รอจนถึงตอนกลางคืน เสิ่นเสวียนก็กลับมาจากด้านนอก พอได้ยินรายงานของคนใช้ เขาเองก็เข้ามาแล้วใต้ชายคาด้านนอก เซียวหลันยวนยืนมือไพล่หลัง มองไปยังเงาจันทร์ที่อยู่ในเมฆไหลสายลมเย็นเสิ่นเสวียนเดินมาอยู่ข้างเขา"จาวหนิงยังไม่ออกมาหรือ?"เขาได้ยินว่าหลังจากกลางวันก็เข้าไปนี่มันนานมากแล้วนะ..."อืม""เจ้าก็รออยู่ตรงนี้มาตลอดหรือ?" เสิ่นเสวียนมองเขาในชุดสีม่วงเข้ม ขมวดคิ้ว "จาวหนิงรู้หรือเปล่า? นางกว่าจะรักษาเจ้ามาได้ ไม่ใช่ให้เจ้าเอาร่างกายตัวเองมาทรมานแบบนี้"ตอนนี้ลมกลางคืนก็หนาวแล้ว ยืนอยู่ตรงนี้แม้จะบังลม แต่ด้านนอกก็ยังหนาวอยู่เซียวหลันยวนเอาแต่จะคอยเฝ้าที่ประตู เพราะอยากจะเห็นผลลัพธ์การรักษาฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวเป็นอันดับแรกหรือ?หรือกลัวว่าพวกเขาจะหนี?"คู่แค้น" ของเขาคือน้องสาวเขา กลัวว่าที่นี่เป็นพื้นที่ของตระกูลเสิ่น ถ้าไม่คอยเฝ้าไว้เองจะไม่วางใจหรือไรกัน?เสิ่นเสวียนคิดเช่นนี้ขึ้นมาก่อน แต่เพียงไม่นานก็โยนความคิดนี้ทิ้งไปเซียวหลันยวนไม่น่าจะเป็นเช่นนี้"ข้าเพิ่งเข้ามาครู่เดียว เพียงแต่หนิงหนิงเข้าไปนานมากแล้ว ข้าจึงมาคอยเฝ้าที่นี่ เผื่อว่านางไม่ไหวแล้ว ข้าจะได้รู
"อืม ข้าจะช่วยตรวจสอบให้เจ้าเอง จำนวนคนในคณะที่จักรพรรดินีตงฉิงพาออกมาก็มีไม่น้อย รุ่นหลังของคนเหล่านั้นกลับไปตงฉิงไม่ได้ น่าจะมีอยู่มากพอควรที่สร้างเนื้อสร้างตัวในต้าชื่อกับแคว้นเจา และต้องมีรุ่นหลังเหลืออยู่ไม่น้อยแน่นอน ต้าชื่อทางนี้ข้าจะตรวจสอบเอง แคว้นเจาทางนั้น พวกเขากลับไปก็ลองตรวจสอบดู"เซียวหลันยวนนิ่งงันอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยขอบคุณเขาขึ้นมา"ขอบคุณท่านลุง"เขายังไม่ได้คิดว่าจะทำอย่างไรกับตงฉิง แต่เสิ่นเสวียนกลับเริ่มค้นหาคนรุ่นหลังของตงฉิงแทนเขาแล้วในห้องมีเสียงเดินดังลอดออกมา เซียวหลันยวนจึงหมุนตัวทันทีประตูเปิดออกแล้วฟู่จาวหนิงที่สีหน้าเหนื่อยล้าพอเปิดประตูมาเจอพวกเขาก็ตกตะลึงไป"พวกท่านเฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดเลยหรือ?"ฟู่จาวหนิงเหลือบมองเซียวหลันยวนผาดหนึ่ง หวั่นขึ้นมาหน่อยๆเพราะนางนำคนเข้าไปในห้องเภสัชเพื่อรักษา เมื่อครู่เพิ่งจะพาคนออกมา เสิ่นเสวียนทางนั้นนางไม่รู้ แต่ว่าเซียวหลันยวนมีกำลังภายในลึกล้ำ นางไม่รู้ว่าได้ยินความผิดปกติอะไรบ้างไหมแต่เซียวหลัยยวนก็ไม่พูดอะไรเขายื่นมือมาประคองนาง "ไม่ได้เฝ้านานขนาดนั้น เหนื่อยแย่แล้วกระมัง?""เหนื่อยมากเลย มือไม้แข้งข
