ฟู่จาวหนิงมองหินก้อนนั้น และพบว่าไม่เลวเลย"จาวหนิงจาวหนิง เจ้าคิดว่าหินก้อนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?" ฟางซือฉิงถามนางขึ้นอย่างดีอกดีใจ"ข้าว่าได้อยู่" ฟู่จาวหนิงพยักหน้าเศรษฐีฟางที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะร่าขึ้นมาเขามีความสุขเหลือเกิน "พวกเจ้านี่เป็นพี่น้องกันจริงๆ เลือกหินหยกก็ยังเลือกคล้ายกันอีกหรือ?"แล้วมันเลือกแบบไหนได้อีกกัน?แต่พอเห็นลูกสาวดีอกดีใจเช่นนี้ เขาเองก็ยินดีที่จะจ่ายเงินนี้"ผู้เฒ่ากู้ หินก้อนนี้ราคาเท่าไรหรือ?"ผู้เฒ่ากู้มองๆ ฟู่จาวหนิง"เอาอย่างนี้ หินก้อนนี้ข้าคิดยี่สิบแปดตำลึงแล้วกัน""ท่านพ่อ จ่ายเงินเลย" ฟางซือฉิงรีบพูดกับเศรษฐีฟางทั้งสองคนซื้อหินคนละก้อน ล้วนร้อนรนอยากรู้ว่าในนี้มีหินหยกอยู่หรือไม่ มีหินหยกแบบไหนอยู่หลังจากถามผู้เฒ่ากู้ ทั้งสองคนก็จ่ายเงินสองตำลึงเพื่อทำการแยกหินที่นี่เครื่องตัดหินนั้นถูกดันออกมา ให้ตายเถอะ ใหญ่โตเหลือเกิน"ใบมีดด้านนี้ต้องคอยเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ ดังนั้นค่าใช้จ่ายตัดหินจึงไม่ถูก" ผู้เฒ่ากู้อธิบายกับพวกเนาง "แต่ว่าของพวกท่านเป็นก้อนเล็ก ดังนั้นจึงเก็บแค่สองตำลึงพอ ถ้าใหญ่หน่อย ค่าใช้จ่ายก็จะแพงขึ้นอีก"เรื่องนี้เข้าใจได้
"ได้ยินว่าหมอเทวดาหลี่ออกไปรับท่านหญิงอวิ๋นเหยาที่นอกเมืองแล้ว ท่านหญิงอวิ๋นเหยาไม่ใช่บอกว่าพาเพื่อนกลับมาด้วยหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อนนางคนนั้นยังป่วยเป็นโรคประหลาดด้วย ครั้งนี้เห็นว่ามาเมืองหลวงของเราเพื่อรักษานี่"หงจั๋วเองก็กำลังพูดเรื่องนี้กับเฝิ่นซิงพวกนางเพียงไม่นานก็ได้ยินว่าท่านอ๋องก็จะออกนอกเมืองไปรับท่านหญิงอวิ๋นเหยาแล้วสองสาวใช้พอได้ยินเรื่องนี้ ในใจก็รู้สึกไม่ชื่นมื่นนัก"ถ้าหากไม่มีพระชายาของพวกเรา แล้วท่านอ๋องออกไปรับท่านหญิงอวิ๋นเหยาที่นอกเมืองอย่างเอาใจใส่เช่นนี้ พวกเราก็คงดีใจอยู่หรอก ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องไม่เคยเอาใครมาไว้ในใจเลย แต่ก่อนท่านหญิงอวิ๋นเหยาบอกให้เขาทำอะไรเขาก็ไม่เคยจะฟังเลยนี่นะ"แล้วทำไมหลังจากท่านอ๋องแต่งงาน ถึงกลับดูเอาใจใส่รู้ใจกว่าแต่ก่อนขึ้นมากัน?"ใช่ไหมล่ะ? ตอนนี้ท่านอ๋องมาเอาใจท่านหญิงอวิ๋นเหยาเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ มีพระชายาของพวกเราอยู่แล้วแท้ๆ เขาทำไมถึงทำเช่นนี้อีก?"เฝิ่นซิงถอนใจ"พวกเราตามไปดีไหม?"หงจั๋วกระโดดตัวขึ้นมมา"แต่ท่านอ๋องไม่ได้กำชับให้พวกเราตามไปนี่" เฝิ่นซิงงงงันหงจั๋วไม่ค้านอะไร "ข้าไปข้าไป บางทีท่านอ๋องคงไม่
