ฟู่จาวหนิงเองพูดขอบคุณมาอีกคำหนึ่งเซียวหลันยวนมองนาง เรื่องอะไรก็ต้องคิดให้มันชัดเจนแบบนี้เลยหรือ?และไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตอนนี้พอได้ยินนางบอกขอบคุณกับตนเอง แล้วยังใช้สีหน้ากับน้ำเสียงที่สงบเช่นนี้อีก เซียวหลันยวนรู้สึกว่าความหดหู่ในใจมันพุ่งขึ้นมาแล้วเขาเอ่ยขึ้น คิดจะอธิบาย "ซ่งอวิ๋นเหยา""เซียวหลันยวน ข้าจะพูดกับท่านให้ชัดเจนอีกครั้ง ข้าจะไม่ปล่อยนางไปแน่" ฟู่จาวหนิงตัดบทเขาดังนั้นอย่าคิดจะพูดอะไรแทนซ่งอวิ๋นเหยา นางไม่ฟัง"ยังไม่ต้องแตะต้องนางชั่วคราวได้ไหม? ชั่วคราว"พอได้ยินคำพูดของเซียวหลันยวน ฟู่จาวหนิงในใจก็นิ่งขรึม ดังนั้นเขาจึงคิดอ้อนวอนนางให้ปล่อยซ่งอวิ๋นเหยาไปหรือ?ซ่งอวิ๋นเหยาทำอย่างนั้นกับนาง เขาเองก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้"ท่านรู้ว่าถ้าแผนการนี้ของนางทำสำเร็จ ข้าจะมีสภาพเช่นไหนใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นมาคำหนึ่งเซ๊ยวหลันยวนนิ่งขรึมตอบมาว่า "แค่รอเท่านั้น""รออะไร?""ข้ามีเรื่องหนึ่งต้องการจะพิสูจน์" เซียวหลันยวนตอบ "ครั้งนั้นมีคนที่ช่วยเหลือข้าไว้ครั้งหนึ่ง คนคนนั้น ข้าอยากจะรู้ว่าใช่นางไหม"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงไป จากนั้นจึงหัวเราะขึ้นมา"เช่นนั้นข้าขอถามหน่อย ถ้าห
ฟู่จาวหนิงได้ยินเสียงห้อตะบึงของรถม้าห่างออกไป จึงหมุนตัวกลับมามอง และก็เห็นกลุ่มองครักษ์เงามังกรออกไปด้วยเช่นกันนางเม้มริมฝีปากเสี่ยวเถาพุ่งเข้ามา เอ่ยถามขึ้นเสียงเบา "คุณหนู ท่านอ๋องเองก็โกรธขึ้นแล้วใช่ไหม?""ใครจะรู้? บางทีอาจจะโกรธที่เมื่อครู่ข้ารังแก่ซ่งอวิ๋นเหยากระมัง?""หา" เสี่ยวเถางงงันเป็นเช่นนี้หรือ?แต่ว่านางเองก็เห็นไม่ชัดฟู่จาวหนิงหลังจากเข้าไปก็โยนเรื่องของเซียวหลันยวนทิ้งไปข้างๆ ก่อนตอนนี้เรือนตระกูลฟู่ในที่สุดก็ะเหลือแค่คนของพวกนางแล้ว!ไล่คนเหล่านั้นออกไปหมด ทำให้กระทั่งอากาศก็ยังดูปลอดโปร่งขึ้นมากเลยด้วย!แต่ว่าพวกเขาเองก็ออกไปอย่างเร่งร้อน ตอนนี้ทำเอาเละเทะไปหมด บนพื้นกับในห้องยังมีของอยู่อีกไม่น้อย ราวกับถูกกวาดออกไปอย่างไรอย่างนั้นฟู่จาววหนิงเดินดูรอบหนึ่ง หลังจากดูแล้วในใจก็ไม่ได้รู้สึกแย่ลง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องเล็ก"เสี่ยวเถา ไปบอกพวกป้าจงหน่อย ว่าถัดจากนี้ก็จัดการเก็บกวาดเสีย ที่กวาดได้ก็กวาด ที่ล้างได้ก็ล้าง แล้วก็ ของที่ทิ้งได้ก็ทิ้ง! พวกเราหลังจากนี้จะได้มีวันคืนที่สงบสุขแล้ว!"ฟู่จาวหนิงรู้สึกแจ่มใสขึ้นจริงๆเพราะก่อนหน้านี้ในความท
