"ใครจะรู้?"จ้าวเฉินพูด "นางอาจจะใช้ยา ตอนนั้น นางบอกว่านางมาขุดยา แล้วยังแบกตระกร้าหลังอยู่ด้วยใบหนึ่ง"ฟู่เป่าเจินกับฟู่เจียวเจียวเดินหน้าเข้าใกล้ขึ้นมาพอได้ยินคำพูดของจ้าวเฉิน พวกนางก็มองตากัน จากนั้นก็สงสัยขึ้นมาคงไม่ได้พูดถึงฟู่จาวหนิงในบ้านพวกนางอยู่ใช่ไหม?คนอื่นพอได้ยินคำพูดนี้ก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้"คุณชายจ้าวน่าจะจำผิดคนแล้วล่ะ? ท่านรู้ไหมว่าฟู่จาวหนิงคนนั้นมีชื่อเสียงอย่างไรในเมืองหลวง?""ถูกต้อง คุณชายจ้าว ฟู่จาวหนิงหลายปีนี้เอาแต่วิ่งไล่รัฐทายาทเซียวอยู่ตลอด สิ่งที่นางรู้มากที่สุด ก็ฯ่าจะเรื่องที่ว่ารัฐทายาทเซียวชอบกินอะไรชอบฟังเพลงอะไรชอบไปเที่ยวเล่นที่ไหนมากกว่า จะไปขุดยาได้อย่างไรกัน?"มีคนเราะร่าขึ้นมาอีก เอ่ยประชดประชันขึ้นมาว่า "ก็ไม่ขนาดนั้น ได้ยินว่าฟู่จาวหนิงชอบเข้าไปขุดยาอยู่นะ เพียงแต่วัตถุดิบยาที่นางมองออกเหมือนจะไม่เกินสามชนิด มักจะขุดเอาพวกหญ้าป่าผักป่ากลับมาเป็นหญ้าสมุนไพร ทำเอาพวกเถ้าแก่ร้านขายยาเฮฮากันใหญ่เลย""ฮ่าๆๆ!ข้าเองก็เคยได้ยินมา!"จ้าวเฉินขมวดคิ้ว "ดังนั้น ฟู่จาวหนิงจริงๆ แล้วเป็นคนไม่ได้เรื่องหรือ?""บอกว่าคนไม่ได้เรื่องยังยกนางสูงไป
ในกองเหยื่อล่าของพวกลูทงมีเลียงผาอยู่ตัวหนึ่งด้วยตอนนั้นพวกเขามีเลียงผาสองตัว แต่ว่าพอถูกหมาป่าไล่กวด ต่อมาจึงไม่เหลือเลยสักตัวตอนนี้พอเห็นว่าลู่ทงทางนั้นมีเลียงผาอยู่ตัวหนึ่ง ดูคล้ายกับตัวหนึ่งที่พวกเขาล่ามาได้ก่อนหน้านี้ ดวงตาจ้าวเฉินก็หรี่ลงเล็กน้อยหรือว่าพวกของลู่ทงไปเก็บได้จากในป่ากัน?แต่ได้ยินว่าพวกลู่ทงกลับมาก่อนพวกเขานี่"ลู่ทง เลียงผาของพวกเจ้าไปได้มาจากไหน?" จ้าวเฉินเอ่ยถามเสียงขรึมทันทีลู่ทงสองมือกอดอก เงยหน้าประสานสายตากับเขา "ทำไมหรือต้องอธิบายกับเจ้าด้วยหรือไร?""พวกเราเดิมทีก็ล่าเลียงผามาได้เหมือนกัน"คำพูดจ้าวเฉินยังไม่ทันพูดจบ ลู่ทงก็หัวเราะร่าขึ้นมา ตัดบทคำพูดของเขา"ขำตายล่ะ แล้วอย่างไรกัน? จ้าวเฉิน เจ้าคงไม่ได้คิดจะบอกว่านี่เป็นเลียงผาของพวกเจ้าหรอกใช่ไหม? มาๆๆ มาดูว่าบนตัวมันมีสลักชื่อจ้าวเฉินของเจ้าเอาไว้ไหม!"จ้าวเฉินหน้าขรึมนี่ไม่ยอมเลิกราสินะ? พวกเขาจะไปสลักชื่อตัวเองบนเลียงผาได้อย่างไร?ฟู่จาวหนิงมาที่นี่พักหนึ่งแล้ว เพียงแต่ความสนใจของคนทั้งหมดอยู่ที่ด้านหน้า ไม่มีใครสังเกตเห็นนางนางกวาดตามอง หาตัวฟู่เป่าเจินกับฟู่เจียวเจียวในกลุ่มคนสองค
