ชิงอีถอนใจโล่งออกมาท่านอ๋อง ควรจะเป็นเช่นนี้ อดทนไว้ จะมาถูกองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำลายการป้องกันลงไม่ได้นะ"อ๋องเจวี้ยน ท่านลองดูก่อนว่าคืออะไร"ท่านหูขมวดคิ้ว ท่าทีเช่นนี้ของอ๋องเจวี้ยนดูเกินไปหน่อยไหม?"ไม่จำเป็น""อ๋องเจวี้ยน!"ท่านหูกัดฟัน "ท่านได้ยินเรื่องปาฎิหาริย์ตอนที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอวยพรเมื่อวันก่อนหรือไม่?""ปาฎิหารย์?""นกนับร้อยบินผ่าน ดนตรีสวรรค์ดังแว่ว" ท่านหูตอนนั้นเองก็อยู่ด้วย ดังนั้นตอนที่พูดถึงเรื่องนี้จึงตื่นเต้นขึ้นมา "องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเป็นหญิงสาวที่สวรรค์ปกป้องโดยแท้จริง สูงส่งจนเกินกว่าจะเอ่ยถึง โชครุนแรงอย่างมิอาจต้านทาน"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นได้ยินเขาชมตนเองเช่นนี้ ก็รู้สึกอายขึ้นมาจนต้องก้มหน้า "ท่านหูกล่าวเกินไปแล้ว""ข้าพูดเรื่องจริงทั้งนั้น"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลุกขึ้นยืน "ข้าไปดูพวกของเฉินเซียงหน่อยว่าเลือกอาหารแล้วหรือยัง"พูดจบนางก็รีบเดินออกไปท่านหูพอเห็นนางออกไป ก็รู้ว่านางให้จังหวะกับเขาในการคุยกับอ๋องเจวี้ยน จึงรีบบอกอ๋องเจวี้ยนว่า "อ๋องเจวี้ยน ท่านทำไมจึงเย็นชากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเช่นนี้?"เซียวหลันยวนลดสายตาลงท่านหูเอ่ยต่ออย่าง
เซียวหลันยวนมองโสมเซียนค้างฟ้า เสียงใต้หน้ากากยังคงเย็นชา"ข้ามีพระชายาแล้ว""อ๋องเจวี้ยนช่างเขลาเหลือเกิน" ท่านหูรีบพูดขึ้นมา "เรื่องนี้คุยกับองค์หญิงใหญ่อย่างละเอียดได้นี่! ตอนนี้องค์หญิงใหญ่อยู่ในแคว้นต้าชื่อ อันที่จริงก็ลำบากอยู่บ้างแล้ว เจ้าอารามเองก็เคยวิเคราะห์ไว้ องค์หญิงใหญ่คิดจะดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ ก็ออกหาคนที่มีชะตาต้องกับตนเอง และคนคนนั้นก็คือท่าน"ท่านหูกดเสียงลงต่ำ"องค์จักรพรรดิต้าชื่อที่เอ็นดูองค์หญิงใหญ่เช่นนี้ ก็เพราะโชคขององค์หญิงใหญ่ แต่ถ้าการเอ็นดูนี้ยิ่งลึกลงไป เกรงว่าคงจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแน่ ก่อนหน้านี้องค์หญิงใหญ่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ แต่ตอนนี้นางเติบโตขึ้นแล้ว แล้วจะถูกรั้งเอาไว้แต่ในวังลึกแล้วอยู่แต่กับองค์จักรพรรดิได้อย่างไรกัน?"เซียวหลันยวนพอได้ยินคำพูดของท่านหู ดวงตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา"เจ้าอารามเคยทอดถอนใจมาแล้ว กลัวแค่ว่าองค์หญิงใหญฝู่อวิ้นได้รับโชคมา แต่ก็จะพ่ายเพราะโชคเช่นกัน องค์จักรพรรดิไม่มีทางยอมให้นางแต่งงานออกจากวังจักรพรรดิแน่นอน แล้วในวังลึก จะไทเฮาฮองเฮา หรือเหล่าสนมองค์หญิงทั้งหมด ไม่มีใครสักคนที่มีอำนาจกับได้รับความเอ็นดูเท่ากับองค์หญิงใ
