แต่ว่าพอได้ยินการเคลื่อนไหวเขาก็ยังไม่ตื่น ฟู่จาวหนิงกลัวว่าเขาจะเป็นไข้ จึงรีบเดินไปตรวจสอบ"เจ้าเรียกเขาว่าอะไรนะ?" เซียวหลันยวนตอนที่ได้ยินชื่อที่ฟู่จาวหนิงเรียนขึ้นมากลับหน้าเปลี่ยนสี "สกุลรองเขาคือเฮ่อเหลียนหรือ?"ฟู่จาวหนิงก็เพิ่งคิดออกว่าเขาเองก็เป็นคนในราชวงศ์แคว้นเจา คงไม่ได้รังเกียจเผ่าเฮ่อเหลียนด้วยกระมัง?ว่าตามหลักการแล้ว ในฐานะคนจากแคว้นเจาก็คงจะไม่ชอบคนนอกที่มาเล่นตุกติกชิงเอาแผ่นดินของพวกเขาไปหรอก แต่ได้ยินว่าการเดิมพันตอนนั้นคือเป็นฮองเฮาที่โง่เองยิ่งไปกว่านั้นเผ่าเฮ่อเหลียนเองก็ไม่แน่ว่าทุกคนจะเป็นคนเลว ฟู่จาวหนิงไม่ได้ปฏิเสธคนเผ่าเฮ่อเหลียนทั้งหมดเพราะเรื่องนี้หรอกแต่เซียวหลันยวนนั้นไม่แน่"ถูกต้อง ข้าพูดว่าเขาคือคนจากเผ่าเฮ่อเหลียน มาเมืองหลวงแคว้นเจาเพื่อหาคน"ฟู่จาวหนิงใช้หลังมืออังที่หน้าผากของเฮ่อเหลียนเฟย เขาเป็นไข้หน่อยๆ จริงๆ แต่ยังดีที่ไม่ใช่ไข้สูง ดูท่ายาของนางจะมีประสิทธิภาพดีมากไม่ใช่ไข้สูงปัญหาก็ไม่ใหญ่มากเขาอาจจะเหนื่อยเกินไปกระมัง"คนจากเผ่าเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนขมวดคิ้ว เอ่ยกับนางว่า "เจ้าจะเข้าไปยุ่งเรื่องของเขาหรือ?""อะไรคือยุ่งเรื
"จำเอาไว้ด้วยล่ะ"เซียวหลันยวนเองก็ไม่เกรงใจเลย"กินยานี่เสีย" ฟู่จาวหนิงหยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งส่งให้เฮ่อเหลียนเฟย ขณะเดียวกันก็ถลึงตามองเซียนหลันยวนผาดหนึ่ง คิดเล็กคิดน้อยเสียจริงเฮ่อเหลียนเฟยไม่ลังเลแม้แต่น้อย รับยาลูกกลอนไปแล้วกลืนทันที"เวลายังเช้าอยู่ ยังรีบตามไปได้" ฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน "ไม่แน่ว่ายังอาจจะไล่ตามทัน"ตามอะไรทัน?เซียวหลันยวนไม่มีปฏิกิริยากลับมา ฟู่จาวหนิงก็เตรียมประคองเฮ่อเหลียนเฟยขึ้นมา จะประคองเขาไปที่หลังม้า โชคดีที่เมื่อคืนนี้นางเอาม้าตัวหนึ่งมาจากจ้าวเฉิน ไม่เช่นนั้น คิดจะพาเฮ่อเหลียนเฟยออกจากเขาคงลำบากพอควรแต่ว่ามือของนางยังไม่ทันแตกเฮ่อเหลียนเฟย เซียวหลันยวนก็เดินเข้ามาแล้ว มือหนึ่งประคองเฮ่อเหลียนเฟย ยกเขาสะบัดขึ้นไปบนหลังม้าอย่างง่ายดายเฮ่อเหลียนเฟยเกือบจะสำลักยาลูกกลอนที่เพิ่งกลืนไปออกมา"ท่าน"เขากลืนคำพูดกลับไปชายคนนี้เมื่อคืนถือว่าช่วยชีวิตเขาแล้วฟู่จาวหนิงมองเขา รู้สึกว่าเด็กคนนี้นิสัยก็ไม่เลวนักนางเองก็ตรงไปเก็บหมาป่าที่ตายแล้วขึ้นมา ผูกไว้บนหลังม้าเซียวหลันยวนเหลือบมองนางผาดหนึ่ง "เก็บหมาป่าตายแล้วตัวนั้นมาทำไม? เจ้าคิดจะชิ
