ชิงอีแม้จะปิดปากแล้ว แต่แค่ประโยคนี้คำเดียวฟู่จาวหนิงก็เดาออก"ตอนกลางวันเจอกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นด้วยหรือ?""อืม"อารมณ์เซียวหลันยวนดีดขึ้นมา เขาตอนนี้ไม่อยากจะเอ่ยถึงองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเลย เกี่ยวกับเรื่องที่ชะตาของตนเองถูกกำหนดไว้แล้วชัดเจน และมักจะถูกนำไปโยงกับคนอื่นๆ ทำเอาเขารู้สึกรำคาญมาก"เช่นนั้นข้าก็จะรีบผ่าตัดให้พวกเขา จากนั้นก้รีบออกจากเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อเสีย"ฟู่จาวหนิงเองก็มองออกว่าเขาไม่อยากจะพูดต่อไปแล้ว ตนเองจึงหยุดความคิดที่จะถามซักไซ้ไล่เรียงเซียวหลันยวนกลับมาทั้งที่ยังไม่กินข้าว คิดว่าเขาคงจะเลือกไว้แล้ว"ได้"เสิ่นเสวียนยังไม่กลับมา แต่คนในสวนคะนึงก็ได้รับการกำชับจากเขาไว้เรียบร้อย ว่าอะไรก็ให้ฟังฟู่จาวหนิงไว้ก่อนสองวันก่อนให้คนจัดการทำความสะอาดห้องๆ หนึ่งเอาไว้แล้ว ฟู่จาวหนิงก็นำอุปกรณ์ที่จำเป็นเตรียมไว้แล้วเรียบร้อย สืออีสือซษนเองก็เป็นผู่ช่วยชั้นเยี่ยมของนง มีพวกเขาคอยเฝ้าประตู ฟู่จาวหนิงก็วางใจขึ้นมากหลังจากเตรียมเสร็จ ฟู่จาวหนิงก็ไปพบฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยว"ท่านมาแล้ว เตรียมจะรักษาพวกเราแล้วใช่ไหม?"ฟู่จิ้นเชินพอเห็นนางเข้ามา กลับถอนหายใจ
เสิ่นเชี่ยวพอเห็นก็รู้สึกสงสัย "นี่คืออะไรหรือ? ยังต้องมัดพวกเราไว้ด้วยหรือ?""ตอนนี้ยังไม่ต้อง"ฟู่จาวหนิงคิดในใจอีกเดี๋ยวพอข้าทำให้พวกท่านชาไปทั้งตัวแล้ว ยังต้องมามัดอีกทำไมกัน นางก็แค่เผื่อเอาไว้ก่อนเท่านั้น"ท่านคนเดียวรักษาพวกเราสองคนหรือ?" เสิ่นเชี่ยวถามขึ้นมาอีก"ใช่แล้ว""ท่านจะเหนื่อยเกินไปไหม?" เสิ่นเชี่ยวเป็นห่วงนางขึ้นมาสายตาที่มองนางอย่างกังวล ฟู่จาวหนิงนิ่งงันไปครู่หนึ่ง"พวกท่านนอนลงบนเตียงเถอะ"ฟู่จิ้นเชินกุมมือภรรยา "ฮูหยินไม่ต้องกลัว ข้าอยู่ข้างๆ""ได้"เสิ่นเชี่ยวดวงตาเหมือนจะร้องไห้ฟู่จาวหนิงหลังจากที่พวกเขานอนลงไปก็ปิดประตู สืออีสือซานคอยเฝ้าอยู่ด้านนอกฟู่จาวหนิงทำความสะอาดมือ สวมถุงมือ ให้พวกเขานอนตะแคง ส่วนตนเองก็หยิบยาชาออกมา"ข้าจะฝังเข็มให้พวกเท่านก่อน เช่นนี้พวกท่านจะหลับไป"ทั้งสองคนนอนตะแคง มองไม่เห็นเข็มในมือนางฟู่จาวหนิงฉีดยาชาให้กับพวกเขาอย่างไม่ลังเลรอจนพวกเขาหลับจึงเริ่มงานสิ่งของในหัวของพวกเขานั้น นางทดลองใช้แม่เหล็กดูก่อน ก็ยังไม่สามารถดึงออกมาค่อยได้ ต่อให้จะใช้คีมปากแหลมเบอร์เล็กที่สุด ก็คีบออกมาไม่ได้เหมือนกันกระทั่งว่า ยั
