"เจ้ามาทำอะไรกัน? หมอหญิงจากตระกูลไหน?"ชายชราคนหนึ่งเอ่ยปากขึ้นและหมอเทวดาอันเองก็อยู่ที่นี่ พอเขาเห็นฟู่จาวหนิง ก็ยิ้มให้กับนาง "มาแล้วหรือ?"และก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องของนายท่านเจิ้ง เพราะตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงอยากให้คนที่นี่รู้เรื่องนี้ไหม"คารวะผู้อาวุโสทุกท่าน ข้าชื่อฟู่จาวหนิง มาจากเมืองหลวงแคว้นเจา ครั้งนี้มายื่นขอเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่..."ฟู่จาวหนิงแนะนำตนเองอย่างมีมารยาทก่อนนางเองก็ยิ้มตอบหมอเทวดาอันด้วย"พูดไร้สาระอะไร? เจ้าจะเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่? หมอหญิงของสมาคมหมอใหญ่ไม่จำเป็นต้องมายื่นขอกับพวกเราทางนี้ ถ้าหากที่นี่ใครเป็นอาจารย์ของเจ้า เจ้าติดตามอาจารย์เจ้าก็ถือว่าเป็นคนของสมาคมหมอใหญ่แล้ว" ชายชราคนหนึ่งเห็นว่านางอายุยังน้อย แล้วยังเป็นหญิงสาวอีก จึงตำหนิหน้าขรึมขึ้นมาคำหนึ่งหมอหญิงน่าจะเทียบเท่ากับผู้ช่วยหมอ เป็นคนที่คอยช่วยเรื่องสัพเพเหระ คอยแบกกล่องยาอยู่ข้างๆ หมอ จำเป็นต้องมายื่นขอเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่กับพวกเขาเสียที่ไหนกัน?แล้วถ้าจะบอกตัวตนฐานะ แค่บอกว่าติดตามหมอคนไหนอยู่ก็พอแล้ว แล้วหมอคนนั้นถ้าเป็นสมาชิกของสมาคมหมอใหญ่ หมอหญิงก็ถือว่ามีตัวตนฐานะ
หญิงสาวจะมาเทียบได้อย่างไรกัน?"ข้าได้รับป้ายอนุญาตหมอสีม่วง ก็มายื่นขอไม่ได้หรือ? ถ้าหากยังมีการทดสอบ เช่นนั้นก็ทดสอบข้าเลยสิ ผู้อาวุโสทุกท่านไม่จำเป็นต้องปฏิเสธทันทีก็ได้" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างสงบ"ทดสอบอะไรของเจ้า? หรือว่าเจ้าคิดจะมาท่องตำรับยาแก้หวัดใหญ่หรือไร? โรงหมอเมตตาเมืองหลวงแคว้นเจานี่อย่างไรกัน ให้ป้ายอนุญาตก็ให้กันส่งๆ แบบนี้ได้หรือ?" ชายชราชุดน้ำเงินคนนั้นเอ่ยขึ้นเสียงเย็นอีกครั้ง"ได้ยินว่าหมอเทวดาหลี่เมืองหลวงแคว้นเจาก็มาด้วย ลองถามดูไหม?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "หมอเทวดาหลี่? วิชาแพทย์ของเขายังสู้ข้าไม่ได้ ก็เข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ได้ เช่นนั้นข้าก็ไม่น่ามีปัญหานะ""ซู๊ด"ตอนนี้เอง สายตาของซุนฉงหมิงที่มองนางก็เปลี่ยนไปแล้ว"พูดจาใหญ่โตไม่เบา!"พวกเขาล้วนถูกท่าทีกับน้ำเสียงเช่นนี้ของฟู่จาวหนิงทำให้โมโหเสียแล้ว พอกำลังจะพูดอะไร กงซุนซือไฉจึงเอ่ยขึ้น"สหายน้อยฟู่ในเมื่อมาแล้ว ลองดูคนป่วยคนนี้หน่อยเป็นอย่างไร?"พอได้ยินเขาเรียกตนเองว่าสหายน้อย ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกว่าลูกกลอนบำรุงหัวใจสองเม็ดที่ท่านอาจารย์ส่งให้เขาน่าจะเห็นผลขึ้นมาแล้วกงซุนซือไฉตอนนี้ให้โอกาสนางแล้ว