"กลับไปก่อน"เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง ฟู่จาวหนิงยังเอาแต่จะพูดกับพวกลู่ทง ไม่แม้แต่จะเหลือบมองเขา สีหน้าจึงขรึมลง หมุนตัวขึ้นหลังม้า ควบม้ากลับไปยังเรือนรับรองตะวันออกพอได้ยินเสียงกีบม้า ฟู่จาวหนิงก็มองออกไป และเห็นแผ่นหลังเซียวหลันยวนขี่ม้าออกไปนางเม้มริมฝีปากเขาก็รีบจะไปงานแข่งขันล่าสัตว์นี่นะ แล้วยังไม่ยอมรับอีก!พอมาถึงที่นี่ก็ร้อนเป็นไฟ ขนาดจะบอกนางว่าขอตัวไปก่อนสักคำก็ไม่มี!คุณหนูที่เขาต้องตาคนนั้น ชื่ออะไรนะ?คุณหนูจากตระกูลหลิน?"ลูกพี่หนิง พวกเราเมื่อวานนี้ก็ล่าหมูป่ามาได้ตัวหนึ่งกับกระต่ายอีกสามตัว พอบวกกับเลียงผาตัวนี้ของท่าน ก็คงไม่ได้แพ้จนย่อยยับนัก" ลู่ทงมองสิ่งของที่ฟู่จาวหนิงแบกกลับมาบนหลังม้าตัวนี้แล้วยินดีปรีดา "แล้วยังมี คนหรือ?"เอ๋ ทำไมถึงมีคนอยู่ด้วย?"ของพวกเจ้าเอาออกไปได้เลย" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ทำไมจึงอารมณ์ดิ่งวูบลงมา พอจัดการเหยื่อล่าเสร็จ ขณะเตรียมจะลากม้าพาเฮ่อเหลียนเฟยออกไป ก็เห็นเฉินซานกับเสี่ยวเถาวิ่งเข้ามา"คุณหนู!"พวกเขาสามวันนี้ร้อนรนจะแย่อยู่แล้ว และไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงอยู่ในภูเขาเป็นอย่างไรบ้าง จะบาดเจ็บหรือไม่เสี่ยวเถาเอ
"เกิดเรื่องหรือ?"ฟู่จาวหนิงรู้ว่าพวกของจ้าวเฉินไปพบกับฝูงหมาป่าดุร้าย แต่นางหนีออกมาก่อนแล้ว แน่นอนจึงไม่รู้ว่าตอนสุดท้ายเป็นอย่างไรฟางซือฉิงหลังคุยกับนาง นางจึงรู้ว่าพวกจ้าวเฉินเหล่าานั้นสักบักสะบอมพอสมควร ยิ่งไปกว่านั้นยังตายไปสองคนอีกด้วย สามคนบาดเจ็บไม่เบาเลย"แล้วจ้าวเฉินล่ะ?"ฟู่จาวหนิงอยากรู้ว่าจ้าวเฉินเป็นอย่างไร"เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ"ฟางซือฉิงกลัวหน่อยๆ "แต่ได้ยินว่าจ้าวเฉินหลังจากกลับมาก็นิ่งงัน แล้วยังบอกอีกว่าจะกลับมาคิดบัญชีกับใครสักคนด้วย"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว ในใจคิดว่าไม่หรอกมั๊ง? จ้าวเฉินคงไม่คิดจะเอาเรื่องที่ไปเจอกับฝูงหมาป่ามาลงที่ตัวนางหรอกนะ?"จ้าวหรูรอพี่ชายนางกลับมาตลอดเลย ไม่คิดว่าที่ได้มาจะเป็นผลเช่นนี้ วันนี้ข้าแอบออกไปมองดู นางโกรธจนเหวี่ยงพังของในห้องทั้งหมดเลย"ฟางซือฉิงร้องเชอะ "ข้าว่านางจะต้องอยากให้จ้าวเฉินกลับมมาช่วยนางระบายโกรธแน่ ทำอย่าไงรดี จาวหนิง เจ้าคิดวิธีแล้วหรือยัง? นางจะต้องไม่ปล่อยเจ้าไปแน่"ผู้เฒ่าซุนเองก็กังวลเรื่องนี้มาโดยตลอด พอได้ยินว่าฟู่จาวหนิงกลับมาแล้ว เขาก็รีบวิ่งตรงมาถามคำถามนี้กับฟู่จาวหนิงเหมือนกันคิดหาวิธีได้หรือย