เซียวหลันยวนหัวเราะพรืดออกมา "และยิ่งไม่เชื่อเรื่องการคุ้มครองจากสวรรค์อะไรนั่นด้วย ดังนั้นคำพูดนี้ท่านหูทีหลังไม่ต้องพูดแล้วนะ"สวรรค์คุ้มครองอะไรกัน ชะตาต้องกันอะไรกันถ้าให้พูดจริงๆ เขามีชะตาต้องกันกับจาวหนิงต่างหากหลังจากแต่งงานกับจาวหนิง สุขภาพของเขาก็ดีวันดีคืน ตอนแรกที่เขาพิษกำเริบจนตัวเย็นเฉียบ แค่นางมาอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นแล้วแล้วมาพูดอะไรสวรรค์คุ้มครอง อย่างฟู่จาวหนิงที่เรียนรู้มาจนวิชาแพทย์ยอดเยี่ยม นั่นเป็นความสามารถของตนเองต่างหากพิษในร่างกายเขาได้นางมาช่วยแก้ให้ ชีวิตของเขาก็ยืดตามาได้เพราะลูกกลอนบำรุงหัวใจที่นางไปตามหาและสกัดมาให้ พิษคงค้างของเขาก็เป็นโชคดีของนางที่หาเอ็นมังกรหยกจนพบแล้วนำมาแก้ให้แผลเป็นพิษบนหน้าเขาตอนนี้ ก็เป็นฟู่จาวหนิงที่รักษาให้เป็นนางที่ไม่กลัวความน่าเกลียด ไม่รังเกียจความสกปรก คอยล้างแผลให้กับเขาทายาให้เขาอยู่ตลอดถ้าจะบอกว่าที่เขามีชีวิตต่อมาได้ นั่นก็ล้วนเป็นเพราะฟู่จาวหนิงทั้งนั้นต้องมาขอโชคจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเสียที่ไหน?องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำอะไรบ้าง? นางทำอะไรได้บ้าง?"อ๋องเจวี้ยน..."ในใจท่านหูรู้สึกไม่ค่อยดี แม้จะไ
ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ก็เสแสร้งเก่งจริงๆ รู้อยู่ว่าคนผู้นี้คือสามีของนาง คืออ๋องเจวี้ยน แล้วยังเสแสร้งทำเป็นไม่รู้จักกันอีกคิดจะเล่นตลกกับองค์หญิงใหญ่อย่างนั้นหรือ?จะดูตอนที่องค์หญิงใหญ่เลือกคู่ตอนนั้นแล้วเปิดโปงตัวตนฐานะออกมา แล้วค่อยมาถากถางเยาะเย้ยอย่างนั้นหรือ? ดูมีเจตนาร้ายแอบแฝงจริงๆถูกเสิ่นเซียงบอกว่าตนเองชื่นชมอ๋องเจวี้ยน องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เขินอายเล็กน้อย นางก้มหน้าลง เสียงเองก็เบาลง แต่ไม่ได้แย้งคำพูดของเสิ่นเซียงเมื่อครู่เลย แต่ขอโทษกลับมา"อ๋องเจวี้ยน สาวใช้ของข้าไม่รู้จักมารยาท ท่านอย่าได้คิดเล็กคิดน้อยเลย เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักตัวตนของท่าน ถ้าหากรู้ล่ะก็ วันนี้ข้าคงเชิญพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาด้วยแล้ว""ช่างเถอะๆ ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว กินข้าวกินข้าว"ท่านหูมองอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่ง กังวลหน่อยๆ ว่าเขาจะเอาเรื่องที่ไม่สนใจองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอยู่ในสายตาแม้แต่น้อยเมื่อครู่พูดออกมาอีกครั้ง จึงเรียกให้พวกเขามากินข้าวดีกว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคีบห่อเส้นเงินชิ้นหนึ่งใส่ไปที่ชามของเซียวหลันยวน"อ๋องเจวี้ยนลองชิมดู นี่เป็นอาหารมังสวิรัตชนิดหนึ่งที่ข้าชอบที่สุด..."คำพู
