แต่ว่าฟู่จาวหนิง็ไม่คิดจะเปิดเผยเรื่องห้องเภสัช ไม่อยากให้มีคนเข้าไปด้านในแต่ตอนนี้เซียวหลันยวนกลับเห็นด้วยแล้ว"จงเจี้ยนตอนนี้จะตื่นมาเห็นด้วยได้เสียที่ไหน พวกท่านอ๋องเห็นด้วยก็พอแล้ว ใจไหมโลหิตเป็นของเขา!"ฟู่จาวหนิงเองก็รู้ว่าชิงอีจะต้องอยากช่วยจงเจี้ยนอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไรสำหรับพวกเขา การใช้วัตถุดิบยาที่ล้ำค่าของเจ้านายก็ดูจะเกินเลยไปจุดนี้ฟู่จาวหนิงเองก็นับถือเซียวเหยียนจิ่งอยู่ไหมใจโลหิตหามาได้ยากจริงๆ พวกเขาหามานมนานก็ยังหาไม่พบอย่าว่าแต่จงเจี้ยนที่เป็นแค่ลูกน้องของเขาเลย ต่อให้เป็นคนในบ้านเขา มีคนมากมายพอเกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเองก็มักจะลังเลขึ้นมาถึงอย่างไรใครก็ล้วนรู้สึกว่าชีวิตของตนเองนั้นสำคัญที่สุดแต่ว่าเซียวหลันยวนกลับไม่แม้แต่จะคิดแล้วตอบรับมาทันที"ท่านอ๋องโปรดพิจารณาอีกครั้งเถิด" ชิงอีมองเซียวหลันยวนมองออกว่าเขาเองก็รู้สึกยุ่งยากมากเช่นกันฟู่จาวหนิงเองก็มองไปทางเซียวหลันยวน นางไม่ได้เร่งรัดเขา เรื่องนี้ให้เขามาตัดสินใจเองก็ดูสมเหตุสมผลอยู่"ไม่ต้องพิจารณาแล้ว ตอนนี้จงเจี้ยนชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่ข้ายังพอทนไหวอยู่ ช่วยชีวิตจงเจี้ยนก่อน""เซียวห
ถ้าเขารับคำมาตรงๆ เช่นนี้แล้ว นางไม่ใช่ว่าต้องดีใจจนกระดิกหางขึ้นมาหรอกหรือ?เซียวหลันยวนมีความคิดจะหยอกล้อนาง จงใจถอนหายใจ"แต่ว่าก็เป็นไปได้ ฟู่หลินซื่อถ้าที่จะเป็นทั้งน้องสาวของเสิ่นเสวียน และเป็นสาวกของลัทธิเทพทำลายล้างด้วย"และตามคาด พอได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็กลอกตาขาวใส่แต่ว่านางก็ไม่คัดค้านอะไรชิงอีกลับตั้งใจมาก "ท่านอ๋อง จริงด้วย นี่ก็เป็นไปได้เหมือนกัน ถึงอย่างไรท่านเสิ่นก็พูดไว้ ว่าเสิ่นเชี่ยวน้องสาวของเขาหายสาบสูญไปตั้งแต่ยังเล็ก ตอนนั้นพวกสาวกของลัทธิเทพทำลายล้างเองก็มีอยู่ไม่น้อย ศิษย์ฝ่ายธรรมะแต่ละสำนักของต้าชื่อถูกส่งออกไปทุกวัน บ้างก็บอกว่าไปฝึกฝน บ้างก็บอกว่าออกไปไล่ล่าสาวกของลัทธิเทพทำลายล้าง""สาวกลัทธิเทพทำลายล้างเพื่อที่จะหลบหนีการไล่สังหารของพวกฝ่ายธรรมะ ก็คิดหาวิธีปิดบังตัวตนฐานะอย่างสุดกำลัง ดังนั้นคนมากมายล้วนปิดบังซ่อนชื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่มสำนักตระกูลต่างๆ ตระกูลเสิ่นเมื่อตอนนั้นก็าจจะถูกลัทธิเทพทำลายล้างแทรกซึมเข้าไปแล้วด้วยกระมัง? ต่อมาคนเหล่านั้นก็มาเจอกับคุณหนูเสิ่น ต่อมาจึงพานางไปไหม?"ชิงอีเอ่ยขึ้นเป็นตุเป็นตะ"อดพูดไม่ได้เลย ชิงอี ทักษะ
