"นี่เป็นสิ่งที่ท่านพ่อมอบให้ เขาเรียกมันว่าหินนภา หายากอย่างมาก""หินนภา"ฟู่จาวหนิงหยิบขึ้นมา "นี่เป็นสิ่งที่ท่านพกไว้ตลอดหรือ?""อืม ปตกิแล้วจะพกไว้ตลอด""เวลานายท่านครุ่นคิดก็มักจะหยิบหินนภาสองชิ้นนี้ไว้ในมือ""สิ่งนี้ต้องตรวจอย่างละเอียด ข้าต้องใช้น้ำยากับมัน ข้าสามารถนำกลับไปได้ไหม? สามวันให้หลังจะนำมาส่งคืน"แน่นอนว่านางไม่ได้ใช้น้ำยา แต่จะเอากลับไปใช้เครื่องมือในห้องเภสัชเพื่อตรวจสอบ แม้ว่านางจะยืนยันไปแล้วระดับหนึ่ง"ได้เลย"เสิ่นเสวียนรับคำทันทีรอจนฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนจากไป ทหารก็มองเสิ่นเสวียนอย่างกังวล"นายท่าน ถ้าหากหินนภาคู่นั้นมีปัญหาจริง เช่นนั้นท่านผู้เฒ่ารองจะ..."นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย เพราะหลังจากที่ร่างกายของนายท่านมีปัญหา เรื่องส่วนใหญ่ในตระกูลเสิ่น ก็ล้วนตกไปอยู่กับบ้านของท่านผู้เฒ่ารอง กระทั่งบ้านของนายท่าน ฮูหยินของนายท่านพวกเขาก็ยังต้องอยู่ด้วกันกับท่านผู้เฒ่ารองในบ้านตระกูลเสิ่นเลยแต่ว่า ท่านผู้เฒ่ารองนั้นเห็ฯนายท่านเติบโตมาเลยนะ นายท่านนับถือเขาเชื่อใจเขามาตลอด ถ้าหากเป็นปัญหาจากทางท่านผู้เฒ่ารองล่ะก็เขาเองก็ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่านายท่านจ
ชิงอีเห็นท่าทางของเขาก็ไม่กล้าพูดมาก ดำเนินการทันทีส่วนทางเซียวเหยียนจิ่งพอตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไปหนึ่งวันเต็ม คนก็ถูกชินอ๋องเซียวให้คนลากไปด้านนอก ใช้เท้าเตะไปที่ขาของเขาทีหนึ่งเซียวเหยียนจิ่งคุกเข่าลงไป เจ็บจนหูตาจมูกบนหน้าขมวดรวมกันเข้ามา"ท่านพ่อท่านทำอะไรน่ะ?""ทำอะไร? แล้วเจ้าทำไมไม่บอกว่าตัวเองไปทำอะไรมา?!"ชินอ๋องเซียวโมโหจนหน้าเขียวไปแล้ว ในมือถือแส้เล่มหนึ่ง อยากจะฟาดเจ้าทายาทไม่ได้เรื่องคนนี้ให้ตายไปทันทีเสียจริง"เจ้าวันนี้นอนกรนอยู่ทั้งวัน ไม่รู้ว่าทั้งเมืองหลวงกำลังขบขันจวนชินอ๋องเซียวของเราอยู่! หน้าของข้าถูกเจ้าทำลายไปจนป่นปี้แล้ว! ตอนนี้ ตอนนี้ หมอเทวดาหลี่นั่งนิ่งอยู่ที่โถงหน้าไม่ยอมไปไหนแล้ว!"เซียวเหยียนจิ่งยังไม่ทันได้ตั้งตัวว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น"ขบขันจวนอ๋องของพวกเรา?""มานี่ พวกเจ้าบอกกับเขาที บอกว่าคนข้างนอกกำลังลืออะไรกัน!"วันนี้ชินอ๋องเซียวเดิมทีต้องออกไปงานเลี้ยง ผลลัพธ์คือในงานเลี้ยงกลับถูกคนเย้ยหยันขบขันอยู่นานสองนาน แล้วยังมีคนพูดว่า ได้ยินว่ารัฐทายาทเซียวก็พอดูใช้ได้อยู่ แต่อันที่จริงก็ยาวแค่ไม่กี่ชุ่นเท่านั้น ชินอ๋องเซียว ท่านเป็นบิดาเขา ไม
