ผู้เฒ่าฟู่ต่อมาก็ก่นด่าพวกผู้เฒ่าฟู่รองอยู่นานสองนานฟู่จาวหนิงกลัวว่าเขาจะโมโหจนย่ำแย่ จึงปลอบเขาอยู่พักหนึ่ง ลงเข็มให้จากนั้นก็ให้พักผ่อนลุงจงถอนหายใจ"อันที่จริงท่านผู้เฒ่าก่อนหน้านี้ก็อยากให้พวกผู้เฒ่ารองฟู่อยู่ด้วยจริงๆ และอยากจะช่วงประคับประคองพวกเขา ท่านผู้เฒ่าเองก็ชอบให้ในบ้านคึกครื้น ไม่ใช่เย็นชาเงียบเชียบ""ความคึกครื้นบางทีไม่ต้องก็ได้" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ใช่ไหมล่ะ" ลุงจงส่ายหัว "ผู้เฒ่าฟู่ของเราเป็นคนดีเกินไป คิดจะช่วยประคับประคองพวกเขาทั้งหมดขึ้นมา ให้ยืนอยู่ในเมืองหลวงได้อย่างมั่นคง แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าคนจะละโมบถึงเพียงนี้ แค่นี้ยังไม่พอ นี่คิดจะข้ามสะพานแล้วยังรื้อสะพานทิ้งอีก"นางเองก็ไม่มีคำพูดเลือกสรรมาก และพูดไม่ออกถึงคำพูดแย่ๆ ด้วย อันที่จริงนี่มันแค่ข้ามสะพานแล้วรื้อสะพานทิ้งเสียที่ไหนคนเหล่านั้นใจดำถึงที่สุดจริงๆ ใจดำโหดเหี้ยมเอามากๆเดิมทีต้องการจะให้พวกเขาตายเสียด้วยซ้ำ"บุญคุณข้าวหนึ่งเซิงกลายเป็นความแค้นข้าวหนึ่งโต่ว พวกเขาอยากจะให้บ้านตระกูลฟู่ทั้งหมดกลายเป็นของพวกเขาจนจะแย่อยู่แล้ว""เอาล่ะ ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาแล้ว ถึงอย่างไรพวกเจ้าก็จะได้ หลังจา
ฟู่จาวหนิงรีบเอ่ยขึ้นว่า "ไม่ต้องกังวล ข้าเองก็ยินดีต้อนรับอย่างจริงใจ ในบ้านพวกเราตอนนี้มีห้องหับอยู่มากมาย แค่พวกเราเองก็พักกันไม่หมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นท่านปู่เองก็ชอบความคึกครื้นด้วย ข้าเห็นว่าลุงฟางเองก็สามารถมาพูดคุยเรื่องใบชาอาหารจากภายนอกกับเขาได้ ท่านปู่ข้าจะต้องดีใจมากแน่"ท่านปู่ต้องการบรรยากาศของคนมาตลอด พวกเขาเข้ามาอยู่ด้วยไม่มีอะไรไม่สะดวกเช่นนั้นข้าเองก็ได้ ข้าพูดกับผู้เฒ่าฟู่ได้สามวันสามคืนโดยไม่ซ้ำกันเลย"เศรษฐีฟางก็ "ความหยิ่งทะนงทะยานขึ้นฟ้า" ทันทีฮูหยินฟางเองก็หัวเราะก่นด่าขึ้นมาคำหนึ่ง "ใครจะยอมฟังเจ้าพล่ามสามวันสามคืนกัน? ไม่เหนื่อยหรือไง!"ฟางซือฉิงเองก็ปิดปากขึ้นมานางรู้สึกว่าน่ายินดีจริงๆ นี่ได้มาเดินเคียงกับฟู่จาวหนิงใกล้ขนาดนี้แล้ว ท่านพ่อท่านแม่ชอบฟู่จาวหนิงมาก นางเองก็จะได้มาหาฟู่จาวหนิงบ่อยขึ้นฟู่จาวหนิงเห็นคนคุ้มกันเรือนที่เศรษฐีฟางพามาด้วยทั้งสองคน ไม่เลวเลย"พวกเขาก่อนหน้านี้ล้วนเป็นคนคุ้มกัน" เศรษฐีฟางอธิบายกับนาง "ระหว่างทางเกิดเรื่องขึ้น ในบ้านเองก็ไม่อยากให้พวกเขาไปเป็นคนคุ้มกันอีก ดังนั้นจึงอยากจะหางานอื่นทำ"พวกงานชั่วคราวหาเช้ากินค่ำท
