ฟู่จาวหนิงเงยหน้ามองนายท่านเจิ้งผาดหนึ่ง คิดออกถึงปัญหานี้เช่นกันแต่ท่าทางการตรวจสอบของนางไม่ได้หยุดลง กดนิ้วอยู่บนหน้าอกเขาครู่หนึ่ง ผู้บัญชาการหนุ่มเจ้าก็เจ็บปวดจนร้องขึ้นมาทันทีเสียงร้องนี้ทำเอานายท่านเจิ้งได้สติกลับมา"ผู้บัญชาการหนุ่มเจ้า ลูกสาวของข้าเกิดเรื่องขึ้นใช่ไหม? นางเป็นอย่างไรบ้าง?"พอได้ยินคำนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้ว่านายท่านเจิ้งเองก็เป็นคนดี อย่างน้อยก็พ่อที่เป็นห่วงลูกสาว เขาเห็นอยู่แท้ๆ ว่าที่ผู้บัญชาการหนุ่มเจ้ามาปรากฏตัวที่นี่นั้นมีปัญหา แต่สิ่งแรกที่นึกถึงก็คือการเป็นห่วงเป็นใยลูกสาว"ฮูหยินรอง ไม่ ไม่เป็นไร..." ผู้บัญชาการหนุ่มเจ้าพูดไม่กี่คำนี้ออกมาอย่างยากลำบากแต่นายท่านเจิ้งฟังแล้วก็โล่งใจ"บนตัวเขามีแผล" ฟู่จาวหนิงเห็นเสื้อผ้าตรงหน้าอกมีรูอยู่รูหนึ่ง ทะลุขาดทะลุ น่าจะเป็นของมีคมอะไรบางอย่างแทงเข้าไป แต่เลือดไหลไม่เยอะ "น่าจะเป็นอาวุธลับ อาวุธลับที่มีพิษ"พิษอีกแล้วหรือ...นายท่านเจิ้งมองฟู่จาวหนิง "เช่นนั้นแม่นางฟู่ ยาลูกกลอนพิษเมื่อครู่นั่นกินได้ไหม?""กินได้ แต่เขาต้องจัดการบาดแผลด้วย"ฟู่จาวหนิงตรวจสอบขาของผู้บัญชาการหนุ่มเจ้า "ขาของเขากระดูกหัก"
ฟู่จาวหนิงลองมองดูก่อน ขณะที่กำลังจะเตรียมไปดูอาการผู้ป่วยคนหนึ่งที่มีหมออยู่เพียงสองคน ก็มีชายกลางคนในชุดคลุมสีดำโพกผ้าคลุมดำสองคน เดินเข้ามาขวางนางไว้พวกเขาพิจารณาตัวฟู่จาวหนิง ขมวดคิ้ว แต่คำพูดจาก็ยังค่อนข้างเกรงใจ"แม่นางที่นี่คือโถงวินิจฉัยของสมาคมหมอใหญ่ คนทั่วไปเข้ามาไม่ได้ ท่านมีป้ายอนุญาตหมอไหม?"ฟู่จาวหนิงหยิบป้ายสีม่วงออกมาพวกเขาพอเห็นป้ายสีม่วงก็ตกตะลึงทันที"แม่นางสกุลฟู่หรือ?""ใช่ ข้าชื่อว่าฟู่จาวหนิง""เป็นแม่นางฟู่จริงๆ ด้วย ชื่อของท่านพวกเราเคยได้ยินมาก่อน แม่นางฟู่วิชาแพทย์เก่งกาจเกินใคร ประธานของพวกเรายังกำชับไว้ว่า หากแม่นางฟู่มาแล้ว ขอเชิญท่านเข้าไปพบเสียหน่อย"ฟู่จาวหนิงถึงแม้จะรู้เรื่องสมาคมหมอใหญ่มาตลอด แต่นางเองก็ยังไม่รู้ว่าสมาคมหมอใหญ่ก็ยังมีประธานอยู่ด้วย และยังไม่รู้ว่าประธานคนนี้เป็นใครก่อนหน้านี้ตอนที่เห็นท่าทางซุนฉงหมิงจากแคว้นหมิ่นกำเริบเสิบสานเสียขนาดนั้น เขาคงจะไม่ใช่ประธานหรอกกระมัง?ถ้าเป็นเขาจริง เช่นนั้นก็คงจะลำบากหน่อยแล้ว เพราะนางไม่ชอบซุนฉงหมิงเอาเสียเลย"ประธานอยู่ที่ไหนหรือ?" ฟู่จาวหนิงมองไปรอบๆนางไม่ได้พูดชื่อซุนฉงหมิงออกมา