ในกลุ่มหนุ่มสาวเหล่านี้ อ๋องเจวี้ยนเดิมทีไม่ได้มีความรู้สึกมีตัวตนอะไรอยู่แต่ว่าวันนี้ ครั้งนี้ อ๋องเจวี้ยนค่อยๆ เดินเข้ามาในระยะสายตาของพวกเขาชุดคลุมผ้าไหมสีม่วงเข้ม เสื้อคลุมจิ้งจอกขาวผืนหนึ่ง หน้ากากครึ่งหน้าสีเงินใบหนึ่ง ดูสูงส่งอย่างเป็นธรรมชาติ นำเอาความลึกลับน่าดึงดูดเข้ามาด้วย พอปรากฎตัวก็ดึงดูดสายตาคนทั้งหมดไปภายใต้หน้ากากครึ่งหน้าเผยริมฝีปากงามออกมา เส้นคางแหลมคม ทำเอาหญิงสาวหลายคนใจเต้นระรัวไปหมดแล้วพอบวกกับรูปร่างยืดตรงของเขา สูงชะลูดกว่าคนทั้งหมดในที่นี้ พอปรากฎตัวก็กลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งลานไป"นี่ยังไปแต่งตัวมาด้วยหรือ?"ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกเซียวหลันยวนจะต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามาโดยเฉพาะแน่! ขนาดก้วนที่ผูกรวบผมของเขาก็ยังเปลี่ยนเป็นทำจากเงินสลักฝังไว้ด้วยทับทิม ดูสูงส่งน่ามองคนงามเพราะแต่ง เดิมทีเขาก็เป็นคนรูปร่างดีอยู่แล้ว พอแต่งตัวเช่นนี้ก็ดูดีจริงๆแล้วยังกล้าบอกว่าไม่ได้จะเอาชนะเพื่อนัดหญิงสาวอีกหรือ?เซียวหลันยวนมาเขาเมฆอรุณก็น่าจะเพราะเป้าหมายนี้กระมัง?ฟู่จาวหนิงร้องเชอะฟางซือฉิงพอได้ยินนางร้องเชอะก็ได้สติกลับมา จับชายเสื้อนางอย่างตื่นเต้น กดเ
ยิ่งไปกว่านั้น ยังคิดว่าเขาอายุยังไม่ถึงสามสิบก็คงตายไปแล้วด้วย แม้ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนจะเพิ่งยี่สิบต้นๆ แต่ดูจากที่อายุน่าจะสั้น ใครก็ล้วนจำเขาไม่ได้ตอนนี้เขากลับปรากฎตัวออกมาแล้ว!ยิ่งไปกว่านั้นยังออกไปล่าสัตว์ด้วย นี่อธิบายว่าร่างกายเขาไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหม?หรือว่าอ๋องเจวี้ยนรักษาตัวดีแล้ว จึงกลับมาเมืองหลวงเพื่อแบ่งสิทธิ์อำนาจหรือ?หากอ๋องเจวี้ยนคิดจะชุบเลี้ยงขั้วอำนาจของตนเองขึ้นมาบ้าง สถานการณ์ในเมืองคงถูกทำลายลงแน่ พวกเหล่านี้คงต้องดูแล้วว่าจะยืนอยู่ฝ่ายไหนจ้าวเฉินกับโหวอาวุโสอี้น้อยเดิมทีก็ถือเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มศูนย์กลางอำนาจด้วย แน่นอนว่าคนมากมายรู้จุดนี้"คารวะอ๋องเจวี้ยน"จ้าวเฉินกับโหวอาวุโสน้อยในใจไม่ค่อยยินดีนัก แต่ตอนนี้ทำได้เพียงก้มหัวให้อ๋องเจวี้ยนไปก่อนพวกของลู่ทงก็ถลึงตาโตฮ่าๆๆ!อย่างนี้นี่เองหรือ? จู่ๆ ในใจก็รู้สึกดีสุดๆ ขึ้นมาเลยไหม?ที่แท้อ๋องเจวี้ยนพอปรากฎตัวก็สะกดจ้าวเฉินกับโหวอาวุโสน้อยอี้ได้เลยหรือ? แล้วพวกเขาจะต้องกลัวอะไรกันอีก อ๋องเจวี้ยนอยู่ฝ่ายลูกพี่หนิงของพวกเขานะ!"เจ้งหยาง อ๋องเจวี้ยน"ลู่ทงกำลังสะกินเจิ้งหยางจะพูดกับเขา แต่เสียงของเจียง
ตบฉาดครั้งนี้ ทำเอาคนทั้งหมดในลานใจสั่นระรัวคนที่อยู่ใกล้หน่อยกระทั่งลมหายใจยังตึงเครียดขึ้นมา ไม่กล้าจะหายใจเฮือกใหญ่นายท่านจ้าวขุนนางผู้บัญชาการที่ได้รับการเชื่อใจจากองค์จักรพรรดิ ตอนนี้เองก็กำลังมีชื่อเสียง บางครั้งกระทั่งเครือพระญาติบางส่วนก็ยังต้องยอมให้เขาดังนั้นจ้าวหรูจึงกำเริบเสิบสานในเมืองหลวงมาแต่ไหนแต่ไร ไม่มีใครกล้าไปหาเรื่องด้วยลูกขุนนางที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเหล่าองค์หญิงอย่างหลินหวานซิน ก็ยังต้องเกรงอกเกรงใจกับนาง ต่อให้ทั้งสองคนไม่สนิทกันนัก เที่ยวเล่นด้วยกัน แต่ถ้าจุดที่ต้องให้หน้าแก่นางก็คือต้องให้ทว่าตอนนี้จ้าวหรูกลับถูกทหารคนหนึ่งตบฉาดเข้าที่หน้า!