ฮองเฮาฟังถึงจุดนี้ก็โมโหขึ้นมานางโมโหซ่งอวิ๋นเหยา โมโหอ๋องเจวี้ยนมากด้วย แต่ก็ไม่รู้เพราะอะไร ที่เกลียดชังที่สุดคือฟู่จาวหนิงล้วนเป็นเพราะฟู่จาวหนิง"อ๋องเจวี้ยนเองก็ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหน ตระกูลฟู่เห็นๆ อยู่ว่าเป็นศัตรูของเขา แต่นี่ก็ยังจะรับฟู่จาวหนิงมาเป็นภรรยาให้ได้"ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังดีกับฟู่จาวหนิงมากด้วย เอาแต่คอยสนับสนุนฟู่จาวหนิงฮูหยินหรงเยว่ในใจก็เกลียดชัง "นางจะต้องเป็นเหมือนแม่นางแน่ๆ ที่มีวิธีการต่างๆ นานากับพวกชายหนุ่ม"ตอนนั้นนางชอบฟู่จิ้นเชิน แต่ว่าฟู่หลินซื่อก็มาคว้าใจของฟู่จิ้นเชินไปหลังจากทั้งสองคนแต่งงานกัน ฟู่จิ้นเชินก็เอาแต่ปกป้องฟู่หลินซื่อ กระทั่งยังปกป้องนางราวกับไข่ในหินฮองเฮามองฮูหยินหรงเยว่ผาดหนึ่ง ร้องเชอะขึ้น "เจ้ายังจะพูดได้อีกนะ? ตอนนั้นให้โอกาสเจ้าไปทีหนึ่ง เจ้าก็ไม่ได้เรื่องเสียเหลือเกิน ปล่อยฟู่จิ้นเชินออกไปเปล่าๆ เสียอย่างนั้น"นางพอพูดถึงเรื่องนี้ ฮูหยินหรงเยว่ก็รู้สึกว่าในใจแสนจะเดือดดาลหลายปีมานี้นางเอาแต่ปล่อยวางผู้ชายคนนั้นไม่ลง แล้วก็เอาแต่ชิงชังลูกของเขาคนนั้นกับผู้หญิงคนอื่น และเพราะตอนนั้นนางได้โอกาสมาครั้งหนึ่ง นางได้อยู
น่าเสียดายที่เซียวหลันยวนสวมหน้ากาก จึงมองไม่ออกถึงสีหน้าของเขาองค์จักรพรรดิเองก็รู้สึกรังเกียจหน้ากากของเขาเหมือนกัน"ใช่"เซียวหลันยวนตอบกลับแค่คำเดียวองค์จักรพรรดิรู้สึกรำคาญขึ้นแล้วจริงเขาเป็นพี่ชายคนโต แล้วยังเป็นองค์จักรพรรดิด้วย เซียวหลันยวนไม่ได้มองเขาว่าเป็นพี่ชายคนโตหรือองค์จักรพรรดิเลย"หลันยวน พวกเราพี่น้องมาพูดกันแบบไม่ต้องจริงจังดีกว่า ผ่อนคลายหน่อย ไม่ต้องใช้คำสละสลวย" องค์จักรพรรดิคิดจะให้บรรยากาศผ่อนคลายลงหน่อยน้ำเสียงเซียวหลันยวนยังคงราบเรียบ "ก็ผ่อนคลายอยู่"เพียงแต่ขี้เกียจเอื้อนเอ่ยเท่านั้นองค์จักรพรรดิฟังความหมายของคำพูดเขาออกแล้ว และยิ่งโมโหขึ้นไปอีก ขี้เกียจขนาดนี้เลยหรือ?ขี้เกียจจะสนใจเขา?"เจ้าดูสิพอเจ้าปิดหออะไรนั่นไป ก็มีคนมาร้องขออ้อนวอนข้าไม่น้อย บอกว่าพวกเขากว่าจะหาสถานที่เพื่อดื่มสุราผ่อนคลายได้ ตอนนี้กลับหายไปหมดแล้ว"เซียวหลันยวนยิ้มประชัดประชัน"ไม่มีสถานที่ดื่มสุรา? ต้องให้ข้ามาไล่เรียงโรงสุราน้อยใหญ่ในเมืองหลวงนี้ไหม เอารายชื่อส่งไปที่ชวนของพวกเขาเลย?"องค์จักรพรรดิชะงัก"เมื่อครู่ข้าไม่ใช่บอกไปแล้วหรือ? ไม่ใช่ว่าโรงสุราโรงน้ำชา
"เซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยาสองคนนั้นอายุยังน้อยไม่รู้ความ แต่ว่า คนหนุ่มสาวน่ะนะ บางครั้งเลือดลมก็แรงเกินจนควบคุมไม่ได้ ถึงได้ทำเรื่องเช่นนั้นออกมา คิดๆ แล้วก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้"องค์จักรพรรดิกระแอมออกมาทีหนึ่งคำพูดเหล่านี้เขาเองก็พูดจนตนเองรู้สึกผิดหน่อยๆ แต่ถ้าไม่พูดเช่นนี้แล้วจะทำอย่างไร?"