"แน่นอน ในโลกกว้างนี้มีของอยู่ทุกสิ่งอย่างนั่นล่ะ ของบางอย่างจะแผ่วัตถุที่ทำร้ายร่างกายมนุษย์ออกมาด้วย พอนานวันเข้า จะทำให้ร่างกายบาดเจ็บจนไม่อาจย้อนคืนได้อีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"เจ้ารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร?" เซียวหลันยวนเริ่มมีความคิดที่จะสำรวจตัวนางขึ้นมา"แน่นอนว่าท่านอาจารย์สอนมาสิ" ฟู่จาวหนิงกระพริบตาปริบ "ไม่ใช่ผู้อาวุโสจี้ แต่เป็นอาจารย์ลึกลับที่สอนวิชาแพทย์ให้ข้าแต่ก่อนคนนั้น"และไม่รู้ว่าเรื่องที่ท่านอาจารย์วางเอาไว้ใกล้จะส่งข่าวมาถึงเมืองหลวงหรือยัง ถึงตอนนั้นวิชาแพทย์ของนางก็อธิบายให้ใครเขาฟังได้แล้วส่วนตอนนี้น่ะหรือ..."ถึงอย่างไรผู้อาวุโสก็บอกว่าอย่าเปิดเผยตัวเขา ดังนั้นใครจะถามข้าข้าก็ไม่บอกหรอก""ไม่ถามก็ไม่ถามสิ" เซียวหลันยวนส่ายหัวว "แล้วเจ้ามั่นใจว่าช่วยเสิ่นเสวียนได้หรือ?""มั่นใจ แต่มันไม่ค่อยง่ายก็เท่านั้น""แล้วจะเอาหินดาราไปบอกสถานการณ์กับเขาตอนไหน" หลังจากกเขาถามประโยคนี้สีหน้าจู่ๆ ก็เปลี่ยนไป เสียงเองก็สูงขึ้น "ไม่สิ ในเมื่อหินดาราคุ่นั้นทำให้คนป่วยได้ ตอนนี้ยังอยู่ในมือเจ้าหรือ เจ้า..."เขาคว้าข้อมือฟู่จาวหนิง ความร้อนรนก็เอ่อล้นเกินคำพูดขึ้นมา
เหล่าทหารตอบกลับ "เมื่อครู่มีแต่พระชายาอยู่ที่นี่..."ฟู่จาวหนิงมาแตะของบนโต๊ะเขาหรือ?และมีลมอีกวูบหนึ่งพัดเข้ามา เป่ากระดาษเหล่านั้นจนปลิวว่อน ชิงอีรีบเข้ามาปิดหน้าต่าง "ลมเริ่มมาแล้ว"เซียวหลันยวนเข้าใจแล้วดังนั้น ลมพัดจดหมายตกลงมา ฟู่จาวหนิงเก็บขึ้นมา ดังนั้นจึงทับไว้อย่างเรียบร้อยแล้วนางเห็นกระดาษแผ่นนั้นแล้วหรือยัง?ฟู่จาวหนิงหลังจากกลับมาก็เขียนจดหมายให้เฉินซานส่งไปยังเศรษฐีฟางที่หมู่บ้านตะวันออก นางคิดออกขึ้นมาแล้ว จะให้คนรอบตัวนางมีแต่คนของเซียวหลันยวนไม่ได้ดังนั้นต่อให้ให้เขามาปกป้องเรือน วิชาความสามารถจะดีกว่าทางเศรษฐีฟาง แต่นางก็ยังอยากจะให้เศรษฐีฟางช่วยเหลือพอเห็นนางกลับมา ผู้อาวุโสจี้ก็ผ่อนลมโล่ง"ท่านอาจารย์ จงเจี้ยนเป็นอย่างไรบ้าง?"เมื่อครู่อาเจียนออกมาครั้งหนึ่ง กรอกยาให้เขาแล้ว ตอนนี้ยังมึนงงสลบไสลอยู่ ข้าตรวจสอบดวงตาของเขาแล้ว ถึงแม้จะยังไม่ฟื้นกลับมา แต่ตาขาวเองก็ไม่เปลี่ยนเป็นสีดำอีกแล้ว"ขอบคุณท่านอาจารย์"ฟู่จาวหนิงเดินเข้ามา จับชีพจรให้กับจงเจี้ยนอีกครั้ง จากนั้นก็ฝังเข็มอีกรอบ ระบายเลือดพิษออกผู้อาวุโสจี้คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ตลอด"พิษบนตัวเ
