คนผู้นั้นสวมชุดคลุมผ้าสีม่วงเข้มคนที่สวมชุดสีนี้ได้ในเมืองหลวง ตอนนี้ปรากฎตัวขึ้นที่นี่อีกแล้ว ฟู่จาวหนิงคิดถึงความเป็นไปได้มากที่สุดนั่นก็คือเซียวหลันยวนแต่ว่าเซียวหลันยวนจะว่างเกินไปไหม?ฟู่จาวหนิงเม้มปาก ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร พอนางเห็นเกี้ยวหลี่จื่อเหยาตะแคงล้มแล้วก็รู้สึกเบิกบานอยู่นี่เหมือนกับระบายความอัดอั้นออกไปแทนนางและไม่รู้ว่าหลี่จื่อเหยากระแทกในเกี้ยวแรงเกินไปไหมในโรงน้ำชาหรูหราชั้นสอง ชิงอีเห็นเซียวหลันยวนปรบไม้ปรบมือ ก็อดพูดขึ้นมาไม่ได้ "ท่านอ๋อง ท่านมาระบายโกรธแทนพระชายาเช่นนี้ คงต้องหาโอกาสบอกพระชายาหน่อยกระมัง?"พระชายาถ้ารู้เข้าก็คงจะซาบซึ้งแน่ ถึงตอนนั้นความรู้สึกของท่านอ๋องกับพระชายาก็จะยิ่งดีขึ้น"ไม่จำเป็น"เสียงของเซียวหลันยวนเย็นเยียบลงมามีอะไรน่าพูดกัน?นางจะทำอะไรก็คิดอย่างชัดเจนกับเขาไปเสียหมด ถึงตอนนั้นคงได้นับเข้าไปในสิบเรื่องนั้นแน่ แล้วมองว่าเขาแค่เสร็จสิ้นสัญญาไปข้อหนึ่งเท่านั้นพอคิดแล้วก็รู้สึกกลัดกลุ้มขึ้นมาหน่อยๆชิงอีพอเห็นท่าทางของเขาก็ไม่กล้าพูดต่ออีก ท่านอ๋องสามวันก่อนหลังจากกลับมาจากบ้านตระกูลฟู่ อารมณ์ก็เหมือนจะไม่ดีอยู่ตลอด"ย
หลี่จื่อเหยายืนอยู่ในโถงจนขาเริ่มชาแล้ว ขณะกำลังจะระเบิดอารมณ์ จึงได้ยินว่าเซียวเหยียนจิ่งเข้ามาแล้วผ้าแพรแดงในมืออีกด้านหนึ่งถูกจับไว้ อารมณ์โกรธของหลี่จื่อเหยาจึงระงับลงมา ฟังคำกล่าวหนึ่งกราบไหว้ฟ้าดินสองกราบไหว้บุพการีและทำตามพิธีการไปผลลัพธ์คือเมื่อครู่สามีภรรยาเคารพกันและกัน เซียวเหยียนจิ่งที่อยู่ตรงข้ามพอโค้งเอวลงมา ฟ้ากับดินก็หมุนติ้ว ตัวคนยืนไม่อยู่ ล้มกลิ้งลงไปทางนางพริบตาที่ล้มกลิ้งลงไป เขาก็ยื่นมือตะปบไปข้างหน้าอย่างร้อนรนด้วยสัญชาตญาณ ผลลัพธ์คือไปคว้าเอาเข็มขัดของหลี่จื่อเหยาเข้าพอดีได้ยินเสียงแควกของผ้าที่ถูกฉีกขาดดังขึ้นมาหลี่จื่อเหยาไม่เพียงแต่ถูกกระชากผ้าคลุมหัวแดงลงมา กระทั่งชุดมงคลก็ยังถูกฉีกลงมาเป็นรู"อ๊า!"หลี่จื่อเหยาร้องเสียงแหลมตึงเซียวเหยียนจิ่งล้มหนักๆ ลงไปบนพื้นกลิ่นสุราคละคลุ้งชินอ๋องเซียวกับพระชายาสองคนล้วนสะดุ้งยืนขึ้นมา สีหน้าทั้งสองคนดำจนจะบีบน้ำหมึกออกมาแล้ว"ยังไม่รีบไปประคองรัฐทายาทเซียวขึ้นมาอีก!" พระชายารีบร้อนร้องขึ้นจากเสียงเมื่อครู่ เซียวเหยียนจิ่งล้มไปหนักอยู่ หน้าผากกระแทกพื้นอย่างแรง"พี่เซียว!" หลี่จื่อเหยาตอนนี้ก็ได้ส