นางถูกพวกหูจูหลอกให้มาเดิมทีไม่รู้ว่าจะมาที่นี่ รอจนรถม้าออกจากเมือง นางก็พบว่าไม่ถูกต้อง พอคิดจะลงจากรถเพื่อกลับ พวกของหูจูก็รั้งนางเอาไว้รถม้าของนางพังไปแล้ว เดิทีคิดว่าพวกหูจูหวังดีให้นางยืมรถม้า แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าหูจูจะมายังเขาเมฆอรุณ?นางคิดหาวิธีจะให้คนส่งจดหมายให้หน่อย ส่งจดหมายกลับไปสามฉบับแต่ก็ไม่มีข่าวกลับเลยอันชิงสงสัยว่าจดหมายของนางน่าจะถูกขวางเอาไว้ข้างกายนางเดิมทีมีสาวใช้อยู่สองคน แต่สองวันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สาวใช้คนหนึ่งถูกลวกที่เท้าจนบาดเจ็บ อีกคนหนึ่งก็ถูกลมจนไข้ขึ้นลุกไม่ไหวอันชิงเดิมทีไม่อยากเข้าร่วมการประชันกลอนนี้ แต่โหวอาวุโสน้อยอี้ก็พัวพันอยู่อยู่ตลอด นางรู้สึกว่าจะเอาแต่หลบก้ไม่ใช่เรื่อง จึงเข้าร่วมวาดภาพไปเลยพอได้ที่หนึ่งมา คนตั้งมากมายล้วนมองมาที่นาง อยู่ต่อหน้าคนขนาดนี้ โหวอาวุโสน้อยอี้คงไม่กล้ารุ่มร่ามใส่กระมัง?พอคิดเช่นนี้ อันชิงก็ลุกขึ้นคิดจะเดินหนี"ข้ากับท่านไม่มีอะไรต้องคุยกัน รบกวนหลีกทางด้วย"ที่นี่มีคนอยู่มากมาย ยิ่งไปกว่านั้นเพราะภาพของอันชิงได้ที่หนึ่ง เข้าคู่กับกลอนของจอหงวนด้วย ตอนนี้คนมากมายจึงมองมาทางนี้โหวอาวุโสอี้น
ลู่ทงกับเจิ้งหยางล้วนได้ยินคำพูดของจ้าวหรู สีหน้าเปลี่ยนไปทำไม เรื่องนี้ถึงดึงลูกพี่หนิงของพวกเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย?"จ้าวหรู เจ้าพูดไร้สาระอะไรน่ะ?"ลู่ทงเองก็โมโหถ้าบอกว่าเขาก่อนหน้านี้ยังหวาดกลัวนายท่านจ้าว จนไม่กล้าฉีกหน้าคนตระกูลจ้าวส่งเดช ดังนั้นก่อนหน้านี้ในภูเขาเยื่อที่ล่าจึงถูกพวกจ้าวเฉินแย่งไป เขากับเจิ้งหยางเองก็สะกดไฟโกรธเอาไว้อย่างเต็มที่ หนีออกมาหัวซุกหัวซุนนายท่านจ้าวเป็นคนที่ใจดำโหดเหี้ยม แล้วยังคอยปกปอ้งลูกสาวกับลูกชายด้วย ไร้เหตุผลเป็นพิเศษ พ่อแม่ของพวกเขาเหล่านี้ก็ล้วนยอมถอยให้เขาระดับหนึ่งดังนั้น เหล่าผู้อาวุโสก่อนหน้านี้จึงกำชับพวกเขามา ในเมืองหลวงไม่ว่าพวกเขาจะอาละวาดแค่ไหน จะไปยั่วโมโหใครตนเองก็วิเคราะห์ให้ดี อย่าสร้างความลำบากให้คนในบ้านแต่ว่าตอนนี้พอได้ยินจ้าวหรูพูดถึงฟู่จาวหนิงเช่นนี้ ลู่ทงเองก็ทนไม่ไหวแล้วคำพูดนี้พูดออกมาได้น่าขันเหลือเกิน!ลูกพี่หนิงล่อฝูงหมาป่าได้ด้วยหรือ?"ลู่ทง เจ้าพูดจาอย่างไรกันนี่?" ดวงตาจ้าวเฉินมองลู่ทงขรึมๆ สายตาเขียนแรงคุกคามไว้เต็มที่กล้าเสียเหลือเกิน นี่กล้าพูดเช่นนี้กับน้องสาวของเขาหรือ?"ข้าก็จะพูดอย่างนี้นั่นล่