ในสถานที่เช่นนั้น ผลกระทบก็ไม่ดี ให้คนมากมายต้องมาเห็น แล้วยังลำบากไปถึงหอจันทร์หยาดอีก จะว่าไปหอจันทร์หยาดก็เป็นผู้รับกรรมที่บริสุทธิ์อยู่นะ"เซียวหลันยวนรู้สึกนับถือองค์จักรพรรดิจริงๆ ความสามารถในการลืมตาพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้คนธรรมดาทำไม่ได้นะนี่ถึงกับเด็ดหอจันทร์หยาดหลุดออกไปแล้วยิ่งไปกว่านั้นยังพูดว่าเซียวหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยาเป็นพวกคุมอารมณ์ไม่ได้อีกพวกคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เซียวหลันยวนถามขึ้นเสียงเรียบ "ดูท่าชินอ๋องเซียวกับหมอเทวดาหลี่จะทำผิดโทษฐานหลอกลวงองค์จักรพรรดิเสียแล้ว ข้างแนะนำให้ท่านจัดการฟันพวกเขาทิ้งเสีย"พรวด!กงกงที่อยู่ข้างๆ เกือบจะสำลักออกมาเขาตกใจจนเหงื่อท่วมตัว แล้วถ้าเขาหัวเราะออกมาด้วยเหตุนี้ต่อหน้าองค์จักรพรรดิกับอ๋องเจวี้ยนล่ะก็ คนทีจะถูกฟัน
"คนจากสองตระกูลนั้นใกล้มาหรือยัง?"นอกจากปรมาจารย์ชือเฉินที่นำสิ่งยืนยันมอบให้กับอ๋องเจวี้ยนในครั้งนั้น ยังมีผู้นำตระกูลอีกสองตระกูลกำลังอยู่ระหว่างทางคุ้มครองส่งสิ่งยืนยันมายังเมืองหลวงตระกูลปาฉินฮู่ตระกูลมู่เฉิงชิ่งองค์จักรพรรดิคิดจะรอให้สิ่งยืนยันสองชิ้นมาครบก่อน แล้วค่อยเปิดแผนที่ จากนั้นจึงจะรู้ว่าไท่ซ่างหวงในตอนนั้นเหลืออะไรทิ้งไว้ให้กับอ๋องเจวี้ยนเดิมทีหลังจากที่เขารู้เรื่องสองตระกูลที่เหลือนั่นก็คิดจะส่งคนเข้าไปขวางไว้อยู่ ขอแค่เขาได้รับสิ่งยืนยันทั้งสามชิ้นมาก็พอแล้วแต่ว่าปรมาจารย์ฉือเชินก็ไม่รู้ว่าเพราะรู้ความเป็นไปได้นี้หรือเปล่า ตนเองจึงนำเอาสิ่งยืนยันมอบให้อ๋องเจวี้ยนก่อนในมืออ๋องเจวี้ยนยังมีองครักษ์เงามังกรอยู่ องค์จักรพรรดิเดาว่าเขาคงจะส่งองครักษ์เงามังกรไปแอบรับผู้นำตระกูลสองคนนั้นแล้วเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจะไปขวางก่อนก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นนั้นก็จะสู้ปกป้องพวกเขาทั้งสองตระกูลไปเลยดีกว่า รอจนของมาครบแล้ว เขาค่อยหาวิธีการนำมา"รายงานองค์จักรพรรดิ ผู้นำตระกูลฮู่ภายในสามวันน่าจะเข้ามาในเมืองหลวงแล้ว คนของตระกูลฮู่สาขาออกไปนอกเมืองเพื่อรับแล้ว ส่วนเรื่องตระก
"ไทเฮาสู้พูดกับอ๋องเจวี้ยนและพระชายาอ๋องเจวี้ยนให้ชัดเจนดีกว่า วิชาแพทย์เช่นนั้นของพระชายาอ๋องเจวี้ยน อาจจะสามารถทำให้กระดูกของท่านฟื้นฟูกลับมาได้" หมัวมัวเอ่ยแนะนำขึ้นเสียงต่ำไทเฮาตอนนี้ร่างกายอ่อนแอมาก ประเดี๋ยวก็ป่วย ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกปวดกระดูกอยู่เป็นประจำ ตรงนี้ไม่สบายตรงนั้นไม่สบายพวกเขาล้วนรู้ว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนวิชาแพทย์นั้นไม่เลว