"นี่เป็นสิ่งที่ท่านพ่อมอบให้ เขาเรียกมันว่าหินนภา หายากอย่างมาก""หินนภา"ฟู่จาวหนิงหยิบขึ้นมา "นี่เป็นสิ่งที่ท่านพกไว้ตลอดหรือ?""อืม ปตกิแล้วจะพกไว้ตลอด""เวลานายท่านครุ่นคิดก็มักจะหยิบหินนภาสองชิ้นนี้ไว้ในมือ""สิ่งนี้ต้องตรวจอย่างละเอียด ข้าต้องใช้น้ำยากับมัน ข้าสามารถนำกลับไปได้ไหม? สามวันให้หลังจะนำมาส่งคืน"แน่นอนว่านางไม่ได้ใช้น้ำยา แต่จะเอากลับไปใช้เครื่องมือในห้องเภสัชเพื่อตรวจสอบ แม้ว่านางจะยืนยันไปแล้วระดับหนึ่ง"ได้เลย"เสิ่นเสวียนรับคำทันทีรอจนฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนจากไป ทหารก็มองเสิ่นเสวียนอย่างกังวล"นายท่าน ถ้าหากหินนภาคู่นั้นมีปัญหาจริง เช่นนั้นท่านผู้เฒ่ารองจะ..."นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย เพราะหลังจากที่ร่างกายของนายท่านมีปัญหา เรื่องส่วนใหญ่ในตระกูลเสิ่น ก็ล้วนตกไปอยู่กับบ้านของท่านผู้เฒ่ารอง กระทั่งบ้านของนายท่าน ฮูหยินของนายท่านพวกเขาก็ยังต้องอยู่ด้วกันกับท่านผู้เฒ่ารองในบ้านตระกูลเสิ่นเลยแต่ว่า ท่านผู้เฒ่ารองนั้นเห็ฯนายท่านเติบโตมาเลยนะ นายท่านนับถือเขาเชื่อใจเขามาตลอด ถ้าหากเป็นปัญหาจากทางท่านผู้เฒ่ารองล่ะก็เขาเองก็ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่านายท่านจ
ชิงอีเห็นท่าทางของเขาก็ไม่กล้าพูดมาก ดำเนินการทันทีส่วนทางเซียวเหยียนจิ่งพอตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไปหนึ่งวันเต็ม คนก็ถูกชินอ๋องเซียวให้คนลากไปด้านนอก ใช้เท้าเตะไปที่ขาของเขาทีหนึ่งเซียวเหยียนจิ่งคุกเข่าลงไป เจ็บจนหูตาจมูกบนหน้าขมวดรวมกันเข้ามา"ท่านพ่อท่านทำอะไรน่ะ?""ทำอะไร? แล้วเจ้าทำไมไม่บอกว่าตัวเองไปทำอะไรมา?!"ชินอ๋องเซียวโมโหจนหน้าเขียวไปแล้ว ในมือถือแส้เล่มหนึ่ง อยากจะฟาดเจ้าทายาทไม่ได้เรื่องคนนี้ให้ตายไปทันทีเสียจริง"เจ้าวันนี้นอนกรนอยู่ทั้งวัน ไม่รู้ว่าทั้งเมืองหลวงกำลังขบขันจวนชินอ๋องเซียวของเราอยู่! หน้าของข้าถูกเจ้าทำลายไปจนป่นปี้แล้ว! ตอนนี้ ตอนนี้ หมอเทวดาหลี่นั่งนิ่งอยู่ที่โถงหน้าไม่ยอมไปไหนแล้ว!"เซียวเหยียนจิ่งยังไม่ทันได้ตั้งตัวว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น"ขบขันจวนอ๋องของพวกเรา?""มานี่ พวกเจ้าบอกกับเขาที บอกว่าคนข้างนอกกำลังลืออะไรกัน!"วันนี้ชินอ๋องเซียวเดิมทีต้องออกไปงานเลี้ยง ผลลัพธ์คือในงานเลี้ยงกลับถูกคนเย้ยหยันขบขันอยู่นานสองนาน แล้วยังมีคนพูดว่า ได้ยินว่ารัฐทายาทเซียวก็พอดูใช้ได้อยู่ แต่อันที่จริงก็ยาวแค่ไม่กี่ชุ่นเท่านั้น ชินอ๋องเซียว ท่านเป็นบิดาเขา ไม
