จงเจี้ยนช่วยเอาไว้ได้หรือไม่?ฟู่จาวหนิงจับชีพจรจงเจี้ยนอีกครั้ง เอ่ยขึ้นอย่างสงบว่า "ข้าจะไม่ให้เขาตาย"หลายปีมานี้นางแย่งชีวิตกลับมาจากเงื้อมมือยมฑูตน้อยๆ เสียที่ไหน"เขาไม่ใช่ว่าติดพิษหรือ?" สืออีถาม"ใช่""พระชายารู้ไหมว่าเป็นพิษอะไร? พวกเราจะไปตรวจสอบว่าพิษนี้มาจากที่ไหน" น้ำเสียงสืออีเคร่งขรึมขึ้นมาพิษนี้อันที่จริงก็ร้ายกาจมาก ไม่ใช่แค่จะทำให้คนตาย ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถทำให้คนไม่เห็นอย่างรวดเร็วได้อีกด้วย ปากเองก็ไม่สามารถพูดได้ แล้วยังขยับเขยื้อนไม่ได้อีกต่างหากต่อให้ตายไปก็ยังสภาพดูไม่ได้ จะเปลี่ยนเป็นดำมะเมี่ยมเหมือนถูกไฟเผาจนเกรียม ยิ่งกว่านั้นยังไหม้ดำห่อเหี่ยวทั้งข้างในและข้างนอกอีกด้วยพิษที่ร้ายแรงอหังการพลังพิษเช่นนี้จะแพร่ออกไปไม่ได้เด็ดขาด"ความเป็นไปได้นี้ต้องถามท่านอาจารย์" ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยเข้าใจอะไรกับเรื่องพิษของทางนี้นัก"เ่ช่นนั้นข้าน้อยจะไปเชิญผู้อาวุโสจี้มาเสียรอบหนึ่งดีไหม?"มองออกว่าสืออีอยากจะแก้แค้นแทนจงเจี้ยนแล้ว"ได้ เจ้าไปเชิญอาจรย์มา ฟู่าวหนิงคิดๆ เอ่ยต่วา หาคนสองคนไปที่เรือนผุ้เฒ่าฟู่สี่ด้วย แไม่ต้องเข้าใกล้่นัก เพียงแแค่จับาดูเงียบๆ
"รายงานทางการ?""ราชวงศ์ต้าชื่อกับจวนทางการเองก็เกลียดชังต่อลัทธิเทพทำลายล้าง แต่ว่า""พี่หญิง"นอกประตูมีเสียงเฮ่อเหลียนเฟยร้องขึ้นมา"เด็กคนนั้นจากเผ่าเฮ่อเหลียนหรือ?" ผู้อาวุโสจี้ถาม"ใช่""ให้เขาเข้ามา เผ่าเฮ่อเหลียนตอนนั้นก็เหมือนจะเคยสัมผัสกับลัทธิเทพชั่วร้ายด้วยเหมือนกัน" ผู้อาวุโสจี้เอ่ยขึ้นฟู่จาวหนิงให้เฮ่อเหลียนเฟยเข้ามาเฮ่อเหลียนเฟยถูกแบกเข้ามา หลังจากนั่งลงจมูกก็ขยับ มองไปทางจงเจี้ยนอยู่ที่บนเตียง"พี่หญิง ท่านปู่เห็นว่ามีการเคลื่อนไหว เลยให้ข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น""จงเจี้ยนติดพิษเสียแล้ว"เฮ่ยเหลียนเฟยเม้มปาก ลังเลครู่หนึ่งจึงถามขึ้นมา "ข้าเพิ่งได้ยินว่าผู้อาวุโสจี้พูดถึงลัทธิเทพทำลายล้างหรือ?""เจ้ารู้จักลัทธิเทพทำลายล้างด้วยหรือ?""ข้ารู้จัก พี่หญิง ลัทธิเทพทำลายล้างแต่ก่อนมีพวกสาวกลอบแฝงเข้ามาในเผ่าเฮ่อเหลียน พวกเขาคิดจะมารับสาวกเพิ่ม เผ่าเฮ่อเหลียนตอนนั้นมีคนไม่น้อยที่ถูกกล่อมไปพ่อของข้าลงกำลังไปไม่น้อยกว่าจะขับไล่พวกเขาออกไปได้ แต่ก็จ่ายไปด้วยราคาที่น่าเวทนาด้วยเช่นกัน"ผู้อาวุโสจี้พยักหน้า "ข้าเคยได้ยินเรื่องนี้มา""ตอนนั้นลัทธิเทพทำลายล้างใช้พิษ พิษ