ฮูหยินหรงเยว่เองก็ไม่บอกไม่ได้"ท่านหญิง ตอนนั้นท่านไม่ใช่ว่าเห็นฟู่จาวหนิงโดนยาจนหลับไปในศาลาแล้วหรอกหรือถึงได้ออกมากัน?"นางนั่นล่ะ!"ต่อมาทั้งหมดก็เดินไปตามแผนการ แต่นอกจากฟู่จาวหนิงที่อยู่ในศาลากลับไม่เห็นแล้ว""ท่านหญิง เรื่องนี้ไม่ต้องพูดแล้ว ตอนนี้สำคัญที่สุดคือหอจันทร์หยาดของข้า อ๋องเจวี้ยนมาปิดไปแล้ว ข้าจะทำอย่างไร?"ฮูหยินพรงเยว่ตอนนี้ก็ร้อนรนอยากจะแก้ไขเรื่องนี้ฮองเฮาตอนนั้นก็ให้ความสำคัญกับนางมาก ถ้าเรื่องครั้งนี้พังจนเสียหอจันทร์หยาดไปล่ะก็ นางก็ไม่มีคำอธิบายกับฮองเฮาแล้ว!"ข้าจะไปหาอ๋องเจวี้ยน"ซ่งอวิ๋นเหยากัดริมผีปากถ้านางครั้งนี้ทำให้หอจันทร์หยาดต้องปิดไป เช่นนั้นก็เท่ากับตัดขาดสถานที่ทำกินเอาตัวรอดของฮูหยินหรงเยว่ไป ฮูหยินหรงเยว่ไม่มีทางเลิกราแน่ตอนนี้นางเองก็จำใจต้องไปขอร้องฮองเฮาเพื่อเรื่องนี้ ถึงอย่างไรฮองเฮาก็เป็นที่พึ่งสุดท้ายของนาง"เช่นนั้นท่านหญิงคงต้องรีบไปแล้ว ถ้าเวลาปิดยิ่งนานเข้า ก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการค้าของข้า หลังจากนี้ใครจะกล้ามาช่วยเหลือกัน?"ฮูหยินหรงเยว่รู้สึกเสียใจขึ้นมาบ้างแล้ว ถ้ารู้แต่แรกคงไม่ช่วยท่านหญิงอวิ๋นเหยาแล้วแต่ใครจ
"คุณหนู จับนกพิราบสื่อสารมาได้ตัวหนึ่ง"พิราบสื่อสาร?ฟู่จาวหนิงรีบเปิดประตูทันที สายตาตกไปอยู่บนพิราบสื่อสารตัวนั้นจงเจี้ยนหยิบจดหมายบนขาของพิราบสื่อสารยื่นส่งให้นางฟู่จาวหนิงรับมา ด้านในมีอักษรสี่ตัวเขียนไว้ว่า "สถานที่เดิม ให้ไว""สถานที่เดิม?""พิราบสื่อสารตัวนี้บินไปทางไหน?" นางผูกจดหมายนี้กลับไปยังขาของพิราบสื่อสาร ทำตามร่องรอยเมื่อครู่นี้"น่าจะเป็นทางจวนผู้เฒ่าฟู่สี่" จงเจี้ยนอยู่ในบ้านตระกูลฟู่ช่วงนี้จนจดจำทุกซอกมุมของบ้านตระกูลฟู่ได้แล้วอันที่จริงเข้าก็เคยเข้าไปสำรวจทางผู้เฒ่าฟู่สี่เช่นกัน แต่ว่าผู้เฒ่าฟู่สี่กับภรรยาก็ทำตัวสันโดษมาก ทุกวันก็แค่กินดื่มทำงานบ้านเล็กน้อย ไม่พูดจาด้วยซ้ำ ถึงอย่างไรฮูหยินของผู้เฒ่าฟู่สี่ก็เป็นใบ้เขาตรวจสอบอะไรไม่ได้เลยตอนนี้พอเห็นนกพิราบสื่อสารบินไปทางนั้น ก็รู้สึกได้ทันทีว่าถึงเวลาที่จะไขปริศนาบนตัวพวกเขาแล้ว"ปล่อยมันบินไป"ฟู่จาวหนิงพอพูด จงเจี้ยนก็เข้าใจความหมายของนาง "ขอรับ"พิราบจดหมายบินออกไปอีกครั้ง จงเจี้ยนไล่ตามไปอย่างไร้ซุ่มเสียงทันทีเขาเห็นพิราบสื่อสารบินไปทางเรือนเล็กของผู้เฒ่าฟู่สี่ จากนั้นด้านในก็มีเสียงเคร้งดังข