องค์รัชทายาทต้าชื่อคิดใช้โอกาสนี้สังหารอ๋องเจวี้ยนเสียความคิดสังหารต่ออ๋องเจวี้ยนของเขาควบกลั่นไว้นานแล้ว"อ๋องเจวี้ยนถ้าอยู่ที่แคว้นเจา ข้าเองก็ทำอะไรเขาไม่ได้จริงๆ แต่ตอนนี้เป็นโอกาสดีแล้ว!"องค์รัชทายาทต้าชื่อคุยกับที่ปรึกษาของเขา ดวงตาดุดัน"ข่าวลือที่ส่งมาจากแคว้นเจา จักรพรรดิแคว้นเจาไม่ยอมให้เขาออกจากแคว้นเจา ดังนั้นอ๋องเจวี้ยนจึงถือโอกาสแอบหลบหนีมา ปิดบังองค์จักรพรรดิแคว้นเจาไว้ เช่นนั้นเขาคงไม่ได้นำองครักษ์เงามังกรมาด้วย จึงทำได้เพียงแอบปรากฏตัวเท่านั้น""องค์รัชทายาทพูดได้ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่มีคนเปิดเผยออกมา พวกเราก็ยังไม่รู้ว่าจอมยุทธสวมหน้ากากที่ช่วยองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ที่ถนนวันนั้นคืออ๋องเจวี้ยน!" ที่ปรึกษาเอ่ยขึ้นมา"เขาต้องมาเพื่อฝูอวิ้นแน่นอน"องค์รัชทายาทต้าชื่อรู้สึกว่าตนเองคาดเดาไม่ผิดถึงอย่างไร คนอย่างฝูอวิ้นใครจะไม่อยากแต่งด้วยกัน?อ๋องเจวี้ยนอยู่ที่แคว้นเจา ก็เป็นเหมือนหนามตำตาของจักรพรรดิแคว้นเจา เขาเองก็ไม่มีแรงช่วยใด แต่ถ้าหากเขาสามารถแต่งกับฝูอวิ้นได้ก็จะต่างไปแล้ว!เขาจะมีแรงช่วยจากต้าชื่อ กระทั่งถ้าอยู่ต่อในแคว้นเจาไม่ได้ เขาก็มาเป็นราชบุตรเขยองค์ห
อันที่จริงองค์รัชทายาทเองก็รู้ความตกต่ำของซ่งอวิ๋นเหยา แต่เขาตอนนี้ไม่มีซ่งอวิ๋นเหยามาพัวพันแล้ว ดังนั้นจึงทำเป็นไม่รู้เรื่อง"ไม่กล้าปิดบังใต้ฝ่าพระบาท""ช่างเถอะ" องค์รัชทายาทแม้ในใจจะไม่ค่อยชอบนัก แต่คิดๆ แล้วจึงถามขึ้นมา "เจ้าคิดว่าซ่งอวิ๋นเหยาตอนนี้ยังมีประโยชน์อะไรหรือ?""ไปบอกนางว่าอ๋องเจวี้ยนมายังต้าชื่อ ยิ่งไปกว่านั้นยังคิดจะมารับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไปแต่งงานด้วย คิดแล้วคงไม่ต้องให้ใต้ฝ่าพระบาทลงมือหรอก ซ่งอวิ๋นเหยาก็สามารถไปหาเรื่องพวกเขาได้""เจ้าพูดได้ถูกต้อง"ถึงอย่างไรให้พวกเขาไปกัดกันเอง ท่านคอยดูมหรสพก็พอองค์รัชทายาทคิดๆ แล้วถามขึ้นอีก "ได้ยินว่าฟู่จาวหนิงคนนี้งดงามยิ่งกว่าซ่งอวิ๋นเหยา เทียบเคียงได้กับฝูอวิ้นเลย อันนี้เรื่องจริงไหม?""ใต้ฝ่าพระบาท องค์ชายสองคอยหาวิธีจะเอาฟู่จาวหนิงเข้าไปในจวนอ๋องให้ได้ พระชายาองค์ชายสองไม่ไช่ว่าตั้งครรภ์หรอกหรือ? เขาอยากจะเรียกฟู่จาวหนิงเข้าไปในฐานะแพทย์หญิง ถึงอย่างไรอยู่ใกล้กว่าก็ได้เปรียบนี่นะ" ที่ปรึกษาสองวันนี้ก็ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว"เขาไม่รู้ตัวตนฐานะที่แท้จริงของฟู่จาวหนิงหรือ?""น่าจะยังไม่รู้ ตัวตนฐานะอ๋องเจวี้ยนเพิ่งจ
