"จำเอาไว้ด้วยล่ะ"เซียวหลันยวนเองก็ไม่เกรงใจเลย"กินยานี่เสีย" ฟู่จาวหนิงหยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งส่งให้เฮ่อเหลียนเฟย ขณะเดียวกันก็ถลึงตามองเซียนหลันยวนผาดหนึ่ง คิดเล็กคิดน้อยเสียจริงเฮ่อเหลียนเฟยไม่ลังเลแม้แต่น้อย รับยาลูกกลอนไปแล้วกลืนทันที"เวลายังเช้าอยู่ ยังรีบตามไปได้" ฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน "ไม่แน่ว่ายังอาจจะไล่ตามทัน"ตามอะไรทัน?เซียวหลันยวนไม่มีปฏิกิริยากลับมา ฟู่จาวหนิงก็เตรียมประคองเฮ่อเหลียนเฟยขึ้นมา จะประคองเขาไปที่หลังม้า โชคดีที่เมื่อคืนนี้นางเอาม้าตัวหนึ่งมาจากจ้าวเฉิน ไม่เช่นนั้น คิดจะพาเฮ่อเหลียนเฟยออกจากเขาคงลำบากพอควรแต่ว่ามือของนางยังไม่ทันแตกเฮ่อเหลียนเฟย เซียวหลันยวนก็เดินเข้ามาแล้ว มือหนึ่งประคองเฮ่อเหลียนเฟย ยกเขาสะบัดขึ้นไปบนหลังม้าอย่างง่ายดายเฮ่อเหลียนเฟยเกือบจะสำลักยาลูกกลอนที่เพิ่งกลืนไปออกมา"ท่าน"เขากลืนคำพูดกลับไปชายคนนี้เมื่อคืนถือว่าช่วยชีวิตเขาแล้วฟู่จาวหนิงมองเขา รู้สึกว่าเด็กคนนี้นิสัยก็ไม่เลวนักนางเองก็ตรงไปเก็บหมาป่าที่ตายแล้วขึ้นมา ผูกไว้บนหลังม้าเซียวหลันยวนเหลือบมองนางผาดหนึ่ง "เก็บหมาป่าตายแล้วตัวนั้นมาทำไม? เจ้าคิดจะชิ
"กลับไปก่อน"เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง ฟู่จาวหนิงยังเอาแต่จะพูดกับพวกลู่ทง ไม่แม้แต่จะเหลือบมองเขา สีหน้าจึงขรึมลง หมุนตัวขึ้นหลังม้า ควบม้ากลับไปยังเรือนรับรองตะวันออกพอได้ยินเสียงกีบม้า ฟู่จาวหนิงก็มองออกไป และเห็นแผ่นหลังเซียวหลันยวนขี่ม้าออกไปนางเม้มริมฝีปากเขาก็รีบจะไปงานแข่งขันล่าสัตว์นี่นะ แล้วยังไม่ยอมรับอีก!พอมาถึงที่นี่ก็ร้อนเป็นไฟ ขนาดจะบอกนางว่าขอตัวไปก่อนสักคำก็ไม่มี!คุณหนูที่เขาต้องตาคนนั้น ชื่ออะไรนะ?คุณหนูจากตระกูลหลิน?"ลูกพี่หนิง พวกเราเมื่อวานนี้ก็ล่าหมูป่ามาได้ตัวหนึ่งกับกระต่ายอีกสามตัว พอบวกกับเลียงผาตัวนี้ของท่าน ก็คงไม่ได้แพ้จนย่อยยับนัก" ลู่ทงมองสิ่งของที่ฟู่จาวหนิงแบกกลับมาบนหลังม้าตัวนี้แล้วยินดีปรีดา "แล้วยังมี คนหรือ?"เอ๋ ทำไมถึงมีคนอยู่ด้วย?"ของพวกเจ้าเอาออกไปได้เลย" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ทำไมจึงอารมณ์ดิ่งวูบลงมา พอจัดการเหยื่อล่าเสร็จ ขณะเตรียมจะลากม้าพาเฮ่อเหลียนเฟยออกไป ก็เห็นเฉินซานกับเสี่ยวเถาวิ่งเข้ามา"คุณหนู!"พวกเขาสามวันนี้ร้อนรนจะแย่อยู่แล้ว และไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงอยู่ในภูเขาเป็นอย่างไรบ้าง จะบาดเจ็บหรือไม่เสี่ยวเถาเอ