ฮูหยินหรงเยว่เองก็ไม่บอกไม่ได้"ท่านหญิง ตอนนั้นท่านไม่ใช่ว่าเห็นฟู่จาวหนิงโดนยาจนหลับไปในศาลาแล้วหรอกหรือถึงได้ออกมากัน?"นางนั่นล่ะ!"ต่อมาทั้งหมดก็เดินไปตามแผนการ แต่นอกจากฟู่จาวหนิงที่อยู่ในศาลากลับไม่เห็นแล้ว""ท่านหญิง เรื่องนี้ไม่ต้องพูดแล้ว ตอนนี้สำคัญที่สุดคือหอจันทร์หยาดของข้า อ๋องเจวี้ยนมาปิดไปแล้ว ข้าจะทำอย่างไร?"ฮูหยินพรงเยว่ตอนนี้ก็ร้อนรนอยากจะแก้ไขเรื่องนี้ฮองเฮาตอนนั้นก็ให้ความสำคัญกับนางมาก ถ้าเรื่องครั้งนี้พังจนเสียหอจันทร์หยาดไปล่ะก็ นางก็ไม่มีคำอธิบายกับฮองเฮาแล้ว!"ข้าจะไปหาอ๋องเจวี้ยน"ซ่งอวิ๋นเหยากัดริมผีปากถ้านางครั้งนี้ทำให้หอจันทร์หยาดต้องปิดไป เช่นนั้นก็เท่ากับตัดขาดสถานที่ทำกินเอาตัวรอดของฮูหยินหรงเยว่ไป ฮูหยินหรงเยว่ไม่มีทางเลิกราแน่ตอนนี้นางเองก็จำใจต้องไปขอร้องฮองเฮาเพื่อเรื่องนี้ ถึงอย่างไรฮองเฮาก็เป็นที่พึ่งสุดท้ายของนาง"เช่นนั้นท่านหญิงคงต้องรีบไปแล้ว ถ้าเวลาปิดยิ่งนานเข้า ก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการค้าของข้า หลังจากนี้ใครจะกล้ามาช่วยเหลือกัน?"ฮูหยินหรงเยว่รู้สึกเสียใจขึ้นมาบ้างแล้ว ถ้ารู้แต่แรกคงไม่ช่วยท่านหญิงอวิ๋นเหยาแล้วแต่ใครจ
"คุณหนู จับนกพิราบสื่อสารมาได้ตัวหนึ่ง"พิราบสื่อสาร?ฟู่จาวหนิงรีบเปิดประตูทันที สายตาตกไปอยู่บนพิราบสื่อสารตัวนั้นจงเจี้ยนหยิบจดหมายบนขาของพิราบสื่อสารยื่นส่งให้นางฟู่จาวหนิงรับมา ด้านในมีอักษรสี่ตัวเขียนไว้ว่า "สถานที่เดิม ให้ไว""สถานที่เดิม?""พิราบสื่อสารตัวนี้บินไปทางไหน?" นางผูกจดหมายนี้กลับไปยังขาของพิราบสื่อสาร ทำตามร่องรอยเมื่อครู่นี้"น่าจะเป็นทางจวนผู้เฒ่าฟู่สี่" จงเจี้ยนอยู่ในบ้านตระกูลฟู่ช่วงนี้จนจดจำทุกซอกมุมของบ้านตระกูลฟู่ได้แล้วอันที่จริงเข้าก็เคยเข้าไปสำรวจทางผู้เฒ่าฟู่สี่เช่นกัน แต่ว่าผู้เฒ่าฟู่สี่กับภรรยาก็ทำตัวสันโดษมาก ทุกวันก็แค่กินดื่มทำงานบ้านเล็กน้อย ไม่พูดจาด้วยซ้ำ ถึงอย่างไรฮูหยินของผู้เฒ่าฟู่สี่ก็เป็นใบ้เขาตรวจสอบอะไรไม่ได้เลยตอนนี้พอเห็นนกพิราบสื่อสารบินไปทางนั้น ก็รู้สึกได้ทันทีว่าถึงเวลาที่จะไขปริศนาบนตัวพวกเขาแล้ว"ปล่อยมันบินไป"ฟู่จาวหนิงพอพูด จงเจี้ยนก็เข้าใจความหมายของนาง "ขอรับ"พิราบจดหมายบินออกไปอีกครั้ง จงเจี้ยนไล่ตามไปอย่างไร้ซุ่มเสียงทันทีเขาเห็นพิราบสื่อสารบินไปทางเรือนเล็กของผู้เฒ่าฟู่สี่ จากนั้นด้านในก็มีเสียงเคร้งดังข