สีหน้าเจิ้งหยางเองก็ไม่ค่อยดีแล้วดูท่าพวกเขาจะหาเรื่องยุ่งยากให้กับผู้อาวุโสที่บ้านเสียแล้วจ้าวหรูพอเห็นพวกเขาก็ไม่กล้าพูดแล้ว จู่ๆ ก็หยิ่งผยองขึ้นมา"โหวอาวุโสน้อยคงต้องพูดกับองค์จักรพรรดิดีดีเสียแล้ว จริงด้วย ข้าเองก็ไม่ได้เจอท่านฮองเฮานานแล้วด้วย คงต้องเข้าวังไปพบท่านเสียหน่อย ไปคุยกับนางเสียบ้าง"คนในลานล้วนรู้สึกกดดันคนเหล่านี้ล้วนอาศัยความโปรดปรานเบื้องหน้าองค์จักรพรรดิและฮองเฮา เออะไก็ยกองค์จักรพรรดิกับฮองเฮาออกมากดดันพวกเขาแต่ว่าพวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้"เอาล่ะ จ้าวหรู ไม่ต้องพูดไร้สาระกับพวกเขา"คำพูดที่โหวอาวุโสน้อยอี้พูดกับจ้าวหรูเมื่อครู่อันที่จริงก็น่าสนใจ "เจ้าเพิ่งพูดอะไรออกมานะ? ฟู่จาวหนิง?"ความสนใจของจ้าวหรูถูกดึงกลับมาแล้ว"ถูกต้อง ฟู่จาวหนิง ฟู่จาวหนิงหญิงสารเลวที่ก่อนหน้านี้เอาแต่วิ่งไล่ตามรัฐทายาทเซียวคนนั้น นางทำให้พวกของพี่ชายข้าพบกับฝูงหมาป่า นางยังแอบขโมยหมาป่าของพี่ชายข้าไปตัวหนึ่ง!"จ้าวหรูพูดพลาง สายตากำลังค้นหาในลาน คิดจะหาตัวฟู่จาวหนิงมีคนไม่รู้จักฟู่จาวหนิง แต่คนที่มากกว่าล้วนรู้จักเพราะไม่ใช่แค่เรื่องที่ฟู่จาวหนิงวิ่งไล่รัฐทายาทเซียวก่อนห
"ใครจะรู้?"จ้าวเฉินพูด "นางอาจจะใช้ยา ตอนนั้น นางบอกว่านางมาขุดยา แล้วยังแบกตระกร้าหลังอยู่ด้วยใบหนึ่ง"ฟู่เป่าเจินกับฟู่เจียวเจียวเดินหน้าเข้าใกล้ขึ้นมาพอได้ยินคำพูดของจ้าวเฉิน พวกนางก็มองตากัน จากนั้นก็สงสัยขึ้นมาคงไม่ได้พูดถึงฟู่จาวหนิงในบ้านพวกนางอยู่ใช่ไหม?คนอื่นพอได้ยินคำพูดนี้ก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้"คุณชายจ้าวน่าจะจำผิดคนแล้วล่ะ? ท่านรู้ไหมว่าฟู่จาวหนิงคนนั้นมีชื่อเสียงอย่างไรในเมืองหลวง?""ถูกต้อง คุณชายจ้าว ฟู่จาวหนิงหลายปีนี้เอาแต่วิ่งไล่รัฐทายาทเซียวอยู่ตลอด สิ่งที่นางรู้มากที่สุด ก็ฯ่าจะเรื่องที่ว่ารัฐทายาทเซียวชอบกินอะไรชอบฟังเพลงอะไรชอบไปเที่ยวเล่นที่ไหนมากกว่า จะไปขุดยาได้อย่างไรกัน?"มีคนเราะร่าขึ้นมาอีก เอ่ยประชดประชันขึ้นมาว่า "ก็ไม่ขนาดนั้น ได้ยินว่าฟู่จาวหนิงชอบเข้าไปขุดยาอยู่นะ เพียงแต่วัตถุดิบยาที่นางมองออกเหมือนจะไม่เกินสามชนิด มักจะขุดเอาพวกหญ้าป่าผักป่ากลับมาเป็นหญ้าสมุนไพร ทำเอาพวกเถ้าแก่ร้านขายยาเฮฮากันใหญ่เลย""ฮ่าๆๆ!ข้าเองก็เคยได้ยินมา!"จ้าวเฉินขมวดคิ้ว "ดังนั้น ฟู่จาวหนิงจริงๆ แล้วเป็นคนไม่ได้เรื่องหรือ?""บอกว่าคนไม่ได้เรื่องยังยกนางสูงไป
เป็นอย่างที่พวกเขาคาดเดาไว้ จวนชินอ๋องเซียวตอนนี้คึกคักน่าดูจวนอ๋องแขวนโคมไฟขาวแล้ว เหมือนกำลังจะจัดงานศพแต่ว่า หมอเทวดาหลี่กำลังด่าทอสาดเสียเทเสียอยู่ที่หน้าประตูจวนอ๋องด่าชินอ๋องเซียว แล้วยังด่าเซียวเหยียนจิ่งด้วย"เซียวเหยียนจิ่งเจ้าคนสารเลว! เจ้าเดรัจฉานไร้น้ำใจ! พ่อเจ้าตายไปยังไม่ทันได้ฝัง เจ้าก็ดันไม่ต้องการภรรยาเสียอย่างนั้น!""