ฟู่จาวหนิงรู้สึกตัวเองเขินหน่อยๆนางคิดอะไรกันเล่า? มองเซียวหลันยวนเป็นใครกัน เวลาแบบนี้เขาคงไม่ฉวยโอกาสหรอกนางเหนื่อยจนมีสภาพนี้แล้ว เขาจะมาทรมานนางอีกได้อย่างไร?เซียวหลันยวนเห็นหูนางแดงหน่อยๆ ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย"หนิงหนิงอายหรือ?"เขาไม่ค่อยเห็นเธอแสดงอาการเขินอายเท่าไรนัก ปกติรู้สึกแค่นางเป็นคนที่ทำอะไรใจเย็นและนิ่งมาก ไม่มีท่าทีเขินอายแบบหญิงสาวทั่วไป ไม่คิดว่านางเองก็จะมาเขินจนหูแดงแบบนี้เห็นท่าทางนางแบบนี้ เขาก็รู้สึกอบอุ่นในใจขึ้นมาเขาหลงรักความแข็งแกร่งมั่นคงแน่วแน่กล้าหาญของนาง ความเฉลียวฉลาดคล่องแคล่วว่องไว แต่บางครั้งท่าทางสาวน้อยเช่นนี้ของนางก็ทำให้เขารู้สึกชอบเอามากๆ"แค่รู้สึกว่าตัวเองเข้าใจท่านผิดน่ะ" ฟู่จาวหนิงอายจุดนี้แต่ว่าเขาถามออกมาแล้ว นางเองก็ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา"ไม่ค่อยเห็นเจ้าทำตัวแบบนี้" เซียวหลันยวนหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่หลายวันนี้นางเหนื่อยและยุ่งเอามากๆ ต่อให้ตอนกลางคืนที่นอนลงมาในสมองก็ยังคิดถึงเรื่องวัตถุดิบยาต่างๆ เขาจะไปทรมานนางในช่วงนี้ได้อย่างไรกัน?แค่จะห่วงนางยังทำไม่ทันเลยเพราะมีเขาใช้กำลังภายในนวด บวกกับแช่ในบ่อน้ำพุร้
เรื่องนี้สำหรับนางถือเป็นเรื่องปกติเหล่าเจ้านายไม่มีทางมาเช็ดผมเองอยู่แล้ว"ไม่ต้อง" เซียวหลันยวนนั่งลงข้างๆ ฟู่จาวหนิง "ข้าจัดการเอง"เสี่ยวชิ่นส่งผ้าฝ้ายให้เขาทันที เสี่ยวเยว่กลับลังเลเล็กน้อย "ท่านอาเขย เรื่องนี้ให้พวกข้าน้อยทำก็พอแล้ว"นางเองก็รู้ ว่าท่านอาเขยของพวกเขาเป็นท่านอ๋องจากแคว้นเจา เรื่องพวกนี้เคยทำเสียที่ไหนตัวเขาเองก็เช็ดไม่ถึง ถ้าจะเช็ดให้กับคุณหนูแทนพวกนาง ก็อย่าออกแรงมากเกินไปจนทำเส้นผมคุณหนูขาดลงมาล่ะ"ไปเตรียมข้าวเย็นเถอะ" เซียวหลันยวนหยิบฝ้าฝ้ายมาเจ็ดเส้นผมเบาๆ ให้ฟู่จาวหนิงแล้วการเคลื่อนไหวของเขาแผ่วเบามาก ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่มือของเขาเช็ดยังมีไอน้ำลอยขึ้นมาด้วยใช้กำลังภายในทำเช่นนี้จะแห้งได้ไวขึ้นเส้นผมของฟู่จาวหนิงเช็ดจนเกือบแห้งแล้ว นางนั่งลงมา "ข้าช่วยเช็ดให้ท่าน"เซียวหลันยวนชะงักเล็กน้อย "ได้"เขาหันไป เปลี่ยนให้ฟู่จาวหนิงเช็ดให้เขาบ้างเสี่ยวเยว่กับเสี่ยวชิ่นสบตากันมองภาพนี้ พวกนางรู้สึกว่าดีงามเหลือเกินทั้งสองคนเองก็ไม่กล้ายืนทื่ออยู่ตรงนี้เหมือนกัน รีบออกไปเตรียมข้าวเย็น"คุณหนูกับท่านอาเขยรักกันดีจริง" เสี่ยวเยว่ทอดถอนใจออกมาเส
