"ตอนนี้ก็ไม่ใช่ว่าข้ากำลังรักษาอยู่หรือ? หรือว่าเป็นท่าน?" ฟู่จาวหนิงตอกกลับไปอย่างไม่หันหน้าหา ทำเอาเขาโมโหขึ้นมาทีเดียวประธานกงซุนถามขึ้น "เจ้าบอกว่าอาวุธลับหรือ?""ข้าจะหามันออกมา"ฟู่จาวหนิงใช้แหนบอ่อนคีบหนังหน้า ตรวจสอบอย่างละเอียดใบหน้าที่ผิวหนังเลือดเนื้อเหวอะหวะจนไม่เป็นรูปเป็นร่างนั้น นางก็ยังมองใกล้ๆ ได้โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนประธานกงซุนเหลือบมองนางผาดหนึ่ง ยื่นมือเข้าไปขวางซุนฉงหมิงที่เดินขึ้นมา"เป็นขนาดนี้แล้ว ลองให้สหายน้อยฟู่รักษาดู""ประธานาพูดเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย ถ้าผู้ป่วยคนนี้ตายลงที่นี่ ที่จะเสียหายคือชื่อเสียงของพวกเรา"ซุนฉงหมิงขมวดคิ้ว"พวกเราก่อนหน้านี้ก็ไม่กล้าจะลงมือกัน กลัวว่าจะทำหนังหน้าของเขาแตก แล้วจะจัดการได้ลำบาก" ประธานกงซุนเอ่ยขึ้น "แต่ตอนนี้ดูแล้ว พอแตกออกก็เหมือนจะรักษาได้ง่ายกว่า""ถูกต้อง" ฟู่จาวหนิงขานก้มหน้าก้มตาขานรับมาคำหนึ่ง "เดิมทีควรแทงให้แตกแล้วขับของเหลวออกมา"แต่ไม่ใช่ใช้วิธีการที่รุนแรงแบบนี้เพียงแต่ตอนนี้เป็นเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นก็รักษาก่อนแล้วกัน"ข้าขอบอกไว้ก่อนเลย หากผู้ป่วยคนนี้ตายไป ข้าจะประกาศต่อใต้หล้าว่าเป็นเจ
"ฉาบพิษเอาไว้ด้วยหรือ?"ประธานกงซุนหน้าเปลี่ยนสี ร้องเรียกคนขึ้นมาทันที "ใครก็ได้!"ด้านนอกมีคนหลายคนรีบเข้ามาคนเหล่านี้สวมชุดทะมัดทะแมง เครื่องประดับแบบเดียวกัน ดูแล้วน่าจะเป็นองครักษ์"ตรวจสอบในห้อง!"ที่นี่ยังมีม่านกันลมบางส่วน ชั้น ตู้อะไรพวกนี้อยู่ พื้นที่ค่อนข้างกว้าง เป็นไปได้ว่าจะมีคนซ่อนตัวอยู่"สืออีสือซาน!"ฟู่จาวหนิงก็ร้องเรียกคนบ้างหลังจากพวกเขาเข้ามาฟู่จาวหนิงก็ให้พวกเขานำคนป่วยพร้อมกับเตียงไปไว้ที่มุมหนึ่ง"ไป๋หู่ ฉากกั้นลม!"ไป๋หูย้ายฉากกั้นลมเข้ามา บังมุมนั้นเอาไว้พวกของประธานกงซุนมองเห็นการทำงานของพวกเขาก็ตกตะลึง จากนั้นจึงทยอยกันเข้ามาสืออีกพวกเขายืนคุ้มกันอยู่ด้านนอกฉากกั้นลม ต่อให้ในห้องยังมีมือสังหารซ่อนตัวอยู่ แต่ก็จะไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาลงมืออีกพระชายาของพวกเขาคิดจะช่วยผู้ป่วยอย่างเห็นได้ชัดพวกเขาติดตามฟู่จาวหนิงมานาน เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีถัดจากนี้ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาก็ต้องคุ้มกันไว้ ให้พระชายาสามารถรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย"แม่นางฟู่ทำอะไรน่ะ?"พวกของประธานกงซุนก็เบียดตัวเข้ามา เบียดมุมเล็กที่นำฉากกั้นลมมาบังไว้จนแน่