ฟู่จาวหนิงตรวจสอบดวงตาของผู้ป่วยแล้ว จากนั้นจึงเตรียมดูใบหูของเขา ขณะที่กำลังจะลองให้เขาเอียงตัวเล็กน้อย เสียงลมแผ่วเบาละเอียดเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นพริบตานี้เอง นางรีบถอยออกมาทันทีขณะเดียวกัน ก็มีของบางอย่างกระแทกไปบนหน้าของผู้ป่วย เสียงดังโพละ ผิวหนังใบหน้าจองเขาที่เดิมทีบวมเหมือนจุน้ำไว้ครึ่งถังก็แตกออกมาพรวดของเหลวที่อยู่ในหนังหน้าพ่นออกมาทั้งหมด สาดออกไปรอบด้านถ้าหากฟู่จาวหนิงช้าไปหน่อยเดียว ของเหลวพวกนั้นคงรดไปบนหน้านางแล้ว"อ๊า!"ผู้ป่วยร้องขึ้นมาของเหลวไหลลงมาทั้งหัวทั้งตัวเขา สาดไปในตาเขาา ไหลเข้าไปในโพรงจมูกหนังหน้าที่เดิมทีพองรับไว้จนใหญ่โต พอไม่มีของเหลวแล้ว ก็กองพับอยู่บนหน้าเขา แล้วยังมีส่วนหนึ่งปิดไปที่จมูกของเขา ทำเอาเสียงกรีดร้องของเขาดังลอดออกมาไม่ได้ใต้หนังหน้า ด้านใต้ของเหลวสีเหลืองข้นยังมีเนื้อสีขาวที่เน่าเปื่อย...พอมองแล้ว ทำเอาคนอยากจะสำรอกของที่กินไปออกมาจนหมด"เกิดอะไรขึ้น!""ทำไมเจ้าถึงแทงหน้าเขาจนทะลุ!""รีบช่วยเขาเร็ว"หลังจากได้สติกลับมา เหล่าหมอเทวดาก็ล้วนลุกพรวดขึ้นมา คำรามขึ้นอย่างร้อนรนแต่คนที่รีบเดินเข้าไปมีเพียงสามคน ประธานกงซุน
"ตอนนี้ก็ไม่ใช่ว่าข้ากำลังรักษาอยู่หรือ? หรือว่าเป็นท่าน?" ฟู่จาวหนิงตอกกลับไปอย่างไม่หันหน้าหา ทำเอาเขาโมโหขึ้นมาทีเดียวประธานกงซุนถามขึ้น "เจ้าบอกว่าอาวุธลับหรือ?""ข้าจะหามันออกมา"ฟู่จาวหนิงใช้แหนบอ่อนคีบหนังหน้า ตรวจสอบอย่างละเอียดใบหน้าที่ผิวหนังเลือดเนื้อเหวอะหวะจนไม่เป็นรูปเป็นร่างนั้น นางก็ยังมองใกล้ๆ ได้โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนประธานกงซุนเหลือบมองนางผาดหนึ่ง ยื่นมือเข้าไปขวางซุนฉงหมิงที่เดินขึ้นมา"เป็นขนาดนี้แล้ว ลองให้สหายน้อยฟู่รักษาดู""ประธานาพูดเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย ถ้าผู้ป่วยคนนี้ตายลงที่นี่ ที่จะเสียหายคือชื่อเสียงของพวกเรา"ซุนฉงหมิงขมวดคิ้ว"พวกเราก่อนหน้านี้ก็ไม่กล้าจะลงมือกัน กลัวว่าจะทำหนังหน้าของเขาแตก แล้วจะจัดการได้ลำบาก" ประธานกงซุนเอ่ยขึ้น "แต่ตอนนี้ดูแล้ว พอแตกออกก็เหมือนจะรักษาได้ง่ายกว่า""ถูกต้อง" ฟู่จาวหนิงขานก้มหน้าก้มตาขานรับมาคำหนึ่ง "เดิมทีควรแทงให้แตกแล้วขับของเหลวออกมา"แต่ไม่ใช่ใช้วิธีการที่รุนแรงแบบนี้เพียงแต่ตอนนี้เป็นเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นก็รักษาก่อนแล้วกัน"ข้าขอบอกไว้ก่อนเลย หากผู้ป่วยคนนี้ตายไป ข้าจะประกาศต่อใต้หล้าว่าเป็นเจ
