นนี้ ไม่ใช่เป็นการงัดกับเบื้องหลังของฮูหยินหรงเยว่หรอกหรือ ไม่กลัวองค์จักรพรรดิกริ้วหรือไร?"หอจันทร์หยาดที่องค์จักรพรรดิฮองเฮาคิดจะปกป้อง ท่านคิดจะปิดก็ปิดเลยแบบนี้ มิน่าองค์จักรพรรดิถึงได้เอาแต่คอยระแวงเขา"กลัว?" เซียวหลันยวนมองนาง หัวเราะร่าขึ้นมา "ข้าเพราะกังวลพระชายา จึงไม่ได้คิดให้รอบคอบ ลนลานไปหมด เช่นนี้ก็น่าจะเข้าใจได้กระมัง? จะว่าไป องครักษ์เงามังกรอยู่ในมือข้า เขายังต้องมาวุ่นวายอีกหรือว่าข้าจะใช้งานอย่างไร?"มีฝีมือก็มาเอาองครักษ์เงากลับไปสิประโยคนี้เซียวหลันยวนไม่ได้พูด แต่ว่าฟู่จาวหนิงฟังออกแล้ว"เฮอะไ ตอนนี้องค์จักรพรรดิไม่ใช่ว่าคิดจะเก็บอำนาจในมือท่านหรือไรกัน? ท่านเองก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ถ้าวันไหนองครักษ์มังกรเงาถูกเก็บกลับไปล่ะก็ เช่นนั้นท่านก็ย่ำแย่แ
ฟู่จาวหนิงหลังจากถามออกมาก็ไม่รอให้เซียวหลันยวนตอบ เข้าใจขึ้นมาทันที "ท่านกำลังกังวลว่าจะข้าไปทำให้ซ่งอวิ๋นเหยาเดือดร้อนหรือ ดังนั้นจึงคิดจะมาขวางข้าที่นี่?"เซียวหลันยวนยกมือดีดไปที่หน้าผากนางทีหนึ่งเสียงดัง "เผียะ""คิดอะไรของเจ้า?" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น "ข้าจู่ๆ เพิ่งนึกออกได้ว่าเคยเห็นตราหยกของเฮ่อเหลียนเฟยที่ไหน รูปภาพนั้นน่ะ""หา?ฟู่จาวหนิงงงงัน "ที่ไหนกัน?""จากบนตัวของคนที่มาจากต้าเฮ่อคนหนึ่ง" เซียวหลันยวนเอ่ยถึงท่านเสิ้น"เสิ่นเสวียน?"หลังจากที่ฟู่จาวหนิงได้ยินเรื่องราวของเสิ่นเสวียนจากตระกูลเสิ่นแห่งต้าเฮ่อจึงพบว่า ตนเองถูกเซียวหลันยวนพามายังโถงหน้าเพื่อกินข้าวเช้าอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวเสียแล้ว"อืม เขาคือคนที่จากแคว้นเจาพร้อมกับซ่งอวิ๋นเหยา ซ่งอวิ๋นเหยาจะพาหมอเทวดาหลี่ไปรักษาเขา แต่เหมือนว่าต้องรออีกสามวัน เสิ่นเสวียนจึงต้องหยุดพักลงมาเสียก่อน""แล้วทำไมถึงเป็นสกุลเสิ่นกันล่ะ?"ฟู่จาวหนิงดูงงงัน เพราะบนตราหยกชิ้นนั้นสลักอักษรฟู่ไว้ตอนนี้บนเสื้อผ้าของคนสกุลเสิ่นมีภาพนั้นอยู่ รู้สึกว่าดูไม่ค่อยเข้าทีเลย"ตระกูลเสิ่น เป็นตระกูลเก่าแก่มีชื่อเสียงเลื่องชื่อแห่ง
