Share

บทที่ 364

Author: จุ้ยหลิงซู
ฟู่จาวหนิงได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าฟู่รองก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้

"พวกเขาขโมยของในบ้านข้าออกมาขาย ผลลัพธ์กลับมาบอกว่าข้ามาวุ่นวายหรือ? เรื่องนี้ข้าควรจะรายงานกับทางการไหม?"

"รายงานทางการ?"

"ขโมยของ?"

ผู้เฒ่าฟู่รองพวกเขาเองก็มึนงง

"เจ้ากำลังพูดไร้สาระอะไร?"

"หนิก้อนนี้ไม่ใช่ว่าพวกท่านย้ายมาจากบ้านตระกูลฟู่หรอกหรือ?" ฟู่จาวหนิงชี้ไปที่หินก้อนนั้น เฉินซานกับชุนเจิ้งชิวเซิงก็ฉลาดเฉลียว ทั้งสามคนเดินออกไปทันที ยืนล้อมหินก้อนนั้น

เป็นเช่นนี้ก็ลองดูว่าใครจะกล้าแย่ง

สืออีเองก็ยืนอยู่ด้านหลังฟู่จาวหนิง

เขาต้องการจะปกป้องฟู่จาวหนิง

"ผู้เฒ่ากู้" เศรษฐีฟางเองก็เดินขึ้นมาอยู่ข้างๆ ผู้เฒ่ากู้ เอ่ยกับเขาว่า "นี่คือคุณหนูใหญ่ของตระกูลฟู่ สองคนนั้นคือลุงของนาง มาอาศัยอยู่ในบ้านตระกูลฟู่ หินก้อนนี้พวกเขาย้ายออกมาจากบ้านตระกูลฟู่ ท่านยังไม่ได้ซื้อใช่ไหม?"

ผู้เฒ่ากู้เองก็หน้าเปลี่ยนสี

"พวกเขาบอกกับข้าว่า นี่เป็นหินที่เข้าเอามาจากบ้านตนเอง"

"บ้านพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงเสียที่ไหน? ล้วนอยู่กันนอกเมืองทั้งนั้น หลายปีนี้ก็แค่มาอาศัยอยู่ ของอะไรในบ้านก็ล้วนไม่ใช่ของพวกเขาทั้งนั้น"

เรื่องเหล่านี้เศรษฐีฟาง
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 365

    "ไม่ใช่ บิดาของพวกเขาเป็นลูกเมียน้อย ยิ่งไปกว่านั้นข้าได้ยินท่านปู่พูดว่า ในอดีตก่อนหน้าที่จะแยกบ้าน น้องชายต่างมารดาคนนั้นก็ก่อเรื่องจนทำให้ทวดของข้าโกรธ จนแทบจะตัดออกจากตระกูลฟู่ไปแล้ว หลังจากแยกบ้านมาก็พูดว่าจะไม่แวะมาอีก แต่พอผ่านไปนาน ปู่ของข้าก็เปิดใจไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น ตั้งใจจะดึงคนในตระกูลมาที่เมืองหลวง อยากจะให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้นหน่อย"ฟู่จาวหนิงกำลังคิดหาโอกาส ที่จะยกความสัมพันธ์ของพวกเขาออกมาพูดให้ชัดเจนส่งออกไปพอดีถึงตอนนั้นทุกคนคงไม่คิดว่าสิ่งที่นางทำเลวทรามต่ำช้า"ที่แท้ก็มีความสัมพันธ์เช่นนี้นีเ่อง"เศรษฐีฟางเอ่ยหยันขึ้นมาคำหนึ่ง "เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับบ้านเจ้าเลยน่ะสิ"รุ่นพ่อแบ่งบ้านกันไปเสร็จสรรพแล้ว แล้วนี่ยังแยกกันด้วยสายเลือดอีก ตอนนี้ต่อให้ผู้เฒ่าฟู่อายุมากแล้ว แต่บ้านของผู้เฒ่าฟู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางวนมาให้พวกลูกหลานของบ้านน้อยครอบครองหรอกกระมัง?"จาวหนิง!จะว่าอย่างไรเจ้าก็เป็นแค่รุ่นหลังคนหนึ่ง ตอนที่แยกบ้านครั้งนั้นกระทั่งพ่อแม่ของเจ้าก็ยังไม่มีเงาหัวเลย แล้วเจ้าจะมายกไม้ยกมือขีดคั่นตอนนี้ได้หรือ?"ผู้เฒ่าฟู่สามเองก็หน้าเย็นชา เอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่366