จงเจี้ยนพอได้ยินก็ตกตะลึงขึ้นทันทีพวกนางกำลังพูดเรื่องอะไรกัน"นางไม่ใช่ฟู่จาวหนิงแล้วนางจะเป็นใครได้กัน? พวกเจ้าก่อนหน้าไม่ใช่บอกว่าตรวจสอบนางแล้วหรือ? จะรูปร่างภายนอกหรือน้ำเสียงนาง ก็เป็นตัวฟู่จาวหนิงชัดๆ""ถูกต้อง ความหมายของข้ากับอาหนงก็คือ นางคือฟู่จาวหนิง แต่ด้านในก็ไม่แน่ว่าจะใช่""พรึบ"ฮูหยินหรงเยว่ถลึงตาโต "เดี๋ยวก่อน เจ้าให้ข้าคิดหน่อย ข้าเริ่มงงแล้ว หมายความว่าอย่างไรนะ?""ครั้งที่แล้วที่ไห่ฉางจวิ้นเข้ามา ไหมใจโลหิตของนางกลับบินตรงไปทางฟู่จาวหนิงเอง ท่านเองก็รู้ ว่าไหมใจโลหิตมีจุดที่มหัศจรรย์อยู่จุดหนึ่ง นั่นก็คือจะถูกจิตวิญญาณดึงดูด ท่านรู้ไหมว่าทำไมข้ากับอาหนงถึงได้สงสัยขึ้นมา?""เพราะเจ้าเองก็มีไหมใจโลหิตด้วย" ฮูหยินหรงเยว่พูดออกมา"ถูกต้อง ข้ามีไหมใจโลหิต แต่ว่าก่อนหน้านี้ไหมใจโลหิตของข้าตอนปล่อยอยู่ต่อหน้าฟู่จาวหนิง มันก็ไม่เคยบินไปทางฟู่จาวหนิงเลย ตอนนี้ฟู่จาวหนิงแตกต่างไปจากแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง ไหมใจโลหิตของไห่ฉางจวิ้นก็ยังบินไปกับนาง นี่อธิบายได้ว่า ฟู่จาวหนิงในตอนนี้มีวิญญาณที่แตกต่างกับเมื่อก่อนอยู่""นี่เป็นไปได้อย่างไร?""ดังนั้น หลังจากข้ากับอาหนงหา
สืออีเองก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาอธิบาย ดูแล้วสถานการณ์ของจงเจี้ยนวิกฤตมาก จากที่เขาเห็นนี่แทบจะไม่มียาที่รักษาได้แล้วแต่ว่าตอนนี้พวกเขามีพระชายาอยู่ วิชาแพทย์ของพระชายานั้นมหัศจรรย์มากเขารีบออกไปสั่งการคนให้จัดเตรียมทันฟู่จาวหนิงพาจงเจี้ยนนอนลงบนเตียง กระชากเสื้อผ้าของเขชาออกจงเจี้ยนคว้าข้อมือนางไว้ฉับพลัน น้ำเสียงกระด้างเล็กๆ คอเหมือนถูกแช่แข็งไว้อย่างไรอย่างนั้น คำพูดก็ดูพูดได้ลำบาก"ฮู ฮูหยินสี่ พูดได้""เอาล่ะ เรื่องนี้ยังไม่ต้องพูดก่อน ข้าจะรักษาเจ้า"ฟู่จาวหนิงจับมือของเขาออก หยิบเข็มยาวแทงลงไปที่หน้าอกเขาอย่างรวดเร็ว "เจ้าอย่าขยับ ข้ารักษาเจ้าได้ ผ่อนคลาย""หรงเยว่"จงเจี้ยนในใจร้อนรนมาก เขารู้สึกว่าตนเองจะตายอยู่แล้ว สภาพอย่างเขาเช่นนี้น่าจะช่วยไม่ไหวแล้ว แต่ว่าก่อนหน้าที่จะตายเขาจะเอาเรื่องที่ได้ยินมาบอกกับพระชายา ถ้าหากไม่พูดออกไป พระชายาก็คงไม่มีทางรู้ ถึงตอนนั้นถูกพวกผู้เฒ่าฟู่สี่ทำร้ายเอาจะทำอย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น แผนที่ลับที่พวกนางพูดกันอะไรนั่น น่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินในอดีต เรื่องนี้เองก็ควรเป็นเรื่องที่พระชายาอยากรู้ด้วยเร
จงเจี้ยนช่วยเอาไว้ได้หรือไม่?ฟู่จาวหนิงจับชีพจรจงเจี้ยนอีกครั้ง เอ่ยขึ้นอย่างสงบว่า "ข้าจะไม่ให้เขาตาย"หลายปีมานี้นางแย่งชีวิตกลับมาจากเงื้อมมือยมฑูตน้อยๆ เสียที่ไหน"เขาไม่ใช่ว่าติดพิษหรือ?" สืออีถาม"ใช่""พระชายารู้ไหมว่าเป็นพิษอะไร? พวกเราจะไปตรวจสอบว่าพิษนี้มาจากที่ไหน" น้ำเสียงสืออีเคร่งขรึมขึ้นมาพิษนี้อันที่จริงก็ร้ายกาจมาก ไม่ใช่แค่จะทำให้คนตาย ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถทำให้คนไม่เห็นอย่างรวดเร็วได้อีกด้วย