"อยู่""ข้าพาพระชายามาตรวจอาการให้นาง"ฟู่จาวหนิงแทงเขาไปอีกที พูดแบบนี้มันไม่เกรงใจกันเลยนี่นา แต่ว่าพอนางมาคิดอีกทีแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเสิ่นหยางป่วยต้องการหมอ พวกเขาก็มาหาถึงประตูแล้ว แล้วถ้ายังใช้เสียงต่ำนอบน้อมเกรงใจ นั่นก็เท่ากับกดนางให้ต่ำไว้น่ะสิเซียวหลันยวนพูดเช่นนี้ น่าจะไม่ได้ทำเพื่อนางกระมัง?"อ๋องเจวี้ยน พระชายาอ๋องเจวี้ยน เชิญ"ฟู่จาวหนิงตอนนี้จึงเงยหน้ามองออกไปจากในอ้อมกอดเซียวหลันยวน ทันใดนั้นก็ตกตะลึงไปทันที "ท่านลุง?"ลุงคนนี้ไม่ใช่ลุงคนที่เคยช่วยนางเอาไว้ในอดีตหรอกหรือ?แม้จะผ่านไปแล้วหลายปี แต่นางก็ยังจำได้พอเห็นฟู่จาวหนิง ลุงคนนั้นก็ตกตะลึง พอคิดแล้วจึงนึกออกขึ้นมา "ท่านคือเด็กสาวที่ตกไปในสระน้ำตอนนั้นหรือ?""ตกไปในสระน้ำ?"เซียวหลันยวนย้อนประโยคนี้ หันหน้าไปมองสระน้ำที่อยู่ไม่ห่างออกไปเบื้องหน้าอยู่ดีไม่ว่าดี ฟู่จาวหนิงก็วิ่งเล่นจนมาตกสระน้ำนี้หรือ?"ใช่แล้วข้าเอง ท่านลุง หลังจากนั้นข้าก็แวะมาหาท่าน อยากจะขอบคุณท่าน แต่ประตูนี้ก็ลงดาลอยู่ตลอด หาตัวท่านไม่พบเลย""ข้าบางครั้งก็ออกไปทำธุระน่ะ แต่ว่า มันก็แค่เป็นการช่วยแบบเสียมิได้เท่านั้น แม่นางอย่าเอ
"อ๋องเจวี้ยน พระชายาอ๋องเจวี้ยน"เสิ่นเสวียนหลังจากทักทายพวกเขาก็ให้คนนำใบชากล่องหนึ่งเข้ามา"ก่อนหน้านี้บอกว่าจะมอบใบชาให้กับอ๋องเจวี้ยน แต่เพราะอาการป่วยยังไม่ค่อยดีนัก จึงไม่ได้ไปเยี่ยมถึงหน้าประตูเสียที ต้องลำบากอ๋องเจวี้ยนนำกลับไปเองเสียแล้ว""ขอบคุณมาก"เซียวหลันยวนเอ่ยกับฟู่จาวหนิงว่า "ชาของท่านเสิ่นรสชาติดีมาก"ฟู่จาวหนิงประหลาดใจเล็กๆ เพราะว่าอาจารย์ฟิสิกส์ของนางคนนั้นก็ชอบดื่มชามาก ยิ่งไปกว่านั้นว่ากันว่าชาของเขารสชาติดีมากด้วยนี่บังเอิญเกินไปแล้วอาจจะเพราะความบังเอิญนี้ ฟู่จาวหนิงจึงรู้สึกสนิทสนมกับเสิ่นเสวียนหน่อยๆ"หลังจากมาถึงเมืองหลวงได้ยินว่า วิชาแพทย์ของพระชายาอ๋องเจวี้ยนยอดเยี่ยมมาก" เสิ่นเสวียนมองนางฟู่จาวหนิงพยักหน้า "วิชาแพทย์ของข้าก็ไม่เลวจริงๆ นั่นล่ะ"พอได้ยินคำตอบนาง เสิ่นเสวียนก็ตกตะลึงไป จากนั้นจึงหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ "เช่นนั้นพระชายาอ๋องเจวีย้นช่วยตรวจอาการให้ข้าหน่อยได้ไหม?""แน่นอน"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ชักช้า ขอน้ำมาล้างมือทันที จากนั้นก็เดินไปตรวจอาการให้เขาอย่างละเอียดชีพจรของเสิ่นเสวียน สับสนอย่างมากมองห่างๆ ยังพอไหว แต่พอมองใกล้