หมอเทวดาหลี่รู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก"ข้าจับชีพจรไปแล้ว ท่านเสิ่นเขาติดพิษ แต่ว่าพิษนี้แปลกประหลาดมาก เวลาแค่เล็กน้อยยังตรวจให้ชัดเจนไม่ได้ ว่าไปติดจากที่ไหน ติดพิษอะไรมา แล้วจะแก้ไขอย่างไร"หมอเทวดาหลี่ก็อัดอั้นไฟโกรธอยู่เช่นกัน"ในเมื่อสถานการณ์ซ้บซ้อนเช่นนี้ เช่นนั้นข้าจะถามมากหน่อยไม่ได้หรือ? ข้าสงสัยว่าปกติเขากินเขาดื่มอะไรลงไป แน่นอนว่าต้องการให้เขาเอาของที่กินที่ดื่มลงไปในช่วงหลายปีนี้พูดออกมา ทางที่ดีควรให้เขาเอาพวกชาออกมาให้ข้าศึกษาอย่างละเอียดสิ แต่นี่ท่านเสิ่นกลับบอกว่าพอแล้ว นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?"ก่อนหน้านี้ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยาคุยกับเขา ก็ยังดูเคารพดูถ่อมตัวมาก แต่หลังจากกลับจากต้าชื่อครั้งนี้ก็ดูหยิ่งผยองขึ้นมาไม่น้อยเลย ก็แค่หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่ง แต่พูดจากับเขาดันใช้น้ำเสียงกล่าวโทษเขาหรือ?"เขาเป็นคนป่วยที่ไม่ให้ความร่วมมือเช่นนี้ หมอทุกคนก็ต้องยกมือยอมแพ้ทั้งนั้น ดังนั้นท่านลองดูเอาเถิด เดินทางจากนับพันลี้กลับมาแคว้นเจาแล้วสุดยอดนักหรือ? ไม่ใช่ว่าสกุลหลี่อย่างข้าโอ้อวดตนนะ ถ้าหากข้าทางนี้ยังตรวจไม่ได้ เช่นนั้นหมอคนอื่นก็คงไม่ต้องไปหาแล้ว"หมอ
"ให้ตายเถอะ เป็นหมอแท้ๆ แต่เขากลับมองไม่ออกเลยว่านายท่านเหนื่อยจนย่ำแย่แล้ว" ลุงลั่วดูหงุดหงิดมากท่านเสิ่นหลับตาลงแล้วไม่ลืมตาขึ้นมารอจนลุงลั่วพูดจบ เขาจึงถอนหายใจออกมาเสียงหนึ่ง"วิชาแพทย์ของหมอเทวดาหลี่ก็พอใช้ได้ แต่ก็เป็นแค่หมอที่วิชาแพทย์สูงคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ถึงกับเป็นหมอเทวดา"นี่ลือกันเกินจริงไปแล้วและเพราะตอนนี้วิชาแพทย์ก็ขาดห้วงไปอย่างรุนแรง ก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งขาดหายไป จึงส่งผลกระทบอย่างมาก"ยังดีที่มีพระชายาอ๋องเจวี้ยนอยู่" ลุงลั่วฝากความหวังไว้กับฟู่จาวหนิงอย่างประหลาดพอเอ่ยถึงฟู่จาวหนิง ท่านเสิ่นก็ลืมตาขึ้นมา"ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าสมัยก่อนเคยช่วยนางไว้ครั้งหนึ่งหรือ?""ถูกต้อง คิดไม่ถึงว่าเด็กสาวตกน้ำที่ดูกตัญญูคนนั้นจะเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน แต่ว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนตอนนี้ดูแล้วดูมีพลังมากกว่าตอนเด็ก มีความรู้และสุขุมใจกว้างมาก เด็กสาวก่อนหน้านั้นหลังจากถูกข้าช่วยไว้ก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้"พระชายาอ๋องเจวี้ยนตอนนี้ ดูแล้วไม่น่าจะร้องไห้ออกมาง่ายๆ"ลองเล่าเรื่องตอนนางยังเด็กหน่อย" ท่านเสิ่นหลับตาลงอีกครั้ง"นายท่าน ที่ข้ารู้ก็ล้วนเป็นเรื่องที่ได้ยินมาตอนที่ค