    คำพูดเหล่านี้ของฟู่จาวหนิง ทำให้ผู้เฒ่าฟู่รองผู้เฒ่าฟู่สามหน้าดำหน้าขาวเลยทีเดียวท่ามกลางสายตาประชดประชันของคนทั้งหมด พวกเขาอยู่ไม่ได้แล้ว มองเหยียดหนักๆ ไปทางฟู่จาวหนิง ทั้งสองคนก้วิ่งหนีออกไปอย่างซมซานตอนที่ออกประตูพวกเขายังหันกลับมาเหลือบมองหินก้อนนั้นผาดหนึ่ง รู้สึกไม่ยินยอมอย่างมากมลายหายไปแล้วหนึ่งพันสองร้อยตำลึง!เหล่าฮูหยินและเด็กๆ ยังล้วนพักอยู่ในหมู่บ้าน พวกเขาเดิมทีกำลังคิด ว่าเงินก้อนนี้สามารถนำออกมาจ่ายค่าเช่าพักหลายวันนี้ได้ กินเนื้อกินอะไรได้ แล้วเขายังคิดจะซื้อที่นาอีกหลายหมู่ด้วยหลังจากขายบ้านตระกูลฟู่ ค่อยมาซื้อเพิ่มหมู่เพิ่มถึงตอนนั้นพวกเขาก็สามารถทำตัวเป็นเจ้าบ้านในหมู่บ้านนี้ได้แล้วออกศึกไม่ราบรื่น!หนึ่งพันสองร้อยตำลึงหายวับไปแล้ว!หลังจากกลับไป ฮูหยินรองฮูหยินสามพวกเขาก็จ้องมองตาแป๋วเข้ามา"ขายแล้วหรือ? ผู้เฒ่ากู้ให้มาเท่าไร?"ฮูหยินสามรีบถามขึ้น"น้องสี่ทางนั้นให้ความเห็นมาคำหนึ่ง เขาบอกว่าพวกเราแบ่งให้เขาน้อยหน่อยก็ได้" ฮูหยินรองเองก็คำนวณขึ้นมา"เฮ้อ!"ผู้เฒ่าฟู่รองกับผู้เฒ่าฟู่สามสบตากัน ทั้งสองคนถอนล้วนถอนหายใจหนักๆ ออกมาหลังจากพวกเขาไป

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 367

    "หินของผู้เฒ่ากู้อยู่ที่ไหนหรือ? พวกเราขอดูหน่อย"ฟู่จาวหนิงสนใจขึ้นมา"อยู่ที่เรือนหลัง!" ผู้เฒ่ากู้ยินดีขึ้นมา เรียกคนใช้ให้พาพวกเขาไปที่เรือนหลัง"ผู้เฒ่ากู้ ผู้เฒ่ากู้ ท่านมาดูหินพวกนี้ของข้าหน่อย รื้อออกมาจากภูเขาจำลองในบ้านน่ะ!"มีคนย้ายหินเข้ามาให้ผู้เฒ่ากู้ดูฟู่จาวหนิงเดิมทีกำลังจะไปเรือนหลัง พอได้ยินเสียงก็เหลือบตาดู มองไปยังหินก้อนนั้นนางไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตอนที่มองเห็นหินก้อนหนึ่งในนั้นสายตาก็ย้ายออกไม่ได้เลย"เดี๋ยวก่อน พวกเราขอดูหน่อย" ฟู่จาวหนิงดึงฟางซือฉิงไว้"ดูสิดูสิ ลองฟังว่าผู้เฒ่ากู้จะพูดอย่างไร ไม่แน่ว่าอาจจะได้เรียนรู้" เศรษฐีฟางเองก็รีบพูดขึ้นผู้เฒ่ากู้มองหินเหล่านี้อย่างละเอียด เลือกก้อนที่ใหญ่ที่สุดในนั้นออกมา นั่งยองลงลูบๆ มองๆ อย่างละเอียดก้อนที่ฟู่จาวหนิงเพิ่งจะต้องตาก้อนนั้น เขากลับมองผาดเดียวแล้วโยนทิ้งไปข้างๆ ไม่สนใจเสียแล้วหินก้อนนั้นผิวดำแตกลาย ไม่ใหญ่มาก ค่อนข้างเล็ก น่าจะขนาดแค่สองกำปั้นของนางเท่านั้น พออยู่ในกองหินเหล่านั้น หินก้อนนี้เล็กที่สุด เหมือนแค่มีคนสุ่มหยิบขึ้นมาแล้วยัดให้เต็มๆ ก็เท่านั้นแต่ว่าพอนางเหลือบมองก็เห็นหินก้อนนั้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 368