เสิ่นเสวียนได้รับรังสีมานานเกินไป ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจะฟื้นฟูก็ยังยากนักฟู่จาวหนิงกล้ายืนยัน ถ้าไม่มาเจอนาง เสิ่นเสวียนคงไม่รอดแล้วเพราะในห้องเภสัชของนางมียาของยุคปัจจุบันอยู่มากมาย มีบางส่วนสามารถกำจัดเซลล์ที่เสียหายทิ้งได้ สนับสนุนการเติบโตของเซลล์ใหม่สิ่งเหล่านี้นางเองก็ไม่สามารถเขียนลงไปในแผนการรักษาได้ แต่สามารถเปลี่ยนวิธีอธิบายให้ชัดเจนขึ้นมาได้คนทั่วไปสามารถมองแล้วไม่เข้าใจ แต่เสิ่นเสวียนเข้าใจแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถได้รับการปลอบประโลมจากจากแผนการรักษาที่นางเขียนด้วย มองออกถึงระดับและความเป็นมืออาชีพของนางนี่ไม่ใช่สิ่งที่คนป่วยทั่วไปจะสามารถทำได้"แผนการรักษานี้ข้าเห็นด้วย" เสิ่นเสวียนเอ่ยขึ้นเพราะฟู่จาวหนิงตอนที่ยื่นแผนการรักษาก็บอกกับเขาไปว่า ต้องให้เขาเห็นด้วยเสียก่อนจึงจะรักษาตามแผนการรักษานี้เรื่องความเสี่ยงนางเองก็เขียนไว้อย่างละเอียด"เช่นนั้นท่านเสิ่นโปรดลงนามด้วย" ฟู่จาวหนิงให้ลุงลั่วเตรียมหมึกพู่กันให้"พระชายาอ๋องเจวี้ยน สิ่งนี้ยังต้องลงนามด้วยหรือ?""แน่นอน ลงนามคือการยอมรับแผนการรักษานี้"เสิ่นเสวียนยิ้มๆ "เข้มงวดดี"เขาลงนามอ
แต่ตอนนี้พอเห็นว่าเสิ่นเสวียนเป็นเช่นนี้ นางเองก็ทำได้เพียงถอนหายใจ ดังนั้นตระกูลเสิ่นจึงไม่มีทางที่จะสงบได้ขนาดนั้น"ตอนนั้น จี้คู่นี้ ท่านลุงเคยเล่นอยู่พักหนึ่ง ลูกชายเขา ลูกพี่ลูกน้องข้า ตอนนั้นก็พูดมาคำหนึ่ง บอกว่าหินดารานี้เหมาะกับข้ามาก ดังนั้นท่านลุงจึงพูดว่า เช่นนั้นก็มอบให้อาเสวียนแล้วกัน"เสิ่นเสวียนคิดถึงสถานการณ์ในวันนั้น แล้วก็หัวเราะขึ้นมาอย่างจำใจ"ทั้งหมดดูแล้วก็เป็นธรรมชาติดี ดูปกติมาก"คำพูดของเขายังพูดไม่จบ ฟู่จาวหนิงกลับส่ายหัว "ทันที่จริงไม่เหมาะกับท่าน""หืม?" เสิ่นเสวียนมองนางอย่างไม่เข้าใจจี้หินดาราคู่นี้หลังจากมาอยู่ในมือเขา คนไม่น้อยก็ล้วนบอกว่าเหมาะกับเขา ล้วนถามกันว่าเขาได้มาจากไหน หลังจากบอกว่ามีคนมอบให้ คนเหล่านั้นก็ล้วนพูดว่า ถ้าเช่นนั้นของขวัญชิ้นนี้ก็มอบให้ได้เหมาะสมมากแล้วฟู่จาวหนิงเป็นคนแรกที่บอกว่าไม่เหมาะกับเขา"ท่านเสิ่น ท่านไม่เห็นหรือ ว่าฝ่ามือของท่านกับนิ้วของท่านยาวมาก?"ฟุ่จาวหนิงชี้ไปที่มือของเขานางเห็นมานานแล้ว เสิ่นเสวียนมีมือที่ดูดีมาก นิ้วมือเรียวยาว กระดูกข้อนิ้วชัดเจน ถ้าอยู่ในยุคปัจจุบันล่ะก็นี่คือมือที่เหมาะกับการเล่นเปีย
