แชร์

บทที่ 1355

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
ในห้อง สาวใช้หลายคนเก็บกวาดเสร็จแล้ว กำลังเตรียมจะถอยออกไป

"นี่กำลังวุ่นอะไรกันหรือ?" ฟู่จาวหนิงพอถามจบ ก็เห็นสีแดงเต็มห้อง ม่านสีแดง ผ้าห่มเครื่องนอนสีแดง แล้วยังมีหมอนคู่รักอีกด้วย

บนโต๊ะมีเชิงเทียนทองแท้แปดเชิง ด้านบนมีเทียนแดงแปดเล่ม

หน้าต่างแขวนโคมแดงไว้ โบกไหวตามลม

กระทั่งบนโต๊ะแปดเซียนยังวางกาน้ำชาถ้วยน้ำชาไว้ และยังเคลือบด้วยสีแดง วาดลวดลายเป็ดเยวียนยางเอาไว้ด้วย

ให้ตายเถอะ...

ฟู่จาวหนิงพอเห็นฉากเช่นนี้ ก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมา

นางมองไปทางเซียวหลันยวนด้วยสัญชาตญาณ แต่ก็ไม่เห็นใบหน้าเซียวหลันยวน เพราะหน้ากากของเขายังไม่ปลดลงมา

แต่พอเซียวหลันยวนเอ่ยปาก ความยินดีที่น่าพึงพอใจก็หลั่งทะลักออกมา

"จัดการได้ไม่เลว ตบรางวัล"

สาวใช้เหล่านั้นดีใจกันขึ้นมา ทยอยกันคารวะ "ขอบคุณท่านอ๋อง!"

พวกนางได้ยินผู้ดูแลกำชับให้มาจัดการ และท่านผู้เฒ่าตระกูลฟู่ก็เข้ามาพอดี ช่วงเวลาที่คุยกันอยู่ที่โถงหน้าก็ให้พวกนางได้มาจัดการตกแต่งกัน

คิดไม่ถึงว่าจะได้รางวัลจากท่านอ๋องด้วย

หลายปีมาแล้ว นอกจากของขวัญและเงินที่ท่านอ๋องมอบให้กับทุกคนในจวนช่วงปีใหม่แล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกเลย

เหล่าสาวใช
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1356

    "ท่านอ๋องโปรดระงับความโกรธ ช่วงนี้มีคนบางส่วนก่อความวุ่นวาย จงใจยัดคนหลายคนเข้ามาในจวนอ๋อง" โม่เหอเอ่ยรายงานเสียงต่ำกับเซียวหลันยวน "สาวใช้เมื่อครู่ชื่อว่าชิวอวิ๋น เป็นหนึ่งในนั้น พระชายาเยว่ส่งเข้ามา""พระชายาเยว่?""ลูกสาวคนเล็กจากตระกูลเยว่ เข้าวังสามเดือนก็ได้รับความโปรดปราน ช่วงนี้กำลังเป็นที่จับตามอง กระทั่งฮองเฮาเองก็ยังเสียเปรียบให้กับนางเลย"ตระกูลเยว่ เดิมทีเป็นตระกูลขุนพลรบ เพียงแต่ก่อนหน้านี้พ่อลูกของตระกูลเยว่สามคนตายในการรบ เหลือเพียงนายท่านสามเยว่คอยดูแลตระกูล เดิมทีทุกคนคิดว่าจะตกอับไปแล้ว ไม่มีใครสนใจเซียวหลันยวนก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้สนใจตระกูลเยว่แต่ก็คิดไม่ถึงว่าตระกูลเยว่จะสร้างความสำเร็จออกมาได้ด้วยตัวคุณหนูเยว่เพียงคนเดียวสามเดือน ก็เป็นพระชายาแล้ว?เดิมทีเขาไม่อยู่ในเมืองหลวง ก่อนหน้าที่จะไปก็กำชับพวกเขาไว้แล้ว ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่มาเกินไปก็ปล่อยผ่านได้ รอเขากลับมาแล้วค่อยจัดการคิดแล้วการถูกยัดสาวใช้หลายคนเข้ามานี่ก็คือเรื่องเล่านั้นสินะสาวใช้ที่ชื่อชิวอวิ๋นคนนี้ก็ดูไม่นิ่งสักเท่าไร เขาเพิ่งจะกลับมาวันแรกก็คิดจะลงมือทำอะไรเสียแล้วในดวงตาเซียวหลันยวนมี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1357

