อันที่จริงองค์รัชทายาทเองก็รู้ความตกต่ำของซ่งอวิ๋นเหยา แต่เขาตอนนี้ไม่มีซ่งอวิ๋นเหยามาพัวพันแล้ว ดังนั้นจึงทำเป็นไม่รู้เรื่อง"ไม่กล้าปิดบังใต้ฝ่าพระบาท""ช่างเถอะ" องค์รัชทายาทแม้ในใจจะไม่ค่อยชอบนัก แต่คิดๆ แล้วจึงถามขึ้นมา "เจ้าคิดว่าซ่งอวิ๋นเหยาตอนนี้ยังมีประโยชน์อะไรหรือ?""ไปบอกนางว่าอ๋องเจวี้ยนมายังต้าชื่อ ยิ่งไปกว่านั้นยังคิดจะมารับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไปแต่งงานด้วย คิดแล้วคงไม่ต้องให้ใต้ฝ่าพระบาทลงมือหรอก ซ่งอวิ๋นเหยาก็สามารถไปหาเรื่องพวกเขาได้""เจ้าพูดได้ถูกต้อง"ถึงอย่างไรให้พวกเขาไปกัดกันเอง ท่านคอยดูมหรสพก็พอองค์รัชทายาทคิดๆ แล้วถามขึ้นอีก "ได้ยินว่าฟู่จาวหนิงคนนี้งดงามยิ่งกว่าซ่งอวิ๋นเหยา เทียบเคียงได้กับฝูอวิ้นเลย อันนี้เรื่องจริงไหม?""ใต้ฝ่าพระบาท องค์ชายสองคอยหาวิธีจะเอาฟู่จาวหนิงเข้าไปในจวนอ๋องให้ได้ พระชายาองค์ชายสองไม่ไช่ว่าตั้งครรภ์หรอกหรือ? เขาอยากจะเรียกฟู่จาวหนิงเข้าไปในฐานะแพทย์หญิง ถึงอย่างไรอยู่ใกล้กว่าก็ได้เปรียบนี่นะ" ที่ปรึกษาสองวันนี้ก็ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว"เขาไม่รู้ตัวตนฐานะที่แท้จริงของฟู่จาวหนิงหรือ?""น่าจะยังไม่รู้ ตัวตนฐานะอ๋องเจวี้ยนเพิ่งจ
ครอบครัวนี้กับพระชายาองค์ชายสองถือว่าเป็นญาติกันอยู่ แม้จะไม่ได้สัมพันธ์ใกล้ชิดนัก แต่เพราะตำแหน่งขุนนางที่ท่านผู้เฒ่ามีอยู่นั้นยังมีประโยชน์อยู่ พระชายาองค์ชายสองปกติจึงยังพอไปมาหาสู่กันบ้างพระชายาองค์ชายรองวันนี้ไม่ได้มา นางเดิมทีครรภ์ยังไม่มั่นคง แน่นอนว่าไม่มีทางมาสถานการณ์แบบนี้ แต่องค์ชายสองมาแล้วตอนที่เหอเซี่ยนอันเดินเข้าไปในศาลาตั้งศพ องค์ชายสองก็เพิ่งมาถึงเขาได้ยินคนข้างๆ ร้องขึ้นอย่างตกตะลึง"นี่ นี่ไม่ใช่คุณชายน้อยเหอหรือ?""ขาของคุณชายน้อยเหอทำไมจึงเดินได้แล้วกัน?""ได้ยินว่าจวนผิงเหอกงเชิญหมอเทวดาไปรักษานี่นา"องค์ชายสองพอได้ยินประโยคนี้ จึงค่อยๆ หันหน้ามองมา และก็เห็นเหอเซี่ยนอันเดินเข้ามาจริงๆหมอเทวดา?องค์ชายสองคิดถึงฟู่จาวหนิงขึ้นมาทันทีเขาหลายวันนี้หาตัวฟู่จาวหนิงไม่เจอมาตลอด น่าจะเพราะหาตัวไม่เจอ ดังนั้นจึงยิ่งยึดติด บวกกับพระชายาองค์ชายเองก็ตั้งครรภ์ เขาไปแตะตัวนางไม่ได้เลย จึงยิ่งรู้สึกปรารถนาต่อตัวหญิงสาวขึ้นไปอีก ในหัวเองพอมีเงาของฟู่จาวหนิง พวกอนุภรรยาในเรือนหลังก็ไม่อยู่ในสายตาแล้วแล้วในจวนอ๋องพระชายาองค์ชายสองเองก็จับตามองอย่างเข้มงวด ไม่ยอมให