จ้าวหรูสมองมึนงงไปหมด ทั่วร่างทั้งเจ็บทั้งชา ยืนอยู่ที่นั่นสงสัยต่อชีวิตคนขึ้นมานางไม่เชื่อ ไม่อยากจะเชื่อมีคนกล้าตบหน้านาง!จ้าวเฉินเองก็หน้าเปลี่ยนสี กำหมัดแน่นเขาเองก็พยายามควบคุมตนเองถึงไม่ได้เหวี่ยงหมัดเข้าใส่ชิงอี นี่คอือ๋องเจวี้ยน ลูกมือของอ๋องเจวี้ยน!ก่อนหน้านี้อ๋องเจวี้ยนทำตัวเงียบเชียบจนไม่มีใครสัมผัสถึงตัวตนได้มาโดยตลอด ครั้งนี้กลับทำให้พวกเขาสลักลึกความจำลงไปลึกสุด"อ๋องเจวี้ยนลงมือกับแม่
ยิ่งไปกว่านั้นการยอมรับตัวตนฐานะของนางต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ ก็ดูไม่เหมือนตัวนางนักเซียวหลันยวนจับมือนาง มองไปทางจ้าวหรู "พระชายาของข้า ไม่นับเป็นคนของราชวงศ์หรือ?"ทำไมจะไม่นับกันล่ะ?จ้าวหรูแค่ไม่อยากเชื่อเท่านั้น"ท่านไม่ได้จำคนผิดหรือ?" นางไม่อยากจะเชื่อจริงๆ เรื่องทำไมจึงไร้สาระเช่นนี้ "ท่านรุ้ไหม หลายปีมานี้นางวันวันเอาแต่หัวหันอยู่กับรัฐทายาทเซียว นางเอาแต่อยากจะแต่งงานกับรัฐทายาทเซียว ยิ่งไปกว่านั้นยังไปอ้อนวอนองค์จักรพรรดิเสียด้วยซ้ำ!"นางมองไปยังคนรอบๆ "ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามพวกเขา คนทั้งหมดที่นี่ล้วนรู้กัน ฟู่จาวหนิงอยากจะแต่งงานกับรัฐทายาทเซียวจนแทบจะบ้าอยู่แล้ว!"มีคนร้องขึ้นมา "ใช่ๆๆ พวกเราเองก็เคยได้ยินมา""ข้ายังเห็นว่านางไปอ้อนวอนรัฐทายาทเซียวด้วยซ้ำ บอกว่าขอแค่รัฐทายาทเซียวยอมรับนางเป็นภรรยา จะเงื่อนไขอะไรนางก็ยอมรับทั้งสิ้น! แล้วยังบอกว่าหลังจากเป็นภรรยาแล้ว นางจะคอยยกชายกน้ำ คอยนวดขาทุบขา คอยปอกเปลือกองุ่น คอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้ถึงมุมปากของเขาเลยด้วย"มีคนหลบอยู่ในกลุ่มร้องออกมาฟู่จาวหนิงรู้สึกว่ามือของตนเองถูกบีบแรงขึ้นแรงมือของเซียวหลันยวนแทบจะบีบมือของนา
เซียวหลันยวนขมวดคิ้ว หญิงสาวคนนี้โผล่ออกมาจากที่ไหนกัน?ที่นี่มีเรื่องเกี่ยวกับนางด้วยหรือ?"แต่ว่าท่านก็อย่าเห็นว่าแปลกเลยอ๋องเจวี้ยน ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนนัดข้าออกไปเที่ยวเล่นในภูเขา ข้า ข้าจะทำตัวตามประเพณีอย่างแน่นอน ข้ากับอ๋องเจวี้ยนจะพูดคุยกันแต่เรื่องกลอนเรื่องภาพ จะไม่พูดคุยอะไรที่ไม่งามแม้แต่น้อย"หลินหว่านซินตอนนี้เสียใจจนจะบ้าอยู่แล้ว นางยังคิดว่าตนเองยังสามารถเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนได้ คิดไม่ถึงว่าอ๋องเจวี้ยนแม้จะสนใจต่อตัวนาง แต่ตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนกลับมีคนนั่งอยู่แล้วหรือว่าอ๋องเจวี้ยนคิดจะให้นางเป็นพระชายารองกัน?ถ้าหากจะให้นางไปเป็นพระชายารอง เช่นนั้นนางก็ต้องเห็นเขาปลดหน้ากากลงก่อนจึงจะรับปากได้ถึงอย่างไร พระชายารองอ๋องเจวี้ยน ตัวตนฐานะก็ยังสูงกว่าภรรยาหลวงของเหล่าขุนนางใหญ่เสียอีกนางแต่ก็ยังรู้สึกทั้งดิ่งทั้งเสียใจ"อื๋อ?"เซียวหลันยวนไม่เข้าใจว่านางกำลังพูดอะไร เขาทำไมต้องนัดนางออกไปเที่ยวด้วย?"ข้าไปพูดเมื่อไรกันว่าจะนัดเจ้าออกไปเที่ยว?"หลินหว่านซินน้ำตาไหลพูดกับเขาอย่างเสียใจ "อ๋องเจวี้ยนอยากจะกลับเมืองหรือว่าอยากจะไปฟังดนตรีที่ไหนหรือ? หรือว่าจะนั่ง