"ข้าได้ยินว่าพวกท่าน...""ข้าจะส่งเจ้ากลับไปที่บ้านตระกูลฟู่เปลี่ยนยาให้กับท่านปู่เสียก่อน แล้วเจ้าค่อยพิจารณาดูว่าจะพาเฮ่อเหลียนเฟยไปพบเสิ่นเสวียนด้วยกันไหม" เซียวหลันยวนพูดพลางดึงมือของนางเดินเขาไม่คิดเลยว่าจะได้ยินนางพูดถึงเรื่องของซ่งอวิ๋นเหยาก่อนหน้านี้มีรักเก่าอะไรที่ไหนกัน?นางไม่เข้าใจจิตใจของเขาเอาเสียเลยเมื่อวานเขายังกังวลว่านางจะเป็นอะไรอยู่เลย แต่ก็ไม่ได้ยินนางถามไถ่เขาเลยสักคำฟู่จาวหนิงถูกเขาดึงไปเช่นนี้ พอมาถึงตระกูลฟู่ แล้วยังถูกเขาผลักเข้าประตูไปด้วย"ไปเถอะ ข้าให้เวลาเจ้าครึ่งชั่วยาม จะรออยู่ที่นี่"ไม่รอให้ฟู่จาวหนิงพูดอะไร เซียวหลันยวนก็กลับไปบนรถม้า รถม้าจอดนิ่งอยู่ที่ประตูหลังบ้านตระกูลฟู่ ชัดเจนว่าจะรออยู่ที่นี่ฟู่จาวหนิงเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเซียวหลันยวนตอนนี้หมายความว่าอะไรเขามีเวลาว่างขนาดนี้เสียที่ไหน?แล้วยังจะรอนางที่นี่อีกแต่ว่า เรื่องนี้นางก็ยังต้องเข้าไปบอกกับเฮ่อเหลียนเฟยเสียหน่อย เซียวหลันยวนยอมรอที่นี่ก็ให้เขารอไปแล้วกันมองฟู่จาวหนิงเข้าประตูไป เซียวหลันยวนก็ปล่อยม่านลง"คนเหล่านั้นของบ้านตระกูลฟู่ ช่วงนี้จับตา
"จาวหนิง ปู่ไม่ได้คิดจะตำหนิเจ้า" ผู้เฒ่าฟู่กวักวมือให้นางเข้ามาหา ยื่นมือลูบไปบนเส้นผมนาง "แค่กังวลว่าเจ้าท้ายสุดจะถูกเอาเปรียบ"เขามองไม่ออกเสียที่ไหน ว่าตอนนี้ฟู่จาวหนิงอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนคุ้นชินขึ้นมาเรื่อยๆ แล้ว เรื่องเช่นนี้ถ้ายิ่งมากขึ้นๆ หลังจากนี้นางก็อาจจะมองจวนอ๋องเจวี้ยนเป็นเหมือนบ้านตนเองไปจริงๆ ก็ได้อ๋องเจวี้ยนคนนั้นเขาเคยพบมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น เขายังเคยหาข่าวมาแล้ว เคยได้ยินมาแล้วหลายวันนี้ เขาเองก็ได้ยินเรื่องบางส่วนจากจงเจี้ยนมาไม่น้อย แล้วก็พวกของสืออีอีก บางครั้งที่ลองเลียบเคียงอ้อมๆ ก็ยังรู้ได้ว่าอ๋องเจวี้ยนเป็นคนเช่นไรเสี่ยวเถาเคยพูดว่า พวกหญิงชั้นสูงภายนอกไม่น้อยที่ชื่นชอบตัวอ๋องเจวี้ยน ที่ขึ้นไปบนเขาเมฆนภาก็มีคนไม่น้อยที่หึงหวงแย่งชิงอ๋องเจวี้ยนกันดังนั้น อยู่ข้างกายผู้ชายแบบนี้ แล้วยังต้องแบกตัวตนฐานะภรรยาของเขาอีก หากนานวันเข้า จาวหนิงจะหวั่นไหวขึ้นมาบ้างมันก็เรื่องปกติถ้าเผื่อนางหวั่นไหวขึ้นมา แล้วท้ายสุดเขากลับทำร้ายนางขึ้นมาล่ะ ถ้าเสียใจขึ้นมาแล้วจะชดเชยกลับอย่างไร?"ท่านปู่" ฟู่จาวหนิงนิ่งงันไปครู่หนึ่ง เอ่ยกับเขาอย่างตั้งใจ "ท่านไม่ต้องกังวล