ฟู่จิ้นเชินรู้สึกว่าตนเองเหมือนฝันมาอย่างยาวนานในความฝันเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด ประเดี๋ยวก็มีเขา ประเดี๋ยวก็ภรรยา ประเดี๋ยวก็คนชั่ว แล้วยังมีสัตว์ร้ายอีกในฝันมีทั้งพายุลมฝนต่างๆ นานา ความทุกข์ทรมานก็ล้วนผ่านมาหมดแล้ว และยังไปยืนอยู่ริมเหวความเป็นความตายมาอีกนับครั้งไม่ถ้วนตอนที่ฟื้นขึ้นมา เขาสัมผัสได้ว่าตนเองลืมตาไม่ขึ้น หนังตาเหมือนถูกแปะไว้อย่างไรอย่างนั้น หนักอึ้งเอามากๆแต่ว่า ในฝันมีท่านพ่อ แล้วก็มีลูกสาวด้วยลูกสาว จาวหนิงของนาง!ฟู่จิ้นเชินตกตะลึงในใจ เบิกตาโพลงขึ้น พริบตาที่มีแสงสว่างเข้ามา ก็ทำให้เขาไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ใด วันไหนเวลาไหน"จาวหนิง..."แต่พอเขาเอ่ยปากขึ้นก็เรียกชื่อนี้ขึ้นมาเสิ่นเสวียนที่นั่งอยู่ข้างๆ ตกตะลึงเล็กน้อย หันหน้ามองไปทางเขาฟู่จิ้นเชินรู้สึกว่าตนเองเบิกตาโพลงขึ้นฉับพลัน อันที่จริงจากที่เสิ่นเสวียนเห็น เขายังคงพยายามลืมตาขึ้นช้าๆ อย่างยากลำบากเขาได้ยินฟู่จิ้นเชินเรียกว่าจาวหนิงนี่คือจำขึ้นมาได้แล้วหรือ? จำลูกสาวของเขาได้แล้ว?เสิ่นเสวียนลุกขึ้นเดินเข้ามาฟู่จิ้นเชินวางสายตามาบนตัวเขาทันที"เสิ่น... เสิ่น...""เสิ่นเสวียน ข้าคือเ
เสิ่นเสวียนเดิมทีจะยื่นมือเข้าไปห้ามนางด้วยสัญชาตญาณ แต่พริบตานี้จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นมาได้ พวกเขาไม่รู้ว่าเสิ่นเชี่ยวเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขาตอนนี้จึงยังไม่ควรไปแตะตัวนางตอนที่ความคิดนี้แล่นขึ้นมา ก็เข้าไปห้ามไม่ทันแล้วพวกเขาตอนนั่งขึ้นมาก็รู้สึกเหมือนฟ้าหมุนเสิ่นเชี่ยวกุมหัว พิงไปที่หน้าอกของฟู่จิ้นเชินฟู่จิ้นเชินมือหนึ่งโอบนางไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งกำข้างเตียงแน่น พยายามแบกรับอาการมึนหัวนี้ไว้สุดชีวิต"หัวของพวกท่านยังมีแผลอยู่"เสิ่นเสวียนหันหน้าไปมอง ด้านนอกก็เห็นเซียวหลันยวนจูงฟู่จาวหนิงพุ่งเข้ามาด้วยวิชาตัวเบาและไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงร้อนรน หรือว่าเขาที่ร้อนรน"คุณ ข้าเหมือนนึกเรื่องดีดีออกเรื่องหนึ่ง จาวหนิง จาวหนิงน่ะ!"เสิ่นเชี่ยวอาการมึนงงยังไม่หายไป แต่ก็เงยหน้าขึ้นมองฟู่จิ้นเชินอย่างทนไม่ไหว น้ำตาอาบเต็มหน้า"คุณ ลูกสาวของพวกเรา นางยังอยู่ที่แคว้นเจา! ข้าจะกลับไป ข้าจะกลับไป..."นางพูดแล้วคิดจะเลิกผ้าห่มลงจากเตียงตอนที่ฟู่จาวหนิงเข้ามาก็ได้ยินสองประโยคนี้เข้าพอดี นางสีหน้าชะงักไปเซียวหลันยวนเองก็ได้ยิน เขาปล่อยมือ จ้องมองนางดูท่าวิชาแพทย์ของนางจะยอดเยี่ยมมากจริง