ฟู่จาวหนิงเหลือบมองไปด้านนอกผาดหนึ่ง ชิงอีกำลังชะโงกหน้าออกไปดูข้างนอก พอสบสายตากับนาง จึงหดกลับมาทันทีนี่มันแปลกๆ นะฟู่จาวหนิงตักน้ำแกงให้เขา "ดื่มน้ำแกงก่อน ท่านหูไม่ใช่บอกว่าหารุ่นหลังสาวใช้วังของตงฉิงพบแล้วหรือ? ได้เจอแล้วหรือยัง?""ไม่เลย""เขาโกหกท่านหรือ?""ยังไม่ทันพูดถึงเรื่องนี้"ฟู่จาวหนิงเห็นเซียวหลันยวนเหมือนไม่ค่อยอยากจะพูดต่อ ก็เลยไม่ถามอีก"กินข้าว กินเสร็จพวกเราไปอ่านหนังสือกัน หนังสือที่ท่านลุงให้มา" ฟู่จาวหนิงยังไม่ได้เริ่มอ่านหนังสือเลย นางเดิมทีคิดจะรอเขากลับมาก่อนแล้วค่อยไปดูหนังสือสามเล่มที่เกี่ยวกับตงฉิงนั่นด้วยกัน"ได้"กินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่จาวหนิงหยิบหนังสือสามเล่มนั้นออกมาเล่มหนึ่งคือตำราของหายากล้ำค่าของตงฉิง ด้านในเขียนถึงผลิตผลที่มีเฉพาะในตงฉิงส่วนหนึ่ง และยังมีเรื่องวิถีชีวิตของผู้คนอีกส่วนหนึ่งด้วยมองออก ว่าตงฉิงนั้นมีผลิตผลที่สมบูรณ์จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นวิถีชีวิตผู้คนก็ยังเรียบง่ายอีกด้วยเรื่องที่แตกต่างจากที่พวกเขารู้มาทั้งหมดที่สุดเรื่องหนึ่งก็คือ ระบบจักรพรรดินีตงฉิงไม่ใช่จะมีจักรพรรดินีอยู่ตลอด แต่เหล่าทายาทของราชวงศ์ตงฉิงนั้นก็ไม
ชิงอีแม้จะปิดปากแล้ว แต่แค่ประโยคนี้คำเดียวฟู่จาวหนิงก็เดาออก"ตอนกลางวันเจอกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นด้วยหรือ?""อืม"อารมณ์เซียวหลันยวนดีดขึ้นมา เขาตอนนี้ไม่อยากจะเอ่ยถึงองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเลย เกี่ยวกับเรื่องที่ชะตาของตนเองถูกกำหนดไว้แล้วชัดเจน และมักจะถูกนำไปโยงกับคนอื่นๆ ทำเอาเขารู้สึกรำคาญมาก"เช่นนั้นข้าก็จะรีบผ่าตัดให้พวกเขา จากนั้นก้รีบออกจากเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อเสีย"ฟู่จาวหนิงเองก็มองออกว่าเขาไม่อยากจะพูดต่อไปแล้ว ตนเองจึงหยุดความคิดที่จะถามซักไซ้ไล่เรียงเซียวหลันยวนกลับมาทั้งที่ยังไม่กินข้าว คิดว่าเขาคงจะเลือกไว้แล้ว"ได้"เสิ่นเสวียนยังไม่กลับมา แต่คนในสวนคะนึงก็ได้รับการกำชับจากเขาไว้เรียบร้อย ว่าอะไรก็ให้ฟังฟู่จาวหนิงไว้ก่อนสองวันก่อนให้คนจัดการทำความสะอาดห้องๆ หนึ่งเอาไว้แล้ว ฟู่จาวหนิงก็นำอุปกรณ์ที่จำเป็นเตรียมไว้แล้วเรียบร้อย สืออีสือซษนเองก็เป็นผู่ช่วยชั้นเยี่ยมของนง มีพวกเขาคอยเฝ้าประตู ฟู่จาวหนิงก็วางใจขึ้นมากหลังจากเตรียมเสร็จ ฟู่จาวหนิงก็ไปพบฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยว"ท่านมาแล้ว เตรียมจะรักษาพวกเราแล้วใช่ไหม?"ฟู่จิ้นเชินพอเห็นนางเข้ามา กลับถอนหายใจ