"เอาล่ะ คนตายไปแล้วก็คืนชีพไม่ได้อีก พวกท่านต่อให้เจ็บปวด แต่จะมาลงบนตัวเหอเซียนอันไม่ได้"องค์ชายสองหลังจากขึ้นไปจุดธูปก็พาเหอเซี่ยนอันออกมาเขามองขาของเหอเซี่ยนอัน "เซี่ยนอัน คนที่รักษาขาให้เจ้าคือหมอเทวดาฟู่หรือ?"เขาไม่กล้ายืนยัน แต่พอคิดถึงเมื่อหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา จวนผิงเหอกงเชิญหมอที่มีในเมืองหลวงทั้งหมดเข้าไปแล้ว แล้วยังเข้าวังมาอ้อนวอนฝ่ายาทเพื่อขอตัวหมอหลวงอีก ไม่มีใครสักคนที่รักษาจนหายดีได้ดังนั้นตอนนี้คนที่รักษาขาของเขา จะต้องเป็นหมอเทวดาที่มาใหม่จากภายนอกแน่ เขาคิดออกแต่ฟู่จาวหนิงเท่านั้นเหอเซี่ยนอันพอได้ยินเขาถามเช่นนี้ก็คิดว่าเขารู้ ยิ่งไปกว่านั้นฟู่จาวหนิงก็ไม่ได้กำชับไว้ว่าห้ามพูดถึงนาง เขาจึงพยักหน้าให้"ใช่แล้ว หมอเทวดาฟู่เก่งมากเลย"เป็นนางจริงๆ!องค์ชายสองใจเต้น "แล้วหลิวเกาไหลกับหลินต๋าก็เป็นนางที่ช่วยชีวิตเอาไว้หรือ?""องค์ชายสองรู้จักนางด้วยหรือ?"รู้จักสิ ข้ารู้จักนาง" ใจขององค์ชายสองร้อนวาบขึ้นมาแม่นางฟู่เป็นหมอเทวดาจริงๆ ด้วย เช่นนั้นก็ต้องเชิญนางไปที่จวนอ๋องเสียหน่อย "เจ้ารู้ไหมว่านางพักอยู่ที่ใด? ข้ามีเรื่องต้องไหว้วานนาง""ข้าไม่รู้ แต่ว่าส่ง
รอจนถึงตอนกลางคืน เสิ่นเสวียนก็กลับมาจากด้านนอก พอได้ยินรายงานของคนใช้ เขาเองก็เข้ามาแล้วใต้ชายคาด้านนอก เซียวหลันยวนยืนมือไพล่หลัง มองไปยังเงาจันทร์ที่อยู่ในเมฆไหลสายลมเย็นเสิ่นเสวียนเดินมาอยู่ข้างเขา"จาวหนิงยังไม่ออกมาหรือ?"เขาได้ยินว่าหลังจากกลางวันก็เข้าไปนี่มันนานมากแล้วนะ..."อืม""เจ้าก็รออยู่ตรงนี้มาตลอดหรือ?" เสิ่นเสวียนมองเขาในชุดสีม่วงเข้ม ขมวดคิ้ว "จาวหนิงรู้หรือเปล่า? นางกว่าจะรักษาเจ้ามาได้ ไม่ใช่ให้เจ้าเอาร่างกายตัวเองมาทรมานแบบนี้"ตอนนี้ลมกลางคืนก็หนาวแล้ว ยืนอยู่ตรงนี้แม้จะบังลม แต่ด้านนอกก็ยังหนาวอยู่เซียวหลันยวนเอาแต่จะคอยเฝ้าที่ประตู เพราะอยากจะเห็นผลลัพธ์การรักษาฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวเป็นอันดับแรกหรือ?หรือกลัวว่าพวกเขาจะหนี?"คู่แค้น" ของเขาคือน้องสาวเขา กลัวว่าที่นี่เป็นพื้นที่ของตระกูลเสิ่น ถ้าไม่คอยเฝ้าไว้เองจะไม่วางใจหรือไรกัน?เสิ่นเสวียนคิดเช่นนี้ขึ้นมาก่อน แต่เพียงไม่นานก็โยนความคิดนี้ทิ้งไปเซียวหลันยวนไม่น่าจะเป็นเช่นนี้"ข้าเพิ่งเข้ามาครู่เดียว เพียงแต่หนิงหนิงเข้าไปนานมากแล้ว ข้าจึงมาคอยเฝ้าที่นี่ เผื่อว่านางไม่ไหวแล้ว ข้าจะได้รู
"อืม ข้าจะช่วยตรวจสอบให้เจ้าเอง จำนวนคนในคณะที่จักรพรรดินีตงฉิงพาออกมาก็มีไม่น้อย รุ่นหลังของคนเหล่านั้นกลับไปตงฉิงไม่ได้ น่าจะมีอยู่มากพอควรที่สร้างเนื้อสร้างตัวในต้าชื่อกับแคว้นเจา และต้องมีรุ่นหลังเหลืออยู่ไม่น้อยแน่นอน ต้าชื่อทางนี้ข้าจะตรวจสอบเอง แคว้นเจาทางนั้น พวกเขากลับไปก็ลองตรวจสอบดู"เซียวหลันยวนนิ่งงันอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยขอบคุณเขาขึ้นมา"ขอบคุณท่านลุง"เขายังไม่ได้คิดว่าจะทำอย่างไรกับตงฉิง แต่เสิ่นเสวียนกลับเริ่มค้นหาคนรุ่นหลังของตงฉิงแทนเขาแล้วในห้องมีเสียงเดินดังลอดออกมา เซียวหลันยวนจึงหมุนตัวทันทีประตูเปิดออกแล้วฟู่จาวหนิงที่สีหน้าเหนื่อยล้าพอเปิดประตูมาเจอพวกเขาก็ตกตะลึงไป"พวกท่านเฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดเลยหรือ?"