    ชายหนุ่มสองคนนั้นมองไปทางผู้เฒ่ากู้"อันนี้ถือเป็นของแถมให้แล้วกัน ข้าให้สามสิบตำลึง ถือโอกาสรับเข้ามาด้วยแล้วกัน" ผู้เฒ่ากู้เองก็ไม่ได้เห็นหินก้อนนั้นอยู่ในสายตาเช่นกันสามสิบตำลึง น้อยขนาดนี้เชียวฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็เอ่ยขึ้นว่า "เช่นนั้นข้าให้สี่สิบตำลึง ขายแยกให้ข้าหน่อยได้ไหม?"กลุ่มคนตกตะลึงไปผู้เฒ่ากู้เองก็มึนงง จากนั้นก็เตือนนางขึ้นมา "คุณหนูฟู่ หินก้อนนี้เล็กเกินไป ต่อให้สามารถตัดออกมาเป็นหินหยกได้ แต่ดูจากผิวดำตรงนี้ คุณสมบัติของหยกก็คงไม่ได้ดีมาก เป็นไปได้มากว่าแกะออกมาเป็นหยกพกชิ้นหนึ่งได้ หยกพกธรรมดาๆ ชิ้นหนึ่ง น่าจะขายได้ราวห้าตำลึง"ดังนั้นที่เขาให้ราคาสามสิบตำลึงถือว่าสูงกว่าหินก้อนใหญ่ก้อนอื่นแล้ว นี่แค่ถือโอกาสรับเข้ามาเท่านั้นสามสิบตำลึงถือว่าแพงเกินไปแล้ว ฟุ่จาวหนิงยยังให้มาถึงสามสิบแปดตำลึงหรือ?การตัดหินนั้นต้องใช้แรงมาก นางจะตัดหินก็ต้องออกเงินส่วนหนึ่ง ถึงตอนนั้นเรียกคนมาแกะงานก็ยังต้องจ่ายค่าแรง บวกกันแล้วต้นทุนก็น่าจะไปถึงห้าสิบตำลึงแล้วถ้าแกะออกมาได้แค่หยกพกชิ้นหนึ่งราคาห้าตำลึง นี่มันจะขาดทุนหนักเอานะฟู่จาวหนิงยิ้มๆ "ไม่เป็นไร ข้ารู้สึกว่าหินก้อ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 369