พวกลิ่วล่อข้างกายโหวอาวุโสน้อยอี้หลายคนนั้นก็ล้วนเดินเข้าไปหาเขา ดูกังวลเล็กน้อย"โหวอาวุโสน้อย แล้วตอนนี้ทำอย่างไรดี?""โหวอาวุโสน้อย แผนการของพวกเรายังทำต่อไหม?"โหวอาวุโสน้อยอี้กัดฟัน"ขอแค่อันชิงยังไม่เข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ข้าจะแตะต้องนางก็ไม่ต้องกลัวอ๋องเจวี้ยนหรอก" ถึงตอนนั้นไปโวยวายต่อหน้าองค์จักรพรรดิฮองเฮา ข้าเชื่อว่าองค์จักรพรรดิไม่มีทางช่วยอ๋องเจวี้ยน"ไปหาอันชิง"เขาก็แค่จัดการเรื่องให้เสร็จสิ้นก่อนที่อันชิงจะพบกับอ๋องเจวี้ยน อันชิงก็เป็นของเขาแล้ว หนีไปไหนไม่รอดหรอกถึงตอนนั้นอ๋องเจวี้ยนยังกล้ามาแย่งก็คงไม่สำเร็จแล้วกระมัง?ฟู่จาวหนิงถูกเซียวหลันยวนดึงไปอยู่ในมุมลับตาคนเซียวหลันยวนถึงได้ปล่อยมือนางออก"เซียวหลันยวนท่านบ้าหรือเปล่า?" ฟู่จาวหนิงมองข้อมือขาวของตนเองถูกเขาจับจนแดงเป็นวง ก็อดถลึงตามองเขาไม่ได้ นวดนวดข้อมือขึ้นมานี่คิดจะบิดแขนของนางให้หลุดเลยหรือไร?"ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องที่เจ้าไล่ตามรัฐทายาทเซียวจะมีคนรู้กันมากมายขนาดนี้"เซียวหลันยวนพอคิดถึงคำพูดคนเหล่านั้นเมื่อครู่ ก็รู้สึกว่าในใจมีไฟโกรธพุ่งขึ้นไปถึงบนหัว"เจ้าเพื่อที่จะให้เซียวเหยียนจิ่ง
อันเหนียนกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวหลังรู้เรื่องนี้ก็ปวดเศียรเวียนเกล้าผู้ประสบภัยสามคนนั้นก่อนหน้านี้กักกันไว้แล้ว แต่ก่อนหน้าที่จะหาตัวพวกเขาเจอ พวกเขาก็ไปที่ศูนย์พักพิงมาเรียบร้อย ที่นั่นอยู่กันอย่างแน่นขนัด คนหลายคนเพิ่งมาถึง ในใจก็กระวนกระวาย แล้วยังสับสนเป็นพิเศษอีก ไม่รู้สถานการณ์ของที่นี่ ดังนั้นสามคนนี้จึงดึงคนไม่น้อยเข้ามาพูดคุยกันเพื่อถามนั่นถามนี่ถึงอย่างไรคนที่อยู่ใกล้ด้วยก็น่าจะมีถึงยี่สิบกว่าคน ยี่สิบกว่าคนนี้ก็ยังมีคนที่ตนเองออกไปสัมผัสอยู่อีกและเพราะสามคนนั้นเป็นคนมาใหม่ คนไม่น้อยจึงจำไม่ได้ไม่รู้จัก ถ้าจะให้พวกเขาชี้ตัวคือยากมากผู้บริหารท้องถิ่นโหยวอยากจะประกาศป่าว ให้คนเหล่านั้นลุกออกมากันเอง อันเหนียนกลับรู้สึกว่าถ้าเป็นเช่นนี้ ผู้ประสบภัยอาจจะยิ่งหวาดกลัวเพราะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกขเาจะกลัวและไม่สงบ แล้วจะเข้ามาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"เรื่องพูดออกไปตรงๆ ไม่ได้ ต้องบอกว่าผู้ประสบภัยสามคนนั้นมีตัวตนฐานะน่าสงสัย ต้องทำการตรวจสอบ" อันเหนียนตัดสินใจแล้วผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเองก็เห็นด้วยแต่ว่าข้าราชการที่ออกไปประกาศตนเองก็กลัวเหมือนกัน ต้องการห