ลูกสาวข้าป่วยจากจวนชินอ๋องของพวกเจ้า จวนอ๋องของพวกเจ้ามันสกปรกเลวทราม เจ้าพวกหญิงสาวเหล่านั้นของเจ้าไปพูดเรื่อยเปื่อยกับลูกสาวข้า จนนางเข้าไปเอาของในห้องพ่อเจ้าแล้วติดโรคระบาดมา! พ่อสารเลวของเจ้า ต้องไปมั่วข้างนอกมาแน่ ตัวเองถึงได้ป่วยโรคสกปรกแบบนั้น พอเขาป่วย พวกเจ้าก็ไม่เอาสิ่งของไปเผาทิ้ง แต่ยังเก็บไว้ในบ้านเพื่อทำร้ายคนอื่น!""ลูกสาวข้าเป็นคนบริสุทธิ์ไร้เดียงสา สมองไม่ได้คิดเคี้ยวอะไร นางจึงรังแกง่าย แต่เพราะตามืดบอด เลยถูกวพวกเจ้าทำร้ายเอา แล้วยังถูกถพวกเจ้าสาดน้ำสกปรกใส่อีก!""เดิมทีเรื่องเหล่านั้นเกี่ยวอะไรกับนางกัน? เป็นเพราะเป็นความผิดของจวนชินอ๋องเซียวของพวกเจ้า! เซียวเหยียนจิ่งจ้าสารเลว หลอกหใ้ข้าพาจื่อเหยากลับบ้าน บอกว่ให้ข้าได้รักษา
ฟู่จาวหนิงตบหัวเขา "ครั้งนี้ที่ข้าเพราะมีเรื่องจะพูดกับพวกท่าน"นางหยิบขวดยาใบหนึ่งออกมา "นี่คือยาลูกกลอนที่ข้าสกัดขึ้นมาให้ พวกท่านเก็บเอาไว้"นางบอกกับเขาเรื่องของต้วนฉวิน บอกเรื่องโรคนั้นที่ชินอ๋องเซียวป่วย"่ต้วนฉวิน ตอนที่ข้าเพิ่งกลับเมืองหลวงเขาก็เข้ามารอบหนึ่ง ต่อมาก็ไม่เข้ามาอีกเลย แต่เมื่อวานนี้เขาส่งจดหมายมาฉบับหนึ่ง เชิญข้าไปดื่มสุรา ข้าไม่ได้รับปากไป"ฟู่จิ้นเชินคิดๆ เอ่ยต่อว่า "ต้วนฉวินคนนี้ พวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ด้วย แต่ว่า ตอนนั้นพวกเรากว่าจะออกไปจากเมืองหลวงได้ ตอนที่มึนงงไม่รู้จะไปไหนอยู่บนถนนทางการก็เจอเข้ากับเขา เขาให้กระเป๋าผ้าเก่าๆ เรามาสองใบ"ตอนนั้นที่ออกจากคุกมา แล้วยังมุดอยู่ในถังของคนเทขยะอีก ดังนั้นพวกเขาจึงตัวสกปรกมาก เสื้อผ้าเหม็นไปหมดต้วนฉวินเองก็ไม่กล้าช่วยพวกเขา กระทั่งไม่พูดกับพวกเขา โยนถุงผ้าลงมาจากรถม้า ด้านในมีเสื้อผ้าใหม่อยู่สองชุดดังนั้น นี่ถือเป็นการส่งฟืนให้กลางหิมะกระมัง"ข้าจำเขาได้แล้ว" เสิ่นเชี่ยวเอ่ยขึ้นมาคำหนึ่ง"เขาป่วยด้วยหรือ?" ฟู่จิ้นเชินถามฟู่จาวหนิง"เปล่า แค่เขากลัวตัวเองตาย ดังนั้นจึงกังวลอยู่ตลอด ข้าให้คนคอยจับตาดูไ
"จาวหนิง? เจ้าทำไมถึงกลับมาตอนนี้?" ฟู่จิ้นเชินมองนางอย่างประหลาดใจ จากนั้นจึงเห็นเซียวหลันยวนเดินตามเข้ามา"เมื่อครู่ไปทำธุระที่พันธมิตรโอสถมา"และก่อนที่นางจะถาม ตอนที่เซียวหลันยวนเดินเข้ามาช้ากว่าก้าวหนึ่ง ก็มีองครักษ์ลับรีบเข้ามารายงานกับเขาแล้วหลี่จื่อเหยาหกล้มตายอยู่ในบ้านคิดไม่ถึงว่าพอเข้าประตูมาก็จะได้ยินประโยคนี้"กำลังพูดถึงหลี่จื่อเหยาหรือ?" เขาถามขึ้นฟู่จิ้นเชินไม่แปลกใจที่เขาจะรู้ อ๋องเจวี้ยนน่าจะมีเส้นทางข่าวของเขาอยู่"ใช่ พวกเราเองก็เพิ่งได้ข่าว หลี่จื่อเหยาหกล้มจนตายในบ้าน"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงนิ่งไปแล้ว"อะไรนะ? หกล้มจนตายหรือ?"ไม่ใช่ว่าชินอ๋องเซียวตายไปแล้วหรือไรกัน?