ฟู่จาวหนิงเหลือบมองเซียวหลันยวนผาดหนึ่ง หวั่นขึ้นมาหน่อยๆเพราะนางนำคนเข้าไปในห้องเภสัชเพื่อรักษา เมื่อครู่เพิ่งจะพาคนออกมา เสิ่นเสวียนทางนั้นนางไม่รู้ แต่ว่าเซียวหลันยวนมีกำลังภายในลึกล้ำ นางไม่รู้ว่าได้ยินความผิดปกติอะไรบ้างไหมแต่เซียวหลัยยวนก็ไม่พูดอะไรเขายื่นมือมาประคองนาง "ไม่ได้เฝ้านานขนาดนั้น เหนื่อยแย่แล้วกระมัง?""เหนื่อยมากเลย มือไม้แข้งข
ฟู่จาวหนิงรู้สึกตัวเองเขินหน่อยๆนางคิดอะไรกันเล่า? มองเซียวหลันยวนเป็นใครกัน เวลาแบบนี้เขาคงไม่ฉวยโอกาสหรอกนางเหนื่อยจนมีสภาพนี้แล้ว เขาจะมาทรมานนางอีกได้อย่างไร?เซียวหลันยวนเห็นหูนางแดงหน่อยๆ ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย"หนิงหนิงอายหรือ?"เขาไม่ค่อยเห็นเธอแสดงอาการเขินอายเท่าไรนัก ปกติรู้สึกแค่นางเป็นคนที่ทำอะไรใจเย็นและนิ่งมาก ไม่มีท่าทีเขินอายแบบหญิงสาวทั่วไป ไม่คิดว่านางเองก็จะมาเขินจนหูแดงแบบนี้เห็นท่าทางนางแบบนี้ เขาก็รู้สึกอบอุ่นในใจขึ้นมาเขาหลงรักความแข็งแกร่งมั่นคงแน่วแน่กล้าหาญของนาง ความเฉลียวฉลาดคล่องแคล่วว่องไว แต่บางครั้งท่าทางสาวน้อยเช่นนี้ของนางก็ทำให้เขารู้สึกชอบเอามากๆ"แค่รู้สึกว่าตัวเองเข้าใจท่านผิดน่ะ" ฟู่จาวหนิงอายจุดนี้แต่ว่าเขาถามออกมาแล้ว นางเองก็ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา"ไม่ค่อยเห็นเจ้าทำตัวแบบนี้" เซียวหลันยวนหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่หลายวันนี้นางเหนื่อยและยุ่งเอามากๆ ต่อให้ตอนกลางคืนที่นอนลงมาในสมองก็ยังคิดถึงเรื่องวัตถุดิบยาต่างๆ เขาจะไปทรมานนางในช่วงนี้ได้อย่างไรกัน?แค่จะห่วงนางยังทำไม่ทันเลยเพราะมีเขาใช้กำลังภายในนวด บวกกับแช่ในบ่อน้ำพุร้
เรื่องนี้สำหรับนางถือเป็นเรื่องปกติเหล่าเจ้านายไม่มีทางมาเช็ดผมเองอยู่แล้ว"ไม่ต้อง" เซียวหลันยวนนั่งลงข้างๆ ฟู่จาวหนิง "ข้าจัดการเอง"เสี่ยวชิ่นส่งผ้าฝ้ายให้เขาทันที เสี่ยวเยว่กลับลังเลเล็กน้อย "ท่านอาเขย เรื่องนี้ให้พวกข้าน้อยทำก็พอแล้ว"นางเองก็รู้ ว่าท่านอาเขยของพวกเขาเป็นท่านอ๋องจากแคว้นเจา เรื่องพวกนี้เคยทำเสียที่ไหนตัวเขาเองก็เช็ดไม่ถึง ถ้าจะเช็ดให้กับคุณหนูแทนพวกนาง ก็อย่าออกแรงมากเกินไปจนทำเส้นผมคุณหนูขาดลงมาล่ะ"ไปเตรียมข้าวเย็นเถอะ" เซียวหลันยวนหยิบฝ้าฝ้ายมาเจ็ดเส้นผมเบาๆ ให้ฟู่จาวหนิงแล้วการเคลื่อนไหวของเขาแผ่วเบามาก ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่มือของเขาเช็ดยังมีไอน้ำลอยขึ้นมาด้วยใช้กำลังภายในทำเช่นนี้จะแห้งได้ไวขึ้นเส้นผมของฟู่จาวหนิงเช็ดจนเกือบแห้งแล้ว