"แน่นอน ในโลกกว้างนี้มีของอยู่ทุกสิ่งอย่างนั่นล่ะ ของบางอย่างจะแผ่วัตถุที่ทำร้ายร่างกายมนุษย์ออกมาด้วย พอนานวันเข้า จะทำให้ร่างกายบาดเจ็บจนไม่อาจย้อนคืนได้อีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"เจ้ารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร?" เซียวหลันยวนเริ่มมีความคิดที่จะสำรวจตัวนางขึ้นมา"แน่นอนว่าท่านอาจารย์สอนมาสิ" ฟู่จาวหนิงกระพริบตาปริบ "ไม่ใช่ผู้อาวุโสจี้ แต่เป็นอาจารย์ลึกลับที่สอนวิชาแพทย์ให้ข้าแต่ก่อนคนนั้น"และไม่รู้ว่าเรื่องที่ท่านอาจารย์วางเอาไว้ใกล้จะส่งข่าวมาถึงเมืองหลวงหรือยัง ถึงตอนนั้นวิชาแพทย์ของนางก็อธิบายให้ใครเขาฟังได้แล้วส่วนตอนนี้น่ะหรือ..."ถึงอย่างไรผู้อาวุโสก็บอกว่าอย่าเปิดเผยตัวเขา ดังนั้นใครจะถามข้าข้าก็ไม่บอกหรอก""ไม่ถามก็ไม่ถามสิ" เซียวหลันยวนส่ายหัวว "แล้วเจ้ามั่นใจว่าช่วยเสิ่นเสวียนได้หรือ?""มั่นใจ แต่มันไม่ค่อยง่ายก็เท่านั้น""แล้วจะเอาหินดาราไปบอกสถานการณ์กับเขาตอนไหน" หลังจากกเขาถามประโยคนี้สีหน้าจู่ๆ ก็เปลี่ยนไป เสียงเองก็สูงขึ้น "ไม่สิ ในเมื่อหินดาราคุ่นั้นทำให้คนป่วยได้ ตอนนี้ยังอยู่ในมือเจ้าหรือ เจ้า..."เขาคว้าข้อมือฟู่จาวหนิง ความร้อนรนก็เอ่อล้นเกินคำพูดขึ้นมา
เหล่าทหารตอบกลับ "เมื่อครู่มีแต่พระชายาอยู่ที่นี่..."ฟู่จาวหนิงมาแตะของบนโต๊ะเขาหรือ?และมีลมอีกวูบหนึ่งพัดเข้ามา เป่ากระดาษเหล่านั้นจนปลิวว่อน ชิงอีรีบเข้ามาปิดหน้าต่าง "ลมเริ่มมาแล้ว"เซียวหลันยวนเข้าใจแล้วดังนั้น ลมพัดจดหมายตกลงมา ฟู่จาวหนิงเก็บขึ้นมา ดังนั้นจึงทับไว้อย่างเรียบร้อยแล้วนางเห็นกระดาษแผ่นนั้นแล้วหรือยัง?ฟู่จาวหนิงหลังจากกลับมาก็เขียนจดหมายให้เฉินซานส่งไปยังเศรษฐีฟางที่หมู่บ้านตะวันออก นางคิดออกขึ้นมาแล้ว จะให้คนรอบตัวนางมีแต่คนของเซียวหลันยวนไม่ได้ดังนั้นต่อให้ให้เขามาปกป้องเรือน วิชาความสามารถจะดีกว่าทางเศรษฐีฟาง แต่นางก็ยังอยากจะให้เศรษฐีฟางช่วยเหลือพอเห็นนางกลับมา ผู้อาวุโสจี้ก็ผ่อนลมโล่ง"ท่านอาจารย์ จงเจี้ยนเป็นอย่างไรบ้าง?"เมื่อครู่อาเจียนออกมาครั้งหนึ่ง กรอกยาให้เขาแล้ว ตอนนี้ยังมึนงงสลบไสลอยู่ ข้าตรวจสอบดวงตาของเขาแล้ว ถึงแม้จะยังไม่ฟื้นกลับมา แต่ตาขาวเองก็ไม่เปลี่ยนเป็นสีดำอีกแล้ว"ขอบคุณท่านอาจารย์"ฟู่จาวหนิงเดินเข้ามา จับชีพจรให้กับจงเจี้ยนอีกครั้ง จากนั้นก็ฝังเข็มอีกรอบ ระบายเลือดพิษออกผู้อาวุโสจี้คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ตลอด"พิษบนตัวเ