ถ้าหากฟู่จาวหนิงร้ว่านางกำลังคิดอะไร คงจะหัวเราะออกมาแน่องค์หญิงใหญ่ ตอนนี้กำลังตรวจรักษาอยู่นะ คิดอะไรกัน จะว่าไป ทางกดที่ปอดด้วย ไม่ใช่ที่หน้าอกตอนที่ตรวจฟู่จาวหนิงก็ใจจดใจจ่อมาก จะไปรู้ได้อย่างไรว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดเตลิดไปขนาดนั้น"อีกเดี๋ยวก็รีบต้มยาเสีย วันนี้ต้องดื่มยาสามห่อ ยาหนึ่งห่อต้มด้วยน้ำสามชามให้เหลือหนึ่งชาม"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น "อีกเดี๋ยวยาจะส่งเข้ามา แน่ใจว่าจะต้มเองนะ?" ประโยคด้านหลัง ฟู่จาวหนิงมองไปทางเฉินเซียงเฉินเซ๊ยงพยักหน้าทันที "เจ้าค่ะ"ก็ต้องแน่สิ"ข้าจะตรวจเจ้าด้วย มานั่งลงตรงนี้" ฟู่จาวหนิงชี้ไปที่เก้าอี้ข้างๆเฉินเซียงนั่งลงไปฟู่จาวหนิงก้มหน้าจับชีพจรให้นาง ตรวจอาการเฉินเซียงเองก็ติดแล้วเหมือนกัน แต่ยังไม่หนักเท่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แต่ว่านางเหนื่อยเกินไป ดวงตาเขียวคล้ำ"วันนี้ต้องนอนพักผ่อนให้ได้" นางเอ่ยขึ้นคำหนึ่งอาการป่วยจะรุกรานเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็วตอนที่ร่างกายอ่อนล้าขีดสุด"ข้าต้องปรนนิบัติองค์หญิงใหญ่" เฉินเซียงตอบเช่นนั้นก็แล้วแต่เจ้าเถอะฟู่จาวหนิงอยากจะตอบแบบนี้ แต่คำพูดค้างอยู่ที่มุมปาก จึงเปลี่ยนคำอื่น "ถ้าเหนื่อย
ความต้องการของเฉินเซ๊ยง ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ยังรับปากไปนางยอมจะให้ตนเองเหนื่อยอีกนิด ก็ไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธเพียงแต่เฉินเซียงไม่ค่อยฉลาด ตอนนี้นางเป็นหมอนะ ถ้าหากนางจะทำอะไรล่ะก็ นางห้ามได้เสียที่ไหนกัน?พวกนางไม่เข้าใจวัตถุดิบยาเลยด้วยซ้ำเดิมทีฟู่จาวหนิงก็คิดเช่นนี้ ผลลัพธ์คือเช้าวันต่อมาตอนที่นางเข้าไปตรวจ ก็ได้ยินเฉินเซียงกำลังพูดเสียงแผ่วกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"ข้าน้อยรู้ ว่าหมอเทวดาฟู่ไม่มีทางทำอะไรไม่ดีในวัตถุดิบยากับการรักษา แต่ถ้าหากในใจนางยังคงเคียดแค้นอยู่ล่ะ ให้คนถ่มน้ำลายหรืออะไรลงไปในยาน้ำ พวกเราจะทำอย่างไรกัน?""องค์หญิงใหญ๋ว่าไหม? เรื่องพวกนี้ แต่ก่อนข้าน้อยเคยได้ยินมา ในวังมีคนตั้งมากมายที่ทำ ป้องกันเท่าไรก็ไม่พอ ข้าน้อยไม่มีทางยอมให้องค์หญิงใหญ่ต้องถูกทำให้อัปยศเช่นนี้แน่"ฟู่จาวหนิงโมโหจนขำดังนั้นนิสัยของนางในใจเฉินเซียงต้องเลวร้ายแค่ไหนกันที่แท้ก็กันเรื่องพวกนี้อยู่ นางยังคิดว่ามาป้องกันตนเองจะทำอะไรในวัตถุดิบยาเสียอีก นี่นางคิดเยอะไปสินะแล้วจึงได้ยินเสียงแหบพร่าขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น วันนี้ตอนเช้า เสียงของนางก็เปลี่ยนไปแล้ว แหบลงเหมือนกระดาษทรายขัดอย