    ฟู่จาวหนิงมองหินก้อนนั้น และพบว่าไม่เลวเลย"จาวหนิงจาวหนิง เจ้าคิดว่าหินก้อนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?" ฟางซือฉิงถามนางขึ้นอย่างดีอกดีใจ"ข้าว่าได้อยู่" ฟู่จาวหนิงพยักหน้าเศรษฐีฟางที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะร่าขึ้นมาเขามีความสุขเหลือเกิน "พวกเจ้านี่เป็นพี่น้องกันจริงๆ เลือกหินหยกก็ยังเลือกคล้ายกันอีกหรือ?"แล้วมันเลือกแบบไหนได้อีกกัน?แต่พอเห็นลูกสาวดีอกดีใจเช่นนี้ เขาเองก็ยินดีที่จะจ่ายเงินนี้"ผู้เฒ่ากู้ หินก้อนนี้ราคาเท่าไรหรือ?"ผู้เฒ่ากู้มองๆ ฟู่จาวหนิง"เอาอย่างนี้ หินก้อนนี้ข้าคิดยี่สิบแปดตำลึงแล้วกัน""ท่านพ่อ จ่ายเงินเลย" ฟางซือฉิงรีบพูดกับเศรษฐีฟางทั้งสองคนซื้อหินคนละก้อน ล้วนร้อนรนอยากรู้ว่าในนี้มีหินหยกอยู่หรือไม่ มีหินหยกแบบไหนอยู่หลังจากถามผู้เฒ่ากู้ ทั้งสองคนก็จ่ายเงินสองตำลึงเพื่อทำการแยกหินที่นี่เครื่องตัดหินนั้นถูกดันออกมา ให้ตายเถอะ ใหญ่โตเหลือเกิน"ใบมีดด้านนี้ต้องคอยเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ ดังนั้นค่าใช้จ่ายตัดหินจึงไม่ถูก" ผู้เฒ่ากู้อธิบายกับพวกเนาง "แต่ว่าของพวกท่านเป็นก้อนเล็ก ดังนั้นจึงเก็บแค่สองตำลึงพอ ถ้าใหญ่หน่อย ค่าใช้จ่ายก็จะแพงขึ้นอีก"เรื่องนี้เข้าใจได้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 370

    "ได้ยินว่าหมอเทวดาหลี่ออกไปรับท่านหญิงอวิ๋นเหยาที่นอกเมืองแล้ว ท่านหญิงอวิ๋นเหยาไม่ใช่บอกว่าพาเพื่อนกลับมาด้วยหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อนนางคนนั้นยังป่วยเป็นโรคประหลาดด้วย ครั้งนี้เห็นว่ามาเมืองหลวงของเราเพื่อรักษานี่"หงจั๋วเองก็กำลังพูดเรื่องนี้กับเฝิ่นซิงพวกนางเพียงไม่นานก็ได้ยินว่าท่านอ๋องก็จะออกนอกเมืองไปรับท่านหญิงอวิ๋นเหยาแล้วสองสาวใช้พอได้ยินเรื่องนี้ ในใจก็รู้สึกไม่ชื่นมื่นนัก"ถ้าหากไม่มีพระชายาของพวกเรา แล้วท่านอ๋องออกไปรับท่านหญิงอวิ๋นเหยาที่นอกเมืองอย่างเอาใจใส่เช่นนี้ พวกเราก็คงดีใจอยู่หรอก ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องไม่เคยเอาใครมาไว้ในใจเลย แต่ก่อนท่านหญิงอวิ๋นเหยาบอกให้เขาทำอะไรเขาก็ไม่เคยจะฟังเลยนี่นะ"แล้วทำไมหลังจากท่านอ๋องแต่งงาน ถึงกลับดูเอาใจใส่รู้ใจกว่าแต่ก่อนขึ้นมากัน?"ใช่ไหมล่ะ? ตอนนี้ท่านอ๋องมาเอาใจท่านหญิงอวิ๋นเหยาเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ มีพระชายาของพวกเราอยู่แล้วแท้ๆ เขาทำไมถึงทำเช่นนี้อีก?"เฝิ่นซิงถอนใจ"พวกเราตามไปดีไหม?"หงจั๋วกระโดดตัวขึ้นมมา"แต่ท่านอ๋องไม่ได้กำชับให้พวกเราตามไปนี่" เฝิ่นซิงงงงันหงจั๋วไม่ค้านอะไร "ข้าไปข้าไป บางทีท่านอ๋องคงไม่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 371

