เซียวหลันยวนกับชิงอีหาฟู่จาวหนิงเจอเร็วกว่าพวกเขาก้าวหนึ่งพวกเขาเพิ่งตามมาถึง ฟู่จาวหนิงก็กดฟันประคองตัวอันชิงมาเบื้องหน้าเซียวหลันยวนแล้ว เตรียมจะผลักไปยังอกเขา"ที่เหลือต้องเป็นท่านมาดูแลเองแล้วใช่ไหม?"พอเห็นอันชิงล้มมาที่อ้อมกอดตนเอง เซียวหลันยวนก็หน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดึงชิงอีเข้ามาขวางไว้ชิงอีรีบประคองตัวอันชิงท่านอ๋อง ท่านจะหลบทำไมเนี่ย?ถ้าแม่นางอันล้มลงไปบาดเจ็บบนพื้นจะทำอย่างไรกัน?เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิง ระงับความโกรธไว้ "เจ้าผลักนางมาหาข้านี่หมายความว่าอย่างไรกัน?""คนของท่าน ข้าช่วยรักษาแทนท่านไปแล้ว หรือว่าหลังจากนี้ไม่ควรส่งต่อให้ท่านกัน? ท่านคงไม่คิดจะให้ข้าช่วยดูแลนางต่อหรอกนะ?"ฟู่จาวหนิงเองก็ถลึงตากลับมา "นางเอาแต่เรียกชื่อของท่าน!"ดังนั้น เขาน่าจะเป็นคนที่อันชิงเชื่อใจ นางเอาแต่เรียกชื่อเขาตลอด แล้วยังไม่ส่งให้เขาได้หรือ?"นาง? เรียกชื่อของข้าหรือ?"เซียวหลันยวนไม่อยากจะเชื่อ ว่าอันชิงจะกล้าหาญขนาดนี้"แน่นอนสิ!ข้าจะโกหกท่านทำไมกัน?""แล้วนางเรียกขึ้นมาอย่างไร?""ก็ต้องเรียกว่าเซียวหลันยวนน่ะสิ!ท่านลืมชื่อตัวเองไปแล้วรึ?" ฟู่จาวหนิงร้องเชอะขึ้นม
ฟู่จาวหนิงด่าเซียวหลันยวนจนเลือดไหลซิบ มองดูอาการป่วยของอันชิง ถอนหายใจออกมา"เช็ดเนื้อตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางเสีย ข้าจะไปที่พักนางเอาเสื้อผ้านางกลับมาเสียหน่อย นางยังต้องกินยาอีก เฉินซาน เจ้าไปหาคนต้มข้าวต้มเข้ามาด้วย""ขอรับ""เช่นนั้นให้สาวใช้ข้าไปช่วยเสี่ยวเถาแล้วกัน" ฟางซือฉิงเห็นสภาพอันชิงแล้วก็ใจอ่อนขึ้นมาแม้ว่านางจะยืนอยู่ข้างฟู่จาวหนิงแน่นอน ถ้าหากอันชิงมาแย่งอ๋องเจวี้ยนจากนาง ก็ควรจะมีความสัมพันธ์ฉันท์ศัตรูจึงจะถูกแต่ตอนนี้พอเห็นอันชิงน่าสงสารเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ไปเจออะไรมาก นางเองก็ทนไม่ไหวเช่นกันฟู่จาวหนิงพยักหน้า หิ้วตะเกียงเดินออกไปเดินไปพักหนึ่ง ชิงอีก็หมุนตัวเข้ามาพอดี ยื่นส่งห่อผ้าห่อหนึ่งให้กับนาง"พระชายา นี่คือสิ่งของของแม่นางอัน""เฮอะ" ฟู่จาวหนิงรับมา "ท่านอ๋องของพวกเจ้าไปเอามาหรือไร?""อ่า ไม่ใช่ ท่านอ๋องสั่งให้คนอื่นเข้าไปเอามา"พวกเขาจะเข้าไปในห้องที่หญิงสาวพักอยู่ได้อย่างไร? ท่านอ๋องสั่งคนเข้าไปหยิบ คิดว่าอันชิงตอนนี้คงไม่มีทางกลับไปพักในที่พักเดิมแน่ จึงได้ส่งมาให้กับฟู่จาวหนิง"ข้าไม่เคยเห็นพระชายาคนไหนต้องมาดูแลคนที่จะแย่งตำแหน่