หลี่จื่อเหยาถูกส่งกลับจวนตระกูลหลี่ างยังคิดยอู่ว่าสองวันนี้จะเข้าไปหาข่าวว่าหมอเทวดาหลี่จะรักษาอาการป่วยนางได้ไหม แต่นี่คือหลี่จื่อเหยาตายไปแล้วหรือ?ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนฝันไป"ทำไมถึงหกล้มแล้วตายล่ะ?" ฟู่จาวหนิงหาเสียงตัวเองกลับมาได้ จึงถามไปอีกคำหนึ่ง"พวกเจ้ารู้เรื่องที่เซียวเหยียนจิ่งเขียนจดหมายหย่ากับนางไหม?""จดหมายหย่า?"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนสบตากันผาดหนึ่งเรื่องนี
"พระชายารัฐทายาท! รัฐทายาทเขียนหนังสือจะหย่ากับท่านแล้ว ท่านถูกหย่าร้างแล้ว! ข้ากับเสี่ยวเหมยเป็นคนของจวนชินอ๋องเซียว พวกเราต้องรีบกลับไปแล้วสินะ?"สาวใช้อีกคนก็ถลึงตาโต "จริงหรือ?""จริงสิ! นี่หมอเทวดาหลี่พูดออกมาจากปากเลยนะ""เช่นนั้นพวกเราก็ต้องรีบกลับจวนชินอ๋องแล้วสิ!"สาวใช้สองคนนั้นไม่มองหลี่จื่อเหยาด้วยซ้ำ รีบเก็บของเตรียมจะหนีแล้วพวกเขาอยู่ที่นี่กลัวติดโรคก็เรื่องหนึ่ง หลักๆ คือหลี่จื่อเหยาปรนนบัติยากเสียเหลือเกิน! ถ้ายังอยู่ต่อไป พวกเนางไม่ทันได้ติดโรคก็อาจจะถูกทรมานจนตายไปก่อนแล้วจนตอนที่พวกหนีไป หลี่จื่อเหยาก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัวนางคิดอยู่ตลอด ว่าเมื่อครู่นางได้ยินอะไร?บอกว่าเซียวเหยียนจิ่งเขียนจดหมายหย่ากับนางหรือ? ไม่หรอก? เป็นไปไม่ได้หรอก?"ท่านพ่อ"หลังจากตั้งตัวได้หลี่จื่อเหยาก็ร้องเสียงแหลมขึ้นมาหมอเทวดาหลี่ยังคิดว่านางเกิดเรื่องอะไรขึ้น ปิดปากลากขากะเผลกเข้ามา หลี่จื่อเหยาคิดจะหนีออกไป แต่ว่านางนอนอยู่บนเตียงนานเกินไป จู่ๆ พอหนีไปแบบนี้ เท้าซ้ายสะดุดกับเท้าขวาพอเห็นท่าทางการเคลื่อนไหวของนางผิดปกติ หมอเทวดาหลี่ก็รู้สึกไม่ค่อยดี จึงตะโกนขึ้นมา "อย่าวิ่ง
"นายท่าน ที่ประตูไม่รู้ทำไมจึงมีนักดนตรีมาร้องเพลงอยู่กลุ่มหนึ่ง..."ผู้ดูแลหน้าดำกลับมารายงานสถานการณ์กับหมอเทวดาหลี่ แต่ว่าเขาพูดไม่ออกว่าพวกเขาร้องเพลงอะไร เพียงแต่เมื่อครู่ที่เปิดประตูใหญ่ ยังไม่ทันได้ปิด ลมด้านนอกก็พัดเข้ามา นำเสียงเพลงที่เด็กสาวร้องเข้ามาด้วยนั่งอยู่ที่โถงหน้านี้ หมอเทวดาหลี่ก็ยังได้ยินประโยคครึ่งประโยคนั่น"วันดีอะไรกัน?" เขาถามขึ้นอย่างงงงันไม่ทันที่ผู้ดูแลจะตอบ เขาก็รู้สึกว่าตนเองต้องออกไปดูเสียหน่อย เพราะเมื่อครู่โดนผลกระทบไปรุนแรงมาก เขายังไม่รู้ว่าควรจะไปบอกอย่างไรกับลูกสาว ถึงเรื่องที่นางถูกเซียวเหยียนจิ่งขอหย่าสมองนี่ยังตื้ออยู่ จึงคิดจะออกไปขยับเนื้อขยับตัวเสียหน่อย ออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"นายท่าน..."ผู้ดูแลคิดจะห้ามเขา แต่ก็ห้ามไม่อยู่ คิดๆ แล้วจึงทำได้แค่เดินตามออกไปเขาไม่รู้เลยว่านายท่านหลังจากออกไป ถ้าได้ยินเนื้อร้องของอีกฝ่ายแล้วจะโมโหจนตายเลยไหม"ออกมาแล้ว ออกมาแล้ว ร้องให้ถึงใจอีกหน่อย!"เฉินซานพอเห็นหมอเทวดาหลี่ ก็รีบเตือนเสียงกระซิบกับแม่นางน้อยทันที "หัวเราะ หัวเราะให้มันเบิกบานไปเลย"แม่นางน้อยก็ระเบิดเสียงหัวเราะร่าออกมาทันที