    "แค่รู้สึกว่าพออยู่ในมือเจ้าแล้วมันน่าจะหวานเป็นพิเศษ" เสียงของเซียวหลันยวนขรึมต่ำน่าดึงดูด ฟังแล้วหูคันยุบยิบฟู่จาวหนิงกำลังจะพูดอะไร จู่ๆ ก็รู้สึกหน่วงๆ ที่ท้องน้อยนางตัวแข็งทื่อ ค่อยๆ เงยหน้ามองเซียวหลันยวน ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดีนางมองไม่ออกเสียที่ไหน เซียวหลันยวนกำลังเฝ้ารอคืนนี้อย่างเห็นได้ชัด กระทั่งรอมาตลอดทางด้วยซ้ำแต่นางเดิมทีอยากจะหารือกับเขาดีดีก่อน กลับมาหลังเผชิญความยากลำบากมาตลอดทาง ยังไม่รู้ว่าเมืองหลวงตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรกันแน่ องค์จักรพรรดิถ้าเผื่อเตรียมแผนมากมายไว้รับมือพวกเขาล่ะ เช่นนั้นหลังจากที่กลับมาพวกเขาคงจะอยู่กันไม่สงบสุขนักภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เดิมทีก็ยังไม่เหมาะที่จะมีลูกแต่ว่ายุคสมัยนี้มาตรการการคุมกำเนิดยังไม่ดีพอ นางเองก็ยังไม่ได้คิดว่าจะใช้ยาอะไรจากในคลังสกัดยา ดังนั้น ทางที่ดีจึงอย่าเพิ่งหลับนอนกันจะอย่างไรก็ต้องรอสักเดือนนั่นล่ะ?แต่เมื่อครู่พอเห็นท่าทีร้อนรุ่มของเซียวหลันยวน คืนนี้นางคงเลี่ยงไม่พ้นแน่ส่วนถ้าตอนนี้..."มีอะไรหรือ?"เซียวหลันยวนพอเห็นสีหน้าของนางใจก็สั่นกึก ดูแล้วเหมือนจะเกิดอะไรขึ้น"อายวน ข้า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1358

    สองปีนี้ถึงแม้นางจะบำรุงขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ดีขึ้นอย่างเต็มที่ ดังนั้นช่วงมีประจำเดือนจึงหนักหน่อยเซียวหลันยวนยังให้เฝิ่นซิงเข้ามาประคองตัวฟู่จาวหนิงจนฟู่จาวหนิงออกไป เขาก็เดินไปข้างเตียง บีบๆ ความหนาของผ้าห่ม จากนั้นก็กอดขึ้นมาชั่งน้ำหนักดูผ้าห่มจะบางไปหรือหนาไปก็ไม่ได้ กลัวว่าถ้าหนักเกินไปจะกดจนฟู่จาวหนิงรู้สึกไม่สบายดูแล้วพวกของหงจั๋วเองก็เอาใจใส่อยู่ ผ้าห่มนี้ไม่หนาไม่บาง แล้วยังพองฟู่ น่าจะไม่ค่อยหนักด้วยแต่พอมองสีแดงทั้งห้องนี้แล้ว เซียวหลันยวนก็ยังยกมือขึ้นกุมหน้าผากแล้วถอนหายใจดูท่ายังต้องรอไปก่อนจวนอ๋องเจวี้ยนไม่ได้คึกคักเช่นนี้มานานแล้วผู้ดูแลจงวุ่นนั่นวุ่นนี่ ในห้องอาหารสุรากับสำรับก็จัดเตรียมเรียบร้อย จึงส่งคนมาเชิญผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวเฟยเซียวหลันยวนจูงฟู่จาวหนิงเข้ามาด้วยเช่นกันพอเห็นมือที่จูงกันมา ผู้ดูแลจงก็ยิ้มจนตาหยีเป็นร่อง"ท่านอ๋องกับพระชายาดูแล้วรักใคร่กันดีเหลือเกิน"ฟู่จาวหนิงพอเห็นผู้เฒ่าฟู่กับเสี่ยวเฟยเข้ามา ก็เตรียมจะดึงมือออก แต่เซียวหลันยวนกลับจับมือนั้นไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยนางมองเขา ให้คนเห็นแล้วไม่รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองหรอกหรือ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1359

    พอเห็นหน้ากากของเซียวหลันยวน ใจของผู้เฒ่าฟู่ก็หนักอึ้งขึ้นมาเขาไม่สนใจเนื้อปลาชิ้นนั้นแล้ว ยกถ้วยสุราขึ้นมาดื่มพอเห็นเขาเป็นเช่นนี้ เซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงจึงสบตากันผาดหนึ่ง"ท่านปู่?"ผู้เฒ่าฟู่ยังมีเรื่องค้างคาในใจหรือ?อารมณ์กระดี๊กระด๊าของฟู่จาวเฟยก็กดลงมาด้วยเช่นกัน เขามองฟู่จาวหนิง จากนั้นก็มองเซียวหลันยวนอยากจะพูดแต่ก็หยุดไว้พี่เขยตอนนี้ดูแล้วดีมากเลย เพียงแต่...เซียวหลันยวนเองก็นั่งลงมา มองไปยังผู้เฒ่าฟู่"ท่านปู่ มีเรื่องอะไรก็เชิญพูดมาเถิด"ผู้เฒ่าฟู่ปากขยับ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มองไปทางพวกเขา"ก่อนหน้านี้เจ้าไม่เคยเรียกข้าแบบนี้" เขาเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนชะงักไปก็จริงเพราะก่อนหน้านี้ระหว่างพวกเขามีเรื่องวางยาพิษของฟู่หลินซื่อมาคั่นกลางไว้ตอนนั้น เขาคิดถึงผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ก็คือตนเองไม่ต้องไปเอาผิดกับพวกเขา ไม่ล้างแค้น ไม่กดดันพวกเขา ให้พวกเขาใช้ชีวิตกันไปเช่นนี้ไม่ต้องติดต่อกันเลยจะดีที่สุดแต่เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าตนเองจะพ่ายแพ้ใจทั้งดวงให้กับฟู่จาวหนิง?ตลอดทางที่กลับมาแคว้นเจานี้ เขาคิดไปมากมายท้ายสุดก็รู้สึกว่า ต่อให้ครั้งนั้นฟู่หลินซื่อจะเป็นคน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1360