"เกิดเรื่องหรือ?"ฟู่จาวหนิงรู้ว่าพวกของจ้าวเฉินไปพบกับฝูงหมาป่าดุร้าย แต่นางหนีออกมาก่อนแล้ว แน่นอนจึงไม่รู้ว่าตอนสุดท้ายเป็นอย่างไรฟางซือฉิงหลังคุยกับนาง นางจึงรู้ว่าพวกจ้าวเฉินเหล่าานั้นสักบักสะบอมพอสมควร ยิ่งไปกว่านั้นยังตายไปสองคนอีกด้วย สามคนบาดเจ็บไม่เบาเลย"แล้วจ้าวเฉินล่ะ?"ฟู่จาวหนิงอยากรู้ว่าจ้าวเฉินเป็นอย่างไร"เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ"ฟางซือฉิงกลัวหน่อยๆ "แต่ได้ยินว่าจ้าวเฉินหลังจากกลับมาก็นิ่งงัน แล้วยังบอกอีกว่าจะกลับมาคิดบัญชีกับใครสักคนด้วย"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว ในใจคิดว่าไม่หรอกมั๊ง? จ้าวเฉินคงไม่คิดจะเอาเรื่องที่ไปเจอกับฝูงหมาป่ามาลงที่ตัวนางหรอกนะ?"จ้าวหรูรอพี่ชายนางกลับมาตลอดเลย ไม่คิดว่าที่ได้มาจะเป็นผลเช่นนี้ วันนี้ข้าแอบออกไปมองดู นางโกรธจนเหวี่ยงพังของในห้องทั้งหมดเลย"ฟางซือฉิงร้องเชอะ "ข้าว่านางจะต้องอยากให้จ้าวเฉินกลับมมาช่วยนางระบายโกรธแน่ ทำอย่าไงรดี จาวหนิง เจ้าคิดวิธีแล้วหรือยัง? นางจะต้องไม่ปล่อยเจ้าไปแน่"ผู้เฒ่าซุนเองก็กังวลเรื่องนี้มาโดยตลอด พอได้ยินว่าฟู่จาวหนิงกลับมาแล้ว เขาก็รีบวิ่งตรงมาถามคำถามนี้กับฟู่จาวหนิงเหมือนกันคิดหาวิธีได้หรือย
นางถูกพวกหูจูหลอกให้มาเดิมทีไม่รู้ว่าจะมาที่นี่ รอจนรถม้าออกจากเมือง นางก็พบว่าไม่ถูกต้อง พอคิดจะลงจากรถเพื่อกลับ พวกของหูจูก็รั้งนางเอาไว้รถม้าของนางพังไปแล้ว เดิทีคิดว่าพวกหูจูหวังดีให้นางยืมรถม้า แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าหูจูจะมายังเขาเมฆอรุณ?นางคิดหาวิธีจะให้คนส่งจดหมายให้หน่อย ส่งจดหมายกลับไปสามฉบับแต่ก็ไม่มีข่าวกลับเลยอันชิงสงสัยว่าจดหมายของนางน่าจะถูกขวางเอาไว้ข้างกายนางเดิมทีมีสาวใช้อยู่สองคน แต่สองวันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สาวใช้คนหนึ่งถูกลวกที่เท้าจนบาดเจ็บ อีกคนหนึ่งก็ถูกลมจนไข้ขึ้นลุกไม่ไหวอันชิงเดิมทีไม่อยากเข้าร่วมการประชันกลอนนี้ แต่โหวอาวุโสน้อยอี้ก็พัวพันอยู่อยู่ตลอด นางรู้สึกว่าจะเอาแต่หลบก้ไม่ใช่เรื่อง จึงเข้าร่วมวาดภาพไปเลยพอได้ที่หนึ่งมา คนตั้งมากมายล้วนมองมาที่นาง อยู่ต่อหน้าคนขนาดนี้ โหวอาวุโสน้อยอี้คงไม่กล้ารุ่มร่ามใส่กระมัง?พอคิดเช่นนี้ อันชิงก็ลุกขึ้นคิดจะเดินหนี"ข้ากับท่านไม่มีอะไรต้องคุยกัน รบกวนหลีกทางด้วย"ที่นี่มีคนอยู่มากมาย ยิ่งไปกว่านั้นเพราะภาพของอันชิงได้ที่หนึ่ง เข้าคู่กับกลอนของจอหงวนด้วย ตอนนี้คนมากมายจึงมองมาทางนี้โหวอาวุโสอี้น
ลู่ทงกับเจิ้งหยางล้วนได้ยินคำพูดของจ้าวหรู สีหน้าเปลี่ยนไปทำไม เรื่องนี้ถึงดึงลูกพี่หนิงของพวกเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย?"จ้าวหรู เจ้าพูดไร้สาระอะไรน่ะ?"