หมอเทวดาหลี่รู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก"ข้าจับชีพจรไปแล้ว ท่านเสิ่นเขาติดพิษ แต่ว่าพิษนี้แปลกประหลาดมาก เวลาแค่เล็กน้อยยังตรวจให้ชัดเจนไม่ได้ ว่าไปติดจากที่ไหน ติดพิษอะไรมา แล้วจะแก้ไขอย่างไร"หมอเทวดาหลี่ก็อัดอั้นไฟโกรธอยู่เช่นกัน"ในเมื่อสถานการณ์ซ้บซ้อนเช่นนี้ เช่นนั้นข้าจะถามมากหน่อยไม่ได้หรือ? ข้าสงสัยว่าปกติเขากินเขาดื่มอะไรลงไป แน่นอนว่าต้องการให้เขาเอาของที่กินที่ดื่มลงไปในช่วงหลายปีนี้พูดออกมา ทางที่ดีควรให้เขาเอาพวกชาออกมาให้ข้าศึกษาอย่างละเอียดสิ แต่นี่ท่านเสิ่นกลับบอกว่าพอแล้ว นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?"ก่อนหน้านี้ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยาคุยกับเขา ก็ยังดูเคารพดูถ่อมตัวมาก แต่หลังจากกลับจากต้าชื่อครั้งนี้ก็ดูหยิ่งผยองขึ้นมาไม่น้อยเลย ก็แค่หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่ง แต่พูดจากับเขาดันใช้น้ำเสียงกล่าวโทษเขาหรือ?"เขาเป็นคนป่วยที่ไม่ให้ความร่วมมือเช่นนี้ หมอทุกคนก็ต้องยกมือยอมแพ้ทั้งนั้น ดังนั้นท่านลองดูเอาเถิด เดินทางจากนับพันลี้กลับมาแคว้นเจาแล้วสุดยอดนักหรือ? ไม่ใช่ว่าสกุลหลี่อย่างข้าโอ้อวดตนนะ ถ้าหากข้าทางนี้ยังตรวจไม่ได้ เช่นนั้นหมอคนอื่นก็คงไม่ต้องไปหาแล้ว"หมอ
"ให้ตายเถอะ เป็นหมอแท้ๆ แต่เขากลับมองไม่ออกเลยว่านายท่านเหนื่อยจนย่ำแย่แล้ว" ลุงลั่วดูหงุดหงิดมากท่านเสิ่นหลับตาลงแล้วไม่ลืมตาขึ้นมารอจนลุงลั่วพูดจบ เขาจึงถอนหายใจออกมาเสียงหนึ่ง"วิชาแพทย์ของหมอเทวดาหลี่ก็พอใช้ได้ แต่ก็เป็นแค่หมอที่วิชาแพทย์สูงคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ถึงกับเป็นหมอเทวดา"นี่ลือกันเกินจริงไปแล้วและเพราะตอนนี้วิชาแพทย์ก็ขาดห้วงไปอย่างรุนแรง ก่อนหน้านี้มีช่วงหนึ่งขาดหายไป จึงส่งผลกระทบอย่างมาก"ยังดีที่มีพระชายาอ๋องเจวี้ยนอยู่" ลุงลั่วฝากความหวังไว้กับฟู่จาวหนิงอย่างประหลาดพอเอ่ยถึงฟู่จาวหนิง ท่านเสิ่นก็ลืมตาขึ้นมา"ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าสมัยก่อนเคยช่วยนางไว้ครั้งหนึ่งหรือ?""ถูกต้อง คิดไม่ถึงว่าเด็กสาวตกน้ำที่ดูกตัญญูคนนั้นจะเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน แต่ว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนตอนนี้ดูแล้วดูมีพลังมากกว่าตอนเด็ก มีความรู้และสุขุมใจกว้างมาก เด็กสาวก่อนหน้านั้นหลังจากถูกข้าช่วยไว้ก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้"พระชายาอ๋องเจวี้ยนตอนนี้ ดูแล้วไม่น่าจะร้องไห้ออกมาง่ายๆ"ลองเล่าเรื่องตอนนางยังเด็กหน่อย" ท่านเสิ่นหลับตาลงอีกครั้ง"นายท่าน ที่ข้ารู้ก็ล้วนเป็นเรื่องที่ได้ยินมาตอนที่ค