นางไม่ได้ถามอะไรอีก เดินไปจับชีพจรองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น วัดอุณหภูมิเกือบสี่สิบองศาเลย คิดไม่ถึงว่าเป็นไข้รุนแรงขนาดนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยังทนมาคุยกับนางได้ตั้งหลายคำ"นอกจากตัวร้อน ยังมีตรงไหนไม่สบายอีกไหม? ตรงไหนที่รู้สึกแย่บ้าง?""แค่ก ปวดหัว แล้วก็ดวงตาร้อนผ่าวไปหมด..."องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆ ตรงหน้าก็มืดไป คอพับคงมาฟู่จาวหนิงปฏิกิริยารวดเร็ว เข้ารับนางไว้ทันทีเฉินเซียงตกใจ "องค์หญิงใหญ่!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็โดนเข้าซะแล้วฟู่จาวหนิงดูอยู่พักหนึ่ง ต้นกำเนิดโรคคือครอบครัวของป้าหนิวหลังจากสังเกตก็พบว่าเฉินเซียงก็เริ่มมีไข้อ่อนๆแต่ว่าองครักษ์คนอื่นยังไม่ติด น่าจะเพราะเดิมทีองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้สึกว่าชายหญิงไม่ควรอยู่ใกล้กัน ดังนั้นจึงไม่ค่อยได้เข้าใกล้พวกเขาแต่ยังต้องสังเกตต่อฟู่จาวหนิงให้องครักษ์หลายคนนั้นไปหาห้องพักพักผ่อนก่อน ส่วนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกับเฉินเซียงต้องอยู่ที่ห้องนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหมือนได้พักหายใจมาตอบคำถามฟู่จาวหนิงพอดี จากนั้นก็เป็นไข้จนมึนหัว จนไม่รู้สึกตัวไม่ได้สติฟู่จาวหนิงคิดจะฉีดยาให้นาง แต่เฉินเซียงก็ไม่ยอมไปไหนอ
ฟู่จาวหนิงไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาทำอะไรเหมือนกับสืออี นางเองก็อยากรู้มากว่าฝ่าบาทต้าชื่อยอมปล่อยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นออกมาได้อย่างไรแต่ว่าตอนนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองข้ามปัญหาชื่อเรียกของนางไปแล้ว แต่เอ่ยกับนางอย่างอบอุ่นว่า "เชิญหมอเทวดาฟู่ถามอาการเถิด รบกวนท่านรักษาข้าด้วย"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ไม่ใช่คนโง่ ดูจากชุดแต่งกายประหลาดของฟู่จาวหนิง และการที่ฟู่จาวหนิงไม่ให้นางถอดสิ่งที่เรียกว่าหน้ากากปิดปากออก นางก็เดาได้ทันที ว่าโรคของตนเองน่าจะไม่ใช่โรคธรรมดาแต่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็ไม่ลนลานเลยแม้แต่น้อยถึงแม้โชคดีของนางหลายครั้งจะเป็นสิ่งที่คนทำขึ้น แต่เรื่องเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของตัวนางเอง อันที่จริงก็ถือว่ามีโชคดีอยู่มากอย่างเช่นตั้งแต่เด็กนางไม่ค่อยป่วย ต่อให้จะป่วยก็เป็นปัญหาเล็กๆ กระทั่งบางครั้ง การป่วยของนางยังช่วยให้นางเลี่ยงเรื่องแย่ๆ อีกด้วยเหมือนก่อนหน้านี้ที่นี่ไม่รู้ว่าทำไมจึงเวียนหัวจนเป็ฯลม ดังนั้นจึงกลับเมืองหลวงช้าไปสองวัน ผลคือในสองวันนั้น ระหว่างทางมีคนถูกโจรปล้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะนางป่วยจนต้องเลื่อนเวลา เช่นนั้นนางอาจจะไปเจอกับโ