ลู่ทงเองก็โมโหถ้าบอกว่าเขาก่อนหน้านี้ยังหวาดกลัวนายท่านจ้าว จนไม่กล้าฉีกหน้าคนตระกูลจ้าวส่งเดช ดังนั้นก่อนหน้านี้ในภูเขาเยื่อที่ล่าจึงถูกพวกจ้าวเฉินแย่งไป เขากับเจิ้งหยางเองก็สะกดไฟโกรธเอาไว้อย่างเต็มที่ หนีออกมาหัวซุกหัวซุนนายท่านจ้าวเป็นคนที่ใจดำโหดเหี้ยม แล้วยังคอยปกปอ้งลูกสาวกับลูกชายด้วย ไร้เหตุผลเป็นพิเศษ พ่อแม่ของพวกเขาเหล่านี้ก็ล้วนยอมถอยให้เขาระดับหนึ่งดังนั้น เหล่าผู้อาวุโสก่อนหน้านี้จึงกำชับพวกเขามา ในเมืองหลวงไม่ว่าพวกเขาจะอาละวาดแค่ไหน จะไปยั่วโมโหใครตนเองก็วิเคราะห์ให้ดี อย่าสร้างความลำบากให้คนในบ้านแต่ว่าตอนนี้พอได้ยินจ้าวหรูพูดถึงฟู่จาวหนิงเช่นนี้ ลู่ทงเองก็ทนไม่ไหวแล้วคำพูดนี้พูดออกมาได้น่าขันเหลือเกิน!ลูกพี่หนิงล่อฝูงหมาป่าได้ด้วยหรือ?"ลู่ทง เจ้าพูดจาอย่างไรกันนี่?" ดวงตาจ้าวเฉินมองลู่ทงขรึมๆ สายตาเขียนแรงคุกคามไว้เต็มที่กล้าเสียเหลือเกิน นี่กล้าพูดเช่นนี้กับน้องสาวของเขาหรือ?"ข้าก็จะพูดอย่างนี้นั่นล่
สีหน้าเจิ้งหยางเองก็ไม่ค่อยดีแล้วดูท่าพวกเขาจะหาเรื่องยุ่งยากให้กับผู้อาวุโสที่บ้านเสียแล้วจ้าวหรูพอเห็นพวกเขาก็ไม่กล้าพูดแล้ว จู่ๆ ก็หยิ่งผยองขึ้นมา"โหวอาวุโสน้อยคงต้องพูดกับองค์จักรพรรดิดีดีเสียแล้ว จริงด้วย ข้าเองก็ไม่ได้เจอท่านฮองเฮานานแล้วด้วย คงต้องเข้าวังไปพบท่านเสียหน่อย ไปคุยกับนางเสียบ้าง"คนในลานล้วนรู้สึกกดดันคนเหล่านี้ล้วนอาศัยความโปรดปรานเบื้องหน้าองค์จักรพรรดิและฮองเฮา เออะไก็ยกองค์จักรพรรดิกับฮองเฮาออกมากดดันพวกเขาแต่ว่าพวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้"เอาล่ะ จ้าวหรู ไม่ต้องพูดไร้สาระกับพวกเขา"คำพูดที่โหวอาวุโสน้อยอี้พูดกับจ้าวหรูเมื่อครู่อันที่จริงก็น่าสนใจ "เจ้าเพิ่งพูดอะไรออกมานะ? ฟู่จาวหนิง?"ความสนใจของจ้าวหรูถูกดึงกลับมาแล้ว"ถูกต้อง ฟู่จาวหนิง ฟู่จาวหนิงหญิงสารเลวที่ก่อนหน้านี้เอาแต่วิ่งไล่ตามรัฐทายาทเซียวคนนั้น นางทำให้พวกของพี่ชายข้าพบกับฝูงหมาป่า นางยังแอบขโมยหมาป่าของพี่ชายข้าไปตัวหนึ่ง!"จ้าวหรูพูดพลาง สายตากำลังค้นหาในลาน คิดจะหาตัวฟู่จาวหนิงมีคนไม่รู้จักฟู่จาวหนิง แต่คนที่มากกว่าล้วนรู้จักเพราะไม่ใช่แค่เรื่องที่ฟู่จาวหนิงวิ่งไล่รัฐทายาทเซียวก่อนห
"ใครจะรู้?"จ้าวเฉินพูด "นางอาจจะใช้ยา ตอนนั้น นางบอกว่านางมาขุดยา แล้วยังแบกตระกร้าหลังอยู่ด้วยใบหนึ่ง"ฟู่เป่าเจินกับฟู่เจียวเจียวเดินหน้าเข้าใกล้ขึ้นมาพอได้ยินคำพูดของจ้าวเฉิน พวกนางก็มองตากัน จากนั้นก็สงสัยขึ้นมาคงไม่ได้พูดถึงฟู่จาวหนิงในบ้านพวกนางอยู่ใช่ไหม?คนอื่นพอได้ยินคำพูดนี้ก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้"คุณชายจ้าวน่าจะจำผิดคนแล้วล่ะ? ท่านรู้ไหมว่าฟู่จาวหนิงคนนั้นมีชื่อเสียงอย่างไรในเมืองหลวง?""ถูกต้อง คุณชายจ้าว ฟู่จาวหนิงหลายปีนี้เอาแต่วิ่งไล่รัฐทายาทเซียวอยู่ตลอด สิ่งที่นางรู้มากที่สุด ก็ฯ่าจะเรื่องที่ว่ารัฐทายาทเซียวชอบกินอะไรชอบฟังเพลงอะไรชอบไปเที่ยวเล่นที่ไหนมากกว่า จะไปขุดยาได้อย่างไรกัน?"มีคนเราะร่าขึ้นมาอีก เอ่ยประชดประชันขึ้นมาว่า "ก็ไม่ขนาดนั้น ได้ยินว่าฟู่จาวหนิงชอบเข้าไปขุดยาอยู่นะ เพียงแต่วัตถุดิบยาที่นางมองออกเหมือนจะไม่เกินสามชนิด มักจะขุดเอาพวกหญ้าป่าผักป่ากลับมาเป็นหญ้าสมุนไพร ทำเอาพวกเถ้าแก่ร้านขายยาเฮฮากันใหญ่เลย""ฮ่าๆๆ!ข้าเองก็เคยได้ยินมา!"จ้าวเฉินขมวดคิ้ว "ดังนั้น ฟู่จาวหนิงจริงๆ แล้วเป็นคนไม่ได้เรื่องหรือ?""บอกว่าคนไม่ได้เรื่องยังยกนางสูงไป