แต่ว่า ที่ถูกขวางไว้คือพวกฮูหยินหญิงสาวและเด็ก ไม่เห็นพวกสามีหรือบิดาของพวกนางพอเห็นฟู่จาวหนิง ฮูหยินรองฮูหยินสามพวกนางก็ร้องเสียงดังขึ้นมา ดวงตาที่ถลึงเข้ามาก็ราวกับจะพ่นไฟโทสะออกมาอย่างไรอย่างนั้นฟู่รั่วเสวี่ยฟู่เป่าเจินดวงตาพวกนางแดงเถือก มองฟู่จาวหนิง สีหน้าก็ทั้งริษยาทั้งเกลียดชัง"พวกเจ้าทำอะไรกัน?"ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้วเพราะนางเห็นว่าท่าทีของคนเหล่านี้ล้วนดูซมซาน อย่างเช่นฮูหยินสาม ก้าวเดินยังโซซัดโซเซฟู่รั่วเสวี่ยที่แต่เดิมชอบแสร้งทำตัวเป็นคุณหนูแขนเสื้อกับกระโปรงก็ยังไม่เรียบร้อย ดูแล้วไม่เหมือนกับสภาพนางเวลาปกติเลยแล้วก็ฟู่เจียวๆ ยิ่งตลกกว่า และไม่รู้ว่าตอนที่กำลังทาปากแล้วโดนคนดึงออกมาหรือเปล่า ปากถูกเขียนจนเอียงกะเทเร่ ตอนนี้มุมปากยกจนเป็นรอยแดงเถือก"ไอ๊หยา หรือว่าพวกเจ้ารู้ว่าจะช้าเร็วก็ต้องไล่พวกเจ้าออกไปจากบ้านตระกูลฟู่ รู้สึกว่าถูกไล่แล้วดูไม่ค่อยดี ดังนั้นจึงคิดจะออกไปเองเช่นนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงพูดเช่นนี้ ท่าทางดูดีใจอยู่"ถ้าหากพวกเจ้าสามารถรู้ตัวเช่นนี้จริงก็ดีมากเลย รีบเข้าสิ ถ้าออกไปเองก็จะดูดีหน่อย ถ้าถูกข้าไล่ออกไปมันจะดูไม่ดีนะ"ฟู่เจียวเจียวตะโกน
"ฮูหยินรอง ฮูหยินสาม! ผู้เฒ่ารองผู้เฒ่าสามเรียให้พวกเจ้ารีบพาคุณหนูกลับไปเก็บของ เวลาเกือบจะหมดแล้ว!"คนใช้คนนี้เองก็วิ่งจนเหงื่อโทรมกายไปหมดองครักษ์เงามังกรเข้ามาแล้ว เห็นท่าทีเย็นชาของพวกเขาทำเอาคนผวาขึ้นมาถ้าพวกเขาไม่สามารถย้ายออกไปได้ในช่วงเวลา องค์รักษ์เงามังกรก็จะตะเพิดพวกเขาออกไปถึงตอนนั้นคนพอถูกตะเพิดออกไปก้ไม่มีโอกาสจะหยิบของอะไรแล้ว"อ๊า!""รีบไป!""ของของพวกเรายังไม่ได้เก็บ!"คนของบ้านรองบ้านสามล้วนกระโดดเหยงกันอย่างร้อนรน สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขาสับสนไปมาเหมือนแมลงวันไร้หัว ครู่หนึ่งจึงเพิ่งวิ่งออกมา"ลุงจงป้าจง พาพวกเฉินซานไปคอยจับตาดูพวกเขาไว้ หินสักก้อนเดียวของบ้านตระกูลฟู่พวกเราพวกเขาจะย้ายออกไปไม่ได้แม้แต่ก้อนเดียว!" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ขอรับ!"ลุงจงป้าจงตอนนี้เองในที่สุดก็ยืดเอวตรงหลังตรงหลายปีมานี้ถูกคนบ้านสองบ้านสามกดมาโดยตลอด ตอนนี้ได้ถอนใจโล่งออกมาบ้างแล้วถ้าหากไม่มีอ๋องเจวี้ยน ไม่มีองครักษ์เงามังกร จะไล่เจ้าพวกคนหน้าด้านไร้ยางอายพวกนี้ได้อย่างไร?"คุณหนู ข้าก็ไปด้วย!" เสี่ยวเถาคิดจะไปคอยจับตาดูพวกฟู่เจียวเจียวให้"ไปเถอะ ไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงโบกไ
พอเห็นสีหน้าเฉินฮ่าวปิง ใจของต่งฮ่วนจือก็เย็นลงมาทันทีทั้งที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟู่จาวหนิงแล้วแท้ๆ แต่ว่าตอนนี้ เฉินฮ่าวปิงก็ยังใช้ประโยชน์จากเขา คิดจะให้เขาขัดขวางศิษย์น้องหญิงต่อให้เป็นเรื่องที่เหลวไหลแบบนี้ นางก็ยังพูดออกมาโดยไม่หนักใจ แล้วขอให้เขาทำตามสิ่งที่นางต้องการต่งฮ่วนจือมองไปทางฮูหยินเฉิน เขายังดูคาดหวังอยู่ถึงอย่างไรฮูหยินเฉินก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว น่าจะรู้จักขอบเขตบ้างกระมัง?"