เสิ่นเชี่ยวพอเห็นก็รู้สึกสงสัย "นี่คืออะไรหรือ? ยังต้องมัดพวกเราไว้ด้วยหรือ?""ตอนนี้ยังไม่ต้อง"ฟู่จาวหนิงคิดในใจอีกเดี๋ยวพอข้าทำให้พวกท่านชาไปทั้งตัวแล้ว ยังต้องมามัดอีกทำไมกัน นางก็แค่เผื่อเอาไว้ก่อนเท่านั้น"ท่านคนเดียวรักษาพวกเราสองคนหรือ?" เสิ่นเชี่ยวถามขึ้นมาอีก"ใช่แล้ว""ท่านจะเหนื่อยเกินไปไหม?" เสิ่นเชี่ยวเป็นห่วงนางขึ้นมาสายตาที่มองนางอย่างกังวล ฟู่จาวหนิงนิ่งงันไปครู่หนึ่ง"พวกท่านนอนลงบนเตียงเถอะ"ฟู่จิ้นเชินกุมมือภรรยา "ฮูหยินไม่ต้องกลัว ข้าอยู่ข้างๆ""ได้"เสิ่นเชี่ยวดวงตาเหมือนจะร้องไห้ฟู่จาวหนิงหลังจากที่พวกเขานอนลงไปก็ปิดประตู สืออีสือซานคอยเฝ้าอยู่ด้านนอกฟู่จาวหนิงทำความสะอาดมือ สวมถุงมือ ให้พวกเขานอนตะแคง ส่วนตนเองก็หยิบยาชาออกมา"ข้าจะฝังเข็มให้พวกเท่านก่อน เช่นนี้พวกท่านจะหลับไป"ทั้งสองคนนอนตะแคง มองไม่เห็นเข็มในมือนางฟู่จาวหนิงฉีดยาชาให้กับพวกเขาอย่างไม่ลังเลรอจนพวกเขาหลับจึงเริ่มงานสิ่งของในหัวของพวกเขานั้น นางทดลองใช้แม่เหล็กดูก่อน ก็ยังไม่สามารถดึงออกมาค่อยได้ ต่อให้จะใช้คีมปากแหลมเบอร์เล็กที่สุด ก็คีบออกมาไม่ได้เหมือนกันกระทั่งว่า ยั
องค์รัชทายาทต้าชื่อคิดใช้โอกาสนี้สังหารอ๋องเจวี้ยนเสียความคิดสังหารต่ออ๋องเจวี้ยนของเขาควบกลั่นไว้นานแล้ว"อ๋องเจวี้ยนถ้าอยู่ที่แคว้นเจา ข้าเองก็ทำอะไรเขาไม่ได้จริงๆ แต่ตอนนี้เป็นโอกาสดีแล้ว!"องค์รัชทายาทต้าชื่อคุยกับที่ปรึกษาของเขา ดวงตาดุดัน"ข่าวลือที่ส่งมาจากแคว้นเจา จักรพรรดิแคว้นเจาไม่ยอมให้เขาออกจากแคว้นเจา ดังนั้นอ๋องเจวี้ยนจึงถือโอกาสแอบหลบหนีมา ปิดบังองค์จักรพรรดิแคว้นเจาไว้ เช่นนั้นเขาคงไม่ได้นำองครักษ์เงามังกรมาด้วย จึงทำได้เพียงแอบปรากฏตัวเท่านั้น""องค์รัชทายาทพูดได้ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่มีคนเปิดเผยออกมา พวกเราก็ยังไม่รู้ว่าจอมยุทธสวมหน้ากากที่ช่วยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ที่ถนนวันนั้นคืออ๋องเจวี้ยน!" ที่ปรึกษาเอ่ยขึ้นมา"เขาต้องมาเพื่อฝูอวิ้นแน่นอน"องค์รัชทายาทต้าชื่อรู้สึกว่าตนเองคาดเดาไม่ผิดถึงอย่างไร คนอย่างฝูอวิ้นใครจะไม่อยากแต่งด้วยกัน?อ๋องเจวี้ยนอยู่ที่แคว้นเจา ก็เป็นเหมือนหนามตำตาของจักรพรรดิแคว้นเจา เขาเองก็ไม่มีแรงช่วยใด แต่ถ้าหากเขาสามารถแต่งกับฝูอวิ้นได้ก็จะต่างไปแล้ว!เขาจะมีแรงช่วยจากต้าชื่อ กระทั่งถ้าอยู่ต่อในแคว้นเจาไม่ได้ เขาก็มาเป็นราชบุตรเขยองค์ห
เขาอยากไปด้วยกันกับลูกสาว เช่นนี้จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน และยังได้มองอยู่ข้างๆ ถึงสภาพการทำงานของนางด้วย อยู่กับคนเป็นอย่างไร จะได้เข้าใจนางมากขึ้น รู้จักนางมากขึ้นเขาพลาดที่จะมองดูลูกสาวเติบโตไปหลายปี ตอนนี้อยากจะคว้าโอกาสนี้ไว้บางที ความสัมพันธ์หลังจากนี้อาจจะดีขึ้นมาอีกก็ได้นิสัยของฟู่จิ้นเชินคือมุ่งมั่นไปที่เป้าหมาย ไม่รีบไม่ร้อน แต่จะไม่ยอมแพ้ และจะคอยคว้าโอกาสทั้งหมดไว้ ก้าวไปยังจุดหมายทีละก้าวๆเหมือนกับตอนที่เขาพาภรรยา รู้ว่าห้ามตายเด็ดขาด จะถูกจับกลับไปไม่ได้ บนพื้นฐษนนี้ ใช้เวลาไปหลายปี แต่เขาก็ไม่ได้ล้มเลิกการตามหาความจริงเรื่องการวางยาในอดีตถ้าหากไม่ใช่มาเจอกับฟู่จาวหนิง