หลังจากที่เซียวหลันยวนเข้ามาก็เดินตรงไปยังศาลาผ่านไปนาน ควันไฟในนี้มอดดับไปแล้ว เขาเข้าไปเดินวนรอบหนึ่งก็ถอยออกมาทันทีฟู่จาวหนิงมองท่าทางของเขา ก็สงสัยว่าเขาน่าจะสังเกตเห็นแล้วว่าในศาลามียาอยู่ไม่เช่นนั้นก่อนหน้านี้ตอนที่เดินเข้ามาในศาลแล้วจะถอยออกไปกะทันหันทำไมกัน?ไร้สีไร้กลิ่น เขาสัมผัสได้นี่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมอยู่ น่าจะเพราะเขาป่วยมานาน ติดพิษมาแล้วหลายครั้ง จนทำให้เขารู้สึกไวต่อสิ่งเหล่านี้เดิมทีฟู่จาวหนิงยังคิด ถ้าเข้ารออยู่แต่ในศาลานั่น ถึงตอนนั้นนางต้องมานั่งแก้พิษให้เขาอีกร่างกายอ่อนแออย่างเซียวหลันยวน จริงๆ คือห้ามติดพิษอะไรอีกแล้ว ทำร้ายต่อร่างกายเขาอย่างมากยังดีที่ตัวเขารู้สึกถึง แค่เข้ามาเดินวนรอบหนึ่งก็ออกไปแล้ว เขาเหมือนกับเข้ามาเพื่อยืนยันอะไรสักอย่างเขายังไปค้นหาที่ต่างๆ ในเรือนต่ออีกรอบหนึ่งจากนั้นจึงถอยออกไปฟู่จาวหนิงอดคิดขึ้นไม่ได้ เขาคงไม่ได้เข้ามาหาตัวนางหรอกกระมัง?เป็นห่วงนางขนาดนี้เลยหรือ?นางรีบออกจากห้องเภสัช รีบวิ่งออกจากเรือนนี้ พอคิดๆ ก็ยังไม่เตรียมออกไปทางประตูใหญ่ประตูใหญ่ทางนั้นจะต้องมีคนเฝ้าอยู่แน่ ในเมื่อเซียวหลันยวนยังเข้ามาเลย ตอน
เซียวหลันยวนดึงนางไว้ ใช้กำลังภายในพานางกระโจนออกจากกำแพงเรือน ออกจากหอจันทร์หยาดไป ในนี้เขารู้สึกว่ามันสกปรก ดังนั้นจึงไม่อยากจะให้นางเอาแต่อยู่ในนี้พอคนด้านนอกเห็นพวกเขาออกมา ก็ล้วนเข้ามารรับอย่างยินดีปรีดา"ท่านอ๋อง พระชายา!""พระชายาท่านกลับมาแล้วหรือ?""คุณหนู!" เสี่ยวเถาเองก็รีบโถมตัวเข้ามา แต่พอวิ่งมาถึงด้านหน้าตอนที่เห็นมือของฟู่จาวหนิงถูกอ๋องเจวี้ยนจูงไว้นางก็รีบหยุดเท้าตัวโก่ง ไม่กล้าโถมเข้าไปแล้ว"เอ่อ ข้าไม่เป็นไร"พอเห็นพวกเขาเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกเขินหน่อยๆนางยังเห็นสืออีที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วย สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กๆ "สืออี เจ้าทำอะไรน่ะ?""คุณหนู สืออีบกพร่องในหน้าที่ ทำให้ท่านตกอยู่ในอันตราย สืออีรู้ผิดแล้ว"สืออีคุกเข่าอยู่นานแล้ว ไม่กล้าขยับเขยื้อนเลย"ลุกขึ้นมา"ฟู่จาวหนิงเรียกให้เขาลุกขึ้น แต่สืออียังคงคุกเข่าอยู่"เจ้าบกพร่องในหน้าที่ตรงไหนกัน? เป็นข้าที่ให้เจ้าคุ้มกันน้องสาวข้าออกไป เจ้าก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น เจ้าทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว เจ้าบกพร่องในหน้าที่ตรงไหนกัน?"ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะลงโทษสืออีเช่นนี้ พอเห็นว่าเขายังนั่งนิ่