ในกองเหยื่อล่าของพวกลูทงมีเลียงผาอยู่ตัวหนึ่งด้วยตอนนั้นพวกเขามีเลียงผาสองตัว แต่ว่าพอถูกหมาป่าไล่กวด ต่อมาจึงไม่เหลือเลยสักตัวตอนนี้พอเห็นว่าลู่ทงทางนั้นมีเลียงผาอยู่ตัวหนึ่ง ดูคล้ายกับตัวหนึ่งที่พวกเขาล่ามาได้ก่อนหน้านี้ ดวงตาจ้าวเฉินก็หรี่ลงเล็กน้อยหรือว่าพวกของลู่ทงไปเก็บได้จากในป่ากัน?แต่ได้ยินว่าพวกลู่ทงกลับมาก่อนพวกเขานี่"ลู่ทง เลียงผาของพวกเจ้าไปได้มาจากไหน?" จ้าวเฉินเอ่ยถามเสียงขรึมทันทีลู่ทงสองมือกอดอก เงยหน้าประสานสายตากับเขา "ทำไมหรือต้องอธิบายกับเจ้าด้วยหรือไร?""พวกเราเดิมทีก็ล่าเลียงผามาได้เหมือนกัน"คำพูดจ้าวเฉินยังไม่ทันพูดจบ ลู่ทงก็หัวเราะร่าขึ้นมา ตัดบทคำพูดของเขา"ขำตายล่ะ แล้วอย่างไรกัน? จ้าวเฉิน เจ้าคงไม่ได้คิดจะบอกว่านี่เป็นเลียงผาของพวกเจ้าหรอกใช่ไหม? มาๆๆ มาดูว่าบนตัวมันมีสลักชื่อจ้าวเฉินของเจ้าเอาไว้ไหม!"จ้าวเฉินหน้าขรึมนี่ไม่ยอมเลิกราสินะ? พวกเขาจะไปสลักชื่อตัวเองบนเลียงผาได้อย่างไร?ฟู่จาวหนิงมาที่นี่พักหนึ่งแล้ว เพียงแต่ความสนใจของคนทั้งหมดอยู่ที่ด้านหน้า ไม่มีใครสังเกตเห็นนางนางกวาดตามอง หาตัวฟู่เป่าเจินกับฟู่เจียวเจียวในกลุ่มคนสองค
อันเหนียนกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวหลังรู้เรื่องนี้ก็ปวดเศียรเวียนเกล้าผู้ประสบภัยสามคนนั้นก่อนหน้านี้กักกันไว้แล้ว แต่ก่อนหน้าที่จะหาตัวพวกเขาเจอ พวกเขาก็ไปที่ศูนย์พักพิงมาเรียบร้อย ที่นั่นอยู่กันอย่างแน่นขนัด คนหลายคนเพิ่งมาถึง ในใจก็กระวนกระวาย แล้วยังสับสนเป็นพิเศษอีก ไม่รู้สถานการณ์ของที่นี่ ดังนั้นสามคนนี้จึงดึงคนไม่น้อยเข้ามาพูดคุยกันเพื่อถามนั่นถามนี่ถึงอย่างไรคนที่อยู่ใกล้ด้วยก็น่าจะมีถึงยี่สิบกว่าคน ยี่สิบกว่าคนนี้ก็ยังมีคนที่ตนเองออกไปสัมผัสอยู่อีกและเพราะสามคนนั้นเป็นคนมาใหม่ คนไม่น้อยจึงจำไม่ได้ไม่รู้จัก ถ้าจะให้พวกเขาชี้ตัวคือยากมากผู้บริหารท้องถิ่นโหยวอยากจะประกาศป่าว ให้คนเหล่านั้นลุกออกมากันเอง อันเหนียนกลับรู้สึกว่าถ้าเป็นเช่นนี้ ผู้ประสบภัยอาจจะยิ่งหวาดกลัวเพราะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกขเาจะกลัวและไม่สงบ แล้วจะเข้ามาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"เรื่องพูดออกไปตรงๆ ไม่ได้ ต้องบอกว่าผู้ประสบภัยสามคนนั้นมีตัวตนฐานะน่าสงสัย ต้องทำการตรวจสอบ" อันเหนียนตัดสินใจแล้วผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเองก็เห็นด้วยแต่ว่าข้าราชการที่ออกไปประกาศตนเองก็กลัวเหมือนกัน ต้องการห