ซุนจี้มองเข้ามาด้านในผาดหนี่ง มองไม่เห็นคนที่ถูกฉากกั้นบังลมบังไว้ แต่ก่อนหน้านี้เขาเหมือนเห็นแม่นางหน้าตาสะสวยคนหนึ่งเข้ามาแล้วแม่นางคนนั้นหน้าตาดีเอามากๆ เลยซุนจี้แค่มีความคิดแล่นผ่าน ไม่ได้คิดอะไรมากนัก รีบพาพี่น้องตระกูลซุนออกไปตรวจสอบมือสังหารคนของหอวัฒนธรรมพอได้ข่าวก็ให้ความสำคัญอย่างมาก จัดองครักษ์ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดทันทียิ่งไปกว่านั้นยังปิดประตูใหญ่ เหลือไว้เพียงประตูข้างบานหนึ่ง ไม่ให้ใครที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาอีกฟู่จาวหนิงทำการแก้พิษให้กับผู้ป่วยตอนที่พวกเขาค้นหา จัดการพันใบหน้าเขาทั้งหมดเอาไว้ ใช้ยาไปไม่น้อย"อาการบวมหน้าที่ใบหน้าของเขาเกิดขึ้นจากโรคไต ถ้าจะรักษาก็ต้องรักษาที่ไตก่อน"ฟู่จาวหนิงยืนตัวตรง ถอนหายใจยาว บิดๆ ข้อมือผ่อนคลาย มองไปทางประธานกงซุน"ไตหรือ?""ถูกต้อง การขับของเสียออกมาทางปัสสาวะของไตผิดปกติ บางครั้งอาจจะทำให้เกิดการสะสมของเหลวจนบวมน้ำ เมื่อครู่ข้าลองกดเพื่อสังเกตและพบว่าเขามีการสะสมในน้ำช่องท้องรุนแรงมาก ดังนั้นผู้ป่วยคนนี้จึงมีโรคไตที่รุนแรง"คำพูดของฟู่จาวหนิงทำเอาพวกเขามองหน้ากันไปมาเห็นว่าเป็นโรคที่ใบหน้า แต่กลับเกิดขึ้นมาจากโร
ฟู่จาวหนิงในเมื่อมาแล้ว แน่นอนว่าอยากได้บัตรสมาชิกสมาคมหมอใหญ่กลับไปด้วยตอนนี้ประธานกงซุนเห็นด้วยมาแล้ว เช่นนั้นนางก็ต้องมีคนเห็นด้วยอีกสองคนจึงจะเข้าร่วมได้"ขอบคุณท่านประธานกงซุน...""ข้าไม่เห็นด้วย!"ชายชราชุดฟ้าไม่รอให้นางพูดจบก็ตะเบ็งเสียงขึ้นมา สะบัดชายเสื้อ หัวฟัดหัวเหวี่ยง"สหายไต้ทำไมจึงไม่เห็นด้วย? ไม่เห็นด้วยนั้นต้องมีเหตุผล"ประธานกงซุนเหลือบมองฟู่จาวหนิง นางรู้ไหมว่าถ้ามีสี่คนคัดค้าน นางก็ไม่สามารถเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ได้ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกที่เดิมทีเห็นด้วยแล้ว หากถูกเหตุผลการคัดค้านกล่อมลงได้ ก็อาจจะเปลี่ยนใจได้อีกด้วยก่อนหน้าที่จะได้รับตราสมาคมหมอใหญ่ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ได้ตลอดเวลาจุดนี้ผู้อาวุโสจี้กลับลืมบอกฟู่จาวหนิงไปเสียสนิทชายชราชุดฟ้านี้ชื่อว่าไต้ซง และไม่รู้เพราะอะไรถึงไม่สบอารมณ์ฟู่จาวหนิงนัก ทำไมจึงไม่เห็นด้วยที่จะให้นางเข้าร่วมยังมีหมอสกุลเถียนอีกคนที่ไม่เห็นด้วยเหมือนกับเขา เรียกกันว่าผู้อาวุโสเถียนไต้ซงหน้าขรึม เหลือบมองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง "ข้อแรก นางเป็นหญิงสาว!"พรวดฟู่จาวหนิงพอได้ยินเหตุผลก็จัดการตอกผู้เฒ่าไต้คนนี้เอาไว้ในใจแล้ว