ครอบครัวนี้กับพระชายาองค์ชายสองถือว่าเป็นญาติกันอยู่ แม้จะไม่ได้สัมพันธ์ใกล้ชิดนัก แต่เพราะตำแหน่งขุนนางที่ท่านผู้เฒ่ามีอยู่นั้นยังมีประโยชน์อยู่ พระชายาองค์ชายสองปกติจึงยังพอไปมาหาสู่กันบ้างพระชายาองค์ชายรองวันนี้ไม่ได้มา นางเดิมทีครรภ์ยังไม่มั่นคง แน่นอนว่าไม่มีทางมาสถานการณ์แบบนี้ แต่องค์ชายสองมาแล้วตอนที่เหอเซี่ยนอันเดินเข้าไปในศาลาตั้งศพ องค์ชายสองก็เพิ่งมาถึงเขาได้ยินคนข้างๆ ร้องขึ้นอย่างตกตะลึง"นี่ นี่ไม่ใช่คุณชายน้อยเหอหรือ?""ขาของคุณชายน้อยเหอทำไมจึงเดินได้แล้วกัน?""ได้ยินว่าจวนผิงเหอกงเชิญหมอเทวดาไปรักษานี่นา"องค์ชายสองพอได้ยินประโยคนี้ จึงค่อยๆ หันหน้ามองมา และก็เห็นเหอเซี่ยนอันเดินเข้ามาจริงๆหมอเทวดา?องค์ชายสองคิดถึงฟู่จาวหนิงขึ้นมาทันทีเขาหลายวันนี้หาตัวฟู่จาวหนิงไม่เจอมาตลอด น่าจะเพราะหาตัวไม่เจอ ดังนั้นจึงยิ่งยึดติด บวกกับพระชายาองค์ชายเองก็ตั้งครรภ์ เขาไปแตะตัวนางไม่ได้เลย จึงยิ่งรู้สึกปรารถนาต่อตัวหญิงสาวขึ้นไปอีก ในหัวเองพอมีเงาของฟู่จาวหนิง พวกอนุภรรยาในเรือนหลังก็ไม่อยู่ในสายตาแล้วแล้วในจวนอ๋องพระชายาองค์ชายสองเองก็จับตามองอย่างเข้มงวด ไม่ยอมให
"เอาล่ะ คนตายไปแล้วก็คืนชีพไม่ได้อีก พวกท่านต่อให้เจ็บปวด แต่จะมาลงบนตัวเหอเซียนอันไม่ได้"องค์ชายสองหลังจากขึ้นไปจุดธูปก็พาเหอเซี่ยนอันออกมาเขามองขาของเหอเซี่ยนอัน "เซี่ยนอัน คนที่รักษาขาให้เจ้าคือหมอเทวดาฟู่หรือ?"เขาไม่กล้ายืนยัน แต่พอคิดถึงเมื่อหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา จวนผิงเหอกงเชิญหมอที่มีในเมืองหลวงทั้งหมดเข้าไปแล้ว แล้วยังเข้าวังมาอ้อนวอนฝ่ายาทเพื่อขอตัวหมอหลวงอีก ไม่มีใครสักคนที่รักษาจนหายดีได้ดังนั้นตอนนี้คนที่รักษาขาของเขา จะต้องเป็นหมอเทวดาที่มาใหม่จากภายนอกแน่ เขาคิดออกแต่ฟู่จาวหนิงเท่านั้นเหอเซี่ยนอันพอได้ยินเขาถามเช่นนี้ก็คิดว่าเขารู้ ยิ่งไปกว่านั้นฟู่จาวหนิงก็ไม่ได้กำชับไว้ว่าห้ามพูดถึงนาง เขาจึงพยักหน้าให้"ใช่แล้ว หมอเทวดาฟู่เก่งมากเลย"เป็นนางจริงๆ!องค์ชายสองใจเต้น "แล้วหลิวเกาไหลกับหลินต๋าก็เป็นนางที่ช่วยชีวิตเอาไว้หรือ?""องค์ชายสองรู้จักนางด้วยหรือ?"รู้จักสิ ข้ารู้จักนาง" ใจขององค์ชายสองร้อนวาบขึ้นมาแม่นางฟู่เป็นหมอเทวดาจริงๆ ด้วย เช่นนั้นก็ต้องเชิญนางไปที่จวนอ๋องเสียหน่อย "เจ้ารู้ไหมว่านางพักอยู่ที่ใด? ข้ามีเรื่องต้องไหว้วานนาง""ข้าไม่รู้ แต่ว่าส่ง