ปากเองก็ไม่สามารถพูดได้ แล้วยังขยับเขยื้อนไม่ได้อีกต่างหากต่อให้ตายไปก็ยังสภาพดูไม่ได้ จะเปลี่ยนเป็นดำมะเมี่ยมเหมือนถูกไฟเผาจนเกรียม ยิ่งกว่านั้นยังไหม้ดำห่อเหี่ยวทั้งข้างในและข้างนอกอีกด้วยพิษที่ร้ายแรงอหังการพลังพิษเช่นนี้จะแพร่ออกไปไม่ได้เด็ดขาด"ความเป็นไปได้นี้ต้องถามท่านอาจารย์" ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยเข้าใจอะไรกับเรื่องพิษของทางนี้นัก"เ่ช่นนั้นข้าน้อยจะไปเชิญผู้อาวุโสจี้มาเสียรอบหนึ่งดีไหม?"มองออกว่าสืออีอยากจะแก้แค้นแทนจงเจี้ยนแล้ว"ได้ เจ้าไปเชิญอาจรย์มา ฟู่าวหนิงคิดๆ เอ่ยต่วา หาคนสองคนไปที่เรือนผุ้เฒ่าฟู่สี่ด้วย แไม่ต้องเข้าใกล้่นัก เพียงแแค่จับาดูเงียบๆ
"รายงานทางการ?""ราชวงศ์ต้าชื่อกับจวนทางการเองก็เกลียดชังต่อลัทธิเทพทำลายล้าง แต่ว่า""พี่หญิง"นอกประตูมีเสียงเฮ่อเหลียนเฟยร้องขึ้นมา"เด็กคนนั้นจากเผ่าเฮ่อเหลียนหรือ?" ผู้อาวุโสจี้ถาม"ใช่""ให้เขาเข้ามา เผ่าเฮ่อเหลียนตอนนั้นก็เหมือนจะเคยสัมผัสกับลัทธิเทพชั่วร้ายด้วยเหมือนกัน" ผู้อาวุโสจี้เอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงให้เฮ่อเหลียนเฟยเข้ามาเฮ่อเหลียนเฟยถูกแบกเข้ามา หลังจากนั่งลงจมูกก็ขยับ มองไปทางจงเจี้ยนอยู่ที่บนเตียง"พี่หญิง ท่านปู่เห็นว่ามีการเคลื่อนไหว เลยให้ข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น""จงเจี้ยนติดพิษเสียแล้ว"เฮ่ยเหลียนเฟยเม้มปาก ลังเลครู่หนึ่งจึงถามขึ้นมา "ข้าเพิ่งได้ยินว่าผู้อาวุโสจี้พูดถึงลัทธิเทพทำลายล้างหรือ?""เจ้ารู้จักลัทธิเทพทำลายล้างด้วยหรือ?""ข้ารู้จัก พี่หญิง ลัทธิเทพทำลายล้างแต่ก่อนมีพวกสาวกลอบแฝงเข้ามาในเผ่าเฮ่อเหลียน พวกเขาคิดจะมารับสาวกเพิ่ม เผ่าเฮ่อเหลียนตอนนั้นมีคนไม่น้อยที่ถูกกล่อมไปพ่อของข้าลงกำลังไปไม่น้อยกว่าจะขับไล่พวกเขาออกไปได้ แต่ก็จ่ายไปด้วยราคาที่น่าเวทนาด้วยเช่นกัน"ผู้อาวุโสจี้พยักหน้า "ข้าเคยได้ยินเรื่องนี้มา""ตอนนั้นลัทธิเทพทำลายล้างใช้พิษ พิษ
ผู้อาวุโสจี้อยู่ในรถม้าด้านหลัง เขาเองก็เลิกม่านขึ้นมองด้านนอก พอเห็นร้านรวงสองฟากฝั่งถนนแขวนไว้ด้วยโคมแดงก็ถอนหายใจ"จะปีใหม่อีกแล้ว"ชายหนุ่มอายุราวสามสิบปีอีกหนึ่งคนที่นั่งอยู่ในรถม้าก็มองออกไปด้านนอก พอได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็มองไปทางผู้อาวุโสจี้ ถอนหายใจเอ่ยขึ้นว่า "ผู้อาวุโสจี้ นี่จะปีใหม่อยู่แล้ว เจ้าพันธมิตรเรียกท่านกลับไปรวมตัวที่สาขาหลัก ท่านทำไมจึงปฏิเสธล่ะ?"