"เรื่องนี้ข้าจะไปบอกกับเซียวหลันยวนก่อน"แม้ว่าฟู่จาวหนิงไม่อยากจะพบกับเซียวหลันยวนนัก แต่ตอนนี้เรื่องนี้จะปิดบังเขาไม่ได้ โดยเฉพาะจงเจี้ยนที่จงเจี้ยนยังเป็นลูกน้องของเขาด้วย"ได้""พี่หญิง ท่านต้องระวังตัวเองด้วย" เฮ่อเหลียนเฟยกังวลมาก"แน่นอน เสี่ยวเฟย เจ้าเองก็ไม่ต้องพูดอะไรกับท่านปู่มากนัก เขาจะได้ไม่ต้องกังวลจนเกินไป เจ้าแค่บอกว่าจงเจี้ยนบาดเจ็บก็พอ ข้าจะรักษาเขาให้ดี""ได้""แล้วก็ พวกเจ้าอยู่ในบ้านต้องระมัดระวังด้วย คอยป้องกันคนในเรือนหน้าเหล่านั้น"ฟู่จาวหนิงยังคิดจะหาวิธีรีบไล่คนออกไป ไม่เช่นนั้นนางก็วางใจไม่ลง ถ้านางไม่อยู่บ้านทุกวันแล้วคนเหล่านั้นมาลงมือกับท่านปู่ล่ะ?"พิษเช่นนี้ ถ้าหากช้าไปนิดเดียวข้าก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน" อารมณ์นางเองก็เคร่งขรึมนิดหน่อย กลัวว่านางเองก็จะช่วยเขาไม่ทันเหมือนกันผุ้อาวุโสจี้ส่ายหัว "เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวล ว่ากันว่ายาพิษอย่างหุ่นกำสรวลนี้ไม่ใช่สิ่งที่สกัดได้ง่ายๆ พวกเขาไม่มีทางใช้หุ่นกำสรวลออกมาง่ายๆ แน่"เขายังเหลือบมองจงเจี้ยนที่สลบเหมือดอยู่บนเตียง คาดเดาว่า "เด็กคนนี้น่าจะเพราะได้ยินเรื่องที่สำคัญอะไรมากๆ มา อีกฝ่ายจึงใช้งานหุ
เซียวหลันยวนส่งสัญญาณให้ชิงอีไปรินน้ำชามาชิงอีหมุนตัวออกไปรินน้ำชาฟู่จาวหนิงถามเซียวหลันยวนตรงๆ "ท่านเคยได้ยินลัทธิเทพทำลายล้างไหม?""เจ้าว่าอะไรนะ?"เซียวหลันยวนหน้าเปลี่ยนสีกระทั่งการเคลื่อนไหวของชิงอีที่หมุนตัวไปรินน้ำชาทางโต๊ะน้ำชาก็ยังชะงัก หันหน้ากลับมามองนางทันที"พระชายา?""ดูท่าพวกท่านจะรู้สินะ"ฟู่จาวหนิงพอเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาก็รู้"เจ้าไปพบกับคนของลัทธิเทพทำลายล้างมาหรือ?""จงเจี้ยนติดพิษมา ข้าไม่รู้ว่านั่นคือพิษอะไร จึงเชิญท่านอาจารย์ไปดู ท่านอาจารย์บอกว่าเป็นหุ่นกำสรวลของลัทธิเทพทำลายล้าง"ครั้งนี้ขนาดเซียวหลันยวนก็ยังหน้าเปลี่ยนสี"หุ่นกำสรวล!""พระชายา เช่นนั้นจงเจี้ยนตอนนี้คง..."คงตายไปแล้วเพราะหุ่นกำสรวลนี้ไม่มียาที่สามารถแก้ไขได้ จะตายลงอย่างรวดเร็ว ชิงอีคิดถึงจงเจี้ยนที่ตอนนี้น่าจะตายไปแล้ว ในใจก็เหมือนร่วงลงไปก้นเหวขึ้นพริบตา"ข้ารีดพิษออกมาได้แล้วส่วนหนึ่ง พิษที่เหลือยังสะกดไว้ได้ชั่วคราว ตอนนี้จึงคิดจะเข้ามาบอกท่านเรื่องหนึ่ง""เจ้าพูดมาเถอะ" เซียวหลันยวนสีหน้าจริงจัง"ถ้าจะช่วยจงเจี้ยน ไหมใจโลหิตตัวนั้นต้องเอามาใช้แล้ว"ตอนที่พูดประโยคนี