ถ้าหากฟู่จาวหนิงร้ว่านางกำลังคิดอะไร คงจะหัวเราะออกมาแน่องค์หญิงใหญ่ ตอนนี้กำลังตรวจรักษาอยู่นะ คิดอะไรกัน จะว่าไป ทางกดที่ปอดด้วย ไม่ใช่ที่หน้าอกตอนที่ตรวจฟู่จาวหนิงก็ใจจดใจจ่อมาก จะไปรู้ได้อย่างไรว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดเตลิดไปขนาดนั้น"อีกเดี๋ยวก็รีบต้มยาเสีย วันนี้ต้องดื่มยาสามห่อ ยาหนึ่งห่อต้มด้วยน้ำสามชามให้เหลือหนึ่งชาม"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น "อีกเดี๋ยวยาจะส่งเข้ามา แน่ใจว่าจะต้มเองนะ?" ประโยคด้านหลัง ฟู่จาวหนิงมองไปทางเฉินเซียงเฉินเซ๊ยงพยักหน้าทันที "เจ้าค่ะ"ก็ต้องแน่สิ"ข้าจะตรวจเจ้าด้วย มานั่งลงตรงนี้" ฟู่จาวหนิงชี้ไปที่เก้าอี้ข้างๆเฉินเซียงนั่งลงไปฟู่จาวหนิงก้มหน้าจับชีพจรให้นาง ตรวจอาการเฉินเซียงเองก็ติดแล้วเหมือนกัน แต่ยังไม่หนักเท่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แต่ว่านางเหนื่อยเกินไป ดวงตาเขียวคล้ำ"วันนี้ต้องนอนพักผ่อนให้ได้" นางเอ่ยขึ้นคำหนึ่งอาการป่วยจะรุกรานเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็วตอนที่ร่างกายอ่อนล้าขีดสุด"ข้าต้องปรนนิบัติองค์หญิงใหญ่" เฉินเซียงตอบเช่นนั้นก็แล้วแต่เจ้าเถอะฟู่จาวหนิงอยากจะตอบแบบนี้ แต่คำพูดค้างอยู่ที่มุมปาก จึงเปลี่ยนคำอื่น "ถ้าเหนื่อย
ความต้องการของเฉินเซ๊ยง ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ยังรับปากไปนางยอมจะให้ตนเองเหนื่อยอีกนิด ก็ไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธเพียงแต่เฉินเซียงไม่ค่อยฉลาด ตอนนี้นางเป็นหมอนะ ถ้าหากนางจะทำอะไรล่ะก็ นางห้ามได้เสียที่ไหนกัน?พวกนางไม่เข้าใจวัตถุดิบยาเลยด้วยซ้ำเดิมทีฟู่จาวหนิงก็คิดเช่นนี้ ผลลัพธ์คือเช้าวันต่อมาตอนที่นางเข้าไปตรวจ ก็ได้ยินเฉินเซียงกำลังพูดเสียงแผ่วกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"ข้าน้อยรู้ ว่าหมอเทวดาฟู่ไม่มีทางทำอะไรไม่ดีในวัตถุดิบยากับการรักษา แต่ถ้าหากในใจนางยังคงเคียดแค้นอยู่ล่ะ ให้คนถ่มน้ำลายหรืออะไรลงไปในยาน้ำ พวกเราจะทำอย่างไรกัน?""องค์หญิงใหญ๋ว่าไหม? เรื่องพวกนี้ แต่ก่อนข้าน้อยเคยได้ยินมา ในวังมีคนตั้งมากมายที่ทำ ป้องกันเท่าไรก็ไม่พอ ข้าน้อยไม่มีทางยอมให้องค์หญิงใหญ่ต้องถูกทำให้อัปยศเช่นนี้แน่"ฟู่จาวหนิงโมโหจนขำดังนั้นนิสัยของนางในใจเฉินเซียงต้องเลวร้ายแค่ไหนกันที่แท้ก็กันเรื่องพวกนี้อยู่ นางยังคิดว่ามาป้องกันตนเองจะทำอะไรในวัตถุดิบยาเสียอีก นี่นางคิดเยอะไปสินะแล้วจึงได้ยินเสียงแหบพร่าขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น วันนี้ตอนเช้า เสียงของนางก็เปลี่ยนไปแล้ว แหบลงเหมือนกระดาษทรายขัดอย