เสิ่นเสวียนรับกระดาษชิ้นนั้นมา มองภาพบนตราหยก หลังจากฟังคำพูดนางจบก็ใช้นิ้วชี้เขานิ่งงันไปครู่หนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า "บนตราหยนกี้ไม่น่าจะใช้อักษรฟู่ แต่เป็นอักษรเชี่ยว""เชี่ยว?""ถูกต้อง น้องสาวที่หายไปมีชื่อว่าเสิ่นเชี่ยว ตราหยกชิ้นนั้น น่าจะใช้รูปภาพของนาง มีคนสลักตราหยกนี้ให้นางโดยใช้ชื่อของนาง" เสิ่นเสวียนเอ่ยขึ้นอย่างชัดเจน"เสิ่นเชี่ยว"ฟู่จาวหนิงทวนชื่อนี้ซ้ำท่านปู่ก่อนหน้านี้เคยพูดไว้ ว่าอักษรฟู่บนตราหยกชิ้นนั้น คือสิ่งที่พ่อของนางสลักขึ้นมาใหม่ เพื่อทับอักษรเดิมลงไป บอกว่าเดิมทีบนนั้นไม่ใช่อักษรฟู่"ตราหยกแบบนี้ บนโลกนี้จะมีชิ้นอื่นอยู่ด้วยไหม?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นมาอีกครั้ง"น่าจะไม่มี หนึ่งคือ ภาพนี้มีแค่บ้านของข้าที่รู้จัก ไม่ได้ถ่ายทอดออกไปภายนอก สองคือ ชื่อขงน้องสาวที่สาบสูญไปอันที่จริงก็มีไม่กี่คนที่รู้จัก"หลังจาถามฟู่จาวหนิงชัดเจน คำพูดของเสิ่นเสวียนก็เปลี่ยนไป"เช่นนั้น ตอนนี้ก็คงจะวนมาถึงปัญหาที่ข้าจะถามพระชายาได้แล้วใช่หรือไม่?"ฟู่จาวหนิงถามไปตั้งมากมายก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงรู้สึกไม่ถูกต้องแน่ ดังนั้นนางจึงผายมือออก เอ่ยขึ้นว่า "ท่านปู่ของข้าพูดว่า ว่าตราหยกชิ้นน
ครั้งแรกที่ได้ยินใช่แล้วหมอที่เสิ่นเสวียนเคยพบก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่ล้วนพูดว่าเขาป่วย ไม่ก็บอกว่าเขาติดพิษ แต่ที่ว่าป่วยอะไร ติดพิษได้อย่างไร แล้วติดพิษอะไร เหล่าหมอก็ล้วนพูดออกมาไม่ได้ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็ลองย้อนคิดไปถึงวันที่ข้าเริ่มป่วยจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่พบว่าใครมาวางพิษใส่ข้า แล้ววางพิษลงมาอย่างไรและเรื่องเช่นนี้ก็ทำให้เขาอนุมานถึงคนมากมายนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยังไม่ได้อะไร"เรื่องนี้ก็ปกติ หมอทั่วไปคงมองไม่ออกหรอก"ฟู่จาวหนิงตอนที่พูดก็ไม่ได้มีเจตนาจะกดดันหมอคนอื่น และไม่ได้ดูถูกใครด้วย หลักๆ คือยุคสมัยแตกต่างกันการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ก็แตกต่างกัน ยุคนี้ยังไม่รู้จักรังสี การที่พวกหมอตรวจไม่พบสาเหตุที่แท้จริงจึงเป็นเรื่องปกติก็แค่พวกเขาไม่รู้จักเท่านั้นเองดังนั้นพอพูดขึ้นมา นางจึงดูกร่างขึ้นมาเสิ่นเสวียนอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ต่อให้ฟังออกว่าอาการป่วยของตนเองจะดูหนักหนาดูยุ่งยากนักก็ตาม แต่เขาก็ยังหัวเราะออกมา"ถ้าพูดเช่นนี้ วิชาแพทย์ของพระชายก็ยอดเยี่ยมมากจริงๆ"ทหารที่อยู่ข้างๆ ก็อดถามขึ้นมาไม่ได้ "พระชายาอ๋องเจวี้ยน นายท่านของข้าป่วยเป็นอะไรหรือ?"พวกเขาเดินมาทาง