ไต้ซงกับผู้เฒ่าเถียนไม่รู้จุดนี้อย่างแน่นอนสืออีตอนนี้จึงเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา "คำพูดที่หมอไต้กับหมอเถียนพูดกับพระชายาเมื่อครู่นี้ พวกเราจะรายงานกับท่านอ๋องตามความเป็นจริง"ยังมีสือซานอีกคน "ท่านอ๋องของพวกเราเองก็เข้าข้างคนของตนเองมากด้วย"ไป๋หู่นิ่งงันไปครู่หนึ่ง ยังบอกมาอีกว่า "และผู้นี้ยังเป็นคุณหนูจากตระกูลเสิ่นแห่งต้าชื่ออีกด้วย"ทำไมยังเกี่ยวข้องกับตระกูลเสิ่นของต้าชื่ออีกล่ะเนี่ย?ผู้อาวุโสเหยาถามขึ้นอย่างประหลาดใจ "เอ๋ ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินว่าท่านเสิ่นเสวียนก็ป่วยนี่นา ช่วงนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว หรือว่าจะเป็นแม่นางฟู่ที่ทำการรักษาให้เขา?""อืม" ฟู่จาวหนิงพยักหน้าผู้อาวุโสเหยาตาเป็นประกาย "พูดอย่างไม่ปิดบัง หมอหวางจากต้าชื่อกับข้าเป็นสหายเก่ากัน หมอหวังเองก็รู้ถึงอาการป่วยของท่านเสิ่น รักษาลำบากมากเลยทีเดียว..."ไม่ใช่แค่รักษาลำบาก สหายเก่าของเขายังพูดว่า ขนาดป่วยเป็นอะไรก็ยังตรวจออกมาไม่ได้"เรื่องของท่านลุงข้า มีโอกาสแล้วค่อยพูดกัน" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ใช่ๆๆ ความหมายของข้าคือ วิชาแพทย์ของแม่นางฟู่นั้นข้ายอมรับแล้ว ข้ายอมรับให้แม่นางฟู่เข้าร่วม"คำพูดของเขายังไม่ทันขาด
สายตาคนทั้งหมดตกไปอยู่บนหน้าฟู่จาวหนิงอีกครั้งพวกของไป๋หู่ก็โมโหขึ้นมาแล้ว ถ้าไม่ใช่ฟู่จาวหนิงไม่สั่งให้พวกเขาห้ามอาละวาด พวกเขาคงตบฉาดซุนฉงหมิงไปหลายทีแล้ว ตบหน้าแก่ๆ ของเขาให้บวมเป่งเสียซุนฉงหมิงทำไมถึงสนใจเรื่องของพระชายาพวกเขาเสียขนาดนี้?ฟู่จาวหนิงประจันสายตากับซุนฉงหมิง มองเห็นถึงเจตนาร้ายในตาของเขานางจู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา"เจ้าหัวเราะอะไร?"ซุนฉงหมิงขมวดคิ้ว เขาคิดไม่ถึงว่า นอกจากจะไม่ได้เห็นฟู่จาวหนิงหน้าเปลี่ยสีแล้ว แต่ยังเห็นนางหัวเราะขึ้นมาอย่างสบายอุราเสียอย่างนั้นแม่นางีคนนี้ยังไม่รู้หรือว่าเกี่ยวข้องกับลัทธิเทพทำลายล้างมันหมายถึงอะไร?นางยังหัวเราะออกมาได้อีก!"ข้าเพิ่งพูดอะไรออกไป ท่านฟังไม่เข้าใจหรือ? สามีของข้าคืออ๋องเจวี้ยน""แล้วม้นทำไมกั้น? คนของแคว้นเจาก็ไม่เข้าใจมาตลอด ว่าทำไมทั้งๆ ที่เป็นคู่แค้นกันแท้ๆ แต่อ๋องเจวี้ยนก็ยังแต่งงานกับเจ้า! แต่ต่อให้เขาไม่สนใจความแค้นเรื่องวางยาในอดีต ก็ไม่อาจลบความจริงที่แม่ของเจ้าเป็นสาวกลัทธิเทพทำลายล้างไปได้! ผู้บัญชาการกองธงมู่แห่งต้าชื่อ พวกเจ้ารู้จักไหม?"ผู้บัญชาการกองธงมู่ในสมองฟู่จาวหนิงมีคนผู้นี้แล่นผ่านขึ้