"สมัยก่อนท่านลุง เหมือนจะไม่ค่อยชอบของสีดำนัก"เสิ่นเสวียนรู้สึกว่าตนเองถูกใบไม้บังตาเข้าแล้วท่านลุงหลังจากอายุมากขึ้นก็กลัวตายเป็นพิเศษ รวมถึงของที่เกี่ยวข้องกับความตาย กระทั่งเสื้อผ้าเองส่วนใหญ่ก็เป็นสีแดง น้ำเงินเข้ม เทาอ่อนอะไรพวกนี้ ไม่เคยชอบสีดำเลยรองเท้ายาวกับรองเท้าก็ล้วนเป็นสีน้ำเงินเข้มแล้วเขาทำไมจึงไปหาจี้ธรรมชาติสีดำมาคู่หนึ่งล่ะ แล้วยังคอยเอามาคลึงเล่นในมืออยู่ตลอดด้วย?ลุงลั่วเองก็หน้าเปลี่ยนสี"นายท่าน"เขาไม่กล้าพูดต่อแต่ว่า ความหมายก็คือ หินดาราคู่นั้น ก็เป็นสิ่งที่ท่านผู้เฒ่ารองตระเตรียมมาให้นายท่านจริงๆ น่ะหรือ?ครู่หนึ่ง สีหน้าพวกเขาล้วนเคร่งขรึมขึ้นมาเสิ่นเสวียนสีหน้าดูใจเย็นกว่าพวกเขาเขาคิดๆ พูดกับฟู่จาวหนิงว่า "พระชายาอ๋องเจวี้ยน ระหว่างนี้ข้ากลับไปต้าชื่อสักครั้งได้หรือไม่ จะส่งผลกระทบกับการรักษาไหม?""ไม่ได้ ร่างกายของท่านจะรับไม่ไหวเอา" ฟู่จาวหนิงส่ายหัวทันที"นายท่าน ตอนนี้การรักษาเร่งด่วนกว่า" ลุงลั่วพวกเขาเองก็รีบเตือน"เรื่องอื่นยังไม่ต้องพูด ต้องส่งคนพาท่านพ่อท่านแม่ออกจากบ้านสองเสียก่อน" เสิ่นเสวียนพูดเช่นนี้ก็คือสงสัยในตัวท่านผู้เฒ่า
ฟู่จาวหนิงถูกเชิญเข้าประตูใหญ่อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกบ้านตระกูลหลินแสดงการเลือกปฏิบัติออกมาอย่างเต็มที่แล้วจริงๆเพราะตอนนี้นางคือพระชายาอ๋องเจวี้ยนหรือ?เช่นนั้นถ้าภายหลังนางกับเซียวหลันยวนหย่าร้างกัน ดูท่าประตูใหญ่บ้านตระกูลหลินนี้นางคงจะเข้ามาไม่ได้แน่"คุณหนูมาดื่มชาที่โถงหน้าก่อนเถิด ข้าน้อยจะไปเชิญฮูหยินมา" คนใช้คนหนึ่งที่พาฟู่จาวหนิงเข้ามาเอ่ยขึ้นตระกูลหลินไม่ใช่ตระกูลใหญ่อะไร เรือนนี้ก็ไม่ใหญ่ คนใช้ก็น้อย คนที่พักก็มีไม่มากด้วยฟู่จาวหนิงไม่ได้มาหาคนอื่นเสียด้วย จึงให้นางพาไปหาเซี่ยซื่อทางนั้นเซี่ยซื่อกำลังเช็ดน้ำตากลัดกลุ้ม พอได้ยินว่าฟู่จาวหนิงมาหาๆ จึงค่อยๆ ลุกขึ้นมา"จาวหนิงมาหรือ?"นี่ดีมากจริงๆ"น่าสะใภ้รอง"ฟู่จาวหนิงเดินเข้ามา และเห็นดวงตาที่แดงก่ำของนาง"อันห่าวเป็นอะไรไปหรือ?"เซี่ยซื่อพอเห็นว่าสาวใช้คนนั้นที่พานางเข้ามาไม่ยอมออกไป จึงรีบกลืนคำพูดลงไปแล้วพูดมาคำหนึ่ง "ไม่ ไม่มีอะไร"จากนั้นนางจึงเอ่ยกับสาวใช้ว่า "ไปทำงานของเจ้าเถอะ"สาวใช้คนนั้นยังยืดยาดไม่คิดจะเดินออกไป ดูก็รู้ว่าคิดจะแอบฟัง"ยังไม่ไปอีกหรือ?" เซี่ยซื่อสีหน้าเด็ดขาด น้ำเสียงขรึ