    ยังไม่ทันหย่า อ๋องเจวี้ยนก็ถือว่าเป็นหลานเขยของผู้เฒ่าฟู่แล้วหลานเขยคนนี้มาถึงประตูบ้านแต่ก็ไม่เข้าไป ราวกับไม่มองว่าตนเองเป็นคนในบ้านจริงๆรถม้าแล่นออกไประยะหนึ่ง อ๋องเจวี้ยนจู่ๆ ก็เคาะกำแพงรถชิงอีรีบดึงม้าเข้าข้างทาง ก็ได้ยินอ๋องเจวี้ยนถามว่า "ก่อนหน้านี้ข่าวที่พวกเขาส่งเข้ามา บอกว่าซือถูไป๋ไปที่หมู่บ้านทางตะวันออกใช่ไหม?"ในเมืองหลวงคนที่พิเศษบางส่วน คนของพวกเขาจะคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายอยู่ตลอดเหมือนกับซือถูไป๋ ร่องรอยนั้นพวกเขารู้เหมือนอยู่ในกำมือเลย"ท่านอ๋อง ใช่แล้ว"อ๋องเจวี้ยนหัวเราะเย็นชา ไม่พูดอะไรดังนั้น ซือถูไป๋ไปหมู่บ้านทางนั้น ฟู่จาวหนิงก็เลยไปด้วยหรือ? บังเอิญขนาดนี้เชียว? เขาไม่เชื่อหรอกดังนั้นหญิงสาวคนนั้นที่ใจคิดแต่จะหย่าก็เพื่อไปหาอีกคนหรือ?เนินเขาแห่งหนึ่งที่ห่างจากเมืองหลวงราวสิบลี้มีเพิงน้ำชาอยู่แห่งหนึ่งด้านนอกเพิ่งน้ำชาตอนนี้มีรถม้าหลายคันจอดอยู่ มีองครักษ์เจ็ดแปดคนยืนล้อมเพิงน้ำชาในเพิงน้ำชามีคนนั่งอยู่ไม่น้อย ในนี้มีหญิงสาวอายุยี่สิบปีอยู่คนหนึ่ง อยู่ในชุดกระโปรงสีม่วงอ่อนปักลายนกนางแอ่นเงิน สวมเกราะขนกระต่ายม่วงเข้ม รูปร่างสะโอดส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 372

    ซ่งอวิ๋นเหยาหัวเราะ"จดหมายที่เขียนกลับเมืองหลวงข้าก็แค่ส่งมาเผื่อๆ เท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกลับมาเมืองหลวงแล้วจริงๆ""ที่แท้ท่านหญิงอวิ๋นเหยาก็เขียนจดหมายให้จวนอ๋องเจวี้ยน แล้วให้อ๋องเจวี้ยนออกมารับท่านหรือ?"ซ่งอวิ๋นเหยาพยักหน้า"ถ้างั้น ข้าไปดูท่านพ่อก่อนว่าจับชีพจรเสร็จแล้วหรือยัง" หลี่จื่อเหยาลุกขึ้นออกวิ่งทันที"ท่านหญิง แม่นางหลี่ทำไมถึงดูกลัวเสียขนาดนั้น?" สาวใช้เอ่ยกับซ่งอวิ๋นเหยาซ่งอวิ๋นเหยาเองก็เม้มปากยิ้มๆ"แม่นางหลี่เป็นคนตรงไปตรงมา หลันยวนกลับเมืองหลวง ถ้าเดี๋ยวนางเห็นหลันยวนเข้า อาจจะทำอะไรขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ก็ได้ แล้วหลันยวนเองก็นิสัยเย็นชาด้วย คงจะไม่ไว้หน้าแม่นางหลี่เป็นแน่ คงจะตำหนินางเอา"ความหมายคำพูดนี้ของนางก็คือ หลี่จื่อเหยาอาจจะเจอกับอ๋องเจวี้ยนแล้ว แล้วถูกความหล่อเหลาของเขาดึงดูดเอา ดังนั้นจึงอยากจะใกล้ชิดเขา แต่ด้วยนิสัยนั้นของอ๋องเจวี้ยนก็ไม่ยอมให้หญิงสาวคนไหนเข้าใกล้เลยดังนั้นเขาคงจะสั่งสอนหลี่จื่อเหยามาแล้วหลี่จื่อเหยาจึงกลัวอ๋องเจวี้ยนขึ้นมาหน่อยๆ กระมัง?สาวใช้อิ๋นหลิ่วพอได้ยินคำพูดนี้ก็เม้มปากหัวเราะขึ้นมา พูดกับซ่งอวิ๋นเหยาว่า "ดูท่

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1808

    นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1807

    สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1806

    "ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1805

    องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1804

    ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1803

    ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1802

    "รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1801

    ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1800

    "ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status