จงเจี้ยนพอได้ยินก็ตกตะลึงขึ้นทันทีพวกนางกำลังพูดเรื่องอะไรกัน"นางไม่ใช่ฟู่จาวหนิงแล้วนางจะเป็นใครได้กัน? พวกเจ้าก่อนหน้าไม่ใช่บอกว่าตรวจสอบนางแล้วหรือ? จะรูปร่างภายนอกหรือน้ำเสียงนาง ก็เป็นตัวฟู่จาวหนิงชัดๆ""ถูกต้อง ความหมายของข้ากับอาหนงก็คือ นางคือฟู่จาวหนิง แต่ด้านในก็ไม่แน่ว่าจะใช่""พรึบ"ฮูหยินหรงเยว่ถลึงตาโต "เดี๋ยวก่อน เจ้าให้ข้าคิดหน่อย ข้าเริ่มงงแล้ว หมายความว่าอย่างไรนะ?""ครั้งที่แล้วที่ไห่ฉางจวิ้นเข้ามา ไหมใจโลหิตของนางกลับบินตรงไปทางฟู่จาวหนิงเอง ท่านเองก็รู้ ว่าไหมใจโลหิตมีจุดที่มหัศจรรย์อยู่จุดหนึ่ง นั่นก็คือจะถูกจิตวิญญาณดึงดูด ท่านรู้ไหมว่าทำไมข้ากับอาหนงถึงได้สงสัยขึ้นมา?""เพราะเจ้าเองก็มีไหมใจโลหิตด้วย" ฮูหยินหรงเยว่พูดออกมา"ถูกต้อง ข้ามีไหมใจโลหิต แต่ว่าก่อนหน้านี้ไหมใจโลหิตของข้าตอนปล่อยอยู่ต่อหน้าฟู่จาวหนิง มันก็ไม่เคยบินไปทางฟู่จาวหนิงเลย ตอนนี้ฟู่จาวหนิงแตกต่างไปจากแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง ไหมใจโลหิตของไห่ฉางจวิ้นก็ยังบินไปกับนาง นี่อธิบายได้ว่า ฟู่จาวหนิงในตอนนี้มีวิญญาณที่แตกต่างกับเมื่อก่อนอยู่""นี่เป็นไปได้อย่างไร?""ดังนั้น หลังจากข้ากับอาหนงหา
สืออีเองก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาอธิบาย ดูแล้วสถานการณ์ของจงเจี้ยนวิกฤตมาก จากที่เขาเห็นนี่แทบจะไม่มียาที่รักษาได้แล้วแต่ว่าตอนนี้พวกเขามีพระชายาอยู่ วิชาแพทย์ของพระชายานั้นมหัศจรรย์มากเขารีบออกไปสั่งการคนให้จัดเตรียมทันฟู่จาวหนิงพาจงเจี้ยนนอนลงบนเตียง กระชากเสื้อผ้าของเขชาออกจงเจี้ยนคว้าข้อมือนางไว้ฉับพลัน น้ำเสียงกระด้างเล็กๆ คอเหมือนถูกแช่แข็งไว้อย่างไรอย่างนั้น คำพูดก็ดูพูดได้ลำบาก"ฮู ฮูหยินสี่ พูดได้""เอาล่ะ เรื่องนี้ยังไม่ต้องพูดก่อน ข้าจะรักษาเจ้า"ฟู่จาวหนิงจับมือของเขาออก หยิบเข็มยาวแทงลงไปที่หน้าอกเขาอย่างรวดเร็ว "เจ้าอย่าขยับ ข้ารักษาเจ้าได้ ผ่อนคลาย""หรงเยว่"จงเจี้ยนในใจร้อนรนมาก เขารู้สึกว่าตนเองจะตายอยู่แล้ว สภาพอย่างเขาเช่นนี้น่าจะช่วยไม่ไหวแล้ว แต่ว่าก่อนหน้าที่จะตายเขาจะเอาเรื่องที่ได้ยินมาบอกกับพระชายา ถ้าหากไม่พูดออกไป พระชายาก็คงไม่มีทางรู้ ถึงตอนนั้นถูกพวกผู้เฒ่าฟู่สี่ทำร้ายเอาจะทำอย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น แผนที่ลับที่พวกนางพูดกันอะไรนั่น น่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินในอดีต เรื่องนี้เองก็ควรเป็นเรื่องที่พระชายาอยากรู้ด้วยเร
จงเจี้ยนช่วยเอาไว้ได้หรือไม่?ฟู่จาวหนิงจับชีพจรจงเจี้ยนอีกครั้ง เอ่ยขึ้นอย่างสงบว่า "ข้าจะไม่ให้เขาตาย"หลายปีมานี้นางแย่งชีวิตกลับมาจากเงื้อมมือยมฑูตน้อยๆ เสียที่ไหน"เขาไม่ใช่ว่าติดพิษหรือ?" สืออีถาม"ใช่""พระชายารู้ไหมว่าเป็นพิษอะไร? พวกเราจะไปตรวจสอบว่าพิษนี้มาจากที่ไหน" น้ำเสียงสืออีเคร่งขรึมขึ้นมาพิษนี้อันที่จริงก็ร้ายกาจมาก ไม่ใช่แค่จะทำให้คนตาย ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถทำให้คนไม่เห็นอย่างรวดเร็วได้อีกด้วย