ผู้อาวุโสจี้ไม่ได้กลับสาขาหลักไปช่วงปีใหม่หลายปีแล้ว"ไม่อยากไป วุ่นวายเกิน" ผู้อาวุโสจี้ส่ายหัว ไม่สนใจอย่างเห็นได้ชัด"ผู้อาวุโสคนอื่นก็ล้วนอยู่ที่พันธมิตร แม้ว่าเวลาปกติจะไปที่นั่นที่นี่ แต่พอถึงช่วงไว้พระจันทร์กับปีใหม่ล้วนกลับไป ตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันยังสามารถหารือเรื่องใหญ่ต่างๆ ในพันธมิตรได้ นอกจากนี้ทุกสิ้นปีฝ่ายบัญชีพันธมิตรโอสถก็จะตรวจสอบแบ่งปันเงิน ท่านไม่กลับไป เรื่องพวกนี้ก็ไม่รู้ว่าจัดการกันชัดเจนหรือไม่ชายคนนี้เพิ่งจะถูกย้ายมาเป็นผู้ดูแลพันธมิตรคนใหม่ของเมืองหลวง ซูเหอซูเหอเองก็ถือเป็นคนที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้อาวุโสจี้ เดิมทีด้วยอายุและประสบการณ์ของเขา ควรจะถูกจัดไปอยู่ประจำที่สาขาของพันธมิตรโอ
"หวานจัง"องค์หญิงนานฉือกินไปคำหนึ่ง ตาก็เป็นประกายขึ้นมา"ลูกชิ้นนี่เหนียวหนึบหนับดี เด้งและอ่อนนุ่ม น้ำแกงก็หวาดดี อร่อยจัง""ลูกชิ้นนี้ต้องใช้น้ำอุ่นที่อุณหภูมิพอดีมานวด ส่วนเวลาและแรงตอนที่นวดก็ต้องพิถีพิถันด้วย ท่านพี่เองก็ชอบกิน พีสะใภ้กินเยอะหน่อยๆ"องค์หญิงหนานฉือชอบกิน อันชิงจึงดีใจมากนางนั่งอยู่ตรงข้ามมององค์หญิงหนานฉือ รู้สึกว่านางดุมีเสน่ห์กว่าก่อนที่แต่งงานเสียอีก สวยจับใจจริงๆ"พี่ชายของเจ้า..."องค์หญิงหนานฉือหน้าร้อนขึ้นมาเดิมทีนางก็เป็นคนที่ค่อนข้างเปิดเผย แต่พอเจอกับเรื่องนี้ก็อดเขินอายขึ้นมาไม่ได้เหมือนักนพูดพูดถึงผู้ตรวจการอันเหนียน องค์หญิงหนานฉือก็รู้สึกปากร้อนขึ้นมาหน่อยๆ นางไม่เคยคิดเลยว่าผู้ตรวจการอันที่มีหน้าตางดงามอ่อนโยนมีการศึกษา จะเป็นชายหนุ่มที่มีอารมณ์หนักหน่วงคนหนึ่งแบบนี้!หลายวันนี้ ทุกวันตอนกลางคืนเขาก็จะมาทรมานนางสองครั้ง หลังจากเสร็จประชุมเช้า เขาก็ยังกลับมาทรมานนางอีกครั้งยิ่งไปกว่านั้นทุกครั้งก็ยังใช้เวลานาน นี่ทำเอานางหลายวันนี้มึนๆ งงๆ ร่างกายเมื่อยขบนอนไม่พอ ไม่ค่อยได้ออกจากห้องเลยทุกมื้อล้วนมีคนส่งอาหารเข้ามาในห้อง นางเองก็ขี
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่สนใจว่าองค์จักรพรรดิจะถามพวกอวิ๋นจูอย่างไรนางกลับมาที่จวนอ๋องเจวี้ยนอีกครั้ง ครั้งนี้ย้ายของไปมากกว่าเดิม ถึงกับตกแต่งห้องขังนั้นขึ้นมาแล้วประตูห้องขังยังแขวนม่านเอาไว้ด้วย บนพื้นปูพรม บนเตียงยังมีฉากกั้นลมสูงครึ่งตัวคนอีก แล้วยังกั้นเป็นห้องเล็กๆ สามารถวางถังปลดทุกข์ใบหนึ่งได้ด้วยที่มุมยังมีแจกันดอกไม้ บนกำแพงติดเชิงเทียนเอาไว้ แล้วยังแขวนเครื่องหอมไว้อีกย้ายโต๊ะมาหนึ่งตัว เก้าอี้สองตัว แล้วยังมีเบาะรองนั่งอีกพู่กันหมึกกระดาษแท่นฝนหมึกก็ยังติดมา แล้วยังมีเตาเล็กสำหรับอุ่นชาอุ่นสุราอีกชุดหนึ่ง วางเครื่องลายครามที่ประณีตสวยงามเอาไว้องครักษ์จวนอ๋องเจวี้ยนหลังจากย้ายของพวกนี้เข้ามาจัดวางแล้ว