อันที่จริงเขาก็ยังทนต่อไปได้ บางทีอาจจะถึงวันที่เขาพบกับความจริงวันนั้นฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวนสำหรับตอนนี้ที่นางหันมามองตนเอง ต้องการความเห็นจากเขา ในใจเซียวหลันยวนจึงพอใจมากขึ้นมาเขากุมมือนางไว้ บอกกับนางว่า "ให้เขาไปด้วยก็ดี"เขามองออกแล้ว ฟู่จิ้นเชินนี้ไม่ธรรมดาเลย ฉลาดและตื่นตัว ใจเย็นเฉียบแหลมมีฟู่จิ้นเชินตามไปด้วย ในใจเซียวหลันยวนก็ค่อนข้างจะวางใจถ้าหากไม่ใช่ว่าตัวตนฐานะเขาไปไหนมา
"สถานที่อย่างเมืองเจ้อค่อนข้างจะพิเศษ พื้นที่ใหญ่โต ประชาชนน้อย และการเดินทางก็สะดวกสบาย" ฟู่จิ้นเชินตอบ "ถ้าหากจะยัดผู้ประสบภัยเข้าไป อันที่จริงก็สามารถทำได้อยู่ ข้าเคยไปเมืองเจ้อในเมืองมีพื้นที่ว่างค่อนข้างกว้างขวางอยู่หลายแห่ง บางครั้งยังมีพวกพ่อค้าพเนจรจากที่ต่างๆ ไปทำตลาดนัดกันที่นั่นด้วย"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนมองเขาอย่างเกินคาด"เมืองเจ้อท่านก็เคยไปมาหรือ?"ฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวสบตากัน สองสามีภรรยายิ้มอย่างจำใจ"ถ้าจะให้พูด พวกเราไปมาหลายสถานที่เลย"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนเองก็เข้าใจขึ้นมา สิบกว่าปีนี้พวกเขาล้วนต้องคอยหลบการไล่ล่าสังหารอยู่ภายนอก แล้วยังมีการไล่จับของจวนทางการอีก แต่ละสถานที่จึงไม่สามารถอยู่ได้นานนัก ดังนั้นพวกเขาจึงหนีไปแทบจะทุกที่"แต่ว่าทางนั้นนาจะขาดแคลนเรื่องวัตถุ ถึงอย่างไรต่อให้มีที่ว่างที่จะจัดวางผู้ประสบภัยเข้าไป นั่นก็ต้องสร้างกระโจมจัดแจงที่พัก ไม่เช่นนั้นวันที่อากาศหนาวเช่นนี้ ก็ไม่สามารถปล่อยให้ผู้ประสบภัยต้องนอนด้านนอกทนหนาวทนหิวได้"ฟู่จิ้นเชินบอกกับฟู่จาวหนิงว่า "พรุ่งนี้ข้าจะไปกับเจ้าด้วย"นี่เป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเอ่ยถึงม
ดังนั้น จาวหนิงจะต้องไม่ยอมถูกชายหนุ่มคนอื่นดึงดูดแน่ เพราะไม่มีใครเทียบกับเขาได้แล้วระหว่างทาง อ๋องเจวี้ยนอารมณ์ดีมาก กระทั่งยังสามารถคุยกับฟู่จิ้นเชินเรื่องโป๋จีอย่างทัดเทียมกันด้วยรอจนมาถึงจวนอ๋อง พวกเขาก็หารือตัดสินใจออกมาได้แล้ว พรุ่งนี้จะส่งโป๋จียัดเข้าไปในขบวนของอันเหนียน พาเขาออกจากเมืองก่อน หลอกเขา ให้เขาคิดว่ารับปากว่าจะช่วยเขาออกไป รอให้ได้จดหมาย คนของเซียวหลันยวนก็จะคุมตัวเขากลับเมืองหลวง"พรุ่งนี้ข้าจะไปค้นตัวเขาเอง" เซียวหลันยวนบอกกับฟู่จาวหนิงคนอื่นล้วนค้นไม่เจอ เขาไม่เชื่อว่าตนเองจะหาไม่พบ"แล้วนายพันเก๋อล่ะ?""ให้เขาเข้าวังไม่ได้พบกับจักรพรรดิไม่ได้ชั่วคราวก็พอแล้ว" ฟู่จิ้นเชินมีแผนการ"ท่านคิดจะทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว เก๋อมู่กวงมีวรยุทธ์ ฟู่จิ้นเชินยังขังเขาไว้ในวังได้หรือ?"ข้ารู้ว่ามีคนหนึ่งที่พัวพันกับเก๋อมู่กวงอยู่ อ๋องเจวี้ยนส่งคนนั้นไปที่ห้องของเก๋อมู่กวงก็พอแล้ว" ฟู่จิ้นเชินมองไปทางเซียวหลันยวน"เส้นสายของท่านนี่ทั้งเยอะทั้งซับซ้อนจริงๆ""ถึงอย่างไรข้าก็เป็นแค่ประชาชนธรรมดา มีเส้นสายแค่นี้ไม่คู่ควรให้เอ่ยถึงหรอก""ประชาชนธรรมดาไม่มีทางพาคน
