เหล่าทหารตอบกลับ "เมื่อครู่มีแต่พระชายาอยู่ที่นี่..."ฟู่จาวหนิงมาแตะของบนโต๊ะเขาหรือ?และมีลมอีกวูบหนึ่งพัดเข้ามา เป่ากระดาษเหล่านั้นจนปลิวว่อน ชิงอีรีบเข้ามาปิดหน้าต่าง "ลมเริ่มมาแล้ว"เซียวหลันยวนเข้าใจแล้วดังนั้น ลมพัดจดหมายตกลงมา ฟู่จาวหนิงเก็บขึ้นมา ดังนั้นจึงทับไว้อย่างเรียบร้อยแล้วนางเห็นกระดาษแผ่นนั้นแล้วหรือยัง?ฟู่จาวหนิงหลังจากกลับมาก็เขียนจดหมายให้เฉินซานส่งไปยังเศรษฐีฟางที่หมู่บ้านตะวันออก นางคิดออกขึ้นมาแล้ว จะให้คนรอบตัวนางมีแต่คนของเซียวหลันยวนไม่ได้ดังนั้นต่อให้ให้เขามาปกป้องเรือน วิชาความสามารถจะดีกว่าทางเศรษฐีฟาง แต่นางก็ยังอยากจะให้เศรษฐีฟางช่วยเหลือพอเห็นนางกลับมา ผู้อาวุโสจี้ก็ผ่อนลมโล่ง"ท่านอาจารย์ จงเจี้ยนเป็นอย่างไรบ้าง?"เมื่อครู่อาเจียนออกมาครั้งหนึ่ง กรอกยาให้เขาแล้ว ตอนนี้ยังมึนงงสลบไสลอยู่ ข้าตรวจสอบดวงตาของเขาแล้ว ถึงแม้จะยังไม่ฟื้นกลับมา แต่ตาขาวเองก็ไม่เปลี่ยนเป็นสีดำอีกแล้ว"ขอบคุณท่านอาจารย์"ฟู่จาวหนิงเดินเข้ามา จับชีพจรให้กับจงเจี้ยนอีกครั้ง จากนั้นก็ฝังเข็มอีกรอบ ระบายเลือดพิษออกผู้อาวุโสจี้คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ตลอด"พิษบนตัวเ
หมอเทวดาหลี่รู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก"ข้าจับชีพจรไปแล้ว ท่านเสิ่นเขาติดพิษ แต่ว่าพิษนี้แปลกประหลาดมาก เวลาแค่เล็กน้อยยังตรวจให้ชัดเจนไม่ได้ ว่าไปติดจากที่ไหน ติดพิษอะไรมา แล้วจะแก้ไขอย่างไร"หมอเทวดาหลี่ก็อัดอั้นไฟโกรธอยู่เช่นกัน"ในเมื่อสถานการณ์ซ้บซ้อนเช่นนี้ เช่นนั้นข้าจะถามมากหน่อยไม่ได้หรือ? ข้าสงสัยว่าปกติเขากินเขาดื่มอะไรลงไป แน่นอนว่าต้องการให้เขาเอาของที่กินที่ดื่มลงไปในช่วงหลายปีนี้พูดออกมา ทางที่ดีควรให้เขาเอาพวกชาออกมาให้ข้าศึกษาอย่างละเอียดสิ แต่นี่ท่านเสิ่นกลับบอกว่าพอแล้ว นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?"ก่อนหน้านี้ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยาคุยกับเขา ก็ยังดูเคารพดูถ่อมตัวมาก แต่หลังจากกลับจากต้าชื่อครั้งนี้ก็ดูหยิ่งผยองขึ้นมาไม่น้อยเลย ก็แค่หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่ง แต่พูดจากับเขาดันใช้น้ำเสียงกล่าวโทษเขาหรือ?"เขาเป็นคนป่วยที่ไม่ให้ความร่วมมือเช่นนี้ หมอทุกคนก็ต้องยกมือยอมแพ้ทั้งนั้น ดังนั้นท่านลองดูเอาเถิด เดินทางจากนับพันลี้กลับมาแคว้นเจาแล้วสุดยอดนักหรือ? ไม่ใช่ว่าสกุลหลี่อย่างข้าโอ้อวดตนนะ ถ้าหากข้าทางนี้ยังตรวจไม่ได้ เช่นนั้นหมอคนอื่นก็คงไม่ต้องไปหาแล้ว"หมอ