เฮ่อเหลียนเฟยเองก็ลุกขึ้นมาแล้ว เพียงแต่เขายังขยับตัวไม่ได้ นั่งอยู่ในห้องเรียกหาฟู่จาวหนิง"พี่หญิง พวกเราวันนี้จะลงจากเขาไหม?""ใช่ พวกเราจะลงจากเขาแล้ว"ฟู่จาวหนิงถอนหายใจ และไม่คิดจะหยุดอยู่ที่นี่ด้วย หลังจากบอกลากับผู้เฒ่าซุน กลุ่มคนก็เก็บสัมภาระออกจากเขาเมฆอรุณวันนี้คนลงจากเขาไม่น้อย ตลอดทางยังเจอกับรถม้าอีกหลายคันดูท่าคนเหล่านี้ล้วนจะกลับไปเมืองหลวง และไม่รู้ว่าในเมืองหลวงจะมีเรื่องอึกทึกอะไรขึ้นมาอีกอันชิงถูกส่งไปจวนตระกูลอันอันเหนียนออกมารับคนที่ประตูใหญ่ พอเห็นอันชิงถูกประคองตัวลงมา ดวงตาเขาก็ร้อนวูบวาบ รีบเดินเข้ามาประคองตัวนาง"เสี่ยวชิง เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?"อันชิงตุ้มต่อมอยู่บนรถม้ามาตลอดทางเพราะไม่มีคนบอกนางว่าเกิดอะไรขึ้น บอกแค่ว่าจะส่งนางกลับบ้าน บนรถม้าเองก็มีนางเพียงคนเดียว ตอนนี้พอเห็นพี่ชาย นางจึงวางใจลงมา"ข้าไม่เป็นไร ท่านพี่ เซียวหลันยวนคือใครกัน?"อันชิงถามออกไป อันที่จริงในเมืองหลวงคนที่นามสกุลเซียวก็คือคนในราชวงศ์ แต่ว่านางไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลยน ดังนั้นนางจึงอยากรู้คำตอบนี้ตอนนี้พอเห็นพี่ชาย นางจึงถามขึ้นมาทันทีอันเหนียนตกตะลึง จากนั้นก็
ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าท่านปู่คิดจะให้เฮ่อเหลียนเฟยอยู่ที่นี่ดูแปลกๆแต่ว่าก็ไม่ใช่จะเข้าใจไม่ได้ ผู้เฒ่าฟู่แต่ไหนแต่ไรก็เป็นคนจิตใจดีมีเมตตามาตลอด และเป็นคนใจกว้างด้วย ไม่เช่นนั้นก่อนหน้านี้เขาะคงไม่ให้บ้านสองบ้านสามบ้านสี่เข้ามาพักในนี้"เช่นนั้นก็ให้เขาพักที่นี่ชั่วคราวแล้วกัน"ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกว่าอย่างน้อยก็ต้องดูแลจนขาของเฮ่อเหลียนเฟยฟื้นฟูมาระดับหนึ่งก่อนจึงจะดี ไม่เช่นนั้นเขาตอนนี้ที่ไม่รู้จักใครเลย ร่างกายก็ไม่มีใครดูแล ตกลงมาจากเตียงก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร"หลังจากนี้เขาจะเปลี่ยนชื่อเป็นฟู่เสี่ยวเฟย ท่านปู่ ท่านเองก็อย่าบอกใครถึงตัวตนของเขานะ""ฟู่เสี่ยวเฟย? ใช้สกุลเดียวกับพวกเราหรือ?" ผู้เฒ่าฟู่นึกถึงชื่อนี้ รู้สึกว่าไม่ได้ดูองอาจอะไรเลย แต่ว่านี่ก็แค่ชื่อปลอมนี่นา บวกกับว่าเด็กคนนี้ก็ยังเล็ก ถ้าเรียกว่าเสี่ยวเฟยเสี่ยวเฟย ยังจะดูสนิทสนมยิ่งกว่า"ถูกต้อง ความต้องกายของเขา บอกว่าอยากจะใช้นามสกุลพวกเราไปก่อน""ได้ ได้ได้"ผู้เฒ่าฟู่เองก็ดูดีใจมากเฮ่อเหลียนเฟยพอได้ยินว่าฟู่จาวหนิงยอมรับตนเองไว้ ก็ดีใจจนไม่รู้จะทำอย่างไรดี"ถ้าไม่ใช่ว่าข้าขาหักอยู่ ข้าคงได้กระโดดสูงสา