ยังไม่ทันหย่า อ๋องเจวี้ยนก็ถือว่าเป็นหลานเขยของผู้เฒ่าฟู่แล้วหลานเขยคนนี้มาถึงประตูบ้านแต่ก็ไม่เข้าไป ราวกับไม่มองว่าตนเองเป็นคนในบ้านจริงๆรถม้าแล่นออกไประยะหนึ่ง อ๋องเจวี้ยนจู่ๆ ก็เคาะกำแพงรถชิงอีรีบดึงม้าเข้าข้างทาง ก็ได้ยินอ๋องเจวี้ยนถามว่า "ก่อนหน้านี้ข่าวที่พวกเขาส่งเข้ามา บอกว่าซือถูไป๋ไปที่หมู่บ้านทางตะวันออกใช่ไหม?"ในเมืองหลวงคนที่พิเศษบางส่วน คนของพวกเขาจะคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายอยู่ตลอดเหมือนกับซือถูไป๋ ร่องรอยนั้นพวกเขารู้เหมือนอยู่ในกำมือเลย"ท่านอ๋อง ใช่แล้ว"อ๋องเจวี้ยนหัวเราะเย็นชา ไม่พูดอะไรดังนั้น ซือถูไป๋ไปหมู่บ้านทางนั้น ฟู่จาวหนิงก็เลยไปด้วยหรือ? บังเอิญขนาดนี้เชียว? เขาไม่เชื่อหรอกดังนั้นหญิงสาวคนนั้นที่ใจคิดแต่จะหย่าก็เพื่อไปหาอีกคนหรือ?เนินเขาแห่งหนึ่งที่ห่างจากเมืองหลวงราวสิบลี้มีเพิงน้ำชาอยู่แห่งหนึ่งด้านนอกเพิ่งน้ำชาตอนนี้มีรถม้าหลายคันจอดอยู่ มีองครักษ์เจ็ดแปดคนยืนล้อมเพิงน้ำชาในเพิงน้ำชามีคนนั่งอยู่ไม่น้อย ในนี้มีหญิงสาวอายุยี่สิบปีอยู่คนหนึ่ง อยู่ในชุดกระโปรงสีม่วงอ่อนปักลายนกนางแอ่นเงิน สวมเกราะขนกระต่ายม่วงเข้ม รูปร่างสะโอดส
ซ่งอวิ๋นเหยาหัวเราะ"จดหมายที่เขียนกลับเมืองหลวงข้าก็แค่ส่งมาเผื่อๆ เท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกลับมาเมืองหลวงแล้วจริงๆ""ที่แท้ท่านหญิงอวิ๋นเหยาก็เขียนจดหมายให้จวนอ๋องเจวี้ยน แล้วให้อ๋องเจวี้ยนออกมารับท่านหรือ?"ซ่งอวิ๋นเหยาพยักหน้า"ถ้างั้น ข้าไปดูท่านพ่อก่อนว่าจับชีพจรเสร็จแล้วหรือยัง" หลี่จื่อเหยาลุกขึ้นออกวิ่งทันที"ท่านหญิง แม่นางหลี่ทำไมถึงดูกลัวเสียขนาดนั้น?" สาวใช้เอ่ยกับซ่งอวิ๋นเหยาซ่งอวิ๋นเหยาเองก็เม้มปากยิ้มๆ"แม่นางหลี่เป็นคนตรงไปตรงมา หลันยวนกลับเมืองหลวง ถ้าเดี๋ยวนางเห็นหลันยวนเข้า อาจจะทำอะไรขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ก็ได้ แล้วหลันยวนเองก็นิสัยเย็นชาด้วย คงจะไม่ไว้หน้าแม่นางหลี่เป็นแน่ คงจะตำหนินางเอา"ความหมายคำพูดนี้ของนางก็คือ หลี่จื่อเหยาอาจจะเจอกับอ๋องเจวี้ยนแล้ว แล้วถูกความหล่อเหลาของเขาดึงดูดเอา ดังนั้นจึงอยากจะใกล้ชิดเขา แต่ด้วยนิสัยนั้นของอ๋องเจวี้ยนก็ไม่ยอมให้หญิงสาวคนไหนเข้าใกล้เลยดังนั้นเขาคงจะสั่งสอนหลี่จื่อเหยามาแล้วหลี่จื่อเหยาจึงกลัวอ๋องเจวี้ยนขึ้นมาหน่อยๆ กระมัง?สาวใช้อิ๋นหลิ่วพอได้ยินคำพูดนี้ก็เม้มปากหัวเราะขึ้นมา พูดกับซ่งอวิ๋นเหยาว่า "ดูท่