ปากเองก็ไม่สามารถพูดได้ แล้วยังขยับเขยื้อนไม่ได้อีกต่างหากต่อให้ตายไปก็ยังสภาพดูไม่ได้ จะเปลี่ยนเป็นดำมะเมี่ยมเหมือนถูกไฟเผาจนเกรียม ยิ่งกว่านั้นยังไหม้ดำห่อเหี่ยวทั้งข้างในและข้างนอกอีกด้วยพิษที่ร้ายแรงอหังการพลังพิษเช่นนี้จะแพร่ออกไปไม่ได้เด็ดขาด"ความเป็นไปได้นี้ต้องถามท่านอาจารย์" ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยเข้าใจอะไรกับเรื่องพิษของทางนี้นัก"เ่ช่นนั้นข้าน้อยจะไปเชิญผู้อาวุโสจี้มาเสียรอบหนึ่งดีไหม?"มองออกว่าสืออีอยากจะแก้แค้นแทนจงเจี้ยนแล้ว"ได้ เจ้าไปเชิญอาจรย์มา ฟู่าวหนิงคิดๆ เอ่ยต่วา หาคนสองคนไปที่เรือนผุ้เฒ่าฟู่สี่ด้วย แไม่ต้องเข้าใกล้่นัก เพียงแแค่จับาดูเงียบๆ
"รายงานทางการ?""ราชวงศ์ต้าชื่อกับจวนทางการเองก็เกลียดชังต่อลัทธิเทพทำลายล้าง แต่ว่า""พี่หญิง"นอกประตูมีเสียงเฮ่อเหลียนเฟยร้องขึ้นมา"เด็กคนนั้นจากเผ่าเฮ่อเหลียนหรือ?" ผู้อาวุโสจี้ถาม"ใช่""ให้เขาเข้ามา เผ่าเฮ่อเหลียนตอนนั้นก็เหมือนจะเคยสัมผัสกับลัทธิเทพชั่วร้ายด้วยเหมือนกัน" ผู้อาวุโสจี้เอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงให้เฮ่อเหลียนเฟยเข้ามาเฮ่อเหลียนเฟยถูกแบกเข้ามา หลังจากนั่งลงจมูกก็ขยับ มองไปทางจงเจี้ยนอยู่ที่บนเตียง"พี่หญิง ท่านปู่เห็นว่ามีการเคลื่อนไหว เลยให้ข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น""จงเจี้ยนติดพิษเสียแล้ว"เฮ่ยเหลียนเฟยเม้มปาก ลังเลครู่หนึ่งจึงถามขึ้นมา "ข้าเพิ่งได้ยินว่าผู้อาวุโสจี้พูดถึงลัทธิเทพทำลายล้างหรือ?""เจ้ารู้จักลัทธิเทพทำลายล้างด้วยหรือ?""ข้ารู้จัก พี่หญิง ลัทธิเทพทำลายล้างแต่ก่อนมีพวกสาวกลอบแฝงเข้ามาในเผ่าเฮ่อเหลียน พวกเขาคิดจะมารับสาวกเพิ่ม เผ่าเฮ่อเหลียนตอนนั้นมีคนไม่น้อยที่ถูกกล่อมไปพ่อของข้าลงกำลังไปไม่น้อยกว่าจะขับไล่พวกเขาออกไปได้ แต่ก็จ่ายไปด้วยราคาที่น่าเวทนาด้วยเช่นกัน"ผู้อาวุโสจี้พยักหน้า "ข้าเคยได้ยินเรื่องนี้มา""ตอนนั้นลัทธิเทพทำลายล้างใช้พิษ พิษ
พอเห็นสีหน้าเฉินฮ่าวปิง ใจของต่งฮ่วนจือก็เย็นลงมาทันทีทั้งที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟู่จาวหนิงแล้วแท้ๆ แต่ว่าตอนนี้ เฉินฮ่าวปิงก็ยังใช้ประโยชน์จากเขา คิดจะให้เขาขัดขวางศิษย์น้องหญิงต่อให้เป็นเรื่องที่เหลวไหลแบบนี้ นางก็ยังพูดออกมาโดยไม่หนักใจ แล้วขอให้เขาทำตามสิ่งที่นางต้องการต่งฮ่วนจือมองไปทางฮูหยินเฉิน เขายังดูคาดหวังอยู่ถึงอย่างไรฮูหยินเฉินก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว น่าจะรู้จักขอบเขตบ้างกระมัง?"เจ้าเองก็คิดแบบนี้หรือ? จะให้ข้าเก็บวัตถุดิบยาไว้จนกว่าฮ่าวปิงจะรวมเงินได้?"