ฟู่จิ้นเชินเองก็นับถือเซียวหลันยวน"คิดไม่ถึงเลยว่าอ๋องเจวี้ยนจะรู้มากขนาดนี้"ฟู่จาวหนิงก็ตกใจ "ท่านพูดภาษาเฮ่อเหลียนได้หรือ?"สำหรับความนับถือของฟู่จิ้นเชิน เซียวหลันยวนไม่สนใจ แต่น้ำเสียงตกใจของฟู่จาวหนิง ทำให้เขารู้สึกภูมิใจขึ้นมาหน่อยๆนางนั่งตัวตรงขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ ใช้น้ำเสียงที่ราบเรียบพูดว่า "อืม ก็ไม่ได้ยากอะไรนี่"พรวดฟู่จาวเฟยอยากจะขำขึ้นมาทำไมคำพูดพี่เขยถึงดูแปลกๆ?ตอนอยู่ว่างๆ ในบ้านกับท่านปู่กับน้าเซี่ยอันห่าวพกวเขาก็เคยพูดภาษาเฮ่อเหลียนออกมา เพราะพวกเขาอยากรู้อยากเห็นหน่อยๆแต่หลังจากที่ได้ยินเขาพูดไปไม่กี่คำก็ยังบอกว่าเรียนยาก สักคำเดียวก็เรียนกันออกมาไม่ได้ความสามารถการเรียนรู้ของพ่อเขาดีมาก แต่ก็ยอมรับว่านี่เรียนยากจริงๆพี่เขยกลับบอกว่าไม่ยาก แต่ว่า ที่โป๋จีพูดรวดเดียวอย่างรวดเร็วขนาดนั้น แล้วพี่เขยยังฟังออกได้ ก็อธิบายได้ว่าเขาเป็นมันทุกอย่างจริงๆ"เรียนมาตอนอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงหรือ?" ฟู่จาวหนิงใช้สายตานับถือมองเขา กระพริบตาปริบๆอ๋องเจวี้ยนพอใจขึ้นมาทันที แล้วยังรู้สึกจิตใจหวานชื่นด้วย"ใช่แล้ว""เจ้าอารามสอนมาหรือ?" ฟู่จาวหนิงประหลาดใจ "หรือว่าเ
"เช่นนั้นก็ใสหัวไป"เซียวหลันยวนพาคนออกจากคุกใหญ่เหล่าผู้คอมมองพวกเขา "หัวหน้า ตอนนี้ทำอย่างไรดี? นายพันเก๋อบอกไว้แล้ว ถ้าเฮ่อเหลียนเฟยมีความน่าสงสัยที่จะเป็นศัตรู ต้องคุมตัวเขาไว้ก่อนนี่นา"ก่อนหน้านี้ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าก็ดึงคนไว้แล้ว ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนพาเขาเดินวนในคุกไปรอบหนึ่ง จากนั้นกลับเดินกลับไปอย่างองอาจเสียอย่างนั้นพรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อถามขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?เรื่องนี้ จะต้องนำไปให้ฝ่าบาททรงทราบแน่ องค์จักรพรรดิถ้าหากถามหาความรับผิดชอบขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?แต่หัวหน้าคุกก็ไม่กล้าทำอะไรนี่นา"ช่างมัน ผลักไปบนหัวอ๋องเจวี้ยนให้หมดแล้วกัน พรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อซักไซ้ขึ้นมา พวกเราก็บอกไปว่าพวกเราขวางอ๋องเจวี้ยนไม่อยู่"นี่โทษพวกเขาได้ที่ไหน?ฟู่จาวหนิงพอเห็นพวกเขาออกมาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ"เสี่ยวเฟยไม่ต้องอยู่หรือ?" นางถามเซียวหลันยวน"ไม่ต้องให้อยู่แล้ว ให้พวกเขาไปที่จวนอ๋องเองแล้วกัน" เซียวหลันยวนตอบฟู่จิ้นเชินมองเขา "ขอบคุณมาก"นี่คือความหมายที่จะปกป้องพวกเขาแล้วถ้าหากพวกเขาไม่อยู่ในจวนอ๋อง พรุ่งนี้นายพันเก๋อพาคนไปที่บ้านตระกูลฟู่ พวกเขาคงไม่มีทางต่