ผู้เฒ่าฟู่ต่อมาก็ก่นด่าพวกผู้เฒ่าฟู่รองอยู่นานสองนานฟู่จาวหนิงกลัวว่าเขาจะโมโหจนย่ำแย่ จึงปลอบเขาอยู่พักหนึ่ง ลงเข็มให้จากนั้นก็ให้พักผ่อนลุงจงถอนหายใจ"อันที่จริงท่านผู้เฒ่าก่อนหน้านี้ก็อยากให้พวกผู้เฒ่ารองฟู่อยู่ด้วยจริงๆ และอยากจะช่วงประคับประคองพวกเขา ท่านผู้เฒ่าเองก็ชอบให้ในบ้านคึกครื้น ไม่ใช่เย็นชาเงียบเชียบ""ความคึกครื้นบางทีไม่ต้องก็ได้" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ใช่ไหมล่ะ" ลุงจงส่ายหัว "ผู้เฒ่าฟู่ของเราเป็นคนดีเกินไป คิดจะช่วยประคับประคองพวกเขาทั้งหมดขึ้นมา ให้ยืนอยู่ในเมืองหลวงได้อย่างมั่นคง แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าคนจะละโมบถึงเพียงนี้ แค่นี้ยังไม่พอ นี่คิดจะข้ามสะพานแล้วยังรื้อสะพานทิ้งอีก"นางเองก็ไม่มีคำพูดเลือกสรรมาก และพูดไม่ออกถึงคำพูดแย่ๆ ด้วย อันที่จริงนี่มันแค่ข้ามสะพานแล้วรื้อสะพานทิ้งเสียที่ไหนคนเหล่านั้นใจดำถึงที่สุดจริงๆ ใจดำโหดเหี้ยมเอามากๆเดิมทีต้องการจะให้พวกเขาตายเสียด้วยซ้ำ"บุญคุณข้าวหนึ่งเซิงกลายเป็นความแค้นข้าวหนึ่งโต่ว พวกเขาอยากจะให้บ้านตระกูลฟู่ทั้งหมดกลายเป็นของพวกเขาจนจะแย่อยู่แล้ว""เอาล่ะ ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาแล้ว ถึงอย่างไรพวกเจ้าก็จะได้ หลังจา
ฟู่จาวหนิงรีบเอ่ยขึ้นว่า "ไม่ต้องกังวล ข้าเองก็ยินดีต้อนรับอย่างจริงใจ ในบ้านพวกเราตอนนี้มีห้องหับอยู่มากมาย แค่พวกเราเองก็พักกันไม่หมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นท่านปู่เองก็ชอบความคึกครื้นด้วย ข้าเห็นว่าลุงฟางเองก็สามารถมาพูดคุยเรื่องใบชาอาหารจากภายนอกกับเขาได้ ท่านปู่ข้าจะต้องดีใจมากแน่"ท่านปู่ต้องการบรรยากาศของคนมาตลอด พวกเขาเข้ามาอยู่ด้วยไม่มีอะไรไม่สะดวกเช่นนั้นข้าเองก็ได้ ข้าพูดกับผู้เฒ่าฟู่ได้สามวันสามคืนโดยไม่ซ้ำกันเลย"เศรษฐีฟางก็ "ความหยิ่งทะนงทะยานขึ้นฟ้า" ทันทีฮูหยินฟางเองก็หัวเราะก่นด่าขึ้นมาคำหนึ่ง "ใครจะยอมฟังเจ้าพล่ามสามวันสามคืนกัน? ไม่เหนื่อยหรือไง!"ฟางซือฉิงเองก็ปิดปากขึ้นมานางรู้สึกว่าน่ายินดีจริงๆ นี่ได้มาเดินเคียงกับฟู่จาวหนิงใกล้ขนาดนี้แล้ว ท่านพ่อท่านแม่ชอบฟู่จาวหนิงมาก นางเองก็จะได้มาหาฟู่จาวหนิงบ่อยขึ้นฟู่จาวหนิงเห็นคนคุ้มกันเรือนที่เศรษฐีฟางพามาด้วยทั้งสองคน ไม่เลวเลย"พวกเขาก่อนหน้านี้ล้วนเป็นคนคุ้มกัน" เศรษฐีฟางอธิบายกับนาง "ระหว่างทางเกิดเรื่องขึ้น ในบ้านเองก็ไม่อยากให้พวกเขาไปเป็นคนคุ้มกันอีก ดังนั้นจึงอยากจะหางานอื่นทำ"พวกงานชั่วคราวหาเช้ากินค่ำท