นางนั่งลงมา "ข้าช่วยเช็ดให้ท่าน"เซียวหลันยวนชะงักเล็กน้อย "ได้"เขาหันไป เปลี่ยนให้ฟู่จาวหนิงเช็ดให้เขาบ้างเสี่ยวเยว่กับเสี่ยวชิ่นสบตากันมองภาพนี้ พวกนางรู้สึกว่าดีงามเหลือเกินทั้งสองคนเองก็ไม่กล้ายืนทื่ออยู่ตรงนี้เหมือนกัน รีบออกไปเตรียมข้าวเย็น"คุณหนูกับท่านอาเขยรักกันดีจริง" เสี่ยวเยว่ทอดถอนใจออกมาเส
ฟู่จิ้นเชินรู้สึกว่าตนเองเหมือนฝันมาอย่างยาวนานในความฝันเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด ประเดี๋ยวก็มีเขา ประเดี๋ยวก็ภรรยา ประเดี๋ยวก็คนชั่ว แล้วยังมีสัตว์ร้ายอีกในฝันมีทั้งพายุลมฝนต่างๆ นานา ความทุกข์ทรมานก็ล้วนผ่านมาหมดแล้ว และยังไปยืนอยู่ริมเหวความเป็นความตายมาอีกนับครั้งไม่ถ้วนตอนที่ฟื้นขึ้นมา เขาสัมผัสได้ว่าตนเองลืมตาไม่ขึ้น หนังตาเหมือนถูกแปะไว้อย่างไรอย่างนั้น หนักอึ้งเอามากๆแต่ว่า ในฝันมีท่านพ่อ แล้วก็มีลูกสาวด้วยลูกสาว จาวหนิงของนาง!ฟู่จิ้นเชินตกตะลึงในใจ เบิกตาโพลงขึ้น พริบตาที่มีแสงสว่างเข้ามา ก็ทำให้เขาไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ใด วันไหนเวลาไหน"จาวหนิง..."แต่พอเขาเอ่ยปากขึ้นก็เรียกชื่อนี้ขึ้นมาเสิ่นเสวียนที่นั่งอยู่ข้างๆ ตกตะลึงเล็กน้อย หันหน้ามองไปทางเขาฟู่จิ้นเชินรู้สึกว่าตนเองเบิกตาโพลงขึ้นฉับพลัน อันที่จริงจากที่เสิ่นเสวียนเห็น เขายังคงพยายามลืมตาขึ้นช้าๆ อย่างยากลำบากเขาได้ยินฟู่จิ้นเชินเรียกว่าจาวหนิงนี่คือจำขึ้นมาได้แล้วหรือ? จำลูกสาวของเขาได้แล้ว?เสิ่นเสวียนลุกขึ้นเดินเข้ามาฟู่จิ้นเชินวางสายตามาบนตัวเขาทันที"เสิ่น... เสิ่น...""เสิ่นเสวียน ข้าคือเ
เขาอยากไปด้วยกันกับลูกสาว เช่นนี้จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน และยังได้มองอยู่ข้างๆ ถึงสภาพการทำงานของนางด้วย อยู่กับคนเป็นอย่างไร จะได้เข้าใจนางมากขึ้น รู้จักนางมากขึ้นเขาพลาดที่จะมองดูลูกสาวเติบโตไปหลายปี ตอนนี้อยากจะคว้าโอกาสนี้ไว้บางที ความสัมพันธ์หลังจากนี้อาจจะดีขึ้นมาอีกก็ได้นิสัยของฟู่จิ้นเชินคือมุ่งมั่นไปที่เป้าหมาย ไม่รีบไม่ร้อน แต่จะไม่ยอมแพ้ และจะคอยคว้าโอกาสทั้งหมดไว้ ก้าวไปยังจุดหมายทีละก้าวๆเหมือนกับตอนที่เขาพาภรรยา รู้ว่าห้ามตายเด็ดขาด จะถูกจับกลับไปไม่ได้ บนพื้นฐษนนี้ ใช้เวลาไปหลายปี แต่เขาก็ไม่ได้ล้มเลิกการตามหาความจริงเรื่องการวางยาในอดีตถ้าหากไม่ใช่มาเจอกับฟู่จาวหนิง อันที่จริงเขาก็ยังทนต่อไปได้ บางทีอาจจะถึงวันที่เขาพบกับความจริงวันนั้นฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวนสำหรับตอนนี้ที่นางหันมามองตนเอง ต้องการความเห็นจากเขา ในใจเซียวหลันยวนจึงพอใจมากขึ้นมาเขากุมมือนางไว้ บอกกับนางว่า "ให้เขาไปด้วยก็ดี"เขามองออกแล้ว ฟู่จิ้นเชินนี้ไม่ธรรมดาเลย ฉลาดและตื่นตัว ใจเย็นเฉียบแหลมมีฟู่จิ้นเชินตามไปด้วย ในใจเซียวหลันยวนก็ค่อนข้างจะวางใจถ้าหากไม่ใช่ว่าตัวตนฐานะเขาไปไหนมา