ผู้ดูแลหลินกับผู้ดูแลไช่ประสานมือให้นาง จากนั้นจึงเดินออกไป พวกเขายังต้องไปดูหมอคนอื่นอีกฟุ่จาวหนิงบอกว่าจะขอดูก่อน นั่นก็คือดูจริงๆนางเดินวนไปรอบหนึ่ง สืออีก็กลับมาแล้วพอสืออีปรากฏตัว ฟู่จาวหนิงจึงออกไป พาพวกเขาลงไปชั้นล่าง หามุมเงียบๆ มุมหนึ่ง แล้วฟังข้อมูลที่เขาได้ยินมา"พระชายา ค่ายทหารที่เมืองชายแดนทางเหนือแคว้นเจาวุ่นวายขึ้นมาแล้ว"สีหน้าสืออีเคร่งขรึมมากฟู่จาวหนิงได้ยินข่าวนี้แล้วตกตะลึง"เกิดอะไรขึ้น?""ผู้บัญชาการหนุ่มคนนั้นชื่อว่าเจ้าจือซาน เขาเป็นผู้บัญชาการหนุ่มที่ได้รับความเชื่อมั่นจากขุนพลหู่ เหมือนว่ามีความเกี่ยวข้องเป็นญาติกันกับขุนพลหู่ด้วย จากที่เขาบอก เมืองชายแดนทางเหนือหลายปีนี้ถือว่ามั่นคงปกติสุขดี แค่มีพวกโจรตัวเล็กตัวน้อยเข้ามาปล้นสะดมบ้างเป็นครั้งคราว คนเหล่านั้นก็แค่คิดจะขโมยพวกเสื้อผ้าอาหารเท่านั้น ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่อะไร""แต่ช่วงครึ่งเดือนก่อน พวกโจรที่กระจายตัวอยู่ป่านอกด่านจู่ๆ ก็ถูกขัวอำนาจลึกลับรวบรวมเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นกองทัพผสมสามพันคนกลุ่มหนึ่ง"ฟู่จาวหนิงฟังถึงจุดนี้ โบกไม้โบกมือ บอกกับสือซานว่า "ส่งสัญญาณหาท่านอ๋องพวกเจ้าให้เขามาที่
"ฮูหยินใหญ่ของเจ้าหู่อยู่ที่เมืองหลวง ไม่ได้ออกไปไหนเลย แต่บ้านฝ่ายหญิงเองก็ไม่ค่อยจะมีคน แค่ใช้ตัวตนฐานะฮูหยินใหญ่เจ้าเท่านั้น จึงยอมให้เจ้าหู่มีภรรยาผู้น้อย แต่ภรรยาผู้น้อยเหล่านั้นไปที่เมืองชายแดนทางเหนือก็อยู่ได้ไม่นานนัก แต่ได้ยินว่าฮูหยินรองคนนี้อยู่ที่นั่นได้สงบสุขดี แล้วยังมีลูกชายสองคนกับลูกสาวอีกหนึ่งคนให้กับเจ้าหู่อีกด้วย ดังนั้นเจ้าหู่จึงดีกับนางมาก"เซียวหลันยวนพอพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงจึงไม่มีอะไรจะพูดอีกการยอมให้สามีรับภรรยาผู้น้อยขึ้นเป็นบ้านหลัก แม้ว่านางจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ภายใต้พื้นหลังของยุคสมัยนี้ ก็ยังพอยอมรับได้ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่นางนี่นะตอนนี้คำหนึ่งที่นางกลั่นกรองออกมาได้ก็คือ : จ้าวหู่ดีกับฮูหยินรองที่เป็นลูกสาวของตระกูลเจิ้งคนนี้มากอยู่"สืออี แล้วฮูหยินรองเจ้าคนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น?""พวกเขาเพิ่งเข้าต้าชื่อได้ไม่เท่าไรก็เกิดเรื่องขึ้นที่สถานที่ที่ชื่อว่าเขาหนึ่งเส้น ฮูหยินรองถูกจัีบตัวไป ทหารกลุ่มเล็กที่คุ้มกันนางมาตายหมดแล้ว เหลือแค่เจ้าจือซานที่หนีออกมาได้ อดทนจนมาส่งข่าวที่เมืองจี้ได้""ทำไมเขาไม่กลับไปที่เมืองชายแดนทางเหนือแคว้นเจาเพื่อส่งจดหมายก