โป๋จีเอาเรื่องที่เผ่าเฮ่อเหลียนยึดครองเมืองพูดจนกลายเป็นตัวเลือกที่จำใจของพวกเขาเสียอย่างนั้นฟู่จาวเฟยถามยังถามสถานการณ์ในเมืองตอนนี้อีกหน่อย แล้วยังถามเขาว่าทำไมถึงถูกเก๋อมู่กวงจัง รอจนเขา...ตอบมาทีละข้อ ถามขึ้นมาทันที "แล้วจดหมายที่นำมาให้ข้าล่ะ? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ส่งจดหมายให้กับข้าหรือ?"โป๋จีมองไปทางเซียวหลันยวน"นี่คืออ๋องเจวี้ยนสินะ? พวกข้าได้ยินว่า อ๋องเจวี้ยนตอนนี้เป็นพี่เขยของเจ้า""ใช่แล้ว แต่เขากับองค์จักรพรรดิมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี"สายตาโป๋จีหม่นลงเล็กน้อย พวกเขารู้เรื่องนี้"แล้วพ่อแท้ๆ ของเจ้าล่ะ?""เขาฟังพี่สาวข้า""หมอเทวดาฟู่ใช่ไหม?""ใช่ ชื่อเสียงของพี่สาวข้ามากขนาดนี้เลยหรือ? ลือกันไปถึงทางเผ่าแล้วหรือ?" ฟู่จาวเฟยถาม"แน่นอน นางเป็นถึงหมอที่อายุน้อยสุดในสมาคมหมอใหญ่เลยนะ" แล้วยังเป็นหมอหญิงอีก"แล้วจดหมายอยู่ที่ไหนล่ะ?""จะส่งให้เจ้าเลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอก แต่ว่าเจ้าต้องทำเรื่องหนึ่งก่อน จดหมายสำหรับพวกเราแล้วสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะทำร้ายหรอก""เขียนอะไรไว้หรือ?""เจ้าอ่านจดหมายก็จะเข้าใจเอง""ท่านจะให้ข้าช่วยทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวเฟยเริ่มจะเกิด
ขอแค่พวกเขาสงสัยในตัวฟู่จาวเฟยก็พอแล้วหัวหน้าคุกกับมือปราบเจียงพวกเขาก็เริ่มสงสัยเช่นนี้แล้วพวกเขามองฟู่จาวเฟย และมองไปยังโป๋จี สีหน้าเองก็กังวลขึ้นมา"คุณชายฟู่ นี่มัน..." มือปราบเจียงเข้าประชิดฟู่จิ้นเชิน กดเสียงต่ำคิดจะเตือนเขาคุณชายฟู่จะฟังไม่ออกได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอยู่ต่อหน้านายพันเก๋อ แล้วเห็นว่าโป๋จีกับคุณชายน้อยฟู่มีความสัมพันธ์อันดีกันล่ะก็ คุณชายน้อยฟู่ก็จะยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกนายพันเก๋อคงไม่มีทางเชื่อคุณชายน้อยฟู่แน่นอนแล้วถ้าคุณชายน้อยฟู่ถูกกำหนดให้เป็นพวกของราชาเฮ่อเหลียน เช่นนั้นก็ถือว่ามีโทษกบฏ อาจจะลากตระกูลฟู่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้กระทั่งว่า อ๋องเจวี้ยนเองก็จะโดนหางเลขไปด้วยแต่ว่า องค์จักรพรรดิก็คิดจะรับมืออ๋องเจวี้ยนชัดเจนขนาดนี้ เช่นนั้นถ้ามีโอกาสจับกุมขึ้นมาจะปล่อยไปได้อย่างไรกัน?มือปราบเจียงรู้ว่าลูกสาวตนเองชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาก ดังนั้นเขาจึงกังวลแทนพระชายาอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา"่ท่านลุงโป๋จี ท่านกำลังพูดอะไรน่ะ? ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าตอนนั้นไม่ได้จงใจทิ้งข้า แล้วก็..."ฟู่จาวเฟยชะงักไป เปลี่ยนคำใหม่ "ราชาเฮ่อเหลียนยังสังหารแม่เลี้ยงข