"เรื่องนี้สามีของข้าเป็นคนที่เกี่ยวข้องโดยตรง เขาเป็นผู้เสียหายจึงไม่มีทางปกป้องคนของลัทธิเทพทำลายล้างมากที่สุด ดังนั้น ถ้าเขาพูดว่าแม่ของข้าใช่ก็คือใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ถูกต้องไหม?"ประธานกงซุนฟังถึงจุดนี้ ก็ถอนใจยาวโล่งออกมา พยักหน้าให้"ถูกต้อง อ๋องเจวี้ยนจากแคว้นเจาถ้าบอกว่าฟู่หลินซื่อไม่ใช่ลัทธิเทพทำลายล้าง เช่นนั้นนางก็คือไม่ใช่ คนที่ติดพิษในครั้งนั้นคือตัวเขา เขาไม่มีทางแก้ตัวให้แทนคนของลัทธิเทพทำลายล้างอยู่แล้ว""เรื่องนี้ก็พูดยาก ถ้าอ๋องเจวี้ยนถูกความรักบังตาจนตามืดบอดขึ้นมาล่ะ?" ไต้ซงเอ่ยขึ้น"เพียะ!"ฟู่จาวหนิงยกมือ ตบฉาดไปที่เขาทีหนึ่งคนทั้งหมดนิ่งงันไปไต้ซงหน้าแดงผะผ่าว หูอื้อไปหมด เขาไม่อยากเชื่อฟู่จาวหนิง ฟู่จาวหนิงกล้าตบเขาเช่นนั้นหรือ?!ซุนฉงหมิงหน้าเปลี่ยนสีไปแล้วเขาดิมทีที่สีหน้าสงบนิ่งมาตลอด เหมือนควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดเอาไว้ในมือ ตอนนี้ถูกการตบฉาดนี้ทำเอาตะลึงงันเสียแล้ว"เจ้าเป็นใครกัน!" ฟู่จาวหนิงตะคอกขึ้นเสียงเย็น "เจ้ามีตำแหน่งขุนนางติดตัวไหม? เจ้าเป็นจักรพรรดิจากแคว้นไหน? เจ้ามันก็แค่ประชาชนคนหนึ่ง แต่กลับกล้าด่าอ๋องแห่งแคว้นเจา!""ชิ้ง!"กร
ไต้ซงพอจากไป ผู้เฒ่าเถียนก็รู้สึกอยู่ไม่สุข คิดจะไปเช่นเดียวกัน"ท่านไม่อยากจะดูหน่อยหรือว่าจะมีคนคัดค้านไม่ให้ข้าเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่อีกไหม?"คำพูดของฟู่จาวหนิงทำเอาผู้เฒ่าเถียนก้าวขาไม่ออก"พวกท่านไม่ใช่ว่าคัดค้านข้ามาสามคนแล้วหรือ ถ้ามีอีกแค่คนเดียว ข้าก็เข้าสมาคมหมอใหญ่ไม่ได้แล้วไม่ใช่หรือไร? ดังนั้นเวลาเช่นนี้ ท่านไม่อยากจะไปดูหน่อยหรือ?" ฟู่จาวหนิงถามผู้เฒ่าเถียนมองนาง รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจหน่อยๆในเมื่อขาดอีกแค่คนเดียวก็จะทำให้นางเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ไม่ได้แล้ว นางไม่รู้สึกกระวนกระวาย ตึงเครียดลนลานบ้างเลยหรือ?ทำไมยังคิดจะให้เขาอยู่ที่นี่?ให้มาดูนางถูกตบหน้า ถูกประตูของสมาคมหมอใหญ่กีดกันเป็นคนนอกหรือ?ซุนฉงหมิงเองก็หรี่ตาลง มองฟู่จาวหนิง ไม่รู้ว่านางคิดจะทำอะไร"ข้าได้ยินว่า หมอข้างล่างเหล่านั้นมีหลายคนที่ศรัทธาในตัวหมอเทวดาซุนนี่ ขอแค่หมอเทวดาซุนเอ่ยปาก หาคนมาสักสามสี่คนยืนหยัดคัดค้านไม่ให้ข้าเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นี่" ฟู่จาวหนิงมองซุนฉงหมิงซุนฉงหมิงเองก็ไม่กล้ายอมรับจุดนี้"เจ้าพูดถูกต้อง"เขายอมรับมาตรงๆเขามีตัวตนฐานะเช่นนี้ คำพูดถือว่ามีอิทธิพล