เสิ่นเสวียนกับเซียวหลันยวนเองก็มองฟู่จาวหนิงจังหวะนี้ สายตาคนทั้งหมดในห้องล้วนไปรวมอยู่บนตัวของนางเซียวหลันยวนคิถึงสิ่งที่เขาตรวจสอบมาก่อนหน้านี้ ชีวิตที่ฟู่จาวหนิงเผชิญมาก่อนอายุสิบหกปีเขาคิดถึงภาพที่นางไล่ตามก้นเซียวเหยียนจิ่งอยู่ด้านหลัง ทอดทิ้งเกียรติและความสงบเสงี่ยมของหญิงสาวคนหนึ่ง คิดแต่จะเอาใจเซียวเหยียนจิ่ง คิดแค่จะให้เซียวเหยียนจิ่งรับนางไปแต่งด้วย เพื่อให้ท่านปู่วางใจเขาคิดถึงตอนที่นางไปขุดยาสมุนไพร ผลคือถูกคนหัวเราะเย้ยหยัน บอกว่าที่นางขุดมาคือผักป่า คือหญ้าวัชพืช บอกว่านางไม่มีความรู้ หน้าด้าน ชอบทำให้คนอื่นรำคาญ ไม่รู้อะไรเลยน่าขบขันบอกว่านางเป็นพวกบ้านนอกที่ตกอับ ญาติมิตรในบ้านตระกูลฟู่พวกนั้นก็ยังรังแกบีบคั้นนางสารพัด บีบให้นางกับปู่ของนางไปอยู่ในเรือนโทรมเล็กๆ หลังหนึ่งนางไม่มีพ่อแม่คอยดูแลทนุถนอม แล้วยังต้องดูแลท่านปู่ที่ป่วยหนักอีก สุดท้ายจึงต้องมาหาทางออกด้วยการวิ่งโร่หาคู่ครองสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินรู้เรื่องพวกนี้ไหม?ความทรมานสิบกว่าปี ลูกสาวของพวกเขาก็ทนรับมาได้แล้ว พวกเขารู้บ้างไหม?ตอนแรกสุดที่พบกัน เขาเห็นว่าฟู่จาวหนิง ผอมจนแค่ลมก็ยังพัดจนล้มได้
ทั้งสองคนมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงมองดวงตาพวกเขาเพ่งสมาธิได้แล้ว ดวงตาไม่มีปัญหา สมองเองก็ไม่มีผลกระทบอะไรตอนที่นางมอง น้ำตาของเสิ่นเชี่ยวก็ไหลอาบคลอเบ้าอีกครั้ง ร่วงผลอยลงมา"ตอนนี้มีความรู้สึกอย่างไรบ้าง? เวียนหัวไหม?" ฟู่จาวหนิงถาม"มึน แต่ก็ยังพอทนไหว""ปวดล่ะ?""นิดหน่อย""ลองขยับแขนขาดู ดูว่าตรงไหนที่ขยับไม่ได้ดั่งใจบ้าง" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอีกสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินร้องไห้ไปด้วยพลางฟังคำนางไปด้วยเสิ่นเสวียงมองฉากนี้ไม่รู้เพราะอะไรถึงอยากจะหัวเราะออกมา ทั้งสองคนตอนนี้เหมือนกับเด็กๆ ที่เชื่อฟังเลย คำสั่งหนึ่งก็ทำตามทีหนึ่งแต่เขาก็ยังคงปวดใจเซียวหลันยวนเม้มปากมองฟู่จาวหนิงเขาขี้เกียจจะมองคู่สามีภรรยานั่น คิดอยากจะมองดูว่าฟู่จาวหนิงดูสงบจริงๆ หรือไม่สะกดความเสียใจเอาไว้เขาคิดไม่ออกเลย ว่าตอนนี้เขาไม่มีความคิดเรื่องล้างแค้นอีกแล้ว ในใจเต็มไปด้วยความเป็นห่วงฟู่จาวหนิง"เอาล่ะ ดูท่าจะไม่เป็นไรแล้ว อาการมึนหัวกับเจ็บแผลเป็นเรื่องปกติ ช่วงนี้ต้องนอนอยู่บนเตียงให้มากหน่อย"ฟู่จาวหนิงหลังจากพูดประโยคนี้จบ หัวข้อสนทนาก็เปลี่ยนไป "ความรับผิดชอบของข้าในฐานะที่เป็นหมอวา