เจ้าเองก็คิดแบบนี้หรือ? จะให้ข้าเก็บวัตถุดิบยาไว้จนกว่าฮ่าวปิงจะรวมเงินได้?"ฟังเอาเถอะ เขาพูดซ้ำออกมาอีกรอบหนึ่งก็ยังรู้สึว่าเป็นเรื่องไร้สาระเลยฮูหยินเฉินขมวดคิ้ว มองนางด้วยสายตาเศร้าๆแต่ก่อนพอเห็นสีหน้าเช่นนี้ของนาง ต่งฮ่วนจือก็จะรู้สึกปวดใจ อยากจะปกป้องนางขึ้นมา เขารู้ ว่านางเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง มีลูกสาวติดหนึ่งคน คอยหนีคนตามล่าอยู่ตลอด มันลำบากแค่ไหนถ้าหากเป็นไปได้ เขาเองก็อยากจะยืนบังลมบังฝนให้นาง เพราะแรกสุดเขารู้สึกชื่นชมนาง ชื่นชมความแข็งแกร่งและความรักของแม่จากตัวนางแต่สีหน้าต่อตัวเขาของฮูหยินเฉินตอนนี้ ต่งฮ่วนจือจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า อ๋องฉยงถึงอย่างไรก็หาพวกนางเจอแ
เฉินฮ่าวปิงมองต่งฮ่วนจือนางสามารถใช้วัตถุดิบยาของพันธมิตรโอสถทำการกุศลต่อได้ และยังพังแผนการของฟู่จาวหนิงได้อีก ทำให้นางไม่ได้รับวัตถุดิบยาหลังจากเฉินฮ่าวปิงกลับมาพูดเรื่องวันนี้กับฮูหยินเฉิน ฮูหยินเฉินโกรธมากดังนั้นนางจึงคิดวิธีนี้ออกมา รู้สึกว่าพวกนางตอนนี้รับมือฟู่จาวหนิงไม่ไหว แต่ถ้าลงแรงกับต่งฮ่วนจือทางนี้สักหน่อย สร้างความลำบากให้กับฟู่จาวหนิงได้บ้างก็ยังดีมีสิทธิ์อะไรที่จะยอมให้ฟู่จาวหนิงทำทุกอย่างได้ราบรื่นขนาดนั้น?ต่งฮ่วนจือถ้าหากขัดฟู่จาวหนิงได้ ไม่ใช่แค่ฟู่จาวหนิงจะไม่ชอบใจ แต่ผู้อาวุโสจี้ก็จะโกรธด้วย ถ้าผู้อาวุโสจี้โกรธ ฟู่จาวหนิงก็จะอารมณ์ไม่ดีดังนั้น ขอแค่กล่อมต่งฮ่วนจือ ก็จะทำได้ฟู่จาวหนิงอึดอัดได้ ดีจะตาย?ดังนั้น จึงได้เห็นเฉินฮ่าวปิงที่มาแสดงความอ่อนแอออดอ้อนต่งฮ่วนจือในตอนนี้นางรู้สึกว่า ความรักทีต่งฮ่วนจือมีให้นาง เรื่องนี้ไม่ใช่จะทำไม่สำเร็จแต่ตอนได้ยินคำพูดของนาง ต่งฮ่วนจือก็งงงันไปครู่หนึ่ง"ลุงต่ง..." เฉินฮ่าวปิงดึงแขนเสื้อของเขา "ได้ไหม?"ต่งฮ่วนจือดึงแขนเสื้อในมือนางกลับมา"เรื่องนี้ไม่ได้""ทำไมล่ะ?""อันดับแรก วัตถุดิบยาที่เจ้าคิดจะเอาไ
หลายปีก่อนที่เขาช่วยพวกนางแม่ลูกไว้ เฉินฮ่าวปิงยังเป็นเด็กสาวร่างผ่อนอ่อนแอ หลายปีนี้ยังถือว่าเขาเลี้ยงดูมาจนโต เขาแทบจะมองเฉินฮ่าวปิงเป็นลูกสาวตนเองไปแล้วแม้ตอนนี้นางเจอกับพ่อแท้ๆ แล้ว แต่พ่อแท้ๆ คนนั้นก็ไม่ใช่จะได้เรื่องกระมัง ต่งฮ่วนจือยังรู้สึกเป็นห่วงอยู่เขาคิดคิด ยังคิดจะไปบ้านเล็กในซอยนั่นเพื่อหาเฉินฮ่าวปิงหลายวันนี้เฉินฮ่าวปิงก็ไม่ยอมพบเขา ทุกครั้งที่เขามา คนใช้ก็จะบอกว่าท่านหญิงไม่อยู่วันนี้เขามา แต่เฉินฮ่าวปิงกลับอยู่ และยังยอมพบเขาด้วยพอเข้ามาในบ้าน มาถึงเรือนหน้า ฮูหยินเฉินก็อยู่ด้วยแม่ลูกหันมามองนางพร้อมกัน สายตาของคนทั้งคู่ล้วนแดงก่ำ ดูแล้วน่าสงสารมาก เฉินฮ่าวปิงพอเห็นเขาก็ร้องไห้โฮออกมา"ลุงต่ง!"