แต่ว่า ที่ถูกขวางไว้คือพวกฮูหยินหญิงสาวและเด็ก ไม่เห็นพวกสามีหรือบิดาของพวกนางพอเห็นฟู่จาวหนิง ฮูหยินรองฮูหยินสามพวกนางก็ร้องเสียงดังขึ้นมา ดวงตาที่ถลึงเข้ามาก็ราวกับจะพ่นไฟโทสะออกมาอย่างไรอย่างนั้นฟู่รั่วเสวี่ยฟู่เป่าเจินดวงตาพวกนางแดงเถือก มองฟู่จาวหนิง สีหน้าก็ทั้งริษยาทั้งเกลียดชัง"พวกเจ้าทำอะไรกัน?"ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้วเพราะนางเห็นว่าท่าทีของคนเหล่านี้ล้วนดูซมซาน อย่างเช่นฮูหยินสาม ก้าวเดินยังโซซัดโซเซฟู่รั่วเสวี่ยที่แต่เดิมชอบแสร้งทำตัวเป็นคุณหนูแขนเสื้อกับกระโปรงก็ยังไม่เรียบร้อย ดูแล้วไม่เหมือนกับสภาพนางเวลาปกติเลยแล้วก็ฟู่เจียวๆ ยิ่งตลกกว่า และไม่รู้ว่าตอนที่กำลังทาปากแล้วโดนคนดึงออกมาหรือเปล่า ปากถูกเขียนจนเอียงกะเทเร่ ตอนนี้มุมปากยกจนเป็นรอยแดงเถือก"ไอ๊หยา หรือว่าพวกเจ้ารู้ว่าจะช้าเร็วก็ต้องไล่พวกเจ้าออกไปจากบ้านตระกูลฟู่ รู้สึกว่าถูกไล่แล้วดูไม่ค่อยดี ดังนั้นจึงคิดจะออกไปเองเช่นนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงพูดเช่นนี้ ท่าทางดูดีใจอยู่"ถ้าหากพวกเจ้าสามารถรู้ตัวเช่นนี้จริงก็ดีมากเลย รีบเข้าสิ ถ้าออกไปเองก็จะดูดีหน่อย ถ้าถูกข้าไล่ออกไปมันจะดูไม่ดีนะ"ฟู่เจียวเจียวตะโกน
"ฮูหยินรอง ฮูหยินสาม! ผู้เฒ่ารองผู้เฒ่าสามเรียให้พวกเจ้ารีบพาคุณหนูกลับไปเก็บของ เวลาเกือบจะหมดแล้ว!"คนใช้คนนี้เองก็วิ่งจนเหงื่อโทรมกายไปหมดองครักษ์เงามังกรเข้ามาแล้ว เห็นท่าทีเย็นชาของพวกเขาทำเอาคนผวาขึ้นมาถ้าพวกเขาไม่สามารถย้ายออกไปได้ในช่วงเวลา องค์รักษ์เงามังกรก็จะตะเพิดพวกเขาออกไปถึงตอนนั้นคนพอถูกตะเพิดออกไปก้ไม่มีโอกาสจะหยิบของอะไรแล้ว"อ๊า!""รีบไป!""ของของพวกเรายังไม่ได้เก็บ!"คนของบ้านรองบ้านสามล้วนกระโดดเหยงกันอย่างร้อนรน สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขาสับสนไปมาเหมือนแมลงวันไร้หัว ครู่หนึ่งจึงเพิ่งวิ่งออกมา"ลุงจงป้าจง พาพวกเฉินซานไปคอยจับตาดูพวกเขาไว้ หินสักก้อนเดียวของบ้านตระกูลฟู่พวกเราพวกเขาจะย้ายออกไปไม่ได้แม้แต่ก้อนเดียว!" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ขอรับ!"ลุงจงป้าจงตอนนี้เองในที่สุดก็ยืดเอวตรงหลังตรงหลายปีมานี้ถูกคนบ้านสองบ้านสามกดมาโดยตลอด ตอนนี้ได้ถอนใจโล่งออกมาบ้างแล้วถ้าหากไม่มีอ๋องเจวี้ยน ไม่มีองครักษ์เงามังกร จะไล่เจ้าพวกคนหน้าด้านไร้ยางอายพวกนี้ได้อย่างไร?"คุณหนู ข้าก็ไปด้วย!" เสี่ยวเถาคิดจะไปคอยจับตาดูพวกฟู่เจียวเจียวให้"ไปเถอะ ไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงโบกไ
ซ่งอวิ๋นเหยารู้สึกว่าเซียวหลันยวนทำเกินไปแล้ว!นางเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง เอื้อนเอ่ยเชื้อเชิญเขาก่อน เขากลับบอว่าไม่คุ้มค่าที่จะออกไปรับลมหนาวเพื่อนางหรือ?ซ่งอวิ๋นเหยาสูดลมหายใจลึก พยายามสะกดไฟโกรธกับความลุกลนของตนเองลงไปสมัยก่อนเซียวหลันยวนไม่ทำเช่นนี้กับนาง"เอาล่ะ เป็นข้าที่พิจารณาไม่รอบคอบ ไม่ได้คิดถึงเรื่องสุขภาพของท่าน..."นางยังพูดไม่ทันจบ เซียวหลันยวนก็ตัดบทนาง "สุขภาพร่างกายของข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้ามาพิจารณา"นี่ควรจะให้พระชายาของเขามาพิจารณาใช่ไหม?"หลันยวน!"ซ่งอวิ๋นเหยารู้สึกว่าตนเองแทบจะระงับไฟโกรธไม่ไหวแล้วเซียวหลันยวนทำเกินไปแล้วหรือเปล่า? กระทั่งองค์รัชทายาทต้าชื่อเองก็ยังถอยให้นาง กังวลว่าคำพูดที่พูดจะทำให้นางไม่เบิกบาน!ตอนที่ฟู่จาวหนิงออกมาก็ได้ยินประโยคนี้ของซ่งอวิ๋นเหยาพอดีนางหยุดเท้าลงคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าซ่งอวิ๋นเหยาจะอยู่ที่นี่ชั่วขณะหนึ่งฟู่จาวหนิงไม่รู้ว่าจะเข้าไปดีไหม แต่ว่าเซียวหลันยวนก็มองเห็นนางแล้ว"ยืนอยู่ที่นั่นทำไม? เข้ามาสิ" เซียวหลันยวนกวักมือให้นางนี่เรียกลูกหมาหรือ?แม้ในใจจะไม่ยินดีนัก แต่ฟู่จาวหนิงก็ยังสาวเท้าเดินไปหาเขาซ่งอว
ก่อนหน้าที่นางยังไม่ได้เริ่มล้างแค้นอย่างจริงจัง ทำให้ซ่งอวิ๋นเหยาเจ็บช้ำน้ำใจก่อนก็ยังได้อยู่!"นี่เจ้า!"ซ่งอวิ๋นเหยาในหัวสมองแล่นวิ้ง ทั้งตัวโมโหจนปอดแทบระเบิดแล้ว"ข้าพูดไม่ถูกหรือ? ท่านหญิงเหมือนเองก็เหมือนไม่ได้มีการหมั้นหมายกับเซียวหลันยวนของข้านี่? หรือจะบอกว่าพวกท่านทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกันหรือ? ไอ๊หยา เพื่อนแบบไหนกันนะ? ที่แบบรู้ใจนั่นน่ะหรือ?""พูดอะไรไร้สาระ" เซียวหลันยวนฟังคำพูดฟู่จาวหนิงแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกต้องนางคิดจะพูดอะไรกัน?"หรือว่านั่นจะเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ก่อนพวกท่านผูกพันกันไว้ทั้งชีวิตแล้วหรือ? ส่วนข้าก็ฟันดาบเข้ามาช่วงชิงความรักไปหรือไร?"ฟู่จาวหนิงไม่รอให้ซ่งอวิ๋นเหยาตอบ รับต่อมาทันที "แต่ว่า ตอนแรกที่ข้าเห็นเซียวหลันยวน ข้าก็ถามเขา ว่ามีคนที่หมั้นหมายไว้ไหม มีหญิงสาวในดวงใจหรือไม่ หญิงสาวที่จะรับเป็นภรรยา ถ้าหากมีข้าจะไม่ทำเรื่องที่เป็นการช่วงชิงความรักแบบนั้น""แต่เซียวหลันยวนตอนนั้นบอกกับข้าอย่างมั่นใจว่าไม่มี ยังไม่มี"ฟู่จาวหนิงมองซ่งอวิ๋นเหยาแล้วหัวเราะร่าขึ้นมา"ดังนั้น ในเมื่อพวกท่านไม่ได้เป็นอะไรกันเลย ท่านหญิงอวิ๋นเหยาผู้เป็นหญิ
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ
สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร
"ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่