"สถานที่อย่างเมืองเจ้อค่อนข้างจะพิเศษ พื้นที่ใหญ่โต ประชาชนน้อย และการเดินทางก็สะดวกสบาย" ฟู่จิ้นเชินตอบ "ถ้าหากจะยัดผู้ประสบภัยเข้าไป อันที่จริงก็สามารถทำได้อยู่ ข้าเคยไปเมืองเจ้อในเมืองมีพื้นที่ว่างค่อนข้างกว้างขวางอยู่หลายแห่ง บางครั้งยังมีพวกพ่อค้าพเนจรจากที่ต่างๆ ไปทำตลาดนัดกันที่นั่นด้วย"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนมองเขาอย่างเกินคาด"เมืองเจ้อท่านก็เคยไปมาหรือ?"ฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวสบตากัน สองสามีภรรยายิ้มอย่างจำใจ"ถ้าจะให้พูด พวกเราไปมาหลายสถานที่เลย"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนเองก็เข้าใจขึ้นมา สิบกว่าปีนี้พวกเขาล้วนต้องคอยหลบการไล่ล่าสังหารอยู่ภายนอก แล้วยังมีการไล่จับของจวนทางการอีก แต่ละสถานที่จึงไม่สามารถอยู่ได้นานนัก ดังนั้นพวกเขาจึงหนีไปแทบจะทุกที่"แต่ว่าทางนั้นนาจะขาดแคลนเรื่องวัตถุ ถึงอย่างไรต่อให้มีที่ว่างที่จะจัดวางผู้ประสบภัยเข้าไป นั่นก็ต้องสร้างกระโจมจัดแจงที่พัก ไม่เช่นนั้นวันที่อากาศหนาวเช่นนี้ ก็ไม่สามารถปล่อยให้ผู้ประสบภัยต้องนอนด้านนอกทนหนาวทนหิวได้"ฟู่จิ้นเชินบอกกับฟู่จาวหนิงว่า "พรุ่งนี้ข้าจะไปกับเจ้าด้วย"นี่เป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเอ่ยถึงม
ดังนั้น จาวหนิงจะต้องไม่ยอมถูกชายหนุ่มคนอื่นดึงดูดแน่ เพราะไม่มีใครเทียบกับเขาได้แล้วระหว่างทาง อ๋องเจวี้ยนอารมณ์ดีมาก กระทั่งยังสามารถคุยกับฟู่จิ้นเชินเรื่องโป๋จีอย่างทัดเทียมกันด้วยรอจนมาถึงจวนอ๋อง พวกเขาก็หารือตัดสินใจออกมาได้แล้ว พรุ่งนี้จะส่งโป๋จียัดเข้าไปในขบวนของอันเหนียน พาเขาออกจากเมืองก่อน หลอกเขา ให้เขาคิดว่ารับปากว่าจะช่วยเขาออกไป รอให้ได้จดหมาย คนของเซียวหลันยวนก็จะคุมตัวเขากลับเมืองหลวง"พรุ่งนี้ข้าจะไปค้นตัวเขาเอง" เซียวหลันยวนบอกกับฟู่จาวหนิงคนอื่นล้วนค้นไม่เจอ เขาไม่เชื่อว่าตนเองจะหาไม่พบ"แล้วนายพันเก๋อล่ะ?""ให้เขาเข้าวังไม่ได้พบกับจักรพรรดิไม่ได้ชั่วคราวก็พอแล้ว" ฟู่จิ้นเชินมีแผนการ"ท่านคิดจะทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว เก๋อมู่กวงมีวรยุทธ์ ฟู่จิ้นเชินยังขังเขาไว้ในวังได้หรือ?"ข้ารู้ว่ามีคนหนึ่งที่พัวพันกับเก๋อมู่กวงอยู่ อ๋องเจวี้ยนส่งคนนั้นไปที่ห้องของเก๋อมู่กวงก็พอแล้ว" ฟู่จิ้นเชินมองไปทางเซียวหลันยวน"เส้นสายของท่านนี่ทั้งเยอะทั้งซับซ้อนจริงๆ""ถึงอย่างไรข้าก็เป็นแค่ประชาชนธรรมดา มีเส้นสายแค่นี้ไม่คู่ควรให้เอ่ยถึงหรอก""ประชาชนธรรมดาไม่มีทางพาคน