"ให้ตายเถอะ เป็นหมอแท้ๆ แต่เขากลับมองไม่ออกเลยว่านายท่านเหนื่อยจนย่ำแย่แล้ว" ลุงลั่วดูหงุดหงิดมากท่านเสิ่นหลับตาลงแล้วไม่ลืมตาขึ้นมารอจนลุงลั่วพูดจบ เขาจึงถอนหายใจออกมาเสียงหนึ่ง"วิชาแพทย์ของหมอเทวดาหลี่ก็พอใช้ได้ แต่ก็เป็นแค่หมอที่วิชาแพทย์สูงคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ถึงกับเป็นหมอเทวดา"นี่ลือกันเกินจริงไปแล้วและเพราะตอนนี้วิชาแพทย์ก็ขาดห้วงไปอย่างรุนแรง ก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งขาดหายไป จึงส่งผลกระทบอย่างมาก"ยังดีที่มีพระชายาอ๋องเจวี้ยนอยู่" ลุงลั่วฝากความหวังไว้กับฟู่จาวหนิงอย่างประหลาดพอเอ่ยถึงฟู่จาวหนิง ท่านเสิ่นก็ลืมตาขึ้นมา"ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าสมัยก่อนเคยช่วยนางไว้ครั้งหนึ่งหรือ?""ถูกต้อง คิดไม่ถึงว่าเด็กสาวตกน้ำที่ดูกตัญญูคนนั้นจะเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน แต่ว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนตอนนี้ดูแล้วดูมีพลังมากกว่าตอนเด็ก มีความรู้และสุขุมใจกว้างมาก เด็กสาวก่อนหน้านั้นหลังจากถูกข้าช่วยไว้ก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้"พระชายาอ๋องเจวี้ยนตอนนี้ ดูแล้วไม่น่าจะร้องไห้ออกมาง่ายๆ"ลองเล่าเรื่องตอนนางยังเด็กหน่อย" ท่านเสิ่นหลับตาลงอีกครั้ง"นายท่าน ที่ข้ารู้ก็ล้วนเป็นเรื่องที่ได้ยินมาตอนที่ค
แต่ว่า ที่ถูกขวางไว้คือพวกฮูหยินหญิงสาวและเด็ก ไม่เห็นพวกสามีหรือบิดาของพวกนางพอเห็นฟู่จาวหนิง ฮูหยินรองฮูหยินสามพวกนางก็ร้องเสียงดังขึ้นมา ดวงตาที่ถลึงเข้ามาก็ราวกับจะพ่นไฟโทสะออกมาอย่างไรอย่างนั้นฟู่รั่วเสวี่ยฟู่เป่าเจินดวงตาพวกนางแดงเถือก มองฟู่จาวหนิง สีหน้าก็ทั้งริษยาทั้งเกลียดชัง"พวกเจ้าทำอะไรกัน?"ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้วเพราะนางเห็นว่าท่าทีของคนเหล่านี้ล้วนดูซมซาน อย่างเช่นฮูหยินสาม ก้าวเดินยังโซซัดโซเซฟู่รั่วเสวี่ยที่แต่เดิมชอบแสร้งทำตัวเป็นคุณหนูแขนเสื้อกับกระโปรงก็ยังไม่เรียบร้อย ดูแล้วไม่เหมือนกับสภาพนางเวลาปกติเลยแล้วก็ฟู่เจียวๆ ยิ่งตลกกว่า และไม่รู้ว่าตอนที่กำลังทาปากแล้วโดนคนดึงออกมาหรือเปล่า ปากถูกเขียนจนเอียงกะเทเร่ ตอนนี้มุมปากยกจนเป็นรอยแดงเถือก"ไอ๊หยา หรือว่าพวกเจ้ารู้ว่าจะช้าเร็วก็ต้องไล่พวกเจ้าออกไปจากบ้านตระกูลฟู่ รู้สึกว่าถูกไล่แล้วดูไม่ค่อยดี ดังนั้นจึงคิดจะออกไปเองเช่นนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงพูดเช่นนี้ ท่าทางดูดีใจอยู่"ถ้าหากพวกเจ้าสามารถรู้ตัวเช่นนี้จริงก็ดีมากเลย รีบเข้าสิ ถ้าออกไปเองก็จะดูดีหน่อย ถ้าถูกข้าไล่ออกไปมันจะดูไม่ดีนะ"ฟู่เจียวเจียวตะโกน