แต่ว่าฟู่จาวหนิง็ไม่คิดจะเปิดเผยเรื่องห้องเภสัช ไม่อยากให้มีคนเข้าไปด้านในแต่ตอนนี้เซียวหลันยวนกลับเห็นด้วยแล้ว"จงเจี้ยนตอนนี้จะตื่นมาเห็นด้วยได้เสียที่ไหน พวกท่านอ๋องเห็นด้วยก็พอแล้ว ใจไหมโลหิตเป็นของเขา!"ฟู่จาวหนิงเองก็รู้ว่าชิงอีจะต้องอยากช่วยจงเจี้ยนอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไรสำหรับพวกเขา การใช้วัตถุดิบยาที่ล้ำค่าของเจ้านายก็ดูจะเกินเลยไปจุดนี้ฟู่จาวหนิงเองก็นับถือเซียวเหยียนจิ่งอยู่ไหมใจโลหิตหามาได้ยากจริงๆ พวกเขาหามานมนานก็ยังหาไม่พบอย่าว่าแต่จงเจี้ยนที่เป็นแค่ลูกน้องของเขาเลย ต่อให้เป็นคนในบ้านเขา มีคนมากมายพอเกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเองก็มักจะลังเลขึ้นมาถึงอย่างไรใครก็ล้วนรู้สึกว่าชีวิตของตนเองนั้นสำคัญที่สุดแต่ว่าเซียวหลันยวนกลับไม่แม้แต่จะคิดแล้วตอบรับมาทันที"ท่านอ๋องโปรดพิจารณาอีกครั้งเถิด" ชิงอีมองเซียวหลันยวนมองออกว่าเขาเองก็รู้สึกยุ่งยากมากเช่นกันฟู่จาวหนิงเองก็มองไปทางเซียวหลันยวน นางไม่ได้เร่งรัดเขา เรื่องนี้ให้เขามาตัดสินใจเองก็ดูสมเหตุสมผลอยู่"ไม่ต้องพิจารณาแล้ว ตอนนี้จงเจี้ยนชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่ข้ายังพอทนไหวอยู่ ช่วยชีวิตจงเจี้ยนก่อน""เซียวห
ถ้าเขารับคำมาตรงๆ เช่นนี้แล้ว นางไม่ใช่ว่าต้องดีใจจนกระดิกหางขึ้นมาหรอกหรือ?เซียวหลันยวนมีความคิดจะหยอกล้อนาง จงใจถอนหายใจ"แต่ว่าก็เป็นไปได้ ฟู่หลินซื่อถ้าที่จะเป็นทั้งน้องสาวของเสิ่นเสวียน และเป็นสาวกของลัทธิเทพทำลายล้างด้วย"และตามคาด พอได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็กลอกตาขาวใส่แต่ว่านางก็ไม่คัดค้านอะไรชิงอีกลับตั้งใจมาก "ท่านอ๋อง จริงด้วย นี่ก็เป็นไปได้เหมือนกัน ถึงอย่างไรท่านเสิ่นก็พูดไว้ ว่าเสิ่นเชี่ยวน้องสาวของเขาหายสาบสูญไปตั้งแต่ยังเล็ก ตอนนั้นพวกสาวกของลัทธิเทพทำลายล้างเองก็มีอยู่ไม่น้อย ศิษย์ฝ่ายธรรมะแต่ละสำนักของต้าชื่อถูกส่งออกไปทุกวัน บ้างก็บอกว่าไปฝึกฝน บ้างก็บอกว่าออกไปไล่ล่าสาวกของลัทธิเทพทำลายล้าง""สาวกลัทธิเทพทำลายล้างเพื่อที่จะหลบหนีการไล่สังหารของพวกฝ่ายธรรมะ ก็คิดหาวิธีปิดบังตัวตนฐานะอย่างสุดกำลัง ดังนั้นคนมากมายล้วนปิดบังซ่อนชื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่มสำนักตระกูลต่างๆ ตระกูลเสิ่นเมื่อตอนนั้นก็าจจะถูกลัทธิเทพทำลายล้างแทรกซึมเข้าไปแล้วด้วยกระมัง? ต่อมาคนเหล่านั้นก็มาเจอกับคุณหนูเสิ่น ต่อมาจึงพานางไปไหม?"ชิงอีเอ่ยขึ้นเป็นตุเป็นตะ"อดพูดไม่ได้เลย ชิงอี ทักษะ