    เรื่องของบ้านตระกูลเสิ่น พวกเขาก็ยังไม่ได้พูดถึงเลยพอฟังเรื่องนี้ ความสนใจของผู้เฒ่าฟู่ก็เบนไปแล้วจริงๆ"บ้านตา?""ท่านพี่กำลังพูดถึงท่านเสิ่นใช่ไหม?" ฟู่จาวเฟยดวงตาเป็นประกาย "ท่านพี่ก่อนหน้านี้เรียกเขาว่าท่านลุง บอกว่าเขาเป็นพี่ชายของท่านแม่ ถ้าอย่างนั้นพ่อแม่ของท่านลุงก็รับเป็นญาติแล้วหรือ?"ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะคาดเดาอย่างไรก็ยืนยันออกมาจริงๆ ไม่ได้ ผู้เฒ่าฟู่เองก็ยังกังวลอยู่ เขาเองก็ไม่รู้ว่าตระกูลเสิ่นนั้นสถานการณ์เป็นอย่างไรกันแน่ ตอนนี้พอได้ยินฟู่จาวหนิงยืนยันว่าเป็นท่านตาแล้ว เขาก็ยินดีออกมาด้วยเช่นกัน"ใช่ ครั้งนี้ข้าไปรักษาอาการป่วยให้ท่านยายมา และพักอยู่ที่บ้านตระกูลเสิ่นพักหนึ่ง ตอนที่ข้ากลับ ท่านตากับท่านยายยังไม่ทันได้เห็นท่านพ่อท่านแม่เลย..."แม้ระหว่างทางจะได้รับจดหมายจากเสิ่นเสวียน บอกว่าพวกเขารู้จักกันแล้ว แต่สถานการณ์หลักๆ ยังไม่ทราบ"ดี ดีดีดี ตระกูลหลินเดิมทีก็ไม่ได้ดีกับนางนัก ตอนนี้พอยืนยันว่าตระกูลเสิ่นเป็นบ้านที่แท้จริงของนาง เช่นนั้นพวกเจ้าพี่น้องนับจากนี้ก็มีญาติเพิ่มมาอีกฝ่ายแล้วสินะ..."ที่ผู้เฒ่าฟู่ดีใจที่สุดก็คือจุดนี้"ก่อนห้านี้ข้าก็กังวล ว่าห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1361

    ฟู่จาวหนิงยังคิดจะพูดต่อ ทว่าฝ่ามือก็ถูกกำไว้แน่นนางตะลึงงันไป มองไปทางเซียวหลันยวนตอนนี้ยังมองไม่เห็นสีหน้าเซียวหลันยวน แต่นางสังเกตได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเขาเดิมที เขาคิดจะปลดหน้ากากลง ให้พวกผู้เฒ่าฟู่เห็นหน้าตาของเขาชัดๆแต่ก็ไม่ทันแล้ว ผู้เฒ่าฟู่เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนตอนนี้ปลดหน้ากากลง อันที่จริงจะใช้การได้กว่าคำพูด ใบหน้าของเขากลับมาหายดีแล้วแต่ว่า มันก็เหมือนเป็นเข็มที่ทิ่มแทงบนใจเซียวหลันยวนถ้าหากหน้าของเขายังไม่หายดีล่ะ?นั่นก็จะหมายความว่าเขาคนนี้ หัวใจดวงนี้ สิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดมันไม่มีความหมาย และต้องถอยห่างออกมาจากข้างกายฟู่จาวหนิงเพราะใบหน้านี้น่ะหรือ?เขาไม่สามารถรั้งนางไว้ได้กระทั่ง เขาจะเป็นท่านอ๋องก็ไม่ได้ สมควรต้องตายเพราะใบหน้านี้ความหมายการคงอยู่ของตัวเขา ก็แค่ใบหน้านี้เท่านั้นหรือ?ความรู้สึกนี้ ไม่อาจบอกกับทุกคนให้เข้าใจได้ แต่ในใจเซียวหลันยวนตอนนี้ก็เย็นชาลงแล้วจริงๆจู่ๆ เขาก็ไม่อยากจะปลดหน้ากากลงให้คนอื่นคิดว่าเขายังมีใบหน้าเหมือนผีไปเสีย แล้วโลกนี้จะว่าอย่างไร? จะให้เขาทำอย่างไร?"คนของเมืองหลวง พูดถึงข้าอย่างไรกัน?" เซียวหลันย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1362