"ฮูหยินรอง ฮูหยินสาม! ผู้เฒ่ารองผู้เฒ่าสามเรียให้พวกเจ้ารีบพาคุณหนูกลับไปเก็บของ เวลาเกือบจะหมดแล้ว!"คนใช้คนนี้เองก็วิ่งจนเหงื่อโทรมกายไปหมดองครักษ์เงามังกรเข้ามาแล้ว เห็นท่าทีเย็นชาของพวกเขาทำเอาคนผวาขึ้นมาถ้าพวกเขาไม่สามารถย้ายออกไปได้ในช่วงเวลา องค์รักษ์เงามังกรก็จะตะเพิดพวกเขาออกไปถึงตอนนั้นคนพอถูกตะเพิดออกไปก้ไม่มีโอกาสจะหยิบของอะไรแล้ว"อ๊า!""รีบไป!""ของของพวกเรายังไม่ได้เก็บ!"คนของบ้านรองบ้านสามล้วนกระโดดเหยงกันอย่างร้อนรน สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขาสับสนไปมาเหมือนแมลงวันไร้หัว ครู่หนึ่งจึงเพิ่งวิ่งออกมา"ลุงจงป้าจง พาพวกเฉินซานไปคอยจับตาดูพวกเขาไว้ หินสักก้อนเดียวของบ้านตระกูลฟู่พวกเราพวกเขาจะย้ายออกไปไม่ได้แม้แต่ก้อนเดียว!" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ขอรับ!"ลุงจงป้าจงตอนนี้เองในที่สุดก็ยืดเอวตรงหลังตรงหลายปีมานี้ถูกคนบ้านสองบ้านสามกดมาโดยตลอด ตอนนี้ได้ถอนใจโล่งออกมาบ้างแล้วถ้าหากไม่มีอ๋องเจวี้ยน ไม่มีองครักษ์เงามังกร จะไล่เจ้าพวกคนหน้าด้านไร้ยางอายพวกนี้ได้อย่างไร?"คุณหนู ข้าก็ไปด้วย!" เสี่ยวเถาคิดจะไปคอยจับตาดูพวกฟู่เจียวเจียวให้"ไปเถอะ ไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงโบกไ
ซ่งอวิ๋นเหยารู้สึกว่าเซียวหลันยวนทำเกินไปแล้ว!นางเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง เอื้อนเอ่ยเชื้อเชิญเขาก่อน เขากลับบอว่าไม่คุ้มค่าที่จะออกไปรับลมหนาวเพื่อนางหรือ?ซ่งอวิ๋นเหยาสูดลมหายใจลึก พยายามสะกดไฟโกรธกับความลุกลนของตนเองลงไปสมัยก่อนเซียวหลันยวนไม่ทำเช่นนี้กับนาง"เอาล่ะ เป็นข้าที่พิจารณาไม่รอบคอบ ไม่ได้คิดถึงเรื่องสุขภาพของท่าน..."นางยังพูดไม่ทันจบ เซียวหลันยวนก็ตัดบทนาง "สุขภาพร่างกายของข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้ามาพิจารณา"นี่ควรจะให้พระชายาของเขามาพิจารณาใช่ไหม?"หลันยวน!"ซ่งอวิ๋นเหยารู้สึกว่าตนเองแทบจะระงับไฟโกรธไม่ไหวแล้วเซียวหลันยวนทำเกินไปแล้วหรือเปล่า? กระทั่งองค์รัชทายาทต้าชื่อเองก็ยังถอยให้นาง กังวลว่าคำพูดที่พูดจะทำให้นางไม่เบิกบาน!ตอนที่ฟู่จาวหนิงออกมาก็ได้ยินประโยคนี้ของซ่งอวิ๋นเหยาพอดีนางหยุดเท้าลงคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าซ่งอวิ๋นเหยาจะอยู่ที่นี่ชั่วขณะหนึ่งฟู่จาวหนิงไม่รู้ว่าจะเข้าไปดีไหม แต่ว่าเซียวหลันยวนก็มองเห็นนางแล้ว"ยืนอยู่ที่นั่นทำไม? เข้ามาสิ" เซียวหลันยวนกวักมือให้นางนี่เรียกลูกหมาหรือ?แม้ในใจจะไม่ยินดีนัก แต่ฟู่จาวหนิงก็ยังสาวเท้าเดินไปหาเขาซ่งอว