"ท่านลุงโป๋จี ได้ยินว่าท่านมาส่งจดหมายให้ข้าหรือ?"ฟู่จาวเฟยถามออกมาทันทีโป๋จีก่อนหน้านี้ก็ดีกับเขาพอควร แต่ตอนนี้พอมาคิด ก็น่าจะแค่คิดว่าเขาเป็นลูกชายของราชาเฮ่อเหลียน เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นสายตาของตนเอง ก็แตกต่างกับแต่ก่อนไปแล้วฟู่จาวเฟยตอนนี้ยังพิจารณาออกได้ว่า เมื่อครู่ตอนที่โป๋จีมองเห็นสายตาของเขา นั่นเป็นความตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นเป้าหมายยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ที่เขาถามออกมาโป๋จีก็ยังพิจารณามองเขาอยู่"ใช่แล้ว องค์ชาย" โป๋จีใช้ภาษาเมืองหลวงที่ฟังแล้วแปลกๆ เรียกเขาว่าองค์ชาย จากนั้นก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนด้วยสัญชาตญาณ เปลี่ยนเป็นภาษาเฮ่อเหลียนว่า "ราชาได้รับจดหมายของเจ้า บอกว่าเจ้าหาพ่อแม่ที่แท้จริงพบแล้ว มีตัวตนฐานะใหม่ ดูพึงพอใจมาก"โป๋จีไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนฟังภาษาเฮ่อเหลียนออกฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็ไม่รู้พอเขาฟังประโยคนี้ออกจึงมองไปทางเซียวหลันยวน ตอนนี้จะแปลให้เขาคงไม่สะดวกนัก ถ้าเขาพูดออกมาตอนนี้ เกรงว่าโป๋จีคงไม่พูดความจริงแล้วรอให้เขาพูดสิ่งที่ควรพูดให้จบก่อนแล้วกันคำนี้ของโป๋จี น่าจะพูดให้เขาฟังความหมายของคำพูดนี้ แสดงออกว่าราชาเฮ่อเหลียนรู้แล้วว่าฟู่จาวเฟยเ
ถ้าประตูวังปิดแล้ว คืนนี้น่าจะยังไม่ได้พบองค์จักรพรรดิเช่นนั้นพรุ่งนี้ช่วงประชุมเช้าก็น่าจะได้พบ ห่างจากตอนนี้ไม่ถึงสามชั่วยามเซียวหลันยวนไม่พูดอะไรอีกหลังจากเขาได้ข่าวไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องส่งคนไปคุ้มครองนอกวังแน่ เก๋อมู่กวงคืนนี้เข้าวังไม่ได้ ไม่ได้พบองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะต้องรอจนถึงประชุมเช้าแน่นอนช่วงหลายชั่วยามนี้เพียงพอแล้วพวกเขาได้ยินเสียงของฟู่จิ้นเชินแล้วฟู่จิ้นเชินกำลังพูดภาษาเฮ่อเหลียนอยู่"พี่เขย ท่านพ่อกำลังพูดว่า..." ฟู่จาวเฟยคิดจะแปลให้เซียวหลันยวนก่อนอย่างฉลาดเฉลียวรู้ความ แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะโบกไม้โบกมือ"ข้าฟังออกน่ะ""อ๋า?"ฟู่จาวเฟยตกตะลึง"ลืมบอกไป ว่าข้าเป็นภาษาเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กจ้อยที่ธรรมดามากๆ เรื่องหนึ่งหัวหน้าคุกเองก็เหลือบมองเขาอย่างตกตะลึง"ถ้าข้าน้อยจำไม่ผิดล่ะก็ ท่านอ๋องยังพูดภาษาหนานฉือได้ด้วย?""ใช่"หัวหน้าคุกกับฟู่จาวเฟยสบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนล้วนเห็นความตกตลึงในดวงตาของอีกฝ่ายอ๋องเจวี้ยนทำไมถึงพูดได้หลายภาษานัก?เขาไม่ใช่ว่าพักฟื้นอยู่ในยอดเขาโยวชิงตลอดหรือไรกัน? คนทั้ง