ฮองเฮาฟังถึงจุดนี้ก็โมโหขึ้นมานางโมโหซ่งอวิ๋นเหยา โมโหอ๋องเจวี้ยนมากด้วย แต่ก็ไม่รู้เพราะอะไร ที่เกลียดชังที่สุดคือฟู่จาวหนิงล้วนเป็นเพราะฟู่จาวหนิง"อ๋องเจวี้ยนเองก็ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหน ตระกูลฟู่เห็นๆ อยู่ว่าเป็นศัตรูของเขา แต่นี่ก็ยังจะรับฟู่จาวหนิงมาเป็นภรรยาให้ได้"ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังดีกับฟู่จาวหนิงมากด้วย เอาแต่คอยสนับสนุนฟู่จาวหนิงฮูหยินหรงเยว่ในใจก็เกลียดชัง "นางจะต้องเป็นเหมือนแม่นางแน่ๆ ที่มีวิธีการต่างๆ นานากับพวกชายหนุ่ม"ตอนนั้นนางชอบฟู่จิ้นเชิน แต่ว่าฟู่หลินซื่อก็มาคว้าใจของฟู่จิ้นเชินไปหลังจากทั้งสองคนแต่งงานกัน ฟู่จิ้นเชินก็เอาแต่ปกป้องฟู่หลินซื่อ กระทั่งยังปกป้องนางราวกับไข่ในหินฮองเฮามองฮูหยินหรงเยว่ผาดหนึ่ง ร้องเชอะขึ้น "เจ้ายังจะพูดได้อีกนะ? ตอนนั้นให้โอกาสเจ้าไปทีหนึ่ง เจ้าก็ไม่ได้เรื่องเสียเหลือเกิน ปล่อยฟู่จิ้นเชินออกไปเปล่าๆ เสียอย่างนั้น"นางพอพูดถึงเรื่องนี้ ฮูหยินหรงเยว่ก็รู้สึกว่าในใจแสนจะเดือดดาลหลายปีมานี้นางเอาแต่ปล่อยวางผู้ชายคนนั้นไม่ลง แล้วก็เอาแต่ชิงชังลูกของเขาคนนั้นกับผู้หญิงคนอื่น และเพราะตอนนั้นนางได้โอกาสมาครั้งหนึ่ง นางได้อยู
น่าเสียดายที่เซียวหลันยวนสวมหน้ากาก จึงมองไม่ออกถึงสีหน้าของเขาองค์จักรพรรดิเองก็รู้สึกรังเกียจหน้ากากของเขาเหมือนกัน"ใช่"เซียวหลันยวนตอบกลับแค่คำเดียวองค์จักรพรรดิรู้สึกรำคาญขึ้นแล้วจริงเขาเป็นพี่ชายคนโต แล้วยังเป็นองค์จักรพรรดิด้วย เซียวหลันยวนไม่ได้มองเขาว่าเป็นพี่ชายคนโตหรือองค์จักรพรรดิเลย"หลันยวน พวกเราพี่น้องมาพูดกันแบบไม่ต้องจริงจังดีกว่า ผ่อนคลายหน่อย ไม่ต้องใช้คำสละสลวย" องค์จักรพรรดิคิดจะให้บรรยากาศผ่อนคลายลงหน่อยน้ำเสียงเซียวหลันยวนยังคงราบเรียบ "ก็ผ่อนคลายอยู่"เพียงแต่ขี้เกียจเอื้อนเอ่ยเท่านั้นองค์จักรพรรดิฟังความหมายของคำพูดเขาออกแล้ว และยิ่งโมโหขึ้นไปอีก ขี้เกียจขนาดนี้เลยหรือ?ขี้เกียจจะสนใจเขา?"เจ้าดูสิพอเจ้าปิดหออะไรนั่นไป ก็มีคนมาร้องขออ้อนวอนข้าไม่น้อย บอกว่าพวกเขากว่าจะหาสถานที่เพื่อดื่มสุราผ่อนคลายได้ ตอนนี้กลับหายไปหมดแล้ว"เซียวหลันยวนยิ้มประชัดประชัน"ไม่มีสถานที่ดื่มสุรา? ต้องให้ข้ามาไล่เรียงโรงสุราน้อยใหญ่ในเมืองหลวงนี้ไหม เอารายชื่อส่งไปที่ชวนของพวกเขาเลย?"องค์จักรพรรดิชะงัก"เมื่อครู่ข้าไม่ใช่บอกไปแล้วหรือ? ไม่ใช่ว่าโรงสุราโรงน้ำชา
"เซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยาสองคนนั้นอายุยังน้อยไม่รู้ความ แต่ว่า คนหนุ่มสาวน่ะนะ บางครั้งเลือดลมก็แรงเกินจนควบคุมไม่ได้ ถึงได้ทำเรื่องเช่นนั้นออกมา คิดๆ แล้วก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้"องค์จักรพรรดิกระแอมออกมาทีหนึ่งคำพูดเหล่านี้เขาเองก็พูดจนตนเองรู้สึกผิดหน่อยๆ แต่ถ้าไม่พูดเช่นนี้แล้วจะทำอย่างไร?"ในสถานที่เช่นนั้น ผลกระทบก็ไม่ดี ให้คนมากมายต้องมาเห็น แล้วยังลำบากไปถึงหอจันทร์หยาดอีก จะว่าไปหอจันทร์หยาดก็เป็นผู้รับกรรมที่บริสุทธิ์อยู่นะ"เซียวหลันยวนรู้สึกนับถือองค์จักรพรรดิจริงๆ ความสามารถในการลืมตาพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้คนธรรมดาทำไม่ได้นะนี่ถึงกับเด็ดหอจันทร์หยาดหลุดออกไปแล้วยิ่งไปกว่านั้นยังพูดว่าเซียวหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยาเป็นพวกคุมอารมณ์ไม่ได้อีกพวกคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เซียวหลันยวนถามขึ้นเสียงเรียบ "ดูท่าชินอ๋องเซียวกับหมอเทวดาหลี่จะทำผิดโทษฐานหลอกลวงองค์จักรพรรดิเสียแล้ว ข้างแนะนำให้ท่านจัดการฟันพวกเขาทิ้งเสีย"พรวด!กงกงที่อยู่ข้างๆ เกือบจะสำลักออกมาเขาตกใจจนเหงื่อท่วมตัว แล้วถ้าเขาหัวเราะออกมาด้วยเหตุนี้ต่อหน้าองค์จักรพรรดิกับอ๋องเจวี้ยนล่ะก็ คนทีจะถูกฟัน
"คนจากสองตระกูลนั้นใกล้มาหรือยัง?"นอกจากปรมาจารย์ชือเฉินที่นำสิ่งยืนยันมอบให้กับอ๋องเจวี้ยนในครั้งนั้น ยังมีผู้นำตระกูลอีกสองตระกูลกำลังอยู่ระหว่างทางคุ้มครองส่งสิ่งยืนยันมายังเมืองหลวงตระกูลปาฉินฮู่ตระกูลมู่เฉิงชิ่งองค์จักรพรรดิคิดจะรอให้สิ่งยืนยันสองชิ้นมาครบก่อน แล้วค่อยเปิดแผนที่ จากนั้นจึงจะรู้ว่าไท่ซ่างหวงในตอนนั้นเหลืออะไรทิ้งไว้ให้กับอ๋องเจวี้ยนเดิมทีหลังจากที่เขารู้เรื่องสองตระกูลที่เหลือนั่นก็คิดจะส่งคนเข้าไปขวางไว้อยู่ ขอแค่เขาได้รับสิ่งยืนยันทั้งสามชิ้นมาก็พอแล้วแต่ว่าปรมาจารย์ฉือเชินก็ไม่รู้ว่าเพราะรู้ความเป็นไปได้นี้หรือเปล่า ตนเองจึงนำเอาสิ่งยืนยันมอบให้อ๋องเจวี้ยนก่อนในมืออ๋องเจวี้ยนยังมีองครักษ์เงามังกรอยู่ องค์จักรพรรดิเดาว่าเขาคงจะส่งองครักษ์เงามังกรไปแอบรับผู้นำตระกูลสองคนนั้นแล้วเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจะไปขวางก่อนก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นนั้นก็จะสู้ปกป้องพวกเขาทั้งสองตระกูลไปเลยดีกว่า รอจนของมาครบแล้ว เขาค่อยหาวิธีการนำมา"รายงานองค์จักรพรรดิ ผู้นำตระกูลฮู่ภายในสามวันน่าจะเข้ามาในเมืองหลวงแล้ว คนของตระกูลฮู่สาขาออกไปนอกเมืองเพื่อรับแล้ว ส่วนเรื่องตระก