"ไม่ถูกสิ!"ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็คิดถึงจุดนี้ "นี่มันบังเอิญเกินไปแล้ว! ข้าเพิ่งจะไปที่บ้านตระกูลเจิ้ง ลูกสาวที่แต่งงานกับขุนพลแคว้นเจาของตระกุลเจิ้งทางนั้นก็เกิดเรื่องขึ้น!"ในที่สุดนางก็รู้ถึงจุดแปลกๆ ในความคิดว่าเป็นอะไรแล้วบังเอิญเกินไปนาง ตระกูลเจิ้ง คุณหนูตระกุลเจิ้ง ขุนพลบัญชาการเมืองชายแดนแคว้นเจา เซียวหลันยวนจุดสำคัญพวกนี้หากเชื่อมเข้าด้วยกัน อาจจะกลายเป็นแผนร้ายขนาดใหญ่แผนหนึ่งได้"แต่ใครล่ะที่จะคำนวนให้ข้าไปทำการรักษาที่ตระกูลเจิ้งได้?"ฟู่จาวหนิงยังรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกต้อง นางอาจจะแค่คิดมากไปกระมัง?เซียวหลันยวนถอนหายใจ ดึงนางเข้ามากอด ตบลงไปเบาๆ ที่แผ่นหลังนาง ถือเป็นการปลอบประโลม ให้นางไม่ต้องขบคิดขนาดนี้"ข้าจะไปตรวจสอบ เจ้าไม่ต้องคิดมากแล้ว"ฟู่จาวหนิงพยักหน้าในอ้อมกอดเขา"เช่นนั้นท่านก็ระวังตัวหน่อย""เจ้าจะกลับเลย หรือว่าจะอยู่ที่นี่ต่อ?" เซียวหลันยวนถาม"ข้าจะเดินทีนี่อีกหน่อย"จะอย่างไรนางก็ต้องยืนยันก่อนว่าเรื่องที่ช่วยนายท่านเจิ้งไว้เมื่อครู่เป็นเรื่องบังเอิญ ไม่ใช่ถูกใครจัดวางเข้ามาอย่างไร้ร่องรอย"ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ระวังตัวหน่อย"เซียวหลันยวนผละออก
เซียวหลันยวนสีหน้าขรึมไปสิ่งที่เขาคิดตอนนี้คือ ก่อนหน้าที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับไปยังเมืองหลวงจักรพรรดิ จักรพรรดิต้าชื่อน่าจะพิจารณาเรื่องนี้ไว้แล้ว จดหมายถ้าจะส่งไปถึงมือจักรพรรดิแคว้นเจาต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ดังนั้นน่าจะส่งออกไปล่วงหน้าเช่นนั้น จักรพรรดิต้าชื่อก็วางแผนที่จะขัดขวางการแต่งงานขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเอาไว้ล่วงหน้านานแล้ว ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น น่าจะยังมีคนอื่นที่เหมาะสมอยู่อีกและไม่รู้ว่าเรื่องนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้หรือไม่แต่ว่านี่ไม่ใช่ขอบเขตที่เขาต้องกังวล"ท่านอ๋อง ตอนนี้ดูแล้ว องค์จักรพรรดิคงจะลงมือมาทางท่านแน่ ถ้าหากกลับไปแคว้นเจา สิ่งที่รอท่านอยู่อาจจะเป็นลมพายุฝนลูกใหญ่"ก่อนหน้านี้องค์จักรพรรดิเองก็คอยแอบถ่วงแข้งถ่วงขา ลอบสังหาร วางยาพิษอะไรแบบนี้นานาสารพัด แต่ถึงอย่างไรก็ยังคอยใส่ใจชื่อเสียงอยู่ ยังต้องรักษาภาพลักษณ์ของพี่ชายคนโตที่แสนดีเอาไว้ตอนนี้ก็ไม่แน่แล้วพอเห็นว่าสุขภาพของท่านอ๋องดีขึ้นมา องค์จักรพรรดิก็ยิ่งนั่งไม่ติดขึ้นทุกทีชิงอีเองก็อดกังวลไม่ได้ "ท่านอ๋อง กลับไปเมืองหลวง องค์จักรพรรดิจะหาเรื่องกักบริเวณท่านไหม?"ก่อนหน้านี้เดิมทีก็ยอมใ