วันนี้วุ่นวายมาทั้งวัน พอมาถึงจวนอ๋องเจวี้ยน หงจั๋วเฝิ่นซิงทั้งสองคนก็ดีอกดีใจวุ่นวายกันขึ้นมา เตรียมน้ำให้นางอาบ เช็ดผมให้นาง จากนั้นก็เตรียมอาหารค่ำให้พวกเขารอจนฟู่จาวหนิงสวมเสื้อผ้าใหม่กินอาหารค่ำเลิศรสแล้ว ก็ถูกหงจั๋วคลุมเสื้อคลุมตัวหนึ่งลงมาให้"พระชายา อ๋องเจวี้ยนอยู่ในเรือนรอท่านอยู่""รอข้าทำไมกัน?""ไปเดินเล่นย่อยอาหารกระมัง" หงจั๋วเม้มปากยิ้มขึ้นมา "สมัยก่อนท่านอ๋องล้วนเดินอยู่คนเดียว ตอนนี้พระชายาไปเดินเป็นเพื่อนท่านอ๋องด้วยกันได้แล้ว"ไม่สิ หน้าตามีความสุขของเด็กคนนี้มันอะไรกัน?นางแม้จะรู้ว่าการเดินหลังจากกินนั้นดีมาก แต่ว่านางวันนี้เหนื่อยแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นจะดูด้วยว่ารีบกลับไปบ้านตระกูลฟู่เพื่อถามเสี่ยวเถาเสียหน่อย ว่าวันนี้หลินอันห่าวกลับไปแล้วเป็นอย่างไรบ้างเซี่ยซื่อจะให้อันห่าวออกมาคนเดียวได้อย่างไรกัน?วันนี้ดูท่าเซี่ยซื่อคงตกอกตกใจมากกระมังแต่ว่านางก็ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกหงจั๋วผลักออกมาจากเรือนแล้วหลังออกมาก็เห็นเซียวหลันยวนคลุมผ้าคลุมผืนหนึ่ง กำลังยืนอยู่ด้านนอก ท่าทางเหมือนกำลังรอนางอยู่จริงๆนางหันหน้ากลับมองหงจั๋วผาดหนึ่ง หงจั๋วเองก็ส่งสัญญาณม
"แต่ว่า เขาปฏิเสธหรือ?"เซียวหลันยวนพยักหน้า "ใช่ เขาปฏิเสธแล้ว""ฮองเฮาขายหน้าจนหมดจดต่อหน้าฮูหยินหรงเยว่ เพราะนางคิดว่าเรื่องนี้ถ้านางเอ่ยปากเองคือมั่นใจไปเก้าส่วนแล้ว ผลลัพธ์คือทำให้ฮูหยินหรงเยว่ก็ถูกฟู่จิ้นเชินปฏิเสธอีกครั้ง นางตอนนั้นก็อับอายจนแทบจะไปโขกเสาอยู่แล้ว""นี่มันอ่อนแอเสียจริง"และเพราะชายหนุ่มที่อยากออกเรือนด้วยไม่ยินยอมรับนางเป็นภรรยา ดังนั้นเลยอยากจะตายหรือ?แต่ดูฮูหยินหรงเยว่ก็ไม่เหมือนพวกที่จะยอมเป็นยอมตายง่ายแบบนั้นเลยนี่นา"ตอนนั้นเพื่อไม่ให้เรื่องบานปลายจนจัดการไม่ไหว องค์รัชทายาทก็น่าจะอณุญาตอะไรบางอย่างให้กับฮู่หยินหรงเยว่ ดังนั้นตอนที่องค์รัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์ หลังจากที่นางขึ้นเป็นฮองเฮา จึงให้ประโยชน์บางอย่างกับฮูหยินหรงเยว่ กลายมาเป็นเบื้องหลังของนาง"ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้"แต่ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะไม่ได้ง่ายดายเช่นนี้? แค่เพื่อหน้าตาเท่านั้นหรือ?""พวกเขาต่อมาจะต้องมีแผนชั่วอะไรอยู่แน่ๆ อย่างเช่นหอจันทร์หยาดของฮูหยินหรงเยว่นี้ อันที่จริงมีเงินของฮองเฮาอยู่ด้วย นี่อาจจะเป็นลู่ทางหาเงินให้ตนเองของฮองเฮาอีกทางก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นฮองเฮามีเรื่องอะ