"ฉาบพิษเอาไว้ด้วยหรือ?"ประธานกงซุนหน้าเปลี่ยนสี ร้องเรียกคนขึ้นมาทันที "ใครก็ได้!"ด้านนอกมีคนหลายคนรีบเข้ามาคนเหล่านี้สวมชุดทะมัดทะแมง เครื่องประดับแบบเดียวกัน ดูแล้วน่าจะเป็นองครักษ์"ตรวจสอบในห้อง!"ที่นี่ยังมีม่านกันลมบางส่วน ชั้น ตู้อะไรพวกนี้อยู่ พื้นที่ค่อนข้างกว้าง เป็นไปได้ว่าจะมีคนซ่อนตัวอยู่"สืออีสือซาน!"ฟู่จาวหนิงก็ร้องเรียกคนบ้างหลังจากพวกเขาเข้ามาฟู่จาวหนิงก็ให้พวกเขานำคนป่วยพร้อมกับเตียงไปไว้ที่มุมหนึ่ง"ไป๋หู่ ฉากกั้นลม!"ไป๋หูย้ายฉากกั้นลมเข้ามา บังมุมนั้นเอาไว้พวกของประธานกงซุนมองเห็นการทำงานของพวกเขาก็ตกตะลึง จากนั้นจึงทยอยกันเข้ามาสืออีกพวกเขายืนคุ้มกันอยู่ด้านนอกฉากกั้นลม ต่อให้ในห้องยังมีมือสังหารซ่อนตัวอยู่ แต่ก็จะไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาลงมืออีกพระชายาของพวกเขาคิดจะช่วยผู้ป่วยอย่างเห็นได้ชัดพวกเขาติดตามฟู่จาวหนิงมานาน เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีถัดจากนี้ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาก็ต้องคุ้มกันไว้ ให้พระชายาสามารถรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย"แม่นางฟู่ทำอะไรน่ะ?"พวกของประธานกงซุนก็เบียดตัวเข้ามา เบียดมุมเล็กที่นำฉากกั้นลมมาบังไว้จนแน่
ซุนจี้มองเข้ามาด้านในผาดหนี่ง มองไม่เห็นคนที่ถูกฉากกั้นบังลมบังไว้ แต่ก่อนหน้านี้เขาเหมือนเห็นแม่นางหน้าตาสะสวยคนหนึ่งเข้ามาแล้วแม่นางคนนั้นหน้าตาดีเอามากๆ เลยซุนจี้แค่มีความคิดแล่นผ่าน ไม่ได้คิดอะไรมากนัก รีบพาพี่น้องตระกูลซุนออกไปตรวจสอบมือสังหารคนของหอวัฒนธรรมพอได้ข่าวก็ให้ความสำคัญอย่างมาก จัดองครักษ์ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดทันทียิ่งไปกว่านั้นยังปิดประตูใหญ่ เหลือไว้เพียงประตูข้างบานหนึ่ง ไม่ให้ใครที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาอีกฟู่จาวหนิงทำการแก้พิษให้กับผู้ป่วยตอนที่พวกเขาค้นหา จัดการพันใบหน้าเขาทั้งหมดเอาไว้ ใช้ยาไปไม่น้อย"อาการบวมหน้าที่ใบหน้าของเขาเกิดขึ้นจากโรคไต ถ้าจะรักษาก็ต้องรักษาที่ไตก่อน"ฟู่จาวหนิงยืนตัวตรง ถอนหายใจยาว บิดๆ ข้อมือผ่อนคลาย มองไปทางประธานกงซุน"ไตหรือ?""ถูกต้อง การขับของเสียออกมาทางปัสสาวะของไตผิดปกติ บางครั้งอาจจะทำให้เกิดการสะสมของเหลวจนบวมน้ำ เมื่อครู่ข้าลองกดเพื่อสังเกตและพบว่าเขามีการสะสมในน้ำช่องท้องรุนแรงมาก ดังนั้นผู้ป่วยคนนี้จึงมีโรคไตที่รุนแรง"คำพูดของฟู่จาวหนิงทำเอาพวกเขามองหน้ากันไปมาเห็นว่าเป็นโรคที่ใบหน้า แต่กลับเกิดขึ้นมาจากโร