สิ่งนี้ทำให้เฉินเซียงรู้สึกไม่พอใจแล้ว ทำไมถึงให้องครักษ์มาอยู่ด้วยกันกับพวกนาง?ห้องส้วมล่ะ? หรือว่าพวกนางต้องใช้ร่วมกับองครักษ์สามคนนี้ด้วย?อย่างนี้ได้ที่ไหน!สืออีหลังจากกำชับเสร็จก็ออกไปเตรียมของสิ่งของที่เหลืออยู่ของพวกเขาตอนนี้ไม่พอแล้วจริงๆ ดังนั้นจึงต้องแบ่งผ้าหุ่มของพวกเขาออกไปสามผืน แล้วนำออกไปของกิน ตอนนี้ก็เป็นแค่หมั่นโถวกับข้าวต้ม บวกกับกับข้าวอีกนิดหน่อย กับข้าวเองก็เหลือไม่มากแล้วหมั่นโถวของพวกเขาตอนนี้ก็ผสมแป้งอื่นเข้าไปด้วยแล้ว ไม่ได้อ่อนนุ่มหอมหวานเหมืนอตอนที่เพิ่งมาแล้ว ถึงอย่างไรกินให้ท้องอิ่มได้ก็ดีมากแล้วอันเหนียนกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวออกหาการบริจาคช่วยเหลือ หวังว่าสองสามวันนี้จะได้ผลลัพธ์อะไรบ้าง ไม่เช่นนั้นคงต้องเอาหมั่นโถวมานึ่งให้เล็กลงหน่อย ไม่แน่อาจจะต้องแบ่งของคนคนหนึ่งเป็นสองส่วนด้วยฟู่จาวหนิงพอดูเรื่องการฉีดยาให้ป้าหนิวเสร็จ ก็ดึงเข็มออก เก็บขวดเปล่ากับตะขอเกี่ยวเล็กกลับไป หลังจากออกประตูมาก็เปลี่ยนชุดป้องกันกับผ้าปิดปากและถุงมือใหม่ จากนั้นจึงไปยังฝั่งตรงข้ามเฉินเซียงพอเห็นนางเข้ามา ก็จำนางได้จากดวงตาของนางเพราะฟู่จาวหนิงห่อตัวมิดชิดย
ฟู่จาวหนิงเองก็คิดไม่ถึงว่าคนที่มาเมืองเจ้อจะเป็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพวกเขาก่อนหน้านี้คาดการณืไว้ ว่าฝ่าบาทของต้าชื่อไม่มีทางปล่อยให้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นออกมาแน่ที่บอกว่าจะเลือกราชบุตรเขยให้นางแต่เดิม ก็เป็นแค่คำหลอกองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทั้งเพองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนั้นไปที่เมืองจี้ ฝ่าบาทต้าชื่อยังส่งคนไปรับนางกลับวังหลวง ฝ่าบาทต้าชื่อรู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเป็นดาวนำโชคของเขามาตลอด โชคบนตัวนางล้วนจะเอามาไว้บนตัวเขาทั้งหมด ดังนั้นจึงมัดนางไว้ข้างกายแต่ตอนนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไม่เพียงแค่ออกมาจากวังหลวง แต่ยังเดินทางมาไกลถึงแคว้นเจา?!นี่มันไม่น่าเชื่อจริงๆไม่น่าเชื่อจนฟู่จิ้นเชินกับต่งฮ่วนจือก็กำลังคาดเดาเจตนาการมาขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแต่ว่า ตอนนี้พวกเขาไม่มีโอกาสได้ถาม เพราะฟู่จาวหนิงมีคำสั่ง ไม่ให้ใครก็ตามสัมผัสกับกลุ่มขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพวกขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกจัดไปยังห้องข้างฝั่งตะวันตก อยู่ตรงข้ามกับห้องผู้ป่วยของป้าคนนั้น คั่นไว้ด้วยสวนเล็กๆ ผืนหนึ่งสืออีให้พวกเขาสวมหน้ากากอนามัยทั้งหมดตอนแรกพวกเขาก้ไม่ค่อยยินดีนัก แต่ตอนนี้คนมาถึงแคว้นเจาแล้ว นี่เป็นถิ