นางไม่ได้ถามอะไรอีก เดินไปจับชีพจรองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น วัดอุณหภูมิเกือบสี่สิบองศาเลย คิดไม่ถึงว่าเป็นไข้รุนแรงขนาดนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยังทนมาคุยกับนางได้ตั้งหลายคำ"นอกจากตัวร้อน ยังมีตรงไหนไม่สบายอีกไหม? ตรงไหนที่รู้สึกแย่บ้าง?""แค่ก ปวดหัว แล้วก็ดวงตาร้อนผ่าวไปหมด..."องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆ ตรงหน้าก็มืดไป คอพับคงมาฟู่จาวหนิงปฏิกิริยารวดเร็ว เข้ารับนางไว้ทันทีเฉินเซียงตกใจ "องค์หญิงใหญ่!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็โดนเข้าซะแล้วฟู่จาวหนิงดูอยู่พักหนึ่ง ต้นกำเนิดโรคคือครอบครัวของป้าหนิวหลังจากสังเกตก็พบว่าเฉินเซียงก็เริ่มมีไข้อ่อนๆแต่ว่าองครักษ์คนอื่นยังไม่ติด น่าจะเพราะเดิมทีองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้สึกว่าชายหญิงไม่ควรอยู่ใกล้กัน ดังนั้นจึงไม่ค่อยได้เข้าใกล้พวกเขาแต่ยังต้องสังเกตต่อฟู่จาวหนิงให้องครักษ์หลายคนนั้นไปหาห้องพักพักผ่อนก่อน ส่วนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกับเฉินเซียงต้องอยู่ที่ห้องนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหมือนได้พักหายใจมาตอบคำถามฟู่จาวหนิงพอดี จากนั้นก็เป็นไข้จนมึนหัว จนไม่รู้สึกตัวไม่ได้สติฟู่จาวหนิงคิดจะฉีดยาให้นาง แต่เฉินเซียงก็ไม่ยอมไปไหนอ
ฟู่จาวหนิงไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาทำอะไรเหมือนกับสืออี นางเองก็อยากรู้มากว่าฝ่าบาทต้าชื่อยอมปล่อยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นออกมาได้อย่างไรแต่ว่าตอนนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองข้ามปัญหาชื่อเรียกของนางไปแล้ว แต่เอ่ยกับนางอย่างอบอุ่นว่า "เชิญหมอเทวดาฟู่ถามอาการเถิด รบกวนท่านรักษาข้าด้วย"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ไม่ใช่คนโง่ ดูจากชุดแต่งกายประหลาดของฟู่จาวหนิง และการที่ฟู่จาวหนิงไม่ให้นางถอดสิ่งที่เรียกว่าหน้ากากปิดปากออก นางก็เดาได้ทันที ว่าโรคของตนเองน่าจะไม่ใช่โรคธรรมดาแต่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ไม่ลนลานเลยแม้แต่น้อยถึงแม้โชคดีของนางหลายครั้งจะเป็นสิ่งที่คนทำขึ้น แต่เรื่องเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของตัวนางเอง อันที่จริงก็ถือว่ามีโชคดีอยู่มากอย่างเช่นตั้งแต่เด็กนางไม่ค่อยป่วย ต่อให้จะป่วยก็เป็นปัญหาเล็กๆ กระทั่งบางครั้ง การป่วยของนางยังช่วยให้นางเลี่ยงเรื่องแย่ๆ อีกด้วยเหมือนก่อนหน้านี้ที่นี่ไม่รู้ว่าทำไมจึงเวียนหัวจนเป็ฯลม ดังนั้นจึงกลับเมืองหลวงช้าไปสองวัน ผลคือในสองวันนั้น ระหว่างทางมีคนถูกโจรปล้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะนางป่วยจนต้องเลื่อนเวลา เช่นนั้นนางอาจจะไปเจอกับโ