ก่อนหน้าที่นางยังไม่ได้เริ่มล้างแค้นอย่างจริงจัง ทำให้ซ่งอวิ๋นเหยาเจ็บช้ำน้ำใจก่อนก็ยังได้อยู่!"นี่เจ้า!"ซ่งอวิ๋นเหยาในหัวสมองแล่นวิ้ง ทั้งตัวโมโหจนปอดแทบระเบิดแล้ว"ข้าพูดไม่ถูกหรือ? ท่านหญิงเหมือนเองก็เหมือนไม่ได้มีการหมั้นหมายกับเซียวหลันยวนของข้านี่? หรือจะบอกว่าพวกท่านทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกันหรือ? ไอ๊หยา เพื่อนแบบไหนกันนะ? ที่แบบรู้ใจนั่นน่ะหรือ?""พูดอะไรไร้สาระ" เซียวหลันยวนฟังคำพูดฟู่จาวหนิงแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกต้องนางคิดจะพูดอะไรกัน?"หรือว่านั่นจะเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ก่อนพวกท่านผูกพันกันไว้ทั้งชีวิตแล้วหรือ? ส่วนข้าก็ฟันดาบเข้ามาช่วงชิงความรักไปหรือไร?"ฟู่จาวหนิงไม่รอให้ซ่งอวิ๋นเหยาตอบ รับต่อมาทันที "แต่ว่า ตอนแรกที่ข้าเห็นเซียวหลันยวน ข้าก็ถามเขา ว่ามีคนที่หมั้นหมายไว้ไหม มีหญิงสาวในดวงใจหรือไม่ หญิงสาวที่จะรับเป็นภรรยา ถ้าหากมีข้าจะไม่ทำเรื่องที่เป็นการช่วงชิงความรักแบบนั้น""แต่เซียวหลันยวนตอนนั้นบอกกับข้าอย่างมั่นใจว่าไม่มี ยังไม่มี"ฟู่จาวหนิงมองซ่งอวิ๋นเหยาแล้วหัวเราะร่าขึ้นมา"ดังนั้น ในเมื่อพวกท่านไม่ได้เป็นอะไรกันเลย ท่านหญิงอวิ๋นเหยาผู้เป็นหญิ
เซียวหลันยวนฟังคำพูดของฟู่จาวหนิงแล้วรู้สึกจิตใจกลัดกลุ้มขึ้นมา"เจ้าจะคิดให้มันชัดเจนไปเสียทุกเรื่องเลยหรือ?""ควรจะคิดให้ชัดเจนหน่อย เผื่อพอถึงเวลาที่พ่อกับแม่ข้ากลับมา ท่านคิดจะล้างแค้น แล้วยังมาเพิ่มเรื่องที่ข้าติดค้างไว้ ถึงตอนนั้นครอบครัวของข้าคงจะแบกรับไม่ไหว""เอาล่ะ แล้วแต่เจ้าเถอะ"เซียวหลันยวนหลังจากเอ่ยเสียงขรึมก็มองไปทางชิงอี "ครึ่งชั่วยามแล้ว ให้คนพวกนั้นออกมาทันที ถ้ากล้าถ่วงเวลาก็หิ้วตัวออกไปโยนทะเลสาบเลย!"ชิงอี: ท่านอ๋อง เหมือนว่าจะยังมีเวลาอยู่อีกหน่อย?แต่พอเห็นกลิ่นอายเย็นชาที่แผ่ออกมาทั่วร่างท่านอ๋อง ชิงอีเองก็ไม่กล้าเข้าไปยั่วโมโห จึงรีบร้อนขานรับทันที เดินเข้าไปถ่ายทอดคำพูดคนทั้งหมดของผู้เฒ่าฟู่รองผู้เฒ่าฟู่สามล้วนโอดครวญถูกองครักษ์เงามังกรหิ้วตัวออกมาจากในเรือนพวกเขาแต่ละคนซมซานกันสุดๆ ในมือทุกคน บนตัว ล้วนหยิบย้ายของเท่าที่จะทำได้ แต่เวลาของพวกเขาก็ยังไม่มากพอ ดังนั้นของเหล่านี้จึงยังไม่ทันทำหีบห่อดีดี ระเกะระกะไปหมดตอนที่คนถูกไล่ออกมาของเหล่านั้นก็ยังหล่นตุบร่วงกราวลงกับพื้นพวกของฟู่เจียวเจียวร้องห่มร้องไห้จนแทบจะทนไม่ไหวพวกเขาเดิมทีคิดว่าจะขา