ฟู่จิ้นเชินหัวเราะขึ้นมา จากนั้นจึงกวักมือเรียกเฉินซาน กำชับกับเขาสองสามคำเฉินซานหลังจากฟังแล้วดวงตาก็เปล่งประกาย พยักหน้าออกไปจัดการผู้เฒ่าฟู่มองลูกชาย จากนั้นก็มองหลานชาย แล้วก็มองไปยังภรรยาลูกชายที่ไม่มีความเห็นอะไร ถามขึ้นมาว่า "จิ้นเชินเอ๋ย เจ้าให้เฉินซานไปทำอะไรล่ะนั่น?""ท่านพ่อ ไม่ใช่ว่าต้องฉลองหรือ? ก็แค่ไปเตรียมการฉลองน่ะ" ฟู่จิ้นเชินตอบผู้เฒ่าฟู่ชะงักไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยต่อว่า "การถูกหย่าร้างสำหรับหญิงสาวแล้ว เป็นเรื่องที่น่าเวทนามากนะ พวกเราไปทับถมคนอื่นแบบนี้ มันดูไม่ค่อยดีหรือเปล่า?"เขาคิดว่าทำเรื่องแบบนี้แล้วจะดูโหดเหี้ยมเกินไป"ท่านพ่อ ข้าได้ยินเสี่ยวเฟยบอกว่า หลี่จื่อเหยาคนนี้ วันที่จาวหนิงของพวกเราแต่งงาน เข้ามาขวางเกี้ยวเจ้าสาวของนาง คิดจะดึงนางในเกี้ยวออกมาแล้วยังรังแกนางอีกนะ" เสิ่นเชี่ยวเอ่ยปากขึ้นบ้างแล้วหลังจากที่นางกลับเมืองหลวงก็หาคนไปสอบถามเรื่องวันนั้นอย่างละเอียดคนที่บอกกับนางมากที่สุดคือเซี่ยซื่อเซี่ยซื่อตอนนั้นแม้จะไม่อยู่ในเหตุการณ์ แต่หลังจากเกิดเรื่อง นางก็ได้ยินคนไม่น้อยพูดกัน ยิ่งไปกว่านั้น นางยังไปถามคนที่เห็นมากับตาอีกด้วยเสียงของเ
หลังจากทั้งสองคนถอยออกมา ก็นึกออกขึ้นพร้อมกัน ว่าชินอ๋องเซียวตายแล้ว และตรงหน้าคนนี้ ก็ถูกชินอ๋องเซียวระบาดมาใส่!นั่นก็เท่ากับว่า นางอาจจะตายเร็วๆ นี้หรือ?นี่มันเป็นโรคที่พรากชีวิตไปได้รวดเร็วเหลือเกิน!พวกเขาตัวสั่นพังพาบ!หลี่จื่อเหยามองสายตาตกตะลึงพรั่นพรึงของพวกเขา ก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาเช่นกัน และพอตอบสนองขึ้นมา นางก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะระเบิดออก"พูดอะไรน่ะ? พูดอะไรกันแน่? พ่อสามีของข้าตายได้อย่างไรกัน?" เสียงของนางสั่นพร่าขึ้นมา"ป่วยขอรับ ป่วยตายขอรับ ไม่ได้ถูกลอบสังหาร..." เสียงของผู้ดูแลก็สั่นพร่าขึ้นมาหลี่จื่อเหยาหน้ามืด สลบลงไป"เหยาเอ๋อร์" หมอเทวดาหลี่ตกใจสะดุ้งโหยง"ตึง!"ไม่มีคนเข้าไปประคองหลี่จื่อเหยา นางจึงล้มลงไปกับพื้นทั้งอย่างนั้นดูแล้วแสนเวทนา แต่หมอเทวดาหลี่ก็ไม่กล้าเข้าไปประคองนางจริงๆเขาดีดตัวร้องเรียกขึ้นมา "ใครก็ได้ ใครก้ได้!"สาวใช้ตัวสั่นพังพาบวิ่งเข้ามา พวกนางปรนนิบัติหลี่จื่อเหยามาหลายวันแล้ว ไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่ไปประคองหลี่จื่อเหยาส่งกลับไปที่เตียง"เร็ว ไปถามรัฐทายาทเซียวให้ชัดเจน" หมอเทวดาหลี่เอ่ยขึ้นและตอนที่คนของเขาส่งไปหาข่าวยั