ถึงแม้ผู้เฒ่าฟู่จะพูดว่าตราหยกนั่นเกี่ยวข้องับฟู่หลินซื่อ แต่พวกกเขาไม่ใช่ว่ายังไม่ได้ยืนยันหรอกหรือ?ฟู่จาวหนิงคิดๆ จากนั้นจึงบอกกับเขาว่า "จะว่าไป อ๋องเจวี้ยนวันนั้นเห็นคนคนหนึ่ง บนเสื้อผ้าเขามีรูปที่อยู่บนตราหยกด้วย พวกเรากำลังจะไปพบเขา เจ้าจะไปด้วยกันไหม?"ผู้เฒ่าฟู่ตึงเครียดขึ้นมาหน่อยๆ "มีรูปที่เหมือนกับบนตราหยกหรือ? แล้วนั่นจะใช่แม่ของเจ้าไหม?""ท่านปู่ เป็นชายอายุราวสี่สิบปีคนหนึ่งน่ะ"สี่สิบปี? "พ่อของเจ้าก็อายุยังไม่ถึงสี่สิบเลย เขาเป็นพ่อเจ้าตอนอายุสิบแปด""เขาสกุลเสิ่น ไม่ใช่สกุลฟู่ ท่านปู่ ท่านไม่ต้องร้อนใจ ถึงตอนนั้นข้าจะดูเอง อย่างน้อยก็น่าจะมีเบาะแสบ้าง"ผู้เฒ่าฟู่ส่ายศีรษะยิ้มๆ "จาวหนิง ข้ารู้ว่าอันที่จริงเจ้าไม่ได้อยากจะเจอพ่อกับแม่นักหรอก แต่ว่า เจ้าเชื่อปู่ พวกเขาไม่ใช่คนที่จะใจดำไร้ความรับผิดชอบขนาดนั้น ตอนนั้นพวกกเขาจะต้องไม่ได้จงใจทิ้งเจ้าไว้แน่ จะต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างทำให้พวกเขาต้องออกไป""เรื่องนี้ถึงเวลาพอได้เจอแล้วค่อยว่ากันเถิด"ฟู่จาวหนิงไม่อยากจะเอาแต่คุยหัวข้อนี้ นางมองไปทางเฮ่อเหลียนเฟยเฮ่อเหลียนเฟยเองก็ตื่นเต้น เขาอยากจะไป แต่พอมองขาตนเอง ค
สถานที่ที่เสิ่นเสวียนพักห่างจากบ้านตระกูลฟู่ไม่ไกลเลยสถานที่นี้ฟู่จาวหนิงยังคุ้นเคยเป็นอย่างดี ที่นี่เป็นสระน้ำเล็กๆ แห่งหนึ่ง สระน้ำนี้พอถึงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนจะมีบัวน้ำลอยขึ้นมาด้วยนางจำได้ว่าตอนเด็กๆ น่าจะตอนอายุสิบเอ็ดสิบสองปี มีพ่อค้ายาชั่วช้าหลอกนางมาก บอกว่าดอกบัวที่ลอยอยู่นี้ใช้ทำยาได้ นางเองก็เชื่อ ดังนั้นจึงคงไปหาดอกไม้ในสระน้ำนี้คนเดียว ผลคือตกลงไปในสระจนเกือบจะจมน้ำตายยังดีที่ลุงเฝ้ายามในเรือนเก่าข้างสระน้ำช่วยชีวิตนางเอาไว้ ถึงอย่างไรที่นี่ก็เงียบสงบมาก ปกติไม่ค่อยมีร่องรอยของคนผลลัพธ์คือ เสิ่นเวียนก็พักอยู่ที่เรือนเก่าหลังนี้หรือ?"เรือนหลังนี้เป็นของใครกัน" ฟู่จาวหนิงถามครั้งนั้นหลังจากที่นางถูกช่วยขึ้นมาก็กลับไปที่บ้านแบบมึนๆ งงๆ คืนนั้นไข้ขึ้นด้วย พอผ่านไปหลายวันคิดจะส่งขนมมาขอบคุณลุงคนนั้น ประตูใหญ่ก็ถูกลงดาลไปแล้วฟู่จาวหนิงจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเรือนนี้เป็นของใคร ต่อมานางยังมาอีกสองครั้งแต่ก็ไม่พบคน"ยังตรวจสอบไม่ได้" เซียวหลันยวนตอบฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาด ขนาดเขาก็ยังตรวจสอบไม่ได้?"นั่นสายตาอะไรของเจ้า?" เซียวหลันยวนถูกสายตาสงสัยของนางทำให้โมโ