นางพุ่งเข้ามาหาต่งฮ่วนจือ สองมือดึงแขนเสื้อเขา ร้องไห้ตัวโยน "ท่านมาได้เสียที!"ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาตั้งหลายครั้ง ก็ไม่ยอมออกมาเจอ ไม่ได้ว่าเขาไม่เคยมาเสียหน่อยแต่ต่งฮ่วนจือก็ไม่ได้พูดออกมา มองสภาพเฉินฮ่าวปิงแล้วเขาก็ยังคงปวดใจอยู่"ทำไมหรือ? เกิดอะไรขึ้น? อ๋อง อ๋องฉยงไม่ได้ช่วยเจ้าหรือ?"พอพูดถึงอ๋องฉยง เฉินฮ่าวปิงก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาเพราะวันนี้อ๋อง
ก่อนค่ำวันเดียวกันฟู่จาวหนิงให้สืออีไปเก็บตั๋วเงินพวกนี้มาแล้วกระทั่งองค์หญิงเจ็ดก็ยังไม่กล้าที่จะไม่ให้หลังจากให้สามพันตำลึงมาแล้ว คนเหล่านี้ก็ล้วนรู้สึกเหมือนเสียปราณชี่ขนานใหญ่ไป ไม่มีทั้งหน้าไม่มีทั้งเงิน แล้วยังหวาดผวา ไม่รู้หลังจากนี้จะมีเรื่องอะไรอีกถ้าเผื่อพระชายาอ๋องเจวี้ยนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนมาหาเรื่องบ้านพวกเขาอีกจะทำอย่างไร?โดยเฉพาะคุณหนูสี่หลิน หลังจากกลับมาก็ได้ยินพี่สาวคนโตกับคนรองพูดถึงเฉินฮ่าวปิง จึงได้รู้ว่าพวกนางเดิมทีก็ดูถูกท่านหญิงปิงอวี้อยู่แล้วพ่อของนางกับพี่สาวนางเองก็กำลังเดาว่าอ๋องฉยงทำไมจึงยังอยู่ในเมืองหลวง ยังพูดอีกว่า ไม่ว่าจะเพราะเรื่องอะไร การที่องค์จักรพรรดิให้อ๋องฉยงอยู่ในเมืองต่อโดยไม่สนกฏ ต้องไม่ใช่เรื่องดี พวกเขากำลังพูดว่า หลังจากนี้จะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่อ๋องฉยงอาจจะก่อความวุ่นวายอะไรขึ้น ไม่ต้องพูดถึงลูกสาวบ้านน้อยของเขาคนนั้นเลย?ในคำพูด คืออ๋องฉยงทำเรื่องไม่ถูกต้อง ลูกสาวบ้านน้อย ยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรดีดีเลย แต่ดันไปขอยศท่านหญิงมาองค์จักรพรรดิก็ยังรับปากอีก ดูจะเลอะเลือนหน่อยๆแน่นอน พวกเขาแอบคุยเรื่องน
เซียวหลันยวนพูดพลางหัวเราะเสียงต่ำฟู่จาวหนิงเองก็ตกตะลึงไป "ผู้ตรวจการอันไปคุกคามองค์จักรพรรดิหรือ?"ถ้าหากผู้ประสบภัยทะลักเข้าเมืองหลวง เมืองหลวงก็จะวุ่นวาย องค์จักรพรรดิไม่อยากจะสนใจก็คงต้องสนใจแล้วแค่โรคระบาด องค์จักรพรรดิก็ยังกลัวจนไม่ประชุมเช้า ไม่ต้องพูดเรื่องผู้ประสบภัยนับหมื่นเลย? เขาได้ตกใจจนตายกันพอดี"ก็จริงนั่นล่ะ แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริง แต่รายละเอียดด้านในที่นำไปปฏิบัติได้ก็มีเยอะมาก""แล้วองค์จักรพรรดิให้เงินบรรเทาภัยมาเท่าไร?""