"เช่นนั้นเจ้าก็ไปดูพวกเขาแล้วกัน บอกับพวกเขาให้ชัดเจน ถ้ายินยอมแล้วก็พามาดู""ขอรับ"เฉินซานดีใจมากตระกูลฟู่คนยิ่งเยอะ ก็ยิ่งอธิบายว่าเจ้านายเป็นคนดี ในบ้านมีคนที่คุ้นเคยกันมากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนบ้านมากขึ้น ไม่รู้สึกอ้างว้างอีกแล้ววันต่อมา เฉินซานก็พอคนมาที่บ้านถึงสี่คน มีสองคนดูแล้วเป็นชายหนุ่มกำยำล่ำสัน แล้วก็ยังมีคู่สามีภรรยาอายุเกือบจะสามสิบอีกคู่หนึ่งพวกเขาพอเห็นฟู่จาวหนิงก็ใจเต้นตุ้มต่อมภรรยาที่ชื่อป้าซิ่งคนนั้นมองฟู่จาวหนิงอย่างระมัดระวัง"เจ้าเคยได้ยินเรื่องของข้ามาแล้วสินะ?" ฟู่จาวหนิงถามนางป้าซิ่งตะลึงงันไปครู่หนึ่ง รีบร้อนคุกเข่าลงทันที ฟุ่จาวหนิงยื่นมือไปประคองนาง "ยืนพูดเถอะ ข้าไม่ใช่พวกเคร่งกฎเกณฑ์ที่เอะอะก็ให้คุกเข่า"ประโยคนี้ของนางทำให้ในใจหลายคนนี้ผ่อนคลายลงมาพวกเขากลัวว่าหลังจากขายตัวเป็ฯทาศแล้วจะไม่เหลือเกียรติใดๆ อยู่อีก วันๆ เอาแต่ต้องคอยผงกหน้าโค้งตัวหรือไม่ก็คุกเข่าไม่หยุด"คุณหนู ท่าน วันที่ท่านแต่งงานวันนั้น ข้าเองก็อยู่บนถนนด้วย"ป้าซิ่งพูดจนรู้สึกผิดอย่างมากฟุ่จาวหนิงเองก็รู้สึกเกินคาด"ดังนั้นเจ้าก็เห็นทั้งหมดแล้วสิ? เห็นว่าข้า
ตระกูลฟู่พอคนเพิ่มขึ้น ก็คึกคักขึ้นมาทันทีฟู่จาวหนิงเองก็เอาคนที่อายุน้อยที่สุดพาไปหาเฮ่อเหลียนเฟยคนผุ้นี้ก่อนหน้าเรียกว่าเอ้อร์โก่ว ตอนที่นางเอ่ยชื่อตนเองต่อหน้าฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ก็รู้สึกเขินๆและไม่รู้ว่าเพราะอะไร เรียกว่าเอ้อร์โก่วมาสิบเก้าปีแล้ว เขาก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้รู้สึกว่าขายหน้าอะไร แต่พอมาเรียกชื่อนี้ต่อหน้าคุณหนูที่หน้าตาสะสวยอย่างฟู่จาวหนิง เขาก็รู้สึกผิดต่อนางเล็กๆเอ้อร์โก่วรวบรวมความกล้าให้ฟู่จาวหนิงช่วยเปลี่ยนชื่อให้เขาในวันที่เขียนสัญญาเดิมทีก็ได้อยู่ เขาขายตนเองเข้ามาในบ้านตระกูลฟู่ ฟู่จาวหนิงมีคุณสมบัติตั้งชื่อใหม่ให้เขาฟู่จาวหนิงตอนที่รู้ว่าอีกคนหนึ่งชื่อว่าชิวเซิง อีกคนหนึ่งชื่อชุนเจิ้ง จึงตั้งชื่อให้เขาว่าตงสือ"เสี่ยวเฟย คนนี้ชื่อว่าตงสือ หลังจากนี้เขาจะมาดูแลเจ้า มีเรื่องอะไรก็เรียกเขานะ"ตงสือตอนนี้รู้สึกพอใจกับชื่อของตนเองจนแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว"คารวะคุณชาย""แล้วก็ตงสือ หลังจากนี้ทุกวันเจ้าก็แบกข้าไปหาท่านปู่ทางนั้นนะ ตอนกลางวันข้าจะอยู่คุยกับท่านปู่" เฮ่อเหลียนเฟยตาเป็นประกายขึ้นมาเขาเดิมทีคิดว่าตนเองจะต้องเอาแต่นอนอยู่ในห้องเพื่อรักษาตัว