"ตอนข้าอยู่ที่ต้าชื่อเคยได้ยินชื่อเสียงของหมอเทวดาหลี่"ท่านเสิ่นน้ำเสียงราบเรียบ ไม่รู้เพราะอะไร หมอเทวดาหลี่พอได้ยินจึงรู้สึกตึงเครียดขึ้นมา"ครั้งนี้มาเมืองหลวงแคว้นเจาเพื่อมาหาหมอเทวดาหลี่ กอดความหวังใหญ่เข้ามา อายุของข้าเองถึงแม้จะมากแล้ว แต่ก็ยังมีความปรารถนาที่ยังทำไม่สำเร็จอยู่บางส่วน ดังนั้นจึงยังรักชีวิตอยู่ ต้องรบกวนหมอเทวดาหลี่เสียแล้ว""มิกล้ามิกล้า""อื๋อ?""อา ความหมายของข้าคือ ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่"เหงื่อบนหน้าผากหมอเทวดาหลี่ผุดขึ้นมาอีกครั้งเขารู้สึกว่าตนเองเวลาอยู่ต่อหน้าท่านเสิ่นคนนี้แล้วเหมือนคนโง่คนเขาบอกให้เขารักษาดีดี แล้วเขาตอบไปว่ามิกล้าได้อย่างไรกัน?"ท่านพ่อ"หลี่จื่อเหยาเดินเข้ามา มองๆ ท่านเสิ่น"พวกเรากลับเมืองหลวงก่อนได้ไหม?""ทำไมหรือ?""เหมือนว่าอีกครู่หนึ่งอ๋องเจวี้ยนจะเข้ามารับท่านหญิงอวิ๋นเหยาแล้ว" หลี่จื่อเยหาเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วกับหมอเทวดาหลี่สีหน้าหมอเทวดาหลี่ขรึมลงมาทันที"เขาจะมาหรือ?""ใช่แล้ว"หลี่จื่อเหยาหลังถูกอ๋องเจวี้ยนลากไปเข้าคุกหลายวัน ตอนนี้จึงผวาต่ออ๋องเจวี้ยนมาก นางไม่ค่อยจะกล้าไปปรากฎต่อหน้าอ๋องเจวี้ยนแล้วเพราะน
"ใช่ไหมล่ะ? พระชายาอ๋องเจวี้ยนคนนี้แม้อายุยังน้อย แต่วิชาแพทย์ก็ยอดเกิดใคร แล้วยังหยิ่งยโสอีกด้วย"หมอเทวดาหลี่ยิ้มๆ ลุกขึ้นยืน ใช้แขนเสื้อเช็ดๆ เหงื่อบนหน้าผาก "เช่นนั้น ท่านเสิ่น พวกเรากลับเมืองหลวงกันก่อนเถิด กลับถึงเมืองหลวงแล้วจะจ่ายยาบำรุงให้ท่านเสิ่นเสียก่อน ท่านมายังเมืองหลวงแคว้นเจาของพวกเราครั้งแรก ต้องหลีกเลี่ยงจากเรื่องการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมไม่ได้""โอ้ เช่นนั้นก็ขอบคุณหมอเทวดาหลี่มาก"ท่านเสิ่นพยักหน้เขาเห็นพ่อลูกหมอเทวดาหลี่ออกจากเพิงน้ำชา รีบร้อนจากไปองครักษ์คนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาเดินเข้ามา เอ่ยเสียงต่ำ "นายท่าน หมอเทวดาหลี่คนนี้ดูแล้วกลัวอ๋องเจวี้ยนเหลือเกิน""อืม แต่ก็แค่นั้นล่ะ"ท่านเสิ่นถอนหายใจพอฟังน้ำเสียงของเขาแล้วก็ผิดหวังเสียจริงเดิมทีได้ยินชื่อเสียงของหมอเทวดาหลี่ เขายังคิดว่าเป็นหมอเทวดาจริงๆ ผลลัพธ์คืออีกฝ่ายจับชีพจรเขาถึงสองครั้ง แต่กลับพูดอะไรออกมาไม่ได้สักคำ เอาแต่แก้ตัวเขาจะมองไม่เห็นถึงความกลวงของหมอเทวดาหลี่เลยหรือ?ไม่ได้มีฝีมือเอาเสียเลย นี่ยังเรียกว่าหมอเทวดาได้หรือ?โรงหมอเมตตานี้นับวันยิ่งไม่ได้เรื่อง ป้ายม่วงอาชีพแพทย์ตอนน