ในห้องมีเสียงโครมคราม"อะไรเกิดอะไรขึ้น?" เซี่ยซื่อเครียดขึ้นมาทันที "ไม่ต้องรีบ ค่อยๆ เดินมาเปิดประตูก็พอ"ก่อนหน้านี้หลินอันห่าวเวลาอยู่ในห้องจะไม่ลงดาลประตู แต่สองวันนี้กลับลงดาลประตูเสียแล้วในห้องไม่มีการเคลื่อนไหวแล้วหลินอันห่าวเองก็ไม่ได้มาเปิดประตู"อันห่าว?" เซี่ยซื่อจึงตบประตูอีกครั้งในห้องครู่หนึ่งจึงมีเสียงอันห่าวดังขึ้น "พี่หญิงจาวหนิง ข้านอนแล้ว"พรวดถึงแม้สถานการณ์จะไม่ชัดเจน แต่ฟู่จาวหนิงก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่เซี่ยซื่อเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก"น้าสะใภ้รอง ข้าเอง ท่านหลบไปก่อน" ฟู่จาวหนิงเอ่ยกับเซี่ยซื่อเซี่ยซื่อแม้จะยังกังวล แต่กลับเชื่อมั่นฟู่จาวหนิง"ได้ เช่นนั้นข้าจะไปเตรียมของว่างให้เจ้านะ" นางพูดกับในห้องว่า "อันห่าว แม่ไปเตรียมของว่างให้พี่หญิงจาวหนิงนะ เจ้าอยู่กับนางก่อนล่ะ"พูดจบก็ไม่รอให้หลินอันห่าวตอบกลับ นางก็เดินออกไปด้วยอาการตุ้มต่อมรอจนนางออกไป ฟู่จาวหนิงจึงตบประตูอีกครั้ง"อันห่าว เปิดประตูให้ข้าได้ไหม? เจ้าอยากรู้อะไร ข้าจะบอกเจ้าเอง ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังจะบอกแผนการกับเจ้าอีกแผนด้วยนะ แผนการเล่นงานคนชั่ว อันห่าวอยากจะเข้าร่วมด
ฟู่จาวฟังหลินอันห่าวไปด้วย ตรวจสอบให้นางอย่างละเอียดไปด้วยการฝังเข็มหลายครั้งก่อนหน้านี้ได้ผลอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่ายาที่เก็บมาในแคว้นเจานี้ ประสิทธิภาพดีกว่ายาที่หาได้ในโลกปัจจุบันเสียอีกดีขึ้นมากเลยเป็นไปได้ว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุที่หลินอันห่าวดีขึ้นเร็วมากกว่าที่นางคาดการณ์ไว้เพราะนางใช้การพิจารณาตัดสินจากประสบการณ์ก่อนหน้า แต่ว่าวัตถุดิบยาของที่นี่ดีกว่าที่นางรู้จัก ประสิทธิภาพดีกว่ามากมายนักยิ่งไปกว่านั้น ยังได้รับเรื่องดีจากเรื่องแย่ๆ อีก จังหวะที่หลินอันห่าวกระแทกไปนั้น กลับทำให้ลิ่มเลือดแต่เดิมแตกกระจายออกบางส่วนเพียงแต่ยังไม่ได้กระจายออกอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นสมองของนางจึงยังมีบางส่วนที่หมุนไม่ทัน ปฏิกิริยาจึงยังมีช้าอยู่บ้าง"หลินอี๋เจินทำไมถึงมาทำร้ายเจ้ากัน?" ฟู่จาวหนิงถาม"นางพูดให้ร้ายพี่หญิงจาวหนิง ข้าโมโหมาก"สาเหตุนี้ เซี่ยจื่อเดิมทีไม่อยากบอกฟู่จาวหนิง เพื่อไม่ให้ฟู่จาวหนิงต้องมาโทษตัวเอง รู้สึกว่านี่เป็นความรับผิดชอบของนางแต่หลินอันห่าวไม่คิดมากขนาดนั้น นางตอนนี้รู้สึกว่าพี่หญิงจาวหนิงถามแล้ว นางต้องตอบให้ดี"นางพูดให้ร้ายข้าอย่างไรหรือ?""นางบอ