    "และยังบอกอีกว่า ตอนเจ้ายังเล็กมากก็ติดพิษอีก เป็นไปได้ว่าคนที่รู้ความจริงคิดจะชิงลงมือกับโชคชะตาแคว้นเจาก่อน สะกดมังกรร้ายเอาไว้ เพื่อปกป้องโชคชะตาของมังกรแท้จริงแห่งแคว้นเจา ปกป้องโชคชะตาแคว้น"ฟู่จาวหนิงถลึงตาโตทำไมยิ่งพูดก็ยิ่งไปกันใหญ่แล้ว?เรื่องวางยาพิษตอนนั้น ถูกตีความเอาไว้เช่นนี้หรือ?ในใจนางรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น"ท่านปู่...""จาวหนิง เจ้าให้ข้าพูดให้จบก่อน""อืม พูดให้หมดเลย ข้าเองก็อยากจะฟังเหมือนกัน" เซียวหลันยวนน้ำเสียงสงบ"ถึงอย่างไร ตอนนี้ในเมืองหลวงก็มีคนไม่น้อยที่พูดว่าเจ้านั้นเป็นมังกรร้าย เจ้เาองก็รู้ ว่าเรื่องนี้มันพูดให้ชัดเจนไม่ได้ แต่ปกติคนเราก็ยอมที่จะเชื่อว่ามันมีอยู่จริงใช่ไหม?"ผู้เฒ่าฟู่มองเซียวหลันยวนเขาเองก็รู้ ว่าเรื่องที่ลือกันนี้มันเหลวไหล ถึงอย่างไรเขาเองก็ไม่เชื่อแต่ว่าเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาเชื่อหรือไม่เชื่อเมื่อมีคำพูดเช่นนี้ลือออกมา องค์จักรพรรดิจะไม่ยอมปล่อยไป"ถูกต้อง" เซียวหลันยวนพยักหน้า"ดังนั้นเรื่องนี้จึงยุ่งยากมาก" ผู้เฒ่าฟู่ถอนหายใจ "ข้ารู้ว่าน่าจะมีคนไม่น้อยที่ไม่ยอมรับเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1363

    เซียวหลันยวนหลังจากฟังผู้เฒ่าฟู่พูดมายืดยาวจนจบ ก็เอ่ยถามเขาขึ้นเสียงเรียบคำหนึ่ง"จากที่ท่านปู่เห็น พวกเราควรทำเช่นไร?"ประโยคนี้พอย้อนถามออกมา กระทั่งผู้เฒ่าฟู่เองก็ยังคิดไม่ถึงอั นที่จริงตอนที่เขาเผชิญหน้ากับเซียวหลันยวนเองก็กระวนกระวายตึงเครียดอยู่เหมือนกัน ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นอ๋องนะ ตระกุลฟู่ของพวกเขาตอนที่รุ่งเรืองที่สุด ก็เป็นแค่ตอนที่สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินถูกเชิญเข้าไปร่วมงานเลี้ยงวังเท่านั้นพวกเขาเป็นประชาชนปกติสำหรับอำนาจจักรพรรดิ ยังถือว่ารู้สึกกดดันอยู่มาก ต่อให้เซียวหลันยวนตอนนี้จะเป็นเขยของหลานสาวเขาก็ตามยิ่งไปกว่านั้นเขาพูดไปตั้งเยอะขนาดนี้ ก็ล้วนแทบจะแทงลงไปบนใจของเซียวหลันยวนทั้งหมด ผู้เฒ่าฟู่เองเดิมทีก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ของเขา เซียวหลันยวนน่าจะระเบิดอารมณ์พลิกโต๊ะเป็นแน่และอาจจะถูกเหล่าองครักษ์ไล่พวกเขาออกไป ไม่ให้พวกเขาเข้ามาเหยียบในจวนอ๋องเจวี้ยนอีกแต่เขาก็ยังรู้สึกว่าเพื่อจาวหนิงแล้ว เขาก็ยังต้องพูดให้ชัดเจนตอนนี้อ๋องเจวี้ยนพอได้ยินคำพูดเหล่านี้ ปฏิกิริยาของเขาจึงจะเป็นความจริงที่สุด เขาก็อยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะจัดการอย่า