ถ้าสามารถได้รับการชุบเลี้ยงอย่างประณีตของพระชายาอ๋องเจวี้ยน ร่างกายของไทเฮาจะต้องดีขึ้นแน่ๆไทเฮาส่ายหัว"เอาล่ะ เอาอย่างนี้ต่อไปนั่นล่ะ องค์จักรพรรดิพวกเขารู้ว่าข้าเองก็รังเกียจหลันยวนด้วย หลายสิ่งหลายอย่างไม่มีทางเลี่ยงข้าไปหรอก จะอย่างไรข้าคงได้รู้ว่าพวกเขาจะใช้วิธีการอะไรรับมือกับหลันยวนก่อนเหมือนกัน""แต่พวกอ๋องเจวี้ยนก็ไม่รู้ถึงความเจ็บปวดและน้อยเนื้อต่ำใจของท่านไทเฮา""มีอะไรน้อยเนื้อต่ำใจกัน ข้าอันที่จริงก็แค่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกหน่อย ได้เห็นร่างกายของหลันยวนดีขึ้นมา อยู่กับจาวหนิงเด็กคนนั้นด้วยกันให้ดี มีลูกตัวขาวๆ อวบอ้วนสักสองสามคน"วังลึกเองก็ไม่ได้อยู่ง่ายขนาดนั้นเรื่องพระราชทานงานอภิเษกของเซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหย
"จวนชินอ๋องเซียวที่แท้ก็ต่ำช้าขนาดนี้เชียว! สกุลหลี่อย่างข้าถือว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว!" เพราะรู้ว่าพวกเขาทั้งสองบ้านเปลี่ยนใจไม่ได้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนอะไรอีก ยกของเหล่านี้ออกมารับมือ"นี่น่าจะเป็นความหมายของชินอ๋องเซียวแล้ว พี่เซียวไม่มีทางทำกับข้าเช่นนี้" หลี่จื่อเหยาเอ่ยขึ้น"ถุด!"หมอเทวดาหลี่โมโหจนหน้าเขียวไปแล้ว"ทำไมจะไม่มีทาง? พวกเขาแสดงออกมาแล้วว่าดูถูกเจ้า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเจ้าหรอก ก็แค่จะรับเจ้ากลับไป!""ไม่มีทาง"หมอเทวดาหลี่โมโห หมุนตัวกลับไปที่ห้อง ตอนที่ออกมาก็ส่งกล่องใบหนึ่งให้นาง"ท่านพ่อ นี่คืออะไร?""ในนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของข้า ยาอีกมากมาย วิธีใช้กับบทบาทข้าเขียนเอาไว้บนขวดหมดแล้ว สิ่งเหล่านี้เจ้าพกไว้กับตัว ถึงตอนนั้นถ้าคนในจวนชินอ๋องเซียวหรือเซียวเหยียนจิ่งรังแกเจ้า เจ้าก็ค่อยใช้!"จะให้พวกเขามารังแกไม่ได้เด็ดขาด!บนหลังคา เงาร่างหนึ่งบินแฉลบออกไปอย่างรวดเร็วพอมาถึงจวนอ๋องเจวี้ยน เขาก็มารายงานอ๋องเจวี้ยนอย่างละเอียดเซียวหลันยวนพอได้ยินก็หัวเราะเบาๆ"ลูกสาวออกเรือน แต่ให้ยาพกติดตัวไว้กล่องหนึ่ง นี่หาได้ยากในใต้หล้าเสียจริง สมแล้วที่เป็นหมอเท
พอเห็นสีหน้าเฉินฮ่าวปิง ใจของต่งฮ่วนจือก็เย็นลงมาทันทีทั้งที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟู่จาวหนิงแล้วแท้ๆ แต่ว่าตอนนี้ เฉินฮ่าวปิงก็ยังใช้ประโยชน์จากเขา คิดจะให้เขาขัดขวางศิษย์น้องหญิงต่อให้เป็นเรื่องที่เหลวไหลแบบนี้ นางก็ยังพูดออกมาโดยไม่หนักใจ แล้วขอให้เขาทำตามสิ่งที่นางต้องการต่งฮ่วนจือมองไปทางฮูหยินเฉิน เขายังดูคาดหวังอยู่ถึงอย่างไรฮูหยินเฉินก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว น่าจะรู้จักขอบเขตบ้างกระมัง?"