เสิ่นเสวียนพูดจบก็หมุนตัวไปทางเซียวหลันยวน "อ๋องเจวี้ยนไม่มีความเห็นใดกระมัง?""ข้า""เขาจะมีความเห็นอะไรได้? คนที่รักษาอาการป่วยให้เขาก็คือข้านะ" ฟู่จาวหนิงฮึดฮัด"ใช่แล้ว พระชายาของข้าพูดถูกต้อง" เซียวหลันยวนพยักหน้าแต่ว่าคำพูดของเขาก็เปลี่ยนไป "แต่ว่า ค่ารักษาของท่านเสิ่น""แน่นอนว่าจะไม่ให้ขาดตกบกพร่อง พระชายาอ๋องเจวี้ยนบอกมาเท่าไรก็คือเท่านั้น"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่เกรงใจ "ข้าคิดเงินแพงอยู่นะ""ได้" เสิ่นเสวียนไม่ถามอะไรเลย"เช่นนั้นวันนี้จ่ายก่อนหนึ่งพันตำลึงแล้วกัน หลังจากนี้ทุกเดือนก็จ่ายมาหนึ่งครั้ง""อาลั่ว ไปเอาเงินมา" เสิ่นเสวียนเอ่ยกับลุงคนนั้นที่แท้ก็คือลุงลั่วนี่เองเงินหยิบมาแล้ว ฟู่จาวหนิงก็เก็บไปอย่างไม่เกรงใจ"เช่นนั้นตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือต้องหาต้นกำเนิดของรังสี""อะไรคือต้นกำเนิดของรังสี?" ลุงลั่วถามเสิ่นเสวียนเข้าใจขึ้นมา "ท่านกำลังพูดถึงวัตถุที่ปล่อยรังสีจนทำให้ข้าเจ็บป่วยสินะ?""ถูกต้อง ในเมื่ออาการป่วยของท่านแย่ลงเรื่อยๆ ก็อธิบายได้ว่าของชิ้นนี้ยังอยู่ข้างกายท่านมาตลอด ถ้าหากช่วงนี้ท่านไม่ได้ออกไปที่ไหน เช่นนั้นสิ่งของก็น่าจะอยู่ในห้องนั้น
"นี่เป็นสิ่งที่ท่านพ่อมอบให้ เขาเรียกมันว่าหินนภา หายากอย่างมาก""หินนภา"ฟู่จาวหนิงหยิบขึ้นมา "นี่เป็นสิ่งที่ท่านพกไว้ตลอดหรือ?""อืม ปตกิแล้วจะพกไว้ตลอด""เวลานายท่านครุ่นคิดก็มักจะหยิบหินนภาสองชิ้นนี้ไว้ในมือ""สิ่งนี้ต้องตรวจอย่างละเอียด ข้าต้องใช้น้ำยากับมัน ข้าสามารถนำกลับไปได้ไหม? สามวันให้หลังจะนำมาส่งคืน"แน่นอนว่านางไม่ได้ใช้น้ำยา แต่จะเอากลับไปใช้เครื่องมือในห้องเภสัชเพื่อตรวจสอบ แม้ว่านางจะยืนยันไปแล้วระดับหนึ่ง"ได้เลย"เสิ่นเสวียนรับคำทันทีรอจนฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนจากไป ทหารก็มองเสิ่นเสวียนอย่างกังวล"นายท่าน ถ้าหากหินนภาคู่นั้นมีปัญหาจริง เช่นนั้นท่านผู้เฒ่ารองจะ..."นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย เพราะหลังจากที่ร่างกายของนายท่านมีปัญหา เรื่องส่วนใหญ่ในตระกูลเสิ่น ก็ล้วนตกไปอยู่กับบ้านของท่านผู้เฒ่ารอง กระทั่งบ้านของนายท่าน ฮูหยินของนายท่านพวกเขาก็ยังต้องอยู่ด้วกันกับท่านผู้เฒ่ารองในบ้านตระกูลเสิ่นเลยแต่ว่า ท่านผู้เฒ่ารองนั้นเห็ฯนายท่านเติบโตมาเลยนะ นายท่านนับถือเขาเชื่อใจเขามาตลอด ถ้าหากเป็นปัญหาจากทางท่านผู้เฒ่ารองล่ะก็เขาเองก็ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่านายท่านจ