หลี่จื่อเหยาถือว่าเป็น "คู่มือ" กับฟู่จาวหนิงมาหลายปีแล้ว คนที่นางกับฟู่จาวหนิงแย่งกันมาหลายปีก็คือเซียวเหยียนจิ่งตอนนี้นางคือภรรยาของเซียวเหยียนจิ่ง ฟู่จาวหนิงเป็นแค่คนที่ถูกถอนหมั้นวันนั้น แล้วไม่มีทางเลือกจึงหันไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน จึงไม่ควรมีชีวิตดีกว่านาง"อ๋องเจวี้ยนเป็นคนที่อยู่ได้ไม่กี่ปีแล้วแท้ๆ แล้วนางก็จะเป็นม่ายเร็วขึ้น! ถึงอย่างไร ข้าก็ยังดีกว่านาง!"หลี่จื่อเหยาร้องเสียงแหลม "ท่านพ่อ ท่านต้องรักษาข้าให้ได้ ท่านจะให้ข้ากินยาตอนไหน? หน้าของข้าจะต้องดีขึ้น ไม่ ท่านต้องช่วยข้าทำยาบำรุงผิว ข้าจะสวยขึ้น ข้าจะออกไปหาฟู่จาวหนิง ข้าจะไปดูหน้าอ๋องเจวี้ยนให้ชัดๆ!""เจ้าสงบลงหน่อยเถอะ ตอนนี้ข้ายังไม่รู้เลยว่าเจ้าป่วยเป็นอะไรกันแน่ แล้วจะไปหายามาจากไหน!"หมอเทวดาหลี่ได้ยินนางร้องเสียงดังขนาดนี้ ก็รู้สึกปวดหัวหน่อยๆ"ท่านยังไม่ได้เข้ามาจับชีพจรให้ข้าเลย! ไม่ใช้ต้องมาดูฟังสอบถามจับชีพจรใกล้ๆ หรือ? ท่านพ่อ ท่านเอาแต่ยืนอยู่ด้านนอก แค่เข้ามาดูข้าสักหน่อยก็ไม่มี แล้วท่านจะทำยาอะไรออกมาได้กัน?"หลี่จื่อเหยาพูดประโยคหนึ่งสะกิดเข้ากลางใจ "ท่านพ่อ หรือว่าท่านจะกลัว? ขนาดท่านยังกลัวว
เขามองนาง ราวกับมองคนโง่คนหนึ่ง"เหยาเอ๋อร์ ตอนนี้เจ้ายังคิดจะชิงดีชิงเด่นกับฟู่จาวหนิงอยู่อีกหรือ?""อะไรคือข้าไปชิงดีชิงเด่นกับนางกัน? เดิมทีข้าก็เก่งกว่านางอยู่แล้ว คู่หมั้นของนางข้าบอกจะแย่งก็แย่งมาได้ นางไล่ตามเซียวเหยียนจิ่ง อ้อนวอนอยู่หลายปี ผลลัพธ์ก็ยังแพ้ให้ข้านี่?""นางไม่ต้องการเซียวเหยียนจิ่งตั้งนานแล้ว ตอนนี้นางเป็นถึงพระชายาอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนปฏิบัติกับนางราวกับจันทร์ส่องแสง!""แล้วมันทำไมกัน? ท่านพ่อ ท่านออกจากบ้านไปตั้งนาน ยังไม่ได้ยินข่าวหรือ? ครึ่งปีก่อน มีคนเห็นใบหน้าของอ่องเจวี้ยน หน้ากากของเขาถูกกระชากออก เผยให้เห็นใบหน้าแท้จริง น่ากลัวขนาดไหนท่านรู้ไหม?"หลี่จื่อเหยาถูกขังอยู่ในเรือนหลังไม่ได้รับข่าวอะไรมาตลอด ข่าวจึงล่าช้าไปตั้งไม่รู้นานเท่าไรแล้วแต่ว่าพูดถึงเรื่องนี้ก็ยังขึ้นมาก็ค่อนข้างจะตื่นเต้นอยู่ "ท่านพ่อ ท่านยังไม่รู้กระมัง? คนในเมืองหลวงล้วนกำลังพูดกันว่า อ๋องเจวี้ยนมีหน้าเหมือนผีเลย! แล้วยังมีเด็กเ,้กตั้งหลายคนพอได้ยินชื่อของเขาก็ตกใจจนร้องไห้จ้า! เขาตอนนี้ออกจากบ้านก็ยังต้องใส่นห้ากากอยู่ใช่ไหมล่ะ? ท่านคิดว่า ฟู่จาวหนิงจะชอบเขาได้หรือ?""นาง