ฟู่จิ้นเชินเองก็นับถือเซียวหลันยวน"คิดไม่ถึงเลยว่าอ๋องเจวี้ยนจะรู้มากขนาดนี้"ฟู่จาวหนิงก็ตกใจ "ท่านพูดภาษาเฮ่อเหลียนได้หรือ?"สำหรับความนับถือของฟู่จิ้นเชิน เซียวหลันยวนไม่สนใจ แต่น้ำเสียงตกใจของฟู่จาวหนิง ทำให้เขารู้สึกภูมิใจขึ้นมาหน่อยๆนางนั่งตัวตรงขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ ใช้น้ำเสียงที่ราบเรียบพูดว่า "อืม ก็ไม่ได้ยากอะไรนี่"พรวดฟู่จาวเฟยอยากจะขำขึ้นมาทำไมคำพูดพี่เขยถึงดูแปลกๆ?ตอนอยู่ว่างๆ ในบ้านกับท่านปู่กับน้าเซี่ยอันห่าวพกวเขาก็เคยพูดภาษาเฮ่อเหลียนออกมา เพราะพวกเขาอยากรู้อยากเห็นหน่อยๆแต่หลังจากที่ได้ยินเขาพูดไปไม่กี่คำก็ยังบอกว่าเรียนยาก สักคำเดียวก็เรียนกันออกมาไม่ได้ความสามารถการเรียนรู้ของพ่อเขาดีมาก แต่ก็ยอมรับว่านี่เรียนยากจริงๆพี่เขยกลับบอกว่าไม่ยาก แต่ว่า ที่โป๋จีพูดรวดเดียวอย่างรวดเร็วขนาดนั้น แล้วพี่เขยยังฟังออกได้ ก็อธิบายได้ว่าเขาเป็นมันทุกอย่างจริงๆ"เรียนมาตอนอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงหรือ?" ฟู่จาวหนิงใช้สายตานับถือมองเขา กระพริบตาปริบๆอ๋องเจวี้ยนพอใจขึ้นมาทันที แล้วยังรู้สึกจิตใจหวานชื่นด้วย"ใช่แล้ว""เจ้าอารามสอนมาหรือ?" ฟู่จาวหนิงประหลาดใจ "หรือว่าเ
"เช่นนั้นก็ใสหัวไป"เซียวหลันยวนพาคนออกจากคุกใหญ่เหล่าผู้คอมมองพวกเขา "หัวหน้า ตอนนี้ทำอย่างไรดี? นายพันเก๋อบอกไว้แล้ว ถ้าเฮ่อเหลียนเฟยมีความน่าสงสัยที่จะเป็นศัตรู ต้องคุมตัวเขาไว้ก่อนนี่นา"ก่อนหน้านี้ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าก็ดึงคนไว้แล้ว ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนพาเขาเดินวนในคุกไปรอบหนึ่ง จากนั้นกลับเดินกลับไปอย่างองอาจเสียอย่างนั้นพรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อถามขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?เรื่องนี้ จะต้องนำไปให้ฝ่าบาททรงทราบแน่ องค์จักรพรรดิถ้าหากถามหาความรับผิดชอบขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?แต่หัวหน้าคุกก็ไม่กล้าทำอะไรนี่นา"ช่างมัน ผลักไปบนหัวอ๋องเจวี้ยนให้หมดแล้วกัน พรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อซักไซ้ขึ้นมา พวกเราก็บอกไปว่าพวกเราขวางอ๋องเจวี้ยนไม่อยู่"นี่โทษพวกเขาได้ที่ไหน?ฟู่จาวหนิงพอเห็นพวกเขาออกมาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ"เสี่ยวเฟยไม่ต้องอยู่หรือ?" นางถามเซียวหลันยวน"ไม่ต้องให้อยู่แล้ว ให้พวกเขาไปที่จวนอ๋องเองแล้วกัน" เซียวหลันยวนตอบฟู่จิ้นเชินมองเขา "ขอบคุณมาก"นี่คือความหมายที่จะปกป้องพวกเขาแล้วถ้าหากพวกเขาไม่อยู่ในจวนอ๋อง พรุ่งนี้นายพันเก๋อพาคนไปที่บ้านตระกูลฟู่ พวกเขาคงไม่มีทางต่