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1704

    อ๋องเจวี้ยนจะร่วมมือกับราชาเฮ่อเหลียนหรือ?จะว่าไป เมืองหูเดิมทีก็อยู่ชายแดน แถบนั้นเดิมทีก็อยู่ใกล้กับขอบเขตที่เผ่าเฮ่อเหลียนก่อเรื่องอยู่ส่วนเมืองเจ้อห่างจากเมืองหลวงไม่ไกลนัก พูดได้วส่า ทรัพยากรต่างๆล้วนต้องส่งออกไปางนั้น อ๋องเจวี้ยนคนเดียวจะยึดเมืองทั้งเมืองไปทำไม?อ๋องเจวี้ยนเองก็ไม่มีทหารเสียหน่ยอเดิมทีเป็นแค่เรื่องที่คิดก็รู้สึกไร้สาระแล้ว แต่องค์จักรพรรดิต่อต้านอ๋องเจวี้ยน ความคิดจะรับมืออ๋องเจวี้ยนกลายเป็นความดื้อรั้นและความเคยชินไปแล้วเขาคิดไปจริงๆ"ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ ถึงอย่างไรในเมืองหลวง ใต้หนังตาข้าเขาก็ไม่มีอิสระ ไม่สะดวก! ดังนั้นการคิดจะเลือกสถานที่ของตนเองแล้วกลายเป็นอ๋อง ก็อาจจะเป็นความคิดที่เขาคิดไว้ก็ได้"พระชายาเยว่แอบเบ้ปากนางรู้ ว่าเรื่องเกี่ยวกับอ๋องเจวี้ยน แค่พูดส่งเดชออกมาองค์จักรพรรดิก็จะเชื่อถึงอย่างไรองค์จักรพรรดิก็ไม่สนอะไรอยู่แล้ว ขอแค่รับมือกับอ๋องเจวี้ยนได้ ขอแค่ไม่ให้อ๋องเจวี้ยนได้สมปรารถนา เขาก็จะเบิกบานตอนนี้เห็นได้ชัดว่าอ๋องเจวี้ยนคิดจะขนเสบียงไปเมืองเจ้อด้วยตนเอง ไม่ว่าเป้าหมายเขาคืออะไร แค่ห้ามไว้ก็พอแล้วอ๋องเจวี้ยนไม่เบิกบาน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1703

    อันเหนียนร้องซี๊ดนี่เป็นไปได้อย่างไรกัน?"นี่แค่เพิ่งวันแรกนะ พวกเราต้องอยู่ที่นี่ครึ่งเดือนจริงหรือ?" เสี่ยวเยว่ตอนนี้เริ่มกังวล ถ้าทุกวันเป็นแบบนี้ ฟู่จาวหนิงจะทนไหวได้ยังไง?ต่อให้ร่างทำจากเหล็กก็ยังเหนื่อยเลย"ลุงฟู่ไม่ได้เตือนนางหน่อยหรือ?""วันนี้แค่เวลาจะเตือนยังไม่มีเลย คุณชายฟู่เองก็เหนื่อยจัด"ฟู่จิ้นเชินเห็นว่าลูกสาวเหนื่อยขนาดนี้ ก็ยังอยากให้ตัวเองทำอะไรมากหน่อย เคลื่อนไหวเร็วขึ้นอีกหน่อย ละเอียดขึ้นอีกหน่อยผลลัพธ์คือพอเขาเร่งความเร็วทางนี้ คนป่วยที่มาขอตรวจก็เข้ากันเร็วขึ้น ดังนั้นพอประสิทธิภาพไวขึ้น ปริมาณงานของแต่ละคนก็มากตามไปด้วยพอได้ยินพวกเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จิ้นเชินก็เดินเข้ามา บิดข้อไม้ข้อมือผ่อนคลาย เอ่ยขึ้นว่า "จะไม่เป็นแบบนี้ทุกวันหรอก หลังจากนี้พอคนป่วยส่วนใหญ๋ได้รับการรักษา ก็จะค่อยๆ ผ่อนคลายลงมา"แม้เขาจะเหนื่อยแต่ก็ยังเป็นห่วงฟู่จาวหนิง แต่อีกด้านก็รู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากวันนี้ฟู่จาวหนิงทำให้เขาเปิดโลกใหม่เลยทีเดียวตอนที่นางตรวจรักษาทั้งมีสมาธิ ตั้งใจ เด็ดขาด เฉียบแหลม มืออาชีพ ยอดเยี่ยมกว่าหมอทั้งหมดที่เขาเคยเจอมาในอดีตยิ่งไปกว่านั้นภายใต้สถาน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1702