หนึ่งหมื่นตำลึง""ขี้เหนียว" ฟู่จาวหนิงเบ้ปากนางเองก็ยอมแล้ว ผู้ประสบภัยนับหมื่น แต่ให้เงินบรรเทาภัยมาหมื่นตำลึง? นางเค้นจากตัวพวกองค์หญิงเจ็ดยังได้มาตั้งสามหมื่นตำลึง"คลังหลวงว่างเปล่าแล้วจริงๆ""เอาเถะ พวกเราเองก็ลองไปเตรียมตัวดูก่อน ถ้าเงินไม่พอจริง ค่อยให้ผู้ตรวจการชิงกลับไปปล้นองค์จักรพรรดิอีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นถ้ายังไม่เห็นสถานการณ์เมืองเจ้อกับตา ใต้เท้าอันหากคิดจะปล้นก็ปล้นลำบาก"อันเหนียนบอกว่าสามวันนั้นรีบไปหน่อย ขอเลื่อนไปวันหนึ่ง ข้าส่งคนไปดูลาดเลาก่อน ตอนพวกเจ้าไปถึงจะมีคนรอรับอยู่"เอาของไปด้วยตั้งมากมาย ตอนไปถึงต้อง
ผู้อาวุโสจี้รู้ว่า จะเตือนไม่ให้ฟู่จาวหนิงไปเมืองเจ้อนั้นเป็นไปไม่ได้การตัดสินใจที่นางพูดออกมา ไม่มีทางเปลี่ยนยิ่งไปวก่านั้น วิชาหมอของนางเองก็ดีขนาดนี้ ไปสถานที่แบบนั้นจะต้องช่วยเหลือชีวิตได้มากมายแน่นอน ผู้อาวุโสจี้ที่ทั้งใจเต็มไปด้วยความดีงามก็ไม่กล้าที่จะห้ามปรามแต่เขาเองก็ยังเป็นห่วงฟู่จาวหนิง"เมืองเจ้อทางนั้นผู้ประสบภัยมากเกินไป จะต้องวุ่นวายแน่นอน เจ้าไปที่นั่นความปลอดภัยเป็นปัญหา ต้องระวังหน่อย แล้วอ๋องเจวี้ยนจัดแจงให้แล้วหรือยัง? เจ้าคงต้องพาองครักษ์ไปมากหน่อย"ถึงแม้ถ้าผู้ประสบภัยก่อจราจลขึ้นมา ต่อให้มีองครักษ์มากแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้ แต่พาไปหน่อยก็ยังดีกว่าไม่พาไป"เจ้ามีของแปลกๆ ตอนสกัดยาเยอะไม่ใช่หรือ? ทำยาที่เอาไว้ทำให้คนล้มวงกว้างๆ ไว้เยอะหน่อย ถ้าถึงเวลาต้องใช้จริง เจ้าก็ไม่ต้องสนอะไร สาดยาออกไปเลย รักษาตัวเองไว้ก่อนเป็นสำคัญ""ฮ่าๆ ท่านอาจารย์ สอนลูกศิษย์แบบนี้ได้เหรอ?"ฟู่จาวหนิงอดขำขึ้นมาไม่ได้ ผู้อาวุโสจี้สอนให้นางใช้ยาสลบกับผู้ประสบภัยเนี่ยนะผู้อาวุโสจี้ถลึงตา "แค่นี้จะเป็นอะไรไป? ทำอะไรก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน ความปลอดภัยของเจ้าสำคัญที่สุด!""ข้าย
"ศิษย์น้องหญิงเจ้าไปงานรับบริจาคของฮ่าวปิงมาหรือ?" ต่งฮ่วนจือเงยหน้ามองนาง"เปล่า ข้าตบนางไปฉาดหนึ่งด้วยซ้ำ"ฟู่จาวหนิงไม่ไว้หน้าเขาเลย เอาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ตั้งแต่ต้นจนจบเล่าออกมาอย่างละเอียดรอบหนึ่ง"ดังนั้น ศิษย์พี่รอง ข้าตอนนี้ข้าจะเน้นกับท่านอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เข้าไม่ถูกกับเฉินฮ่าวปิง ถ้านางยังคิดจะมาทำอะไรต่อหน้าข้าอีกจะไม่จบแค่ตบหน้าแล้ว เรื่องที่นางทำมันโง่เง่ามาก ยิ่งไปกว่นั้นนางยังโกรธแค้นแล้วมองข้าเป็ฯศัตรูอีก"ฟู่จาวหนิงกดเสียงต่ำ "ก่อนหน้านี้ศิษย์พี่เป็นอะไรกับพวกนางข้าไม่สนใจ แต่หลังจากนี้ ถ้าหากศิษย์พี่ยังยืนยันจะยืนอยู่ฝั่งนางทางนั้น ยังคิดจะปกป้องนาง เช่นนั้นข้าก็จะขีดเส้นกั้นกับศิษย์พี่แล้ว"ผู้อาวุโสจี้มองต่งฮ่วนจือหน้าขรึม"หลายปีนี้เจ้าเอาแต่ปกป้องแม่ลูกอย่างพวกนาง แล้วมองไม่ออกถึงความใจร้ายของนังเด็กนั่นเลยหรือ? หลังจากนางถูกแต่งตั้งเป็นท่านหญิงก็ไม่มาสนใจเจ้าอีก เจ้าคิดว่านางยังจำบุญคุณของเจ้าได้ไหม? เจ้าคิดว่าตนเองกับนางมีความสัมพันธ์ฉันท์ครอบครัว แต่นางก็แค่หลอกใช้เจ้า""ถึงอย่างไรคนที่โง่แบบเจ้าก็มีไม่เยอะ! ต่งฮ่วนจือ ศิษย์น้องหญิงของเจ้าพู