ซ่งหยวนหลินลงจากม้า วิ่งมาด้านหน้าซ่งอวิ๋นเหยา กอดนางอย่างตื่นเต้น"ท่านพี่อวิ๋นเหยากลับมาแล้ว!""ทำไมพูดเสียเหมือนเป็นเรื่องใหญ่เลย?" ซ่งอวิ๋นเหยาประคองนางให้ยืนมั่นคง "แล้วทำไมเจ้าถึงยังกระโตกกระตากแบบนี้อยู่อีก?""ใช่เสียที่ไหนกัน?" ซ่งหยวนหลินอดกลั้นมานานแล้ว นางรออยู่ว่าเมื่อไรท่านพี่จะกลับมาล้างอายให้นางเสียทีเพราะนางรำคาญฟู่จาวหนิงอยู่ตลอดเวลา!นางทำอะไรฟู่จาวหนิงไม่ได้ เพราะอ๋องเจวี้ยนคอยปกป้องฟู่จาวหนิงอยู่!แต่ว่าตอนนี้ท่านพี่กลับมาก็แตกต่างออกไปแล้ว อ๋องเจวี้ยนจะต้องมาปกป้องพี่สาวนางแล้วกระมัง? นางเองก็อยากจะเห็น ว่าอ๋องเจวี้ยนจะปกป้องใครกันแน่!ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนยืนอยู่ข้างพี่สาวนางทางนี้ ถ้าฟู่จาวหนิงมาเห็น ไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะเสียใจจนร้องไห้ไหม?พอจินตนาการถึงภาพนี้ ซ่งหยวนหลินก็รู้สึกทนรอไม่ไหวแล้วขึ้นมา"เดิมทีก็มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นจริงๆ! ท่านพี่ไม่รู้สินะ ว่าพี่หลันยวนทรยศหักหลังท่านเสียแล้ว!"หลังจากซ่งหยวนหลินโพล่งคำนี้ออกมา หางตาก็เหลือบมองไปเห็นท่านเสิ่นที่นั่งอยู่มุมหนึงของเพิงน้ำชา จึงรีบปิดปากขึ้นมา ใช้สายตาสอบถามซ่งอวิ๋นเหยาท่านพี่ นี่คือคนป่วยคนนั
ม่านรถเลิกออก อ๋องเจวี้ยนลงจากรถม้าซ่งอวิ๋นเหยามองชายหนุ่มตรงหน้า เขาสูงกว่าหลายปีก่อนหน้ามากเลย ตอนนี้นางต้องเงยหน้ามองเขาแล้วบนหน้าเขาสวมหน้ากากเงินไว้ ปิดบังหน้าผากจนถึงจมูก แต่เผยริมฝีปากกับคางของเขาออกมา เส้นโครงเองก็งดงามพอเทียบกับหลายปีก่อนหน้า ตอนนี้ก็กลายเป็นชายหนุ่มที่เติบโตสมบูรณ์แบบแล้วครั้งที่แล้วตอนที่นางเห็นเขา เขายังเป็นแค่เด็กหนุ่ม เด็กหนุ่มร่างบาง ดูแล้วอ่อนแอกระเสาะกระแสะดังนั้นในสมองซ่งอวิ๋นเหยาจึงหยุดไว้ที่ความทรงจำนั้นมาตลอดครั้งนี้พบกับองค์รัชทายาทต้าชื่อ นางถึงถูกชายร่างสูงใหญ่เช่นนั้นดึงดูดไปแต่ตอนนี้พอมาเห็นอ๋องเจวี้ยนที่หล่อเหลาสูงชะลูด จู่ๆ นางก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา ทำไมถึงไม่คิดนะว่าอ๋องเจวี้ยนเองก็จะเติบโตขึ้นด้วย?นางเอาแต่จดจำเขาที่เป็นชายหนุ่มร่างผอมบางอ่อนแอไว้ตลอด ในใจไม่ได้ลุ่มหลงอะไรนัก เพียงแต่ตัวตนฐานะของอ๋องเจวี้ยน จึงเสียดายที่จะปล่อยไปตอนที่พบกับองค์รัชทายาทต้าชื่อนางถึงอ่อนไหวขึ้นมาถ้านางเห็นอ๋องเจวี้ยนเช่นนี้ก่อน นางไม่มีทางอ่อนไหวกับองค์รัชทายาทต้าชื่อแน่ ถึงอย่างไรถ้าหากเป็นไปได้ล่ะก็ นางก็คิดจะอยู่ในแคว้นเจา จะไม่ออกเรือนไ