ห้องขังนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างมากหัวหน้าคุกกับผู้คุมมองจนตาตั้งพวกเขาไม่ใช่ว่าไม่ได้ห้ามปราม แต่ฟู่จาวหนิงพูดมาคำเดียวว่า "ข้าบอกกับองค์จักรพรรดิแล้วว่ามาอยู่เป็นเพื่อนท่านอ๋อง" พวกเขาก็ต้องก้มหน้ากลับไปหัวหน้าคุกรู้สึกว่าผิดปกติไปจริงๆ วิ่งไปรายงานกับหัวหน้า ตอนกลับมายังคิดจะรื้อของเหล่านี้ของฟู่จาวหนิงออก"พระชายาอ๋องเจวี้ยน องค์จักรพรรดิให้อ๋องเจวี้ยนมาทบทวนตนเองให้
"ที่แท้การขังเอาไว้ในคุกใหญ่ก็ไม่เรียกว่าการลงโทษสินะ?""ฟู่จาวหนิง วันนี้เจ้าคิดจะมาทำอะไรกันแน่? ข้ามีงานการอีกตั้งมาก ไม่มีเวลามาเสวนาไร้สาระกับเจ้านะ!" องค์จักรพรรดิรู้สึกว่าแค่เห็นฟู่จาวหนิงเขาก็ปวดหัวเสียแล้วเขาเองก็ไม่กล้าทำอะไรนางจริงๆวิชาแพทย์ของฟู่จาวหนิงสูงส่งมาก! ในใจเขายังรู้สึกว่าโชคดีมาก ถึงอย่างไรนางก็เป็นคนของแคว้นเจา ถึงอย่างไรนางก็ยังมีญาติอยู่ที่เมืองหลวง ถึงอย่างไรตระกูลฟู่ก็ไม่ได้มีรากฐานอะไร ดังนั้นตอนที่เขาต้องการนางจริงๆ เขายังมั่นใจว่าตนเองจะบีบจุดอ่อนของนาง แล้วนำนางมาใช้ประโยชน์เพื่อตนเองได้ใครให้วิชาแพทย์ต้องมาเจอกับหายนะเข้าในใต้หล้านี้กัน ปัจจุบันพวกหมอเก่งๆ ล้ำค่าจะตายไปก่อนหน้านี้แคว้นเจามีหมอเทวดาหลี่ พวกเขาก็รู้สึกมีความมั่นใจอยู่ แต่พอเทียบกับฟู่จาวหนิง วิชาแพทย์ของหมอเทวดาหลี่กลับห่างชั้นอยู่ไกลโขเลยทีเดียวเพื่อวิชาแพทย์ของนาง ขอแค่นางไม่มาเหยียบเส้นต่ำสุดที่ไม่ควรล้ำ องค์จักรพรรดิก็ยังมีความอ่อนข้อให้สูงลิบอยู่เพียงแต่ว่า นางนี่มันน่าโมโหเสียจริงองค์จักรพรรดิรู้สึกว่ายิ่งพูดกับฟู่จาวหนิงมากแค่ไหนชีวิตเขาก็สั้นลงไปอีกหลายปี"แค่อยากจ
องค์จักรพรรดิพอได้ยินคำของฟู่จาวหนิง หน้าผากก็มีเส้นเลือดปูดตึงขึ้นมา"อายวนเขามีอะไรต้องทุกข์ใจกัน? ไม่พอใจข้าที่ให้เขาไปนั่งทบทวนตนเองในคุกหรือ?"ถ้านางกล้าบอกว่าไม่พอใจล่ะก็...ในใจองค์จักรพรรดิยังกำลังคิด ว่าตอนที่นางพูดว่าไม่พอใจแล้วจะตอกนางกลับไปอย่างไร ก็ได้ยินฟู่จาวหนิงใช้น้ำเสียงแปลกประหลาดออกมาคำหนึ่ง"องค์จักรพรรดิ ใครบ้างที่ยินดีจะอยู่ในคุก?"องค์จักรพรรดิ: นี่ยังจะย้อนถามมาอีกหรือ?"แต่ต่อให้ไม่ยินดีก็มิอาจขัดราชโองการได้" ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก ดูจำใจอย่างมาก "เขาเป็นทุกข์ก็คือพวกสาวงามที่องค์จักรพรรดิยัดเข้ไาปข้างกายนั่นมันน่าโมโหมาก องค์จักรพรรรดิให้พวกนางไปดูแลเขา ผลลัพธ์คือพวกนางทั้งหมดก็หนีไปกันเกลี้ยง!""หนีหรือ?"องค์จักรพรรดิเองก็เดินตามแนวคิดของนางโดยไม่รู้ตัว กระทั่งน้ำเสียงก็ยังเลียนเสียงนางขึ้นอย่างไม่รู้ตัวจากนั้นเขาจึงได้สติกลับมา อยากจะตบปากตัวเองเสียจริงๆ"ใช่ไหมล่ะ เกินไปจริงๆ องค์จักรพรรดิ อายวนอยู่ในคุำำใหญ่ออกมาไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงให้ข้าเข้าวังมาบอกกับองค์จักรพรรดิ จวนอ๋องเจวี้ยนไม่ต้อนรับสาวงามพวกนี้ แต่เจอเรื่องครั้งนี้เข้าไปก็ส่งผลกระทบกั