ฟังเอาเถอะ เขาพูดซ้ำออกมาอีกรอบหนึ่งก็ยังรู้สึว่าเป็นเรื่องไร้สาระเลยฮูหยินเฉินขมวดคิ้ว มองนางด้วยสายตาเศร้าๆแต่ก่อนพอเห็นสีหน้าเช่นนี้ของนาง ต่งฮ่วนจือก็จะรู้สึกปวดใจ อยากจะปกป้องนางขึ้นมา เขารู้ ว่านางเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง มีลูกสาวติดหนึ่งคน คอยหนีคนตามล่าอยู่ตลอด มันลำบากแค่ไหนถ้าหากเป็นไปได้ เขาเองก็อยากจะยืนบังลมบังฝนให้นาง เพราะแรกสุดเขารู้สึกชื่นชมนาง ชื่นชมความแข็งแกร่งและความรักของแม่จากตัวนางแต่สีหน้าต่อตัวเขาของฮูหยินเฉินตอนนี้ ต่งฮ่วนจือจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า อ๋องฉยงถึงอย่างไรก็หาพวกนางเจอแ
เฉินฮ่าวปิงมองต่งฮ่วนจือนางสามารถใช้วัตถุดิบยาของพันธมิตรโอสถทำการกุศลต่อได้ และยังพังแผนการของฟู่จาวหนิงได้อีก ทำให้นางไม่ได้รับวัตถุดิบยาหลังจากเฉินฮ่าวปิงกลับมาพูดเรื่องวันนี้กับฮูหยินเฉิน ฮูหยินเฉินโกรธมากดังนั้นนางจึงคิดวิธีนี้ออกมา รู้สึกว่าพวกนางตอนนี้รับมือฟู่จาวหนิงไม่ไหว แต่ถ้าลงแรงกับต่งฮ่วนจือทางนี้สักหน่อย สร้างความลำบากให้กับฟู่จาวหนิงได้บ้างก็ยังดีมีสิทธิ์อะไรที่จะยอมให้ฟู่จาวหนิงทำทุกอย่างได้ราบรื่นขนาดนั้น?ต่งฮ่วนจือถ้าหากขัดฟู่จาวหนิงได้ ไม่ใช่แค่ฟู่จาวหนิงจะไม่ชอบใจ แต่ผู้อาวุโสจี้ก็จะโกรธด้วย ถ้าผู้อาวุโสจี้โกรธ ฟู่จาวหนิงก็จะอารมณ์ไม่ดีดังนั้น ขอแค่กล่อมต่งฮ่วนจือ ก็จะทำได้ฟู่จาวหนิงอึดอัดได้ ดีจะตาย?ดังนั้น จึงได้เห็นเฉินฮ่าวปิงที่มาแสดงความอ่อนแอออดอ้อนต่งฮ่วนจือในตอนนี้นางรู้สึกว่า ความรักทีต่งฮ่วนจือมีให้นาง เรื่องนี้ไม่ใช่จะทำไม่สำเร็จแต่ตอนได้ยินคำพูดของนาง ต่งฮ่วนจือก็งงงันไปครู่หนึ่ง"ลุงต่ง..." เฉินฮ่าวปิงดึงแขนเสื้อของเขา "ได้ไหม?"ต่งฮ่วนจือดึงแขนเสื้อในมือนางกลับมา"เรื่องนี้ไม่ได้""ทำไมล่ะ?""อันดับแรก วัตถุดิบยาที่เจ้าคิดจะเอาไ
หลายปีก่อนที่เขาช่วยพวกนางแม่ลูกไว้ เฉินฮ่าวปิงยังเป็นเด็กสาวร่างผ่อนอ่อนแอ หลายปีนี้ยังถือว่าเขาเลี้ยงดูมาจนโต เขาแทบจะมองเฉินฮ่าวปิงเป็นลูกสาวตนเองไปแล้วแม้ตอนนี้นางเจอกับพ่อแท้ๆ แล้ว แต่พ่อแท้ๆ คนนั้นก็ไม่ใช่จะได้เรื่องกระมัง ต่งฮ่วนจือยังรู้สึกเป็นห่วงอยู่เขาคิดคิด ยังคิดจะไปบ้านเล็กในซอยนั่นเพื่อหาเฉินฮ่าวปิงหลายวันนี้เฉินฮ่าวปิงก็ไม่ยอมพบเขา ทุกครั้งที่เขามา คนใช้ก็จะบอกว่าท่านหญิงไม่อยู่วันนี้เขามา แต่เฉินฮ่าวปิงกลับอยู่ และยังยอมพบเขาด้วยพอเข้ามาในบ้าน มาถึงเรือนหน้า ฮูหยินเฉินก็อยู่ด้วยแม่ลูกหันมามองนางพร้อมกัน สายตาของคนทั้งคู่ล้วนแดงก่ำ ดูแล้วน่าสงสารมาก เฉินฮ่าวปิงพอเห็นเขาก็ร้องไห้โฮออกมา"ลุงต่ง!"