ดังนั้นเขาจึงไม่ละโมบกับของขวัญขอบคุณนี้"เป็นพระชายาที่ช่วยแม่นางอันไว้หรือ" ผู้ดูแลจงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในเขาเมฆอรุณ แต่ท่านอ๋องในเมื่อพูดเช่นนี้ก็แสดงว่าไม่ผิดแล้ว "เช่นนั้นก็ง่ายหน่อย เดี๋ยวถึงเวลาข้าจะสั่งคนให้นำของขวัญขอบคุณนี้ไปมอบให้กระพระชายา"แค่กๆๆอ๋องเจวี้ยนกระแอมไออย่างรุนแรงขึ้นมาอีกครั้งผู้ดูแลจงพอเห็น ไม่ถูกหรือ?"หรือให้ข้าไปส่งเอง?" หรือว่าท่านอ๋องอยากจะพูดว่าจัดคนส่งเดชไปส่งมันไม่ดีกัน?ชิงอีมองท่านอ๋อง ในสมองก็แล่นวาบขึ้นมา เขารู้สึกว่าตนเองเหมือนพอคลำเจอทางแล้ว แต่ยังจับไม่อยู่เท่านั้นตอนนี้เอง หงจั๋วที่ยชาเข้ามาก็อดแทรกขึ้นคำหนึ่งไม่ได้"ท่านอ๋อง ของขวัญขอบคุณไม่ใช่ว่าต้องมอบให้ต่อหน้าหรือ? ถ้าอย่างนั้น ข้าน้อยไปรับพระชายากลับมาจวนอ๋องดีไหมเจ้าคะ?"อ๋องเจวี้ยนตบลงที่หน้าอกตนเอง เหลือบมองนางผาดหนึ่ง "อืม ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล"หงจั๋วรีบวางชาลงข้างๆ "เช่นนั้นข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้!"นางหมุนตัววิ่งออกไปอย่างรวดเร็วอ๋องเจวี้ยนเหลือบมองผู้ดูแลผาดหนึ่ง "ยังตะลึงอะไรอีก รีบไปเตรียมรถม้าให้นางสิ""อ๋า? อ่า!ขอรับ!"ผู้ดูแลเองก็เข้าใจขึ้นมา รีบร้อนห
อันชิงเดิมทีไม่รู้ว่าควรจะคารวะฟู่จาวหนิงอย่างไร เพราะนางไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงเป็นใคร ยิ่งไปกว่านั้นท่าทางของอ๋องเจวี้ยนต่อตัวนางก็ดูแปลกประหลาดเหลือเกินตอนนี้ได้ยินพี่ชายเรียกนางว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยน นางจึงรีบคารวะตามขึ้นมา"อันชิงคารวะอ๋องเจวี้ยน และพระชายา"ฟู่จาวหนิงถึงตามองเซียวหลันยวนผาดหนึ่ง "ไม่ต้องคารวะข้าหรอก"นางเองก็รู้สึกว่าตัวตนฐานะของนางในจวนอ๋องเจวี้ยนก็ดูแปลกประหลาดหน่อยๆไม่ใช่เจ้านาย แต่ก็ไม่เหมือนเป็นแขกด้วย?เซียวหลันยวนให้พวกเขานั่งแล้ว นางก็เหมือนไม่มีคุณสมบัติที่จะแบกหน้าเจ้าบ้านหญิงบอกกับพวกเขาว่า "ทั้งสองเชิญนั่ง"ไม่เห็นว่าเซียวหลันยวนทำเหมือนไม่เห็นนางหรือ?อันเหนียนกับอันชิงเองก็รู้สึกว่าระหว่างอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนนี้ดูแปลกๆทั้งสองคนยืนมองฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าถ้าตนเองไม่นั่ง พวกเขาที่เป็นแขกก็คงจะนั่งไม่ได้ จึงเดินตึงตังไปนั่งลงที่นั่งของราชครูข้างๆ เซียวหลันยวนอันเหนียนกับอันชิงพอเห็นว่านางนั่งแล้ว ทั้งสองคนจึงลอบถอนหายใจออกมา แยกกันนั่งลงหงจั๋วกับเฝิ่นซิงก็รีบส่งน้ำชาร้อนเข้ามาใหม่อย่างรวดเร็วเฝิ่นซิงยังยกของหวานมาด้วย