ฟู่จาวหนิงในเมื่อมาแล้ว แน่นอนว่าอยากได้บัตรสมาชิกสมาคมหมอใหญ่กลับไปด้วยตอนนี้ประธานกงซุนเห็นด้วยมาแล้ว เช่นนั้นนางก็ต้องมีคนเห็นด้วยอีกสองคนจึงจะเข้าร่วมได้"ขอบคุณท่านประธานกงซุน...""ข้าไม่เห็นด้วย!"ชายชราชุดฟ้าไม่รอให้นางพูดจบก็ตะเบ็งเสียงขึ้นมา สะบัดชายเสื้อ หัวฟัดหัวเหวี่ยง"สหายไต้ทำไมจึงไม่เห็นด้วย? ไม่เห็นด้วยนั้นต้องมีเหตุผล"ประธานกงซุนเหลือบมองฟู่จาวหนิง นางรู้ไหมว่าถ้ามีสี่คนคัดค้าน นางก็ไม่สามารถเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ได้ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกที่เดิมทีเห็นด้วยแล้ว หากถูกเหตุผลการคัดค้านกล่อมลงได้ ก็อาจจะเปลี่ยนใจได้อีกด้วยก่อนหน้าที่จะได้รับตราสมาคมหมอใหญ่ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ได้ตลอดเวลาจุดนี้ผู้อาวุโสจี้กลับลืมบอกฟู่จาวหนิงไปเสียสนิทชายชราชุดฟ้านี้ชื่อว่าไต้ซง และไม่รู้เพราะอะไรถึงไม่สบอารมณ์ฟู่จาวหนิงนัก ทำไมจึงไม่เห็นด้วยที่จะให้นางเข้าร่วมยังมีหมอสกุลเถียนอีกคนที่ไม่เห็นด้วยเหมือนกับเขา เรียกกันว่าผู้อาวุโสเถียนไต้ซงหน้าขรึม เหลือบมองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง "ข้อแรก นางเป็นหญิงสาว!"พรวดฟู่จาวหนิงพอได้ยินเหตุผลก็จัดการตอกผู้เฒ่าไต้คนนี้เอาไว้ในใจแล้ว
ไต้ซงกับผู้เฒ่าเถียนไม่รู้จุดนี้อย่างแน่นอนสืออีตอนนี้จึงเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา "คำพูดที่หมอไต้กับหมอเถียนพูดกับพระชายาเมื่อครู่นี้ พวกเราจะรายงานกับท่านอ๋องตามความเป็นจริง"ยังมีสือซานอีกคน "ท่านอ๋องของพวกเราเองก็เข้าข้างคนของตนเองมากด้วย"ไป๋หู่นิ่งงันไปครู่หนึ่ง ยังบอกมาอีกว่า "และผู้นี้ยังเป็นคุณหนูจากตระกูลเสิ่นแห่งต้าชื่ออีกด้วย"ทำไมยังเกี่ยวข้องกับตระกูลเสิ่นของต้าชื่ออีกล่ะเนี่ย?ผู้อาวุโสเหยาถามขึ้นอย่างประหลาดใจ "เอ๋ ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินว่าท่านเสิ่นเสวียนก็ป่วยนี่นา ช่วงนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว หรือว่าจะเป็นแม่นางฟู่ที่ทำการรักษาให้เขา?""อืม" ฟู่จาวหนิงพยักหน้าผู้อาวุโสเหยาตาเป็นประกาย "พูดอย่างไม่ปิดบัง หมอหวางจากต้าชื่อกับข้าเป็นสหายเก่ากัน หมอหวังเองก็รู้ถึงอาการป่วยของท่านเสิ่น รักษาลำบากมากเลยทีเดียว..."ไม่ใช่แค่รักษาลำบาก สหายเก่าของเขายังพูดว่า ขนาดป่วยเป็นอะไรก็ยังตรวจออกมาไม่ได้"เรื่องของท่านลุงข้า มีโอกาสแล้วค่อยพูดกัน" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ใช่ๆๆ ความหมายของข้าคือ วิชาแพทย์ของแม่นางฟู่นั้นข้ายอมรับแล้ว ข้ายอมรับให้แม่นางฟู่เข้าร่วม"คำพูดของเขายังไม่ทันขาด
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ
เรียนได้เท่าไรก็เรียนเท่านั้น"ข้าไม่กลัวเหนื่อยหรอก เอาจริงๆ สมัยก่อนข้าเองก็มาจากครอบครัวที่ยากจนด้วย หลายปีมานี้ครอบครัวดีขึ้นมาก แต่ทุกวันข้าก็ยังปลูกผักอยู่ในเรือน แล้วยังฝึกมวยทุกวัน สุขภาพก็ดีมาก""มองออกเลยว่าสุขภาพของหมอหลินดีมาก นี่จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่หมอฟู่พาท่านมาในวันแรก แล้วก็ให้ท่านมาคอยเฝ้าที่นี่นั่นล่ะ"อาเหอรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้แม้ฟู่จาวหนิงจะไม่พูดออกมา แต่ในความเป็นจริงพอคนมาถึงนางก็สังเกตไปแล้ว การที่นางพาหมอหลินมา จะต้องเป็นการคัดเลือกของนางแน่นอน"จริงหรือ? ถ้าพูดเช่นนี้ พระชายาก็ถือว่ามีสายตาเฉียบคมอยู่นะ ฮ่าๆ" หมอหลินแสดงสีหน้าภาคภูมิใจฟู่จาวหนิงกลับไปพร้อมเซียวหลันยวนมีคนถือตะเกียงนำหน้าให้เมืองเจ้อยามนี้ เงียนงันไปหมด ฟ้าดำมืดมีดวงดาวไม่มากบนถนนมีแค่เสียงเท้าของพวกเขา เบามากพอคิด ก็รู้สึกเหมือนเป็นคืนฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีอะไรพิเศษแต่ในใจพวกเขาเข้าใจดี สำหรับเมืองเจ้อแล้ว นี่เหมือนถูกกดทับด้วยลมพายุไว้"อาเหอคนนี้ ดูแล้วไม่เลวเลย" เซียวหลันยวนตัดบทความคิดของฟู่จาวหนิง"อืม เป็นผู้ประสบภัย แต่เป็นคนฉลาด เรียนรู้เร็ว แล้วก็ซื่อสัตย์ด้วย" ความฉ
หมอหลินพอได้ยินคำพูดของอาเหอ ก็รู้สึกว่าตนเองเหมือนจะใจร้ายน่าดู ทำไมเขาถึงไม่คิดจุดนี้กันนะ?แล้วคิดจะจะให้พระชายาอ๋องเจวี้ยนที่เป็นหญิงสาวมาอยู่ดูแลที่นี่อีก ขนาดอ๋องเจวี้ยนตามมาแล้วแท้ๆ หรือคิดจะให้อ๋องเจวี้ยนต้องอยู่ดูแลคนป่วยที่นี่ด้วยกัน?ไอ๊หยา ต้องโทษพระชายาที่รับผิดชอบและตั้งใจมากเกินไป พอถูกนางทำให้ยุ่งขนาดนี้ เขาก็เลยลืมตัวตนฐานะของพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปเสียแล้ว"ใช่ๆๆ ข้าคิดไม่รอบคอบเอง อาเหอพูดถูกต้อง พระชายาท่านรีบกลับไปพักผ่อนเถิด ข้าดูแลที่นี่ให้"ฟู่จาวหนิงหัวเราะขึ้นมาทีหนึ่ง"หมอหลิน ยังมีอีกที่หนึ่งที่ต้องไป ท่านลืมแล้วหรือ?"พวกเขาลืมไปแล้วหรือเปล่า ว่ายังมีบ้านประชาชนอีกแห่งหนึ่งที่รับผู้ป่วยเข้ามาหลายคนอ๊ะ นางตอนนี้จึงยิ้มออกมาได้ ถือเป็นความสุขที่ได้จากความทุกข์หมอหลินตอนนี้จึงนึกออก เขาตบหน้าผาก "ใช่ๆๆ แล้วทางนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ?""นี่ถึงได้เชิญหมอหลินให้มาดูแลที่นี่ ส่วนอาเหอจะไปดูทางนั้นให้ มีเรื่องอะไรพวกท่านก็ให้ข้าราชการด้านนอกมาหาข้าก็พอ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร พรุ่งนี้จะมีคนมาแทนพวกท่าน""เอาตามที่พระชายาว่าเลย"พวกเขาไปในบ้านประชาชนอีกหลังหนึ่ง คน
"มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้เสียที่ไหน?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถลึงตาโต"องครักษ์พวกนั้นเจอกับหัวขโมย พอเห็นว่าเขาผิดปกติจึงเข้าไปจับกุม นี่ถือว่าเป็นการทำความดีกับประชาชนเมืองเจ้อมิใช่หรือ? จะว่าไป ทุกคนก็รู้ว่าโชคอขงองค์หญิงใหญ่นั้นดีมาก ดังนั้นจึงทำให้ท่านเจอกับเรื่องนี้มันมีอะไรแปลกตรงไหนกัน?""แต่ว่า แต่ว่า" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเอ่ยขึ้นเสียงอ่อย "เป็นแบบนี้มันไม่ค่อยสมเหตุสมผลกระมัง?""มีอะไรไม่สมเหตุสมผลกัน ยืนกรานเสียอย่าง พวกเขาจะไม่สงสัยหรก องค์หญิงใหญ่ท่านเป็นคนที่สูงส่งนะ แล้วจะไปทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร?""ไม่ค่อยดีนะแบบนี้?""ไอ๊หยา องค์หญิงใหญ่ท่านฟังข้าเถอะ ไม่เช่นนั้น ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนไปแล้วจริงๆ พวกเรายังต้องอยู่ในเมืองเจ้ออีกนานแค่ไหน""พวกเราตอนนี้ได้ของแล้ว ไปเมืองหลวงกันเองก้ได้""องค์หญิงใหญ่ พวกเราป่วยโรคนี้อยู่นะ หมอเทวดาฟู่ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกับใต้เท้าอันไม่มีทางยอมให้พวกเราไปหรอก ยิ่งไม่ยอมให้เราไปที่เมืองหลวงด้วย เว้นเสียแต่อ๋องเจวี้ยนจะพาพวกเราไป พวกเขาไม่กล้าขวางอ๋องเจวี้ยน"เฉินเซียงตอนนี้มองออกถ้าหากครั้งนี้ไม่ไปด้วยกันกับอ๋องเจวี้ยน ถ้าพวกนางยังต้อง
"องค์หญิงใหญ่ ในกล่องใบนี้มันคืออะไรกันแน่?"เฉินเซียงเองก็อยากรู้อยากเห็นมาก จุดเทียนสว่าง แล้วยกเชิงเทียนเดินเข้ามาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้สึกเครียดอยู่ตอลด ตอนนี้พอนั่งลงมา ก็รีบเทน้ำลงดื่ม เพียงแต่น้ำเย็นไปแล้ว พอดื่มไปนางก็สะดุ้งโหยง"ข้าจะจุดเตาให้ องค์หญิงใหญ่อย่าเพิ่งดื่มน้ำเย็นเลย"เฉินเซียงถึงแม้จะอยากรู้ว่าในกล่องนั้นมีอะไร แต่ก็ยังเป็นสาวใช้วังที่ทุ่มเทอยู่ พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นต้องมาดื่มน้ำเย็นจึงรู้สึกปวดใจตอนที่นางไปวุ่นอยู่นั้น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็นั่งมองกล่องใบนั้นอยู่ตรงนั้นกล่องไม้ใบหนึ่ง ดูแล้วก็ไม่ได้มหัศจรรย์อะไร แล้วนางก็มองไม่ออกว่าต้องเปิดจากตรงไหนด้วยจนตอนที่เฉินเซียงเทน้ำร้อนเข้ามา องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เล่นกับกล่องนั้นอยู่พักหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังหาไม่เจอว่าจะเปิดมันอย่างไร"ทำไมถึงเปิดไม่ออก""เปิดไม่ออกหรือ? เพราะด้านในมันขัดกันอยู่หรือเปล่า?"เฉินเซียงเองก็หยิบกล่องนั่นเข้ามาสำรวจ รู้สึกประหลาดใจมาก ไม่มีจุดที่เปิดได้เลยจริงๆ"นี่มันอะไรกัน? หรือจะเป็นไม้ท่อนนึง สลักออกมาเป็นกล่องแบบนี้หรือ? "เฉินเซียงมึนงง"ไม่หรอก ด้านในมีของใส่ไว้" องค์หญ