นางพุ่งเข้ามาหาต่งฮ่วนจือ สองมือดึงแขนเสื้อเขา ร้องไห้ตัวโยน "ท่านมาได้เสียที!"ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาตั้งหลายครั้ง ก็ไม่ยอมออกมาเจอ ไม่ได้ว่าเขาไม่เคยมาเสียหน่อยแต่ต่งฮ่วนจือก็ไม่ได้พูดออกมา มองสภาพเฉินฮ่าวปิงแล้วเขาก็ยังคงปวดใจอยู่"ทำไมหรือ? เกิดอะไรขึ้น? อ๋อง อ๋องฉยงไม่ได้ช่วยเจ้าหรือ?"พอพูดถึงอ๋องฉยง เฉินฮ่าวปิงก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาเพราะวันนี้อ๋อง
ก่อนค่ำวันเดียวกันฟู่จาวหนิงให้สืออีไปเก็บตั๋วเงินพวกนี้มาแล้วกระทั่งองค์หญิงเจ็ดก็ยังไม่กล้าที่จะไม่ให้หลังจากให้สามพันตำลึงมาแล้ว คนเหล่านี้ก็ล้วนรู้สึกเหมือนเสียปราณชี่ขนานใหญ่ไป ไม่มีทั้งหน้าไม่มีทั้งเงิน แล้วยังหวาดผวา ไม่รู้หลังจากนี้จะมีเรื่องอะไรอีกถ้าเผื่อพระชายาอ๋องเจวี้ยนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนมาหาเรื่องบ้านพวกเขาอีกจะทำอย่างไร?โดยเฉพาะคุณหนูสี่หลิน หลังจากกลับมาก็ได้ยินพี่สาวคนโตกับคนรองพูดถึงเฉินฮ่าวปิง จึงได้รู้ว่าพวกนางเดิมทีก็ดูถูกท่านหญิงปิงอวี้อยู่แล้วพ่อของนางกับพี่สาวนางเองก็กำลังเดาว่าอ๋องฉยงทำไมจึงยังอยู่ในเมืองหลวง ยังพูดอีกว่า ไม่ว่าจะเพราะเรื่องอะไร การที่องค์จักรพรรดิให้อ๋องฉยงอยู่ในเมืองต่อโดยไม่สนกฏ ต้องไม่ใช่เรื่องดี พวกเขากำลังพูดว่า หลังจากนี้จะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่อ๋องฉยงอาจจะก่อความวุ่นวายอะไรขึ้น ไม่ต้องพูดถึงลูกสาวบ้านน้อยของเขาคนนั้นเลย?ในคำพูด คืออ๋องฉยงทำเรื่องไม่ถูกต้อง ลูกสาวบ้านน้อย ยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรดีดีเลย แต่ดันไปขอยศท่านหญิงมาองค์จักรพรรดิก็ยังรับปากอีก ดูจะเลอะเลือนหน่อยๆแน่นอน พวกเขาแอบคุยเรื่องน
เซียวหลันยวนพูดพลางหัวเราะเสียงต่ำฟู่จาวหนิงเองก็ตกตะลึงไป "ผู้ตรวจการอันไปคุกคามองค์จักรพรรดิหรือ?"ถ้าหากผู้ประสบภัยทะลักเข้าเมืองหลวง เมืองหลวงก็จะวุ่นวาย องค์จักรพรรดิไม่อยากจะสนใจก็คงต้องสนใจแล้วแค่โรคระบาด องค์จักรพรรดิก็ยังกลัวจนไม่ประชุมเช้า ไม่ต้องพูดเรื่องผู้ประสบภัยนับหมื่นเลย? เขาได้ตกใจจนตายกันพอดี"ก็จริงนั่นล่ะ แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริง แต่รายละเอียดด้านในที่นำไปปฏิบัติได้ก็มีเยอะมาก""แล้วองค์จักรพรรดิให้เงินบรรเทาภัยมาเท่าไร?""หนึ่งหมื่นตำลึง""ขี้เหนียว" ฟู่จาวหนิงเบ้ปากนางเองก็ยอมแล้ว ผู้ประสบภัยนับหมื่น แต่ให้เงินบรรเทาภัยมาหมื่นตำลึง? นางเค้นจากตัวพวกองค์หญิงเจ็ดยังได้มาตั้งสามหมื่นตำลึง"คลังหลวงว่างเปล่าแล้วจริงๆ""เอาเถะ พวกเราเองก็ลองไปเตรียมตัวดูก่อน ถ้าเงินไม่พอจริง ค่อยให้ผู้ตรวจการชิงกลับไปปล้นองค์จักรพรรดิอีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นถ้ายังไม่เห็นสถานการณ์เมืองเจ้อกับตา ใต้เท้าอันหากคิดจะปล้นก็ปล้นลำบาก"อันเหนียนบอกว่าสามวันนั้นรีบไปหน่อย ขอเลื่อนไปวันหนึ่ง ข้าส่งคนไปดูลาดเลาก่อน ตอนพวกเจ้าไปถึงจะมีคนรอรับอยู่"เอาของไปด้วยตั้งมากมาย ตอนไปถึงต้อง