ฟู่จาวหนิงพยักหน้า เดินเข้าไปด้านใน ตอนที่ผ่านตัวพวกนาง น้ำเสียงก็ขรึมลง เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาว่า "ดังนั้น ข้ากับพวกเจ้าตอนนี้จึงเป็นคู่แค้นกันแล้ว"พูดจบ นางก็เดินผ่านตัวพวกนางไปชิวอวิ๋นกับซือหรูสบตากันเอง เป็นสีหน้าที่ทั้งสับสนและตกตะลึง"องค์จักรพรรดิ พระชายาอ๋องเจวี้ยนขอเข้าพบ!""ฟู่จาวหนิง? นางมาทำอะไรกัน? ไม่ใช่ว่าไปทรมานตัวอยู่ในคุกใหญ่หรือ?"องค์จักรพรรดิเกือบจะกระโจนตัวขึ้นมาวันนี้ตอนประชุมเช้าเหล่าขุนนางยื่นหนังสือฏีกามาไม่น้อย มีหลายจุดเกิดภัยธรรมชาติ กระทรวงการคลังเริ่มร้องเรียนเรื่องความยากจนอีกครั้ง ที่ชายแดนก็บอกว่ามีพวกชนเผ่าป่าเถื่อนบางกลุ่มเริ่มแสดงท่าทีไม่สงบแล้วยังมีฐานที่มั่นทหารในสถานที่ต่างๆ ก็เริ่มร้องขอเงินเดือนและเสบียงไม่ใช่ข่าวดีอะไรเลย ถึงอย่างไรพอฟังข้อความเหล่านั้น หัวของเขาก็แทบจะระเบิดแล้วหลังจากเสร็จการประชุมเขาก็ไปงีบมาพักหนึ่ง แต่ก็ยังฝันร้ายขึ้นมาอีก ในฝันมีมังกรสีม่วงทองตัวหนึ่งไล่กัดเขา ไล่จนกวานจักรพรรดิของเขาร่วงลงมา หลังจากเข้าสะดุ้งตื่นใจก็เต้นตุบๆ อย่างบ้าคลั่งฝันนี้ไม่ใช่ฝันดีอะไรอย่างแน่นอนตอนไปถึงห้องหนังสือหลวงเตรียมอนุมั
นั่นสิ ฟู่จาวหนิงทำไมจึงไม่กลัวเลย?อ๋องฉยงคิดถึงจุดนี้"ในเมื่อนางไม่กลัว ก็อธิบายได้ในคุกนั้นไม่มีอะไรน่ากลัวสิ เจ้าวางใจเถอะ พ่อจะไปคุยกับหัวหน้าคุก ให้เขาคอยดูแลเจ้าด้านในนั้น""ท่านด่อ ท่านยังจะบีบให้ข้าเข้าไปที่คุกหรือ?" อวิ๋นจูมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ"ในเมื่อราชโองการสั่งลงมาแล้ว นี่ก็ถือเป็นโอกาสหนึ่งนะ เจ้ารับราชโองการแล้ว แล้วยังได้ติดตามอ๋องเจวี้ยนอย่างใกล้ชิดอีก ทำให้อ๋องเจวี้ยนเห็นความเด็ดเดี่ยวของเจ้าได้พอดี เขาจะซาบซึ้ง รอให้ผ่านช่วงนีน้ไปก่อน ไม่แน่อ๋องเจวี้ยนอาจจะชอบเจ้าขึ้นมา ถึงตอนนั้นข้าก็ลงแรงอีกหน่อย ก็จะช่วงชิงให้เจ้าได้เป็นพระชายารองของอ๋องเจวี้ยน"ลูกสาวของเขาทั้งคน จะให้ไปเป็นอนุภรรยาได้อย่างไรกันเดิมทีเขาก็มีความคิดนี้ ให้นางเข้าไปจวนอ๋องเจวี้ยนก่อน พอลงเท้าได้มั่นคง จากนั้นค่อยหาโอกาสให้นางได้ขึ้นเป็นพระชายารองด้วยหน้าตาของอวิ๋นจู เขาไม่เชื่อว่าอ๋องเจวี้ยนจะไม่หวั่นไหวต่อให้มีแค่ความสงสารสักนิดก็พอแล้ว"ไม่ใช่ไม่กี่วัน อ๋องเจวี้ยนต้องอยู่ในคุกสองเดือน สองเดือนเลยนะ!" อวิ๋นจูร้องไห้ขึ้นมา "วันเดียวข้าก็จะป่วยแล้ว สองเดือนข้าจะไม่ตายเอาเลยหรือ?""