"ข้าไม่ใช่หมอ แต่ข้าก็สกุลฟู่จริงๆ เจ้าติดตามหมอหลวงคนไหนมาหรือ?" ฟู่จิ้นเชินถามเขาไม่เห็นความเป็นศัตรูจากชายหนุ่มคนนี้เลย ดวงตาชายหนุ่มคนนี้ก็ค่อนข้างจะใสซื่อด้วยแต่ไม่รู้เพราะอะไร ฟู่จิ้นเชินพอเห็นเขาแล้วกลับรู้สึกมีความระแวดระวังขึ้นมาไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่เพิ่งมาถึง ที่พอเห็นผู้ช่วยหมอก็รู้สึกว่ามาเป็นแรงงานได้เลย ในใจรู้สึกลิงโลดขึ้นมาแบบนั้นวันนี้ทุกครั้งที่เขาเห็นคนใหม่เข้ามา ก็จะรู้สึกขึ้นมาได้ด้วยสัญชาตญาณ ว่ามีคนที่มาช่วยแบ่งเบาภาระให้จาวหนิงได้อีกคนแล้ว จาวหนิงจะได้เบาแรงลงหน่อยแต่ตอนนี้พอเห็นชายหนุ่มที่เรียกว่าอาอี้คนนี้ ฟู่จิ้นเชินกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น"ข้าตามหมอหลวงหูมาน่ะ แต่ว่าระหว่างทางที่มาเขาไม่รู้ ข้าแอบขึ้นรถม้าเขาเขาก็ไม่รู้ ดังนั้นตอนนี้จึงมาหาว่าหมอหลวงหูอยู่ที่ไหน"หยวนอี้รู้ว่าหมอหลวงเผียวไม่ยอมเล่นด้วยกับเขา ดังนั้นจึงพูดถึงหมอหลวงหูอีกคนหนึ่งแทนหมอหลวงหูใจกว้าง กล่อมง่าย ยิ่งไปกว่านั้นเขากล่อมไปแค่ไม่กี่คำก็ทำให้หมอหลวงหูยอมรับเป็น 'หลานชาย' ได้แล้ว"ดังนั้นเจ้าจึงชื่อว่าหูอี้สินะ?" ฟู่จิ้นเชินถามเอ่อ...หยวนอี้ สะดุดไปหน่อยๆทำไมถึงต้องเอาแ
นั่นเป็นห่อผ้าห่อหนึ่งหลังจากหยิบออกมาแล้วแกะผ้าหนาๆ ออก กล่องไม้ใบหนึ่งก็ปรากฏออกมาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเห็น ดวงตาก็เป็นประกาย"สิ่งนี้เลย!""ดีจริงๆ หาพบแล้ว!" เฉินเซียงเองก็ดีใจ"ไป รีบกลับออกไปก่อน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกอดกล่องไม้ไว้ในอก อยากจะรีบออกไปในใจนางลนลาน ถ้าหากถูกคนพบเข้า นางคงจะรู้สึกอายที่ต้องพบคน เป็นถึงองค์หญิงใหญ่จากต้าชื่อ แต่กลับวิ่งเข้ามาขโมยของในบ้านประชาชน!"องค์หญิงใหญ่ ไปก่อนเลย พวกเราจะจัดการเก็บกวาดที่นี่ก่อน" องครักษ์รู้สึกว่าจะให้คนพบไม่ได้ จึงขออยู่ที่นี่ก่อน จะจัดการร่องรอยที่พวกเขามาค้นของให้เป็นเหมือนเดิมก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำสิ่งของตรงไปยังโรงหมอทางนั้น กลัวว่าจะถูกใครพบเห็น ระหว่างทางก็คลุมผ้าเอาไว้มิดชิด ก้มหน้ารีบเดินเข้าห้องไปเสี่ยวเยว่พูดกับไป๋หู่ในความมืดมิด "นางหนีออกไปมืดค่ำแบบนี้ ไม่เป็นไรจริงหรือ?""ท่านอ๋องก่อนจะออกไปบอกไว้แล้วว่าไม่ต้องสนใจนาง แค่อย่าให้นางไปเจอคนอื่นแล้วทำให้คนอื่นติดโรคไปก็พอ"ไป๋หู่สีหน้าไร้อารมณ์ "นางยังคิดว่าใครก็ไม่เห็นพวกนางหรือไรกัน"ทำไมไม่คิดดูหน่อย ว่าห้องข้างฝั่งตะวันตกนั้นมีแต่คนที่ป่วยทั้งน