"อยู่""ข้าพาพระชายามาตรวจอาการให้นาง"ฟู่จาวหนิงแทงเขาไปอีกที พูดแบบนี้มันไม่เกรงใจกันเลยนี่นา แต่ว่าพอนางมาคิดอีกทีแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเสิ่นหยางป่วยต้องการหมอ พวกเขาก็มาหาถึงประตูแล้ว แล้วถ้ายังใช้เสียงต่ำนอบน้อมเกรงใจ นั่นก็เท่ากับกดนางให้ต่ำไว้น่ะสิเซียวหลันยวนพูดเช่นนี้ น่าจะไม่ได้ทำเพื่อนางกระมัง?"อ๋องเจวี้ยน พระชายาอ๋องเจวี้ยน เชิญ"ฟู่จาวหนิงตอนนี้จึงเงยหน้ามองออกไปจากในอ้อมกอดเซียวหลันยวน ทันใดนั้นก็ตกตะลึงไปทันที "ท่านลุง?"ลุงคนนี้ไม่ใช่ลุงคนที่เคยช่วยนางเอาไว้ในอดีตหรอกหรือ?แม้จะผ่านไปแล้วหลายปี แต่นางก็ยังจำได้พอเห็นฟู่จาวหนิง ลุงคนนั้นก็ตกตะลึง พอคิดแล้วจึงนึกออกขึ้นมา "ท่านคือเด็กสาวที่ตกไปในสระน้ำตอนนั้นหรือ?""ตกไปในสระน้ำ?"เซียวหลันยวนย้อนประโยคนี้ หันหน้าไปมองสระน้ำที่อยู่ไม่ห่างออกไปเบื้องหน้าอยู่ดีไม่ว่าดี ฟู่จาวหนิงก็วิ่งเล่นจนมาตกสระน้ำนี้หรือ?"ใช่แล้วข้าเอง ท่านลุง หลังจากนั้นข้าก็แวะมาหาท่าน อยากจะขอบคุณท่าน แต่ประตูนี้ก็ลงดาลอยู่ตลอด หาตัวท่านไม่พบเลย""ข้าบางครั้งก็ออกไปทำธุระน่ะ แต่ว่า มันก็แค่เป็นการช่วยแบบเสียมิได้เท่านั้น แม่นางอย่าเอ
"อ๋องเจวี้ยน พระชายาอ๋องเจวี้ยน"เสิ่นเสวียนหลังจากทักทายพวกเขาก็ให้คนนำใบชากล่องหนึ่งเข้ามา"ก่อนหน้านี้บอกว่าจะมอบใบชาให้กับอ๋องเจวี้ยน แต่เพราะอาการป่วยยังไม่ค่อยดีนัก จึงไม่ได้ไปเยี่ยมถึงหน้าประตูเสียที ต้องลำบากอ๋องเจวี้ยนนำกลับไปเองเสียแล้ว""ขอบคุณมาก"เซียวหลันยวนเอ่ยกับฟู่จาวหนิงว่า "ชาของท่านเสิ่นรสชาติดีมาก"ฟู่จาวหนิงประหลาดใจเล็กๆ เพราะว่าอาจารย์ฟิสิกส์ของนางคนนั้นก็ชอบดื่มชามาก ยิ่งไปกว่านั้นว่ากันว่าชาของเขารสชาติดีมากด้วยนี่บังเอิญเกินไปแล้วอาจจะเพราะความบังเอิญนี้ ฟู่จาวหนิงจึงรู้สึกสนิทสนมกับเสิ่นเสวียนหน่อยๆ"หลังจากมาถึงเมืองหลวงได้ยินว่า วิชาแพทย์ของพระชายาอ๋องเจวี้ยนยอดเยี่ยมมาก" เสิ่นเสวียนมองนางฟู่จาวหนิงพยักหน้า "วิชาแพทย์ของข้าก็ไม่เลวจริงๆ นั่นล่ะ"พอได้ยินคำตอบนาง เสิ่นเสวียนก็ตกตะลึงไป จากนั้นจึงหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ "เช่นนั้นพระชายาอ๋องเจวีย้นช่วยตรวจอาการให้ข้าหน่อยได้ไหม?""แน่นอน"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ชักช้า ขอน้ำมาล้างมือทันที จากนั้นก็เดินไปตรวจอาการให้เขาอย่างละเอียดชีพจรของเสิ่นเสวียน สับสนอย่างมากมองห่างๆ ยังพอไหว แต่พอมองใกล้