รอจนถึงตอนกลางคืน เสิ่นเสวียนก็กลับมาจากด้านนอก พอได้ยินรายงานของคนใช้ เขาเองก็เข้ามาแล้วใต้ชายคาด้านนอก เซียวหลันยวนยืนมือไพล่หลัง มองไปยังเงาจันทร์ที่อยู่ในเมฆไหลสายลมเย็นเสิ่นเสวียนเดินมาอยู่ข้างเขา"จาวหนิงยังไม่ออกมาหรือ?"เขาได้ยินว่าหลังจากกลางวันก็เข้าไปนี่มันนานมากแล้วนะ..."อืม""เจ้าก็รออยู่ตรงนี้มาตลอดหรือ?" เสิ่นเสวียนมองเขาในชุดสีม่วงเข้ม ขมวดคิ้ว "จาวหนิงรู้หรือเปล่า? นางกว่าจะรักษาเจ้ามาได้ ไม่ใช่ให้เจ้าเอาร่างกายตัวเองมาทรมานแบบนี้"ตอนนี้ลมกลางคืนก็หนาวแล้ว ยืนอยู่ตรงนี้แม้จะบังลม แต่ด้านนอกก็ยังหนาวอยู่เซียวหลันยวนเอาแต่จะคอยเฝ้าที่ประตู เพราะอยากจะเห็นผลลัพธ์การรักษาฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวเป็นอันดับแรกหรือ?หรือกลัวว่าพวกเขาจะหนี?"คู่แค้น" ของเขาคือน้องสาวเขา กลัวว่าที่นี่เป็นพื้นที่ของตระกูลเสิ่น ถ้าไม่คอยเฝ้าไว้เองจะไม่วางใจหรือไรกัน?เสิ่นเสวียนคิดเช่นนี้ขึ้นมาก่อน แต่เพียงไม่นานก็โยนความคิดนี้ทิ้งไปเซียวหลันยวนไม่น่าจะเป็นเช่นนี้"ข้าเพิ่งเข้ามาครู่เดียว เพียงแต่หนิงหนิงเข้าไปนานมากแล้ว ข้าจึงมาคอยเฝ้าที่นี่ เผื่อว่านางไม่ไหวแล้ว ข้าจะได้รู
"อืม ข้าจะช่วยตรวจสอบให้เจ้าเอง จำนวนคนในคณะที่จักรพรรดินีตงฉิงพาออกมาก็มีไม่น้อย รุ่นหลังของคนเหล่านั้นกลับไปตงฉิงไม่ได้ น่าจะมีอยู่มากพอควรที่สร้างเนื้อสร้างตัวในต้าชื่อกับแคว้นเจา และต้องมีรุ่นหลังเหลืออยู่ไม่น้อยแน่นอน ต้าชื่อทางนี้ข้าจะตรวจสอบเอง แคว้นเจาทางนั้น พวกเขากลับไปก็ลองตรวจสอบดู"เซียวหลันยวนนิ่งงันอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยขอบคุณเขาขึ้นมา"ขอบคุณท่านลุง"เขายังไม่ได้คิดว่าจะทำอย่างไรกับตงฉิง แต่เสิ่นเสวียนกลับเริ่มค้นหาคนรุ่นหลังของตงฉิงแทนเขาแล้วในห้องมีเสียงเดินดังลอดออกมา เซียวหลันยวนจึงหมุนตัวทันทีประตูเปิดออกแล้วฟู่จาวหนิงที่สีหน้าเหนื่อยล้าพอเปิดประตูมาเจอพวกเขาก็ตกตะลึงไป"พวกท่านเฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดเลยหรือ?"ฟู่จาวหนิงเหลือบมองเซียวหลันยวนผาดหนึ่ง หวั่นขึ้นมาหน่อยๆเพราะนางนำคนเข้าไปในห้องเภสัชเพื่อรักษา เมื่อครู่เพิ่งจะพาคนออกมา เสิ่นเสวียนทางนั้นนางไม่รู้ แต่ว่าเซียวหลันยวนมีกำลังภายในลึกล้ำ นางไม่รู้ว่าได้ยินความผิดปกติอะไรบ้างไหมแต่เซียวหลัยยวนก็ไม่พูดอะไรเขายื่นมือมาประคองนาง "ไม่ได้เฝ้านานขนาดนั้น เหนื่อยแย่แล้วกระมัง?""เหนื่อยมากเลย มือไม้แข้งข
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