ชิงอีเห็นท่าทางของเขาก็ไม่กล้าพูดมาก ดำเนินการทันทีส่วนทางเซียวเหยียนจิ่งพอตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไปหนึ่งวันเต็ม คนก็ถูกชินอ๋องเซียวให้คนลากไปด้านนอก ใช้เท้าเตะไปที่ขาของเขาทีหนึ่งเซียวเหยียนจิ่งคุกเข่าลงไป เจ็บจนหูตาจมูกบนหน้าขมวดรวมกันเข้ามา"ท่านพ่อท่านทำอะไรน่ะ?""ทำอะไร? แล้วเจ้าทำไมไม่บอกว่าตัวเองไปทำอะไรมา?!"ชินอ๋องเซียวโมโหจนหน้าเขียวไปแล้ว ในมือถือแส้เล่มหนึ่ง อยากจะฟาดเจ้าทายาทไม่ได้เรื่องคนนี้ให้ตายไปทันทีเสียจริง"เจ้าวันนี้นอนกรนอยู่ทั้งวัน ไม่รู้ว่าทั้งเมืองหลวงกำลังขบขันจวนชินอ๋องเซียวของเราอยู่! หน้าของข้าถูกเจ้าทำลายไปจนป่นปี้แล้ว! ตอนนี้ ตอนนี้ หมอเทวดาหลี่นั่งนิ่งอยู่ที่โถงหน้าไม่ยอมไปไหนแล้ว!"เซียวเหยียนจิ่งยังไม่ทันได้ตั้งตัวว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น"ขบขันจวนอ๋องของพวกเรา?""มานี่ พวกเจ้าบอกกับเขาที บอกว่าคนข้างนอกกำลังลืออะไรกัน!"วันนี้ชินอ๋องเซียวเดิมทีต้องออกไปงานเลี้ยง ผลลัพธ์คือในงานเลี้ยงกลับถูกคนเย้ยหยันขบขันอยู่นานสองนาน แล้วยังมีคนพูดว่า ได้ยินว่ารัฐทายาทเซียวก็พอดูใช้ได้อยู่ แต่อันที่จริงก็ยาวแค่ไม่กี่ชุ่นเท่านั้น ชินอ๋องเซียว ท่านเป็นบิดาเขา ไม
ฮูหยินหรงเยว่เองก็ไม่บอกไม่ได้"ท่านหญิง ตอนนั้นท่านไม่ใช่ว่าเห็นฟู่จาวหนิงโดนยาจนหลับไปในศาลาแล้วหรอกหรือถึงได้ออกมากัน?"นางนั่นล่ะ!"ต่อมาทั้งหมดก็เดินไปตามแผนการ แต่นอกจากฟู่จาวหนิงที่อยู่ในศาลากลับไม่เห็นแล้ว""ท่านหญิง เรื่องนี้ไม่ต้องพูดแล้ว ตอนนี้สำคัญที่สุดคือหอจันทร์หยาดของข้า อ๋องเจวี้ยนมาปิดไปแล้ว ข้าจะทำอย่างไร?"ฮูหยินพรงเยว่ตอนนี้ก็ร้อนรนอยากจะแก้ไขเรื่องนี้ฮองเฮาตอนนั้นก็ให้ความสำคัญกับนางมาก ถ้าเรื่องครั้งนี้พังจนเสียหอจันทร์หยาดไปล่ะก็ นางก็ไม่มีคำอธิบายกับฮองเฮาแล้ว!"ข้าจะไปหาอ๋องเจวี้ยน"ซ่งอวิ๋นเหยากัดริมผีปากถ้านางครั้งนี้ทำให้หอจันทร์หยาดต้องปิดไป เช่นนั้นก็เท่ากับตัดขาดสถานที่ทำกินเอาตัวรอดของฮูหยินหรงเยว่ไป ฮูหยินหรงเยว่ไม่มีทางเลิกราแน่ตอนนี้นางเองก็จำใจต้องไปขอร้องฮองเฮาเพื่อเรื่องนี้ ถึงอย่างไรฮองเฮาก็เป็นที่พึ่งสุดท้ายของนาง"เช่นนั้นท่านหญิงคงต้องรีบไปแล้ว ถ้าเวลาปิดยิ่งนานเข้า ก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการค้าของข้า หลังจากนี้ใครจะกล้ามาช่วยเหลือกัน?"ฮูหยินหรงเยว่รู้สึกเสียใจขึ้นมาบ้างแล้ว ถ้ารู้แต่แรกคงไม่ช่วยท่านหญิงอวิ๋นเหยาแล้วแต่ใครจ