ฟู่จาวหนิงถอนหายใจ"ศิษย์พี่ พวกเราจะซื้อวัตถุดิบยาในราคาเดิม ไม่ต้องลดราคา แค่นี้ได้ไหม?""ถ้าอย่างนี้ก็ได้อยู่...""ต่ง ! ฮ่วน ! จือ!"ผู้อาวุโสจี้โกรธเป็นฟืนไฟแล้วจริงๆ"ท่านอาจารย์ สงบลงก่อน" ฟู่จาวหนิงรีบเดินไปอยู่ข้างๆ ผู้อาวุโสจี้ รินน้ำชาให้กับเขา "ศิษย์พี่ทำงานอย่างเข้มงวด เข้าต้องทำตามกฏการทำงานของพันธมิตรโอสถ อย่าทำให้เขาลำบากใจเลย""อาจารย์ เรื่องนี้ไม่ได้จะคุยกันลกบาก ข้าแค่ต้องใช้เวลาไปคำนวณต้นทุนของวัตถุดิบยาชนิดต่างๆ หน่อย ถึงตอนนั้นก็จะคำนวณส่วนลดลงมาได้"ต่งฮ่วนจือลุกขึ้นยืน ไม่กล้านั่งลงมา"แต่ถ้าศิษย์น้องหญิงไม่ต้องการลดต้นทุนสี่ส่วนล่ะก็ ข้าทางนี้จะหักกำไรทั้งหมดออกได้ ยิ่งไปกว่นั้น พวกเรายังสามารถบริจาควัตถุดิบยาที่ค่อนข้างพิเศษบางอย่างได้นิดหน่อยด้วย ข้าทางนี้ยังมีส่วนที่เหลืออยู่ เพราะสาขาย่อยเมืองเจ้อทางนั้นไม่มีวัตถุดิบยาชนิดนี้ ดังนั้นสิ่งนี้ข้ามอบให้ได้..."ต่งฮ่วนจือพยายามจะอธิบาย"ตัวข้าเองก็ยังบริจาคเงินช่วยได้ เงินพวกนี้เอาไปเพิ่มกับเงินที่ซื้อวัตถุดิบยาก็พอแล้ว ท่านอาจารย์ ข้าไม่ได้ตระหนี่ถี่เหนียวเสียหน่อย""เฮอะ" ผู้อาวุโสจี้โมโหจนหัวเราะ "
ต่งฮ่วนจือหลายวันนี้ดูผ่านไปแบบซึมเศร้าอยู่ ตอนนี้สีหน้าก็ยังไม่ค่อยดีนัก พูดจาเองก็ยังไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเขาพยายามอธิบายจุดนี้"วัตถุดิบยาชุดใหญ่ที่อ๋องเจวี้ยนต้องการ ก็ล้วนเป็นวัตถุดิบยารักษาหวัดหรืออาการบาดเจ็บภายนอกทั้งนั้น เป็นของที่หาได้ทั่วไป แล้วก็เป็นพวกที่ราคาถูกำไรน้อยพวกนั้น หลายอย่างพวกเราเก็บกำไรแค่หนึ่งถึงสองส่วน รักษาไม่ให้พันธมิตรโอสถต้องขาดทุน ถ้าหากวัตถุดิบยาเหล่านี้ลดราคาต้นทุนไปสี่ส่วน บัญชีของพันธมิตรก็จะมีช่องว่างเบ้อเร่อเลย"ต่งฮ่วนจือบอกกับฟู่จาวหนิงอย่างจนใจ "ศิษย์น้องหญิง ถ้าแบบนี้บัญชีที่ข้าต้องส่งให้พันธมิตรสาขาตอนครึ่งปีจะอธิบายลำบากเอา"เข้าใจ ก็คือ ขาดทุนนั่นล่ะฟู่จาวหนิงยังไม่ทันพูด ผู้อาวุโสจี้ก็ร้องเชอะขึ้นมา "นี่มีอะไรพูดลำบากกัน? ข้าบอกให้เจ้าโยนทั้งหมดมาที่ตัวข้าแล้ว""ท่านอาจารย์ นี่มันทำได้ที่ไหนกัน? ถึงอย่างไรข้าก็ดูแลสาขาของเมืองหลวงนะ เป็นข้าที่ต้องรับผิดชอบ" ต่งฮ่วนจือเองก็ทำเรื่องอย่างการผลักภาระทุกอย่างไปให้อาจารย์หมดไม่ได้"เจ้าเอาแต่กลัวนั่นกลัวนี่ กล้าๆ กลัวๆ ก็แค่เพราะเจ้าเพิ่งมารับช่วงดูแลที่นี่ กลัวจะทำเรื่องโดดเด่นออกมาไม่ได้