ผู้อาวุโสจี้รู้ว่า จะเตือนไม่ให้ฟู่จาวหนิงไปเมืองเจ้อนั้นเป็นไปไม่ได้การตัดสินใจที่นางพูดออกมา ไม่มีทางเปลี่ยนยิ่งไปวก่านั้น วิชาหมอของนางเองก็ดีขนาดนี้ ไปสถานที่แบบนั้นจะต้องช่วยเหลือชีวิตได้มากมายแน่นอน ผู้อาวุโสจี้ที่ทั้งใจเต็มไปด้วยความดีงามก็ไม่กล้าที่จะห้ามปรามแต่เขาเองก็ยังเป็นห่วงฟู่จาวหนิง"เมืองเจ้อทางนั้นผู้ประสบภัยมากเกินไป จะต้องวุ่นวายแน่นอน เจ้าไปที่นั่นความปลอดภัยเป็นปัญหา ต้องระวังหน่อย แล้วอ๋องเจวี้ยนจัดแจงให้แล้วหรือยัง? เจ้าคงต้องพาองครักษ์ไปมากหน่อย"ถึงแม้ถ้าผู้ประสบภัยก่อจราจลขึ้นมา ต่อให้มีองครักษ์มากแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้ แต่พาไปหน่อยก็ยังดีกว่าไม่พาไป"เจ้ามีของแปลกๆ ตอนสกัดยาเยอะไม่ใช่หรือ? ทำยาที่เอาไว้ทำให้คนล้มวงกว้างๆ ไว้เยอะหน่อย ถ้าถึงเวลาต้องใช้จริง เจ้าก็ไม่ต้องสนอะไร สาดยาออกไปเลย รักษาตัวเองไว้ก่อนเป็นสำคัญ""ฮ่าๆ ท่านอาจารย์ สอนลูกศิษย์แบบนี้ได้เหรอ?"ฟู่จาวหนิงอดขำขึ้นมาไม่ได้ ผู้อาวุโสจี้สอนให้นางใช้ยาสลบกับผู้ประสบภัยเนี่ยนะผู้อาวุโสจี้ถลึงตา "แค่นี้จะเป็นอะไรไป? ทำอะไรก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน ความปลอดภัยของเจ้าสำคัญที่สุด!""ข้าย
"ศิษย์น้องหญิงเจ้าไปงานรับบริจาคของฮ่าวปิงมาหรือ?" ต่งฮ่วนจือเงยหน้ามองนาง"เปล่า ข้าตบนางไปฉาดหนึ่งด้วยซ้ำ"ฟู่จาวหนิงไม่ไว้หน้าเขาเลย เอาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ตั้งแต่ต้นจนจบเล่าออกมาอย่างละเอียดรอบหนึ่ง"ดังนั้น ศิษย์พี่รอง ข้าตอนนี้ข้าจะเน้นกับท่านอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เข้าไม่ถูกกับเฉินฮ่าวปิง ถ้านางยังคิดจะมาทำอะไรต่อหน้าข้าอีกจะไม่จบแค่ตบหน้าแล้ว เรื่องที่นางทำมันโง่เง่ามาก ยิ่งไปกว่นั้นนางยังโกรธแค้นแล้วมองข้าเป็ฯศัตรูอีก"ฟู่จาวหนิงกดเสียงต่ำ "ก่อนหน้านี้ศิษย์พี่เป็นอะไรกับพวกนางข้าไม่สนใจ แต่หลังจากนี้ ถ้าหากศิษย์พี่ยังยืนยันจะยืนอยู่ฝั่งนางทางนั้น ยังคิดจะปกป้องนาง เช่นนั้นข้าก็จะขีดเส้นกั้นกับศิษย์พี่แล้ว"ผู้อาวุโสจี้มองต่งฮ่วนจือหน้าขรึม"หลายปีนี้เจ้าเอาแต่ปกป้องแม่ลูกอย่างพวกนาง แล้วมองไม่ออกถึงความใจร้ายของนังเด็กนั่นเลยหรือ? หลังจากนางถูกแต่งตั้งเป็นท่านหญิงก็ไม่มาสนใจเจ้าอีก เจ้าคิดว่านางยังจำบุญคุณของเจ้าได้ไหม? เจ้าคิดว่าตนเองกับนางมีความสัมพันธ์ฉันท์ครอบครัว แต่นางก็แค่หลอกใช้เจ้า""ถึงอย่างไรคนที่โง่แบบเจ้าก็มีไม่เยอะ! ต่งฮ่วนจือ ศิษย์น้องหญิงของเจ้าพู