    "ภรรยาของเจ้าตั้งท้องได้สองเดือนแล้ว เจ้ารู้ใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงมองชายหนุ่มหลังจากเขาได้ยินก็งงงันไป"ข้า ข้าไม่รู้เลย ข้าคิดว่านางเป็นหวัด คิดว่านางแค่หิว" ชายหนุ่มมือไม้เป็นพัลวัน "นางก่อนหน้านี้ตกไปในน้ำ..."ฟู่จาวหนิงหยิบเข็มเงินออกมา แทงลงไปที่หญิงสาวหลายเข็ม เช่นนี้สามารถช่วยให้เหงื่อออก ให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมา"ร่างกายนางอ่อนแอมาก จริงๆ ก็เป็นหวัด แต่ตอนนี้ครรภ์เด็กไม่ค่อยมั่นคง ดังนั้นจึงกินยาส่งเดชไม่ได้ ข้ามีวิชาฝังเข็มรักษาหวัด ทุกวันให้เจ้าส่งนางไปที่โรงหมอ ข้าจะฝังเข็มให้นาง""โรง โรงหมอ? ท่าน ท่านหมอ โรงหมอไหนหรือ?" ชายหนุ่มถามขึ้นอย่างกระวนกระวายในเมืองเจ้อเดิมทีก็มีโรงหมออยู่ ทั้งหมดสามแห่ง หมอสามคนล้วนอายุมากแล้ว แต่ก่อนยังพอไหว แต่นับตั้งแต่เมืองเจ้อมีผู้ประสบภัยทะลักเข้ามาก็ไม่ดีเสียแล้วตอนนี้โรงหมอไม่เปิด หมอทั้งสามคน คนหนึ่งบอกว่าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว อีกสองคนก็หลบอยู่แต่ในบ้านไม่เข้าไปโรงหมอ"อาเหอ เจ้าบอกที่อยู่กับเขาหน่อย" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"่ขอรับ"อาเหอบอกตำแหน่งโรงหมอชั่วคราวที่พวกเขาจัดขึ้นให้กับชายหนุ่มอย่างละเอียดหญิงสาวคนนั้นในที่สุดก็ฟื้นแล้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1701

    พวกเขาล้วนมองตามเสียงไป อาเหอเองก็ยกเท้าเดินออกไป ไม่นานก็กลับมา"มีหญิงสาวเป็นลมขอรับ""ไปดูหน่อย"ฟู่จาวหนิงวิ่งออกไปทันทีคนมากมายรวมกันอยู่แบบนี้ กลิ่นเองก็ไม่ค่อยดีนัก แต่นางก็ยังเข้าไปที่เพิงเตี้ยๆ นั่นด้านในมีหญิงสาวอายุน้อยคนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้น หน้าซีดเหมือนกระดาษ ริ่มฝีปากไม่มีสีเลือด ข้างๆ มีแม่นางน้อยอยู่ กำลังร้องห่มร้องไห้เขย่าตัวนาง"เสี่ยวเยว่ ดูแลเด็กด้วย" ฟู่จาวหนิงกำชับมาคำหนึ่ง ส่วนตนเองก็มุดเข้าไป นั่งยองลงข้างๆ หญิงสาวคนนั้น ตรวจอาการให้นางพอแตะมือนาง ก็รู้สึกว่าเย็นจนน่ากลัวเสื้อผ้าบนตัวนางบางมาก แต่บนตัวแม่นางน้อยกลับห่อไว้หนาพอควร มองออกว่าเอาเสื้อผ้าให้เด็กไปฟู่จาวหนิงจับชีพจรนาง ในสั่นกึกชีพจรครรภ์ น่าจะสองเดือนกว่าแล้ว แต่ว่าชีพจรนี้ก็อ่อนแรงเต็มที หญิงสาวเป็นโรคโลหิตจางรุนแรง โลหิตจางบวกกับความหิวความหนาว จะเป็นลมก็เรื่องปกติ"อาเหอ ไปตักข้าวต้มมาชามหนึ่ง" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"่ขอรับ"อาเหอรีบไปตักข้าวต้ม แต่ว่าตอนนี้ที่แจกข้าวต้มเริ่มเข้าแถวแล้ว พอเขาเดินไปที่ด้านหน้า คนที่เข้าแถวอยู่ก็ไม่ยอม"เข้าแถวเซ่!""ใต้เท้าข้าราชการมาทางนี้หน่อย ต

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1700

    ตอนนี้แบ่งข้าวต้มได้คนละชาม ตอนกลางวันข้าวต้มคนละชามกับแป้งนึ่งครึ่งก้อน ก็ถือว่าดีมากแล้วข้าวเย็นก็มีแค่ข้าวต้มชามเดียว"เด็กที่อายุต่ำกว่าสิบขวบ คนแก่ที่อายุหกสิบขึ้นไป สามารถได้เพิ่มอีกนิดหน่อย แล้วก็พวกเด็กทารกบางส่วน ยังแลกข้าวต้มได้อีกครึ่งชามด้วย"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวอธิบายกับฟู่จาวหนิง พวกเขาทำได้ถึงขนาดนี้นับว่าไม่ธรรมดาแล้ว ถึงอย่างไรแรงคนก็ไม่พอนี่นะ"ตอนนี้ร้านรวงในเมือง ก็ยังไม่กล้าจะทำการค้ากันเลย""นี่เพราะอะไร?" อันเหนียนถาม"อย่างเช่นพวกร้านขายซาลาเปา ขายขนมปิ่ง ขายสุระพวกนั้น พอเปิดร้านกลิ่นจะรุนแรงมาก ตอนที่หิวจนตาลายแล้ว ใครจะยังทนไหวกัน? แล้วผู้ประสบภัยพวกนี้ มีเงินพอซื้อกันที่ไหน?"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวส่ายหัว "ดังนั้นจึงเกิดความวุ่นวายขึ้นไม่น้อย มีคนขโมยของกิน มีคนใช้วิะีการหลอก ถึงอย่างไรความวุ่นวายต่างๆ ก็เกิดขึ้นตลอด ร้านรวงพวกนั้นจึงไม่กล้าเปิดกันแล้ว"ไม่แปลกที่ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวจะอดนอนจนตาแดงก่ำ เรื่องราวมันเยอะมาจนทำเอาเขาไม่ได้พักผ่อนดีดีเลย""ช่วงนี้คนป่วยก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ่ท่านลองฟังสิ เสียงที่ดังขึ้นลงสลับกันนี้"ฟู่จาวหนิงได้ยินนานแล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1699