"แล้วเขาไปหาตาเฒ่าอู๋ทำไมกัน?" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถาม "หมอเทวดาฟู่อยู่ที่นั่นหรือ?"เฉินเซียงเอ่ยขึ้น "องค์หญิงใหญ่ พวกเราตอนที่เพิ่งออกมาเมื่อครู่ เหมือนได้ยินพวกเขาพูดว่า หมอเทวดาฟู่จะพาคนไปรักษาคนป่วยใหม่ที่บ้านของประชาชนอะไรสักอย่าง""เช่นนั้นก็น่าจะเป็นบ้านของตาเฒ่าอู๋ทางนั้น!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมา "แล้วทำอย่างไรดี? ลุงหวังทำไมถึงไปเจอกับนางเล่า? ถ้าเผื่อ เขาเอาเจ้าสิ่งนั้นให้หมอเทวดาฟู่ไปจะทำอย่างไร?""ไม่หรอกกระมัง? เขาเองก็ไม่รู้จักหมอเทวดาฟู่นี่นา""แต่ของสิ่งนั้นเดิมทีเขาก็จะมอบให้อ๋องเจวี้ยนอยู่แล้ว ถ้าเขารู้ว่าหมอเทวดาฟู่เป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน นั่นมันจะไม่..."ไปบรรจบเจอกันแล้วหรือ?พอได้ยินองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพูดเช่นนี้ เฉินเซียงก็ลนลานไปด้วยเช่นกันนี่ก็มีเหตุผลอยู่!แล้วจะทำอย่างไรเล่า?"องค์หญิงใหญ่ จะให้หมอเทวดาฟู่ได้ของไปไม่ได้!"ถ้าหากของถูกฟู่จาวหนิงส่งไปให้อ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนก็จะรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงต่างหากที่เหมาะกับเขา? ถึงอย่างไรเดิมทีอ๋องเจวี้ยนก็ชอบหมอเทวดาฟู่อยู่แล้ว ถึงตอนนั้นจะยิ่งรู้สึกว่านางดีมากขึ้นไปอีก สามารถจำโชคลาภมาให้เขาได้เช่
ชายแก่คนนี้แม้จะสลบไปแล้ว แต่มือของเขากลับยังคงกำฟู่จาวหนิงไว้แน่น ราวกับกลัวว่านางจะหนีไปอย่างไรอย่างนั้นฟู่จาวหนิงลองดึงมือออกมา แต่ชายแก่ก็กำไว้แน่นมาก ถ้าหากฝืนออกแรงดึง นางกลัวว่าถุงมือตนเองจะถูกดึงออกมาหลักๆ คือนางรู้สึกประหลาดใจหน่อยๆนางไม่รู้เลย ว่าตอนนี้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพาเฉินเซียงกับองครักษ์ หาบ้านชายชราในฝันเจอแล้วอย่างยากลำบาก"องค์หญิงใหญ่ หาพบแล้วจริงๆ!"เฉินเซียงตื่นเต้นมากพวกเขาหาบ้านหลังนี้เจอจริงๆ ตามเบาะแสในฝันขององค์หญิงใหญ่ บ้านหลังนี้เหมือนกับในฝันขององค์หญิงใหญ่ไม่ผิดเพี้ยน อธิบายว่าฝันครั้งนี้ก็ยังเป็นเรื่องจริงองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตื่นเต้นมากเพราะนี่แสดงว่านางจะได้เจอกับชายชราคนนั้นแล้ว สามารถนำกล่องใบนั้นจากเขาได้ เช่นนี้นางก็สามารถเอาของไปพบอ๋องเจวี้ยนได้แล้วยังไม่พูดถึงเรื่องอื่น อย่างน้อยก็ให้อ๋องเจวี้ยนพานางกลับเมืองหลวง เรื่องที่จะให้นางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยนก็น่าจะคุยกันได้กระมังนางเองก็รู้ ถ้าหากจะรีบให้อ๋องเจวี้ยนแต่งงานกับนาง แล้วปกป้องนางแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้แล้วถ้าจะต่อต้านกับฝ่าบาทต้าชื่อ นางเองก็ต้องมีอะไรมากกว่านี้แต่สามารถ