ฟู่จาวหนิงถอนหายใจ"ศิษย์พี่ พวกเราจะซื้อวัตถุดิบยาในราคาเดิม ไม่ต้องลดราคา แค่นี้ได้ไหม?""ถ้าอย่างนี้ก็ได้อยู่...""ต่ง ! ฮ่วน ! จือ!"ผู้อาวุโสจี้โกรธเป็นฟืนไฟแล้วจริงๆ"ท่านอาจารย์ สงบลงก่อน" ฟู่จาวหนิงรีบเดินไปอยู่ข้างๆ ผู้อาวุโสจี้ รินน้ำชาให้กับเขา "ศิษย์พี่ทำงานอย่างเข้มงวด เข้าต้องทำตามกฏการทำงานของพันธมิตรโอสถ อย่าทำให้เขาลำบากใจเลย""อาจารย์ เรื่องนี้ไม่ได้จะคุยกันลกบาก ข้าแค่ต้องใช้เวลาไปคำนวณต้นทุนของวัตถุดิบยาชนิดต่างๆ หน่อย ถึงตอนนั้นก็จะคำนวณส่วนลดลงมาได้"ต่งฮ่วนจือลุกขึ้นยืน ไม่กล้านั่งลงมา"แต่ถ้าศิษย์น้องหญิงไม่ต้องการลดต้นทุนสี่ส่วนล่ะก็ ข้าทางนี้จะหักกำไรทั้งหมดออกได้ ยิ่งไปกว่นั้น พวกเรายังสามารถบริจาควัตถุดิบยาที่ค่อนข้างพิเศษบางอย่างได้นิดหน่อยด้วย ข้าทางนี้ยังมีส่วนที่เหลืออยู่ เพราะสาขาย่อยเมืองเจ้อทางนั้นไม่มีวัตถุดิบยาชนิดนี้ ดังนั้นสิ่งนี้ข้ามอบให้ได้..."ต่งฮ่วนจือพยายามจะอธิบาย"ตัวข้าเองก็ยังบริจาคเงินช่วยได้ เงินพวกนี้เอาไปเพิ่มกับเงินที่ซื้อวัตถุดิบยาก็พอแล้ว ท่านอาจารย์ ข้าไม่ได้ตระหนี่ถี่เหนียวเสียหน่อย""เฮอะ" ผู้อาวุโสจี้โมโหจนหัวเราะ "
ต่งฮ่วนจือหลายวันนี้ดูผ่านไปแบบซึมเศร้าอยู่ ตอนนี้สีหน้าก็ยังไม่ค่อยดีนัก พูดจาเองก็ยังไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเขาพยายามอธิบายจุดนี้"วัตถุดิบยาชุดใหญ่ที่อ๋องเจวี้ยนต้องการ ก็ล้วนเป็นวัตถุดิบยารักษาหวัดหรืออาการบาดเจ็บภายนอกทั้งนั้น เป็นของที่หาได้ทั่วไป แล้วก็เป็นพวกที่ราคาถูกำไรน้อยพวกนั้น หลายอย่างพวกเราเก็บกำไรแค่หนึ่งถึงสองส่วน รักษาไม่ให้พันธมิตรโอสถต้องขาดทุน ถ้าหากวัตถุดิบยาเหล่านี้ลดราคาต้นทุนไปสี่ส่วน บัญชีของพันธมิตรก็จะมีช่องว่างเบ้อเร่อเลย"ต่งฮ่วนจือบอกกับฟู่จาวหนิงอย่างจนใจ "ศิษย์น้องหญิง ถ้าแบบนี้บัญชีที่ข้าต้องส่งให้พันธมิตรสาขาตอนครึ่งปีจะอธิบายลำบากเอา"เข้าใจ ก็คือ ขาดทุนนั่นล่ะฟู่จาวหนิงยังไม่ทันพูด ผู้อาวุโสจี้ก็ร้องเชอะขึ้นมา "นี่มีอะไรพูดลำบากกัน? ข้าบอกให้เจ้าโยนทั้งหมดมาที่ตัวข้าแล้ว""ท่านอาจารย์ นี่มันทำได้ที่ไหนกัน? ถึงอย่างไรข้าก็ดูแลสาขาของเมืองหลวงนะ เป็นข้าที่ต้องรับผิดชอบ" ต่งฮ่วนจือเองก็ทำเรื่องอย่างการผลักภาระทุกอย่างไปให้อาจารย์หมดไม่ได้"เจ้าเอาแต่กลัวนั่นกลัวนี่ กล้าๆ กลัวๆ ก็แค่เพราะเจ้าเพิ่งมารับช่วงดูแลที่นี่ กลัวจะทำเรื่องโดดเด่นออกมาไม่ได้