เจ้าเองก็คิดแบบนี้หรือ? จะให้ข้าเก็บวัตถุดิบยาไว้จนกว่าฮ่าวปิงจะรวมเงินได้?"ฟังเอาเถอะ เขาพูดซ้ำออกมาอีกรอบหนึ่งก็ยังรู้สึว่าเป็นเรื่องไร้สาระเลยฮูหยินเฉินขมวดคิ้ว มองนางด้วยสายตาเศร้าๆแต่ก่อนพอเห็นสีหน้าเช่นนี้ของนาง ต่งฮ่วนจือก็จะรู้สึกปวดใจ อยากจะปกป้องนางขึ้นมา เขารู้ ว่านางเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง มีลูกสาวติดหนึ่งคน คอยหนีคนตามล่าอยู่ตลอด มันลำบากแค่ไหนถ้าหากเป็นไปได้ เขาเองก็อยากจะยืนบังลมบังฝนให้นาง เพราะแรกสุดเขารู้สึกชื่นชมนาง ชื่นชมความแข็งแกร่งและความรักของแม่จากตัวนางแต่สีหน้าต่อตัวเขาของฮูหยินเฉินตอนนี้ ต่งฮ่วนจือจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า อ๋องฉยงถึงอย่างไรก็หาพวกนางเจอแ
เฉินฮ่าวปิงมองต่งฮ่วนจือนางสามารถใช้วัตถุดิบยาของพันธมิตรโอสถทำการกุศลต่อได้ และยังพังแผนการของฟู่จาวหนิงได้อีก ทำให้นางไม่ได้รับวัตถุดิบยาหลังจากเฉินฮ่าวปิงกลับมาพูดเรื่องวันนี้กับฮูหยินเฉิน ฮูหยินเฉินโกรธมากดังนั้นนางจึงคิดวิธีนี้ออกมา รู้สึกว่าพวกนางตอนนี้รับมือฟู่จาวหนิงไม่ไหว แต่ถ้าลงแรงกับต่งฮ่วนจือทางนี้สักหน่อย สร้างความลำบากให้กับฟู่จาวหนิงได้บ้างก็ยังดีมีสิทธิ์อะไรที่จะยอมให้ฟู่จาวหนิงทำทุกอย่างได้ราบรื่นขนาดนั้น?ต่งฮ่วนจือถ้าหากขัดฟู่จาวหนิงได้ ไม่ใช่แค่ฟู่จาวหนิงจะไม่ชอบใจ แต่ผู้อาวุโสจี้ก็จะโกรธด้วย ถ้าผู้อาวุโสจี้โกรธ ฟู่จาวหนิงก็จะอารมณ์ไม่ดีดังนั้น ขอแค่กล่อมต่งฮ่วนจือ ก็จะทำได้ฟู่จาวหนิงอึดอัดได้ ดีจะตาย?ดังนั้น จึงได้เห็นเฉินฮ่าวปิงที่มาแสดงความอ่อนแอออดอ้อนต่งฮ่วนจือในตอนนี้นางรู้สึกว่า ความรักทีต่งฮ่วนจือมีให้นาง เรื่องนี้ไม่ใช่จะทำไม่สำเร็จแต่ตอนได้ยินคำพูดของนาง ต่งฮ่วนจือก็งงงันไปครู่หนึ่ง"ลุงต่ง..." เฉินฮ่าวปิงดึงแขนเสื้อของเขา "ได้ไหม?"ต่งฮ่วนจือดึงแขนเสื้อในมือนางกลับมา"เรื่องนี้ไม่ได้""ทำไมล่ะ?""อันดับแรก วัตถุดิบยาที่เจ้าคิดจะเอาไ
หลายปีก่อนที่เขาช่วยพวกนางแม่ลูกไว้ เฉินฮ่าวปิงยังเป็นเด็กสาวร่างผ่อนอ่อนแอ หลายปีนี้ยังถือว่าเขาเลี้ยงดูมาจนโต เขาแทบจะมองเฉินฮ่าวปิงเป็นลูกสาวตนเองไปแล้วแม้ตอนนี้นางเจอกับพ่อแท้ๆ แล้ว แต่พ่อแท้ๆ คนนั้นก็ไม่ใช่จะได้เรื่องกระมัง ต่งฮ่วนจือยังรู้สึกเป็นห่วงอยู่เขาคิดคิด ยังคิดจะไปบ้านเล็กในซอยนั่นเพื่อหาเฉินฮ่าวปิงหลายวันนี้เฉินฮ่าวปิงก็ไม่ยอมพบเขา ทุกครั้งที่เขามา คนใช้ก็จะบอกว่าท่านหญิงไม่อยู่วันนี้เขามา แต่เฉินฮ่าวปิงกลับอยู่ และยังยอมพบเขาด้วยพอเข้ามาในบ้าน มาถึงเรือนหน้า ฮูหยินเฉินก็อยู่ด้วยแม่ลูกหันมามองนางพร้อมกัน สายตาของคนทั้งคู่ล้วนแดงก่ำ ดูแล้วน่าสงสารมาก เฉินฮ่าวปิงพอเห็นเขาก็ร้องไห้โฮออกมา"ลุงต่ง!"