    ฟู่จาวหนิงได้ยินคำพูดของเด็กหนุ่มก็หัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่"ไม่เอาค่ารักษาจากเจ้าหรอก วางใจเถอะ"นางพูดพลางตรวจสถานการณ์ของเสี่ยวยา พอเห็นว่านางหลับปุ๋ย จับชีพจรแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ จึงถอนใจโล่งพอได้ยินว่าไม่ต้องการค่ารักษาจากพวกเขา ตู้เสี่ยวเฟิงก็ถอนใจโล่ง แต่ก็ยังรู้สึกกระวนกระวาย "หัวของน้องสาวข้าเป็นอะไรมากไหม?""โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก" ฟู่จาวหนิงเห็นดวงตาสุกใสของเขา ก็อดชอบขึ้นมาไม่ได้ เด็กคนนี้ใจสู้มาก ยิ่งไปกว่านั้นยังใจดีมาก นางก็ไม่รังเกียจที่จะช่วยเหลือสักหน่อย"พวกเจ้ายังต้องอยู่ที่นี่อีกสองสามวัน รักษาบาดแผล เอ็นกระดูกเจ้าขาด ขยับมากไม่ได้ มือเองก็หักด้วย ไม่มีคนดูแลก็ไม่ได้อีก"ตู้เสี่ยวเฟิงร้อนรนขึ้นมา "จะให้คนมาดูแลได้อย่างไร? ข้าช่วยทำงานมาชดใช้เงินค่ายาได้!"เขาได้ยินว่าไม่ต้องจ่ายค่ารักษษก็ยังไม่วางใจ รู้สึกว่าต้องทำอะไรบ้าง"ขอร้องท่านล่ะ ให้น้องข้าได้กินอะไรหน่อย เมื่อวานนางหิวจนเป็นลมไป" ตู้เสี่ยวเฟิงเสียงขืนฟู่จาวหนิงถอนหายใจ"เมื่อคืนให้นางกินไปแล้ว อยู่ที่นี่แค่ทำให้พวกเจ้าพี่น้องไม่หิวแย่มันก็ทำได้อยู่""ข้าจะช่วยท่านทำงาน ข้ามีมือข้างเดียวก็ได

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1698

    ดังนั้นพวกเขายังไม่มีเวลานอนเลย"พระชายา วันนี้ตอนเช้า สถานการณ์พี่น้องคู่นั้นตรวจสอบมาแล้ว" ผู้บริหารท้องถิ่นโหยววางชามลง อธิบายสถานการณ์กับนาง"เด็กหนุ่มคนนั้นชื่อตู้เสี่ยวเฟิง น้องสาวชื่อตู้เสี่ยวยา พี่น้องคู่นี้พักอยู่ในซอยที่พวกท่านเห็นเมื่อวาน บ้านตระกูลตู้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงได้เวทนาขนาดนั้น ผู้เฒ่าตู้หลายปีก่อนไปช่วยขุดบ่อน้ำ แต่พลาดหกล้มจนตายไป ส่วนยายเฒ่าตู้คืนที่ไปเฝ้าศพก็ถูกลมหนาว ต่อมาก็ล้มป่วย ไม่ถึงครึ่งปีก็จากไป""พ่อแม่ของตู้เสี่ยวเฟิงตอนขึ้นไปตัดฟืนบนเขาก็เกิดเรื่อง ทั้งบ้านเหลือแต่พี่น้องคู่นี้ ไม่มีญาติที่ไหน ก่อหน้านี้ตู้เสี่ยวเฟิงก็วิ่งทำงานไปทั่ว เช่นช่วยคนส่งจดหมาย วิ่งจากต้นเมืองไปท้ายเมือง แบกหามของ ช่วยคนหิ้วน้ำ บางครั้งก็ไปอุทยานนอกเมืองช่วยคนเก็บผลไม้ แลกกับเงินเล็กๆ น้อยๆ ฝืนเลี้ยงตนเองกับน้องสาวมา"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวถอนใจ"ตู้เสี่ยวเฟิงไม่รู้ไปเก็บหมาตัวหนึ่งมาจากไหน เลี้ยงอยู่สามสี่ปี ปกติตอนที่เขาออกไปทำงานก็จะมีหมาตัวนี้อยู่กับตู้เสี่ยวยา เมื่อวานมีคนเห็นหมาตัวนั้น จึงเข้ามาแย่งไป"ฟู่จาวหนิงเข้าใจแล้ว"แย่งหมา เลยทำร้ายคน?"ผู้บริหารท้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1697