โป๋จีเอาเรื่องที่เผ่าเฮ่อเหลียนยึดครองเมืองพูดจนกลายเป็นตัวเลือกที่จำใจของพวกเขาเสียอย่างนั้นฟู่จาวเฟยถามยังถามสถานการณ์ในเมืองตอนนี้อีกหน่อย แล้วยังถามเขาว่าทำไมถึงถูกเก๋อมู่กวงจัง รอจนเขา...ตอบมาทีละข้อ ถามขึ้นมาทันที "แล้วจดหมายที่นำมาให้ข้าล่ะ? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ส่งจดหมายให้กับข้าหรือ?"โป๋จีมองไปทางเซียวหลันยวน"นี่คืออ๋องเจวี้ยนสินะ? พวกข้าได้ยินว่า อ๋องเจวี้ยนตอนนี้เป็นพี่เขยของเจ้า""ใช่แล้ว แต่เขากับองค์จักรพรรดิมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี"สายตาโป๋จีหม่นลงเล็กน้อย พวกเขารู้เรื่องนี้"แล้วพ่อแท้ๆ ของเจ้าล่ะ?""เขาฟังพี่สาวข้า""หมอเทวดาฟู่ใช่ไหม?""ใช่ ชื่อเสียงของพี่สาวข้ามากขนาดนี้เลยหรือ? ลือกันไปถึงทางเผ่าแล้วหรือ?" ฟู่จาวเฟยถาม"แน่นอน นางเป็นถึงหมอที่อายุน้อยสุดในสมาคมหมอใหญ่เลยนะ" แล้วยังเป็นหมอหญิงอีก"แล้วจดหมายอยู่ที่ไหนล่ะ?""จะส่งให้เจ้าเลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอก แต่ว่าเจ้าต้องทำเรื่องหนึ่งก่อน จดหมายสำหรับพวกเราแล้วสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะทำร้ายหรอก""เขียนอะไรไว้หรือ?""เจ้าอ่านจดหมายก็จะเข้าใจเอง""ท่านจะให้ข้าช่วยทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวเฟยเริ่มจะเกิด
ขอแค่พวกเขาสงสัยในตัวฟู่จาวเฟยก็พอแล้วหัวหน้าคุกกับมือปราบเจียงพวกเขาก็เริ่มสงสัยเช่นนี้แล้วพวกเขามองฟู่จาวเฟย และมองไปยังโป๋จี สีหน้าเองก็กังวลขึ้นมา"คุณชายฟู่ นี่มัน..." มือปราบเจียงเข้าประชิดฟู่จิ้นเชิน กดเสียงต่ำคิดจะเตือนเขาคุณชายฟู่จะฟังไม่ออกได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอยู่ต่อหน้านายพันเก๋อ แล้วเห็นว่าโป๋จีกับคุณชายน้อยฟู่มีความสัมพันธ์อันดีกันล่ะก็ คุณชายน้อยฟู่ก็จะยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกนายพันเก๋อคงไม่มีทางเชื่อคุณชายน้อยฟู่แน่นอนแล้วถ้าคุณชายน้อยฟู่ถูกกำหนดให้เป็นพวกของราชาเฮ่อเหลียน เช่นนั้นก็ถือว่ามีโทษกบฏ อาจจะลากตระกูลฟู่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้กระทั่งว่า อ๋องเจวี้ยนเองก็จะโดนหางเลขไปด้วยแต่ว่า องค์จักรพรรดิก็คิดจะรับมืออ๋องเจวี้ยนชัดเจนขนาดนี้ เช่นนั้นถ้ามีโอกาสจับกุมขึ้นมาจะปล่อยไปได้อย่างไรกัน?มือปราบเจียงรู้ว่าลูกสาวตนเองชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาก ดังนั้นเขาจึงกังวลแทนพระชายาอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา"่ท่านลุงโป๋จี ท่านกำลังพูดอะไรน่ะ? ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าตอนนั้นไม่ได้จงใจทิ้งข้า แล้วก็..."ฟู่จาวเฟยชะงักไป เปลี่ยนคำใหม่ "ราชาเฮ่อเหลียนยังสังหารแม่เลี้ยงข