นางพุ่งเข้ามาหาต่งฮ่วนจือ สองมือดึงแขนเสื้อเขา ร้องไห้ตัวโยน "ท่านมาได้เสียที!"ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาตั้งหลายครั้ง ก็ไม่ยอมออกมาเจอ ไม่ได้ว่าเขาไม่เคยมาเสียหน่อยแต่ต่งฮ่วนจือก็ไม่ได้พูดออกมา มองสภาพเฉินฮ่าวปิงแล้วเขาก็ยังคงปวดใจอยู่"ทำไมหรือ? เกิดอะไรขึ้น? อ๋อง อ๋องฉยงไม่ได้ช่วยเจ้าหรือ?"พอพูดถึงอ๋องฉยง เฉินฮ่าวปิงก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาเพราะวันนี้อ๋อง
ก่อนค่ำวันเดียวกันฟู่จาวหนิงให้สืออีไปเก็บตั๋วเงินพวกนี้มาแล้วกระทั่งองค์หญิงเจ็ดก็ยังไม่กล้าที่จะไม่ให้หลังจากให้สามพันตำลึงมาแล้ว คนเหล่านี้ก็ล้วนรู้สึกเหมือนเสียปราณชี่ขนานใหญ่ไป ไม่มีทั้งหน้าไม่มีทั้งเงิน แล้วยังหวาดผวา ไม่รู้หลังจากนี้จะมีเรื่องอะไรอีกถ้าเผื่อพระชายาอ๋องเจวี้ยนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนมาหาเรื่องบ้านพวกเขาอีกจะทำอย่างไร?โดยเฉพาะคุณหนูสี่หลิน หลังจากกลับมาก็ได้ยินพี่สาวคนโตกับคนรองพูดถึงเฉินฮ่าวปิง จึงได้รู้ว่าพวกนางเดิมทีก็ดูถูกท่านหญิงปิงอวี้อยู่แล้วพ่อของนางกับพี่สาวนางเองก็กำลังเดาว่าอ๋องฉยงทำไมจึงยังอยู่ในเมืองหลวง ยังพูดอีกว่า ไม่ว่าจะเพราะเรื่องอะไร การที่องค์จักรพรรดิให้อ๋องฉยงอยู่ในเมืองต่อโดยไม่สนกฏ ต้องไม่ใช่เรื่องดี พวกเขากำลังพูดว่า หลังจากนี้จะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่อ๋องฉยงอาจจะก่อความวุ่นวายอะไรขึ้น ไม่ต้องพูดถึงลูกสาวบ้านน้อยของเขาคนนั้นเลย?ในคำพูด คืออ๋องฉยงทำเรื่องไม่ถูกต้อง ลูกสาวบ้านน้อย ยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรดีดีเลย แต่ดันไปขอยศท่านหญิงมาองค์จักรพรรดิก็ยังรับปากอีก ดูจะเลอะเลือนหน่อยๆแน่นอน พวกเขาแอบคุยเรื่องน
เซียวหลันยวนพูดพลางหัวเราะเสียงต่ำฟู่จาวหนิงเองก็ตกตะลึงไป "ผู้ตรวจการอันไปคุกคามองค์จักรพรรดิหรือ?"ถ้าหากผู้ประสบภัยทะลักเข้าเมืองหลวง เมืองหลวงก็จะวุ่นวาย องค์จักรพรรดิไม่อยากจะสนใจก็คงต้องสนใจแล้วแค่โรคระบาด องค์จักรพรรดิก็ยังกลัวจนไม่ประชุมเช้า ไม่ต้องพูดเรื่องผู้ประสบภัยนับหมื่นเลย? เขาได้ตกใจจนตายกันพอดี"ก็จริงนั่นล่ะ แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริง แต่รายละเอียดด้านในที่นำไปปฏิบัติได้ก็มีเยอะมาก""แล้วองค์จักรพรรดิให้เงินบรรเทาภัยมาเท่าไร?""