    "เจ้ากลับมาแล้วหรือ? เหนื่อยไหม?"อาเหอเองก็กุมมือภรรยา มือของพวกเขาเย็นจนบาดเจ็บ พอกุมไว้แบบนี้ ทั้งสองคนก็รู้สึกเจ็บๆ คันๆ แต่ก็ไม่ทำให้พวกเขาแยกมือจากกันลูกหลับไปแล้ว หลับอย่างสบายแม้จะเป็นแค่ห้องเดียว เตียงหนึ่งให้เด็กกับคนแก่นอน พวกเขาสามีภรรยาปูเสื้อ แต่เช่นนี้ก็ดีมากแล้วตั้งแต่หนีประสบภัยมา พวกเขาลำบากมามาก หลายครั้งที่วนเวียนอยู่ขอบเหวความตาย ดวงใจตึงเกร็งอยู่ตลอด ไม่มีตอนไหนที่ผ่อนคลายได้เลย หนาวเย็นหิวโหยมาตลอดทาง ไม่ได้นอนหลับในห้องอย่างแท้จริงมานานมาก ทำให้พวกเขารู้สึกได้ว่าเตียงอบอุ่นในห้องที่อบอุ่นนี่ล้ำค่าอย่างมากอาเหอนอนลงมา ทั่วทั้งตัวอยู่ในสภาพที่ผ่อนคลายสุดๆระหว่างทางเขาต้องปกป้องพ่อแม่ภรรยาและลูก เป็นผู้นำครอบครัว จะอ่อนแอลงไม่ได้เลยแม้แต่น้อยพวกเขาเองก็เคยเจอพวกนักเลงหัวไม้ที่ฉวยโอกาสก่อเรื่องในช่วงภัยพิบัติระหว่างทาง มีหลายคนอุดปากลากภรรยาไปกลางดึก ถ้าไม่ใช่เขาใช้หินทุบหัวหนึ่งในนั้นจนสมองไหล จนคนที่เหลือหนีไปอย่างตกใจ ตอนนี้ภรรยาคงหายไปแล้วหลังจากครั้งนั้น เขาก็ไม่กล้านอนหลับในตอนกลางคืนจริงๆ จังๆแต่ตอนนี้น่าจะนอนได้เสียที"เหนื่อย" อาเหอได้สติก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1696

    เซียวหลันยวนยืนมือไว้บนหน้าผาก ถามเขาว่า "เจ้าคิดว่า เจ้าอารามอยู่บนยอดเขาโยวชิงจะเหงาไหม?""หา?" ชิงอีงงงันเจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอยู่บนเขามาไม่รู้กี่ปี พวกเขาแม้จะอยู่ที่นั่นมาสิบกว่าปี แต่ก็ไม่เคยเห็นปัญหานี้มาก่อนดังนั้น ชิงอีจึงไม่รู้คำตอบของคำถามนี้คิดๆแล้ว เขาจึงถามคำถามที่ซ่อนไว้ในใจออกมา "ท่านอ๋อง เจ้าอารามตอนนี้อายุเท่าไรแล้ว?"คำถามนี้อันที่จริงเขาอยากถามมาหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่กล้าเซียวหลันยวนเหลือบมองเขา "ข้าเองก็ไม่เคยถาม""ดังนั้นท่านอ๋องก็ไม่รู้ว่าเจ้าอารามอายุเท่าไรหรือ?""นี่มันสำคัญไหม?""ไม่ ไม่ขอรับ" ชิงอีรีบโบกมือ "ข้าน้อยก็แค่อยากรู้""ออกไปก่อน""่ขอรับ"หลังจากชิงอีออกไป เซียวหลันยวนจึงหยิบจดหมายขึ้น เปิดออกอ่านจดหมายสั้นกระชับ เป็นลักษณะของเจ้าอารามโยวชิงแต่ที่เขียนบนจดหมาย ก็ไม่ใช่เรื่องที่เร่งรีบอะไร"ก่อนเดือนสาม พาภรรยาของเจ้ามาที่ยอดเขาโยวชิงหน่อย"แค่ประโยคเดียวเซียวหลันยวนงงงันพาจาวหนิงไปยอดเขาโยวชิง? มีเรื่องอะไรกัน?พอคิดๆ เซียวหลันยวนจึงเขียนตอบกลับจาวหนิงตอนนี้ไปเมืองเจ้อ หลังจากกลับมายังต้องถามนางอีก ไม่รู้ว่านางจะยอมไปยอดเข

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status