สืออีขับรถม้าของตนเองออกไปรับคนแล้วเรื่องนี้เดิมทีก็แปลกอยู่หน่อยๆ ตอนนี้คนส่วนใหญ่ล้วนรู้ว่าเมืองเจ้อมีสถานการณ์เป็นอย่างไร ปกติจะไม่เข้ามากัน ต่อให้จะมาเยี่ยมญาติก็ตาม ไม่มีทางเลือกมาในเวลานี้หรือว่าคนที่มาจากต้าชื่อจะไม่เข้าใจสถานการณ์ของที่นี่?แต่ถ้าไม่ใช่ผู้ประสบภัย ถ้าหากในเมืองมีญาติอยู่ล่ะก็ บางทีอาจจะมีเงินอยู่ พอมาถึงจึงไม่ไปยังศูนย์สังเกตการณ์ น่าจะกลับไปที่บ้านญาติเลย หรืออาจจะไปพักโรงเตี๊ยมดังนั้น คนที่มาเป็นใครกันแน่?สืออีคาดเดาไปตลอดทาง แต่ตอนที่เห็นคนที่มา เขาก็ตกตะลึงไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น!ไม่ว่าสืออีจะคิดอย่างไร ก็คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่มาจะเป็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาได้อย่างไรกัน?ชั่วขณะหนึ่ง ในสมองสืออีกคิดไปมากมาย จะมากน้อยก็มีทฤษฏีสมคบคิดอยู่บ้างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกว่าจะสงบลงมาได้ หยุดไปแล้ว พอเห็นสืออี นางก็งงงันไปนิดหน่อย ยังจำเขาไม่ได้เพราะสืออีตอนนี้สวมชุดประหลาดแล้วยังสวมหน้ากากอนามัยด้วยแต่เพราะสายตาที่สืออีมองนาง ทำให้นางเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าจะต้องรู้จักนางแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่ตกตะลึงแบบนี้นางยังสวมผ้าคลุมอยู่ ถ้าม
"พระชายา เอาข้าวเช้ากับน้ำร้อนมาให้แล้วขอรับ"เสียงของสืออีดังลอดเข้าาฟู่จาวหนิงเดินออกไป "วางไว้ตรงนั้นเลย เจ้าอย่าเข้ามานะ"พอเหลือบมองไป นางยังเห็นฟู่จิ้นเชินด้วย พวกเขาคนหนึ่งหิ้วน้ำร้อน คนหนึ่งถืออาหารเช้า"จาวหนิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?" ฟู่จิ้นเชินยืนนิ่ง ถึงแม้อยากจะเดินเข้ามา แต่ก็รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะไม่ให้เขาเข้าไป"ข้าไม่เป็นไร คนป่วยข้างนอกพวกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงถามถึงสองพี่น้องเสี่ยวเฟิงเสี่ยวยา พอรู้ว่าพวกเขาไม่เป็นไร นางจึงวางใจลงได้ถือว่าโชคดีจริงๆ ที่หญิงสาวคนนี้มาถึงหลังจากที่พวกเขาทำงานไปแล้วหลายวัน ตอนนี้คนอื่นๆ ปรับตัวได้แล้ว ทำงานกันได้สมเหตุสมผลหมดแล้ว รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรถ้าเป็นเมื่อสามวันก่อน พอนางออกห่าง คนป่ววยพวกนั้นก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร คงจะวุ่นวายกันไปหมดแน่"ผู้ช่วยหมอสามคนที่ใต้เท้าอันหามาก็เพิ่งมาถึง ข้าให้เสี่ยวเยว่นำพวกเขาไปแล้ว ข้าเห็นว่าพวกเขาเองก็มือไม้คล่องแคล่วทำงานได้ดีอยู่ เจ้าไม่ต้องกังวล""ได้ สืออี ไปดูทหารขุนพลบัญชาการกับผู้ประสบภัยคนอื่นที่สัมผัสกับป้าคนนี้หน่อย ระวังด้วยนะ" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"่ขอรับ"สืออี