หนึ่งหมื่นตำลึง""ขี้เหนียว" ฟู่จาวหนิงเบ้ปากนางเองก็ยอมแล้ว ผู้ประสบภัยนับหมื่น แต่ให้เงินบรรเทาภัยมาหมื่นตำลึง? นางเค้นจากตัวพวกองค์หญิงเจ็ดยังได้มาตั้งสามหมื่นตำลึง"คลังหลวงว่างเปล่าแล้วจริงๆ""เอาเถะ พวกเราเองก็ลองไปเตรียมตัวดูก่อน ถ้าเงินไม่พอจริง ค่อยให้ผู้ตรวจการชิงกลับไปปล้นองค์จักรพรรดิอีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นถ้ายังไม่เห็นสถานการณ์เมืองเจ้อกับตา ใต้เท้าอันหากคิดจะปล้นก็ปล้นลำบาก"อันเหนียนบอกว่าสามวันนั้นรีบไปหน่อย ขอเลื่อนไปวันหนึ่ง ข้าส่งคนไปดูลาดเลาก่อน ตอนพวกเจ้าไปถึงจะมีคนรอรับอยู่"เอาของไปด้วยตั้งมากมาย ตอนไปถึงต้อง
ผู้อาวุโสจี้รู้ว่า จะเตือนไม่ให้ฟู่จาวหนิงไปเมืองเจ้อนั้นเป็นไปไม่ได้การตัดสินใจที่นางพูดออกมา ไม่มีทางเปลี่ยนยิ่งไปวก่านั้น วิชาหมอของนางเองก็ดีขนาดนี้ ไปสถานที่แบบนั้นจะต้องช่วยเหลือชีวิตได้มากมายแน่นอน ผู้อาวุโสจี้ที่ทั้งใจเต็มไปด้วยความดีงามก็ไม่กล้าที่จะห้ามปรามแต่เขาเองก็ยังเป็นห่วงฟู่จาวหนิง"เมืองเจ้อทางนั้นผู้ประสบภัยมากเกินไป จะต้องวุ่นวายแน่นอน เจ้าไปที่นั่นความปลอดภัยเป็นปัญหา ต้องระวังหน่อย แล้วอ๋องเจวี้ยนจัดแจงให้แล้วหรือยัง? เจ้าคงต้องพาองครักษ์ไปมากหน่อย"ถึงแม้ถ้าผู้ประสบภัยก่อจราจลขึ้นมา ต่อให้มีองครักษ์มากแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้ แต่พาไปหน่อยก็ยังดีกว่าไม่พาไป"เจ้ามีของแปลกๆ ตอนสกัดยาเยอะไม่ใช่หรือ? ทำยาที่เอาไว้ทำให้คนล้มวงกว้างๆ ไว้เยอะหน่อย ถ้าถึงเวลาต้องใช้จริง เจ้าก็ไม่ต้องสนอะไร สาดยาออกไปเลย รักษาตัวเองไว้ก่อนเป็นสำคัญ""ฮ่าๆ ท่านอาจารย์ สอนลูกศิษย์แบบนี้ได้เหรอ?"ฟู่จาวหนิงอดขำขึ้นมาไม่ได้ ผู้อาวุโสจี้สอนให้นางใช้ยาสลบกับผู้ประสบภัยเนี่ยนะผู้อาวุโสจี้ถลึงตา "แค่นี้จะเป็นอะไรไป? ทำอะไรก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน ความปลอดภัยของเจ้าสำคัญที่สุด!""ข้าย
"ศิษย์น้องหญิงเจ้าไปงานรับบริจาคของฮ่าวปิงมาหรือ?" ต่งฮ่วนจือเงยหน้ามองนาง"เปล่า ข้าตบนางไปฉาดหนึ่งด้วยซ้ำ"ฟู่จาวหนิงไม่ไว้หน้าเขาเลย เอาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ตั้งแต่ต้นจนจบเล่าออกมาอย่างละเอียดรอบหนึ่ง"ดังนั้น ศิษย์พี่รอง ข้าตอนนี้ข้าจะเน้นกับท่านอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เข้าไม่ถูกกับเฉินฮ่าวปิง ถ้านางยังคิดจะมาทำอะไรต่อหน้าข้าอีกจะไม่จบแค่ตบหน้าแล้ว เรื่องที่นางทำมันโง่เง่ามาก ยิ่งไปกว่นั้นนางยังโกรธแค้นแล้วมองข้าเป็ฯศัตรูอีก"ฟู่จาวหนิงกดเสียงต่ำ "ก่อนหน้านี้ศิษย์พี่เป็นอะไรกับพวกนางข้าไม่สนใจ แต่หลังจากนี้ ถ้าหากศิษย์พี่ยังยืนยันจะยืนอยู่ฝั่งนางทางนั้น ยังคิดจะปกป้องนาง เช่นนั้นข้าก็จะขีดเส้นกั้นกับศิษย์พี่แล้ว"ผู้อาวุโสจี้มองต่งฮ่วนจือหน้าขรึม"หลายปีนี้เจ้าเอาแต่ปกป้องแม่ลูกอย่างพวกนาง แล้วมองไม่ออกถึงความใจร้ายของนังเด็กนั่นเลยหรือ? หลังจากนางถูกแต่งตั้งเป็นท่านหญิงก็ไม่มาสนใจเจ้าอีก เจ้าคิดว่านางยังจำบุญคุณของเจ้าได้ไหม? เจ้าคิดว่าตนเองกับนางมีความสัมพันธ์ฉันท์ครอบครัว แต่นางก็แค่หลอกใช้เจ้า""ถึงอย่างไรคนที่โง่แบบเจ้าก็มีไม่เยอะ! ต่งฮ่วนจือ ศิษย์น้องหญิงของเจ้าพู