ทั้งสองคนล้วนดิ่งสู่ความเงียบงันหลังจากคำพูดนี้ของเซียวหลันยวนและไม่รู้เพราะอะไรถึงรู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองอย่างประหลาดเซียวหลันยวนคิดถึงความรู้สึกในใจที่ควบคุมไม่ได้อย่างหนัก ตอนที่พบว่าคนในศาลาทำเรื่องเช่นนั้นในวันนี้ช่วงบ่าย"ท่านกลัวว่าเป้าหมายที่แต่งงานกับข้ายังไม่สำเร็จ แล้วข้าเกิดเรื่องขึ้นมาก่อนสินะ" ฟู่จาวหนิงถามถึงอย่างไรเขาก็คิดจะรอให้พวกของฟู่หลินซื่อกลับมาอยู่แล้ว ตอนนี้ฟู่หลินซื่อยังไม่กลับมา ถ้าหากนางเกิดเรื่องอะไรขึ้นจนทำให้เขาจำใจต้องหย่าร้างกับนาง เช่นนั้นการแต่งงานนี้ก็จะสูญเปล่าสินะ?ถึงตอนนั้นยังทำให้เขาต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านอีก อับอายขายขี้หน้า"ก่อนหน้านี้เจ้าก็ชอบไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งมายังหอจันทร์หยาด แล้วครั้งนี้เซียวเหยียนจิ่งนัดเจ้าออกมาหรือ?"เซียวหลันยวนพอพูดถึงเรื่องนี้ ในใจก็เจ็บจี๊ดเขามีความรู้สึกเช่นนี้เป็นครั้งแรก ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"เรื่องนี้น่ะ มันเกิดขึ้นเพราะตัวท่านเลยเถอะ!"เขาไม่พูดยังพอว่า แต่พอพูดออกมา ฟู่จาวหนิงก็เดือดดาล"ข้า?" เซียวหลันยวนชี้ตนเอง"ท่านนั่นล่ะ คนที่นัดข้าออกมาคือซ่งอวิ๋นเหยา ข้าไม่เชื่
เซียวหลันยวนได้ยินคำพูดของนางก็อยากจะขำ"ดังนั้น เจ้าเผ่นไปที่ไหนกัน? ขนาดองค์รักษ์เงามังกรยังหาเจ้าไม่พบเลย?" จุดนี้ทำให้เซียวหลันยวนแปลกใจอย่างที่สุด"ถึงอย่างไรท่านก็บอกว่าข้าเกิดปีหนูไม่ใช่หรือ ท่านก็มองข้ามุดไปซ่อนในรูเลยก็แล้วกัน"ฟู่จาวหนิงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว "แต่ว่าท่านใช้งานองครักษ์เงามังกรเช่นนี้ ไม่ใช่เป็นการงัดกับเบื้องหลังของฮูหยินหรงเยว่หรอกหรือ ไม่กลัวองค์จักรพรรดิกริ้วหรือไร?"หอจันทร์หยาดที่องค์จักรพรรดิฮองเฮาคิดจะปกป้อง ท่านคิดจะปิดก็ปิดเลยแบบนี้ มิน่าองค์จักรพรรดิถึงได้เอาแต่คอยระแวงเขา"กลัว?" เซียวหลันยวนมองนาง หัวเราะร่าขึ้นมา "ข้าเพราะกังวลพระชายา จึงไม่ได้คิดให้รอบคอบ ลนลานไปหมด เช่นนี้ก็น่าจะเข้าใจได้กระมัง? จะว่าไป องครักษ์เงามังกรอยู่ในมือข้า เขายังต้องมาวุ่นวายอีกหรือว่าข้าจะใช้งานอย่างไร?"มีฝีมือก็มาเอาองครักษ์เงากลับไปสิประโยคนี้เซียวหลันยวนไม่ได้พูด แต่ว่าฟู่จาวหนิงฟังออกแล้ว"เฮอะไ ตอนนี้องค์จักรพรรดิไม่ใช่ว่าคิดจะเก็บอำนาจในมือท่านหรือไรกัน? ท่านเองก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ถ้าวันไหนองครักษ์มังกรเงาถูกเก็บกลับไปล่ะก็ เช่นนั้นท่านก็ย่ำแย่แ