สิ่งนี้ทำให้เฉินเซียงรู้สึกไม่พอใจแล้ว ทำไมถึงให้องครักษ์มาอยู่ด้วยกันกับพวกนาง?ห้องส้วมล่ะ? หรือว่าพวกนางต้องใช้ร่วมกับองครักษ์สามคนนี้ด้วย?อย่างนี้ได้ที่ไหน!สืออีหลังจากกำชับเสร็จก็ออกไปเตรียมของสิ่งของที่เหลืออยู่ของพวกเขาตอนนี้ไม่พอแล้วจริงๆ ดังนั้นจึงต้องแบ่งผ้าหุ่มของพวกเขาออกไปสามผืน แล้วนำออกไปของกิน ตอนนี้ก็เป็นแค่หมั่นโถวกับข้าวต้ม บวกกับกับข้าวอีกนิดหน่อย กับข้าวเองก็เหลือไม่มากแล้วหมั่นโถวของพวกเขาตอนนี้ก็ผสมแป้งอื่นเข้าไปด้วยแล้ว ไม่ได้อ่อนนุ่มหอมหวานเหมืนอตอนที่เพิ่งมาแล้ว ถึงอย่างไรกินให้ท้องอิ่มได้ก็ดีมากแล้วอันเหนียนกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวออกหาการบริจาคช่วยเหลือ หวังว่าสองสามวันนี้จะได้ผลลัพธ์อะไรบ้าง ไม่เช่นนั้นคงต้องเอาหมั่นโถวมานึ่งให้เล็กลงหน่อย ไม่แน่อาจจะต้องแบ่งของคนคนหนึ่งเป็นสองส่วนด้วยฟู่จาวหนิงพอดูเรื่องการฉีดยาให้ป้าหนิวเสร็จ ก็ดึงเข็มออก เก็บขวดเปล่ากับตะขอเกี่ยวเล็กกลับไป หลังจากออกประตูมาก็เปลี่ยนชุดป้องกันกับผ้าปิดปากและถุงมือใหม่ จากนั้นจึงไปยังฝั่งตรงข้ามเฉินเซียงพอเห็นนางเข้ามา ก็จำนางได้จากดวงตาของนางเพราะฟู่จาวหนิงห่อตัวมิดชิดย
ฟู่จาวหนิงเองก็คิดไม่ถึงว่าคนที่มาเมืองเจ้อจะเป็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพวกเขาก่อนหน้านี้คาดการณืไว้ ว่าฝ่าบาทของต้าชื่อไม่มีทางปล่อยให้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นออกมาแน่ที่บอกว่าจะเลือกราชบุตรเขยให้นางแต่เดิม ก็เป็นแค่คำหลอกองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทั้งเพองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนั้นไปที่เมืองจี้ ฝ่าบาทต้าชื่อยังส่งคนไปรับนางกลับวังหลวง ฝ่าบาทต้าชื่อรู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเป็นดาวนำโชคของเขามาตลอด โชคบนตัวนางล้วนจะเอามาไว้บนตัวเขาทั้งหมด ดังนั้นจึงมัดนางไว้ข้างกายแต่ตอนนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่เพียงแค่ออกมาจากวังหลวง แต่ยังเดินทางมาไกลถึงแคว้นเจา?!นี่มันไม่น่าเชื่อจริงๆไม่น่าเชื่อจนฟู่จิ้นเชินกับต่งฮ่วนจือก็กำลังคาดเดาเจตนาการมาขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแต่ว่า ตอนนี้พวกเขาไม่มีโอกาสได้ถาม เพราะฟู่จาวหนิงมีคำสั่ง ไม่ให้ใครก็ตามสัมผัสกับกลุ่มขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพวกขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกจัดไปยังห้องข้างฝั่งตะวันตก อยู่ตรงข้ามกับห้องผู้ป่วยของป้าคนนั้น คั่นไว้ด้วยสวนเล็กๆ ผืนหนึ่งสืออีให้พวกเขาสวมหน้ากากอนามัยทั้งหมดตอนแรกพวกเขาก้ไม่ค่อยยินดีนัก แต่ตอนนี้คนมาถึงแคว้นเจาแล้ว นี่เป็นถิ