ฟู่จาวหนิงถอนหายใจ"ศิษย์พี่ พวกเราจะซื้อวัตถุดิบยาในราคาเดิม ไม่ต้องลดราคา แค่นี้ได้ไหม?""ถ้าอย่างนี้ก็ได้อยู่...""ต่ง ! ฮ่วน ! จือ!"ผู้อาวุโสจี้โกรธเป็นฟืนไฟแล้วจริงๆ"ท่านอาจารย์ สงบลงก่อน" ฟู่จาวหนิงรีบเดินไปอยู่ข้างๆ ผู้อาวุโสจี้ รินน้ำชาให้กับเขา "ศิษย์พี่ทำงานอย่างเข้มงวด เข้าต้องทำตามกฏการทำงานของพันธมิตรโอสถ อย่าทำให้เขาลำบากใจเลย""อาจารย์ เรื่องนี้ไม่ได้จะคุยกันลกบาก ข้าแค่ต้องใช้เวลาไปคำนวณต้นทุนของวัตถุดิบยาชนิดต่างๆ หน่อย ถึงตอนนั้นก็จะคำนวณส่วนลดลงมาได้"ต่งฮ่วนจือลุกขึ้นยืน ไม่กล้านั่งลงมา"แต่ถ้าศิษย์น้องหญิงไม่ต้องการลดต้นทุนสี่ส่วนล่ะก็ ข้าทางนี้จะหักกำไรทั้งหมดออกได้ ยิ่งไปกว่นั้น พวกเรายังสามารถบริจาควัตถุดิบยาที่ค่อนข้างพิเศษบางอย่างได้นิดหน่อยด้วย ข้าทางนี้ยังมีส่วนที่เหลืออยู่ เพราะสาขาย่อยเมืองเจ้อทางนั้นไม่มีวัตถุดิบยาชนิดนี้ ดังนั้นสิ่งนี้ข้ามอบให้ได้..."ต่งฮ่วนจือพยายามจะอธิบาย"ตัวข้าเองก็ยังบริจาคเงินช่วยได้ เงินพวกนี้เอาไปเพิ่มกับเงินที่ซื้อวัตถุดิบยาก็พอแล้ว ท่านอาจารย์ ข้าไม่ได้ตระหนี่ถี่เหนียวเสียหน่อย""เฮอะ" ผู้อาวุโสจี้โมโหจนหัวเราะ "
ต่งฮ่วนจือหลายวันนี้ดูผ่านไปแบบซึมเศร้าอยู่ ตอนนี้สีหน้าก็ยังไม่ค่อยดีนัก พูดจาเองก็ยังไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเขาพยายามอธิบายจุดนี้"วัตถุดิบยาชุดใหญ่ที่อ๋องเจวี้ยนต้องการ ก็ล้วนเป็นวัตถุดิบยารักษาหวัดหรืออาการบาดเจ็บภายนอกทั้งนั้น เป็นของที่หาได้ทั่วไป แล้วก็เป็นพวกที่ราคาถูกำไรน้อยพวกนั้น หลายอย่างพวกเราเก็บกำไรแค่หนึ่งถึงสองส่วน รักษาไม่ให้พันธมิตรโอสถต้องขาดทุน ถ้าหากวัตถุดิบยาเหล่านี้ลดราคาต้นทุนไปสี่ส่วน บัญชีของพันธมิตรก็จะมีช่องว่างเบ้อเร่อเลย"ต่งฮ่วนจือบอกกับฟู่จาวหนิงอย่างจนใจ "ศิษย์น้องหญิง ถ้าแบบนี้บัญชีที่ข้าต้องส่งให้พันธมิตรสาขาตอนครึ่งปีจะอธิบายลำบากเอา"เข้าใจ ก็คือ ขาดทุนนั่นล่ะฟู่จาวหนิงยังไม่ทันพูด ผู้อาวุโสจี้ก็ร้องเชอะขึ้นมา "นี่มีอะไรพูดลำบากกัน? ข้าบอกให้เจ้าโยนทั้งหมดมาที่ตัวข้าแล้ว""ท่านอาจารย์ นี่มันทำได้ที่ไหนกัน? ถึงอย่างไรข้าก็ดูแลสาขาของเมืองหลวงนะ เป็นข้าที่ต้องรับผิดชอบ" ต่งฮ่วนจือเองก็ทำเรื่องอย่างการผลักภาระทุกอย่างไปให้อาจารย์หมดไม่ได้"เจ้าเอาแต่กลัวนั่นกลัวนี่ กล้าๆ กลัวๆ ก็แค่เพราะเจ้าเพิ่งมารับช่วงดูแลที่นี่ กลัวจะทำเรื่องโดดเด่นออกมาไม่ได้