ฟู่จาวหนิงหลังจากถามออกมาก็ไม่รอให้เซียวหลันยวนตอบ เข้าใจขึ้นมาทันที "ท่านกำลังกังวลว่าจะข้าไปทำให้ซ่งอวิ๋นเหยาเดือดร้อนหรือ ดังนั้นจึงคิดจะมาขวางข้าที่นี่?"เซียวหลันยวนยกมือดีดไปที่หน้าผากนางทีหนึ่งเสียงดัง "เผียะ""คิดอะไรของเจ้า?" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น "ข้าจู่ๆ เพิ่งนึกออกได้ว่าเคยเห็นตราหยกของเฮ่อเหลียนเฟยที่ไหน รูปภาพนั้นน่ะ""หา?ฟู่จาวหนิงงงงัน "ที่ไหนกัน?""จากบนตัวของคนที่มาจากต้าเฮ่อคนหนึ่ง" เซียวหลันยวนเอ่ยถึงท่านเสิ้น"เสิ่นเสวียน?"หลังจากที่ฟู่จาวหนิงได้ยินเรื่องราวของเสิ่นเสวียนจากตระกูลเสิ่นแห่งต้าเฮ่อจึงพบว่า ตนเองถูกเซียวหลันยวนพามายังโถงหน้าเพื่อกินข้าวเช้าอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวเสียแล้ว"อืม เขาคือคนที่จากแคว้นเจาพร้อมกับซ่งอวิ๋นเหยา ซ่งอวิ๋นเหยาจะพาหมอเทวดาหลี่ไปรักษาเขา แต่เหมือนว่าต้องรออีกสามวัน เสิ่นเสวียนจึงต้องหยุดพักลงมาเสียก่อน""แล้วทำไมถึงเป็นสกุลเสิ่นกันล่ะ?"ฟู่จาวหนิงดูงงงัน เพราะบนตราหยกชิ้นนั้นสลักอักษรฟู่ไว้ตอนนี้บนเสื้อผ้าของคนสกุลเสิ่นมีภาพนั้นอยู่ รู้สึกว่าดูไม่ค่อยเข้าทีเลย"ตระกูลเสิ่น เป็นตระกูลเก่าแก่มีชื่อเสียงเลื่องชื่อแห่ง
"ข้าได้ยินว่าพวกท่าน...""ข้าจะส่งเจ้ากลับไปที่บ้านตระกูลฟู่เปลี่ยนยาให้กับท่านปู่เสียก่อน แล้วเจ้าค่อยพิจารณาดูว่าจะพาเฮ่อเหลียนเฟยไปพบเสิ่นเสวียนด้วยกันไหม" เซียวหลันยวนพูดพลางดึงมือของนางเดินเขาไม่คิดเลยว่าจะได้ยินนางพูดถึงเรื่องของซ่งอวิ๋นเหยาก่อนหน้านี้มีรักเก่าอะไรที่ไหนกัน?นางไม่เข้าใจจิตใจของเขาเอาเสียเลยเมื่อวานเขายังกังวลว่านางจะเป็นอะไรอยู่เลย แต่ก็ไม่ได้ยินนางถามไถ่เขาเลยสักคำฟู่จาวหนิงถูกเขาดึงไปเช่นนี้ พอมาถึงตระกูลฟู่ แล้วยังถูกเขาผลักเข้าประตูไปด้วย"ไปเถอะ ข้าให้เวลาเจ้าครึ่งชั่วยาม จะรออยู่ที่นี่"ไม่รอให้ฟู่จาวหนิงพูดอะไร เซียวหลันยวนก็กลับไปบนรถม้า รถม้าจอดนิ่งอยู่ที่ประตูหลังบ้านตระกูลฟู่ ชัดเจนว่าจะรออยู่ที่นี่ฟู่จาวหนิงเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเซียวหลันยวนตอนนี้หมายความว่าอะไรเขามีเวลาว่างขนาดนี้เสียที่ไหน?แล้วยังจะรอนางที่นี่อีกแต่ว่า เรื่องนี้นางก็ยังต้องเข้าไปบอกกับเฮ่อเหลียนเฟยเสียหน่อย เซียวหลันยวนยอมรอที่นี่ก็ให้เขารอไปแล้วกันมองฟู่จาวหนิงเข้าประตูไป เซียวหลันยวนก็ปล่อยม่านลง"คนเหล่านั้นของบ้านตระกูลฟู่ ช่วงนี้จับตา