"ท่านลุงโป๋จี ได้ยินว่าท่านมาส่งจดหมายให้ข้าหรือ?"ฟู่จาวเฟยถามออกมาทันทีโป๋จีก่อนหน้านี้ก็ดีกับเขาพอควร แต่ตอนนี้พอมาคิด ก็น่าจะแค่คิดว่าเขาเป็นลูกชายของราชาเฮ่อเหลียน เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นสายตาของตนเอง ก็แตกต่างกับแต่ก่อนไปแล้วฟู่จาวเฟยตอนนี้ยังพิจารณาออกได้ว่า เมื่อครู่ตอนที่โป๋จีมองเห็นสายตาของเขา นั่นเป็นความตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นเป้าหมายยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ที่เขาถามออกมาโป๋จีก็ยังพิจารณามองเขาอยู่"ใช่แล้ว องค์ชาย" โป๋จีใช้ภาษาเมืองหลวงที่ฟังแล้วแปลกๆ เรียกเขาว่าองค์ชาย จากนั้นก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนด้วยสัญชาตญาณ เปลี่ยนเป็นภาษาเฮ่อเหลียนว่า "ราชาได้รับจดหมายของเจ้า บอกว่าเจ้าหาพ่อแม่ที่แท้จริงพบแล้ว มีตัวตนฐานะใหม่ ดูพึงพอใจมาก"โป๋จีไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนฟังภาษาเฮ่อเหลียนออกฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็ไม่รู้พอเขาฟังประโยคนี้ออกจึงมองไปทางเซียวหลันยวน ตอนนี้จะแปลให้เขาคงไม่สะดวกนัก ถ้าเขาพูดออกมาตอนนี้ เกรงว่าโป๋จีคงไม่พูดความจริงแล้วรอให้เขาพูดสิ่งที่ควรพูดให้จบก่อนแล้วกันคำนี้ของโป๋จี น่าจะพูดให้เขาฟังความหมายของคำพูดนี้ แสดงออกว่าราชาเฮ่อเหลียนรู้แล้วว่าฟู่จาวเฟยเ
ถ้าประตูวังปิดแล้ว คืนนี้น่าจะยังไม่ได้พบองค์จักรพรรดิเช่นนั้นพรุ่งนี้ช่วงประชุมเช้าก็น่าจะได้พบ ห่างจากตอนนี้ไม่ถึงสามชั่วยามเซียวหลันยวนไม่พูดอะไรอีกหลังจากเขาได้ข่าวไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องส่งคนไปคุ้มครองนอกวังแน่ เก๋อมู่กวงคืนนี้เข้าวังไม่ได้ ไม่ได้พบองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะต้องรอจนถึงประชุมเช้าแน่นอนช่วงหลายชั่วยามนี้เพียงพอแล้วพวกเขาได้ยินเสียงของฟู่จิ้นเชินแล้วฟู่จิ้นเชินกำลังพูดภาษาเฮ่อเหลียนอยู่"พี่เขย ท่านพ่อกำลังพูดว่า..." ฟู่จาวเฟยคิดจะแปลให้เซียวหลันยวนก่อนอย่างฉลาดเฉลียวรู้ความ แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะโบกไม้โบกมือ"ข้าฟังออกน่ะ""อ๋า?"ฟู่จาวเฟยตกตะลึง"ลืมบอกไป ว่าข้าเป็นภาษาเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กจ้อยที่ธรรมดามากๆ เรื่องหนึ่งหัวหน้าคุกเองก็เหลือบมองเขาอย่างตกตะลึง"ถ้าข้าน้อยจำไม่ผิดล่ะก็ ท่านอ๋องยังพูดภาษาหนานฉือได้ด้วย?""ใช่"หัวหน้าคุกกับฟู่จาวเฟยสบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนล้วนเห็นความตกตลึงในดวงตาของอีกฝ่ายอ๋องเจวี้ยนทำไมถึงพูดได้หลายภาษานัก?เขาไม่ใช่ว่าพักฟื้นอยู่ในยอดเขาโยวชิงตลอดหรือไรกัน? คนทั้ง