ฟู่จาวหนิงกอดเซียวหลันยวน ตบหลังเขาเพื่อปลอบโยน"คิดไม่ถึงว่าพวกนางจะไม่สนใจพระราชโองการขององค์จักรพรรดิ เพราะรังเกียจท่านขนาดนี้ ข้าเองก็สงสารท่านนะ ถ้าท่านเสียใจเพราะเรื่องนี้จะทำอย่างไร? ถ้าหลังจากนี้โดนงูกัดแล้วกลัวเชือกไปสิบปี ไม่กล้ารับสาวงามเข้ามาอีกจะทำอย่างไรกัน?"ผู้คุมได้ยินนางถามซ้ำๆ ว่า"ทำอย่างไรๆ" หัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาคำพูดนี้ทำไมฟังแล้วแปลกๆ กัน?แต่สามงามสามคนนั้นก็เกินไปหน่อยไหม? พระชายาอ๋องเจวี้ยนอยู่ที่นี่มาวันหนึ่งไม่เห็นจะพูดอะไรเลย นางเองก็ยังดูดีอยู่ ปฏิกิริยาของพวกนางต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยหรือ?ผู้คุมที่พูดเรื่องโรคเพศสัมพันธ์เหลือบมองอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่งอ๋องเจวี้ยนเองก็พยักหน้าขึ้นมาอย่างไม่ให้ใครจับได้ เขาจึงถอยออกไปอวิ๋นจูกลับไปที่วังราชนิเวศน์ อ๋องฉยงพอรู้ข่าว ก็พาหมอเข้ามาดูนางทันที และถูกตุ่มแดงเหล่านั้นบนหน้านางทำเอาตกใจสะดุ้งโหยง"จูเอ๋อร์ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"อ๋องฉยงแม้จะอายุวัยกลางคนแล้ว แต่กรรมพันธุ์ทางราชวงศ์เองก็ถือว่าไม่เลวนัก อย่างน้อเขาก็ยังเป็นชายกลางคนที่ดูดีมีเสน่ห์อยู่พอควรสามารถให้กำเนิดลูกสาวอย่างอวิ๋นจูออกมาได้ หน้าตาของเขาเอง
อวิ๋นจูรู้สึกแย่มาก ออกแรงเการ่างกายของตนเองบนตัวนางคันจนไม่ไหวแล้วแต่ต่อนห้าคนมากขนาดนี้ โดยเฉพาะยังมีผู้คุมอีก นางที่เป็นหญิงสาวสูงศักดิ์มายืนเกาแบบนี้ มันดูเสียท่าทีไม่สุภาพเอาเสียเลยนางอยากจะทนไว้ แต่ว่า! มันทนไม่ไหวจริงๆ!คันมากเลย นางอยากจะแก้ผ้าตัวเองแล้วก็เกาๆ มันทั้งตัวให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!แค่ถูๆ ใบหน้า ตอนนี้จุดแดงบนหน้านางก็ยิ่งลามเป็นตุ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว"คุณหนู หน้าของท่าน..." สาวใช้นางเหลือบมองผาดหนึ่ง สายตาก็สะพรึงขึ้นมาอวิ๋นจูพอเห็นสายตาของนาง ก็รีบกุมหน้าไว้ "หน้าของข้ามันทำไม? เป็นอะไรไป?""ในห้องขังนี้มันจะสะอาดแค่ไหนกัน โอ้ ข้านึกออกแล้ว ก่อนหน้าห้องขังพวกนั้นเหมือนจะขังนักโทษที่เคยเป็นโรคติดต่อเพศสัมพันธ์อยู่คนสองคน แต่ลืมไปแล้วว่าห้องไหน" ผู้คุมคนหนึ่งเหลือบมองนางผาดหนึ่ง จากนั้นจึงถอยห่างออกมาหลายก้าวทำเหมือนนางเป็นสิ่งสกปรกอย่างไรอย่างนั้น"อะไรนะ?!"ไม่ใช่แค่อวิ๋นจู กระทั่งชิวอวิ๋นกับซือหรูพวกนางก็ยังกระโดดเหยงขึ้นมาทันทีพอเห็นสภาพนี้ของอวิ๋นจู พวกนางก็ไม่กล้าเข้าใกล้แล้วอวิ๋นจูพังทลายไปแล้วนางร้องไห้ขึ้นมา "ข้าจะออกไป ข้าไม่อยากอยู่ท