สืออีขับรถม้าของตนเองออกไปรับคนแล้วเรื่องนี้เดิมทีก็แปลกอยู่หน่อยๆ ตอนนี้คนส่วนใหญ่ล้วนรู้ว่าเมืองเจ้อมีสถานการณ์เป็นอย่างไร ปกติจะไม่เข้ามากัน ต่อให้จะมาเยี่ยมญาติก็ตาม ไม่มีทางเลือกมาในเวลานี้หรือว่าคนที่มาจากต้าชื่อจะไม่เข้าใจสถานการณ์ของที่นี่?แต่ถ้าไม่ใช่ผู้ประสบภัย ถ้าหากในเมืองมีญาติอยู่ล่ะก็ บางทีอาจจะมีเงินอยู่ พอมาถึงจึงไม่ไปยังศูนย์สังเกตการณ์ น่าจะกลับไปที่บ้านญาติเลย หรืออาจจะไปพักโรงเตี๊ยมดังนั้น คนที่มาเป็นใครกันแน่?สืออีคาดเดาไปตลอดทาง แต่ตอนที่เห็นคนที่มา เขาก็ตกตะลึงไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น!ไม่ว่าสืออีจะคิดอย่างไร ก็คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่มาจะเป็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาได้อย่างไรกัน?ชั่วขณะหนึ่ง ในสมองสืออีกคิดไปมากมาย จะมากน้อยก็มีทฤษฏีสมคบคิดอยู่บ้างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกว่าจะสงบลงมาได้ หยุดไปแล้ว พอเห็นสืออี นางก็งงงันไปนิดหน่อย ยังจำเขาไม่ได้เพราะสืออีตอนนี้สวมชุดประหลาดแล้วยังสวมหน้ากากอนามัยด้วยแต่เพราะสายตาที่สืออีมองนาง ทำให้นางเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าจะต้องรู้จักนางแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่ตกตะลึงแบบนี้นางยังสวมผ้าคลุมอยู่ ถ้าม
"พระชายา เอาข้าวเช้ากับน้ำร้อนมาให้แล้วขอรับ"เสียงของสืออีดังลอดเข้าาฟู่จาวหนิงเดินออกไป "วางไว้ตรงนั้นเลย เจ้าอย่าเข้ามานะ"พอเหลือบมองไป นางยังเห็นฟู่จิ้นเชินด้วย พวกเขาคนหนึ่งหิ้วน้ำร้อน คนหนึ่งถืออาหารเช้า"จาวหนิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?" ฟู่จิ้นเชินยืนนิ่ง ถึงแม้อยากจะเดินเข้ามา แต่ก็รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะไม่ให้เขาเข้าไป"ข้าไม่เป็นไร คนป่วยข้างนอกพวกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงถามถึงสองพี่น้องเสี่ยวเฟิงเสี่ยวยา พอรู้ว่าพวกเขาไม่เป็นไร นางจึงวางใจลงได้ถือว่าโชคดีจริงๆ ที่หญิงสาวคนนี้มาถึงหลังจากที่พวกเขาทำงานไปแล้วหลายวัน ตอนนี้คนอื่นๆ ปรับตัวได้แล้ว ทำงานกันได้สมเหตุสมผลหมดแล้ว รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรถ้าเป็นเมื่อสามวันก่อน พอนางออกห่าง คนป่ววยพวกนั้นก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร คงจะวุ่นวายกันไปหมดแน่"ผู้ช่วยหมอสามคนที่ใต้เท้าอันหามาก็เพิ่งมาถึง ข้าให้เสี่ยวเยว่นำพวกเขาไปแล้ว ข้าเห็นว่าพวกเขาเองก็มือไม้คล่องแคล่วทำงานได้ดีอยู่ เจ้าไม่ต้องกังวล""ได้ สืออี ไปดูทหารขุนพลบัญชาการกับผู้ประสบภัยคนอื่นที่สัมผัสกับป้าคนนี้หน่อย ระวังด้วยนะ" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"่ขอรับ"สืออี