"แน่นอน ในโลกกว้างนี้มีของอยู่ทุกสิ่งอย่างนั่นล่ะ ของบางอย่างจะแผ่วัตถุที่ทำร้ายร่างกายมนุษย์ออกมาด้วย พอนานวันเข้า จะทำให้ร่างกายบาดเจ็บจนไม่อาจย้อนคืนได้อีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"เจ้ารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร?" เซียวหลันยวนเริ่มมีความคิดที่จะสำรวจตัวนางขึ้นมา"แน่นอนว่าท่านอาจารย์สอนมาสิ" ฟู่จาวหนิงกระพริบตาปริบ "ไม่ใช่ผู้อาวุโสจี้ แต่เป็นอาจารย์ลึกลับที่สอนวิชาแพทย์ให้ข้าแต่ก่อนคนนั้น"และไม่รู้ว่าเรื่องที่ท่านอาจารย์วางเอาไว้ใกล้จะส่งข่าวมาถึงเมืองหลวงหรือยัง ถึงตอนนั้นวิชาแพทย์ของนางก็อธิบายให้ใครเขาฟังได้แล้วส่วนตอนนี้น่ะหรือ..."ถึงอย่างไรผู้อาวุโสก็บอกว่าอย่าเปิดเผยตัวเขา ดังนั้นใครจะถามข้าข้าก็ไม่บอกหรอก""ไม่ถามก็ไม่ถามสิ" เซียวหลันยวนส่ายหัวว "แล้วเจ้ามั่นใจว่าช่วยเสิ่นเสวียนได้หรือ?""มั่นใจ แต่มันไม่ค่อยง่ายก็เท่านั้น""แล้วจะเอาหินดาราไปบอกสถานการณ์กับเขาตอนไหน" หลังจากกเขาถามประโยคนี้สีหน้าจู่ๆ ก็เปลี่ยนไป เสียงเองก็สูงขึ้น "ไม่สิ ในเมื่อหินดาราคุ่นั้นทำให้คนป่วยได้ ตอนนี้ยังอยู่ในมือเจ้าหรือ เจ้า..."เขาคว้าข้อมือฟู่จาวหนิง ความร้อนรนก็เอ่อล้นเกินคำพูดขึ้นมา
เหล่าทหารตอบกลับ "เมื่อครู่มีแต่พระชายาอยู่ที่นี่..."ฟู่จาวหนิงมาแตะของบนโต๊ะเขาหรือ?และมีลมอีกวูบหนึ่งพัดเข้ามา เป่ากระดาษเหล่านั้นจนปลิวว่อน ชิงอีรีบเข้ามาปิดหน้าต่าง "ลมเริ่มมาแล้ว"เซียวหลันยวนเข้าใจแล้วดังนั้น ลมพัดจดหมายตกลงมา ฟู่จาวหนิงเก็บขึ้นมา ดังนั้นจึงทับไว้อย่างเรียบร้อยแล้วนางเห็นกระดาษแผ่นนั้นแล้วหรือยัง?ฟู่จาวหนิงหลังจากกลับมาก็เขียนจดหมายให้เฉินซานส่งไปยังเศรษฐีฟางที่หมู่บ้านตะวันออก นางคิดออกขึ้นมาแล้ว จะให้คนรอบตัวนางมีแต่คนของเซียวหลันยวนไม่ได้ดังนั้นต่อให้ให้เขามาปกป้องเรือน วิชาความสามารถจะดีกว่าทางเศรษฐีฟาง แต่นางก็ยังอยากจะให้เศรษฐีฟางช่วยเหลือพอเห็นนางกลับมา ผู้อาวุโสจี้ก็ผ่อนลมโล่ง"ท่านอาจารย์ จงเจี้ยนเป็นอย่างไรบ้าง?"เมื่อครู่อาเจียนออกมาครั้งหนึ่ง กรอกยาให้เขาแล้ว ตอนนี้ยังมึนงงสลบไสลอยู่ ข้าตรวจสอบดวงตาของเขาแล้ว ถึงแม้จะยังไม่ฟื้นกลับมา แต่ตาขาวเองก็ไม่เปลี่ยนเป็นสีดำอีกแล้ว"ขอบคุณท่านอาจารย์"ฟู่จาวหนิงเดินเข้ามา จับชีพจรให้กับจงเจี้ยนอีกครั้ง จากนั้นก็ฝังเข็มอีกรอบ ระบายเลือดพิษออกผู้อาวุโสจี้คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ตลอด"พิษบนตัวเ