พวกเขาไปตรวจสอบเรื่องของเจ้าหู่กับฮูหยินรองเจ้า ฟู่จาวหนิงกลับไปหาผู้อาวุโสจี้ผู้อาวุโสจี้พานางขึ้นไปชั้นสามชั้นสามเป็นห้องเหมาที่ใหญ่มากหลายห้อง ด้านในมีห้องหนึ่งที่เปิดแง้มอยู่ ด้านในมีเสียงพูดคุยลอดออกมาผู้อาวุโสจี้กดเสียงต่ำพูดกับฟู่จาวหนิง "พวกเขาคิดจะรอจนวันสุดท้ายจึงจะพิจารณารายชื่อเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ ข้ามีความคิดเห็นต่าง จึงเสนอกับพวกเขา ครั้งนี้เจ้าพวกหัวโบราณกลับตอบรับว่าจะเจอพวกหน้าใหม่แล้วพิจารณาก่อนเลย""พิจารณาก่อน?" ฟู่จาวหนิงยังไม่ค่อยเข้าใจว่าหมายถึงอะไร"คนที่เข้าร่วมใหม่ อย่างเช่นเจ้า ตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปหาพวกประธานกับรองประธาน ถ้าประธานเห็นด้วยให้เจ้าเข้าร่วม ก็แค่ต้องการอีกสองคนพยักหน้าให้ก็พอ ถ้าหากประธานไม่เห็นด้ย เช่นนั้นเจ้าก็ต้องมีคนห้าคนที่เห็นพ้องให้เจ้าเข้าร่วมจึงจะมีคุณสมบัติ""ห้าคน?"นี่ดูจะยากไปหน่อยนะ"อืม พวกเขาทั้งหมดมีสิบสองคน""ซุนฉงหมิงเองก็ใช่หรือ?""เขาเป็นแน่นอนอยู่แล้ว เขาเป็นรองประธาน และยังรองประธานสกุลเหยาอีกคน ผู้อาวุโสเหยาเป็นคนจากแคว้นหู แคว้นหูไม่ใช่แคว้นใหญ่ แต่ว่าวิชาแพทย์ของผู้อาวุโสเหยานั้นดีมาก"ต้องการให้เห็นด้วยจำนว
"เจ้ามาทำอะไรกัน? หมอหญิงจากตระกูลไหน?"ชายชราคนหนึ่งเอ่ยปากขึ้นและหมอเทวดาอันเองก็อยู่ที่นี่ พอเขาเห็นฟู่จาวหนิง ก็ยิ้มให้กับนาง "มาแล้วหรือ?"และก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องของนายท่านเจิ้ง เพราะตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงอยากให้คนที่นี่รู้เรื่องนี้ไหม"คารวะผู้อาวุโสทุกท่าน ข้าชื่อฟู่จาวหนิง มาจากเมืองหลวงแคว้นเจา ครั้งนี้มายื่นขอเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่..."ฟู่จาวหนิงแนะนำตนเองอย่างมีมารยาทก่อนนางเองก็ยิ้มตอบหมอเทวดาอันด้วย"พูดไร้สาระอะไร? เจ้าจะเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่? หมอหญิงของสมาคมหมอใหญ่ไม่จำเป็นต้องมายื่นขอกับพวกเราทางนี้ ถ้าหากที่นี่ใครเป็นอาจารย์ของเจ้า เจ้าติดตามอาจารย์เจ้าก็ถือว่าเป็นคนของสมาคมหมอใหญ่แล้ว" ชายชราคนหนึ่งเห็นว่านางอายุยังน้อย แล้วยังเป็นหญิงสาวอีก จึงตำหนิหน้าขรึมขึ้นมาคำหนึ่งหมอหญิงน่าจะเทียบเท่ากับผู้ช่วยหมอ เป็นคนที่คอยช่วยเรื่องสัพเพเหระ คอยแบกกล่องยาอยู่ข้างๆ หมอ จำเป็นต้องมายื่นขอเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่กับพวกเขาเสียที่ไหนกัน?แล้วถ้าจะบอกตัวตนฐานะ แค่บอกว่าติดตามหมอคนไหนอยู่ก็พอแล้ว แล้วหมอคนนั้นถ้าเป็นสมาชิกของสมาคมหมอใหญ่ หมอหญิงก็ถือว่ามีตัวตนฐานะ